เจ้าของ: Watcher

[เมืองซินเย่] จวนเจ้าเมือง | เสิ่น โม่เสวียน

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2022-10-9 14:42:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ณ หน้าจวนเจ้าเมืองในยามบ่ายร่างของบุรุษคิ้วบางได้เดินทางมาอีกครั้งโดยในครั้งนี้เขาอยากที่จะมาลองหางานให้กับตัวเองดูจึงจะมาลองถามท่านราชครูหลิวว่ามีงานใดให้เขาทำหรือไม่ ซึ่งในครานี้นั้นเหมือนทหารยามด้านหน้าจะยังจำเขาได้อยู่จึงปล่อยให้เขาไปโดยง่าย ซึ่งในขณะที่เขานั้นกำลังเดินเข้าไปในตัวเรือนของจวนก็ได้พบว่าท่านราชครูนั้นไม่สะดวกให้เข้าพบจากปากของเหล่าคนใช้ทำให้เขานั้นพลาดโอกาสที่จะได้หางานทำไปแล้วจู่ๆเขาก็พบบุรุษผู้หนึ่งท่าทางสุขุม ดูมีไหวพริบทรงภูมินั่งอยู่ที่บริเวณสวนย่อมจึงได้เข้าไปกล่าวทักทายกับอีกฝ่าย " คารวะใต้เท้า "


" ไม่ต้องมากพิธีว่าแต่เจ้าเป็นใครกัน ? " อู๋เซียนที่ตอนนี้กำลังนั่งด้วยอยู่ท่ามกลางมวลไม้ได้หันมากล่าวถามกับบุรุษคิ้วบาง  " ขออภัยที่ข้านั้นแนะนำตัวช้า ข้ามีนามว่าลู่เฉิน เป็นผู้ที่ซึ่งมาสมัครเป็นขุนพลของเจ้าเมืองซินเย่ขอรับ "  ลู่เฉินนั้นประสานมือของเขาเเล้วคารวะอีกฝ่ายพร้อมกล่าวแนะนำตัวของเขาให้กับบุรุษตรงหน้าของเขาในทันทีที่ได้ยินคำกล่าวถามจากบุรุษตรงหน้า


" เป็นเจ้าเองหรือหนุ่มน้อยที่สมัครเข้ามาเป็นขุนพล ? " อู๋เซียนกล่าวขึ้นหลังจากที่เขานั้นพอที่จะได้ยินเรื่องของบุรุษน้อยผู้หนึ่งจากเจียงหนานที่สมัครเข้ามาเป็นขุนพลของท่านเจ้าเมือง ในคราแรกเขาก็นึกสงสัยว่าบุรุษร่างบางเช่นนี้นั้นจะเป็นนักรบได้งั้นหรือแต่เขานั้นก็ไม่ได้เอ่ยอันใดต่อเพราะทุกคนนั้นมีเส้นทางเป็นของตนเอง " อืมๆ ข้าชื่ออู๋เซียน ยินดีที่ได้พบ "


" คารวะใต้เท้าอู๋เซียน ยินดีที่ได้พบเช่นกันขอรับ " ลู่เฉินกล่าวคารวะอีกครั้งแม้ว่าเขานั้นจะไม่ได้มีนิสัยที่ถนอมตนอะไรปานนั้นแต่เขานั้นก็อยู่เป็นพอที่จะรู้ว่าควรนอบน้อมถนอมตน และแข็งกร้าวต่อผู้อื่นตอนนั้น การรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี นั้นมิเกินจริงเลย " แล้วในครานี้เจ้ามาทำอะไรที่จวนนี้กันล่ะโดนเรียกตัวหรืออย่างใด? "  อู๋เซียนกล่าวถามขึ้นเพราะมีการใดกันที่บุรุษร่างบางตรงหน้านั้นจะมาที่จวนนี้กันถ้าไม่โดนเรียกตัว " ข้านั้นอยากที่จะหางานอะไรทำเพราะในตอนนี้นั้นข้ายังไม่มีงานอะไรทำเลยจึงจะมาของานกับท่านราชครูหลิว แต่ท่านนั้นไม่สะดวกให้เข้าพบข้าเลยกำลังจะเดินทางกลับโรงเตี๊ยมขอรับ  " ลู่เฉินนั้นกล่าวถึงเหตุผลที่เขานั้นมาที่จวนเจ้าเมืองแห่งนี้ด้วยความสัตย์จริงเพราะในตอนนี้แม้ว่าเงินที่มีจะยังไม่ได้ขัดสนแต่อย่างใดแต่เขานั้นก็อยากหาเงิน งานและสร้างความดีความชอบให้แกตนเองตามแผนการที่เขานั้นวางเอาไว้ว่าจะสร้างเนื้อสร้างตัวที่เมืองแห่งนี้ " เป็นเช่นนี้เองท่านราชครูหลิว ท่านน่าจะกำลังยุ่งๆกับงานราชการอยู่เพราะท่านเจ้าเมืองนั้นยังไม่กลับมาเลยดังนั้นงานของท่านราชครูน่าจะกำลังล้นมือเลยล่ะนะ งั้นเอาเป็นว่าเดินชมเมืองกับข้าหน่อยเป็นไง " อู๋เซียนที่มองเห็นความตั้งใจของอีกฝ่ายนั้นก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นมาด้วยความตั้งใจแต่ต้องกลับไปด้วยมือเปล่าเขาเลยตั้งใจที่จะชวนอีกฝ่ายนั้นเดินชมเมืองกับเขาเพื่อเป็นการผ่อนคลาย " เมื่อท่านเป็นคนเอ่ยปากข้าก็มิมีอะไรติดขัดขอรับ " ลู่เฉินรีบกล่าวตอบด้วยความรวดเร็วเพราะเขานั้นคิดว่าการทำความรู้จักกับบุรุษตรงหน้านั้นมิได้เป็นการเสียหายใด เเม้ดูจากลักษณะนั้นจะไม่เหมือนบัณฑิต แต่กลับสุขุมอย่างหน้าเหลือเชื่อและพออยู่กับคนตรงหน้าทำให้เขานั้นเกิดการเรียนรู้ว่าการที่เข้าหาผู้ที่ดูมีภูมินั้นส่งผลดีกับตัวเขานั้นเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ทำให้สร้างความยำเกรงนั้นให้กับตัวเขาพอสมควรเช่นกัน " ดีๆงั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ " หลังจากสิ้นเสียงประโยคนี้บุรุษตรงหน้าลู่เฉินนั้นก็ได้ลุกขึ้นและเดินนำเขาออกไปจากจวนเจ้าเมืองแห่งนี้


Point.
Exp.
Affinity.
faith.
เรัยนรูการอยู่เป็น

+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้

+4 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้

+1 Point ทุกครัั้งที่โรลเรียนรู้

+3 Point ทุกครัั้งที่โรลเรียนรู้

+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย
No.
เว่ย อิง

+5 ความสัมพันธ์คนที่มีนิสัยเดียวกัน
+10 ลักษณะนิสัยสอดคล้องกัน
+5 พูดคุยประจำวัน

-20 วามสัมพันธ์กับคนที่นับถือขงจื๊อ/เต๋า และ ไร้ศาสนา (ชาวฮั่น)

ทั่วไปเจอหัวดี +30 คุณธรรม
No.
+10 Point
+4 Point
No.
+0
ทั่วไปเจอหัวดี +30 คุณธรรม
No.


(@Watcher )(@WuMan )


<font face=&quot;Kanit&quot; size=&quot;3&quot;></font>
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x60
x60
x10
x3
x1
x5
โพสต์ 2022-10-10 01:33:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย XuanWu เมื่อ 2022-10-10 01:37

หลังจากที่ลู่เฉินนั้นได้ทำการทานหมั่นโถวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อู๋เซียนนั้นก็ได้พาเขากลับมาที่จวนเจ้าเมืองซินเย่ อีกหนึ่งครั้งเเล้วพวกเขานั้นก็ได้เดินเข้าไปยังห้องเดิมที่ลู่เฉินนั้นเคยมายังคราที่แล้วนั้นเอง

" คารวะท่านราชครูหลิว " อู๋เซียนกล่าวขึ้นในขณะที่มองไปที่ร่างของบุรุษรูปงาม

  " คารวะท่านราชครูหลิวขอรับ " ลู่เฉินรีบกล่าวตามบุรุษนามอู๋เซียน ก่อนที่บุรุษรูปงามนั้นจะได้เงยหน้าขึ้นมามองไปที่พวกเขาทั้งสองคน

" คนบอกว่าพวกเจ้าเดินทางสำรวจเมือง แล้วมาพบข้าด้วยเรื่องใด ? "
  ท่านราชครูหลิวกล่าวถามพร้อมกับวางมือจากเหล่ากองเอกสารของเขา

" ข้านั้นจะมารายงานเกี่ยวกับเรื่องเสบียงในยุ้งฉางของเมืองเรานั้นในตอนนี้เหลือน้อยเป็นอย่างมาก ข้าเลยคิดจะอาสาเป็นคนไปจัดการเอง โดยข้านั้นต้องการเบิกงบ 10,000 ทองเพื่อที่จะจัดหาเสบียงมาเติมยังยุ้งฉาง ซึ่งการคาดการณ์ของข้านั้นมองว่าจากปริมาณทหารและราษฎร์ยสมนี้ เห็นว่าเพิ่มอีก 5,000 หาบก็น่าจะเพียงพอช่วยให้ผ่านเดือนนี้ไปได้ " อู๋เซียนกล่าวตอบกับคำถามของท่านราชครูหลิว ว่าเขานั้นต้องการที่จะอาสาเพราะว่าเขานั้นเคยติดต่อพ่อค้าข้าวไว้ที่หนึ่งอยู่ เขาจึงต้องการที่จะเป็นผู้อาสาในการไปจัดหาซื้อเสบียงที่จะเติมเข้าไปในยุ้งฉาง

"  ในเมื่ออาสาก็จงทำให้ได้ดั่งวาจา ข้าอนุญาต.. แล้วคนข้างหลังเจ้าล่ะ ตามมาด้วยธุระใด " ท่านราชครูหลิวกล่าวถามพลางมองไปทางลู่เฉินที่มาพร้อมกับอู๋เซียน

" ข้านั้นต้องการอาสาไปช่วยงานใต้เท้าอู๋เซียน เพื่อช่วยงานที่ข้าพอทำได้ขอรับ " ลู่เฉินกล่าวตอบพร้อมกับประสานมือคารวะท่านราชครูหลิว เพื่อสานต่อแผนการในการสร้างความมั่นคงในชีวิตด้านการงานของเขา สร้างความสัมพันธ์อันดีกับพวกเขาเพราะในอนาคตนั้นพวกเขาต้องทำงานด้วยกันอีกยาวการผูกมิตรเเละสร้างสัมพันธ์นั้นนับว่าเป็นเรื่องสำคัญต่อตัวเขาเป็นอย่างมาก

"  อืม.. นับว่ามีใจทำเพื่อส่วนรวม เช่นนั้นของเหล่านี้คงสร้างประโยชน์ให้เจ้าในการสรรหาสรรพยากร ข้าจะรอชมผลงาน " ท่านราชครูหลิวกล่าวตอบพร้อมกับพยักหน้ารับและได้สั่งให้เหล่าคนใช้มอบชุดเครื่องมือเก็บทรัพยากรให้แก่ลู่เฉินหนึ่งชุด

" ขอบพระคุณท่านราชครูหลิวขอรับ " ลู่เฉินรับของเหล่านั้นมาก่อนที่เขานั้นจะกล่าวขอบคุณ แล้วบุรุษรูปงามผู้มีศักดิ์เป็นถึงราชครูจะหันไปมองที่อู๋เซียน ก่อนที่จะมอบเงินให้กับอีกฝ่ายเป็นเงินหนึ่งหมื่นทอง

"  เอาล่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาพวกเจ้ารีบไปจัดการเถอะ "

ท่านราชครูหลิวกล่าวขึ้นพร้อมกับให้เหล่าคนใช้นั้นช่วยขนเงินเเล้วพาพวกของเขาทั้งสองออกไปที่ด้านหน้าจวนก่อนที่อู๋เซียนนั้นจะเดินทางพาลู่เฉินไปซื้อเสบียง
(@Watcher )(@WuMan )

Point.
Exp.
Affinity.
faith.
เรียนรู้การทำงานเกี่ยวกับเสบียง&วางแผนสานต่อการเติบโตของตน

+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้

+4 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้

+1 Point ทุกครัั้งที่โรลเรียนรู้

+3 Point ทุกครัั้งที่โรลเรียนรู้

+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย
No.
เว่ย อิง

+5 ความสัมพันธ์คนที่มีนิสัยเดียวกัน
+10 ลักษณะนิสัยสอดคล้องกัน

-20 วามสัมพันธ์กับคนที่นับถือขงจื๊อ/เต๋า และ ไร้ศาสนา (ชาวฮั่น)
+10 ความเชื่อเดียวกัน(ไร้ศาสนา)+15 ความสัมพันธ์เมื่อเจอคนชื่อเดียวกัน
หัวดีเจอหัวดี +30 คุณธรรม

หลิว ซีเยี่ยน
      
      +10 ลักษณะนิสัยสอดคล้องกัน

+10 ลักษณะนิสัยสอดคล้องกัน

+5 ความสัมพันธ์คนที่มีนิสัยเดียวกัน


+20 ความสัมพันธ์กับกลุ่มบัณฑิต/นักปราชญ์
-15 ธาตุข่มกัน ( น้ำข่มไฟ )
+5 พูดคุยประจำวัน
หัวดีเจอหัวมาร +10 ความโหด
No.
+10 Point
+4 Point  
No.
เว่ย อิง
+20
หลิว ซีเยี่ยน
+35
หัวดีเจอหัวดี +30 คุณธรรม
หัวดีเจอหัวมาร +10 ความโหด

No.
<font face=&quot;Kanit&quot; size=&quot;3&quot;></font>
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x60
x60
x10
x3
x1
x5
โพสต์ 2022-10-11 16:18:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แสงอุษาสางยามต้นเหมันต์ฤดูนั้นอบอุ่นและสาดทอเป็นสีทอง ข้างหน้าต่างไม้ชิงชันร่างสูงโปร่งในอาภรณ์ขาวหิมะของราชครูประจำนครพิงเอนอยู่บนตั่งไท่ซือ มือของเขาลูบไปบนกล่องไม้ลงยาส่วนสายตากลับจดจ้องไปยังเรือนด้านหลังที่ร้างเจ้าของมานานแล้วคล้ายกำลังรอการกลับมาของบางสิ่ง

เขามีเรื่องที่ต้องทำตากความรับผิดชอบในหน้าที่ถูกลากมาลงน้ำขุ่นสลัดไม่ออก ไหนจะเรื่องในใจที่ยังไม่ทันได้สะสางคนก็พาลมาหนีหายไปเสียก่อน การรอคอยตัดรอนขีดจำกัดของความอดทนทีละน้อย สุดท้ายซีเยีย่นก็ไม่คิดที่จะใช้วิธีประนีประนอมอย่างค่อยเป็นค่อยไปอีก

ระหว่างที่ใช้ความคิดเนตรคู่คมจรดลงยังฝากล่องลงยาสลักลายโร่วมู่แต่ละกลีบดอกเปล่งสีสดราวกับเพลิง ไม่นานนักเสียงของฝีเท้าด้านหลังก็ปลุกให้เขากลับมาอยู่กับปัจจุบันอีกครั้ง

เมื่อมาถึงฟางอี้ก็รีบพาลู่เฉินเข้าไปพบกับท่านราชครูในท่านทีโดยทิ้งให้อู๋เซียนนั้นอยู่ด้านหน้าห้องพร้อมกับรีบรายงานท่านราชครูที่ตอนนี้เหมือนกำลังนั่งคอยอะไรบางอย่างอยู่" มาแล้วขอรับท่านหลิวไท่ฝู "


ขอบใจมาก ฟางอี้เจ้าออกไปก่อน ข้ามีเรื่องสนทนากับเขา

ลู่เฉินที่ถูกพามาหาท่านราชครูอีกครั้งนั้นทำยิ่งทำให้เขารูัสึกแปลกประหลาดยิ่งขึ้นไปอีกเพราะเป็นการเรียกคุยแบบตัวต่อตัว จึงยิ่งทำให้เขานั้นรู้สึกวิตกอยู่ในใจลึกๆแต่ก็ยังคงความสุขุมไว้ไม่ให้อีกฝ่ายนั้นรับรู้ " คาราวะท่านหลิวไท่ฝูอีกครั้งขอรับ "

ตามสบายไม่ต้องมากพิธี.. เจ้าคงแปลกใจที่ถูกเรียกมาในเวลานี้ กระแสลมพัดพวนเอาน้ำเสียงทุ้มกระทบริมโสตผู้ฟัง ขณะที่หลิวซีเยี่ยนหันกลับมาเขาได้นำเอาอัตลักษณ์ของฤดูหนาวรวบรวมเอาไว้ในรูปลักษณ์ของตนด้วย

" ก็…แปลกใจขอรับ " ลู่เฉินกล่าวตอบแม้เขานั้นจะยังไม่รู้ก็ตามว่าเหตุผลที่เขานั้นถูกเรียกมานั้นจะเป็นอะไรแต่น่าจะเป็นเรื่องที่สำคัญเพราะในตอนนี้นั้นบุรุษตรงหน้าได้ใช้เสียงทุ้มลึกราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ

ข้ามีหนึ่งคำถาม ก่อนการมอบหมายงานสำคัญบางอย่าง หลิวซีเยี่ยนกล่าวประโยคต่อมานั้นชัดถ้อยชัดคำ เส้นเกศาสีหมึกที่ถูกปล่อยระบ่าทำให้เกิดเงาเพิ่มความลึกลับในบรรยากาศ

คิดว่า ความลับ ควรจ่ายด้วยสิ่งใดจึงคู่ควร

" เอ่อคำถามงั้นหรือขอรับ ? " ลู่เฉินเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัยพร้อมกับกล่าวทวนคำกล่าวของบุรุษตรงหน้าอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจกับตนเองว่าสิ่งที่เขาฟังมานั้นจะไม่ได้ฟังผิด

" ความลับ ควรจ่ายด้วยสิ่งใดถึงคู่ควร " ลู่เฉินมองไปที่ใบหน้าของบุรุษรูปงามที่มีตำแหน่งเป็นถึงราชครูด้วยสายตานึกสงสัยว่าอีกฝ่ายนั้นคิดอะไรอยู่ถึงถามราวกับจะให้เขาไปทำอะไรบางอย่าง " ข้าคิดว่าความลับควรจ่ายด้วยความไว้วางใจจึงจะคู่ควรขอรับ "

นับว่าอีกฝ่ายพอมีความคิดอยู่บ้าง มิได้ตัดช่องถอยให้ตนเองเสียทีเดียว ราชครูหลิวยังคงมีท่าทีเรียบเฉยคล้ายผู้ไม่ยินดียินร้ายแม้ในขณะที่เขาก้าวเข้าไปใกล้อีกฝ่ายจนเงาสีขาวกลายเป็นรูปสลักเบื้องหน้า

หากมีความเชื่อใจเหตุใดจึงยังต้องมี ความลับ ข้าเชื่อเสมอว่าความลับนั้นไม่มีในโลก รึอย่างน้อย ก็เป็นผู้คนที่เลือกจะปฎิเสธการคงอยู่ของมัน

กล่องไม้ในมือคู่ขาวถูกเปิดออกเผยให้เห็นด้านในที่ดำมืดทว่ามีบางสิ่งที่เริ่มสะบัดออกจากใยบาง เมื่อสิ่งมีชีวิตนั้นพบแสงก็สยายปีกออกเป็นผีเสื้อสีชาดลวดลายแปลกตาตัวหนึ่ง เหมือนว่าด้านในจะยังมีอีกหลายตัว ยามที่เกาะอยู่บบนปลายนิ้วของบุรุษชุดขาวจึงมองได้ชัดว่าปีกของมันเรียงต่อกันคล้ายเปลวเพลิง

" เพราะคนเรานั้นมักมีเรื่องบางเรื่อง คำพูดบางคำ ความรู้สึกบางความรู้สึกที่มิอาจให้ทุกคนนั้นรับรู้ได้ความลับจึงยังมีตัวตนอยู่ " บุรุษคิ้วบางนั้นจ้องมองที่ร่างของราชครูหนุ่มที่ในตอนนี้ได้ปล่อยผีเสื้อปีกสีแดงตัวหนึ่งนั้นบินขึ้นมา โดยการกระพือปีกของมันในแต่ละค๊าราวกับเปลวเพลิงที่พริ้วไหวอยู่บนปลายนิ้วของอีกฝ่ายก็มิปาน

ถ้อยคำที่ราวกับรับรู้เรื่องที่ราชครูกำลังสืบค้น พอจะเป็นข้อแก้ต่างได้หากว่าผลลัทธ์ออกมาเป็นไปตามที่เขากังวลใจ “จากที่เจ้าพูดมาก็นับว่ามีเหตุผลอยู่บ้าง ความเห็นของเจ้าจะเป็นตัวกำหนดงานในครั้งนี้จึงต้องให้แน่ใจเสียก่อนว่าจะไม่เกิดปัญหาในภายหลัง”

ข้ามีเรื่องหนึ่งที่ไม่สามารถกระทำได้ด้วยตนเอง.. และกำลังหาผู้ที่สามารถทำงานอย่างสงบคำได้ เจ้าคิดว่าตนมีคุณสมบัตินั้นอยู่รึไม่?

" ข้านั้นยังมิรู้เรื่องที่ท่านจะไหววานดั่งนั้นจึงมิอาจที่รับปากได้ แต่หากมิใช่เรื่องที่ผิดศีลธรรมนั้นก็อีกเรื่องหนึ่งขอรับ " แม้ถ้อยคำของบุรุษรูปงามตรงหน้านั้นจะยิ่งสร้างความนึกสงสัยให้กับบุรุษคิ้วบางอยู่ไม่น้อยแต่เขานั้นก็ไม่อยากที่จะรีบหักหน้าปฏิเสธไปด้วยความที่เขานั้นยังคงต้องทำงานในเมืองนี้อยู่

หึหึ.. ดูเหมือนเจ้ามิใช่ผู้ที่จะกระโจนเข้าหากองเพลิงที่ตนมิได้ก่อ ย่อมได้ หากมันจะทำให้คลายความกังวล เรื่องที่ข้าวานให้เจ้าทำมิใช่การสังหารคนบ่อนทำลายบ้านเมือง เพียงแค่.. นำสิ่งนี้ไปมอบให้แก่เจ้าเมืองเสิ่นจะด้วยวิธีใดก็ได้ รึในฐานะที่เจ้าแสดงความภักดีโดยสถานะผู้มาใหม่

คล้ายคาดเดาได้ว่าหากไม่อธิบายสักนิดอีกฝ่ายอาจเกิดความระแวงว่าเขายืมมือสังหารคน หลิวซีเยี่ยนพลิกถุงเครื่องรางในมือแล้วเปิดออกให้เห็นป้ายไม้สลักคำอวยพรไร้พิษสงใดใด “ไม่ต้องห่วง มันเป็นแค่เครื่องรางตามความเชื่อของชางเจีย ช่วยปกปักษ์คุ้มครอง ข้าแค่ไม่สะดวกจะมอบให้ด้วยตนเอง

" แค่การมอบเครื่องรางใยท่านต้องทำให้มันยุ่งยากถึงกระนั้นกันเชียวหรือขอรับ " คิ้วที่แถบไม่มีขนได้ยกคิ้วขมวดขึ้นด้วยความสงสัยแต่มิมีใครรู้หรอกว่าเขานั้นสงสัยอยู่ แต่ด้วยการกระทำของบุรุษรูปงามตรงหน้าทำให้เขานั้นสงสัยว่าสรุปบุรุษตรงหน้าเป็นถึงราชครูและผูัสำเร็จราชการให้กับเจ้าเมืองทำไมถึงต้องยุ่งยากกับการส่งเครื่องรางให้กับท่านเจ้าเมืองกันมันไม่ผิดวิสัยไปหน่อยหรอกรึ

หากรู้ว่ามาจากข้า เขาจะไม่รับ” มุมปากหยักรอยยิ้มอ่อนใจเป็นครั้งแรกที่บนใบหน้าน้ำแข็งมีชีวิตชีวาจากการขยับ “อย่างไรเสียเจ้าก็ไม่ควรไปพบหน้าอีกฝ่ายหนแรกด้วยมือเปล่า ข้าช่วยส่งเสริมครั้งนี้จะเป็นไร

หลิวซีเยี่ยนเตรียมการมานานเพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าตนจะนำสิ่งที่เจียงหน่วนให้ไว้มาใช้เร็วถึงเพียงนี้ เครื่องรางอวยพรจริงอยู่ว่าไร้อันตราย หากแต่บนพู่ห้อยอาบด้วยน้ำยาพิเศษที่ปรมาจารย์โอสถแดนใต้คิดค้นขึ้นมา ไร้สี ไร้กลิ่น.. ทว่าติดทนนานนับเดือน เขาเรียนรู้ว่าเหล่าผีเสื้อเพลิงชาดชื่นชอบน้ำยาชนิดนี้จนสามารถติดตามผู้ที่สัมผัสมันได้นับสิบลี้ เพียงเพื่อยืนยันข้อสงสัยบางประการจึงจำต้องใช้งานกล่องลงยา

" เป็นเช่นนั้นหรอกรึขอรับ..." เมื่อเขารู้ดังนั้นยิ่งทำให้เขานั้นรู้สึกประหลาดใจเพิ่มมากขึ้นไปอีกว่าทำไมท่านเจ้าเมืองถึงปฏิเสธการรับของจากบุรุษรูปงามตรงหน้าของเขากันนะเขาจึงเก็บความสงสัยไว้ในใจ รอพบกับเจ้าเมืองเขานั้นจะแอบรอบถามเอาเอง " ถ้าแบบนั้นข้าสามารถอาสาไปทำได้ขอรับ แต่ท่านรู้ใช่ไหมว่าข้ามิทำงานฟรี ในเมื่อมันไม่ใช่งานเกี่ยวกับกิจบ้านเมือง ? "

เมื่อถึงคราวต้องใช้สเน่ห์มาจูงใจบุรุษผู้ทรงศักดิ์ไม่ยี่หระที่จะหยักรอยยิ้มเปี่ยมมิตรให้ หนุ่มน้อยผู้นี้คิดต่อรองกับเขา แน่นอนว่าบุรุษจิ้งจอกเองก็ใช่ว่าจะเกรงกลัวการท้าทาย หากเจ้าถูกใจล่ะก็ ข้ายังมีเครื่องรางอีกชิ้นมอบให้ได้.. ชางเจียใจกว้างต่อมิตรสหายอยู่แล้ว

" ข้านั้นยังมิได้ตัดสินใจนับถือศาสนาอะไรดังนั้นข้าจึงไม่เชื่อเรื่องโชครางโปรดหลิวไท่ฝูเก็บไว้เถิด " ลู่เฉินนั้นมองที่ใบหน้าของบุรุษรูปงามตรงหน้าที่ตอนนี้นั้นเปี่ยมด้วยรอยยิ้มอันเป็นมิตร ผิดแปลกกับก่อนหน้านี้ที่ทำหน้าอย่างกับภูเขาน้ำแข็งก็มิปานเกรงจะรับไว้นั้นคงมิใช่การดีต่อตัวเขา อีกฝ่ายเล่นเปลี่ยนโทนอารมณ์ราวกับพลิกฟ้ามือเช่นนี้เขาจะเชื่อได้อย่างไรกันว่ามันจะคุ้มกับเรื่องที่เขาจะทำ

สำหรับชางเจียเครื่องรางคือเครื่องเตือนใจให้อยู่ในความไม่ประมาท.. ต่างจากความเชื่อที่งมงาย ในเมื่อเจ้าช่วยงานข้าหนึ่งเรื่อง แน่อนว่าตัวข้าไม่คิดเอาเปรียบใคร… หนึ่งเรื่อง หรือสองคำถาม เชิญเจ้าเลือกได้ตามสบาย

หลิวซีเยี่ยนก้าวออกทิ้งระยะห่างขณะเปลี่ยนไปเท้าพนักพิงของเก้าอี้ไท่ซือ ด้านข้างของเขาคือชาเจียวกู่หลานร้อนหอมกรุ่น เพียงอีกฝ่ายยกพวยกาลงรินก็มีอีกถ้วยสำหรับลู่เฉิน ถ้วยกระเบื้องขาวลายดอกเหมยถูกดันไปทางผู้มาเยือนแทนคำเชิญ

หนึ่งเรื่องที่ว่า คือการช่วยเหลือจากราชครูเช่นเขาหนึ่งเรื่อง ส่วนสองคำถามที่ว่า แน่นอนว่าผู้ทรงภูมิอย่างเขาการจะให้ความรู้รึสอนใครย่อมมีค่าเสมอเหมือนแลกด้วยตำลึงทอง

" ข้ามิเอาเปรียบใต้เท้าหรอกขอรับ รอเสร็จเรื่องแล้วเราค่อยตกลงกันก็ยังมิสายหรอก " บุรุษคิ้วบางกล่าวขึ้นเพราะเขานั้นยังไม่ได้มีเรื่องอันใดที่เขานั้นต้องการความช่วยเหลือจากบุรุษรูปงามตรงหน้าจึงกล่าวปลายๆเป็นการวางแผนให้อีกฝ่ายนั้นติดบุญคุณของเขานั้นไว้ก่อนแล้วเขานั้นจะมาทวงทีหลัง เพราะถึงยังไงความลับก็ไม่มีบนโลกอยู่แล้วนินะ

ดี.. เช่นนั้นธุระนี้ก็ฝากให้เจ้าจัดการ เจ้าเมืองจะกลับมาในวันนี้ ไปต้อนรับเขาที่ประตูเมืองทิศตะวันออก” เสียงทุ้มกล่าวจบก็ลุกขึ้นโดยไม่รีรอที่จะกลับไปสะสางงานต่อ เมื่อชั่วยามก่อนจินจ้านส่งข่าวมาบอกว่ากลุ่มของโม่เสวียนห่างจากกำแพงเมืองไปไม่ถึงสิบลี้ ไม่เกินยามสี่คงมาถึงเมือง เขายังมีเรื่องต้องเตรียมอีกมาก ฝากฝังธุระเสร็จสิ้นก็ปลีกตัวอย่างที่เคยทำ

หากที่โรงเตี้ยมมีสิ่งใดขาดเหลือก็แจ้งที่ฟางอี้ การดูแลเหล่าสือเค่อเป็นหน้าที่ของเขา

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งในการทดสอบว่าอีกฝ่ายจะสามารถหาตัวเจ้าเมืองได้สำเร็จรึไม่.. แน่ล่ะว่าราชครูไม่เคยปล่อยให้ใครทำงานอย่างสบายเกินไป โดยเฉพาะผู้ที่ต่อรองกับเขาซึ่งหน้าเช่นนี้

" ลู่เฉินรับบัญชา ถ้าไม่มีอะไรแล้วข้าขอลาขอรับ "

ลู่เฉินรีบกล่าวลาทันทีหลังจากรับงานแล้วได้เครื่องรางนั้นมาก่อนที่เขาจะประสานมือของเขาไว้ด้วยกันเพื่อแสดงความเคารพอีกฝ่ายแล้วเดินออกจากจวนเจ้าเมืองก่อนที่เขานั้นจะมุ่งหน้าสู่กำแพงเมืองของซินเย่เพื่อทำงานที่เขาได้รับมาและอีกอย่างเรื่องนี้นั้นสอนให้รู้ว่าท่านราชครูนั้นน่าคบน้อยกว่าคนอื่นๆในจวนเจ้าเมืองเยอะเลยจริงๆ...ช่างเป็นจิ้งจอกเฒ่าที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจจริงๆเลย

(@Watcher )(@WuMan )
Point.
Exp.
Affinity.
faith.

+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้

+4 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้

+1 Point ทุกครัั้งที่โรลเรียนรู้

+3 Point ทุกครัั้งที่โรลเรียนรู้

+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย
No.
หลิว ซีเยี่ยน
      
      +10 ลักษณะนิสัยสอดคล้องกัน

+10 ลักษณะนิสัยสอดคล้องกัน

+5 ความสัมพันธ์คนที่มีนิสัยเดียวกัน


+20 ความสัมพันธ์กับกลุ่มบัณฑิต/นักปราชญ์
-15 ธาตุข่มกัน ( น้ำข่มไฟ )
+5 พูดคุยประจำวัน
หัวดีเจอหัวมาร +10 ความโหด
No.
+10 Point
+4 Point  
No.
หลิว ซีเยี่ยน
+35
หัวดีเจอหัวมาร +10 ความโหด
No.


<font face=&quot;Kanit&quot; size=&quot;3&quot;></font>
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x60
x60
x10
x3
x1
x5
โพสต์ 2022-10-12 23:39:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โพสต์นี้มีการป้องกันรหัสผ่านไว้ กรุณากรอกรหัสผ่าน 
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-10-13 17:39:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
             ราชครูหลิวได้รับสนาส์จากประตุเมืองทิศตะวันออก ดูเหมือนจินจ้านแจ้งว่าเจ้าเมืองเสิ่นมาถึงด้านหน้าเมืองแล้ว เขายังได้รับข้อความอีกว่าอีกฝ่ายจะจัดงานเทศกาลไหว้พระจันทรืเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชาวเมือง รายละเอียดด้านล่างจึงไม่พ้นข้อความอนุญาตเปิดประตุเมืองให้ผู้คนภายนอกสัญจรผ่านในช่วงเทศการ
             “เฮ้อ… ตัวก็ยังมาไม่ถึงสักทีสินะ..” ผู้ทำหน้าที่แทนอย่างตนจะเลือกกสิ่งใดได้ ทุกสิ่งแต่เดิมก้ล้วนทำตามประสงค์ของอีกฝ่าย ในเมื่อนี่มิใช่เหตุเลวร้าย ปลอบประโลมขวัญชาวเมืองก็สมควรจะลงแรงสนับสนุนสักนิด
             หัตถ์แกร่งร่างสานส์ที่เหมือนกันขึ้นมาสี่ฉบับ เมื่อเสร็จแล้วจึงมอบหมายให้ฟางอี้นำไปประกาศทั่วเมือง

“ใต้ความเห็นชอบของสภาปกครองเมืองซินเย่ เนื่องในวาระเทศกาลไหว้พระจันทร์มาถึง
เปิดประตุเมืองสัญจรสำหรับนักท่องเที่ยวและเหล่าวานิชย์ คณะมหรสพ
ระยะเวลาตั้งแต่ประกาศฉบับนี้ จนถึง 31 ตุลาคม 2565
-หลิวไท่ฝู-
         

♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦

@Watcher




←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-10-13 23:22:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด
-การเยี่ยมเยียนของผู้ตรวจการ
หรือราชครูจะเป็นบุรุษหยาบๆ
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦

          @Weibin


          ฟางอี้ได้รับรายงานจากทหารด้านหน้าจวนเจ้าเมือง ฟังว่ามีขันทีจากลั่วหยางมาพร้อมหวังจื่อเปี้ยนเขารุ้สึกแปลกในคราแรก เมื่อไม่มีข่าวสารแจ้งล่วงหน้าก็เห็นที่จะมาตรวจราชการรึไม่ก็.. เป้นความประสงค์ของคนเบื้องบนเสียเอง ผู้รักษาการเลขาจึงนำความไปแจ้งต่อหลิวไท่ฝูเมื่อเจ้าเมืองยังคงติดภารกิจคดีที่ย่านการค้า ในเมื่อเป็นการเร่งด่วนซ้ำร้ายจะปล่อยให้ผู้สูงศักดิ์นั้นรอนานไม่ได้ ฟางอี้จึงเร่งฝีเท้าฉับไวและภาวนาขอให้ขาของตนรวดเร็วพอ


          ราชครูหลิวใช้เวลาไม่นานในการเตรียมตัว อาภรณ์ที่สวมยังคงเป้นชุดผาวสีขาวเดินลายดิ้นเงินตามเดิม เขาเพียงรวบกวานให้เข้าที่ ล้วงรอยหมึกออกจากมือที่เลอะไปเมื่อครู่ จดหมายสองฉบับถูกเผามอดไหม้เป็นควันสีเทา "เยี่ยมเยียนในเวลานี้ เห็นได้ชัดว่ามีจุดประสงค์.. หึ คนเมืองหลวงช่างอ่านง่ายเสียจริง" เขาให้คนนำที่ประทับตั้งไว้ยังใจกลางโถงรวมไปถึงการทูลเชิญหวางเย่น้อยเพื่อมาพบพระเชษฐา อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่การเยี่ยมเยือนของมิตรสหายที่เขายินดีพบนัก ดังนั้นใบหน้ารุปสลักจึงเต้มไปด้วยความเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง


          “กระหม่อมหลิวไท่ฝู คาราวะองค์ชายใหญ่” สองมือคำนับ ด้านของหวังจื่อเสียเองก็ตามติดอยุ่ด้านหลังอาจารย์ เขาเห็นกงกงผมขาวด้านข้างเหมือนเคยเห็นที่ใด


          “น้องคาราวะท่านพี่” ดวงตาของเด็กน้อยกระพริบปริบๆ ทักทายญาติร่วมสายเลือดแต่ต่างมารดา ความอยากรุ้อยากเห็นของเด็กๆ แน่นอนว่าไม่เคยลดเลือนไปตามกาลเวลา


          @Weibin


          “เจ้า เว่ยกงกงใช่ไหมฮะ? ซือฝุบอกพวกท่านเดินทางมาไกลคงหิวแย่ นี่ ข้าให้ขนมนะ เก็บไว้กินจะได้มีแรง” หลิวเสียน้อยในชุดหุ้มขนกระต่ายสองแก้มกลม ยกกล่องขนมเยว่ปิงที่เขากินไม่หมดให้กับผู้ติตดามของพี่ชาย ก่อนจะออกเดินตามอีกฝ่ายไปปล่อยหใ้เป็นธุระของผู้ใหญ่คุยกัน ตนตั้งใจว่าจะเอาขนมที่ซุกไว้มาแบ่งให้พี่ใหญ่ หวังว่าจะถูกปากของอีกฝ่ายเพราะมันอร่อยมากจริงๆ


          คล้อยหลังหวังจื่อเสียราชครุหลิวเก็บมือทั้งสองไว้ในแขนเสื้อแผ่นหลังเหยียดตรงมีได้เสียกิริยาหรือดูขลาดกลัวแต่อย่างใด เขาใช้น้ำเสียงที่น่าฟังทว่าชัดเจนในการเชื้อเชิญอีกฝ่ายเข้าไปสนทนาที่ด้านในโถง “เว่ยกงกงเดินทางในช่วงหน้าหนาวทั้งยังคอยอารักขาองค์ชายใหญ่ ลำบากท่านแล้ว.. ข้าให้คนนำชาต้าหงเผามาหวังว่าจะถูกปากท่าน ใบชานี้ได้มาไม่ง่าย.. เดิมทีเจ้าเมืองเสิ่นยังคิดจะนำไปเซ่นสวรงบรรพชน ได้ใช้รับแขกสำคัญก็ไม่ผิดต่อเขาแล้ว”

          @Weibin

          ขันทีผู้นี้แปลกยิ่งเบื้องต้นกล่าวว่าไม่ต้องเกรงใจแต่กลับบอกฐานะผู้ตรวจการออกมาเช่นนี้ ใช่ต้องการกดดันคนหรือไม่? หลิวซีเยี่ยนไล้ปลายนิ้วกับหยกพกในแขนเสื้อ เขาทราบว่าอีกฝ่ายมาเพื่อหยั่งเชิงดูจากการยังคงวางท่าใจเย็นไม่รีบร้อนพูดจุดประสงค์ออกมาเช่นนี้ ย่อมได้.. เรื่องของความอดทนตนเชื่อว่าไม่แพ้ผู้ใดเช่นกัน


          “เว่ยกงกงชมเกินไปแล้ว.. เยี่ยนไร้สามารถอมรมองค์ชายน้อยบกพร่องจึงถูกส่งออกมานอกเมืองหลวง นครแห่งนี้เดิมทีกันดารแร้นแค้น ลำพังกำลังของเยี่ยนมิอาจฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ หากแต่เป็นเจ้าเมืองเสิ่นที่ได้รับแต่งตั้งมา สิ่งที่กงกงได้พบเห็นคือผลงานที่เขาทุ่มเท”


          การปัดความชอบให้ผู้อื่นก็ถือเป็นบุกคลิกอันมีเอกลักษณ์ของราชครูหลิวเช่นกัน อย่างน้อยโม่เสวียนมิได้อยุ่ที่นี่ คงจะเป้นการดีหากขันทีผู้ใกล้ชิดขั้วอำนาจในวังทูลสิ่งที่ไม่ไปขัดต่อหูของเบื้องบนเข้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาไม่ต้องการให้องค์ชายน้อยหรือตนเองกลายเป็นจุดสนใจนัก โม่เสวียน..จึงจะเป็นเกราะชั้นดีเพื่อใช้ปกป้องยุวราช


          หัตถ์ขาวไม่เสียเวลาคิดเมื่อปลิดถุงผ้าแพรที่มีน้ำหนักวางลงบนโต๊ะ “ฟังว่ากงกงเดินทางลำบากนัก สิ่งนี้อาจช่วยในการหาอาชาและรถม้าที่สะดวกสบายระหว่างรับใช้ราชสำนัก”

          @Weibin


          เป็นครั้งแรกที่มุมปากของราชครูหนุ่มรุปงามนั้นหยักขึ้นรอยยิ้มเปี่ยมสเน่ห์บนใบหน้าล่มเมืองเจือริ้วของความอันตรายเพียงชั่วพริบตา ค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าขันทีเจ้าเล่ห์ผู้นี้หมายจะหยั่งเชิงเขาหากตอบรับแน่นอนว่าคุณหนูสกุลใหญ่ที่ว่าย่อมเป็นนกต่อที่อีกฝ่ายจัดหามาสอดแนมกิจภายใน มีศัตรูเป็นคนข้างหมอนคิดจะให้เขาหวาดระแวงแม้แต่ในบ้านตนเอง หากปฎิเสธเท่ากับตัดรอนน้ำใจของเบื้องบนอาจหาสักเหตุผลมาตำหนิตนก็พอเข้าใจได้ หากซ้ำร้ายสะเทือนไปถึงภาพรวมล่ะก็เป็นปัญหาวุ่นวายแน่


          ในเมื่อคนตรงหน้าคืออสรพิษแห่งวังหลังตนคงไม่แคล้วสวมโฉมหน้าของจิ้งจอกพันปี
          กังวลเสียเมื่อใด หากกล้าส่งคนมาตนก็รับไว้ ส่งกี่คนก็ได้ปุ๋ยให้ดอกเหมยกุ้ยนอกเมืองเพิ่มอีกหลุม


          “น้ำใจของกงกงล้นดั่งวารีในหวงโห เยี่ยนเพียงปลาสามัญไหนเลยจะคู่ควรกับเหล่าธิดาวงศ์หงส์ผู้สูงศักดิ์ กุลสตรีเมืองหลวงล้วนปราณีตดั่งเครื่องแก้ว เยี่ยนเป็นบุรุษหยาบๆ จะให้นำบุปผามาถนอมเกรงจะเฉาเปล่าเสียของ มิสู้.. ในเมืองยามนี้มีเทศกาลใหญ่ผู้คนมากหน้าหลายตาหลั่งใหล กงกงผ่อนคลายสักคืนใครจะรุ้อาจพบมิตรสหายหน้าใหม่ที่ไม่คาดคิด”

          @Weibin


          ที่ด้านหน้าคล้ายมีการเคลือ่นไหวเสียงขานรับต่อๆ กันของเหล่าทหารบ่งบอกการมาถึงของบางคน เงาร่างสูงเพรียวในอาภรณ์ครามเดินเข้ามาในโถงพร้อมเกาทัณฑ์ในมือ จวนแห่งนี้ผู้ที่สามารถพกอาวุธเข้าออกได้ย่อมมีไม่กี่คน ใบหน้าขาวเนียนหมดจดคิ้วเรียวเข้มและผมยาวสีดำขลับที่ถูกมัดรวบสูงการขยับแต่ละครั้งเปี่ยมชีวิตชีวาและความทะมัดทะแมง จะใครเสียอีกหากมิใช่เจ้าเมืองเสิ่นในเรื่องเล่า


          “โอ้.. พวกเขาบอกว่าวันนี้ท่านราชครูมีแขก ข้ายังนึกประหลาดใจว่าบุรุษหน้าตายเช่นนี้คบหามิตรสหายกับเขาด้วยหรือต้องมายื่นยันด้วยตาเสียหน่อย ดูแล้วท่าจะจริงสินะ”


          “ผู้แซ่เสิ่นคาราวะกงกง” เมื่อครู่นี้เขาทันได้ยิินคำว่าองค์ไท่จื่อ หรือว่าชดเหลืองในวังจะกำหนดตัวทายาทแล้วกันนะ

          @Weibin


          ร่วมเดือนที่ไมไ่ด้พบหน้าอีกฝ่ายราชครูหลิวบอกไม่ถูกว่าตนรู้สึกอย่างไรในเมื่อโม่เสวียนยังคงชอบหาเรื่องตนเช่นเดิม แต่นี่กลับทำให้บรรยากาศประหลาดในโถงเจือจางลง ดูท่าความอ่อนเยาว์ของเจ้าเมืองใหม่จำทำขันทีตรงหน้าสับสน.. คนอื่นอาจไม่ทราบแต่จะเรื่องอายุและความสามารถ ลอบเพียงหัวเราะอยุ่ในใจ สายตาตนนั้นที่ตนเลือกชื่อเจ้าเมืองซินเย่คนใหม่ถวายฝ่าบาท มิใช่แค่สุ่มจับฉลากหรอก..


          หนึ่งในกลยุทธ์มีข้อที่เรียกว่า ‘สร้างความประมาทให้ศัตรู’ จะด้วยภาพลักษณ์หรืออายุของโม่เสวียนก็ดี ยิ่งเกิดข้อกังขามากเท่าไรก็ยิ่งเอื้อประโยชน์แก่ฝ่ายเขามากขึ้นเท่านั้น


          “กงกงลุกขึ้นเถิด คำนับของผู้อาวุโสข้ามิกล้ารับ” โม่เสวียนเข้าผคองงอีกฝ่ายขึ้นกะน้ำหนักอย่างดีให้ไม่เป็นการลงแรงจนเกินไป ครั้นพยุงให้นั่งในที่สบายยังรินน้ำชาเพิ่มให้อีกจอก หากทว่าเทมันทิ้งเสียด้านข้าง “เย็นชืดหมดแล้ว ผู้ใดมีหน้าที่รีบไปเปลี่ยนมา.. ใช้ชาผิงลี่หนี่วาที่ข้าพึ่งได้คัดเฉพาะยอดอ่อนเท่านั้น จะให้แขกคนสำคัญดื่มของเช่นนี้ได้อย่างไร”


          “ทราบแล้วขอรับท่านเจ้าเมือง ข้าจะรีบนำไปเปลี่ยนทันที” ฟางอี้รับคำไปทำ ไม่นานก็นำเครื่องกระบเื้องจากตะวันตกมาพร้อมกับชาที่ร้อนกำลังดีมีสีทองอร่ามกว่าเมื่อครู่ โม่เสวียนรับถ้วยแล้วใช้ฝาปาดผิวชาเบาๆเป็นผู้ทดสอบความร้อนด้วยตนเองก่อนจะยื่นส่งให้อีกฝ่าย


          “ท่านคงมิได้ตัดสินข้าแค่เพียงรูปลักษณ์กระมั้ง? หากเป้นเช่นนั้น.. เสวียนเศร้าใจแย่ พวกเขาล้วนบอกว่าขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด บางทีคงลืมเลือนรสชาติของยอดชาอ่อนที่ให้รสหอมหวานไป”

          @Weibin


          “อ่า.. เวลาล่วงเลยมาป่านนี้แล้วหรือ ได้สิ ข้ายังใหม่ในการปกครองคงมีหลายเรื่องที่ต้องฟังคำชี้แนะของกงกง แม้จวนเจ้าเมืองของข้าจะไร้บ่าวรับใช้ แต่หากท่านมีสิง่ใดขาดเหลือสามารถบอกกล่าวกับฟางอี้ได้ตามสบาย เขาเป็นเลขาของข้าเอง” โม่เสวียนลุกขึ้นเพื่อเชิญอีกฝ่ายไปที่เรือนพักด้านหลัง ดีว่าตนให้คนทำความสะอาดทั้งเรือนรับรองใหญ่กับส่วนในไว้เผื่อครอบครัวจ้าวจื่อหลงไว้ก่อน แม้ว่าจื่อหลงยืนยันที่จะยืนยามเป้นองค์รักษ์ให้ตนหน้าเรือนไม่ยอมไปพักกับครอบครัวก็ตาม โม่เสวียนเพื่อให้แน่ใจว่าเรือนพักนั้นไม่มีส่วนขาดตกบกพร่องตนจึงมอบเงินอีกจำนวนนึงเพื่อให้ฟางอี้ไปจัดการเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม ไหนจะเตาโส่วหลุ่ที่ต้องเตรียทในช่วงหน้าหนาว คิดไปคิดมา คนสกุลหลิวอยุ่ในซฺนเย่ก็ปาไปสามสี่รายแล้ว...


          หลังส่งแขกคนสำคัญไปแล้วกลับรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ที่ด้านหลังคอ เมื่อหันกลับมาก็ไม่ผิดจากที่คาด สายตาเย็นยะเยือกของราชครูทำเอาโม่เสวียนหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก

          “รู้จักโผล่มาได้เสียที ข้าคิดว่าเจ้าลืมทางกลับซินเย่แล้ว”

          “........” คนชุดครามหลบตาเหมือนเด็กทำความผิด นี่ก็มาช่วยงานแล้วไงจะเอาอะไรอีก!
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
มอบส่วยเว่ยกงกง 150 ตำลึงทอง
-เอฟเฟคตัวละคร-
(สถาปนิก)
+2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง
(เลื่อมใสศรัทธา)
+3 Point จากการโรลทำงาน
(ทะเยอทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลพัฒนาเมือง
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ)
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
(หูดี)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย
(เห็นอกเห็นใจ)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ
-2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
(นักวิชาการ)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้
(นักวางแผน)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย
รวม 28 Point 55exp +30 โหด -25 ความเครียดจากการกิน
-ระบบเสริม-
-25 ความเครียดโรลทานอาหาร
+10 ชั่ว พบหัวชั่ว
+30 โหด พบหัวมาร
เอฟเฟคหลิวซีเยี่ยน
(งดงาม)
+6 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์
(ถ่อมตน)
+2 Point จากการโรลให้เกียรติอีกฝ่าย
+10 EXP จากการโรลสรรเสริญคู่สนทนาด้วยความจริง
(สุขุม)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทน
(เจ้าเล่ห์-เสแสร้ง)
+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย
+30% คุ้มครองแผนการของคุณไม่ถูกเปิดโปง
รวม 14pt 30exp
EXP ให้ซีเยี่ยน

@Watcher




←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-10-13 23:49:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เมื่อรถม้าเข้ามาในตัวเมืองก็ต้องชลอลงเพราะผู้คนที่สัญจรไปมาด้วยความวุ่นวาย หลิวเปี้ยนรีบยื่นหน้าออกไปตรงหน้าตางด้วยความตื่นตา

“ว้าว หลิงเว่ยดูสิผู้คนเต็มไปหมดเลย เหมือนจะมีเทศกาลแหละข้าลงไปดูได้ใช่ไหม”

เว่ยปินรีบคว้าตัวองค์ชายไว้ก่อนจะกล่าด้วยเสียงแข็ง

“ไว้ถึงจวนเจ้าเมืองก่อนเจ้ามะคะ ตอนนี้ด้านนอกวุ่นวายยังมิควรออกไป”

หลิวเปี้ยนได้ยินดังนั้นก็กลับมานั่งที่พร้อมอมลมไว้ในปากด้วยความไม่พอใจ

“องค์ชายอนาคตเป็นประมุขของแผ่นดิน ต้องทำตัวให้เหมาะสมกับฐานะนะเจ้ามะคะขา”

“อืมม”

เว่ยปินได้แต่ตัวเราะท่าทางน่าชังขององค์ชายน้อยเบาๆ

“เรียนกงกงเรามาถึงแล้วขอรับ”

เว่ยปินพยักหน้าส่งสัญญาณรับรู้ก่อนจะลงจากรถม้าพร้อมประคององค์ชายตามมา

“ชั่งเป็นจวนที่หรูหราดีจริงๆ”

“นี่พวกเจ้ารีบไปตามเจ้าเมืองพวกเจ้ามาเดี๋ยวนี้อย่าปล่อยให้องค์ชายมิสมควรต้องรอนาน”

@WuMan


เว่ยปินเห็นคนด้านก็แสดงสีหน้าโล่งใจทันทีที่เป็นคนรู้จักถึงแม้จากสีหน้าอีกฝ่ายเหมือนจะไม่ยินดีที่ได้
พบตนเท่าไหร่ หลิวเปี้ยนพยักหน้ารับการคาราวะของทั้งสองด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“หม่อมฉันถวายพระพรองค์ชายเจ้ามะคะ เดินทางมาเร่งด่วนไม่มีของกำนัลรู้สึกละอายใจยิ่งนัก คาราวะราชครูหลิว ไม่ได้เจอกันนานท่านยังคงสง่าไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ องค์ชายน่าจะทรงคิดถึงพระอนุชามิน้อย หม่อมฉันและราชครูจะจัดการตรงนี้เองทรงไปเดินเล่นใกล้ๆนี้ก่อนเถิด เจิ้งหลันเจ้าติดตามองค์ชายไปเถอะ ขุนนางมีเรื่องหารือกัน”

เจิ้งหลันไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรได้แต่เดินตามหลิวเปี้ยนออกไปเงียบ ส่วนเว่ยปินก็โค้งให้กับหลิวเสียก่อนจะกล่าวเชิญแกรมบังคับ

“องค์ชายเชิญเจ้ามะคะ”

@Wuman

เว่ยปินรับถ้วยชามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนจะจิบชาไปอึกใหญ่ ก่อนจะวางถ้วยชาลงบนโต๊ะข้าง
“ชาดีจริงๆ ท่านราชครูเราก็ไม่ใช่คนอื่นนคนไกล ข้าเดินทางมาด้วยครั้งนี้เหตุหนึ่งก็เพราะได้ยินว่าท่านออกจากเมืองหลวง ข้ามิได้ตามส่งละอายใจจริงๆ ครั้งนี้มาเพราะเป็นหน้าที่ตามพื้นที่ต่างๆเกิดกลุ่มโจรออกปล้นได้เห็นท่านสบายดี ข้าก็ยินดีแล้ว ตลอดถนนที่ข้าผ่านมาในเมืองประชาชนล้วนใช้ชีวิตเป็นสุข สมแล้วที่เป็นท่านราชครูมาช่วยดูแลข้าจะกราบทูลฝ่าบาทให้ ว่าแต่ท่านเถอะมีปัญหาอะไรจะรายงานหรือไม่ ข้ามาในนามผู้ตรวจการท่านอย่าได้เกรงใจ”



เว่ยปินหยิบถุงแพรขึ้นมาโยนเช็คนํ้าหนัก แล้วก็เก็บเข้ากล่องที่เตรียมมาอย่างเป็นระเบียบ
“ท่านราชครูทำให้ข้าลำบากใจจริงๆ แต่ในเมื่อท่านให้ข้าข้าไม่รับก็ก็จะก็ดูเสียมารยาท ท่านมิต้องกังวลเลยใต้เท้าเสิ่นดูแลเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อยข้าย่อมทูลเบื้องบนไปตามจริง ขุนนางดีเช่นใต้เท้าเสิ่นอนาคตย่อมเป็นเสาหลักของราชสำนักได้แน่ ท่านมิต้องเป็นกังวลเลย ว่าแต่ท่านเถอะท่านราชครูอายุของท่านก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว ข้าว่าท่านก็ควรสร้างทายาทมารับช่วงต่อจากท่านเมื่อท่านชราลง ที่เมืองหลวงเหล่าคุณหนูสกุลใหญ่ยังไม่ออกเรือนก็มีมากหากท่านไม่รังเกียจข้าก็เป็นธุระให้ท่านได้นะฮ่าๆๆ”

เว่ยปินพูดพลางตบไปที่บ่าหลิวไท่เหวินเบาๆ

@WuMan

เว่ยปินได้แต่ถอนหายใจแต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมานอกจากยิ้มแย้ม ตนลองหยั่งเชิงอีกฝั่งแต่อีกฝั่งก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
“ในเมื่อท่าราชครูกล่าวเช่นนี้ข้าก็ไม่ดึงดันแต่ข้าจะบอกว่าท่านก็มิต้องถ่อมตัวมากหรอก คนสกุลหลิวล้วนไม่มีใครไร้นํ้ายาฮ่าๆ ข้าจะพักที่นี่ซักคืนไม่ให้เสียนํ้าใจท่านละกันองค์รัชทายา…ไม่สิองค์ชายใหญ่ก็คงจะคิดถึงพระอนุชาไม่น้อย ก็อย่างว่าแหละผู้พี่อยู่เมืองหลวงมีภาระที่ต้องกังวลไม่น้อย”

@WuMan

เว่ยปินเหลียวหลังไปมองก็พบกับบุรษหนุ่มหน้าใสคนนึง อย่าบอกข้านะว่ามีเจ้าเมือง เว่ยปินเซถอยหลังเล็กน้อย แต่ก็ตั้งสติกลับมาได้ เดี๋ยวนี้ราชสำนักเลือกเจ้าเมืองจากอะไรกันเด็กนี่พ้นวัยเด็กมาได้กี่หนาวเอง

“คาราวะเจ้าเมืองเสิ่น ท่านชั่งเยาว์วัยจนข้าประหลาดใจจริงๆ ข้าไม่มีอะไรจะกล่าวจริงๆฮ่าๆ มาครั้งนี้ไม่ได้แจ้งท่านล่วงหน้านับว่าเสียมายาทแล้ว”

ตอนนี้เว่ยปินแสดงสีหน้าไม่ถูกนี่มันอะไรกันราชสำนักหย่อนยานขนาดนี้แล้วหรือ หรือข้าพลาดอะไรไป ข้าต้องรีบกลับเมืองหลวงไปสืบให้รู้เรื่อง!!

@WuMan

เว่ยปินรับถ้วยชามาจิบก่อนจะส่งคืนด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ท่านเจ้าเมืองกล่าวเกินไปแล้ว สมัยฮั่นอู่แม่ทัพฮั่วอายุเท่าท่านก็จับดาบลงสนามรบแล้วข้าจะกล้าดูถูกท่านได้อย่างไร ข้าอยากอยู่คุยกับท่านมากกว่านี้แต่ติดที่ปล่อยให้องค์ชายใหญ่รอ ไว้มีโอกาสข้าจะมาคุยกับท่านเรื่องหลักการปกครองกับท่านใหม่ได้ยินท่านราชครูชมท่านไว้มากอนาคตข้าคงต้องหาโอกาสฟังความเห็นจากเจ้าเมืองวัยเยาว์เช่นท่านแล้ว ตอนนี้ข้าขอตัวลาก่อนตอนนี้”

@WuMan


(ได้รับนํ้าใจตั้ง150ตำลึงทองแหนะ
)






←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
รถม้าใหญ่
กระบี่
ซัวเหวินเจี่ยจื้อ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x1
x1
x1
x2
x6
x2
x20
x3
x1
x1
x17
x16
x2
x1
x4
x4
x1
x8
x40
x10
x3
โพสต์ 2022-10-20 01:40:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WuMan เมื่อ 2022-10-20 01:48

-แต่งตั้งขุนนาง-
-รับรางวัลพระราชทาน-
อำนาจสิทธิ์ชี้ขาด
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
            ร่วมเดือนแล้วที่เจ้าเมืองเสิ่นร่วมกับราชครูหลิวปราบขุนโจรที่จับตัวชาวบ้านไปเป็นทาสใช้แรงงาน คำเล่าลือถึงเจ้าเมืองใหม่ผู้กล้าบุกฝ่าเข้ารังโจรโดยปราศจากกองทหารก็เป็นที่โจษจันกันไปทั่ว หลังจากนั้นเป็นเวลานานทีเดียวกว่าข่าวของโองการพระราชทานรางวัลจากลั่วหยางจะมาถึง ขันทีผู้นำราชโองการประกาศด้วยเสียงแหลมทันทีที่ก้าวเท้าลงมาจากรถม้า
            “เจ้าเมืองซินเย่รับราชโองการ”
            “กระหม่อม เสิ่น โม่เสวียน น้อมรับราชโองการ” ร่างในชุดครามนำเหล่าขุนนางในสภามารับหน้าอยู่ก่อนแล้ว ขณะคำนับคุกเข่าลงขุนนางกว่ายี่สิบชีวิตก็ได้มีดอกาศเห็นม้วนโองการผ้าแพรชิ้นแรก ขันทีหน้าขาวเริ่มประกาศด้วยเสียงอันดังไปทั่วหน้าจวนเจ้าเมืองมีเหล่าชาว้านและคนสัญจรร่วมเป็นประจักษ์พยานมุงล้อม บ้างก็กล่าวชื่นชมและภาคภูมิใจกับเจ้าเมืองของพวกเขายิ่งนัก
         
  ‘เจ้าเมืองซินเย่มีใจกล้าหาญภักดี ห่วงใยชาวประชาขจัดภัยโจรร้าย กำราบอาชยากรรมช่วยชีวิตราษฏรกว่าหลายพันชีวิต นับเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ขุนนางร่วมสมัย โอรสสวรรค์เห็นชอบให้มอบรางวัล…’

            “ทรงพระกรุณาโปรเกล้า ขอบประทัยฝ่าบาท” หลังขันทีประกาศราชดองการจนจบ โม่เสวียนหันหน้าไปยังทิศของวังหลวง คุกเข่าลงคำนับก็เป้นอันจบพิธีกร เขาให้ฟางอี้และชวีหยวนไปรับรองขันทีผู้นำราชโองการเป็นอย่างดี จากนั้นปันส่วนเงินรางวัลเข้าไปเก็บที่ยุ้งฉาง
            เหล่าวีรชนที่มาในเดือนนี้ล้วนทราบข่างคราวการสร้างความชอบจนไปถึงหูราชสำนักของเจ้าเมืองเสิ่น อีกด้านทั้งราชครุหลิวและหวางน้อยเองก็ยังคงแสดงความยินดีกับความดีความอชบครั้งนี้ของอีกฝ่าย สำหรับโม่เสวียนแล้วไม่ค่อยให้ค่าการบำเน็จรางวัลมากไปกว่าเรื่องนี้จะทำให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้รุ้จักเขาในฐานะเจ้าเมืองผู้เชื่อถือได้
            นี่สิถึงจะเป็นผลลัทธ์อันหอมหวานที่แท้จริง
            ร่างในชุดครามลุกขึ้นเต้มความสูงเขาออกมาทั้งชุดลำลองไม่ค่อยเคร่งกับรุปแบบพิธีการมากเหมือนพวกบัณฑิตหยู หลังจากออกเที่ยวชมเทศกาลเป็นเวลาหลายวันหลางจากกลับมา ดูเหมือนว่าคราวนี้ถึงเวลาต้องเจียดสมาธิมาถึงเรื่องการเติมเต็มสภาขุนนางที่ผลัดผ่อนมานานได้แล้ว
            “ฟางอี้ไปเรียกทุกคนมาที่โถง ทั้งเหล่าสือเค่อของข้า.. และสหายของหลิวไท่ฝู”
            “ทราบแล้วขอรับ” คล้อยหลังของเจ้าเมืองหนุ่มเหล่าขุนพลและผู้ติดตามทั้งหมดต่างรับรุ้ได้ว่าหลังจากที่พวดเขาทุ่มเทสร้างผลงานตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา คราวนี้ล่ะ ผลลัทธ์ตัดสินกำลังเปิดเผยออกมาแล้ว
            โถงว่าราชการนครซินเย่มียกพื้นสามแท่นต่างจากสภาอื่นๆ แท่นที่สูงสุดนั่นคือตั่งสำหรับวางน้อยเพื่อเรียนรุ้ข้อปกครองเมือง ขณะที่อีกสองแท่นซ้ายขวาไม่ต้องระบุก็รุ้ว่าจะเป้นที่ของใครอื่นไปไมไ่ด้นอกจากสองผู้ปกครองสูงสุดในปัจจุบัน ส่วนที่นั่งในสภาเป็นไปในรูปโต๊ะตัวยาวคล้ายกับฝั่งตะวันตก แบ่งออกซ้ายและขวาทุกคนจึงมีความเสมอภาคกันในระดับหนึ่ง
            โม่เสวียนเปิดอ่านรายงานการขันอาสาของเหล่าขุนพลและสือเค่อทั้งยี่สิบสี่ชีวิต เขาไตร่ตรองโดยถี่ถ้วนโดยไม่ลืมเทียบรายงานทั้งสามฉบับ ทั้งจากผุ้แทนชาวเมือง ผู้แทนนักบวช สุดท้ายคือบันทึกของราชครูหลิว หากเป็นคนอื่นคงเมินเฉยความเห้นของเด็กน้อยอย่างหลิวเสีย ทว่าคนชุดครามกลับใช้เวลาเป้นนานในการสอบถามนิสัยใจคอหรือความชื่นชอบที่หวางน้อยมีต่อเหล่าขุนพล
            คนชุดครามได้เรียนรู้ว่าเด็กๆ ที่ไร้เดียงสามักจะไม่โกหก เขาจะตอบตามที่เห็นและรุ้สึกได้ อย่างไรเสียขุนนางแถวหหน้าจำต้องคัดเลือกอย่างถี่ถ้วนเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม จะเลือกที่รักมักที่ชังมิได้โดยเด็ดขาด เหล่าขุนนางถูกจับจ้องด้วยนัยน์เนตรคู่ครามราวกับช่างเจียรไนอัญมณัที่จะค้นหาคุณค่าของพวกเขาในทุกซอกทุกมุม ราชครูหลิวที่เป็นผู้รักษาการแทนตลอดช่วงีท่เจ้าเมืองไม่อยู่ก็กล่าวเปิดงาน
            “ข้าและเจ้าเมืองได้ปรึกษาหารือกันมาระยะหนึ่งแล้ว และได้เห็นพ้องว่าตำแหน่งในสภาขุนนางที่ยังคงว่างอยู่สมควรให้ผู้มีความสามารถที่มีใจจะพัฒนานครแห่งนี้ ภายใต้การปกครองโดยเมตตาของหวางเย่ ทรงเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งสภานครขึ้นมาใหม่”
            จิ่วชุนส่งยิ้มให้พี่เสิ่นแม้ว่าอีกฝ่ายจะดูยุ่งมากก็ยังมีเวลามาถามไถ่ถึงความเป้นอยู่ของเขา ดังนั้นขอแค่ซือฝุรึพี่เสิ่นต้องการอะไร หลิวเสียน้อยก็นำตราออกมาเตรียมประทับอยู่ดี อันที่จริงเมื่อครูเขาแอบนำชื่อของคนที่อยากให้มาเป็นเพื่อนเล่นกับตนออกจากตำแหน่งเรียบร้อย ในเมื่อพี่เสิ่นอนุญาตให้สามารถทำแบบนั้นได้ตนก็ไม่เกรงใจ
            “ตามคำของท่านราชครู ต่อให้ตัวข้าอยุ่ห่างจากจิงโจวเป้นพันลี้ ก็ยังสามารถรับรู้ผลงานและความตั้งใจจริงของทุกคน.. หลังประกาศรับตำแหน่งให้ผู้ที่ถูกขานชื่อก้าวออกมาเพื่ออาลักษณ์จัดทำทะเบียน จงระลึกไว้เสมอว่าในสายตาของข้า ทุกตำแหน่งล้วนมีหน้าที่อันสำคัญที่จะนำพานครแห่งนี้ไปสู่ความยั่งยืน.. ผู้ใดภักดีข้าดีตอบ สร้างความชอบ ให้รางวัล.. ทว่าหากหักหลัง …ข้าไม่มั่นใจว่าจะสามารถช่วยเหลือพวกเจ้าจากเคราะห์กรรมได้”
            เสียงของหนังสือรางวานถูกวางลงบนโต๊ะ แม้จะเบาทว่าด้วยทั้งโถงนั้นเงียบสงัดกับสมาธิของทุกคนที่จดจ่อจนเส้นประสาทตึงเครียด จะยามนี้หรือยามไหนผู้นำของพวกเขาทั้งสามก็กุมภาพลักษณ์อันสมดุลที่แตกต่างกันออกไป คนชุดครามผู้เถรตรง บุรุษชุดขาวผู้เยือกเย็น และหวางน้อยที่ยิ้มแย้มอย่างเดียงสา
            ใครจะเชื่อกันล่ะว่าเสาหลักทั้งสามแห่งนครจะเป้นพวกเขาเหล่านี้
            “ชางเจียเชื่อว่าทุกความตั้งใจจะผลิดอกออกผล ทุกความเอื้อเฟื้อที่ส่งออกไปจะได้รับกลับคืน เริ่มพิธีการแต่งตั้งได้..”
            ตราประทับหวางพร้อมทั้งอาลักษณ์จำเป็นอย่างราชครูหลิวจรดพู่กันลงเอกสารทางการ นครแหง่นี้มีหวางปกครองจึงสามารถแต่งตั้งขุนนางในสภาของตนได้อย่างอิสระไม่จำเป้นต้องส่งเรื่องเข้าวังหลัง โม่เสวียนอยู่ว่างๆ จึงช่วยฝนหมึกให้อีกฝ่ายพลางประกาศด้วยตนเองไม่ต้องพึ่งผู้แทน
            
            “ชวิผิง ตัดสินพิจารณาคดีบัณฑิตหยูและม่อเจีย ยุติความขัดแย้งโดยโดยข้อเสนอแนะที่ชาญฉลาด มีความชอบในการเจรจาโน้มน้าวโจรภูเขาให้กลับใจ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งถิงเว่ย จากนี้ไปควบคุมการใช้กฎหมาย พิจารณาตัดสินคดีความในเมืองซินเย่” เริ่มจากผุ้ที่มีผลงานมากที่สุดตามรายงานของราชครุหลิว แน่นอนว่าไม่พ้นชวีผิงผู้คลี่คลายสองปัญหาในหนึ่งอาทิตย์
            “ชวีผิง น้อมรับพระกรุณา จากนี้จะตั้งมั่นสร้างความเป็นธรรมแก่ชาวเมือง” บัณฑิตชุดเขียวนิ่งงันไปเล้กน้อยด้วยไม่คิดว่าตนจะเป้นคนแรก หลบเลี่ยงสายตาริษยาแล้วเดินเข้าไปรับรางวัลตราตั้งจากผลพวงการลงแรง
            “เยว่ เฟย ตรวจตราค่ายทัพ ลาดตระเวณจนพบฐานที่มั่นโจรภูเขา ช่วยเหลือเชลยและหมั่นฝึกฝนทหารกล้า อาสาเปิดศึกกับโจรร้าย คุณธรรมความสามารถโดดเด่น ความกล้าหาญเป็นที่ประจักษ์ แต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่ประจำเมือง”
            “ข้าจะไม่ทำให้พวกท่านผิดหวังที่มอบโอกาสและการยอมรับอันเอื้อเฟื้อ” บุรุษสวมเกราะสีเงินก้าวออกมาคล้ายว่าทราบลำดับของตนเอง ทว่ายามที่ประสานมือน้อมรับตราตั้งเขายังคงนอบน้อมมิสร่าง  
            โม่เสวียนมองไปยังจุดๆ หนึงที่ควรมีอีกหนึ่งขุนพลเฝ้ารออยุ่แล้วถอนหายใจ ในเมื่ออีกฝ่ายนัน้มาไมไ่ด้ ตนคงต้องแต่งตั้งผู้อื่นมารักาาการแทน “ฟู่เฮ่า จากวันนี้ไปเจ้าคือรองแม้ทัพ คอยกวดขันวินัยทหาร ส่งเสริมและสนับสนุนแม่ทักเยว่อย่างสุดความสามารถ”
            “ข้าทราบแล้ว นายท่านโปรดวางใจ ฟู่เฮ่าจะสร้างเกียรติภูมิแก่ท่านไม่ว่าเมื่อใด” สตรีในชุดเกระาเบากล่าวอย่างมั่นใจขณะรับตรารองแม่ทัพ
            อีกสี่รายชื่อถัดมาถูกประกาศพร้อมกัน “สวินโหยว ปัญญาลึกซึ้ง ความรุ็กว้างขวาง มอบหมายให้เป้นอาจารย์ใหญ่สำนักศึกษาหลวง ควบคุมดูแลการเรียนการสอนของเหล่าบัณฑิตและยุวชน สวินอี้ สัตย์ซื่อมุมานะ มอบหมายให้ดำรงตำแหน่ง อวี้สือ เจ้ากรมโยธาดูแลการจัดจ้างและจัดสร้างสาธารนูปโภคแลควบคุมทรัพยากร ก่วนจิ้ง มีทักษะในการจูงใจคน ไหวพริบเป็นเลิศ มอบหมายให้เป็น เฉิงเสี้ยง เจ้ากรมประชารักษ์ ดูแลสำมะโนครับราษฐ์ บำบัดทุกข์บำรุงสุข จัดสรรคำร้องชาวเมือง.. สร้างขวัญฉละกำลังใจให้ผู้คน หลิวเซียงหรู เจ้าเป็นซือหยงคอยควบคุมดูแลการคลังของดินแดน พัฒนาเศรษฐกิจ ร่วมกันกับก่วนจิ้ง”
            ทั้งสี่ก้าวออกมารับตำแหน่ง พวกเขาจัดว่ามีผลงานระดับเดียวกัน มากพอจะขึ้นขั้นเจ้ากรม ไม่ได้น้อยหน้าผู้อื่น “ขอบประทัยหวางเย่ที่มอบโอกาส พวกเราจะตั้งใจรับใช้ด้วยความภักดี”
            ฟ่านหลี่ เว่ยอิง รวมไปถึงซุนปิ้นบนรถเข็นทำได้เพียงมองเหล่าสหายร่วมรอบวีรนก้าวไปรับเกียรติยศทำกลางสายตาชื่นชม ขณะที่ทำได้แค่ลุ้นว่าชื่อของตนจะถูดเรียกขานต่อไปรึไม่
            “ฟ่านหลี่.. ได้ยินมาว่าลายอักษรของเจ้าเป้นระเบียบและงดงาม ความจำดีเยี่ยม เช่นนั้นจงมาเป้นอาลักษณ์หลวง ตรวจทานข้อราชการ ร่างหนังสือคำสั่ง รามไปถึง เป็นผู้ติดตามข้างกายข้า”
            “จากนี้ไปพู่กันของข้าจะขยับด้วยเจตจำนงค์ของนายท่าน” บุรุษใบหน้างดงามรุ่มรวยไปด้วยความลึกลับร้ายการก้าวออกมา เขาดูมไมไ่ด้ด้อยกว่าราชครุหลิวแม้แต่น้อย หากทว่าบรรยากาศรอบตัวค่อนไปทางดึงดูดให้คนเข้าใหล้กว่าอีกฝ่าย
            โม่เสวียนร่างตำแหน่งขุนพลนามเอกทั้งหาออกไปปิดประกาศ ขณะอีกด้านก็แต่งตั้งขุนพลอารักขาประตุและนายกองเพื่อดูแลกำลังทหารภายในจวนเจ้าเมือง หลังทุกอย่างเสร้จสิ้นแล้วจึงได้เรียกให้คนด้านนอกนำอาหารและเครื่องดื่มสไหรับเลีย้งฉลองเลื่อนตำแหน่งให้กับทุกคนได้ดื่มกิน
            “ผู้ที่ไม่ถูกขานชื่อในวันนี้ก็มิต้องเศร้าใจ พวกท่านมีความสามารถเพียงแต่ในฐานะเจ้าเมือง ข้าต้องพิจารณาหางานที่เหมาะกับคนเพื่อให้พวกท่านรับผิดชอบได้อย่างเต็มที่ เป้นเพราะมันยังไม่ถึงเวลาเท่านั้นเอง…”
            ระหว่างกินดื่มเจ้าเมืองซินเย่ค่อยๆ ไล่สายตาของตนไปยังเหล่าขุนนางหมาดๆ ทั้งหลาย อธิบายด้วยความใจเย็น “นอกเหนือจากการแต่งตั้งตำแหน่งครั้งนี้ทุกคนที่ไร้ตราตั้งจะดำรงในฐานะ สือเค่อของข้า ได้รับเบี้ยหวัดยังชีพในทุกเดือน.. ไม่ต้องกังวล”
            “ขอบคุณท่านเจ้าเมืองคำนึงถึงของพวกเราขอรับ” เว่ยอิงกล่าวยิ้มๆ หันไปมองทางอีกสองคนผู้ร่วมชะตากรรม

ตำแหน่ง/ฐานะ
หน้าที่รับผิดชอบ
เบี้ยหวัด (ทอง)
ผู้ดำรงตำแหน่ง
ขุนนางฝ่ายปกครอง
หวางผู้นำ*
ผู้นำกองกำลัง
200
หวังจื่อเสีย [215]
เจ้าเมือง*
ผู้สำเร็จราชการ ปกครองรัฐ
150
เสิ่น โม่เสวียน
ราชครู (ไท่ฝู)*
ที่ปรึกษาข้อปกครอง อบรมยุวราช มีอำนาจรักษาการแทนเจ้าเมือง
0
หลิว ซีเยี่ยน [171]


ขุนนางฝ่ายบริหาร
หัตถเลขา/อาลักษณ์ (จงชู-中書)
รับผิดชอบเดินเดินหนังสือราชการประสานงานภายใน คัดแยกคำร้องเมือง ร่างและบันทึกข้อมูลคำสั่งภายในแคว้น
100
ฟ่าน หลี่ [H-011]
อาจารย์ใหญ่สำนักศึกษา*
รับผิดชอบดูแลสำนักศึกษาที่ส่วนปกครองกำหนด
100
สวิน โหยว [052]
เจ้ากรมโยธาธิการ (อวี้สือ-御史)
รับผิดชอบงานโยธา จัดจ้างและจัดสร้าง ผลิตอุปกรณ์ของรัฐ ดูแลเส้นทางคมนาคม ดูแลมาตรฐานการชั่งตวงวัด ตลอดจนระดมทรัพยากรจากหัวเมือง
130
สวิน อวี้ [029]
เจ้ากรมยุติธรรม (ถิงเว่ย-廷尉)
รับผิดชอบกระบวนการยุติธรรมและราชทัณฑ์ ผู้บังคับใช้และตีความกฎหมาย ลงโทษและลดหย่อนโทษแต่ไม่รวมถึงการตรวจสอบวินัยทหารหรือทัดทานราชการ
130
ชวี หยวน [H-009]
เจ้ากรมการคลัง (ซือหนง-司农)
รับผิดชอบบริหารการคลังและการเกษตร พัฒนาเศราฐกิจรวมถึงเก็บภาษีและบริหารรายจ่ายนคร เบิกจ่ายงบประมาณไปยังสำนัก กรม กอง ต่าง ๆ
130
หลิน เซียงหยู [H-014]
เจ้ากรมประชารักษ์ (เฉิงเสี้ยง-丞相)
รับผิดชอบสำมะโนครัวเรือน ทำหน้าที่เป็นกรมทะเบียนราษฎร์ ตรวจรับคำร้อง สำรวจสภาพความเป็นอยู่จัดสรรที่ดินทำกินบำบัดทุกข์บำรุงสุขชาวเมือง
130
ก่วน จิ้ง [H-016]

ขุนนางฝ่ายกลาโหม
แม่ทัพ (เจียงจวิน-將軍)
ปฎิบัติหน้าที่ทางการทหาร ควบคุมและปกครองทั้งกองทัพ ดูแลการลดและเลื่อนยศทหารรวมไปถึงการจัดสรรสินสงครามส่งรายงานไปยังส่วนปกครอง
130
เยว่ เฟย [H-010]
รองแม่ทัพ/นายพัน (จวิน-軍)
ปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่งทหาร ตรวจตราค่ายทัพ จัดสรรยุทโธปกรณ์ คุมทะเบียนทหารตัดสินโทษทางวินัย ดูแลคุกทหาร
120
ฟู่เฮ่า [H-018]
นายกอง (โฮ่ว-候)
ปฎิบัติหน้าที่ใต้สังกัดขุนพล คุมทัพทหารพันนาย จัดเวรยามอารักขาและลาดตระเวณ
80
จวี้ซิน [H-002]

ห้าทหารเสือ
ขุนพลพิทักษ์นคร
ตำแหน่งขุนพลเกียรติยศชื่อสำคัญ มีอำนาจควบคุมทัพและตัดสินวินัยทหาร เป็นรองแม่ทัพและขึ้นตรงต่อเจ้าเมือง สามารถโยกย้ายและประจำการอยู่ที่ใดที่หนึ่งได้โดยอิสระ
110
จ้าว หยุน [073]
ขุนพลปราบอุดร
110
เจียงหน่วน [230]
ขุนพลสยบทักษิน
110
เซวียนหยวน หมิง [235]
ขุนพลหาญประจิม
110
จาง เซี่ยอิน [238]
ขุนพลพิชิตบูรพา
110
เกิ้น หว่อสิง [234]

ขุนพลรักษาประตูทิศเหนือ
ตรวจตราคนเข้าเมือง จัดเวรยาม จัดทำทะเบียนและรายงานส่งขุนนางประชารักษ์
60
วั่นเจียฝอ
ขุนพลรักษาประตูทิศใต้
60
มู่ชุน [119]
ขุนพลรักษาประตูทิศตะวันออก
60
เหนียนเหยา
ขุนพลรักษาประตูทิศตะวันตก
60
หลงเค่อ
ตำแหน่งพิเศษ สือเค่อ เบี้ยหวัด 50 ทอง
ลู่ เสวี่ยนอู่
เว่ยอิง
ซุนปิน
รางวัลพระราชทาน : ตั๋วเสบียง 2 ใบ , 200 ตำลึงทอง และ บัพลดค่าศรัทธาศาสนาดีบัฟ 20% ได้ 1 ศาสนา ลดศาสนาพุทธ
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
-เอฟเฟคตัวละคร-
(สถาปนิก)
+2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง
(เลื่อมใสศรัทธา)
+3 Point จากการโรลทำงาน
(ทะเยอทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลพัฒนาเมือง
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ)
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
(หูดี)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย
(เห็นอกเห็นใจ)
+3 Point  จากการโรลปกครองเมืองด้วยความเมตตาธรรม
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ
-2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
(นักวิชาการ)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้
(นักวางแผน)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย
รวม 31 Point 55exp -25 ความเครียดจากการกิน
.
.
-ระบบเสริม-
-25 ความเครียดโรลทำงาน
-25 ความเครียดโรลกิน
+25เครียด มอบของล้ำค่า
+40 คุณธรรม พบหัวดี 4
+240 โหด พบหัวมาร/คลั่ง 8
+20% ความภักดีชุนพลในสังกัดเกิดความรักคุณมากขึ้น (เห็นอกเห็นใจ)
+80% โอกาสความภักดีของขุนพลคุณจะไม่แปรพักตร์ ซื่อสัตย์ต่อคุณอย่างสุดความสามารถพลีกายถวายชีวิต (ผู้น่าเคารพนับถือ)
.
เอฟเฟคหลิวซีเยี่ยน
(งดงาม)
+6 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์
(ถ่อมตน)
+2 Point จากการโรลให้เกียรติอีกฝ่าย
+10 EXP จากการโรลสรรเสริญคู่สนทนาด้วยความจริง
(สุขุม)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทน
(เจ้าเล่ห์-เสแสร้ง)
+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย
+30% คุ้มครองแผนการของคุณไม่ถูกเปิดโปง
รวม 14pt 30exp
.
เอฟเฟคจ้าวจื่อหลง
+10 EXP เมื่อโรลแสดงความห้าวหาญ (กล้าหาญ)
+5 EXP เมื่อโรลเพลย์พูดปลุกใจผู้คน (กล้าหาญ)
+2 Point จากโรลช่วยเหลือส่งเสริมผู้อื่นโดยบริสุทธิ์ใจ (ซื่อสัตย์)
+5 EXP จากการโรลประพฤติตนน่าเชื่อถือ สร้างความไว้ใจต่อผู้อื่น (ซื่อสัตย์)
+7 EXP จากการทำงานช่วยเหลือเจ้านาย (ซื่อสัตย์)
+10 EXP จากการทำงานช่วยเหลือราชสำนักฮั่น (ซื่อสัตย์)
+5 EXP ในขณะที่โรลเพลย์ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย (ซื่อสัตย์)
+1 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (เที่ยงธรรม)
+20 EXP เมื่อโรลเพลย์หยิ่งในศักดิ์ศรี  (มีแผลเป็น)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์ (หล่อ/สวย)
รวม +7 POINT +62 EXP
.
เอฟเฟค ฟู่ เฮ่า
+10 EXP เมื่อโรลแสดงความห้าวหาญ (กล้าหาญ)
+5 EXP เมื่อโรลเพลย์พูดปลุกใจผู้คน (กล้าหาญ)
+2 Point จากโรลช่วยเหลือส่งเสริมผู้อื่นโดยบริสุทธิ์ใจ (ซื่อสัตย์)
+5 EXP จากการโรลประพฤติตนน่าเชื่อถือ สร้างความไว้ใจต่อผู้อื่น (ซื่อสัตย์)
+7 EXP จากการทำงานช่วยเหลือเจ้านาย (ซื่อสัตย์)
+10 EXP จากการทำงานช่วยเหลือราชสำนักฮั่น (ซื่อสัตย์)
+5 EXP ในขณะที่โรลเพลย์ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย (ซื่อสัตย์)
+1 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (เที่ยงธรรม)
+5 EXP จากการโรลเพลย์บริหารเสน่ห์ (คิ้วหงส์)
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย (หูดี)
+1 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย (ว่องไว)
+1 Point จากการโรลเรียนรู้ (ว่องไว)
+10 EXP จากการโรลทำงาน (ว่องไว)
รวม 57 exp 7 point
.
.
เอฟเฟคตัวละครเซวียนหยวน หมิง
+9 EXP จากการโรลเข้าสังคมกับสหายระดับ สหายรู้ใจ-อู้ม่าน
+4 Point จากการโรลใช้กลอุบาย (หวาดระแวง)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (สุขุม)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทนต่อความทรมาน (สุขุม)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น (ตัวหอม)
+15 EXP จากการโรลสร้างความน่าเคารพศรัทธาต่อผู้พบเห็น (หลังตรง)
+3 Point  ทุกครั้งที่โรลการทูต (หลังตรง)
+30 EXP (จำเป็นต้องมีลักษณะนิสัยชอบเข้าสังคม) เมื่อโรลเพลย์มีปฏิสัมพันธ์คนอื่น (หลังตรง)
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย (หูดี)
รวม 11 POINT 79 EXP
.
[230] เจียง หน่วน [มาร]
+35 มอบฮวาเจียวปิ้งย่าง
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  (หูดี)
+15 นิสัยเดียวกัน (เห็นอกเห็นใจ)  
+15 มาร พบ มาร
+20 ธาตุเกื้อหนุน ไฟ  หนุน ดิน
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +125
.
[234] เกิ้น หว่อสิง [ดี]
+35 มอบองุ่น
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  (หูดี)
+15 นิสัยเดียวกัน (เลื่อมใส)  
+20 ธาตุเกื้อหนุน ไฟ  หนุน ดิน
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +110
.
ความสัมพันธ์ [H-018] ฟู่เฮ่า ดี
+35 มอบฮวาเจียวปิ้งย่าง
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  (หูดี)
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +75
.
[235] เซวียนหยวน หมิง [คลั่ง]
+35 มอบลูกชิ้นหัวสิงห์
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  (หูดี)
+10 คลั่ง พบ มาร
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+20 ธาตุเกื้อหนุน ดิน หนุน ทอง
+5 พูดคุยรายวัน
รวม 105.
.
.
[238] จาง เซี่ยอิน [คลั่ง]
+35 มอบสุราเบญจมาศ
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  (หูดี)
+10 คลั่ง พบ มาร
+15 นิสัยเดียวกัน (เลื่อมใสศรัทธา)
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+20 ธาตุเกื้อหนุน ดิน หนุน ทอง
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +120
.
.
[239] เยี่ย เฉาหัว [มาร]
+35 มอบชากงอี้ฮวา
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  (หูดี)
+15 มาร พบ มาร
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+20 ธาตุเกื้อหนุน ไฟ หนุน ดิน
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +110
.
.
.H-015 เว่ย อิง ดี
+35 มอบชากงอี้ฮวา
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+15 นิสัยเดียวกัน(เห็นอกเห็นใจ)
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +90
.
.
H-013 ซุน ปิน มาร
+35 มอบชากงอี้ฮวา
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+15 หัวมารพบมาร
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +90
.
H-010 เยว่เฟย ดี
+35 ฮวาเจียวปิ้งย่าง
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +75
.
.
H-014 หลิน เซียงหยู มาร
+35 มอบชากงอี้ฮวา
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+15 หัวมารพบหัวมาร
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +90
.
.
H-016 ก่วน จิ้ง คลั่ง
+35 มอบสุราเบญจมาศ
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+10 คลั่งพบมาร
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+5 พูดคุยรายวัน
-10 ทะเยอะทะยาน
รวม +75
.
.
H-011 ฟ่าน หลี่ มาร
+35 มอบน้ำหนิวเอ้อเฉา
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+15 หัวมารพบหัวมาร
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +90
—-----------
x3.5 ความศรัทธา ทุกครั้งที่คุยแลกเปลี่ยนศาสนากับคนศาสนาเดียวกัน -จื่อหลง- กล้าหาญ, โม่เสวียน-เห็นอกเห็นใจ,เลื่อมใสศรัทธา
+20 ความศรัทธา เมื่อโรลเผยแพร่ความกล้าหาญ (กลางเหตุการณ์ไปเลย)
+10 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ
(เลื่อมใสศรัทธา)
+25 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ
+15 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิหรือ โรลเกี่ยวกับศาสนา
x4 ความศรัทธา เจ้าลัทธิ
x2 ความศรัทธา VIP

@Watcher


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-10-25 01:33:54 | ดูโพสต์ทั้งหมด
-ประชุมสภาขุนนาง-
สะสางเรื่องราว
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
           “ช่วงนี้เทศกาลกำลังคึกคักเมืองของเรามีนักท่องเที่ยวและชาวบ้านหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก แม้การคุ้มกันด้านความปลอดภัยของเราจะมีกำลังพลที่แม่ทัพเยว่ค่อยดูแลอยู่ หากทว่าเหล่าหัวหมู่ยังคงใหม่กับงาน.. ข้าจึงขอเสนอตนเองในการร่วมรักษาการีท่ย่านการค้า จุดที่ผู้คนมารวมตัวกันมากที่สุดในเวลากลางวัน หากเกิดคดีอย่างวันนี้จะสามารถจัดการได้อย่างทันท่วงที”

           หลังเปิดประชุมสภาขุนนางผู้แรกที่ก้าวออกมาอาสาคือก่วนจิ้ง เขาอาศัยว่าช่วงเวลาเจ้าเมืองกลับมานี้จะส้รางผลงานให้มากที่สุดแบ่งเบาภาระอีกฝ่ายในฐานะเจ้ากรมประชารักษ์

           “ข้าอนุญาต ไหนๆ เจ้าก็ดูแลความสงบเรียบร้อยในย่านการค้าแล้ว จงเป้นตัวแทนข้าในการรับรองเหล่าเจ้าเมืองที่มาร่วมงานไปด้วยพร้อมกัน” หลังโม่เสวียนได้รับรายงานว่าทั้งหัวเมืองปาสู๋และเซียงหยางล้วนให้ความสนใจกับเทศกาลจนมาร่วมงานคับคั่ง อันที่จริงยังหนักใจเรื่องการรับรองอยุ่

           “ก่วนจิ้งทราบแล้ว จะไม่ทำให้ท่านผิดหวังขอรับ” ขุนนางตำแหน่งเฉิงเสี้ยนยอบกายคำนับและได้รับสุราเบญจมาศแทนน้ำใจในการอาสาก่อนเขาจะก้าวกลับไปยืนยังที่ของตนเองเปิดทางให้ชวีหยวนในตำแหน่งถิงเว่ยรายงานเรื่องถัดไป

           “เรื่องต่อไป ข้าขอยืมคำของใต้เท้าเฉิงเสี้ยนเมื่อครู่ อาสัยช่วงเวลาที่ประชากรหลั่งใหลเข้าเมืองนี้เพื่อโน้มน้าวจิตใจให้มาตั้งรกรากในซินเย่ นับว่าเป็นโอกาสทองของเรา ชวีหยวนมีความมั่นใจจึงขออาสาขึ้นปราศัยในวันที่ 25 นี้ด้วยตนเองลำพังขอรับ”

           “โน้มน้าวประชากรให้ตั้งถิ่นฐาน.. ก็นับว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับเมืองของราที่มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ข้าอนุมัติ” เหมือนกับขุนนางคนก่อน ชวีหยวไนด้รับขนมจ้างเป็นกำลังใจในการทำงานเล็กๆ น้อยๆ จากมือท่านเจ้าเมือง

           “ชวีหยวนจะทำสุดความสามารถขอรับ”

           แม้ตำแหน่งถิงเว่ยจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสำมะโนครัวประชากร แต่ขณัที่เจ้ากรมประชารักษ์อาสาไปดูแลความสงบเรียบร้อยโดยครงส่วนเจ้ากรมยุติธรรมมาขออาสาเพิ่มประชากร โม่เสวียนหยักรอยยิ้มมุมปากนึกสงสัยว่าทั้งสองจงใจแลกหน้าที่กันรึไม่พอใจตำแหน่งที่เขาตั้งให้กันแน่?

           ราวกับสัมผัสได้ว่ามีคนขุ่นข้องใจ เมื่อนั้นราชครูหลิวที่นิ่งเงียบมาตลอดในการประชุมก้าวเข้ามากระซิบบางอย่างข้างหูโม่เสวียนด้วยสีหน้าเปี่ยมสเน่ห์ “ชวีหยวนมีพรสวรรค์ด้านชักจูงใจผู้คน เจ้าก็เห้นแล้วจากผลงานของเขาในการเกลี้ยกล่อมกลุ่มโจรภูเขา”

           “เรื่องนั้นข้าไม่ได้กังขาในความสามารถ เพียงแต่มองว่าพวกเขาเห็นการตัดสินใจของข้าเป้นเรื่องสุ่มโชคหรืออย่างไร?” หากขุนนางในแต่ละตำแหน่งไม่ทำหน้าที่ของตนให้ดี สลับกันอาสาในส่วนรับผิดชอบของผู้อื่นแบบนี้ เกรงว่าอนาคตอาจจะวุ่นวายเอาได้

           “อื้ม.. เจ้ากังวลเกินไปแล้ว พวกเขายังใหม่กับตำแหน่งที่ได้รับมา ให้เวลาสักพักทุกอย่างเจ้าเข้าที่เข้าทางเอง” ซีเยี่ยนแนะนำอีกฝ่ายเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนราชครูหนุ่มจะส่งสัญญาณให้เว่ยอิงและแม่ทัพเยว่ก้าวออกมาเสนอตามแผนการที่วางไว้

           “รายงานท่านเจ้าเมือง.. จากที่ข้าและบัณฑิตลู่สำรวจสภาพปัจจุบนแล้ว ยุ้งฉางของพวกเราไม่พอรองรับต่อการพัฒนาของเมือง เพื่อจะมองหาทำเลสร้างโกดังที่ใหญ่ขึ้นข้าเห็นว่าพื้นที่ข้างค่ายทหารเหมาะสมต่อการดูแลรักษาและจัดเก็บ” น้ำเสียงของชายวัยกลางคนอธิบายถึงสิง่ีท่ตนไปพบจากการทำงานจริงโดยไม่ขากตกบกพร่อง ข้อเสนอแนะนี้จะเกิดประโยชน์ต่อคนหมุ่มากเขาค่อนข้างแน่ใจว่าเจ้าเมืองเสิ่นจะคล้ออตาม “ข้าได้สอบถามกับผู้รับเหมาที่เซียงผิงแล้วเพื่อสร้างโกดัง เราต้องใช้ 3,000 ตำลึงทอง ไม้ 400 ท่อน หิน 3000 ก้อน หากท่านเจ้าเมืองอนุญาต ข้าจะเร่งไปติดต่อการค้าเพื่อจัดสร้างขอรับ”

           หลังรายงานจบคนชุดครามก็ลูบคางอย่างพึงพอใจกับการอาสาครั้งนี้มาก เพระามันตรงกับแนวทางพัฒนาที่ตนวางไว้พอดี “แม้จะอีกหลายเดือนกว่าจะเข้าช่วงฤดูเก็บเกี่ยวก็ยังเป็นการฉลาดที่จะสร้างโกดังไว้ก่อนล่วงหน้าเพื่อจัดสรรพื้นที่ เรายังสามารถใช้เก้บทรัพยากรอื่นๆ ที่ล้นเกินยุ้งฉางก่อนฤดูใบไม้ผลิ ข้าอนุญาต จงตามอาลักษ์ฟ่านไปเบิกสิ่งที่เจ้าต้องการ ขาดเหลือส่วนใดก็บอกเขา”

           “ข้าจะทำให้มั่นใจว่าโกดังใหม่ต้องเสร็จสิ้นก่อนฤดูเก็บเกี่ยวขอรับ” เว่ยอิงได้รับงานมอบหมาย เขารุ้สึกตื้นตันใจรวมทั้งได้รับการยอมรับจากเจ้านาย อีกทั้งสินน้ำใจที่เจ้าเมืองมอบให้ยังเป็นชากงอี้ฮวาที่หอมกรุ่น

           “ข้อเสนอถัดไป พวกเราไมไ่ด้มีเวลาอยู่ในโถงนี้กันทั้งวัน” โม่เสวียนยกถ้วยชาเจียวกู่หลานขึ้นจิบ พอพูดนานๆ ก็เริ่มรุ้สึกคอแห้ง

           “เยว่เฟยรายงานท่านเจ้าเมือง ท่านราชครู ยามนี้ทหารทั้งสามพันนายของเราเป็นแต่เพียงกองทหารดาบและโล่ ในการศึกที่อาศัยกลยุทธ์พลิกแพลงจำต้องใช้พลทหารที่เชี่ยวชาญสรรพาวุธ ข้าขอเสนอจัดสร้างลานฝึกทหารม้า นี่จะเป็นก้าวแรกของกองกำลังที่แข้งแกร่งขอรับ”

           แม่ทัพแห่งนครออกปากพูดขนาดนี้นแน่นอนว่าเจ้าเมืองเองก็เห้นพ้อง เพียงแต่เห็นว่าฟู่เฮ่ามีบางสิง่จะพูดจึงเรียกตัวออกมา “เจ้าล่ะมีความเห็นอย่างไร รองแม่ทัพฟู่”

           “ฟู่เฮ่าเห็นพ้องกับท่านแม่ทัพใหญ่ เพียงขอเสริมอีกสักเล็กน้อย ทหารม้านั้นจะยอดเยีย่มเมื่อได้พลธนุเกื้อหนุน และหากทหารม้าเชี่ยวชาญธนูแล้วก็เป็นดั่งพยัคฆ์ติดปีก… เสนอให้สร้างหอฝึกธนูไปควบคู่กันเจ้าค่ะ”                     

           เจ้าเมืองหนุ่มหัวเราะกับความเข้าขากันนี้ของทั้งสองรายจึงได้รับขนมเยว่ปิงไปแบ่งกัน

           “ถูกต้อง ในเมือต้องการพลิกแพลงการจัดค่ายทัพจะมีแค่ทหารราบและทหารม้าเพียงอย่างเดียวมิได้ สวินอวี้สือ! เจ้าดูแลการจัดสร้างหอฝึกธนูและลานฝึกทหารม้าให้เรียบร้อย หากแม่ทัพทั้งสองมีสิ่งใดเพิ่มเติมก็ให้บอกกับเจ้ากรมโยธา”

           “ขอรับท่านเจ้าเมือง” ทัง้สามรับคำเสียงหนักแน่น การประชุมขุนนางครัง้นี้ดูท่าจะจบลงด้วยดี หากว่าขุนพลพิทักาณ์นครไม่ก้าวออกมาติดๆ


           “จื่อหลง..ขอบังอาจเสนอความเห็น ยามนี้กำลังโจรโพกผ้าเหลือกล้าแกร่ง ประชากรซินเย่กำลังทวีจำนวน เห้นควรว่าสามารถแบ่งมาจัดตั้งกองกำลังเพิ่ม”

           แม้ไม่ทันคิดว่าจื่อหลงจะคิดรวบรวมไพร่พลทว่าเจ้าเมืองซินเย่ก็รับฟังขุนนางในสภาอย่างไม่เกีย่งอาวุโส เจ้าเมืองเสิ่นหันไปหาราชครุและชวีผิง “มิใช่ว่าล่าสุดจากรายงานทางค่าย เราได้รับกองกำลังโจรที่กลับใจมาสวามิภักดิ์รึ”

           หลิวซีเยี่ยนพยักหน้าปล่อยให้ฟ่านหลี่ที่คุมบัญชีภาพรวมออกมาอธิบาย “กฎหมายของชางเจียอนุญาตให้บุรุษและสตรีเกณฑ์ทหาร แต่เหล่าโจรภูเขาที่มาร่วมกับเรายื่นข้อเสนอให้ภรรยาพวกเขาเป็นชาวบ้านสามัญ กองกำลังที่เพิ่มเข้ามาจึงมีเพียงสามร้อยนาย”

           “อื้ม.. ถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับความต้องการ ข้ากำหนดอัตราสิบสามัญชน หนึ่งคนเป็นทหารเพื่อประคับประคองการฟื้นฟูและรักาากำลังการเติบโตของเมือง.. เอาเช่นีน้แล้วกัน ชวีหยวนเจ้าขึ้นปราศัยในวันพรุ่งนี้ หากว่าผลตอบรับออกมาดี จื่อหลง เจ้าค่อยไปรับสมัครทหารที่ย่านการค้า”

           “นั่นเป็นทางเลือกที่ดี เป้นการประชาสัมพันธ์แนวทางของเจียหลุนชางไปด้วยในตัว ให้ประชาชนเห้นว่าเราเปิดรับความเท่าเทียมแค่ไหน” ราชครูหลิวเสริมอีกเสียง หากชาวบ้านหมื่นชีวิตไปเป้นทหารครึ่งต่อครึ่ง ด้วยฤดูหนาวที่กำลังมาถึงเสบียงของพกเขาอาจหมดเสียก่อนได้ทำศึก

           “ทราบแล้วขอรับ/น้อมรับคำสั่งท่านเจ้าเมือง”

           “การประชุมสภาขุนนางในวันนี้ ยุติลงได้”

♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
-เอฟเฟคตัวละคร-
(สถาปนิก)
+2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง
(เลื่อมใสศรัทธา)
+3 Point จากการโรลทำงาน
(ทะเยอทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลพัฒนาเมือง
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ)
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
(หูดี)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย
(เห็นอกเห็นใจ)
+3 Point  จากการโรลปกครองเมืองด้วยความเมตตาธรรม
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ
-2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
(นักวิชาการ)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้
(นักวางแผน)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย
(นักบริหาร)
+3 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง
(ผู้ควบคุมดูแล)
+2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง
รวม 41 Point 55exp -25 ความเครียดจากการกิน
.
-ระบบเสริม-
-25 ความเครียดโรลทำงาน
+40 คุณธรรมพบหัวดี
+90 ความโหด พบหัวมาร/คลั่ง
+20% ความภักดีชุนพลในสังกัดเกิดความรักคุณมากขึ้น (เห็นอกเห็นใจ)
+80% ความภักดีของขุนพลคุณจะไม่แปรพักตร์
.
.
H-016 ก่วน จิ้ง คลั่ง
+35 มอบสุราเบญจมาศ
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  (หูดี)
+10 คลั่งพบมาร
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+15 ความสัมพันธ์กับขุนนางในสภา (นักบริหาร)
+20 อิเว้นท์ขุนนางอาสา
+5 พูดคุยรายวัน
-10 ทะเยอะทะยาน
รวม +120
.
เอฟเฟค ก่วนจ้ง
(ฉลาด)
+3 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+3 Point จากการโรลเรียนรู้
+20 EXP จากการโรลทำงาน
+2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง (ผู้ดูแล)
(ทะเยอะทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลพัฒนาเมือง
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
รวม +14 POINT 20 EXP
.
H-009 ชวี ผิง ดี
+35 มอบขนมจ้าง
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  (หูดี)
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+15 ความสัมพันธ์กับขุนนางในสภา (นักบริหาร)
+20 อิเว้นท์ขุนนางอาสา
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +110
.
เอฟเฟค ชวีผิง
+1 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (เที่ยงธรรม)
+1 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้การเข้าสังคม (เข้าสังคม)
+10 EXP จากการทำงานช่วยเหลือราชสำนักฮั่น (ภักดี)
+3 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย (ฉลาด)
+3 Point จากการโรลเรียนรู้ (ฉลาด)
+20 EXP จากการโรลทำงาน (ฉลาด)
รวม +8  Point 30exp
—------
.
H-011 ฟ่าน หลี่ มาร
+35 มอบน้ำหนิวเอ้อเฉา
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+15 หัวมารพบหัวมาร
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+15 ความสัมพันธ์กับขุนนางในสภา (นักบริหาร)
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +105
.
เอฟเฟคฟ่านหลี่
+6 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์ (งดงาม)
+4 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (หนอนหนังสือ)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลบริหารจัดการ (รู้จักหักห้ามใจ)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย (นักวางแผน)
(เจ้าเล่ห์-เสแสร้ง)
+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย
+30% คุ้มครองแผนการของคุณไม่ถูกเปิดโปง
รวม +21pt.
.
[H-010] เยว่เฟย ดี
+35 มอบขนมเปี๊ยะ
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย (หูดี)
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+20 อิเว้นท์ขุนนางอาสา
+15 ความสัมพันธ์กับขุนนางในสภา (นักบริหาร)
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +110
.
เอฟเฟคเยว่เฟย
+10 EXP เมื่อโรลแสดงความห้าวหาญ (กล้าหาญ)
+5 EXP เมื่อโรลเพลย์พูดปลุกใจผู้คน (กล้าหาญ)
+2 Point จากโรลช่วยเหลือส่งเสริมผู้อื่นโดยบริสุทธิ์ใจ (ซื่อสัตย์)
+5 EXP จากการโรลประพฤติตนน่าเชื่อถือ สร้างความไว้ใจต่อผู้อื่น (ซื่อสัตย์)
+7 EXP จากการทำงานช่วยเหลือเจ้านาย (ซื่อสัตย์)
+10 EXP จากการทำงานช่วยเหลือราชสำนักฮั่น (ซื่อสัตย์)
+5 EXP ในขณะที่โรลเพลย์ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย (ซื่อสัตย์)
รวม + 2 Point 42 EXP
.
.
เอฟเฟคจ้าวจื่อหลง
+10 EXP เมื่อโรลแสดงความห้าวหาญ (กล้าหาญ)
+5 EXP เมื่อโรลเพลย์พูดปลุกใจผู้คน (กล้าหาญ)
+2 Point จากโรลช่วยเหลือส่งเสริมผู้อื่นโดยบริสุทธิ์ใจ (ซื่อสัตย์)
+5 EXP จากการโรลประพฤติตนน่าเชื่อถือ สร้างความไว้ใจต่อผู้อื่น (ซื่อสัตย์)
+7 EXP จากการทำงานช่วยเหลือเจ้านาย (ซื่อสัตย์)
+10 EXP จากการทำงานช่วยเหลือราชสำนักฮั่น (ซื่อสัตย์)
+5 EXP ในขณะที่โรลเพลย์ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย (ซื่อสัตย์)
+1 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (เที่ยงธรรม)
+20 EXP เมื่อโรลเพลย์หยิ่งในศักดิ์ศรี  (มีแผลเป็น)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์ (หล่อ/สวย)
รวม +7 POINT +62 EXP
.
.
.H-015 เว่ย อิง ดี
+35 มอบชากงอี้ฮวา
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  (หูดี)
+15 นิสัยเดียวกัน(เห็นอกเห็นใจ)
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+20 อิเว้นท์ขุนนางอาสา
+15 ความสัมพันธ์กับขุนนางในสภา (นักบริหาร)
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +125
.
เอฟเฟค เว่ยอิง
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ (เห็นอกเห็นใจ)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (สุขุม)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทน (สุขุม)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (ขยัน)
+10 EXP ทุกครั้งที่โรลทำงาน (ขยัน)
รวม +4 Point 50 Exp
.
เอฟเฟคหลิวซีเยี่ยน
(งดงาม)
+6 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์
(ถ่อมตน)
+2 Point จากการโรลให้เกียรติอีกฝ่าย
+10 EXP จากการโรลสรรเสริญคู่สนทนาด้วยความจริง
(สุขุม)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทน
(เจ้าเล่ห์-เสแสร้ง)
+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย
+30% คุ้มครองแผนการของคุณไม่ถูกเปิดโปง
รวม 14pt 30exp
—-----------
x4.5 ความศรัทธา ทุกครั้งที่คุยแลกเปลี่ยนศาสนากับคนศาสนาเดียวกัน -ชีเยี่ยน- สุขุม, โม่เสวียน-เห็นอกเห็นใจ,เลื่อมใสศรัทธา
x4 ความศรัทธา เจ้าลัทธิ
x2 ความศรัทธา VIP




←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-10-31 23:57:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WuMan เมื่อ 2022-11-2 23:13

-ปราบโจรกว่างหลิง-
ศึกแรกแห่งซินเย่
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
            
           เช้านี้โม่เสวียนรุ้สึกแปลกๆ ตั้งแต่ตักโจ้กเข้าปากแล้วเจอก้อนกรวดจนกรามปวด ไปจนถึงก้าวขาออกจากเรือนก็พบว่ามีลุกไม้ตกลงมาใส่บ่าเต็มๆ เค้าแห่งลางร้ายบางอย่างทำเอาครั่นเนื้อครั่นตัวไปหมด ยามที่เขาออกว่าราชการพร้อมกับราชครุหลิวและหวางน้อยก็มีเรื่องประหลาด..

           เริ่มจากท่านหมอผู้เก็บตัวเข้าขอพบพร้อมกับเหล่าชาวบ้านที่ซาบซึ้งในน้ำใจของท่านเจ้าเมือง พวกเขานำทั้งผักกาดสดและใบชาชั้นดีมาคาราวะน้ำใจ คนเหล่าีน้ล้วนเป้นญาติและผู้ที่พบเห็นขณะโม่เสวียนกำลังปลอบประโลมผู้ป่วยใกล้ตาย  เดิมทีนายน้อยเสิ่นเข้าใจว่าเป็นเพราะเงินบริจาคค่าหยูกยา แต่ที่ไหนได้.. หมอเจิ้งเซียวเฉินกลับมาด้วยเรื่องอื่น หลังสนทนากันไปได้สักระยะสีหน้าของท่านเจ้าเมืองก็ยิ่งคร่ำเคร่งลง

           “เรียกรวมประชุมขุนนางด่วน” ฟ่านหลี่ได้รับคำสั่งและถ่ายทอดโดยไว ไม่ถึงหนึ่งเค่อ ทั้งหวางน้อยและราชครูหหลิว รวมไปถึงเหล่าขุนนางปห่งเมืองซินเย่ทั้งสิบสองชีิตก็มาประจำที่ของตนในโถงว่าการ

           “ข้าเรียกทุกท่านมาในวันนี้แน่นอนว่ามีเหตุเร่งด่วน ท่านหมอเจิ้งยืนยันจากสมาคมหมอในแดนฮั่น ตอนนี้โจรร้ายนับวันยิ่งเหิมเกริม นอกจากรีดนาทาเร้นยังกล้ากระทำแม้เผาเมืองกักขังผู้คนบริสุทธิ์! ท่านหมอเจิ้งรบกวนเล่ารายละเอียดให้ใต้เท้าทั้งหลายฟังอีกรอบ”

           เจิ้งเซียวเฉินคาราวะเจ้าเมือง ชายผิวซีดผู้เงียบขรึมเปิดปากอีกครั้งต่อหน้าโถงกว้าง

           “สหายของข้าและแวดวงหมอในใต้หล้ามักติดต่อสื่อสารกันเสมอ ต้นเดือนก่อนพวกเราได้ข่าวของเหล่าชาวบ้านนับ 10,000 ชีวิต ถูกกักขังเป็นเชลย พวกโจรภูเขาจุดไฟเผาเมืองกว่างหลิงและปล้นสะดมภ์จนมีผู้บาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน ตัวข้าเองก็หมายจะอาสาไปช่วยรักษาผู้ที่ยังรอดชีวิต..” เจิ้งเซวียนเฉินถอนหายใจอย่างเวทนาแก่ชะตาของชาวกว่างหลิง “ข้าเฝ้ามองและไตร่ตรองอยู่นานจึงมาแจ้งเหตุทันทีที่แน่ใจว่าท่านเจ้าเมืองซินเย่มากด้วยน้ำใจเมตตา ”

           “ท่านหมอเลือกถูกแล้ว ต่อให้เป็นข้า.. ยังยินดีมอดไหม้ไปพร้อมเปลวเพลิงมากกว่าตกเป็นเชลยให้คนเลวหยามหยัน”

           เยว่เฟยกำหมัดแน่นไม่ต่างจากเหล่าขุนพลใจหาญทั้งหลาย พวกเขาเป็นนักรบการจะสังหารเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์นั้นเป้นเรื่องที่เสียเกียรติและสมควรถูกประนามเป็นอย่างมาก

           “ข้าบอกท่านแล้ว นายท่าน! โจรกบฎลัทธิไท่ผิงแน่ๆ พวกมันก่อเรื่องไม่เว้นแต่ละวันสมควรำราบให้สินโครต!” จวี้ซินทุบโต๊ะอย่างแรง เสียงสะเทือนทำเอาหวางน้อยสะดุ้งตกใจเอนไปหลบอยู่หลังราชครูหลิว

           “พวกโจรร้ายเก่งแต่กับคนไร้อาวุธ ชาวบ้านไม่มีทางสู้ ให้บิดาไปสั่งสอนมันสักครา เชื่อว่าชีวิตนี้ไม่กล้าก่อกรรม!” มือของจ้าวอู๋ซวี่เคลื่อนไปแตะตุ้มหนาม ราวกับว่าตรงหน้าเขามีโจรกบฎก็พร้อมจะเข้าโรมรัน

           “โจรภูเขามีกองกำลังสองพัน.. ติดอาวุธครบมือ อันที่จริงไร้ระเบียบทว่าอันตรายนัก” หมอเจิ้งยังคงพยายามเตือน

           “สันดานโจรย่อมเป็นโจร ใช้ชีวิตไร้กฎเกณฑ์บนป่าเขา เมื่ออยุ่ต่อหน้าเกาทัณฑ์แห่งความเที่ยงธรรม.. ก็เป็นไม่ได้แม้เม็ดทราย” จางเซี่ยอินหยักรอยยี้มเยาะกล่าว นางจะอาสาเป็นคนแรกหากเจ้าเมืองคนบดขยี้พวกมัน ปลายนิ้วสาวไล้ไปตามเกราะอย่างรอคอยและเย้ายวนสายตา

           “จากซินเย่ถึงกว่างหลิงเป็นระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกล.. ข้าเชื่อว่าท่านเจ้าเมืองเรียกพวกเรามาประชุมคงจะมีความคิดในใจอยู่แล้ว” บนรถเข็นที่ผู้คนละเมิน เสียงของซุนปินดังขึ้นยุติบรรยากาศลุกเป็นไฟ

           “แน่นอน.. เจ้าเมืองเสิ่นมากด้วยน้ำใจรักชาวเมืองเช่นบุตร หวางเย่เองเห็นชอบกับแนวคิดของชางเจีย ความเสมอภาพนั้นจะเกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินที่ปราศจากความยุติธรรมได้อย่างไร เจ้าเมืองและข้าเห็นว่า เราควรแก้ไขสิ่งท่บิดเบี้ยวนี้ให้กลับคืนจุดเดิม”

           ราชครูหลิวประคองหวางน้อยลงนั่งบนตั่งนุ่ม หันมาคลี่รอยยิ้มจิ้งจอกที่ทั้งสูงส่งและสง่างามอีกครา พอคาดเดาความคิดของโม่เสวียนได้แปดในสิบส่วน หนนี้ตนจะไม่ขัดก็แล้วกัน แม้จะสิ้นเปลืองทรัพยากรในการรบไปบ้าง แต่เมื่อแลกกับผลที่ตามมาหลังจากปราบโจรกบฎเสร็จสิ้นยังนับว่าคุ้มค่า..

           จากสายตาคู่คมจับจ้องแผ่นหลังมากๆ เข้า ดม่เสวียนขนลุกไปทั้งกาย ผลุกเดินออกไปใจกลางโถงเพื่อประกาศ

           “ข้าเล็งเห็นว่าจากการฝึกหนักของสองแม่ทัพและขุนพลจ้าว กองทหารซินเย่เริ่มเข้าที่เข้าทาง ขาดก็แต่เพียงฝึกฝนในสถนามจริง.. โจรภูเขาเหล่านี้จะเป็นบันไดขั้นแรกสู่ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ เราจะไม่ปล่อยให้คนทรามมาทำร้ายผู้บริสุทธิ์อีกต่อไป และเพื่อสำแดงแสนยานุภาพของซินเย่ ข้าต้องการขุนพลที่หาญกล้าที่สุด!!”

           พร้อมกับคำประกาศจบลงแทบจะในทันทีนั้นเหล่าขุนพลบู๊นำโดยแม่ทัพเยว่เข้ามาคุกเข่าโดยพร้อมเเพรียง เกิดเป้นภาพที่ชวนภาคภูมิใจและลำบากใจในเวลาเดียวกัน โม่เสวียนหลบสายตาทั้งหมด เยว่เฟย ฟู่เฮ่า จ้าวจื่อหลง มู่ชุน จวี้ซิน เกิ้นหว่อสิง จางเซี่ยอิน… และคนอื่นๆ

           “การสงครามมิอาจช้า...พวกข้าขออาสาสู้ศึก!!” ประสานเสียงทำเอาโม่เสวียนปวดหัวนัก จะเลือกใครดี เขาลืมไปได้อย่างไรว่าเหล่าขุนพลล้วนใจกล้าและบ้าบิ่น ส่วนฝั่งของเสนาบุ๋นยินกระพริบตาปริบๆระคนถอนหายใจไม่อยากจะไปแย่งผลงานด้านการทหาร

           “ราชครูท่านมานี้สักครู่..” เห้นทีต้องหาตัวช่วย ราวหลายอึดใจในการปรึกษาหารือ ในที่สุดก็สรุปรายชื่อออกมาดั่งนี้

           “ให้แม่ทัพเยว่เป็นผู้บัญชาการ ท่านเป็นคนเดียวที่มีประสบการณ์รับมือกับโจรภูเขา ส่วนซุนปินจะดำรงตำแหน่งในฐานะกุนซือ ความสุขุมและรอบคอบจะคอยย้ำเตือนเหล่าขุนพลถึงเส้นทางสู่ชัยชนะ ส่วนขุนพลทั้งสี่ที่ถูกขานชื่อ จงก้าวออกมารับตราคำสั่งและยุทโธปกรณ์จากข้า ส่วนขุนพลที่ไม่ถูกขานชื่อ จงอยู่รักาาการแทนในเมือง”

           หวังจื่อเสียตรบมือแปะๆ เชิงว่าตกลงกันได้เสียทีวิ่งเข้าไปประทับตราให้กับพี่เสิ่น พวกเขาแทบจะแย่งกันเป็นเก้าอี้ดนตรีนานๆ ทีจะมีศึก แถมนี่ยังเป็นโอกาสสร้างชื่อหนแรกของฝ่ายบู๊เสียด้วย

           “เกิ้นหว่อสิง จางเซี่ยอิน เซวียนหยวนหมิง จวี้ซิน ทั้งสี่รับยุทโธปกรณ์จากข้า.. จงนำชัยชนะกลับมา จำไว้ว่าข้าไม่ปรารถนาการปราชัยต่อให้เหตุผลนนั้นจะน่าฟังสักแค่ไหนก็ตาม”

           “ขอรับท่านเจ้าเมือง น้อมรับคำสั่ง” ทั้งสี่ขุนพลผู้ถูกเลือกรอบรับสายตาริษยากึ่งยินดีด้วยของผองเพื่อนสหาย เยว่เฟยตรงเข้าไปรับตราบัญชาการก่อนจะกุมมือของผู้เป้นนายบรรจงจุมพิตลงที่ตำแหน่งหัวธัมรงค์แสดงความภักดี

           “เซี่ยอิน ทวนนี้จงใช้ให้ดี มันจะเป็นเครื่องรางของเจ้าในสนามรบ.. ขอมหาพฤกษาอวยพร ศิษย์ข้า” ทวนสามง่ามชั้นเลิศถูกส่งต่อให้หญิงสาวนัยน์ตารี นางคุกเข่าลงประคองรับอาวุธจากผู้เป้นอาจารย์ด้วยหัวใจพองโต

           “ข้าจะเป็นศาสตราและโล่ที่ไม่มีวันบุบสลายให้ชางเจีย สิ่งชั่วร้ายต้องถูกขจัดให้หมดสิ้น!”

           ถัดมาคือการดื่มฉลองรวมไปถึงการมอบหมายงานต่างๆ สำหรับผู้รักาาการแทนเหล่าขุนพลที่ไปรบ เซวียนหยวนหมิงอดไมไ่ด้ที่จะถามสหายสนิทสีกครั้ง

           “เจ้าคงไมไ่ด้เสนอชื่อข้าไปใช่ไหม.. เยี่ยน” บุรุษผมทองมั่นใจว่าตนเลือกจะยืนอยู่เงียบๆ แล้ว เขามิใช่พวกที่จะหาเรื่องวุ่นวาย

           “อันที่จริง.. ข้าเสนออีกคน แต่เจ้าเมืองเห็นว่าควรมีผู้ที่ถนัดด้านแทรกซึมแฝงกายไปในทัพด้วย ก็นะ.. โชคดีแล้วกันสหาย” ราชครูหลิวหลัวเราะจนเสียงแปร่ง
แบบฟอร์มเปิดศึก
ชื่อผู้ขอเปิดศึก: เสิ่น โม่เสวียน เจ้าเมืองซินเย่ ใต้สังกัดหวางจื่อเสีย
.
เมืองระดมพล: ค่ายทหารเฉียนคุน - ซินเย่
.
ทรัพยากรเสบียงที่ใช้ในกองทัพ:  คำนวนอัตโนมัติโดยกุนซือ
เมืองที่เรียกกำลังเสริมหรือเสบียงมาใช้: ตั๋วเสบียง 1ตั๋ว (10,000 หาบ)
.
ทหารเกณฑ์กองทัพที่จะออกศึก: 2,500 นาย
เมืองที่เกณฑ์หทารมา: ซินเย่ 2,500 นาย
แบ่งทหารทั้งหมดออกเป็น
กองทหารธนู 500 นาย
กองทหารม้า 1000 นาย
กองทหารดาบโล่ 1000 นาย
.
แม่ทัพใหญ่ :  เยว่ เฟย
กุนซือกองทัพ: ซุน ปิน
ขุนพลคนที่ 1: เกิ้น หว่อสิง คุมทหารม้า 500 นาย
ขุนพลคนที่ 2: จาง เซี่ยอิน คุมทหารม้า 500 นาย
ขุนพลคนที่ 3: เซวียนหยวน หมิง คุมกองทหารธนู 500 นาย
ขุนพลคนที่ 4: จวี้ ซิน คุมกองทหารดาบโล่ 1000 นาย
.
เมืองเป้าหมายที่จะยึด: กว่างหลิง
เมืองดังกล่าวอยู่ภายใต้สังกัด: โจรภูเขา
เมืองที่คุณจะระดมพล: ซินเย่
เส้นทางเดินทัพ ซินเย่ - หรูหนาน - หวยหนาน -กว่างหลิง

♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
-เอฟเฟคตัวละคร-
(ทะเยอทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ)
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
(หูดี)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย
(เห็นอกเห็นใจ)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ
-2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
(นักวิชาการ)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้
(นักวางแผน)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย
รวม 21 Point 25exp
.
.
**เสริม**
+20% ความภักดีชุนพลในสังกัดเกิดความรักคุณมากขึ้น (เห็นอกเห็นใจ)
+80% ความภักดีของขุนพลคุณจะไม่แปรพักตร์ มอบของ
พบหัวดี +20 คุณธรรม
พบหัวคลั่ง/มาร + 150 ความโหด
x4.5 ทุกครั้งที่คุยแลกเปลี่ยนศาสนากับคนศาสนาเดียวกัน (เจียหลุนชาง-หลิวซีเยี่ยน)
+15 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิหรือ โรลเกี่ยวกับศาสนา
x4 ความศรัทธา เจ้าลัทธิ
x2 ความศรัทธา VIP
.
.[H-010] เยว่เฟย ดี
+35 มอบอาชาจื่อเมี่ยว (ม่วง)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย (หูดี)
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+15 ความสัมพันธ์กับขุนนางในสภา (นักบริหาร)
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +95
.
เอฟเฟคเยว่เฟย
+10 EXP เมื่อโรลแสดงความห้าวหาญ (กล้าหาญ)
+5 EXP เมื่อโรลเพลย์พูดปลุกใจผู้คน (กล้าหาญ)
+2 Point จากโรลช่วยเหลือส่งเสริมผู้อื่นโดยบริสุทธิ์ใจ (ซื่อสัตย์)
+5 EXP จากการโรลประพฤติตนน่าเชื่อถือ สร้างความไว้ใจต่อผู้อื่น (ซื่อสัตย์)
+7 EXP จากการทำงานช่วยเหลือเจ้านาย (ซื่อสัตย์)
+10 EXP จากการทำงานช่วยเหลือราชสำนักฮั่น (ซื่อสัตย์)
+5 EXP ในขณะที่โรลเพลย์ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย (ซื่อสัตย์)
x2 ดาเมจ ที่สร้างต่อกองทหารศัตรูในระบบสงคราม (กล้าหาญ)
x1.5 ดาเมจ สำหรับกองทหารที่คุณคุม (กล้าหาญ)
รวม + 2 Point 42 EXP
.
H-013 ซุน ปิน มาร
+35 มอบชาปี้หลัวชุน
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  (หูดี)
+15 หัวมารพบมาร
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+15 ความสัมพันธ์ สมาชิกในสภา (นักบริหาร)
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +105
.
เอฟเฟคซุนปิน
+2 Point จากการโรลวางแผนใช้เล่ห์อุบาย (อาฆาต)
+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย (เจ้าเล่ห์)
+30% คุ้มครองแผนการของคุณไม่ถูกเปิดโปง (เจ้าเล่ห์)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (สุขุม)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทน (สุขุม)
+2 Point เมื่อโรลใช้แผนและกลอุบาย (มีไหวพริบ)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย (นักวางแผน)
+25% โอกาสแผนการต่อศัตรูสำเร็จสูง (นักวางแผน)
รวม +15 point 20 Exp
.
เอฟเฟคหลิวซีเยี่ยน
(งดงาม)
+6 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์
(ถ่อมตน)
+2 Point จากการโรลให้เกียรติอีกฝ่าย
+10 EXP จากการโรลสรรเสริญคู่สนทนาด้วยความจริง
(สุขุม)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทน
(เจ้าเล่ห์-เสแสร้ง)
+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย
+30% คุ้มครองแผนการของคุณไม่ถูกเปิดโปง
รวม 14pt 30exp
.
เอฟเฟค เซวียนหยวน หมิง
+9 EXP จากการโรลเข้าสังคมกับสหายระดับ สหายรู้ใจ-ซีเยี่ยน
+4 Point จากการโรลใช้กลอุบาย (หวาดระแวง)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (สุขุม)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทนต่อความทรมาน (สุขุม)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น (ตัวหอม)
+15 EXP จากการโรลสร้างความน่าเคารพศรัทธาต่อผู้พบเห็น (หลังตรง)
+30 EXP (จำเป็นต้องมีลักษณะนิสัยชอบเข้าสังคม) เมื่อโรลเพลย์มีปฏิสัมพันธ์คนอื่น (หลังตรง)
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย (หูดี)
รวม 8 POINT 79 EXP
.
[238] จาง เซี่ยอิน [คลั่ง]
+35 มอบทวนสามง่าม (เป็นอาวุธ)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  (หูดี)
+10 คลั่ง พบ มาร
+15 นิสัยเดียวกัน (เลื่อมใสศรัทธา)
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+15 ความสัมพันธ์ สมาชิกในสภา (นักบริหาร)
+20 ธาตุเกื้อหนุน ดิน หนุน ทอง
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +135
.
เอฟเฟค จางเซี่ยอิน
+10 EXP เมื่อโรลแสดงความห้าวหาญ (กล้าหาญ)
+5 EXP เมื่อโรลเพลย์พูดปลุกใจผู้คน (กล้าหาญ)
+3 Point จากการโรลทำงาน (เลื่อมใสศรัทธา)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (ทะเยอทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย (ทะเยอทะยาน)
+1 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย (ว่องไว)
+1 Point จากการโรลเรียนรู้ (ว่องไว)
+10 EXP จากการโรลทำงาน (ว่องไว)
+2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์ (น่ารัก)
x2 ดาเมจ ที่สร้างต่อกองทหารศัตรูในระบบสงคราม (กล้าหาญ)
x1.5 ดาเมจ สำหรับกองทหารที่คุณคุม (กล้าหาญ)
รวม +9 Point 25 EXP
.
เอฟเฟคเกิ้นหว่อสิง
+1 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (เที่ยงธรรม)
+2 Point จากการโรลให้เกียรติอีกฝ่าย (ถ่อมตน)
+10 EXP จากการโรลสรรเสริญคู่สนทนาด้วยความจริง (ถ่อมตน)
+15 EXP เมื่อโรลเพลย์ข่มขู่สร้างความหวาดกลัว (ฟันเขี้ยว)
+20 EXP เมื่อโรลเพลย์หยิ่งในศักดิ์ศรี
x2 ดาเมจ ที่สร้างต่อกองทหารศัตรูในระบบสงคราม (กล้าหาญ)
x1.5 ดาเมจ สำหรับกองทหารที่คุณคุม (กล้าหาญ)
รวม +3 Point 45 EXP
.
เอฟเฟคจวี้ซิน
+10 EXP เมื่อโรลแสดงความห้าวหาญ (กล้าหาญ)
+5 EXP เมื่อโรลเพลย์พูดปลุกใจผู้คน (กล้าหาญ)
+2 Point จากโรลช่วยเหลือส่งเสริมผู้อื่นโดยบริสุทธิ์ใจ (ซื่อสัตย์)
+5 EXP จากการโรลประพฤติตนน่าเชื่อถือ สร้างความไว้ใจต่อผู้อื่น (ซื่อสัตย์)
+7 EXP จากการทำงานช่วยเหลือเจ้านาย (ซื่อสัตย์)
+10 EXP จากการทำงานช่วยเหลือราชสำนักฮั่น (ซื่อสัตย์)
+5 EXP ในขณะที่โรลเพลย์ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย (ซื่อสัตย์)
+10 EXP ทุกครั้งที่โรลทำอะไรวู่วามทั้งโรล (ใจร้อน)
5% ดาเมจที่สร้างต่อทหารศัตรู จากโรลสู้รบในสงคราม (ใจร้อน)
x2 ดาเมจ ที่สร้างต่อกองทหารศัตรูในระบบสงคราม (กล้าหาญ)
x1.5 ดาเมจ สำหรับกองทหารที่คุณคุม (กล้าหาญ)
รวม + 2 Point 52 EXP
.
เอฟเฟคจ้าวอู๋ซวี่
+10 EXP เมื่อโรลแสดงความห้าวหาญ (กล้าหาญ)
+5 EXP เมื่อโรลเพลย์พูดปลุกใจผู้คน (กล้าหาญ)
+25 EXP เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจุดอ่อน และ ความท้าทายเกินเรา (ขี้โมโห)
x4 ดาเมจ ที่สร้างต่อกองทหารศัตรูในระบบสงคราม (ขี้โมโห)
x2 ดาเมจ ที่สร้างต่อกองทหารศัตรูในระบบสงคราม (กล้าหาญ)
x1.5 ดาเมจ สำหรับกองทหารที่คุณคุม (กล้าหาญ)
รวม +40 exp

@Watcher

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

อย่าลืมเข้าสู่ระบบนะจ๊ะ เข้าสู่ระบบตอนนี้ หรือ ลงทะเบียนตอนนี้

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้