[นอกเมืองหงหนง] ป่าเจวี๋ยปิง

[คัดลอกลิงก์]
ไม่ระบุชื่อ  โพสต์ 2021-9-2 23:32:24 |โหมดอ่าน





ป่าเจวี๋ยปิง

{ นอกเมืองหงหนง }







【ป่าเจวี๋ยปิง】

ป่านอกเมืองหงหนง มีต้นไม้สูงทึบขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก
ตามพื้นดิน มีหญ้าสีเขียวขจีขึ้นอยู่แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์
สภาพอากาศมีหมอกลงเล็กน้อย เป็นเส้นทางป่าซึ่งอยู่ติดกับ
ป่านอกเมืองฉางอัน ราวกับเป็นป่าผืนเดียวกัน












โพสต์ 2021-9-3 16:09:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด
    เทียนหลงที่ตอนนี้เขาได้รับไก้ทองคำมาแล้วก็ได้รีบมุ่งตรงไปยังฉางอัน เพื่อกล่าวบางสิ่งแก่พ่อค้านั่น

    แต่แล้วในเวลานี่ตอนที่เข้าได้ผ่านเข้ามาแถวเมืองหงหนงก็ถูกโจมตีด้วยโจรโพกผ้าเหลือง

    "ส่งของมีค่าทั้งหมดของแก่มาซะ โดยเฉพาะมาของแก่" โจรโพกผ้าเหลืองกล่าวขึ้นมาพร้อมกับพุ่งเข้าใส่เทียนหลงในขณะที่ไม่ทันตั้งตัวบาดแผลมากมายเกิดขึ้นทั่วร่าง แต่มิถึงขึ้นหมดสติหรือสาหัสมากนัก

     "สมกับเป็นโจรจริงๆ" เทียนหลงพยายามฝืนหนีออกมาพร้อมกับหยิบดาบของตนที่อยู่ข้างกายขึ้นมาสวนใส่ร่างของโจร

     "ขอบคุณสำหรับคำชม!!!"

     โจรเริ่มโจมตีอย่างต่อเนื่องใส่เทียนหลง ตอนนี้เมื่อเทียนหลงได้ดาบมามันก็มิใช่เรื่องง่ายที่จะทำร้ายเขาเหมือนครั้งก่อน เทียนหลงเริ่มโจมตีรวดเร็วขึ้นเรื่อยจนโจรตัวนั้นมิอาจต้านทาน บาดแผลมากมายเริ่มเกิดขึ้นจนโจรตัวนั้นได้ล้มลงกับพื้น

     "ลาขาดหละนะพวกผ้าเหลือง" คมมีดตัดเข้าที่หลอดลมของโจรตัวนั้น มันดิ้นอย่างทุรนทุรายจากการขาดอากาศหายใจจนวินาทีสุดท้าย

     "ไปกันต่อเถอะ" เทียนหลงพลันกล่าวกับม้าของตนก่อนจะเริ่มควบมันกลับไปฉางอัน
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หวีเซียวเฉิน
ตำราตงฟางซั่ว
ยาสมานแผลขั้นต้น
ตะเกียงซือซานเยวี่ย
ทวนสามพยัคฆ์
ม้าขาว
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x1
x1
x1
x1
x45
x1
x6
x2
x5
x984
x5
x50
x30
x2
x10
x8
x2
x8
x12
x24
x2
x7
x50
x5
x5
x5
x5
x5
x5
x5
x4
x6
x2
x2
x15
x40
x1
x6
x6
โพสต์ 2021-9-3 23:45:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ห่าวอู๋ค่อยๆ เดินทางไปยังที่ต่อไป เรื่อยไป กับขบวนขนส่งเสบียงของกองทหารอาสา โขว่ซือ..

ตัวมันนั้น ค่อยๆคลายความคิดอันตึงเครียด  ซึ่งเกิดจากการโต้เถียง กับเจ้าพ่อค้าตระกูลหวังนั้น


'หลังจากที่เชือดหมอนั่นไป ก็รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย..' ชายหนุ่มคิดในใจ

'แต่จะทำแบบนี้บ่อยๆ ก็คงไม่ถูก เฮ้อ ช่างแย่เสียจริง… ตัวเรา มัวแต่สร้างศัตรูใหัตัวเองเรื่อยไป ราวกับเป็นนักเลงโตหาเรื่องอยู่สุขไม่ได้ไปได้

มันคิดพลางถอดถอนใจ


การเดินทางนั้นหากผ่านอีกสัก สองสามเมืองภารกิจนี้ก็คงจะราบรื่น…


แต่หลังจากนั้นจะเอาไงต่อนั้นอีกเรื่อง

มันทำท่าครุ่นคิดพลางนึกถึงแผนการตรงหนัา

'ตัวเรานั้น พยายามใฝ่หานายที่ตรงกับที่เราต้องการ แต่ไฉน เลย คนตามเป้าประสงค์เช่นนั้นจะรับเรา รับใช้ เราที่เป็นบุคคลไร้หัวนอนปลายเท้า เช่นนี้ จักทำเช่นไรได้' มันครุ่นคิดในใจ

ก่อนเหล่ตามองไปยังเหล่าทหารที่อยู่ใกล้

จะชิงเสบียงก็ได้อยู่หรอก แต่นั้นดูจะเป็นการทำให้เสียการใหญ่

ดูท่าแล้วมันคงต้องใช้ทั้งสติปัญญาและความสามารถ ในการหุบกลืนกองกำลังนี้เป็นของเรา จากนั้นกำราบโจรโพกผ้าเหลืองให้มีชื่อเสียง ระบือลือลั่นไปทั่ว


จากนั้น หา 'นาย' สักคน

สนับสนุนนายคนนั้นจนมันไว้ใจ จากนั้น ค่อยๆ เลื่อย บัลลังก์มันซะ…


เมื่อนั้น ใต้หล้านี้ แผ่นดินนี้ บัลลังก์ฮ่องเต้

จักเป็นของเรา


ชายหนุ่มคิดวางแผนระยะยาวในไกล…


แต่ตอนนี้

มันค่อยๆนำกองทัพผ่านเมืองหงหนงไปสู่เมืองต่อไปอย่างช้าๆ โดยในใจทางข้างหน้าจะปลอดภัยเฉกเช่นเมืองนี้ ก่อนมันจะค่อยไปควบม้ส นำขบวนขนเสบียงให้ไปต่อ





←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
อริยสัจสี่
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าเหลียง
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
เตากำยาน
ดาบใบหลิว
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x8
x8
x21
x8
x17
x28
x8
x18
x18
x38
x16
x8
x8
x8
x18
x10
x4
x17
x5
x8
x21
x13
x2
x19
x12
x16
x16
x5
x2
x6
x16
x20
x15
x1
x10
x15
x1
x7
x6
x53
x1
x1
x3
x3
x3
x68
x1
x28
x5
x9
x1
x26
x11
x5
x2
โพสต์ 2021-9-6 13:27:33 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เฉินเซียวเฟิงได้เดินทางมาถึงเมืองหงหนงได้อย่างปลอดภัย เมื่อมาถึงสิ่งแรกที่ทำคือการพาคนเจ็บไปยังโรงหมอในเมืองรักษาโชคดีที่ไม่ใช่อาการบาดเจ็บร้ายแรงพักเพียงไม่กี่วันก็พอลุกเดินได้แล้ว


"ข้าขอโทษด้วย เพราะความประมาทของข้าทำให้เจ้าต้องมาบาดเจ็บเช่นนี้"


เฉินเซียวเฟิงพูดขอโทษทหารบาดเจ็บอย่างจริงใจ และโทษความไร้สามารถตน


"ไม่เป็นหรอกท่านเฉินเฟิง ถ้าไม่ได้ท่านล่ะก็พวกเขาอาจบาดเจ็บล้มตายมากว่านี้ก็เป็นได้ ครั้งนี้มีเพียงข้าบาดเจ็บนับว่าโชคดีมากแล้ว"


ทหารอาสาคนนั้นพูดปลอบเฉินเฟิงไม่ให้โทษตัวเองมากเกินไป


"ถึงงั้นก็เป็นความผิดข้าอยู่ดี.. เอาเป็นว่าค่ารักษาพวกนี้ข้าจะขอออกให้แล้วกัน"


เฉินเซียวเฟิงยืนยันที่จะจ่ายค่ารักษาให้แม้ทหารอาสาจะบอกว่าไม่เป็นไรก็ตาม ก่อนจะออกมาพบเหล่าทหารอาสาที่รออยู่ด้านนอก


"พวกเราจะพักที่เมืองนี้กันสักพักไว้อาการบาดเจ็บเขาดีขึ้นเราจะออกเดินทางต่อ"


เฉินเซียวเฟิงบอกพวกทหารก่อนจะกลับเข้าโรงหมอเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บตนบ้าง หลังผ่านไปหลายชั่วยามจนอาการทหารอาสาดีขึ้นก็เริ่มต้นออกเดินทางไป เมืองเหอตง

[จ่าย 20 ตำลึงเงินเป็นค่ารักษาทหารบาดเจ็บ]
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เตากำยาน
หน้ากากยักษา
ดาบไท่จี๋
ม้าขาว
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x35
x44
x35
x10
x10
x11
x20
x15
x1
x15
x27
x60
x3
x7
x6
โพสต์ 2021-9-6 21:00:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ออกเดินทางสู่ฉางอัน

          หลังแวะเวียนยังเฉินหลิวเสร็จสิ้น ตัวจิ้นอิ๋งก็ได้เวลาเดินทางสู่ฉางอันอันเป็นเป้าหมายในการตามหาครอบครัว แต่ก่อนจะเดินทางถึงก็ต้องแวะเวียนพักผ่อนยังลั่วหยางอีกหนจนวันรุ่งขึ้นถึงเดินทางต่อผ่านมาจนถึงเมืองหงหนงในยามอู่ หญิงสาวจึงให้พักมาทานอาหารกันกับผู้ติดตามก่อนจะเดินทางต่อ

          ทว่าระหว่างที่นั่งพักผ่อนพลางเล่นกับไป๋เซ่ออยู่นั้น เสียงพงไม้ขยับแผ่วพลันดังขึ้นพร้อมกับกลุ่มโจรโพกผ้าเหลืองกลุ่มเล็กกลุ่มหนึ่งได้ปรากฏตัวออกมา คล้ายกับพวกมันเฝ้าดูมาครู่หนึ่งและพบเพียงหนึ่งเด็กสาวและหนึ่งบุรุษเท่านั้นจึงยอมเผยตัวในที่สุด

          ใบหน้าโจรกลุ่มนั้นตีขึงขังพลางจดจ้องจิ้นอิ๋งอย่างมาดร้าย และเพราะบริเวณที่ปรากฏตัวนั้นใกล้ฝั่งนางมากกว่า ตอนนี้จึงมีโจรตนหนึ่งวาดปลายดาบวางใต้คางของจิ้นอิ๋งให้นางหลุดใบหน้าติดตระหนกออกมา ถานเจ๋อที่นั่งทานข้าวไม่ไกลนั้นแทบจะผุดลุกพุ่งหามาเสียเดี๋ยวนั้น แต่ก็ถูกหยุดไว้ด้วยภาพตรงหน้าให้ใบหน้าดุดันแทบคล้ำเขียวด้วยความโกรธกริ้ว ก่อนมันจะปลดดาบออกจากตัวพลางค่อยคอยวางลงพื้นโดยไม่ละสายตาไปจากท่านหญิงไหนจะเอ่ยต่อรองอย่างใจเย็น

          “ ข้าจะวางอาวุธ.. พวกเจ้าก็ปล่อยตัวท่านหญิงของข้าซะ! ”

          สิ้นคำพูดแทนที่จะรับฟัง พวกโจรกลับหัวเราะอย่างขบขัน ก่อนเจ้าของปลายดาบที่พาดใต้คางจิ้นอิ๋งพลันคว้าต้นแขนเล็กอย่างแรงจนนางต้องลุกตามพร้อมหลุดร้องเสียงแผ่วด้วยความเจ็บ ก่อนใบหน้านวลยิ่งซีดเผือดลงยามโดนแขนแกร่งของโจรผู้นั้นรัดอ้อมรอบคอเล็กไว้จนใบหน้าทั้งคู่แทบขนาบหา ถานเจ๋อกัดฟันกรอดแทบร้องคำรามคว้าดาบก้าวใส่ แต่เพราะดาบอีกฝ่ายก็จี้หายังข้างเอวของนายมันจึงไม่อาจเข้าใกล้และได้แต่กำดาบจนหน้าเบี้ยว

          ดูท่าแล้วโจรที่กุมจับจิ้นอิ๋งอยู่คงเป็นหัวหน้าของโจรอีกสามตนโดยรอบ เพราะในยามที่ใบหน้าของมันผินปลายจมูกส่งเสียงสูดดมข้างดวงหน้าหวานที่เกือบจะร้องไห้อยู่ร่อมรอ พวกมันก็พากันร้องสนับสนุนให้กระทำต่อจนแว่วเสียงหัวเราะชวนขยะแขยงดังข้างหูจิ้นอิ๋ง

          “ ปล่อยนางเดี๋ยวนี้!! ” ถานเจ๋อคำรามอย่างสุดทน

          “ ปล่อยนางซะ ปล่อยนางเดี๋ยวนี้~ พูดเป็นแค่นั้นหรืออย่างไร? เป็นผู้ติดตามแสนห่วยแตกเสียจริง ท่านหญิงสนใจให้พวกข้าติดตามแทนดีหรือไม่.. หืม? ”

          แขนอีกฝ่ายพลันรัดแน่นขึ้นจนจิ้นอิ๋งแทบหน้าหงาย น้ำตาไหลลามออกดวงตาคู่งามด้วยความหวาดหวั่นเมื่ออีกฝั่งยังไม่หยุดกระซิบคำคุกคามจนนางแทบคลื่นเหียน ถานเจ๋อที่เห็นน้ำตาท่านหญิงยิ่งกัดฟันจนกรามนูน มันโมโหจนอยากจะจ้วงดาบใส่ท้องโจรผู้นั้นให้สิ้นใจ ในหัวพลันเข้าใจขึ้นมาถึงการกระทำของมันในอดีตว่าเคยทำสิ่งเลวร้ายมามากเพียงใด ผู้บริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกลับโดนพวกมันที่อุดมการณ์มืดบอดผิดความตั้งใจเดิมกระทำใส่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ถึงเพียงนี้นี่เอง

          ชั่วขณะหนึ่งถานเจ๋อทั้งรู้สึกผิดและศรัทธาในตัวนายของมันที่อุตส่าห์ให้คนชั่วช้าเช่นมันติดตาม ก่อนมันจะพยายามเค้นสมองคิดช่วยเหลือท่านหญิงของมัน แต่คนเช่นมันที่อาศัยแรงเข้าหาจะทำอย่างไรดี

          “ ดูสิท่านหญิง ผู้ติดตามเจ้ามันขี้ขลาดเสียจริงยังไม่ยอมเข้ามาช่วยเหลือท่านเลย โอ๋ ๆ.. ร้องไห้ไปไย พวกข้าสัญญาจะดูแลท่านดีกว่ามันอีกหลายเท่าตัวเลยเชียว ”

          จิ้นอิ๋งที่ได้ยินจากที่กำลังตระหนกตื่นและหวั่นเกรง พลันรู้สึกกังวลขึ้นมาครู่หนึ่ง แววตาสีนิลเลื่อนมองยังผู้ติดตามเบื้องหน้าที่สีหน้าคล้ายยิ่งบิดเบี้ยวอย่างอับจนหนทาง ทว่าที่นางรู้สึกกังวลไม่ได้เชื่อคำพูดโจรที่จับกุมตัวนาง แต่กำลังกังวลที่ตัวเองเป็นฝ่ายอ่อนแอมากเกินไปต่างหากและถานเจ๋อนั้นเป็นห่วงนางเกินกว่าจะบุ่มบ่ามหา

          เช่นนั้นแล้วความกล้าระลอกหนึ่งพลันก่อตัวในหัวของหญิงสาว หวนนึกถึงตอนที่สู้กับถานเจ๋อก่อนแขนเล็กที่ถูกโจรประหม่าไม่ยอมกุมยึดจะถองศอกเข้าลิ้นปี่บุรุษด้านหลังอย่างแม่นยำ พร้อมกันนั้นศีรษะเล็กที่อยู่ตำแหน่งใบหน้าของอีกฝ่ายจะเอนกระแทกสุดแรงเข้าปลายคางสร้างความเจ็บปวดและตกใจไม่ทันตั้งตัวจากอีกฝั่งจนต้องปล่อยนางมากุมคางกุมอกร้องโอดโอย กระบี่ข้างเอวนางพลันถูกดึงกวาดวาดใส่โจรอีกสามที่พุ่งเข้าหาอย่างแตกตื่นไม่ต่างกัน และเพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันทำให้พวกมันเผลอถอยตัวจากกระบี่ที่วาดใส่ ซึ่งเป็นเจตนาของจิ้นอิ๋งที่แค่อยากขู่เพื่อวิ่งกลับไปหาถานเจ๋อได้สำเร็จ ซึ่งผู้ติดตามที่เห็นเช่นนั้นรอยยิ้มก็วาดออกประหลาดใจ แต่แววตาก็คล้ายอยากดุที่นางช่างทำอะไรแสนบุ่มบ่าม

          “ หลบหลังข้าไว้นะท่านหญิง… ”

          น้ำเสียงถานเจ๋ออ่อนลงอยู่หลายส่วนยามเอ่ยหาจิ้นอิ๋งที่ตอนนี้มันได้ก้าวขึ้นมาบดบังร่างเล็กที่กำลังเข่าอ่อนลงไปทรุดนั่งพลางยกมือปิดริมฝีปากเล็กกลั้นก้อนสะอื้นที่คล้ายจะหลุดออกมาด้วยความโล่งใจที่ตนไม่กลายเป็นภาระให้ผู้ติดตามได้ แต่ถานเจ๋อคล้ายจะเข้าใจไปว่าท่านหญิงของมันกำลังหวากกลัวจนหลุดร้อง มันที่ไร้ห่วงแล้วว่าอีกฝั่งไร้ตัวประกันก็พุ่งสู้ฟาดฟันยังกลุ่มโจรด้วยความโหดเหี้ยม คำพูดดูถูกก่นกราดใส่อย่างโกรธา ตวัดดาบโรมรันโจรผู้เป็นลูกน้องจนหมอบพื้นไปเกือบทั้งหมด มีเพียงผู้ที่เป็นหัวหน้ากลุ่มที่หลังหายเจ็บชาจากการจู่โจมไม่ทันตั้งตัวของจิ้นอิ๋งที่ถานเจ๋อแทบจะสู้เสมอกับอีกฝ่าย

          ทั้งสองผลัดกันรับรุกแต่คล้ายอีกฝั่งเป็นรองถานเจ๋ออยู่ก้าวหนึ่งจึงเสียท่า เกือบจะโดนดาบตวัดฟันคอไปแล้วถ้าไม่เพราะเสียงร้องของจิ้นอิ๋งที่ดังแทรกมาอย่างติดตระหนก

          “ ถานเจ๋ออย่าฆ่าเขา! ”

          ดาบแทบค้างกลางอากาศพร้อมกับที่ใบหน้าของถานเจ๋อแทบจะแสดงออกถึงความไม่อยากเชื่อถึงความคิดอ่านของนายมัน กระนั้นในจิตใจลึก ๆ ของมันกลับแผ่ซ่านความนับถือบางสิ่งในผู้เป็นนาย จิ้นอิ๋งที่เห็นว่าผู้ติดตามยอมหยุดมือก็เร่งก้าวกระโผลกกระเผลกเนื่องด้วยขายังไม่หายติดสั่นไปสำรวจโจรอีกสามตนที่นอนหายใจหอบอยู่บนพื้น สำรวจบาดแผลที่ยังเลือดไหลไม่หยุดก็หยิบฉีกปลายชุดของอีกฝ่ายมาช่วยมัดห้ามเลือด ริมฝีปากก็เอื้อนเอ่ยดุหาไปด้วย

          “ สตรีก็เป็นมนุษย์ผู้หนึ่ง หาใช่สิ่งของไร้จิตใจที่จะเข้ามาหยามเกียรติพูดพร่ำแย่งกันไปเช่นนี้ได้นะเจ้าคะ! ”

          พวกโจรที่กลายเป็นฝ่ายถูกช่วยได้แต่หลุดใบหน้างงงวยหา ไหนจะฟังคำพูดที่ไร้คำหยาบคาย มีเพียงสอนสั่งก็ยิ่งแทบไม่เข้าใจจนเผลอนิ่งฟังกันไปเสียหมด มีเพียงถานเจ๋อที่เคยถูกกระทำเช่นนี้มารอบหนึ่งได้แต่ถอนหายใจและก้มลงไปช่วยทำแผลให้หัวหน้ากลุ่มโจรกลุ่มเล็ก ๆ นี้พันห้ามเลือดยังรอยแทงรอยหนึ่งที่ข้างท้องของมัน

          “ หรือจะเข้ามาปล้นชิง เอาผู้อื่นมาเป็นตัวประกันก็เป็นการกระทำที่ไม่น่าชมเลยแม้แต่น้อย! แต่ไม่สิ.. ปล้นชิงก็ไม่ใช่เรื่องดีนะเจ้าคะ!! ”

          จิ้นอิ๋งกล่าวต่อด้วยใบหน้าที่พยายามตีเคร่งขรึม ก่อนในตอนที่มาดูยังโจรหัวหน้าที่คุกคามนางเมื่อครู่โดยมีถานเจ๋อยืนขนาบไม่ผละไปไหน ดวงตากลมก็แทบคลอหน่วยไปด้วยน้ำฉายชัดถึงความผิดหวังยิ่งยามสบตามองผู้ที่นอนหมอบยังพื้น

          “ หากจะกระทำตัวเยี่ยงโจรเช่นนี้ก็อย่าโพกผ้าเหลืองให้กลุ่มคนกลุ่มนี้ยิ่งมัวหมองเถิดเจ้าค่ะ.. เห็นแก่ที่พวกท่านโดนถานเจ๋อจัดการจนแทบขยับไม่ได้ ข้าจะไม่ถือสาแลปล่อยพวกท่านไป! ”

          “ แต่คราวหน้าหากยังจะกระทำตัวเช่นนี้ ถือว่าข้ากู่จิ้นอิ๋งขอเอาไว้… ถอดผ้าเหลืองออกเถอะเจ้าค่ะ กลุ่มคนกลุ่มนี้ข้ายังเชื่อเสมอว่าพวกเขาปรารถนาดีต่อเหล่าเราและแผ่นดิน ”

          สิ้นคำจิ้นอิ๋งก็ยกมือปาดเอาน้ำที่คลอตาออก ก่อนจะหันมาดูตามตัวผู้ติดตามและเอ่ยถึงการเข้าพักที่เมืองหงหนงเพื่อรักษาตัวก่อนเดินทางต่อ ปล่อยให้พวกโจรกลุ่มนี้ได้นำคำนางไปคิดและตัดสินใจเส้นทางต่อไป


          “ ถานเจ๋อ… รู้จักผู้ใดที่เก่งกาจกระบี่หรือไม่? ” ระหว่างเส้นทางที่เข้าเมืองหงหนง จิ้นอิ่งที่นั่งม้าเงียบมาตลอดทางพลันเอ่ยถามไม่มีปี่มีขลุ่ยจนผู้ติดตามเผลอนิ่งคิดนานไปครู่เพื่อประมวลผล

          “ ข้า.. ไม่ทราบ ” ตัวมันที่แต่ก่อนก็เป็นเพียงชาวบ้านยากแค้นผู้หนึ่งเอ่ยตอบเสียงแผ่ว

          “ งั้นหรือ.. ไม่เป็นไร ข้าค่อยหาด้วยตัวเอง.. ข้าจะไม่ให้ผู้ติดตามของกู่จิ้นอิ๋งถูกกล่าวหาว่าขี้ขลาดอีกต่อไปแล้ว” ถานเจ่อที่ได้ยินแทบสะอึก ก่อนจะเอ่ยเสียงเครือคล้ายจะปฏิเสธ แต่จิ้นอิ๋งก็แทรกขึ้นไม่ให้อีกฝั่งต้องโทษตัวเอง

          “ อย่างไรก็ขอบใจเจ้ามากที่ก่อนหน้าห่วงข้าจนไม่กล้าลงมือ… เจ้าไม่ได้ขี้ขลาดนะถานเจ๋อ.. เจ้าเป็นคนดี ”

          เป็นนางที่อ่อนแอ จิ้นอิ๋งรู้ตัวอย่างยิ่ง และหมายมาดจะปกป้องตัวเองให้ได้อย่างน้อยพอที่อีกฝ่ายไม่ต้องมานึกคอยพะวงว่าจะถูกจับเป็นตัวประกันอีก และในตอนที่กล่าวเรียกสติเหล่าโจรโพกผ้าเหลืองเหล่านั้นนางจะได้รู้สึกว่านางกระทำมันได้ด้วยตัวเองโดยไม่ได้ยืมมือของผู้ติดตามเพื่อทำร้ายให้จำยอมอย่างวันนี้


ลักษณะนิสัยรู้จักให้อภัย
+1 Point ทุกครั้งที่โรลให้อภัยผู้อื่น

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลงเฟิ่งฉิวหวง
ถุงหอมจูอวี๋
กระบี่
พู่หยกเลือดหงส์
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าเหลียง
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x5
x2
x2
x1
x2
x2
x2
x1
x1
x27
x2
x38
x40
x50
x50
x40
x40
x50
x3
x22
x19
x31
x10
x50
x5
x5
x5
x1
x12
x1
x2
x5
x2
x9
x1
x8
x6
x6
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2021-9-7 21:36:48 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เทียนหลงเดินทางต่อมาเรื่อยจนถึงแถบเมืองหงหนง ซึ่งตอนนี้เขานั้นกำลังอยู่ในป่าแถบนอกเมืองสายตาเริ่มสอดส่องมองซ้ายมองขวาเพื่อมิให้เป็นอันตราย ก่อนจะควบม้าไปกระชิดกับนายทหารคนหนึ่ง

"เป็นไงบ้างสบายดีไหม" เทียนหลงกล่าวทักทายแก่ทหารคนนั้นที่กำลังขนเสบียงอยู่

"นิดหน่อยขอรับ" ชายหนุ่มคนนั้นพลันกล่าวออกมาอย่างเก้ๆกังๆราวกับว่าเหมือนเกรงกลัวหรือเกรงใจยังไงยังงั้น

"มิต้องเกรงใจหรอก ยังไงข้าก็เป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าที่ไม่ได้มียศอะไร พวกเรามาสนิทกันไว้ดีกว่า"

เทียนหลงกล่าวขึ้นพร้อมกับตบไปที่หลังของอีกฝ่ายเบาๆอย่างเป็นกันเอง

"เช่นนั้นข้าก็ทำอย่างที่ท่านกล่าว" ชายหนุ่มยิ้มออกมาด้วยสีหน้าที่ดูมั่นใจมากยิ่งขึ้น

"เช่นนั้นก็ดีแล้ว" เทียนหลงพลันยิ้มออกมาเมื่อเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีที่ดีขึ้นก่อนจะเริ่มเดินทางต่อไปยังสถานที่อื่นๆ...
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หวีเซียวเฉิน
ตำราตงฟางซั่ว
ยาสมานแผลขั้นต้น
ตะเกียงซือซานเยวี่ย
ทวนสามพยัคฆ์
ม้าขาว
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x1
x1
x1
x1
x45
x1
x6
x2
x5
x984
x5
x50
x30
x2
x10
x8
x2
x8
x12
x24
x2
x7
x50
x5
x5
x5
x5
x5
x5
x5
x4
x6
x2
x2
x15
x40
x1
x6
x6
โพสต์ 2021-9-9 21:40:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เฉินเซียวเฟิงและอู่เว่ยเดินทางมาถึงป่าเจวี่ยปิงโดยไม่มีอุปสรรคอะไรเป็นพิเศษนัก


"เจ้าคิดว่าชินแสนอกรีตคนนั้นเป็นยังไงรึ?"


อาจเพราะเบื่ออู่เว่ยเลยลองชวนพูดคุยเล่นดู


"ไม่รู้สิ.. แต่การที่ทำให้ผู้คนศรัทธาได้รวดเร็วแบบนี้ฝีมือคงไม่ธรรมดาแน่"


เฉินเซียวเฟิงตอบไปตามตรงซึ่งอู่เว่ยก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย


"หวังว่าเขาจะเป็นคนดีมีคุณธรรมนะ"


หลังจากนั้นทั้งสองก็คุยกันเรื่อยเปื่อยไปจนถึง เมืองฉางอัน
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เตากำยาน
หน้ากากยักษา
ดาบไท่จี๋
ม้าขาว
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x35
x44
x35
x10
x10
x11
x20
x15
x1
x15
x27
x60
x3
x7
x6
โพสต์ 2021-9-11 22:26:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด
อู่เว่ยขับเกวียนมาเรื่อยๆพลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีเพราะเส้นทางช่างไร้อุปสรรค์จนดูง่ายเกินไป


"เห็นไหม ไม่มีปัญหาอะไรอีกเดี่ยวก็ถึงจุดหมายแล้วรอรับเงินก็จบงาน สบายจะตาย"


อู่เว่ยหันไปพูดกับเฉินเซียวเฟิงที่กำลังเอนตัวนอนหลับตาอยู่หลังเกวียน แต่เขาไม่ได้หลับเพียงเพ่งสมาธิฟังเสียงรอบๆอย่างระวังตัวเสมอ


"รู้ไหมการที่เจ้าพูดแบบนั้นก่อนงานจะจบถือเป็นลางร้ายนะ"


เฉินเซียวเฟิงตอบกลับไปเช่นนั้นก่อนที่อู่เว่ยจะหัวเราะออกมาเบาๆ


"ฮะๆ เจ้านี้ช่างขี้ระแวงจริงๆ ใกล้จะถึงเขตเราอยู่แล้วใครจะกล้---"


พูดไม่ทันจบก็มีธนูพุ่งมาหาอู่เว่ยอย่างรวดเร็ว แต่เฉินเซียวเฟิงรู้อยู่ก่อนแล้วจึงพุ่งไปใช้ดาบปัดป้องได้ทันเวลา


"เห็นไหม ข้าบอกแล้วว่าเป็นลางร้าย"


เฉินเซียวเฟิงหันไปกล่าวกับสหายที่หน้าซีดเผือก เพราะถ้าเฉินเซียวเฟิงมาช่วยไม่ทันคงได้ตายไปแล้วแน่ๆ


"ทิ้งของไว้ ไม่ก็ตาย!"


เสียงตะโกนดังจากในป่าพร้อมโจรโผกผ้าเหลือง 3 - 4 คนออกจากป่ามาล้อมรอบเกวียนเอาไว้


"คิดจะปล้นข้าด้วยคนแค่นี้งั้นเหรอ? ดูถูกข้าไปแล้ว!"


เมื่อพูดจบเฉินเซียวเฟิงก็พุ่งไปจัดการโจรโผกผ้าเหลืองอย่างรวดเร็ว นี้เป็นครั้งแรกที่อู่เว่ยได้เห็นเฉินเซียวเฟิงต่อสู้จริงๆก็ยิ่งชื่นชมสหายคนนี้เข้าไปใหญ่


"สมแล้วที่เจ้าสร้างผลงานได้รวดเร็วจนท่านเจิ้งเจียงชื่นชอบ เพราะมีฝีมือเก่งกาจแบบนี้เอง"


อู่เว่ยกล่าวชมสหายหลังเฉินเซียวเฟิงสังหารโจรทั้งสามเพียงไม่กี่สิบกระบวนท่าแถมบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น


"โจรพวกนี้มันอ่อนแอเกินไปต่างหาก แต่รีบออกเดินทางต่อเถอะเพราะอาจมีพวกมันเยอะกว่านี้ก็ได้"


เฉินเซียวเฟิงหันไปกล่าวเตือนอู่เว่ย ก่อนที่เขาจะรับฟังโดยดีรีบขับเกวียนไปที่ นอกด่านฉีกวน ต่อ
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เตากำยาน
หน้ากากยักษา
ดาบไท่จี๋
ม้าขาว
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x35
x44
x35
x10
x10
x11
x20
x15
x1
x15
x27
x60
x3
x7
x6
โพสต์ 2021-9-12 22:56:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โรลสู้โจรร้ายนอกเมือง



"ข้าว่าเหมือนมีคนติดตามเรามานะท่าน เหวินหยวนเหมือนจะเป็นพวกโจรหรือว่าพวกที่คิดไม่ดีอย่างแน่นอนติดตามเรามาจากตั้งแต่ออกจากฉางอันมาได้สักพักแล้ว"

"อืมข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกันข้าว่าเราล่อให้พวกนั้นตามเรามาดีกว่าทางข้างหน้าเหมือนจะเป็นป่านอกเมืองหงหนงเราน่าจะจัดการอีกฝ่ายได้ท่านพร้อมไหมท่านจีเทียนเต๋า"

"ได้เลยข้าพร้อมแล้วถ้าอย่างงั้นเราก็มาทำให้มันจบๆไปเลยเราจะได้ออกเดินทางอย่างสะดวกสะบายขึ้น"

พร้อมกับที่ทั้งคู่เร่งฝีเท้าของม้าตนเองขึ้นโดยที่พวกโจรเหล่านั้นก็เร่งตามมาเหมือนกัน

"เข้ามาพวกโจรร้ายข้า จีเทียนเต๋าจะสั่งสอนพวกเจ้าเอง"

พร้อมกับที่ทั้งคู่เข้าปะทะกับโจรร้ายพวกนั้น แต่ว่าพอปะทะกันได้เพียงไม่นานนัก พวกโจรต่างก็ไม่สามารถที่จะสู้ได้ต่างรีบหนีเอาตัวรอดกันอย่างเดียว

"หึพวกโจรพวกนี้น่าจะจับส่งทางการให้หมดนักมันน่าจริงๆเลย"

"ใจเย็นๆท่านเหวินหยวน ดีที่เรายังไม่ได้ฆ่าพวกมันไปไม่งั้นเราจำต้องมาเสียเวลาขุดหลุมฝังศพมันอีกหรือว่าต้องไปแจ้งทางการอีกด้วย ข้าว่าเราควรที่จะรีบเดินทางไป จินหยางดีกว่านะท่าน เห็นท่านบอกข้าว่าสหายของท่านรอพวกเราอยู่ที่ โรงเตี๊ยมที่จินหยางถ้าเราไปช้าสหายท่านคงจะได้รอนานแน่พวกเรารีบไปกันเถอะ"

"มันก็จริงของท่านงั้นพวกเรารีบออกเดินทางกันต่อดีกว่าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปมากกว่านี้"

พร้อมกับที่ทั้งคู่เร่งบึ่งม้าออกเดินทางกันต่อโดยที่ จีเทียนเต๋าก็โยนชาในกระบอกไม้ไผ่ให้กับเหวินหยวนเอาไว้จิบระหว่างเดินทางอีกด้วย

มอบไอเทม ชาซาวเซียนฉ่าว ให้กับ NPC  (064)




←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดไท่หมินลู่
เบ็ดตกปลา
คัมภีร์ไท่หมินลู่
ไก่ฟ้าทองแดง
หวีเซียวเฉิน
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าขาว
หน้ากากขาว
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x108
x8
x800
x800
x800
x70
x470
x100
x100
x4
x3
x3
x1
x7
x25
x860
x10
x790
x490
x200
x1
x100
x100
x100
x10
x1
x2
x1
x3
x4
x10
x920
x291
x494
x5
x388
x5
x6
x77
x100
x30
x900
x68
x1
x82
x98
x1
x96
x98
x1
x6
x2
x1000
x2
x3
x3
x3
x7
x8
x3
x100
x4
x100
x26
x24
x24
x26
x14
x600
x96
x100
x60
x100
x100
x440
x25
x2
x376
x11
x492
x9
x4
x99
x80
x79
x28
x2
x379
x75
x196
x571
x167
x100
x100
x50
x100
x100
x250
x50
x86
x13
x13
x7
x74
x6
x19
x5
x1150
x324
x17
x11
x10
x10
x490
x10
x2
x42
x62
x38
x1
x108
x35
x96
x99
x85
x505
x1
x598
x3
x3
x1
x8
x24
x404
x4
x102
x6
x24
x491
x288
x39
x90
x154
x8
x1
x10
x75
x10
x93
x500
x250
x150
x250
x550
x250
x3
x500
x242
x36
x18
x465
x1015
x164
x804
x804
x804
x804
x493
x314
x13
x36
x7
x498
x1
x10
x1
x2561
x628
x320
x260
x100
x15
x1
x6
x6
x150
x9999
x2
x7
x18
x5
x2
โพสต์ 2021-9-17 06:45:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ZhaoPei เมื่อ 2021-9-24 11:19

"เมืองอื่นมีมากมาย เหตุใดต้องไปฉางอัน"

ซุนหยางก่นบ่นหวังให้จ้าวเพ่ยได้ยินขณะเดินทางอย่างเอื่อยเฉื่อยข้ามผ่านป่านอกเมืองหงหนงหลังจากออกเดินทางออกมาจากเมืองลั่วหยางได้สักระยะ พื้นหญ้าเขียวขจีรับกับต้นไม้อุดมสมบูรณ์รอบๆ สร้างความรู้สึกดีแก่ผู้เข้ามาเยือนไม่น้อย

แต่อย่างน้อยไม่ใช่จ้าวเพ่ยคนหนึ่ง

"เมืองมีมายมาย เหตุใดต้องเกลียดฉางอัน" จ้าวเพ่ยยอกย้อนขณะนั่งบนหลังม้า สายตามองต่ำลงไปเห็นคนเดินจูงม้าเพื่อนำทาง แม้จะดูน่าสงสารเพียงไรแต่ถือเป็นการลงโทษที่บุรุษผู้ติดตามผู้นี้มัวแต่ดื่มสุราเมามายจนไม่สามารถตื่นให้ทันรุ่งสางตามที่จ้าวเพ่ยกำหนดได้ "อีกไกลแค่ไหนที่จะถึงเมืองฉางอัน"

"ข้าเองก็ไม่รู้"

การเดินทางตัดเข้ามาในป่าเพียงไม่นานได้พอพัก จ้าวเพ่ยหันไปมองข้างทางเมื่อรับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่าง เสียงที่น่าประหลาดใจดังขึ้นอย่างแผ่วเบา แต่ถึงอย่างนั้นจ้าวเพ่ยก็ได้ยินชัดเจนอยู่ดี

แม้จะเงี่ยหูฟังแล้วดูเหมือนเสียงนั้นจะเงียบสงบลงแล้วก็ตาม จ้าวเพ่ยไม่มีเวลาจดจ่อเรื่องอื่นเลย เสียงนั้นได้หายไปทิ้งให้หญิงสาวเกิดข้อสงสัยในความกังวลขึ้นมา แต่กระนั้นก็ไม่ยอมปริปากยอกบุรุษที่มาด้วยกันแม้แต่น้อย

เพียงไม่กี่อึดใจม้าที่จ้าวเพ่ยนั่งมาก็หยุดลงให้เธอเกิดสงสัย นางเงยหน้าจะกล่าวถามซุนหยาง แต่สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าไม่ใช่เพียงแค่ทางป่าอีกต่อไป เมื่อเหล่าโจรโพกผ้าเหลืองกลับมาปิดเส้นทางเอาไว้ อาวุธในมือถูกถือมาด้วยเพิ่มความน่ากลัวขึ้น ท่าทางแบบนี้คงไม่พ้นดักปล้นเป็นแน่

"ถ้าไม่อยากตาย ถอยออกไปซะ" เสียงแหบแห้งดังขึ้นให้จ้าวเพ่ยก้มมองผู้ติดตามที่ยังคงนิ่งเงียบและถอยมาราวกับยอมโจรตรงหน้า ภายในใจนางตอนนี้เต้นไม่เป็นส่ำขณะมองซุนหยางที่ยกอาวุธขึ้นเพื่อเตรียมป้องกัน แต่แรงคนเมามีหรือจะสู้คนที่มีสติทุกอย่าง เพียงชั่วพริบตาที่โจรโพกผ้าเหลืองพุ่งมาให้จ้าวเพ่ยกรีดร้องขึ้นมา ซุนหยางเองก็เมามาย ใช่ว่าจะมีไหวพริบดีที่จะรับมือได้ทันท่วงที

เพียงแค่เห็นว่าผู้ติดตามพลาดท่า โจรโพกผ้าเหลืองก็ใช้โอกาสนี้ในการจู่โจมซุนหยางจนต้องป้องกันตัวกันพัลวัน บาดแผลยิ่งเพิ่มมากขึ้นหากเป็นอย่างนี้ต่อไปซุนหยางคงได้ทิ้งชีวิตไว้ที่นี่เป็นแน่ จ้าวเพ่ยเห็นดังนั้นก็เร่งลงจากหลังม้าและเข้าไปใช้ตัวกันเอาไว้ และก็ได้ผล เมื่อโจรโพกผ้าเหลืองหยุดชะงักและใช้อาวุธชี้ไปที่สตรีผู้นี้ทันที

"ต.. ต้องการอะไร" จ้าวเพ่ยเอ่ยถามกับโจรโพกผ้าเหลืองที่ก้าวมาหา หญิงสาวใจเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อถูกประชิดตัวจนต้องถอยหนี แต่แขนนางกลับถูกจับและกระชากเสียก่อน จ้าวเพ่ยถูกบังคับให้ไปยังม้าเพื่อพานางไปที่ใดสักที่พร้อมม้าที่ขนเสบียงของนางมาด้วย

"จะพาข้าไปไหน"

"เงียบ… หรืออยากเจ็บตัว" โจรโพกผ้าเหลืองกระแทกเสียงกับจ้าวเพ่ย

แขนถูกบีบแน่นจนปวดหนึบขณะที่สองขาพยายามจะก้าวให้ทันตามจังหวะการเดินที่รวดเร็ว เพียงคิดว่าเดินมาได้ไกลจากจุดเดิมแล้ว โจรโพกผ้าเหลืองก็ได้ผลักจ้าวเพ่ยจนนางเสียหลักล้มลงกับพื้น นางเงยหน้าขึ้นเห็นโจรที่เดินมาตรงหน้าก็ทำได้แค่เบิกตากว้างและร่นถอยหนีเท่านั้น เมื่อโจรโพกผ้าเหลืองเริ่มจะปลดกางเกงออกเพื่อจะทำการบางอย่าง

"กรี๊ดด!!" เสียงกรีดร้องแผดไปทั่วป่าจนทำให้เหล่านกแตกตื่นบินว่อนจากจุดนั้น จ้าวเพ่ยพลิกตัวเพื่อคลานออกจะลุกหนีแต่กลับถูกกระชากเรือนผมดำเอาไว้ โจรโพกผ้าเหลืองดึงตัวจ้าวเพ่ยมาล็อคคอเอาไว้ นางรู้สึกหายใจลำบากเมื่อถูกล็อกคอ จุดสนใจตอนนี้กลับเป็นการหาอากาศมากกว่าลำคอสวยที่ถูกสูดดมกลิ่น แม้จะใช้วิธีทั้งจิก ข่วนหรือทุบ โจรชั่วผู้นี้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยเลย

เสียงวิ่งดังมาแต่ไกลเริ่มเข้าใกล้เรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดตรงข้างหลังของทั้งสอง โดยที่โจรยังไม่ทันได้หันไป เขากลับถูกอาวุธฟันเฉียดเข้าที่แขนจนต้องสะบัดตัวจ้าวเพ่ยออกอย่างลืมตัว หญิงสาวจับผ้าเริ่มหลุดหลุ่ยได้แต่ไอหอบอาการเข้ายังปอดเมื่อได้รับอิสระ ก่อนจะมองซุนหยางกำลังใช้หอกต่อกรกับโจรโพกผ้าเหลืองตรงหน้า

"นายหญิง.. หนีไป" ซุนหยางกล่าวบอกกับจ้าวเพ่ย เพียงจังหวะเดียวให้เขาต้องสนใจหญิงสาวที่ได้รับบาดเจ็บก็พลาดท่าจนหอกกระเด็นหลุดจากมือไป

โจรโพกผ้าเหลืองแสยะยิ้มขึ้นมาทั้งหัวเราะกับชัยชนะครั้งนี้ อาวุธในมือชี้ลงที่ซุนหยางที่ล้มลงกับพื้น แต่รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าได้เพียงไม่นานก็เบิกตากว้างเมื่อรับรู้ถึงความเจ็บปวดแล่นริ้วผ่านมาจากด้านหลัง

คมหอกแทงเข้าร่างจากฝีมือสตรีที่ไม่คิดว่าจะกล้าทำอะไรอย่างนี้ จ้าวเพ่ยปล่อยมือจากหอกเล่มงามที่แทงเข้าด้านหลังโจรโพกผ้าเหลืองคนนี้จนเสียงหอกเปื้อนเลือดกระทบกับพื้นเสียงดัง โจรชั่วล้มลงกับพื้นทันที อาวุธในมือถูกซุนหยางยึดเอาไว้ก่อนคมอาวุธที่โจรโพกผ้าเหลืองใช้มาตลอดจะหันเข้ามาหาตน

"อยู่ที่เจ้าจะสั่ง…" จ้าวเพ่ยบอกกับจ้าวเพ่ยทำให้นางสะอึกเล็กน้อย หญิงสาวจับผ้าที่หลุดหลุ่ยเดินไปหลบหลังซุนหยาง ริมฝีปากที่ประดับด้วยชาดขยับพูดบางอย่างที่ได้ยินเพียงซุนหยางและนาง ก่อนจ้าวเพ่ยจะหลับตาและหันหน้าไปทางอื่น

รอยยิ้มผุดขึ้นมาจากใบหน้าของซุนหยาง บ่งบอกได้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ โจรโพกผ้าเหลืองได้รับบาดเจ็บจาดแผลโดนแทงอยู่แล้วก็เร่งร้องขอชีวิตจากจ้าวเพ่ยที่ทำท่าทีเหมือนไม่ยอมรับฟังอะไร

"ข้าขออภัย แม่นางช่วยข้าด้วย แม่นาง.. ไว้ชีวิตข้าเถอะ"

ลำคอของโจรชั่วถูกสะบั้นลงด้วยคมดาบจากอาวุธของตัวเองจนเลือดสีสดกระเซ็นทั่วบริเวณ เสียงร้องขอชีวิตที่กรีดลงในใจจ้าวเพ่ยหยุดลงกลางคันให้นางเลือกที่จะไม่มองภาพนั้นและเร่งจ้ำอ้าวไปที่ม้าสีขาวของนางทันที

หลังจากที่จัดการชุดและเช็ดคราบเลือดที่กระเซ็นติดตัว หญิงสาวทำได้แค่รอขณะที่ยังคงภวังค์กับรอยแดงจากการถูกรัดที่ลำคออยู่ รับรู้ถึงสัมผัสที่ถูกลวนลามก็ขยะแขยงทุกครั้งที่นึกถึง นางนั่งรอซุนหยางพักใหญ่ๆก็ถูกเรียกจากผู้ติดตามที่มีเนื้อตัวเกลี้ยงเกลาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"รีบไปกันเถอะ" ผู้ติดตามจ้าวเพ่ยเอ่ยขึ้นมาก่อนจะจับสายจูงม้าอีกครั้ง เหมือนซุนหยางจะชินชากับการฆ่าฟันไปเสียแล้ว แต่สำหรับจ้าวเพ่ยเพ่ยเหตุการณ์นี้นางคงจะลืมเลือนได้ยาก

"ขอบคุณ.. หากไม่ได้เจ้า ข้าคงกลายเป็นศพที่นี่แน่"

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่ร้อยกฎ
มุกพณาหวาซวี
ม้าเหลียง
กลยุทธ์เล่ออี้
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x7
x4
x10
x10
x13
x13
x13
x12
x11
x202
x1
x1
x1
x11
x22
x15
x30
x1
x100
x100
x9
x2
x5
x6
x8
x10
x2
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

อย่าลืมเข้าสู่ระบบนะจ๊ะ เข้าสู่ระบบตอนนี้ หรือ ลงทะเบียนตอนนี้

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้