เจ้าของ: Watcher

[เมืองลั่วหยาง] โรงเตี๊ยมอี้เถา

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2021-10-13 23:45:48 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ร่ำสุราพาใจให้สุขสันต์

       ช่วงเวลานี้หลี่ซีซวนค่อนข้างมีธุระติดพัน  เนื่องด้วยต้องสะสางและจัดการคฤหาสถ์ที่หนานชางให้เรียบร้อย  ทั้งมีจดหมายไปถึงคนใช้ที่บ้านให้ดูแล  ทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อย  ระหว่างที่เขาไม่อยู่บ้าน  ได้ยินมาว่าโรงน้ำชาตระกูลหลี่ช่วงเวลานี้วุ่นวายกว่าปรกติอันเนื่องมาจากหลี่หย่งเมี่ยวชนะหมากล้อมสถิติไร้พ่ายทุกกระดาน  ทั้งคนใหญ่ที่เล่นหมากล้อมล้วนเป็นทหารมีตำแหน่งระดับเดียวกับหลี่ซีซวนในอดีตทั้งสิ้น  ความอับอายต้องแพ้หมากล้อมให้สตรีเยาว์วัยต่อไปใครจะยำเกรง  หากพวกทหารมีตำแหน่งจำพวกนี้คงคิดเอาว่าพ่ายแพ้ในมือสตรี  ย่อมดีกว่าพ่ายให้กับชายด้วยกัน  มิเช่นนั้นศักดิ์ศรีคงไม่เหลือให้ภาคภูมิใจแล้ว

        วันนี้หลี่ซีซวนเข้าโณงเตี๊ยมอี้เถาช้ากว่าปรกติ  เหตุเพราะอยากให้พวกผุ้ชายที่มีครอบครัวแล้วมันได้กลับบ้านไปเสียบ้าง  มานั่งจ้องเขากับสตรีชุดแดงสองคนทานอาหารด้วยกัน  เพียงเพราะอยากมาเชยชมตรีชุดแดงกันเท่านั้น  โชคดีไม่มีภรรยาบ้านไหนมาอาละวาดใส่โรงเตี๊ยม  เสียงอึกทึก  ครึกครื้นดีจัง  ลืมไปว่าเทศกาลฉงหยางกำลังมาเยือนอีกคำรบหนึ่ง  หลี่ซีซวนคงต้องกลับไปฉางอันรอบหนึ่ง  เทศกาลสำคัญเช่นนี้อย่างไรต้องวนกลับไปหาครอบครัวบ้าง  อีกอย่างอยากไปเห็นหลี่หย่งเมี่ยวผู้เป็นน้องสาวแสดงความเก่งกาจอีกสักครั้ง  เพียงแต่ไม่มีมู่อิงไปให้น้องสาวไปพบอีกแล้ว  หลี่ซีซวนเดินผ่านโต๊ะที่กำลังร่ำสุราอย่างสนุกสนานพลางหยุดร่วมสนุกเล็กน้อย  แล้วเดินเข้ามานั่งโต๊ะด้านหน้าที่เดิม  ค่ำคืนนี้หญิงสาวที่มาขับบรรเลงผีผาเป็นคนใหม่แล้ว

ซับเหงื่อบนผ้าบางเบาแต่งแต้มทิวทัศน์บนภาพวาดด้วยน้ำหมึก

มืองามเรียวเล็กตวัดวาดผลงานล้ำค่าดุจกระดาษจากลั่วหยาง

น่าเสียดาย แม้บุปผาล่วงหล่นแตะหมอนหยก ปัดออกไปแล้วยังคงนอนไม่หลับ

สายลมหนาวผัดโชยอ่อนๆมาจากด้านหนึ่ง หยิบผงดำวาดทรงคิ้วบางๆ ประทินโฉมหน้ากระจก

ฟังเสียงจอแจของฝูงชน  จนหน้าพอใจเป็นที่ดึงดูด  ฝันถูกตัดไม่อาจขอกลับ

แสนห่อเหี่ยวเหลือคณานับ  รายกวีจวิ้นเซ่อลอยๆ น้ำเสียงพลอยสะอื้น

จวบจนสิ้นน้ำตาไหลรินเป็นสาย ด้วยรู้ว่าหัวใจท่านไม่ซื่อตรง

วันคืนผ่านทิ้งไปดุจสายน้ำหลั่งไหล

คิดถึงนานมาก  เคียดแค้นนนานยิ่ง  จะเริ่มปล่อยวางได้เมื่อไหร่

ครึ่งใจยังยึดมั่น อีกครึ่งแสนเจ็บปวด

ร่ำสุราจนขาดสติ ควงจอกเหล้า ชี้แนะเหล่ารุ่นน้อง

เดินหมากด้วยสีหน้าแดงก่ำเมามาย ล้วนมีแต่เสียเบี้ยทั้งสิ้น

ตัดไม่ขาด  ยังอาวรณ์ สะอึกจุกในลำคอ  ดื่มหนักจนแสบทรวงใน

        เขาว่ากันว่ายามอกหัก  ช้ำรัก  ฟังเพลงใดล้วนตรงชีวิต  แทงใจแทบทั้งสิ้น  หลี่ซีซวนได้รับจดหมายว่าคนรักเก่าสมัยรับราชการทหารกำลังจะมีพิธีหมั้นหมายในไม่ช้านี้  พออ่านทวนย้อนข้อความเสร็จสิ้น  ได้จุดไฟเผากระดาษทันที  ฟังเพลงนี้ในราตรีนี้เจ็บปวดดั่งเข็มหมื่นเล่มทิ่งแทงลงกลางใจ  สุราดื่มย้อมใจก็ชั่วคราวเท่านั้น  บทเพลงประโยคสุดท้ายดั่งเป็นสารบอกถึงหลี่ซีซวนโดยตรง  ตัดไม่ขาด  ยังอาวรณ์  สะอึกจุกในลำคอ  ทำให้หลี่ซีซวนนั่งสังสรรค์กับพวกผู้ชายโต๊ะที่กำลังร้องเพลงแปลงเพลงอย่างสนุกสนาน  ลืมไปว่ามีสุราชั้นดีอยู่กับตัว  หลี่ซีซวนให้บริกรตามขึ้นไปบนห้องพัก  เข้าไปหยิบสุรากานเหม่ยจือออกมาพลางกระซิบเอาไปให้สตรีชุดแดงที่ห้องพักของนาง

มอบสุรากานเหม่ยจือ 1 ไห ให้กับ [096]
ธาตุ-ปีนักกษัตร
ไม้-หยิน ปีมะเส็ง

เอฟเฟคหัว-หัวคลั่ง
+5 ความสัมพันธ์เมื่อเจอคนหัวชั่ว
+10 ความชั่วเมื่อเจอคนหัวชั่ว / หัวเลว






←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ตำราเลี่ยจื่อ
ม้าเฟิ่งหวง
กระบี่ร้อยกฎ
เตากำยาน
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x55
x2
x4
x3
x1
x3
x8
x3
x15
x19
x20
x20
x10
x1
x1
x1
x1
x9
x6
x10
x1
x2
x30
x3
x10
x2
x1
x3
x15
x35
x2
โพสต์ 2021-10-14 23:40:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Lizixuan เมื่อ 2021-10-15 00:21

ค่ำคืนนี้มีเพียงเรา

        เสร็จสิ้นธุระส่วนตัวทั้งได้เยี่ยมเยือนครอบครัวครานี้  ถือว่ามีความสุขครอบครัวพร้อมหน้า  ได้เดินเที่ยวตลาดกับน้องสาวที่หาโอากาสได้ยากและตระกูลหลี่ได้ชื่อเสียงเพิ่มจากหลี่หย่งเมี่ยว  อนาคตน้องสาวคนนี้อาจจะโด่งดังทั่วแผ่นดิน  แอบได้ยินจากบิดาว่าน้องสาวคนนี้เคยถูกราชสำนักทาบทามให้ไปเป็นเสนาธิการทหาร  ทว่าเถ้าแก่หลี่บอกปัดปฏิเสธเนื่องจากผลพวงจากบุตรชาย  จึงไม่อยากให้ต้องมีการซ้ำรอยอีกครั้ง  วงราชการควรพอแต่เท่านี้ชื่อเสียจำพวกนี้เถ้าแก่หลี่ไม่ค่อยประสงค์อยากได้มาไว้ประดับตระกูลเท่าไหร่  เถ้าแก่ชอบที่จะเห็นบุตรสาวประชันปัญญาที่โรงน้ำชา  นี่จึงเป็นของจริงที่อยู่เบื้องหน้า  

        หลี่ซีซวนควบม้าออกจากนครฉางอันหวนคืนสู่นครลั่วหยางอีกครา  พร้อมกับนำของที่สตรีชุดแดงบอกในจดหมายมาให้ครบถ้วน  สินค้าจำพวกนี้ก็แพงเหลือเกิน  เกือบลืมไปว่าหลี่หย่งเมี่ยวมอบกระบี่ติดตัวมาให้ด้วย  ได้ยินว่าพี่ชายให้ทวนสามแฉกสู้กับโจรปล้นทรัพย์บ่อย  จึงมอบกระบี่ร้อยกฎมาให้ใช้แทนเพราะรู้ว่าพี่ชายถนัดและคล่องมือกับกระบี่มากกว่าอาวุธอื่น ได้กลับมาใช้อาวุธที่คล่องมืออีกครั้ง  มันรู้สึกขนลุกไปทั่วสรรพางกาย  อย่างไรอาวุธคู่มือย่อมใช้ได้สอดคล้องกับร่างกายที่ถูกฝึกมากับอาวุธนั้น  ใช้เวลาเดินทางจากนครฉางอันถึงลั่วหยางใช้เวลาเดินทางเพียง 2 วันลุถึงลั่วหยางแล้ว  คราวนี้เดินจูงม้าโดยมีกระบี่ห้อยเอวด้านซ้าย  มาดของอดีตขุนศึก  ขุนพลกลับมาซ้อนทับร่างกายอีกครั้ง  หลี่ซีซวนผูกม้าไว้ด้านหน้าโรงเตี๊ยมอี้เถาเดินเข้ามาด้านในโรงเตี๊ยม  วันนี้โชคดีคนบางตาลงไปเยอะ  ไม่อย่างนั้นคงแย่แน่นอน  ไม่ทันบริกรจะเชิญให้ไปนั่งที่โต๊ะ  หลี่ซีซวนเดินตรงไปยังโต๊ะของสตรีชุดแดงที่กำลังนั่งรับประทานอาหาร  นั่งลงตรงข้ามพร้อมวางของไว้ข้างตัวเอง

   "ข้านึกว่าจะไม่ได้เจอชายหนุ่มที่ช่วยชีวิตข้าจากโจรเสียแล้ว"  สตรีชุดแดงเงยหน้ามองหลี่ซีซวนไว้หนวดเคราสวยงาม  

   "ขออภัยที่ข้าหายหน้าไปหลายวัน จนทำให้แม่นางต้องคิดถึงข้า"  ชายพเนจรปากหวานขึ้นเยอะพลางยกมือของสตรีชุดแดงมาจุมพิตบนหลังมือขาวเนียน

   "ดูจะปากหวานขึ้นเยอะเลย คุณชาย"

        การสนทนาดำเนินไปอย่างที่คู่รักคู่หนึ่งที่ฝ่ายหนึ่งจากไปไกลหลายวัน  ครั้นพบหน้าต่างคะนึงหามิขาด  หรือหลี่ซีซวนจะพบสตรีที่ถูกใจเข้าแล้ว  ห้วงเวลาหนึ่งไม่มีการเอ่ยพูดประโยคใดออกมา  พลันผีผาเริ่มบรรเลงขับกล่อมอีกครา

ข้าลืมร่มไว้ที่บ้านของเจ้า  เจ้างดงามราวกับบุปผา

ข้าเดินทางไปทั่วหล้า เจ้ายกน้ำชามา ได้รู้ว่าเจ้ามีอะไรทีแ่ตกต่าง

และบรรยากาศค่อนข้างอึมครึม  รอยยิ้มอย่างเขินอายของเจ้า

ทำให้ทุกๆอย่างมันลงตัวไปหมด  ข้าอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเจ้า

ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน  ข้าไม่อยากกลับบ้านอีกเลย

เพราะรอยยิ้มอ่อนหวานจากเจ้า  ทำให้ผีเสื้อโบยบินรอบกาย

เพียงสบตากันก็ทำตัวไม่ถูกเลย  ทุกการเคลื่อนไหวของเจ้าทำให้

ข้าคล้อยตามไปด้วย สุราดีหนึ่งกาพาให้คืนนี้เป็นนิรันดร์

ลิ้มลองอยู่ผู้เดียวเป็นเวลาที่ดีงาม  คืนมืดมิด คนเงียบงัน

แลดูเงียบเหงาอยู่เหมือนกัน  น่าแปลกใจอยู่ๆก็นึกไม่อยากควบม้า

ฟังคนจรเดินไปตามถนน  ดีดผีผา แต่สายที่ดีดอยู่มันขาด

ผ่านโรงสุราและหอนารี  เขาเชิญชวน "ลูกค้าเชิญเข้ามานั่งก่อนดีหรือไม่?"

ในความคิดของข้า เหมือนกับฝนพรำๆเมื่อเดือนหกเลย

ในเมื่อตกหลุมรักเจ้าไปแล้ว ขอซื่อสัตย์เพียงกับเจ้าเท่านั้น

        บทเพลงลำนำของผีผาจบลง  ผู้คนที่ได้ฟังเพลงนี้ต่างปรบมือให้เสียงดังไม่ขาดสาย  เนิ่นนานอยู่ราว 1 นาที  ค่ำคืนนี้พวกคนที่นั่งในที่นี้ต่างเป็นคนจรแทบทั้งสิ้น  พวกเขาต่างรู้ความหมายของบทเพลงนี้ดี  คนขับบทเพลงผีผาลุกขึ้นค้อมศีรษะเป็นการขอบคุณ  ช่างเป็นค่ำคืนที่มีความหมายต่อพวกเขายิ่งนัก  ตัวหลี่ซีซวนก็เข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอย่างดีเช่นกัน

   "ข้านำของที่แม่นางอยากได้มาด้วย  หาซื้ออยู่นานว่าได้มา"  หลี่ซีซวนหยิบของออกมาวางลงบนโต๊ะ  มันเป็นถุงน้ำตาลปั้นสรรพรสกับช่อบัวแม่ลูก  ราคาชวนปวดใจยิ่งนัก

   "ไม่คิดว่าคุณชายหลีจะสามารถซื้อมันมาให้กับข้าได้  ขอบคุณท่านยิ่งนัก"  สตรีชุดแดงยิ้มแก้มปริ  หยิบของเหล่านั้นขึ้นมาดู  ราวกับรอคอยพวกมันมานานอย่างไรอย่างนั้น

     หลี่ซีซวนเห็นสตรีชุดแดงชอบก็ดีใจ  เพียงเท่านี้ที่อยากเห็น  นางคงอยากได้มานานแล้ว  จึงนั่งดื่มสุราดูสตรีชุดแดงชื่นชมมัน

       โจ่วซือที่รับของจากอีกฝ่ายก่อนวางช่อบัวแม่ลูก เธอหยิบถุงน้ำตาลมาเปิด ก่อนหยิบน้ำตาลออกมาก้อนนึง ก่อนคีบด้วยสองนิ้วอย่างเย้ายวน "น้ำตาลปั้นนี้รสหวาน เปรี้ยวมีความหลากหลายจริงด้วย" โจ่วซือกล่าวพลางถูน้ำตาลตามริมฝีปากตนเอง

        "ท่านอยากลองชิมไหม"
      
        "แน่นอนว่าข้าอยากลองชิมมัน"

       หญิงสาวแสยะยิ้ม เมื่ออีกฝ่ายตอบ เธอวางถุงน้ำตาลปั้นลง ก่อนอมก้อนนั้นไว้ในปาก ลุกขึ้นเดินไปหาอีกฝ่าย เรียวนิ้วยาวเลื่อนลงมาประทับริมฝีปากคล้ายจะบอกให้อ้าปาก

         หลี่ซีซวนอ้าปากตามที่สตรีชุดแดงเอานิ้วมาวางลงบนริมฝีปากอย่างว่าง่าย  หางตาเหลือบเห็นว่าคนในโณงเตี๊ยมเริ่มกันมองพวกเขาสองคนแล้ว

         หญิงสาวค่อย ๆ ประทับหน้าก้มลงไป ให้น้ำตาลเหนือริมฝีปากอีกฝ่ายนิดนึง ก่อนขยับปลายนิ้วเชิงให้อีกฝ่ายงับน้ำตาลได้ มือก็ซุกไชร้เล้าโลมร่างกายอีกฝ่ายอย่างไม่สนปากผู้คนในโรงเตี๊ยม ลูบไล้เสื้อชั้นนอกอย่างช่ำชองไปจนถึงต้นขาแข็งของชายหนุ่ม

         คนในโรงเตี๊ยมฮือฮากับพฤติกรรมของพวกเขาสองคน  บางโต๊ะถึงกับวิจารณ์อย่างไม่เกรงใจ  คำพูดรุนแรงฟังไม่ระรื่นหู  ช่างไม่มีความละอายเอาเสียเลย  ทว่าหลี่ซีซวนผู้โดนสตรีชุดแดงกระทำกลับไม่ถือสาในเรื่องนี้  ทั้งชื่นชอบกับความต่นเต้นนี้เสียอีกด้วย

        แต่ว่าโจ่วซือระมัดระวังอย่างมาก เธอไม่ยอมให้ริมฝีปากอีกฝ่ายได้แตะโดนริมฝีปากตนเอง ก่อนค่อย ๆ คลายน้ำตาลปั้นให้อีกฝ่ายงับก้อนน้ำตาลไว้ ก่อนถอยออกมา "เป็นไงบ้างล่ะกับความหวานและรสอื่น ๆ"

         "ช่างเป็นน้ำตาลปั้นหลากรสที่ดีที่สุดเท่าที่ข้าเลยลิ้มลองมา"  มันเป็นรสชาติแปลกใหม่

         "งั้นนี่ถือตอบแทนคุณชาย" เธอกล่าวก่อนเมมริมฝีปากให้คาบน้ำตาลทั่วริมฝีปากเพื่อกะให้ไปติดบนหน้าอีกฝ่าย ก่อนก้มลงจุมพิตแก้มชายหนุ่มและวิ่งจากไป

         หลี่ซีซวนโดนแม่นางชุดแดงหอมแก้ม  ใบหน้าแดงราวลูกตำลึงสุก  ไม่คิดว่านางจะกระทำเช่นนี้  สายตาเหม่อลอยราวเข้าสู่ภวังค์แห่งรัก  พอได้สติกลับคืนมาก็รีบกลับขึ้นห้องพักทันที



มอบ  ถุงน้ำตาลปั้นสรรพรสกับช่อบัวแม่ลูก  ให้กับ  [096]
ธาตุ
ไม้-หยิน

เอฟเฟคหัว-หัวคลั่ง
+5 ความสัมพันธ์เมื่อเจอคนหัวชั่ว
+10 ความชั่วเมื่อเจอคนหัวชั่ว / หัวเลว








←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ตำราเลี่ยจื่อ
ม้าเฟิ่งหวง
กระบี่ร้อยกฎ
เตากำยาน
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x55
x2
x4
x3
x1
x3
x8
x3
x15
x19
x20
x20
x10
x1
x1
x1
x1
x9
x6
x10
x1
x2
x30
x3
x10
x2
x1
x3
x15
x35
x2
โพสต์ 2021-10-15 21:15:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด
อย่าฟังความคนรอบข้าง
        เหตุการณ์ในโรงเตี๊ยมเมื่อคืนระหว่างหลี่ซีซวนกับสตรีชุดแดงเป็นที่โจทย์ขานในเช้าวันถัดมา  ภาพป้อนก้อนน้ำตาลที่ดูไม่น่าจะมีอะไรแปลกพิสดาร  พอเป็นสตรีชุดแดงป้อนให้ชายพเนจรแล้ว  มันช่างหวาดเสี่ยวและเย้ายวนเสียเหลือเกิน  หลี่หย่งเมี่ยวชื่อเสียงโด่งดั่งเพราะการใช้ปัญญาของนาง  หลี่ซีซวนโด่งดั่งจากกานโดนป้อนก้อนน้ำตาลด้วยลีลาสุดเย้ายวนของสตรีชุดแดง  ชายใดในนครหลวงลั่วหยางได้ฟังเรื่องนี้ล้วนอิจฉาตาร้อนและมีจิตพิฆาตมายังหลี่ซีซวน  ศัตรูหัวใจหมายเลขหนึ่ง  หากทำอย่างไรได้เมื่อพวกเขาสองคนมีความสนิทสนมเป็นพิเศษ  ทั้งหลี่ซีซวนได้ช่วยชีวิตสตรีชุดแดงจากโจรร้ายลักพาตัว  วีรกรรมวัดหมี่เล่อเฝอคาดว่ายังเป็นที่จดจำในใจของเขาไม่ลืมเลือน  เสียงโจทย์ขานเหตุการณ์เมื่อคืนในโรงเตี๊ยมมิได้ถูกพวกเขาทั้งสองคนนำพามาใส่ใจ  สนใจไปใยกับคนพวกนี้  อาจเพราะความคะนึงหาจนทำให้มันเลยเถิด
        ราตรีนี้หลี่ซีซวนเดินลงมาจากชั้นบนของโรงเตี๊ยม  ระหว่างเดินลงบันไดสายตาแอบสำรวจคนในโรงเตี๊ยม  กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหลายมานั่งจับจองที่นั่งหมดแล้ว  แม่นางชุดแดงนางอยู่ที่โต๊ะมุมขวาด้านหน้าสุด  เขามีความรู้สึกว่าเหมือนโดนจองกฐินมิปาน  หลี่ซีซวนหาได้สะทกสะท้านใจไม่  เจอโจรเป็นกองทัพยังสังหารไม่เกรงกลัว  เดินมานั่งตรงข้ามสตรีชุดแดง  รอยจุมพิตที่แก้มทำเอาเขานอนหลับฝันดี  เพราะมันเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่ถูกผู้หญิงหอมแก้มแบบนี้  หลี่หย่งเมี่ยวว่าซุกซน  ไม่ถือตัว  ยังไม่เคยกระทำแบบนี้  เนื่องจากน้องสาวกระทำสิ่งใดล้วนมีขอบเขตของนางเสมอ  ผู้ใดล่วงล้ำขอบเขตของนางไม่เคยมีจุดจบที่ดีซักราย  เขาตะโกนสั่งอาหารแบบเดิม  เพิ่มเติมคือถือสุราการเหม่ยจือมาวางลงบนโต๊ะ  มันเป็นสุราชั้นดีควนค่าที่ค่ำคืนนี้จะได้ร่ำสุรากับสตรีในดวงใจหนึ่งเดียวของชายพเนจร
ความเงียบสงัดช่างร้างมาแสนนาน  สูญสิ้นสลายไปทุกอย่าง
มีเรื่องอยากเอ่ยมากมาย  แต่กลับไม่มีเสียงเอ่ยออกมา
สงครามนี้ช่างยาวนานดุจนิรันดร์  เหลือไว้แต่ความสิ้นหวัง
ราชวงศ์ล้วนตกต่ำ บทลงเอยมิอาจแก้ไข
ความทุกข์เข็ญมีไปทั่ว  ตายอีกกี่คน  เผาอีกกี่คน
ผู้คนหาทางรอดชีวิต  เหลือเพียงข้ายืดหยัดเพื่อบรรเลงเพลง
แด่จอมทัพ  ข้าบรรเพลงผีผาแด่จอมทัพ เพื่อเชิดชูวีรบุรุษ
หนึ่งกระบี่ที่ยกขึ้น นับพันติดตาม
ข้าบรรเลงผีผาแด่จอมทัพ  เพื่อส่งความรักอาวรณ์
ความรักท่ามกลางสงคราม  เศร้าโศกทุกครา
        หลี่ซีซวนเห็นนักดนตรียืนขึ้นสงบนิ่ง  ดั่งไว้อาลัยให้กับผู้ที่สูญสิ้นและได้รับผลกระทบจากสงคราม  แววตาของมันเศร้าโศก  เหม่อมองออกไปราวกับกำลังรอใครซักคนกลับมาหา  แต่กลับผิดสัญญาไปแล้วลาลับ  ในสงครามผู้นำทัพพาทหารนับพัน  นับหมื่นออกรณณรงค์สงครามสู้กับศัตรู  มีเพียงผู้นำทัพที่รอดตายดั่งที่บทเพลงขับร้องได้จบลง  วีรบุรุษได้รับการเชิดชูเกียรติ  ผู้ตายในสงครามกลับได้รับเพียงการขอบคุณและสรรเสริญเท่านั้น  นี่คือธรรมชาติของสงคราม  นี่ความเป็นจริงในวงราชการทหารและหลี่ซีซวนคือหนึ่งในนั้น  ชื่อเสียงจากผู้ตายที่มอบให้แก่เรามาประดับเป็นความภูมิใจ  มันเหมาะควรแล้วหรือ
   "สุราไม่เลิศรสหรือ  คุณชายถึงได้มีความเศร้าในแววตา"  สตรีชุดแดงลอบจับอาการของชายพเนจรได้  หลังจากการบรรเลงเพลงผีผานี้จบลง
   "หาได้ไม่ แม่นาง  ข้าเพียงซาบซึ้งในบทเพลงเท่านั้น"  หลี่ซีซวนบอกปัดเป็นอย่างอื่นแทน  เพราะไม่อยากย้อนความถึงอดีต
  "เช่นนั้นเรามิควรสนใจสิ่งใดให้เป็นการทำลายบรรยากาศ"  พลันแม่นางชุดแดงเกี่ยวแขนหลี่ซีซวนส่งสัญญาณให้กระดกจอกเหล้าพร้อมกัน  เสร็จแล้วหลี่ซีซวนเอื้มมือมาเช็ดริมฝีปากของสตรีชุดแดง  ก่อนจะหอมแก้มตอบแทนสำหรับเมื่อคืน
   "ถือว่าตอบแทนที่แม่นางจุมพิตแก้มข้าเมื่อคืน"  ความเล่ห์แสนกลนานทีจะนำออกมาใช้  ใบหน้าของสตรีชุดแดงดั่งผลตำลึงสุกแดงเปล่งปลั่งชวนมองยิ่งนัก  มิทันไรนางลุกหนีขึ้นห้องชั้นบนไปแล้ว  จนหลี่ซีซวนต้องให้บริกรน้ำสุรากานเหม่ยจือที่เหลือกับอัญมณีอความารีนไปมอบให้นางแทนตนเอง
มอบสุรากานเหม่ยจือกับอัญมณีอความารีน ให้กับ [096]
ธาตุ-ปีนักกษัตร
ไม้-หยิน ปีมะเส็ง

เอฟเฟคหัว-หัวคลั่ง
+5 ความสัมพันธ์เมื่อเจอคนหัวชั่ว
+10 ความชั่วเมื่อเจอคนหัวชั่ว / หัวเลว




   

        


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ตำราเลี่ยจื่อ
ม้าเฟิ่งหวง
กระบี่ร้อยกฎ
เตากำยาน
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x55
x2
x4
x3
x1
x3
x8
x3
x15
x19
x20
x20
x10
x1
x1
x1
x1
x9
x6
x10
x1
x2
x30
x3
x10
x2
x1
x3
x15
x35
x2
โพสต์ 2021-10-15 21:52:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย JiTianTao เมื่อ 2021-10-15 22:32

โรลเผยแผ่ศาสนาในลั่วหยางครั้งแรก



เพียงขณะที่พวกของจีเทียนเต๋านั้นกำลังที่จะออกเดินทางไปกันนั้นตนเองก็คิดว่าไหนๆก็อยู่ลั่วอยางแล้วจะเผยแผ่ศาสนาที่นี้หน่อยก็คงจะไม่เป็นไรกระมังหรอกมั้ง

"อ่าข้าว่าลองเผยแผ่ที่ลั่วอยางก็ไม่ใช่ความคิดที่แย่เท่าใดหรอกนักหรอกนะแบบนี้อ่าไหนก็จะเผยแผ่แล้วก็ไปลองที่โรงเตี๊ยมก่อนก็แล้วกันถือว่าเปิดประเดิมด้วย"

พร้อมกับที่จีเทียนเต๋านั้นพาขณะของตนเองนั้นไปที่โรงเตี๊ยมพร้อมกับที่เริ่มหาที่นั่งของตนเองพร้อมกับที่เริ่มพูดทันที

"สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องทุกท่านที่กำลังกินอาหารทุกคนหรือว่าที่กำลังจะกินนั้นข้าอาจจะต้องรบกวนเวลาทุกท่านสักครู่ถ้าเห็นว่าข้านั้นพูดอะไรไม่ดีไม่เข้าหูล่ะก็ข้าก็พร้อมที่จะไปแต่ขอให้ทุกท่านนั้นได้ฟังข้าเสียหน่อย พวกท่านที่อยู่ที่นี้นั้นไม่ว่าจะเป็นคนจนคนรวยข้าอาจจะขอถามพวกท่านเสียหน่อยว่าตอนนี้พวกท่านได้กินกันนั้นขอให้ทุกคนนั้นช่วยกันกินอาหารหรือว่าของกินที่ตนเองสั่งนั้นให้หมด ถ้าไม่หมดก็ช่วยสั่งห่อกลับบ้านด้วยเถอะนะครับเพราะว่ายังมีบางคนที่ไม่ได้โอกาศแม้แต่จะกินอาหารที่แค่เป็นข้าวสวยหรืออาหารสักอย่างตกถึงท้องเสียเลยด้วยซ้ำ เหล่าชาวบ้านที่อยู่รอบนอกที่ต้องโดนพวกโจรโผกผ้าเหลืองหรือว่าประสบปัญหาภัยแล้งล้วนแล้วแต่ไม่มีอะไรจะกินเลยด้วยซ้ำข้ารู้ว่าพวกท่านมีเงินที่จะซื้อแล้วอาหารนี้พวกท่านก็มีสิทธิที่จะทิ้งหรือว่าทำอะไรก็ได้ แต่ข้าขอให้ท่านนั้นช่วยกันหน่อยเถอะนะครับ ข้ามาที่นี้ไม่ได้มาขอรับบริจาคเงินทองจากพวกท่านหรือว่ามาขอรับของจากพวกท่าน ข้ามาที่นี้เพื่อที่จะอยากให้พวกท่านทุกคนนั้นมีคุณธรรมที่ดีโดยเริ่มต้นที่ตนเองได้นั้นก็คือการที่พวกท่านนั้นแค่กินอาหารให้หมดหรือว่าไม่ทิ้ง เพราะบางครอบครัวยังแทะเปลือกไม้กินกันเลยนั้นคือการหลักธรรทในการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด เหมือนที่พระองค์นั้นเคยบอกไว้ว่าเราทุกคนนั้นล้วนแล้วแต่ทำความดีได้ง่ายๆเพียงแค่ทุกคนนั้นไม่ทำความชั่ว ความชั่วนั้นทำยากกว่าความดีแต่เพราะเรามีซึ่งกิเลสในจิตใจของเราเอง คือมีหลักคำสอนง่ายๆมาให้พวกท่านได้ฟังกันคือ จงคิดเสียว่าเวลาทำชั่วใส่คนอื่นแล้วคนอื่นมาทำใส่คนที่เรารักพวกท่านจะรู้สึกยังไงกัน ข้าเชื่อว่าทุกคนจะทำความดีได้กว่าทำความชั่วแค่เพียงพวกท่านกินอาหารแล้วจ่ายเงินก็ถือเป็นการทำความดีแล้ว อย่าให้จิตใจของพวกท่านนั้นแปดเปื้อนสิ่งที่ไม่ดีเลย พระเจ้าทรงเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนนั้นจะเป็นคนดีได้เพื่อสิ่งที่ตนเองเชื่อ ไม่จำเป็นเชื่อข้าเพียงเชื่อใจของพวกท่านเองว่าสิ่งที่ท่านกระทำมันเป็นความดีแล้วหรือไม่ก็พอแล้วล่ะนะพวกท่านทุกคนนั้นมีความดีอยู่ในส่วนลึกของจิตใจกันทุกคนข้าจะไม่มาพูดรื่องพวกนี้แล้วมาขอรับบริจาคจากอะไรของพวกท่านหรอกนะ ข้าเพียงอยากจหลักธรรมของศาสนาต่างๆนั้นเอามาอธิบายให้พวกท่านได้เข้าใจง่ายๆกัน เวลาข้าไปที่ไหนก็มักจะบอกกับทุกคนเสมอว่าทุกศาสนานั้นต่างก็สอนให้ทุกคนเป็นคนดีไม่มีศาสนาใดที่ผิดหรือถูกมีเพียงแต่คนที่ใช้ศาสนานั้นต่างหากล่ะที่เป็นตัวการใล้ศาสนาไปในทางที่ผิดอย่างลัทธิไท่ผิงที่ถ้าไม่ได้าสอนให้ตนเองนั้นมานับถือผู้นำว่าเป็นพระเจ้านั้นมันหาใช่ไม่?มันมีแค่ตัวเราเองเท่านั้นแหละนะที่อยู่ในโลกใบนี้ข้าเป็นเพียงผู้ส่งสารของพระองค์เท่านั้นที่มาช่วยมอบแสงสว่างให้กับพวกท่านทุกคนพวกท่านที่ตอนนี้นั้นได้มีเป้าหมายกันในชีวิตหรือไม่กัน? หรือเพียงใล้ชีวิตไร้ข้าไปวันๆปล่อยให้เวลานั้นผ่านไปเรี่อยๆกัน? มันถึงเวลาแล้วที่พวกท่านจะได้ทำเพื่อผู้อื่นไม่มีการให้ใด้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกว่าการให้อภัยจงให้อภัยคนที่เค้าทำไม่ดีกับเรา แล้วเริ่มต้นใหม่กลายเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมเถอะนะครับทุกๆท่าน"


พร้อมกับที่จีเทียนเต๋านั้นมองไปยังทุกคนที่อยู่ในโรงเตี๊ยมแห่งนี้ว่าแต่ละคนนั้นจะเข้าใจสิ่งที่ตนเองนั้นได้พูดออกไปหรือไม่กันหรือว่าจะกลายเป็นเพียงลมที่ผัดผ่านไปผ่านมาเท่านั้น


บุรุษผู้หนึ่งเดินผ่านมาก่อนยืนฟังครู่นึง ดูเหมือนเขาจะได้โอกาสหาเงินเข้ากระเป๋าชะแล้ว "ไปกันเถอะเด็ก ๆ" ชายหนุ่มกล่าวก่อนเดินนำทหารองครักษ์จำนวนมากไปหาชายคนนั้นหลังชาวบ้านแยกย้าย

"คารวะคุณชาย ท่านเป็นซินแสลัทธิใดมิทราบ ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนที่ท่านกล่าว" จางกงกงกล่าวคลี่ยิ้ม ทหารองครักษ์วังหลวงจำนวนหนึ่งทำหน้าที่อย่างรู้งาน ยืนล้อมรอบพวกเขา

จีเทียนเต๋าที่มองไปยังพรรคพวกของอีกฝ่ายรอบพวกตนเองไว้นั้นจำต้องไปจับไหล่เหวินหยวนกับเต๋าเป่าเอาไว้ไม่ให้ทั้งสองคนนั้นทำอะไรวู่วามก่อนที่ตนเองจะยิ้มพร้อมกับตอบขุนนางตรงหน้าตนเองไป

"คารวะท่านผู้สูงศักดิ์ข้าเป็นเพียงนักบวชของศาสนาคริสต์ก็เท่านั้นเองขอรับข้านั้นมาจากปาสู่แล้วไปที่ชวี๋โจรน่ะขอรับพอดีว่ามาที่เมืองลั่วอยางเลยมาให้คำสอนกับผู้คนน่ะครับท่านไม่ทราบว่าข้าทำสิ่งใดผิดหรือทำสิ่งได้ไม่ถูกไม่ควรกันถึงทำให้ท่านนั้นถึงกับทำให้ท่านผู้สูงศักดิ์มาหาข้าแบบนี้กัน?"

"ข้าจางกงกง รู้สึกเสื่อมใสศรัทธาท่านยิ่งนัก เพียงแต่ท่านไม่รู้ระเบียบลั่วหยางงั้นหรือหากท่านจะมาพูดเผยแพร่ลัทธินอกรีตเหล่านี้ ต้องจ่ายให้ทางการ ว่าแต่ท่านสนใจแบบไหนดี"

"ออแบบนี้เองข้าต้องขออภัยด้วยข้าไม่ทราบกฏระเบียบของเมืองลั่วหยางว่าเป็นเช่นไรออแบบนี้เองราชสำนักว่ามาเช่นนั้นข้าเป็นประชาชนของต้าฮั่นก็ยอมต้องให้ความร่วมมือกับทางราชสำนักอยู่แล้วล่ะขอรับข้าเต็มใจทำตามกฏของราชสำนักอย่างเต็มที่อย่างแน่นอน"

พร้อมกับที่ตนเองนั้นยิ้มให้กับอีกฝ่ายก่อนจะล้วงหยิบเงินในกระเป๋าพยามยามหาตำลึงทองมาให้กับอีกฝ่าย


"ก็นะ...วันนี้ข้าใจดีจะลดให้เจ้าหน่อยแล้วกัน จาก 40 ตำลึงทอง เหลือ.. 20 ตำลึงทอง" จางกงกงกล่าวก่อนยืนแสยะยิ้ม กอดอกมองด้วยความเหนือกว่าอีกฝ่าย
ทหารองครักษ์ที่ยืนล้อมรอบพวกเขาจำนวนมากทำสีหน้าดุราวกับพร้อมจับกุม


"ขอบคุณท่านมากขอรับที่ช่วยเหลือข้าผู้นี้นี้ขอรับเงิน20ตำลึงทองขอไม่ขาดไปแม้แต่ตำลึงเดียวแน่นอนขอรับ"

ก่อนที่จีเทียนเต๋านั้นจะมอบเงินไปให้กับอีกฝ่ายไปอย่างโดยดี

- สร้างสตอรี่ตัดสินใจทางเลือก หากคุยกันดีๆ ก็โอน 20 ตำลึงทองมาที่ไอดี Webmaster | หากปฏิเสธ จะได้สู้กับทหารองครักษ์วังหลวง ระดับ 69 จำนวน 30 คน
- หากฝ่าองครักษ์หนีไปได้ จะถูกออกหมายหัวฐานะ "กบฎ"




ใช้ลักษณะนิสัยถ่อมตน
+15ความศรัทธา
เลื่อมใสศรัทธา
+40ความศรัทธา
ติ่งหูยาว
-10ผู้ให้ความสนใจ
+10ความสัมพันธ์ขุนนางในสภา
+30ความศรัทธา
หลังตรง
+25ความศรัทธา

(×2 EXP =ค่า ศรัทธา)



←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดไท่หมินลู่
เบ็ดตกปลา
คัมภีร์ไท่หมินลู่
ไก่ฟ้าทองแดง
หวีเซียวเฉิน
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าขาว
หน้ากากขาว
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x108
x8
x800
x800
x800
x70
x470
x100
x100
x4
x3
x3
x1
x7
x25
x860
x10
x790
x490
x200
x1
x100
x100
x100
x10
x1
x2
x1
x3
x4
x10
x920
x291
x494
x5
x388
x5
x6
x77
x100
x30
x900
x68
x1
x82
x98
x1
x96
x98
x1
x6
x2
x1000
x2
x3
x3
x3
x7
x8
x3
x100
x4
x100
x26
x24
x24
x26
x14
x600
x96
x100
x60
x100
x100
x440
x25
x2
x376
x11
x492
x9
x4
x99
x80
x79
x28
x2
x379
x75
x196
x571
x167
x100
x100
x50
x100
x100
x250
x50
x86
x13
x13
x7
x74
x6
x19
x5
x1150
x324
x17
x11
x10
x10
x490
x10
x2
x42
x62
x38
x1
x108
x35
x96
x99
x85
x505
x1
x598
x3
x3
x1
x8
x24
x404
x4
x102
x6
x24
x491
x288
x39
x90
x154
x8
x1
x10
x75
x10
x93
x500
x250
x150
x250
x550
x250
x3
x500
x242
x36
x18
x465
x1015
x164
x804
x804
x804
x804
x493
x314
x13
x36
x7
x498
x1
x10
x1
x2561
x628
x320
x260
x100
x15
x1
x6
x6
x150
x9999
x2
x7
x18
x5
x2
โพสต์ 2021-10-19 21:04:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Jinying เมื่อ 2021-10-19 23:22


ช่วยเหลือแม่นางเจิ้ง
นัดเจอสตรีปริศนาอีกหน
.
.

           หลังเช่าที่พักยังโรงเตี๊ยมอี้เถาเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองสตรีก็ต่างนั่งทานอาหารเย็นด้วยกันโดยที่ตัวจิ้นอิ๋งนั้นดูมีเรื่องครุ่นคิดในใจอยู่ตลอด อาหารตรงหน้าแม้ไม่ได้ถูกเขี่ยไปเขี่ยมาแต่ก็ถูกเอาเข้าปากเคี้ยวช้ากว่าทุกคราให้ซูฮวาต้องเอ่ยชวนดรุณีน้อยคุยไปเรื่องอื่นเพื่อเบี่ยงความสนใจ และเพื่อให้นางได้ผ่อนคลายลงก่อนเจอสาวปริศนาผู้นั้น ด้วยเพราะหากปล่อยให้จิ้นอิ๋งเอาอารมณ์นำไปกว่าเหตุผลจริง ๆ ที่อยากร้องขอให้ช่วยเหลือ อาจทำให้การขอความช่วยเหลือนี้ไม่ได้รับการตอบรับก็เป็นได้

           " อิ๋งเอ๋อร์ได้แหวนหญ้าน้ำค้างมาจากไหนหรือเจ้าคะ "

           และดูเป็นหัวข้อเรื่องที่ได้ผลชะงัด มือจิ้นอิ๋งแทบจะปล่อยช้อนร่วงเสียเดี๋ยวนั้น แล้วซูฮวาก็มานึกเสียใจทีหลังว่าไม่น่าถามขึ้นมาเลย หลังได้ยินคำตอบที่พอคาดเดาเอาไว้แล้วดังออกมาจากปากของดรุณีน้อยตรงหน้าเองเช่นนี้

           " ก็… ได้มาจาก.. อาเจียทำให้น่ะเจ้าค่ะ "

           จิ้นอิ๋งเอ่ยบอกพร้อมดวงตาที่หลุบมองยังแหวนหญ้าที่เริ่มแห้งกรอบและเผลี่ยนสีจนแทบกลายเป็นสีเหลือง ทว่านางก็ยังคงสวมเอาไว้ที่นิ้วกลางข้างซ้ายไม่เปลี่ยนแปลง ในยามนี้ที่ถูกเอ่ยทักก็ยังเลื่อนมือจับลูบแผ่วเบาพลางหวนนึกถึงคนให้ไปด้วย ทำเอาสตรีแซ่เหมยที่เห็นแอบตีอกชกลมในใจขึ้นมาหลังเห็นท่าทางที่ชัดเจนเช่นนั้นของเด็กสาวที่แสดงออก

           " อิ๋งเอ๋อร์ชอบท่านกัวหรือเจ้าคะ? " คำถามตรงไปตรงมาเช่นนั้นทำเอาเด็กสาวแทบเหลือบสายตามองสตรีตรงหน้าด้วยอารามตกใจ ทว่าซูฮวาที่คาดเดาว่าจะได้เห็นสีหน้าขัดเขินของเด็กสาวกลับเห็นเป็นสีหน้าติดกังวลของนางแทนเสียอย่าง มือข้างหนึ่งยิ่งเลื่อนบีบแผ่วยังมือที่ข้างที่ประดับแหวนให้สตรีแซ่เหมยมองอย่างนึกกังวลตามไปด้วย

           " ข้า.. ข้าไม่แน่ใจเจ้าค่ะ ท่านแม่เคยบอกข้าความความรักจะทำให้ข้าใจเต้นไม่เป็นตัวของตัวเอง ..ข้าก็เคยคิดว่ามีอาการเช่นนี้กับอาเจีย ทว่าในบางคราข้าก็ไม่รู้สึกเช่นนั้น ..ในบางคราข้าก็รู้สึกสบายใจเสียด้วยซ้ำที่ได้อยู่ด้วยกับเขา สบายใจราวกับอยู่กับสหายน่ะเจ้าค่ะ ข้าเลยไม่แน่ใจตัวเองเลย "

           จิ้นอิ๋งพยายามเอ่ยถึงความกังวลใจออกไป แต่ซูฮวาที่เฝ้าฟังก็คล้ายนึกอยากยกมือมาลูบหน้าตัวเองที่แสดงสีหน้ากังวลก่อนหน้าว่าจะกังวลไปด้วยทำไม นางรับรู้ได้แล้วว่าความรู้สึกของเด็กสาวค่อนข้างชัดเจนมากเลยเชียว แต่เพราะทั้งสองอาจเริ่มต้นด้วยบรรยากาศกำกวมไปเสียหน่อย จะสหายก็ไม่ใช่จะเกี้ยวหาก็ไม่เชิง และเพราะมีแนวโน้มเข้าหากันแบบสหายเสียมากกว่าซึ่งอาจเป็นแค่ฝั่งของจิ้นอิ๋งเองด้วยก็ได้ที่ยังคิดว่าอีกบุรุษเข้าหาแบบนั้น เด็กน้อยของนางจึงยังสับสนอยู่เช่นนี้ยามเมื่อโดนรุกเร้าเข้าหาในแบบที่เจ้าตัวนึกไม่ถึง

           เรียกได้ว่าโดนรุกให้รู้สึกชอบพอโดยไม่รู้ตัว แต่ยังติดในสถานะสหายที่จิ้นอิ๋งมอบในคราแรกให้อยู่เท่านั้นเอง

           " ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ… อิ๋งเอ๋อร์ค่อย ๆ ใช้เวลาครุ่นคิดไปก็ได้ เอาให้แน่ใจเลยว่ารู้สึกเช่นไร จะได้ไม่ทำร้ายใจสหายหรือเสียใจเองทีหลังน่ะเจ้าค่ะ " ซูฮวาเอ่ยหาคล้ายจะให้กำลังใจ แต่ก็แฝงให้เด็กสาวไม่ด่วนตัดสินใจเช่นเดียวกัน ซึ่งจิ้นอิ๋งที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ารับแผ่วกลับหา มือเลื่อนจับแหวนที่นิ้วตนอีกหนก่อนจะทานอาหารต่อด้วยสีหน้าที่มีเรื่องคิดไม่ตกขึ้นมาอีกเรื่อง

           ทำเอาสตรีแซ่เหมยนึกอยากขอโทษขึ้นมาเลยเชียว ว่าจากที่จะทำให้ผ่อนคลาย กลายเป็นทำให้เด็กสาวคิดหนักเพิ่มเสียอย่างนั้น

           เหมยซูฮวา! เจ้าไม่น่าชวนคุยเรื่องนี้เลยปัดโธ่!
           .
           .
           ถึงซูฮวาจะคิดว่านางพลาดที่เอ่ยถามเรื่องที่ทำให้จิ้นอิ๋งคิดหนักมากขึ้น แต่ก็ทำให้เด็กสาวคล้ายได้มีเรื่องมาช่วยกระจายความกังวลได้บ้าง ในยามห้ายที่มาตามนัดของสตรีในผ้าคลุมเด็กสาวจึงมีสติอยู่กับตัวกว่าตอนก่อนหน้ามากทีเดียว ดวงหน้าที่คล้ายเตรียมจะหลุดสะอื้นไห้ในคราแรกที่รู้เรื่องของสตรีแซ่เจิ้งตอนนี้ก็ดูมุ่งมั่นขึ้นไม่น้อย ราวกับเตรียมพร้อมจะพูดคุยกับสตรีผู้จ้างวานอย่างจริงจัง

           " เชิญมาได้แล้วงั้นหรือ " คำถามแรกที่อีกสตรีเอ่ยถามทำให้จิ้นอิ๋งต้องค้อมศีรษะหาราวกับอยากขออภัยกลับไป ซึ่งสตรีเบื้องหน้าก็คล้ายเข้าใจ นางหลุดเสียงถอนหายใจแผ่วฟังผิดหวังขึ้นมา

           " ความจริงข้าคอยตามช่วยพูดให้แม่นางผู้นั้นลองมาพบท่านแล้วล่ะเจ้าค่ะ กระทั่งสัปดาห์ก่อนนางขอเวลาข้าคิดอีกเจ็ดวันเพื่อไตร่ตรอง ข้าจึงพยายามไม่เข้าหาเซ้าซี้ให้นางอึดอัดใจ ...ทว่ายามถึงวันนี้ที่เป็นวันนัด ข้ากลับได้ยินข่าวว่ามีมือปราบมาจับตัวนางขึ้นไปทางเหนือแล้วเมื่อวันก่อนน่ะเจ้าค่ะ "

           คำพูดของจิ้นอิ๋งทำสตรีในผ้าคลุมแทบผินใบหน้าที่ถูกผ้าปิดคลุมหันกลับมามองยังเด็กสาว แม้ไม่เห็นสีหน้าแต่ก็คล้ายเห็นถึงความร้อนรนในท่าทางของนางขึ้นมา

           " เรื่องที่ท่านจะช่วยล้างคดีแม่นางผู้นั้น… สามารถใช้ในยามนี้ได้เลยหรือไม่เจ้าคะ หากใช้ได้ข้าสัญญาจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้แม่นางเจิ้งมาช่วยงานท่านให้ได้เลยเจ้าค่ะ เพราะข้าคิดว่าหากแม่นางเป็นหนี้ชีวิตใครต้องรู้คุณแน่ มิเช่นนั้นหากมีเหตุให้นางช่วยไม่ได้ ข้าก็ยินดีช่วยแทนนะเจ้าคะหากช่วยได้ "

           " เจ้า… นางก็เป็นแค่คนแปลกหน้าของเจ้ามิใช่หรือ ไหนจะเป็นทั้งโจรเป็นฆาตกร.. ไฉนต้องทำเพื่อนางขนาดนั้น "

           อีกสตรีที่ได้ยินคำพูดของเด็กสาวก่อนหน้าพลันเอ่ยถามน้ำเสียงจริงจังไม่ต่างกัน จิ้นอิ๋งที่ราวกับได้ยินคำถามนี้มาก่อนจากสตรีแซ่เจิ้งก็พลันเอ่ยตอบอย่างที่เคยให้คำตอบแก่แม่นางเจิ้งแก่อีกสตรีไปเช่นกัน ทว่ากลับได้เพิ่มถึงเหตุผลที่นางได้เก็บไปคิดและตั้งใจจะเอ่ยกล่าวต่อสหายผู้นั้นไปในยามที่เจอกันใหม่แต่เพราะโดนจับไปเสียก่อนทำให้นางไม่อาจได้เอ่ยให้ฟัง

           " นางมิใช่คนแปลกหน้านะเจ้าคะ.. ก่อนข้าจะได้รับงานจากท่านข้าเคยได้พูดคุยรับฟังอุดมการณ์ของนางมาก่อน… นางที่วาดหวังให้ระบบเจ้าขุนมูลนายที่ไม่ยุติธรรมจบลงไป และตัดสินใจปลิดชีพแม่ทัพที่กระทำตัวไม่ดีก็เพื่อไม่ให้ต้องก่อเรื่องที่ทำชาวเมืองต้องเดือดร้อนต่อไปอีกด้วยตัวคนเดียว ข้า.. นับถือนางเป็นสหายผู้หนึ่งที่กล้าหาญมากเลยล่ะเจ้าค่ะ "
           .
           " แม้ข้าจะเข้าใจว่าการกระทำฆ่าคนโดยพลการเช่นนั้นขัดต่อกฎบ้านเมือง ทว่าสิ่งที่แม่ทัพผู้นั้นเคยทำ ไฉนถึงยังถูกปล่อยเลยตามเลยปิดหูปิดตาไม่คิดแก้ไขหรือลงโทษบ้างเล่าเจ้าคะ… หากแม่นางเจิ้งต้องถูกตามล่าเพื่อให้ความยุติธรรมแก่ผู้ที่ถูกฆ่าตาย เช่นนั้นก็ควรให้ความยุติธรรมตัดสินคดีที่เหมาะสมแก่นางที่ได้ช่วยยับยั้งแม่ทัพไม่ดีที่ขูดรีดชาวบ้านและฉุดคร่าสตรีได้หยุดกระทำสิ่งเหล่านั้นลงด้วยสิเจ้าคะ "

           สิ้นประโยคยืดยาวของจิ้นอิ๋งเด็กสาวก็พลันสบสายตามองหาคนหลังผ้าคลุมอย่างจริงจังไปด้วย แม้ไม่เห็นสายตาหรือสีหน้าของอีกฝ่ายว่าคิดเห็นเช่นไร แต่นางก็อยากเอ่ยถึงความตั้งใจของนางออกไปให้หมดเสียก่อน เพื่อที่อย่างน้อยสตรีตรงหน้านี้ได้รับฟังและเกิดเห็นด้วยขึ้นมา อาจยอมช่วยสหายแซ่เจิ้งขึ้นมาด้วยก็ได้ ซึ่งเด็กสาวคงนึกยินดีไม่น้อยเลยเชียว

           " และนั่นคือเหตุผลที่ข้าอยากช่วยให้สหายของข้าอย่างน้อยได้รับความยุติธรรมจากคดีนี้บ้างน่ะเจ้าค่ะ… ท่าน.. สามารถช่วยล้างคดีให้แม่นางเจิ้งในตอนนี้ได้หรือไม่เจ้าคะ ข้ายินดีให้ความช่วยเหลือหากท่านต้องการด้วยเจ้าค่ะ! "

           .
           " เรื่องนั้นในตอนนี้เรายังทำให้ไม่ได้หรอกนะ แต่ด้วยฝีมือนาง นางพอจะช่วยคุ้มครองเราได้ และในอีกไม่กี่ปีเราก็พอจะมีอำนาจช่วยล้างมลทินให้นาง แต่ในระหว่างนี้จะไม่มีใครกล้าทำร้ายนาง " สาวปริศนากล่าวบอกภายใต้ผ้าคลุม เธอมองสายตาอีกฝ่าย ก่อนจะหยิบม้วนจดหมายออกมาที่เตรียมไว้เผื่อฉุกเฉินและมัดในกระบอกสัมฤทธิ์แน่นหนา ปิดผนึกมันไว้

          จิ้นอิ๋งที่รับฟังเช่นนั้นก็เกือบขบริมฝีปากเล็กให้ซับสีที่อีกฝ่ายยังไม่อาจช่วยสหายแซ่เจิ้งได้ในยามนี้ ทว่าเพราะประโยคหลังที่มาพร้อมกับม้วนจดหมายที่หยิบออกมาทำให้นางมองตามของสิ่งนั้นด้วยแววตาติดฉงน เด็กสาวมองดูของชิ้นนั้นถูกปิดผนึกแน่นหนาก่อนเลื่อนสบหายังสตรีใต้ผ้าคลุมอีกหนราวกับอยากสื่อให้เห็นถึงความสงสัยในแววตาของนาง

           " เจ้านำสิ่งนี้ไปให้ผู้คุมการประหารเปิดอ่าน จำไว้ต้องเป็นวันที่มีการจัดประหารเท่านั้น หากไปให้ก่อน เรากลัวว่าชีวิตนางโจรจะไม่ปลอดภัย นางอาจถูกลอบทำร้ายในคุกโดยคนสนิทของแม่ทัพตู่กงเมื่อรู้ว่านางรอดพ้นโทษประหาร " สาวปริศนามอบม้วนจดหมายผนึกให้อีกฝ่ายและกำชับหนักแน่น

          ได้ยินเช่นนั้นเด็กสาวก็ราวกับจับจุดได้บางอย่าง ในนั้นอาจเป็นหลักฐานชี้ตัวสิ่งที่แม่ทัพตู่กงเคยกระทำผิดก็ได้จึงต้องกระทำต่อหน้าสาธารณชนเพื่อป้องกันการลอบทำร้ายลับหลังเช่นนั้น ราวกับต้องรับงานที่เริ่มจะเกินตัวของนางเข้าไปทุกที ดรุณีน้อยสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าหากรับของในมือของอีกสตรีไปแล้ว นางย่อมสร้างศัตรูจากอีกฝั่งขึ้นมาแทนเป็นแน่ และคล้ายเป็นศัตรูที่อาจทำให้นางไม่อาจดำรงอยู่ได้อย่างเปิดเผยตนอย่างทุกวันนี้เสียด้วย

           ทว่าหากสิ่งที่ทำต่อไปนี้สามารถทวงความยุติธรรมให้แก่บุคคลหนึ่ง ๆ ได้และโอกาสนั้นหล่นมาถึงมือนาง จิ้นอิ๋งก็ไม่อาจนิ่งนอนใจหมางเมินมันไปได้เช่นกัน สุดท้ายเด็กสาวจึงยื่นมือส่งหารับยังม้วนจดหมายผนึกเอาไว้มาถือแนบอก

           " ถนอมตัวด้วย และระมัดระวังด้วยล่ะ วันที่เจ้าขัดขวางการประหาร นั่นคือวันที่ชีวิตเจ้าจะเปลี่ยนไป เจ้าจะถูกคนสนิทของแม่ทัพตู่กงเพ่งเล็งและแก้แค้นอีกคน " สาวปริศนาย้ำเตือนสิ่งหนึ่งให้อีกฝ่ายทราบ " สาวน้อยเมื่อเจ้าพัวพันกับเส้นทางแบ่งฝ่ายทางอำนาจแล้วครั้งหนึ่งก็มิอาจถอนตัวกลางคันได้หรอกนะ "

          " เจ้าค่ะ ข้าจะระมัดระวังตัว… และข้าได้ตัดสินใจจะช่วยเหลือให้ความยุติธรรมแก่แม่นางเจิ้งด้วยตัวเองแล้ว ข้า.. จะรับผลที่ตามมาเองเจ้าค่ะ " จิ้นอิ๋งเอ่ยอย่างหนักแน่นระหว่างสบตากับสตรีในผ้าคลุมเบื้องหน้าก่อนค้อมขอบคุณที่ตอบรับคำขอความช่วยเหลือจากนางเช่นนี้ แม้ไม่รู้ว่าเป็นใครทว่าหากยอมช่วยผู้ที่เกือบจะโดนประหารอย่างอยุติธรรมเช่นนั้น จิ้นอิ๋งก็ขอเชื่อว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่มีเจตนาดีไว้เสียก่อน

           ที่เหลือก็อยู่ที่นางจะทำการนี้ได้ลุล่วงด้วยดีหรือไม่ แม้จะโดนตามล้างแค้น ทว่าหากแค้นเพราะอีกฝ่ายถูกเปิดเปลือยยังความผิดที่เคยกระทำร่วมกับแม่ทัพตู่กง โดยไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดหรือถูกบิดเบือนจนไร้ความยุติธรรมเช่นแม่นางเจิ้ง ดรุณีน้อยก็จะยอมรับผลความแค้นจากอีกฝ่ายเอาไว้เอง

           เพราะอย่างน้อยนางก็จะได้มั่นใจว่าได้ทำสิ่งที่สมควรทำออกไปแล้ว และจะไม่เสียใจทีหลังเป็นแน่


ลักษณะแต่กำเนิดตัวหอม
+20 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย

สถานะธาตุหลัก : +20 ความสัมพันธ์ [159] ธาตุไฟ - เกื้อหนุนเรา
ค่าชื่อเสียง : +15 ความสัมพันธ์เมื่อเจอคนชื่อเสียงเดียวกัน
และ +30 คุณธรรมเมื่อเจอคนหัวดี
ลักษณะนิสัยใจกว้าง
+10 ความสัมพันธ์คนที่มีนิสัยเดียวกัน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลงเฟิ่งฉิวหวง
ถุงหอมจูอวี๋
กระบี่
พู่หยกเลือดหงส์
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าเหลียง
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x5
x2
x2
x1
x2
x2
x2
x1
x1
x27
x2
x38
x40
x50
x50
x40
x40
x50
x3
x22
x19
x31
x10
x50
x5
x5
x5
x1
x12
x1
x2
x5
x2
x9
x1
x8
x6
x6
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2021-10-24 13:52:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Fenyue เมื่อ 2021-11-9 00:57

     
⌜103⌟

บทที่ 18
งานสกุลเฉา
ฉากที่ 4
เควส (1) งานส่งข้าวกล่องให้คุณชาย [งานประจำสัปดาห์]

          เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมอี้เถาเด็กสาวก็ขอเจรจากับเถ้าแก่โรงเตี๊ยมเพื่อขอยืมห้องครัวประกอบอาหาร โดยสิ่งที่นางจะนำมาเป็นของแลกเปลี่ยนก็คือข้าวสวยที่หุงมาเกิน นางขอมอบให้โรงเตี๊ยมทั้งหมด อย่างไรเสียของจำเป็นเช่นข้าวย่อมได้ใช้งานแน่นอน ไม่ว่าจะด้วยขายให้แก่แขกหรือว่าสำหรับเลี้ยงคนงานก็ตามที

          เด็กสาวนำรายการอาหารมาคลี่ออกอ่านเพื่อวางแผนสิ่งที่นางควรทำเป็นอันดับแรกก็คือการหุงข้าวที่ทำง่ายแต่ใช้เวลานาน และสามารถทิ้งเอาไว้ค่อยมาดูนาน ๆ ทีก็ได้ระหว่างที่รอทำอาหารอย่างอื่น อันดับที่สองที่ต้องทำก็คือชาซาวเซียนฉ่าว อาหารชนิดนี้เฟินเยว่ไม่เคยทำมาก่อน คงต้องเรียนรู้ใหม่สักหน่อย ทว่าไม่มีอะไรที่ยากเย็นจนเกินไป หลักการที่ถามมาจากคนครัวมีไม่มาก เพียงแค่นำใบซาวเซียนฉ่าวแห้งไปต้มกรองมาแต่น้ำที่เป็นสีดำแล้วนำไปต้มกับวุ้นอีกครั้งก่อนจะพักและตัดแบ่งเป็นก้อนลูกเต๋าขนาดพอดีคำ เวลาทานก็ราดด้วยน้ำเชื่อม

          เมื่อเข้าใจวิธีการทำแล้วสาวน้อยก็เริ่มกระบวนการขั้นตอนแรกโดยการต้มใบชาและทำน้ำเชื่อมรอเอาไว้พร้อม ๆ กัน ระหว่างรอก็เริ่มปั้นแป้งสำหรับทำขนมเปี๊ยะ วิธีการนั้นเฟินเยว่รู้ดีอยู่แล้ว หากว่านางทำขนมเยว่ปิงเป็นขนมเปี๊ยะก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอันใดเลย เมื่อทำแป้งเสร็จก็พักเอาไว้ให้คงตัว แล้ววกกลับมาที่หม้อต้มใบซาวเซียนฉ่าว น้ำต้มสีดำดูไม่น่ารับประทาน แต่ใครเล่าจะรู้ว่าน้ำสีดำนี้แหล่ะที่มีสรรพคุณทางยาแก้ร้อนในกระหายน้ำแถมยังกลายมาเป็นขนมหวานแสนอร่อยได้อีกด้วย ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษช่างเป็นสิ่งที่น่านับถือเสียจริง ๆ

          หลังจากนั้นนางก็นำน้ำต้มใบซาเซียนฉ่าวไปกรองจนเหลือแต่น้ำ และนำไปต้มกับวุ้นตามสูตร ขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งเค่อก็แล้วเสร็จ นำน้ำวุ้นสีดำเทใส่ถาดสี่เหลี่ยมเพื่อรอตัดอีกครั้งตอนวุ้นเริ่มคงรูปเปลี่ยนสภาพจากของเหลวเป็นของแข็งหยุ่น ๆ แต่ต้องใช้เวลาร่วมเค่อถึงจะวุ้นแข็งตัว นางจึงปล่อยซาวเซียนฉ่าวทิ้งเอาไว้ก่อนจะตัดมันเมื่อไรก็ย่อมได้ เผลอ ๆ อาจจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำครัวเลยเสียด้วยซ้ำ และเมื่อหม้อว่างนางก็นำซี่โครงเป็ดไปล้างจนสะอาดก่อนจะทำการตุ๊นพร้อมเครื่องยาจีนและสมุนไพรดับความคาวด้วยไฟกลางพร้อมกับปรุงรสลงไปเล็กน้อยแต่ไม่ให้มีรสจัดจนเกินไป กว่าที่เนื้อเป็ดจะเปื่อยยุ่ยคงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ ๆ

          เฟินเยว่กลับมาสาละวนทำขนมเปี๊ยะต่อด้วยการนำถั่วเหลืองไปต้มจนอ่อนนุ่มก่อนจะนำไปเคี่ยวอีกครั้งพร้อมกับเกลือ น้ำตาลทราย และใส่น้ำมันอีกเล็กน้อยจากนั้นจึงนำมาบดให้เป็นเนื้อเดียวกันพักเอาไว้ให้เย็น รอเวลาค่อยนำมาปั้นเป็นก้อน ซึ่งระหว่างที่รอนั้นเด็กสาวก็ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ เริ่มลงมือทำรายการของคาวต่อไปโดยเริ่มจากการเตรียมผักสำหรับการทำแกงจืดเยื่อไผ่ ผัดผักเก๋าฮะไฉ่ ตับหมูผัดกระเทียม และเป็ดอบยอดผัก นางล้างทุกอย่างจนสะอาดไม่เหลือคราบดิน แล้วหั่นผักแต่ละชนิดแบ่งใส่ถ้วยเล็กเอาไว้ เวลาปรุงจะได้สะดวกเทใส่กระทะได้ในทันที อย่างเยื่อไผ่หันเสร็จก็นำไปแช่น้ำรอ

          โดยของคาวที่จะทำนางจะเริ่มจากแกงจืดเยื่อไผ่ อันดับแรกคือการต้มน้ำแกงกับเครื่องยา เพิ่มเคล็ดลับความหอมอร่อยไม่มีในสูตรคือใส่เมล็ดพริกไทย กระเทียม และรากผักชีลงไปเคี่ยวพร้อม ๆ กัน ปรุงรสด้วยซีอิ๋วตัดน้ำตาลให้กลมกล่อมมีรสเค็มนำทว่าไม่จัดจ้านระคายลิ้นแล้วจึงใส่กระดูกซี่โครงหมูที่ล้างและหั่นเป็นท่อน ๆ แล้วนำไปต้ม ระหว่างนั้นคอยตักฟองที่มาจากคราบเลือดหมูออกไปจนน้ำใสสะอาด หลังจากนั้นก็เคี่ยวไฟอ่อนจนกว่าเนื้อหมูจะเปื่อยยุ่ย ในขั้นตอนนี้ต้องรอประมาณครึ่งชั่วยามเห็นจะได้ จะพอมีเวลาไปทำอย่างอื่นต่อไป

          ระหว่างนี้ไส้ขนมเปี๊ยะน่าจะเย็นลงแล้วจึงนำมาปั้นเป็นก้อนห่อด้วยแป้งที่ทำเตรียมเอาไว้ก่อนหน้าได้ ทาเคลือบด้วยไข่แดงให้มีความมันวาวแป้งไม่แตกก่อนจะนำเข้าเตาอบกับควันเทียนเพื่อให้กลิ่นหอมใช้เวลาสองเค่อก็ได้ที่ ระหว่างนี้นางก็กลับสลับมาทำของคาวต่ออีกครั้ง

          “เหลืออะไรอีกบ้างนะ..” มือเรียวซับใบหน้าที่ชื้นเหงื่อแถมยังแดงร้อนจากไอไฟที่หน้าเตา “ข้าวสวยหุงแล้ว รอทำทุกอย่างเสร็จค่อยตักใส่ถ้วย แกงจืดเยื่อไผ่ต้องเคี่ยวกระดูกหมูรออีกครึ่งชั่วยาม เป็ดตุ๋นก็เหมือนกัน... ชาซาวเซียนฉ่าวก็ใกล้เสร็จแล้วเหลือแค่ตัดแบ่งค่อยทำเป็นอย่างหลัง ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็เหลือทำผัดผัดเก๋าฮะไฉ่ ตับหมูผัดกระเทียม และไข่ต้ม… เอาเป็นไข่ต้มก่อนก็แล้วกัน”

          เลือกทำอาหารที่ไม่ต้องคิดอะไรมากเป็นการฆ่าเวลา เฟินเยว่นำไข่ไปต้มคุมน้ำไม่ให้เดือดจัดเกินไปมิฉะนั้นไข่จะถูกแรงดันและแตกออก น่าเสียดายที่สาวน้อยไม่รู้ว่าคุณชายเฉาเมิ่งเต๋อชอบไข่ต้มสุกขนาดไหน แต่หากให้คิดเอาเองนางก็เลือกที่จะต้มไข่ในเวลาครึ่งเค่อ ในระยะเวลาเท่านั้นจะทำให้ไข่ขาวสุกทั่วถึงส่วนไข่แดงมีรอบนอกที่สุกส่วนด้านในมีความฉ่ำอยู่เล็กน้อยเกือบ ๆ จะเป็นยางมะตูม ในความสุกระดับนี้เป็นแบบก้ำกึ่งที่ตนชอบทานไข่ขาวสุกก็ทานได้ หรือคนชอบไข่แดงดิบก็โปรดปรานเช่นเดียวกัน หลังจากที่ต้มไข่ทั้งสองฟองสุกเรียบร้อยแล้วเด็กสาวช้อนไข่ขึ้นมาพักเอาไว้ในน้ำเย็น ก่อนที่จะลงมือทำอาหารจานอื่นต่อระหว่างที่รอให้ไข่ต้มเย็นตัวลง

          ถึงคราวทำตับหมูผัดกระเทียม นำตับหมูไปล้างให้สะอาดแล้วหันเป็นชิ้นบาง ๆ หนาครึ่งข้อนิ้วจากนั้นหมักด้วยน้ำส้มสายชู จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลายครั้งและบีบเลือดออกให้หมดจนตับหมูกลายเป็นสีซีดขาว แล้วผสมแป้งมันกับน้ำหมักตับอีกครั้งทิ้งเอาไว้พักหนึ่ง ขั้นตอนนี้ทำเพื่อให้ตับหมูอ่อนนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง ไม่ดำ และไม่คาว จากนั้นกลับไปแกะเปลือกไข่ที่ต้มเอาไว้ ใช้เส้นด้ายผ่าครึ่งให้ไข่แยกออกเป็นสองส่วนสวยงามและทานง่าย ใส่ด้วยเล็ก ๆ เอาไว้ก่อนบรรจุลงกล่องข้าวแยก เมื่อเสร็จจากไข่ก็กลับมาที่ตับหมู ให้ล้างแป้งที่หมักเอาไว้ออกให้หมดจะได้ตับหมูที่นุ่มและขาวสะอาด

          จากนั้นนำกระเทียมที่ทำเตรียมเอาไว้แล้วแบ่งออกมา ในการทำตับหมูผัดกระเทียมจะใช้กระเทียมสองส่วนทั้งสำหรับผัดและกระเทียมเจียว กระเทียมสำหรับผัดให้นำไปโขลกกับพริกเมล็ดไทยและรากผักชี นำส่วนนี้ไปหมักกับตับปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เกลือ และซีอิ๋ว คลุกเคล้าให้เข้าเนื้อกันจากนั้นพักเอาไว้ นำกระเทียมส่วนที่สองไปเจียวจนเหลืองหอมด้วยไฟอ่อนแล้วพักออกมา ใส่ตับที่หมักแล้วลงไปผัดต่อจนสุก เฟินเยว่พยายามผัดตับให้สุกทั่วทั้งชิ้นเพราะนางถูกสั่งสอนมาจากเจ้านายเก่าว่าควรจะปรุงเนื้อสัตว์ให้สุกไม่ควรกินดิบเพื่อป้องกันเชื้อโรค แม้ว่าการทานตับหากว่าเหลือความดิบอยู่เล็กน้อยจะหวานอร่อยกว่าก็ตาม แต่เรื่องสุขภาพต้องมาเป็นอันดับหนึ่งนางจึงเลือกทำให้สุกไปเลยดีกว่า เมื่อพัดตับเสร็จเรียบร้อยก็นำใส่กล่องข้าวแล้วโรยด้วยผักชีหั่นซอยกับกระเทียมเจียวก็ถือว่าเสร็จไปหนึ่งอย่าง

          หลังจากขั้นตอนนี้ขนมเปี๊ยะก็อบเสร็จพอดี นางนำออกจากเตาแล้วบรรจุใส่ภาชนะไปอีกอย่าง ตอนนี้อาหารเสร็จแล้วสาม เด็กสาวล้างกระทะรอแล้วมองหาขั้นตอนต่อไป

          “แกงจืดกับเป็ดอีกสองเค่อน่าจะได้ที่แล้ว ต่อไปเอาเป็นผัดผักก็แล้วกัน..”

          อันที่จริงเฟินเยว่อยากจะให้รายการนี้เป็นขั้นตอนสุดท้าย เพราะผัดผักหากว่านานเกินไปผักจะถูกความร้อนและสลดลง แต่ช่วยไม่ได้ อย่างไรอาหารทั้งหมดก็เป็นข้าวกล่อง นางควบคุมอุณหภูมิไม่ได้เหมือนกับตอนที่ทำสุกใหม่ ๆ ไม่ได้อยู่แล้ว จึงจำเป็นต้องทำอาหารรายการนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งผัดผักรายการนี้ก็เป็นอะไรที่ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน นำกระเทียมลงไปผัดให้เหลืองหอม ใส่ผักลงไปแล้วปรุงรสด้วยเครื่องปรุงพื้นฐาน ผัดจนผักเก๋าฮะไฉ่สุกก็ตักใส่ถ้วยแล้วบรรจุลงกล่องข้าว เพียงแค่พริบตาเดียวก็เสร็จไปอีกหนึ่งอย่าง

          เฟินเยว่ล้างอุปกรณ์เมื่อทำเสร็จไปทีละอย่าง คราวนี้คงถึงเวลาที่จะกลับมาจัดการกับชาซาวเซียนฉ่าวที่ทำเป็นอย่างแรก ก่อนที่มือของนางจะติดกลิ่นคาวของหมูและเป็ดไปมากกว่าเดิม นางลองดมมือของตัวเองพิสูจน์กลิ่น คิดว่ากลิ่นคาวน่าจะหมดจากการเก็บล้างภาชนะที่ไม่ได้ใช้ลงไปแล้ว จึงตัดแบ่งวุ้นดำด้วยเส้นด้ายคล้ายกับที่ตัดแบ่งไข่ต้ม จากนั้นก็ใส่ถ้วยของหวานแล้วราดน้ำเชื่อมลงไปปิดฝาให้แน่นกันหก ก็ถือว่าของหวานทั้งสองอย่างได้ทำสำเร็จเรียบร้อยแล้ว

          สาวน้อยกลับมาที่หม้อตุ๋นทั้งสองใบที่ตั้งไฟเอาไว้ ทั้งหมูและเป็ดดูจะเริ่มนุ่มได้ที่ เด็กสาวตัดสินใจที่จะทำแกงจืดเยื่อไผ่ก่อน เพราะทำง่ายแค่ใส่เห็ดหอมและเยื่อไผ่ลงไปต้มต่ออีกสักหนึ่งเค่อก็พร้อมทานจึงปิดฝาทิ้งเอาไว้แล้วหันหน้ามาปรุงเป็ดอบยอดผัก นางนำเป็ดขึ้นมาจากหม้อตุ๋นจากนั้นผ่ากลางลำตัวเลาะเอากระดูกออกจากเนื้อหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เพราะการทำกล่องข้าวต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้ทานเป็นสำคัญ

          จากนั้นตั้งอีกกระทะผัดผักคะน้ากับเหล้าจีนเพื่อให้ได้กลิ่นหอมแล้วนำออกมาพัก ผัดหงหลัวโป (แคร์รอต) หั่นแว่นพร้อมกับเห็ดหอมด้วยวิธีการเดียวกันจากนั้นก็นำมาพักเช่นเดียวกันกับคะน้า จากนั้นเทน้ำตุ๋นเป็ดลงไปในกระทะแล้วเคี้ยวให้น้ำเป็ดงวดลงโดยไม่ต้องปรุงรสเพิ่ม รสชาติจากที่จืดในตอนแรกจะเข้มขึ้นโดยอัตโนมัติจากนั้นจึงใส่หงหลัวโปและเห็ดหอมลงไปและใส่แป้งมันผสมน้ำเคี่ยวลงไปพร้อม ๆ กันเพื่อให้ได้น้ำที่ข้นเหนียว ชิมรสเป็นครั้งสุดท้าย แต่งกลิ่นให้หอมด้วยพริกไทย ขั้นตอนการปรุงใกล้เสร็จสิ้น นำผักคะน้าจัดรองถ้วยจากนั้นตามด้วยเป็ดและเทน้ำราดพร้อมเห็ดหอมและหงหลัวโปก็เป็นอันเสร็จสิ้น

          อาหารคาวเหลือเพียงแค่รายการเดียวคือแกงจืดเยื่อไผ่ ทำให้เสร็จโดยจัดใส่ถ้วยพร้อมฝาปิดให้แน่นสนิท นำบรรจุลงกล่อง และสิ่งสุดท้ายที่เฟินเยว่ใส่ลงไปคือข้าวสวยหนึ่งถ้วย เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเด็กสาวก็ทำการตรวจเช็คความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง

          “ข้าวสวยหนึ่งถ้วย ไข่ต้มสองฟอง ซุปเยื่อไผ่ ผัดผักเก๋าฮะไฉ่ ตับหมูผัดกระเทียม เป็ดอบยอดผัก ชาซาวเซียนฉ่าว ขนมเปี๊ยะ ครบหมดแล้ว เหลือแค่ชาหลงจิ่ง...”

          รายการชาเฟินเยว่กะจะไปชงให้เมื่อไปส่ง แต่คิดดูอีกครั้งหากว่าคุณชายเฉาเมิ่งเต๋อไม่สะดวกที่จะชงชายังสถานที่ทำงานจะทำเช่นไร ปกติอาจจะไม่เข้าท่าสักนิดหากชงชาเอาไว้ก่อนแล้วค่อยดื่มกลางทาง ทว่าก็ไม่ใช่ว่าไม่มีใครที่ทำกันเลย เด็กสาวต้องท่องเอาไว้ในใจว่านี่คือข้าวกล่อง หากเป็นไปได้มีโอกาสได้ทำอาหารปรุงสุกสดใหม่ให้คุณชายเฉาได้ทานคงจะดีกว่าแต่คงไม่ใช่ในโอกาสนี้ สุดท้ายเด็กสาวก็ต้องชงชาหลงจิ่งใส่กระติกไม้ไผ่ไปให้เขาดื่มแทน

          และเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นเด็กสาวก็ช่วยเก็บล้างครัวให้เรียบร้อย ทิ้งข้าวสวยที่หุงเกินเหลือเอาไว้ให้กับทางโรงเตี๊ยม ก่อนที่จะไปขอบคุณเถ้าแก่และออกไปส่งอาหารต่อ...


.
.
.


ลักษณะนิสัยรักสงบ
-10 ลดความเครียด

ลักษณะนิสัยขยัน
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
-20 ลดความเครียดเมื่อทำงานหรือทำกิจกรรมใด ๆ

ลักษณะนิสัยเห็นอกเห็นใจ
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ

อัตลักษณ์อัจฉริยะ
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
+30 EXP จากการโรลทำงาน

อัตลักษณ์ผิวเป็นฝ้ากระ
-20 EXP จากการโรลทำงานในช่วงกลางวัน หรือ โรลเดินทางช่วงกลางวัน (เรียลไทม์)
+15 ความเครียด เมื่อต้องทำอะไรก็ตามในช่วงเวลากลางวัน

------------------------------------------
มอบ ข้าวสวย 10 ถ้วย ให้โรงเตี๊ยม
เป็นค่ายืมครัว





←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
พยัคฆ์ตงเทียน
หยกเชื่อมสัมพันธ์
พู่กันเหวิ่นเซ่า
ถุงหอมจูอวี๋
กลยุทธ์เล่ออี้
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x40
x32
x1
x439
x500
x73
x500
x26
x498
x500
x10
x2
x9
x1
x400
x1
x1
x5
x28
x8
x591
x228
x228
x500
x2514
x18
x14
x1
x5
x1
x2
x100
x5
x50
x100
x3
x3
x10
x2
x47
x64
x6
x9
x2
x71
x1
x24
x95
x50
x86
x150
x260
x150
x150
x46
x46
x2
x2
x6
x2
x2
x34
x4
x1
x8
x1
x2
x7
x5
x8
x7
x110
x7
x74
x45
x3
x30
x63
x74
x79
x2
x71
x68
x6
x45
x50
x160
x316
x3
x220
x48
x35
x168
x12
x10
x25
x1
x13
x6
x4
x6
โพสต์ 2021-10-27 16:40:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Weibin เมื่อ 2021-10-27 16:48

งานที่ 1 สืบหาว่าสตรีคลุมหน้าไปนัดพบใครและเขาให้ทำอะไรกันแน่



เว่ยนำองครักษ์หลวงมาที่โรงเตี้ยมตามงานที่ได้รับมอบหมาย เมื่อเสี่ยวเอ้อเห็นชายพร้อมผู้ติดตามกลุ่มดึงลงมาจากรถม้า ก็รีบเดินข้าไปต้อนรับ



  "คาราวะคุณชายไม่ทราบว่าคุณชายได้จองโต๊ะไว้หรือไม่ขอรับ "



เว่ยปินชำเลืองหางตาไปมอง พนักงานคนนั้นนิดหน่อยก่อนจะเปิดป้ายที่เหน็บไว้ข้างเอวบ่งบอกว่าเป็นขันทีราชสำนักที่กำลังทำงาน เมื่อเสี่ยวเอ้อเห็นป้ายก็แข็งค้างไปชั่ววูบก่อนจะตั้งสติได้แล้วสำรวมมากกว่าเดิม

"ช่วยพาข้าไปที่ห้องส่วนตัว แล้วเจ้าตามข้ามาข้ามีเรื่องที่อยากจะถามเจ้าสักหน่อย"



เสี่ยวเอ้อได้ยินคำของเว่ยปินก็หน้าซีดเล็กน้อย "ขอรับ กงกงเชิญทางนี้" เสี่ยวเอ้อเดินนำเว่ยปินขึ้นไปบนห้อง เมื่อเว่ยปินนั่งลงที่เก้าอี้เสี่ยวเอ้อก็คุกเข่าด้วยความกดดัน


"ไม่ทราบกงกงต้องการรู้อะไรจากข้าน้อยหรือขอรับ"


"เจ้าไม่ต้องกลัวขนาดนั้นหรอก ข้าแค่ได้ข่าวว่าประมาณแปดวันก่อนได้มีสตรีปิศนานางนึงมาที่นี่มันจริงหรือไม่"


เสี่ยวเอ้อทำหน้าอึดอัดก่อนจะตอบ "ข้าไม่มั่นใ.." เสี่ยวเอ้อพูดยังไม่ทันจบ เว่ยปินก็โยนตำลึงทองไปถุงหนึ่งให้เสี่ยวเอ้อ

"หวังว่าเจ้าจะให้คำตอบที่ข้าพอใจ"

เมื่อเสี่ยวเอ้อเห็นตำลึงทองตรงหน้า ก็นํ้าลายไหลรีบเก็บเข้าแขนเสื้อ "เรียนกงกง เมื่อแปดวันก่อนมีสตรีปริศนามาที่นี่จริงๆขอรับ นางมีผ้าคลุมครึ่งหน้าล่างไปทำให้ข้าไม่มั่นใจในหน้าตาเท่าไหร่"

"แล้วนางมาทำอะไรหรือมาพบใคร?" เว่ยปินถามต่อด้วยสีเรียบเฉย แต่เสี่ยวเอ้อทำท่าทีเล่นตัวสุดท้าย เว่ยปินก็โยนตำลึงไปอีก10ก้อนไปอีกสองก้อน


เมื่อเสี่ยวเอ้อเห็นก็รีบเก็บเงินก่อนจะยิ้มอย่างประจบ "ข้าจำได้แล้วกงกง แม่นางปริศนามาพบกับสตรีนางนึงจริงๆ ข้าเห็นพวกนางนั่งคุยกันสักพักก่อนจะมอบจดหมายให้กัน"


"อืมม เจ้าสามารถบอกลักษณะของสตรีอีกนางได้หรือไม่"

"ข้ามีความสามารถวาดรูปอยู่บ้าง ข้าจะรีบวาดให้กงกงทันที" เมื่อเสี่ยวเอ้อกล่าวจบก็รีบวิ่งออกไป หากระดาษกับหมึกมาวาดภาพสตรีนางนั้นมอบให้เว่ยปิน "เรียนกงกง นี่คือภาพวาดของสตรีนั่งคุยกับ สตรีปริศนา"

เว่ยปินรับภาพมาอย่างพอใจก่อนจะพาองครักษ์ออกมาจากโรงเตี้ยม

"เจ้านำคนของเราไปสืบหาสตรีในภาพ แล้วเมื่อเรื่องทุกอย่างจบให้หาโอกาสสังหารเสี่ยวเอ้อทิ้งซะ ในเมื่อจางกงกงมอบงานนี้ให้ข้าด้วยตัวเองแปลว่ามันสำคัญมากยิ่งคนรู้น้อยยิ่งดี"






@Webmaster ค่าสินบน 20 ตำลึงทอง



เจ้าเล่ห์/เสแสร้ง

+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย

ละโมบ


+20 ความเครียด จากการมอบตำแหน่ง , แบ่งดินแดน , ให้ชองขวัญ

ประจบสอพลอ

+2 Point จากการโรลใช้กลอุบาย


ขันที

+3 Point เมื่อโรลใช้แผนและกลอุบาย


หูดี

+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย

อัจฉริยะ
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย




←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
รถม้าใหญ่
กระบี่
ซัวเหวินเจี่ยจื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1
x2
x6
x2
x20
x3
x1
x1
x17
x16
x2
x1
x4
x4
x1
x8
x40
x10
x3
โพสต์ 2021-10-29 00:51:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เว่ยปินเดินทางกลับเมืองหลวงก็เลือกเข้าพักที่โรงเตี๊ยมในตัวเมือง
"ประตูวังคงจะปิดแล้ว วันนี้ข้าจะพักที่นี่พวกเจ้าก็ไปพักผ่อนได้" เว่ยปินกล่าวจบผู้ติดตามก็เอารถม้าไปหาที่พักแล้วพากันเข้าไปพักผ่อน  เว่ยปินเดินเข้าไปก็มีเสี่ยวเอ้อคนเดิมมาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

"ยินดีต้อนรับขอรับกงกงมาที่นี่มีอะไรอยากรู้จากข้าน้อยอีกหรือไม่ขอรับ" เสี่ยวเอ้อพูดพลางถูมือตัวเองไปด้วยเมื่อนึกถึงตำลึงทองที่จะได้

"ตอนนี้ประตูวังปิดแล้วข้าจึงมาเพื่อพักชั่วคราวเจ้ารีบไปเตรียมห้องให้ข้าเถอะ" เว่ยปินกล่าวเสร็จก็เดินนำเสี่ยวเอ้อขึ้นไปชั้นสอง เสี่ยวเอ้อมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อยก่อนจะยิ้มอย่างประจบแล้วไปจัดการเรื่องห้องพัก

เว่ยปินเข้ามาในห้องพักก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองแล้วนั่งทบทวนเรื่องที่ไปทำมาวันนี้ทั้งหมด เขาไม่เชื่อว่ากู่จิ้นอิ๋งจะพูดความจริงแต่ตนก็ทำอะไรไม่ได้มากจางยรั่งไม่ได้มอบสิทธิในการใช้กำลังไม่งั้นเขาคงจับนางไปสอบสวนแล้ว ตลอดที่เขาคุยกับนางเขาจับได้ทันทีว่านางมีความกลัวซ่อนอยู่แต่นางกลับไม่ได้แสดง ออกว่ากลัวอะไร กลัวเรื่องที่เขาอ้างบัญชาฮ่องเต้หรือกลัวเขาจับได้ว่านางหลอกตนอยู่?"ก๊อกๆ" ระหว่างที่เว่ยปินนั่งคิดทบทวนเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

" เจ้าเป็นใครแล้วมีธุระอันใด" เว่ยปินพูดพร้อมเลื่อนมือไปจับมีดสั้นที่ปกติขันทีที่ออกมาทำงานด้านนอกต่างพกไว้ ป้องกันตัว

"เรียนกงกงมีจดหมายถึงกงกงขอรับ" เสียงเสี่ยวเอ้อดังมาจากอีกฝั่งของประตู เว่ยปินก็คลายมือจากมีดแล้วไปเปิดประตู "ขอบใจเจ้ามาหากไม่มีอะไรแล้วก็ไปได้ แล้วหากไม่มีอะไรฉุกเฉินห้ามมารบกวนข้า เว่ยปินปิดประตูแล้วกลับมานั่งที่เก้าอี้ก่อนจะเปิดจดหมายดูในจดหมายกลับมีเนื้อความสั้นๆ   

   'ขอพบท่าน ณ วัดไป๋หม่า ยามเหม่า'  เว่ยปินตกใจเล็กน้อยก่อนจะเก็บจดหมายเข้าแขนเสื้อ เขามีรางสังหรณ์ว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับงานที่จางยรั่งมอบให้ตน แน่นอนจางยรั่งรู้ว่าสตรีปริศนานั่นคือใครแต่ไม่ได้บอกตน "จางยรั่งเจ้ามอบงานยุ่งยากให้ข้าจริงๆ"

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
รถม้าใหญ่
กระบี่
ซัวเหวินเจี่ยจื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1
x2
x6
x2
x20
x3
x1
x1
x17
x16
x2
x1
x4
x4
x1
x8
x40
x10
x3
โพสต์ 2021-12-1 21:40:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Jinying เมื่อ 2021-12-1 21:44


มอบตัวเจิ้งหลัน
.
.
.

           มาถึงยังโรงเตี๊ยมอี้เถาในตัวเมืองลั่วหยางก็เข้ายามซวีไปแล้ว จิ้นอิ๋งได้ทำการเช่าห้องพักไว้ทั้งหมดสองห้องเช่นเดิม โดยให้เจิ้งหลันนอนรวมกับดรุณีน้อยและพี่สาวซูฮวา ส่วนถานเจ๋อก็นอนคนเดียวอย่างทุกครา จนเมื่อเอาของหลังม้าไปเก็บยังห้องพักเรียบร้อยแล้วทั้งหมดถึงได้ลงมาทานอาหารเย็นร่วมกันเพื่อรอเวลา หลังทานข้าวเสร็จที่ยังพอเหลือเวลาเกือบครึ่งชั่วยาม ทั้งหมดจึงกลับขึ้นห้องพักไปรอ โดยที่จิ้นอิ๋งก็ได้แยกไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำของตัวโรงเตี๊ยม

           ในช่วงต้นฤดูหนาวที่ทำให้ภายในห้องอาบน้ำพื้นแทบเย็นเฉียบรวมถึงอากาศภายในที่พัดพาชวนให้รู้สึกหนาวสะท้าน แม้จะทำให้ดรุณีน้อยคล้ายตัวสั่นน้อย ๆ ยามปลดชุดที่คลุมกายออกแต่จิ้นอิ๋งก็ทำใจแข็งค่อยคอยหย่อนกายเปลือยลงยังถังไม้ที่มีน้ำอุณหภูมิอุ่นพอดีภายใน เสียงทอดถอนหายใจพลันถอนออกแผ่วเบาและเด็กสาวที่ไล้มือลูบผ่านยังผิวกายรอบหนึ่งถึงได้นำใยบวบมาช่วยขัดอีกหน

           เหมือนช่วงนี้มีบ่อน้ำพุร้อนหลายที่เริ่มเปิดหรือไม่นะ คงต้องลองไปแช่เสียหน่อยแล้ว

           จิ้นอิ๋งคิดขึ้นมาทั้งรอยยิ้มก่อนจะวักน้ำล้างหน้าล้างตาของนางจนเริ่มรู้สึกสะอาดทั่ว ถึงได้ผุดลุกจากถังไม้และเร่งนำผ้ามาเช็ดคลุมกายที่สั่นเทาเอาไว้ นางเร่งสวมชุดใหม่คลุมกายก่อนที่จะออกมาจากห้องอาบน้ำที่ยังอีกฉากกั้นเจิ้งหลันก็ออกมาพอดีให้ดรุณีน้อยเร่งฝีเท้าเข้าหานางพลางมองสำรวจ

           ก่อนลงไปพบสตรีผู้นั้นก็ทายาก่อนแล้วกันนะเจ้าคะ ” จบคำเด็กสาวก็พลันจูงมือแม่นางเจิ้งให้ตามกลับมายังห้องและทำการทาแผลที่ยังเหลือร่องรอยประปรายเอาไว้ให้ และขอตัวกับซูฮวาเพื่อไปพบกับหญิงสาวปริศนาตามเวลาที่มักพบพาน
           .
           .
           เมื่อลงมายังชั้นแรกของโรงเตี๊ยมได้ ยังบริเวณส่วนท้ายของร้านก็ยังพบสตรีในผ้าคลุมเช่นเดิมให้จิ้นอิ๋งค่อยคอยเดินเคียงกับเจิ้งหลันเพื่อไปพบอีกฝ่าย หลังทั้งสองมาถึงก็เป็นฝ่ายดรุณีน้อยที่ค้อมหาคล้ายทั้งเพื่อทักทายและขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของอีกสตรีอยู่ในที

           สวัสดีนะเจ้าคะ ข้ากู่จิ้นอิ๋งได้พาแม่นางเจิ้งมาพบท่านแล้วเจ้าค่ะ ” สิ้นน้ำเสียงหวานที่เอ่ยหาสตรีในผ้าคลุมก็คล้ายพยายามจดจ้องยังแม่นางเจิ้งที่ยืนเคียงเด็กสาวเพื่อพิจารณา

           พามาได้แล้วสินะ ขอบคุณเจ้ามากสาวน้อยที่ให้ความช่วยเหลือเรา

           อีกสตรีกล่าวด้วยน้ำเสียงดูยินดีก่อนตั้งท่าจะหยิบของตอบแทนให้แก่จิ้นอิ๋งขึ้นมาโดยที่เด็กสาวที่เห็นก็พลันเร่งโบกมือปฏิเสธกลับหา พลางเอ่ยอธิบายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ การที่จดหมายของท่านได้ช่วยลดหย่อนโทษให้แก่แม่นางเจิ้ง สำหรับข้าก็ถือว่าได้สิ่งตอบแทนแล้วล่ะเจ้าค่ะ อีกอย่างการพาแม่นางมาพบท่านได้ก็เพราะจดหมายของท่านเอง ข้าไม่กล้ารับค่าจ้างใด ๆ หรอกนะเจ้าคะ..

           แน่ใจงั้นหรือ? ” สตรีในผ้าคลุมเอ่ยถามย้ำหาด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจคาดเดานัก

           เจ้าค่ะ ข้าตั้งใจเช่นนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว.. เพราะอย่างไรที่ข้ามารับงานก็เพียงเพราะต้องการสิ่งเดียวคือช่วยหาความยุติธรรมให้แก่สหายของข้าน่ะเจ้าค่ะ

           สิ้นสุดบทสนทนาของทั้งคู่ ตัวจิ้นอิ๋งก็คล้ายหันไปสบตาแม่นางเจิ้งที่มองเด็กสาวก่อนหน้าอยู่แล้ว ดรุณีน้อยพลันเอื้อมไปบีบยังมือของคนตรงหน้าแผ่วเบาดูคล้ายเตรียมบอกลาอยู่ในทีก่อนจะเอื้อยเอ่ยคำอวยพรให้แก่อีกสตรีได้ทำงานอย่างปลอดภัย

           รักษาตัวด้วยนะเจ้าคะแม่นางเจิ้ง ..ไว้พ้นโทษจนหมดแล้วเราค่อยไปเที่ยวชมโรงอุปรากรกันนะเจ้าคะ

           เด็กสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสระหว่างเฝ้าบอกถึงสถานที่การแสดงที่สตรีชอบเสียงเพลงอย่างเจิ้งหลันน่าจะชมชอบออกไป ซึ่งอีกสตรีก็เพียงยกยิ้มขบขันรับแต่ไม่ได้เอ่ยตอบสิ่งใด ก่อนที่แม่นางเจิ้งผู้นั้นจะถูกสตรีในผ้าคลุมที่เคลื่อนลุกจากที่นั่งเชื้อเชิญให้ไปพูดคุยกันยังหลังโรงเตี๊ยม โดยที่จิ้นอิ๋งก็คล้ายมองตามจนทั้งคู่ลับสายตาไปและเผยเปิดซึ่งแววตาที่ไหวระริกครู่หนึ่งด้วยนึกห่วงใยระคนคาดหวังให้ได้พบพานกันอีกหน
.
.

กู่จิ้นอิ๋ง ขอไม่รับค่าจ้างตอบแทน



ลักษณะแต่กำเนิดตัวหอม
+20 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย
.
สถานะธาตุหลัก : -15 ความสัมพันธ์ [144] ธาตุน้ำ - เราข่มอีกฝ่าย
ค่าชื่อเสียง : -5 ความสัมพันธ์เมื่อเจอคนหัวคลั่ง
และ +10 ความโหดเมื่อเจอคนหัวมาร/หัวคลั่ง

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลงเฟิ่งฉิวหวง
ถุงหอมจูอวี๋
กระบี่
พู่หยกเลือดหงส์
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าเหลียง
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x5
x2
x2
x1
x2
x2
x2
x1
x1
x27
x2
x38
x40
x50
x50
x40
x40
x50
x3
x22
x19
x31
x10
x50
x5
x5
x5
x1
x12
x1
x2
x5
x2
x9
x1
x8
x6
x6
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2021-12-23 20:58:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด




โรลพบเจอกับท่านผู้เฒ่า



ภายในโรงเตี๊ยมอี้เถาของเมืองลั่วอยางนั้นตอนนี้จีเทียนเต๋ากำลังนั่งดื่มชาอยู่เพียงลำพังหลังจากที่ตนเองนั้นใช้เวลาพักสำหรับการทำงานของตนเองนั้นมาดื่มชากับอาหารเสียก่อนสำหรับมื้อเที่ยงของตนเองโดยที่หลังกินเสร็จนั้นตนเองจะต้องไปทำงานอีกนะหว่างรอ สายตาของตนเองนั้นก็ได้สังเกตเห็นว่าตอนนี้ผู้เฒ่าคนหนึ่งนั้นกำลังพูดคุยกับ เสี่ยวเอ่อภายในโรงเตี๊ยมโดยที่ตนเองนั้นก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะแอบฟังอะไรแต่ว่าด้วยหูที่ดีของตนเองนั้นก็ทำให้ทราบว่าท่านผู้เฒ่านั้นไม่สามารถที่จะหาโต๊ะนั่งได้เพราะว่าตอนนี้นั้นคนมาใช้บริการกันเยอะมากจริงๆตนเองที่เห็นแบบนั้นจึงตัดสินใจลุกไปหาอีกฝ่าย

"เอ่อคือถ้าไม่ว่าอะไรท่านผู้เฒ่าจะมานั่งรวมกับข้าก็ได้นะขอรับข้านั้นนั่งเพียงคนเดียวแล้วอีกไม่นานก็จะต้องออกไปทำงานต่อด้วยเลยคิดว่าท่านผู้เฒ่านั้นมานั่งกับข้าก็ได้นะขอรับ"

"ถ้าแบบนั้น...ก็ต้องขอบใจพ่อหนุ่มมากจริงๆแบบนั้น"

ก่อนที่คนทั้งคู่นั้นจะเดินไปนั่งโต๊ะกันพร้อมกับที่จีเทียนเต๋านั้นชวนอีกฝ่ายพูดคุยไปด้วย

"คือท่านผู้เฒ่าชอบดื่มชาเช่นนั้นหรือขอรับ เห็นท่านนั้นชอบดื่มชาเช่นนั้นข้าเลยพอจะมีชาดีๆอยู่บ้างเลยอยากจะมาแนะนำชวนท่านผู้เฒ่าดื่มพอดี"

"ได้สิชอบดื่มเหมือนกันแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเพราะว่าข้าดื่มเพียงคนเดียวนั้นมันไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ถ้ามีคนดื่มด้วยก็คงดี"

"ถ้าเช่นนั้นให้ข้ารินชาให้กับท่านผู้เฒ่านะขอรับ"

พร้อมกับที่จีเทียนเต๋านั้นพูดคุยกับอีกฝ่ายพร้อมกับคอยรินชาคอยส่งขนมให้กับท่านผู้เฒ่านั้นดื่มกินไปด้วยโดยที่ตนเองนั้นก็คอยหาเรื่องเอามาพูดคุยกับอีกฝ่ายด้วย



ใช้ลักษณะนิสัยหูดี
+5 EXP เมื่อโรลสร้างความสัมพันกับคนอื่นก่อน
+15 ความสัมพันธ์กันคนที่คุยด้วย
หลังตรง
+15 ความสัมพันธ์เมื่อได้เจอสหายใหม่

มอบไอเทมชาปี้หลัวซุน ให้กับ NPC 149
+5 ความสัมพันธ์ธาตุเหมือนกัน
+15ความสัมพันธ์เพราะหัวดี
+30 คุณธรรมเมื่อเจอคนหัวดี
@Watcher


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดไท่หมินลู่
เบ็ดตกปลา
คัมภีร์ไท่หมินลู่
ไก่ฟ้าทองแดง
หวีเซียวเฉิน
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าขาว
หน้ากากขาว
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x108
x8
x800
x800
x800
x70
x470
x100
x100
x4
x3
x3
x1
x7
x25
x860
x10
x790
x490
x200
x1
x100
x100
x100
x10
x1
x2
x1
x3
x4
x10
x920
x291
x494
x5
x388
x5
x6
x77
x100
x30
x900
x68
x1
x82
x98
x1
x96
x98
x1
x6
x2
x1000
x2
x3
x3
x3
x7
x8
x3
x100
x4
x100
x26
x24
x24
x26
x14
x600
x96
x100
x60
x100
x100
x440
x25
x2
x376
x11
x492
x9
x4
x99
x80
x79
x28
x2
x379
x75
x196
x571
x167
x100
x100
x50
x100
x100
x250
x50
x86
x13
x13
x7
x74
x6
x19
x5
x1150
x324
x17
x11
x10
x10
x490
x10
x2
x42
x62
x38
x1
x108
x35
x96
x99
x85
x505
x1
x598
x3
x3
x1
x8
x24
x404
x4
x102
x6
x24
x491
x288
x39
x90
x154
x8
x1
x10
x75
x10
x93
x500
x250
x150
x250
x550
x250
x3
x500
x242
x36
x18
x465
x1015
x164
x804
x804
x804
x804
x493
x314
x13
x36
x7
x498
x1
x10
x1
x2561
x628
x320
x260
x100
x15
x1
x6
x6
x150
x9999
x2
x7
x18
x5
x2
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

อย่าลืมเข้าสู่ระบบนะจ๊ะ เข้าสู่ระบบตอนนี้ หรือ ลงทะเบียนตอนนี้

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้