[เมืองซินเย่] จวนเจ้าเมือง | เสิ่น โม่เสวียน

[คัดลอกลิงก์]




จวนเจ้าเมือง | เสิ่น โม่เสวียน










"มัจฉาในบ่อดิน ใยรับรู้คลื่นมรสุมทะเลโหม ลูกนกเมื่อแรกหนาวเฝ้ารอวันออกจากรัง"

ทางทิศเหนือของย่านการค้าถัดจากสะพานหินขาวคือเรือนหมู่ขนาดใหญ่สร้างล้อมอาคาร
ว่าการประจำเมืองสีขาวทรงสูงสง่า ทั้งสี่ทิศมีศาลาประดับเก๋งและมุมยกโค้ง
รูปแบบของชาวเจียงหนานถูกดัดแปลงให้คล้ายสถานที่บ้านเกิดของเจ้าเมืองมากที่สุด
พื้นที่ด้านหน้ามีสระบัวสีขาวร่มรื่นและฝูงปลาไนหลากสีแหวกว่ายเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา
สวนสระถูกขุดขึ้นด้วยแนวคิดป้องกันอัคคีภัย บรรยากาศโดยรอบร่มรื่น
เต็มไปด้วยพฤกษาเก่าแก่ที่ชาวบ้านนิยมเดินทางมาขอพร
ใต้ต้นจื่อเถิงหลัวโบราณคือกล้องร้องทุกข์สำหรับชาวบ้าน
ที่แสวงหาความยุติธรรม จวนเจ้าเมืองถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน
บริเวณด้านหน้าที่มือปราบเข้าออกบ่อยครั้งเป็นโถงว่าการ
และลานตัดสินคดีความ ทะลุผ่านสวนไปจะพบส่วนพักแรมของเหล่าเจ้าหน้าที่
ฝั่งอาคารทิศเหนือและทิศตะวันออก คือ หอตำราและเขตส่วนตัวของเจ้าเมือง
ใช้สำหรับพักผ่อนจากการทำงานในแต่ละวัน
บ่อยครั้งจะได้ยินเสียงบรรเลงดนตรีล่องลอยมาตามลม





จ้าวฟูเหริน - มารดาจ้าวจื่อหลง




โพสต์ 2022-8-21 23:40:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
กระตุ้นให้กระเตื้อง
{ พัฒนาเศรษฐกิจ }
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
            เอกสารมากมายกองอยู่บนโต๊ะเมื่อไม่มีเวลาจัดระเบียบ ทันทีที่โม่เสวียนกลับเข้ามายังจวนเจ้าเมืองเขาก็ได้รับแจ้งว่าราชครูหลิวมารออยู่ก่อนนานแล้ว ช่วงนี้แม้จะพยายามหลบเลี่ยงมิให้บางสิ่งในอกมันทำงานหนักแต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือสักเท่าไร
            “ท่านหาข้ามีธุระใดหรือ?” ผ่านไปสองเค่อเจ้าของใบหน้ามนยังไม่ทันได้เปลีย่นชุดก็จัดแจงชงชามะลิต้อนรับแขก ช่วยไม่ได้เขาพึ่งย้ายมาใหม่ ในเรือนจึงไม่มีบ่าวไพร่แม้สักคน
            “กำลังคิดอยู่ว่าเรายังไม่ได้ปรึกษาถึงเงื่อนไขความร่วมมือ รวมไปถึงทิศทางของการพัฒนาเมือง”
            บุรุษชุดขาวหยักรอยยิ้มรับด้วยสเน่ห์อันล้นเหลือของเขาทำร้ายสายตาผู้มองอย่างสุดซึ้ง ทั้งสองเลือกพื้นที่นอกเรือนใหญ่ที่มีโต๊ะม้าหินใต้เงาไม้เป็นส่วนปรึกษาให้บรรยากาศผ่อนคลาย
            “เงื่อนไขนั้นขอเวลาข้าไตร่ตรองอีกสักระยะ.. ส่วนการพัฒนาเมืองข้ามีคิดไว้แล้วแต่อยากลองถามความเห็นของท่านก่อน”
            “ข้าฟังอยู่…” น้ำเสียงทุ้มกล่าวตอบระหว่างจิบชาที่สหายเป็นผู้ชง
            “หลังตรวจสอบบัญชีก็พบว่าเมืองนี้บอบช้ำกว่าที่ข้าคิด รายจ่ายติดตัวแดง ช่างน่าสงสัยว่าเจ้าเมืองคนเก่าเอาภาษีที่ได้จากการค้าไปถมที่ใดจนหมด”
            ราชครูหลิวพยักหน้าเมื่อข้อมูลตรงกัน อดีตเจ้าเมืองเป็นคนฟุ้งเฟ้อเห็นแก่ตัว ขณะถูกปลดเขายังไม่วายขนสมบัติเท่าที่ขนได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่
            “ตามความเห็นเจ้า วิเคราะห์อย่างรอบคอบดีแล้วก็สมควรพัฒนาเศรษฐกิจก่อน? อย่างัน้นก็ตรงตามที่ข้าเตรียมการไว้”
            ชายหนุ่มชุดขาวค่อนข้างพึงพอใจกับคำตอบดังนั้นทั้งสองจึงร่วมกันร่างแผนพัฒนาจนทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายเมื่ออำนาจบริหารเมืองนี้ล้วนตกอยู่ในมือพวกเขาทั้งคู่ ซีเยี่ยนให้เกียรติอีกฝ่ายในการถือครองตราเจ้าเมืองขณะเดียวกับมอบอิสริยยศแก่องค์ชายน้อยเสมือนโล่คุ้มกันข้อครหาด้วยการปกครองในนามอันชอบธรรม เห็นได้ชัดว่าเขาคำนวนมาอย่างถ้วยถี่แล้ว
            แม้การทำเช่นนี้จะสร้างเรื่องวุ่นวายและหางานให้ตนเอง คนสันโดษต้องมาฝืนอยู่กลางวงสังคมในฐานะราชครูก็ทรมานทรกรรมตัวเขาไม่น้อย
            “ดี หากเอาตามแผนนี้เรามาดูกันว่าจะได้ผลสักกี่มากกี่น้อย หวังว่าศาสตร์แห่งการพัฒนาของชางเจียจะได้เกิดกับเขาบ้าง”
            เมื่อได้รับรอยยิ้มอันเจิดจ้าอีกคราจากคุ่สนทนาแทนคำตอบ โม่เสวียนตรวจทานแผนที่สนทนากับอีกฝ่ายไปเมื่อครุ๋ก่อนจะนัดหมายเดินทางไปพร้อมกันยังย่านการค้า
            
พัฒนาเศรษฐกิจ 5 วัน (2วัน)
ร่วมกับราชครูหลิว
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
-เอฟเฟคตัวละคร-
(เลื่อมใสศรัทธา)
+15% เมื่อโรลเพลย์เก็บเกี่ยวทรัพยากร หรือ เพิ่มประชากร
+3 Point จากการโรลทำงาน
(ทะเยอทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ)
+30 EXP จากการโรลทำงาน
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
(หูดี)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย
(เห็นอกเห็นใจ)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ
-2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
(นักวิชาการ)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้
(นักวางแผน)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย
รวม 23 Point 55exp
—------
เอฟเฟคหลิวซีเยี่ยน
(งดงาม)
+6 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์
(ถ่อมตน)
+2 Point จากการโรลให้เกียรติอีกฝ่าย
+10 EXP จากการโรลสรรเสริญคู่สนทนาด้วยความจริง
(สุขุม)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทน
(เจ้าเล่ห์-เสแสร้ง)
+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย
+30% คุ้มครองแผนการของคุณไม่ถูกเปิดโปง
รวม 14pt 30exp
ความสัมพันธ์
(ซีเยี่ยน ♥ 171)
+35 มอบชาโม่ลี่ฮวา
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+20 ระกาหนุนมะโรง
+15 มาร พบ มาร
-15 ดิน ข่ม น้ำ
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +75
—-----------
x3.5 ทุกครั้งที่คุยแลกเปลี่ยนศาสนากับคนศาสนาเดียวกัน (เจียหลุนชาง-หลิวซีเยี่ยน)
+10 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ

(เลื่อมใสศรัทธา)

+25 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ
+15 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิหรือ โรลเกี่ยวกับศาสนา
x4 ความศรัทธา เจ้าลัทธิ
x2 ความศรัทธา VIP



←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-8-24 14:27:01 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แฟลชแบคก่อนออกไปโรงน้ำชา



"ดูเหมือนว่าช่วงนี้มีทิศทางที่เหล่าชาวบ้านและผู้ประสบภัยกำลังหลั่งไหลหาที่ตั้งถิ่นฐานสินะ"

โม่เสวียนสะสางข้อร้องเรียนของเจ้าเมืองคนเก่าไปได้ราวครึ่งโต๊ะก็เริ่มรับฟังข่าวที่มู่ชุนไปรวบรวมมา เขาเล็งเห็นถึงจำนวนชาวเมืงอซินเย่ที่น้อยนิด

คงจะเป็นสิง่ีท่ดีกว่าถ้าพัฒนารอบด้านและเปิดรับนักลงทุนกับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ๆ มาเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่จะเปลี่ยนแปลงนครแห่งนี้

"นายท่านขอรับ มีข่าวจากทั้งตอนเหนือและตอนใต้ ประชาชนมากมายอพยพหนีโจรกบฎ พวกเขาต้องการที่พักพิง"

มู่ชุนย้ำอีกครั้งไม่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ควรปล่อยปละละเลย อย่างไรเสียเขาก็เชื่อว่านายของตนมรน้ำใจหว้างขวาง

"ข้าเข้าใจแล้ว.. ขุนนางของเรายังน้อยอยู่ เจ้าช่วยนำใบประกาศนี้ไปติดที่หน้าประตูเมืองแทนข้าที"

หลังคิดยแย่างถี่ถ้วย โม่เสวียนจึงตัดสินใจร่างใบประกาศหหนึ่งฉบับ ให้คนนำไปติดยังประตูเมืองทั้งสี่ทิศ



เมืองซินเย่เปิดรับผู้ประสบภัย ผู้ลี้ภัยและย้ายถิ่นฐาน
เจ้าเมืองจะจัดสรรที่ทำกินรวมไปถึงที่พักอาศัยต่อผู้ที่แจ้งความประสงค์ยังจวนว่าการ
ผู้ที่มีโทษรึคดีความติดตัว มั่นใจว่าตนได้รับความไม่เป็นธรรม สามารถยื่นคำร้องได้ ณ จวนเจ้าเมือง
เปิดรับผู้ลงทุน นายหน้า รวมไปถึงนักเดินทางอิสระตลอดจนถึงสิ้นเดือน 8


เปิดเมืองให้มีการเข้าออกอิสระจนถึง 31 สิงหาคม 2565

@Watcher



←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-8-27 23:51:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WuMan เมื่อ 2022-8-29 23:08

พัฒนาการทหาร
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
            ปวดหัวแทบตาย..
            โม่เสวียนรู้ซึ้งแล้วว่าไม่ควรไปแหย่มังกรน้ำแข็งพันปีในถ้ำอย่างราชครูหลิวจริงๆ อีกฝ่ายเงียบขรึมลงจนใครก็เข้าหน้าไม่ติด ลำบากคนทำงานด้วยอย่างเขาที่ต้องมาสรรหาสารพัดวิธีในการหลอกล่อหาคนพัฒาเมืองในช่วงวิกฤต
            “นางยังติดธุระจึงทำได้เพียงฝากจดหมายมา” เขาจงใจเขียนทิ้งไว้เมื่อคืน ไม่รุ้แล้วว่าจะหาข้ออ้างไหนอีก ช่วยไมไ่ด้ ภาระเจ้าเมืองหนักป่าจะให้อยู่ในสถานะนั้นนานๆ ต้องเตรียมความพร้อมหลายทาง
            ราชครูหลิวเห็นจดหมายในมือโม่เสวียนยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะพูดจบก็เก็บกลับเข้าแขนเสื้อไป “มีธุระอะไร” เจตนาชัดเจนว่าเขาจะอ่านเพียงลำพัง ต่อหใ้อีกฝ่ายเป็นพี่ชายของหญฺงสาวที่ตนพึงใจก็ไม่มีข้อละเว้นเช่นกัน
            “ตอนนี้ท่านเป็นตัวแทนขององค์ชายน้อยในการตัดสินใจเรื่องราวต่างๆ ของเมือง ข้ากำลังคิดว่าเรามีค่ายทหารแต่กลับปล่อยให้ร้างแบบนี้ควรแล้วหรือ” กล่อมเกลาอย่างใจเย็น หากไม่ติดว่าตนรู้ดีถึงสาเหตุที่ราชครูปั้นปึ้งอยุ่เช่นนี้คงหมั่นใส้ใบหน้าเลอเลิศเย่อหยิ่งไปแล้วแน่
            “มิใช่ว่าตกลงกันไว้แต่ต้น ทุกเรื่องในเมืองให้เจ้าตัดสินใจ ข้าทำหน้าที่แค่ให้คำปรึกษา”
            นั่นเท่ากับว่าจะร้ายจะดีข้าต้องรับผิดชอบคนเดี๋ยวน่ะสิ!
            โม่เสวียนกำหมัดแล้วร่างแผนการทหารออกมาคร่าวๆ ทั้งกำหนดจำนวนเสร็จสรรพโดยเก็บงำคนที่จะมาฝึกไว้เป็นความลับ “สามพันคน ไม่มากรึน้อยไปกว่านี้ เรื่องจำนวนอขงชาวเมืองข้าจะหาวิธีอื่นมาจัดการเอง โจรกบฎอยู่ทั่วทิศ เป็นไปได้ก็ควรมีโล่สำหรับป้องกันตน”
            “เอาตามที่เจ้าว่า.. ไปเจอกันที่ย่านการค้าอีกสองชั่วยามให้หลัง” แหม่! ไม่ออกก็รุ้ว่าจะรีบไปอ่านจดหมาย เขาเขียนแค่สามบรรทัด อ่านบ้าอะไรสองชั่วยาม!
1,760(เดิม)+5,850(จากซือซิน)= 7,610
วางแผนเกณฑ์ทหาร 3,000 นาย พัฒนา 5 วัน VIP 2 วัน
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
-เอฟเฟคตัวละคร-
(สถาปนิก)
+2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง
(เลื่อมใสศรัทธา)
+3 Point จากการโรลทำงาน
(ทะเยอทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลพัฒนาเมือง
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ)
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
(หูดี)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย
(เห็นอกเห็นใจ)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ
-2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
(นักวิชาการ)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้
(นักวางแผน)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย
รวม 28 Point 55exp +30 โหด -25 ความเตรียดจากการกิน
—------
เอฟเฟคหลิวซีเยี่ยน
(งดงาม)
+6 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์
(ถ่อมตน)
+2 Point จากการโรลให้เกียรติอีกฝ่าย
+10 EXP จากการโรลสรรเสริญคู่สนทนาด้วยความจริง
(สุขุม)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทน
(เจ้าเล่ห์-เสแสร้ง)
+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย
+30% คุ้มครองแผนการของคุณไม่ถูกเปิดโปง
รวม 14pt 30exp
.
—-----------
x3.5 ทุกครั้งที่คุยแลกเปลี่ยนศาสนากับคนศาสนาเดียวกัน (เจียหลุนชาง-หลิวซีเยี่ยน)
+10 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ
(เลื่อมใสศรัทธา)
+25 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ
+15 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิหรือ โรลเกี่ยวกับศาสนา
x4 ความศรัทธา เจ้าลัทธิ
x2 ความศรัทธา VIP
+50 ต่อวัน โรลเผยแพร่ศาสนา

@Watcher

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-8-29 23:50:33 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วางแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
            “ท่านว่างบการคลังของพวกเราขาดดุลไหม? ระยะที่ผ่านมามีการซ่อมแซมอาคารสถานที่ชำรุดทรุดโทรมไม่น้อย เนื่องจากมีชาวบ้านจำนวนมากย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากข้าจึงงดเว้นภาษีพวกเขาตลอดทั้งเดือน..”
            โม่เสวียนหน้าเคร่งอยู่กับรายงานด้านบัญชี แม่นางโจวอวี้จีมีความสามารถอยา่งเหลือคาดได้รู้แล้วว่า นางกับบัณฑิตฟางเรียบเรียงข้อมูลตัวเลขมาจัดแจงเป้นเล่มๆ แยกตามประเภท สะดวกในการที่เจ้าเมืองอย่างเขาจะตรวจสอบ
            “หากคิดจะเสริมความแข็งแรงของกำแพงเมืองล่ะก็ อาศัยแค่เบี้ยหวัดของเจ้าแน่นอนว่าไม่พอ.. เจ้าต้องกระตุ้นการค้าให้สะพัดกว่านี้ เปิดโอกาสให้เหล่านักลงทุน” ราชครูหลิวหลังได้รับขนมเปี๊ยะมรกตชนิดเดียวกับที่หญิงสาวในความคิดถึงของเขาเคยป้อนก็ดูจะอารมณ์ดีขึ้น ไม่ปั้นปึ้งวางหน้านิ่งเหมือนสองวันก่อน “เริ่มแรก.. ไม่ลองเปิดจุดท่องเที่ยวใหม่อย่างถนนการค้า ดึงดูดชาวต่างแดนเข้ามาค้าขาย เม็ดเงินจะยิ่งหลั่งไหล”
            “นั่นเป็นความคิดที่ดี เริ่มกันเลยไหม? วันนี้เลยเป็นไง”
            ท่านว่าไงข้าก็ว่าตาม หลิวซีเยีย่นเหมาะเป็นพ่อค้ามากกว่าราชครู อาจเพราะทั่วร่างของอีกฝ่ายอาบด้วยรัศมีของผู้มั่งคั่งก็เป็นได้ โม่เสวียนเพียงหวังให้วิถีชีวิตของผู้คนในเมืองซินเย่อยุ่ดีกินดี ไม่สนหรอกว่าจะต้องตกเป็นเบี้ยให้คนตรงหน้าเคี้ยวเล่น
ขุนพลรอง หลิวซีเยี่ยน
พัฒนารุปแบบ 5 วัน VIP 2 วัน
+15% เมื่อโรลเพลย์เก็บเกี่ยวทรัพยากร หรือ เพิ่มประชากร
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
-เอฟเฟคตัวละคร-
(สถาปนิก)
+2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง
(เลื่อมใสศรัทธา)
+3 Point จากการโรลทำงาน
(ทะเยอทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลพัฒนาเมือง
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ)
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
(หูดี)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย
(เห็นอกเห็นใจ)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ
-2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
(นักวิชาการ)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้
(นักวางแผน)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย
รวม 28 Point 55exp +30 โหด
—------
เอฟเฟคหลิวซีเยี่ยน
(งดงาม)
+6 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์
(ถ่อมตน)
+2 Point จากการโรลให้เกียรติอีกฝ่าย
+10 EXP จากการโรลสรรเสริญคู่สนทนาด้วยความจริง
(สุขุม)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทน
(เจ้าเล่ห์-เสแสร้ง)
+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย
+30% คุ้มครองแผนการของคุณไม่ถูกเปิดโปง
รวม 14pt 30exp
.
—-----------

@Watcher




←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-9-11 18:03:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WuMan เมื่อ 2022-9-11 18:20

ผู้ทรงงานอย่างหนักหน่วง
-คำร้องศาลหลักเมือง-
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦

            ท่านเจ้าเมืองผู้อดหลับอดนอนมาสองวันสองคืนโดยไม่มีผู้ใดทราบยังคงเฝ้าอยู่หน้าโต๊ะ รับฟังคำร้องขอของประชาชนทุ่มเททำงานอย่างสุดความสามารถจนสองตาลึกโหล เสิ่นโม่เสวียนคลี่รายงานออกอ่านคราใดเมื่อเขาพบว่าบัญชีติดตัวแดงจากค่าซ่อมบำรุงก็ปวดหัวจะแย่

            “ซ่อมบำรุงสถานที่ 16 สถานที่ทุกเดือน นี่ไม่เว้นแม้แต่สวนพฤกษชาติหรือมีใครไปเด็ดกิ่งท้อย่ำหญ้าตายกันนักหนา ใช้ค่าบำรุงเท่าค่ายทหารเชียวหรือ..” ไม่ได้การ มันคือสัญญาณของการโกงกิน เขาจำต้องหาขุนนางน้ำดีมาแทนที่ในด้านโยธาโดยเร็ว

            แต่การจะเฟ้นตัวผู้มีความสามารถเกรงจะไม่ง่าย ตนต้องการผู้ที่มีน้ำหนึ่งใจเดียว เป้นไปได้ก็หมายจะให้เหล่าสาวกเจียหลุนชางที่ได้ชื่อว่าเที่ยงตรงยึดมั่นในความก้าวหน้าของส่วนรามมาทำแทน

            น่าเสียดาย.. ประชากรในตอนนี้ โดยมากยังงมงายอยุ่กับเทพไท้และลัทธินอกรีต ไม่เอาเส้นทางสว่างปฎิเสธวิถีแห่งการพ้นทุกข์ เกียจคร้านเกินจะพัฒนาตนเองและโทษฟ้าโทษดิน โทษเหล่าชนชัน้สูงที่ทำให้พวกเขาได้รับความลำบาก

            ถึงอย่างัน้นกลับใส่ใจในนิสัยของไพร่ทาศเป็นสันดานที่แก้ไม่หาย… เขาปวดหัวจริงๆ

            “ท่านเจ้าเมืองมีตัวแทนชาวบ้านทั้งสี่กลุ่มศาสนาขอเข้าพบขอรับ”

            ทหารด้านนอกรายงานดังนี้จำต้องพับเอาแผนการปฎิรูปตำแหน่งเอาไว้ก่อน โม่เสวียนยืดตัวตรงแม้จะเหนื่อยล้าพยักหน้าเชิงอนุญาต “เข้ามาได้”

            “คาราวะท่านเจ้าเมือง.. พวกเราคือตัวแทนของชาวซินเย่ มีคำร้องเสนอแนะขอรับ” ไม่พูดร่ำทำเำลง บางทีคนพวกนี้คงคุ้นชินกับการที่เจ้าเมืองใหม่คนนี้วิ่งวุ่นทั้งเช้าเย็นเพื่อความสะดวกสะบายของพวกเขาจนเป็นของตายไปแล้ว ผู้เฒ่าเคราขาวอดีตผู้ใหญ่บ้านกล่าวอย่างน่าเชื่อถือ “ระยะนี้มีคนต่างถิ่นย้ายเข้ามาตั้งรกรากทำให้ศาสนาและความเชื่อมีความหลากหลาย.. เกรงว่าหากปล่อยไปนานวันเข้า เหล่าสาวกไท่ผิงที่มีคนมากสุดลัทธิกบฎจะก่อจลาจลความวุ่นวายได้”

            “พวกเจ้าคงไม่ได้มาแค่เพราะเหตุผลนี้เพียงอย่างเดียว ว่ามาเถิด มีเรื่องใดต้องการให้ข้าช่วย”

            แม้จะใช้คำว่าช่วย ทว่าสีหน้าท่านเจ้าเมืองเสิ่นกลับไม่สู้ดีนัก เขาเตรียมวูบได้ทุกเมื่อจากการอ่อนล้าสะสม

            “เพื่อป้องกันความแตกแยกและรวมชาวเมืองให้มีน้ำหนึง่ใจเดียวกัน พวกเรามีความคิดว่าท่านเจ้าเมืองเร่งสร้างศาลหลักเมืองเพื่อเป็นประกอบพิธีสร้างความสามัคคีแก่มวลชนขอรับ” เหล่าชาวบ้านแจ้งจุดประสงคืเมื่อส่งคำร้องแล้วก็ไม่ยอมจากไปไหนเฝ้ารอคำตอบ

            “...ศาลหลักเมืองอย่างนั้นสินะ ข้าไม่ใคร่สนับสนุนสิ่งอย่างพิธีกรรมที่กดหัวคนไว้เป็นเบี้ยล่างของสวรรค์ เอาเป็นชื่ออื่นอย่างลานศรัทธาแล้วกัน อย่างไรด้านของการใช้งานก็ไม่เปลี่ยนแปลงนัก.. ฟางอี้ จัดสร้างศาลหลักเมืองใช้งบประมาณเท่าไร” น้ำเสียงที่อ่อนแรงของท่านเจ้าเมืองสอบถามคนสนิท เมื่อเลขาชัว่คราวทำหน้าที่แล้วก็ตอบอย่างฉะฉาน

            “เรียนท่านเจ้าเมือง ค่าก่อสร้าง 600 ตำลึงทอง ไม้ 3000 ท่อน หิน 9000 ขอรับ”
            “มากเพียงนั้นเชียว… ทุกท่านที่อยู่ตรงนี้ ล้วนได้ยินแล้วสินะว่าเราต้องแลกทั้งทรัพยากรและเสียงที่อาจเป็นข้าวหม้อสุดท้ายต่อชีวิตบุตรหลานของท่านในฤดูหนาวที่ใกล้เข้ามา.. ยังพร้อมที่จะแลกรึไม่” เจ้าเมืองเสิ่นเป็นผู้ที่จริงจังและตรงไปตรงมาเลือกเปิดเผยมูลค่าของหนทางนี้ไปตามตรงอย่างไม่หมกเม็ดเช่นกัน  เขาหาได้ปฎิเสธที่จะสร้างสถานที่จำเป็นตามคำอ้างของเหล่าชาวเมืองที่ยืนหน้าซีดหลังทราบมูลค่า พวกเขาไม่มีทั้งทรัพยากรและจำนวนเงินมหาศาลที่ว่า “ฟางอี้ เหมือนว่าเจ้ามีบางสิ่งจะพูด อย่ามัวอ้ำอึ้งรีบว่ามา”

            “ขอรับ.. การสร้างศาลหลักเมืองยังมีพื้นที่ต้องขายและบุกเบิก ยังมีค่ายกระดับอีกรวมแล้วใช้ 1000 ตำลึงทอง 15000 ไม้ 4400 หิน.. กล่าวคือ หากนำไปต่อเติมกำแพงอาจเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่าขอรับ”

            เหล่าชาวบ้านและตัวแทนล้วนคอตกไปตามๆ กัน ดูท่าความหวังต้องจ่ายด้วยราคาที่สูงจนคาดไม่ถึง พวกเขาเลิ่กลั่กเหงื่อซึมแผ่นหลังหันไปมองทางท่านเจ้าเมืองด้านหลังโต๊ะว่าการ เงินจำนวนนี้หากขุดรีดเอาจากประชาชนใช่ว่าจะมไ่ได้ แต่จะมีสักกี่บ้านที่ล่มจมยากจะรู้

            “ในเมื่อเป้นคำร้องของชาวเมือง ข้าจะปล่อยปละละเลยได้อย่างไร ในบานะเจ้าเมืองซินเย่.. ความปรองดองของผู้ใต้ปกครองคือสิ่งสำคัญ อนุมัติการสร้าง เร่งให้เสร็จในเร็ววัน.. แต่ทุกคนจงกลับไปบอกถึงราคาที่ต้องแลกแก่คนของเจ้า ลานแห่งนี้จะเป็นสมบัติของส่วนรวม ครั้งหน้าเมื่อต้องการเรียกร้องสิ่งใดในเมืองให้คิดถึงเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นสำคัญ.. พวกเจ้าพร้อมจะแลกปากท้อง ความอยู่รอดของคนในครอบครัวกับความศรัทธารึไม่ คิดได้แล้วแล้วค่อยเผชิญหน้ากับข้า
            “ข… ขอบพระคุณท่านเจ้าเมือง พวกข้าจะเร่งกระจายข่าว เราทุกคน จะช่วยเป้นส่วนหนึง่ในกำลังสำคัญสร้างลานศรัทธาขอรับ” เหล่าชาวบ้านล้วนปิติยินดี ขณะที่พวกเขาได้สมประสงค์และหันหลังจากไปนั้น กลับไม่มีสักคนที่เอะใจและหันมาถามความเป็นอยุ่ของเจ้าเมือง

            เมื่อไร้เงาของเหล่าคำร้องรายวัน ร่างเพรียวลุกขึ้นยืนพลางถอนหายใจเอื่อยๆ บางทีคงต้องพักผ่อนสักนิดให้สมองปลอดโปร่ง โม่เสวียนเดินเล่นไปทางสวนท้ายจวน ขณะกำลังลูบลำต้นของต้นไม้โบราณอายุหลายร้อยปีอยู่นั้น อยู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นกับความว่างเปล่ารอบตัว

            “ข้าไม่เข้าใจจริงๆ.. สิ่งที่ข้ากำลังทำอยู่นี้ มันคือการช่วยเหลือพวกเขาไปในทางที่ถูกควรแล้วหรือ? จะมีใครที่สามารถหาคำตอบนี้ได้บ้าง? ทำไมในใจข้า.. ถึงไม่อาจสงบลงได้แม้เสียวนาที”
            ราวกับพลังงานบางอย่างในต้นไม้โบราณรับรุ้ได้ถึงความตั้งมั่นอันแรงกล้า จู่ๆ ท้องฟ้าก็เปิดออกเป็นลำแสงทั้งเจ้ดสี หมู่เมฆมงคลลอยลงต่ำวนเวียนรอบบ่าของเจ้าเมืองเสิ่น เสียงอันใสกังวานของวิหคสวรรค์ขับขานราวกับตอบรับคำเพรียก พร้อมกันลำแสงสีรุ้งก็แตกออกเป็นสายจรดอยู่ที่ทิศทางวงกลมรอบตัวเจ้าของร่างคราม

            “ส่งดวงใจสละไปเพื่อแผ่นดิน เพื่อสันติสุขทั่วหล้าไม่คิดย้อนกลับ ข้า ‘ฟ่าน หลี่’ ขอรับใช้ท่าน” ลำแสงสีม่วงเมื่อจางออกกลายเป็นบุรุษชุดม่วงสวมหน้ากากครึ่งใบหน้าประสานมืออย่างองอาจ แม้นัยน์ตาเจือความเจ้าเล่ห์กลบแฝง

            “เหล่านกบินไกลในที่สุดต้องคืนถิ่น จิ้งจอกใกล้สิ้นหัวยังหันสู่รังเกิด ปัญญาของ ‘ชวีผิง’ อยู่ในมือท่านแล้ว” แสงสีครามแตกออกเป็นกลิ่นดอกฮุ่ยหอมหวาน บัณฑิตหนุ่มใบหน้าละมุนทั้งร่างเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนลงคำนับเบื้องหน้า

            “หยกดีไร้ตำหนิ วิญญูชนรักษาสัจจะ ยอดสมบัติแลกสิบห้าหัวเมือง คนสับปลับใช้ทำสิ่งใดมิได้เลย ข้า ‘หลินเซียงหรู’ .. ขอเป็นกำลังให้ท่าน” จังหวะถัดมาแสงสีเขียวพลันแตกออกเผยโฉมของบุรุษหน้าหวานคล้ายอิสตรี ท่าทางจริงจังเด็ดเดี่ยวประสานมือเป็นสายที่สาม

            “ปกครองยุคเข็ญ ปกปักษ์บ้านเกิด ข้าไม่ทำ ผู้ใดจะทำ.. ‘เว่ยอิง’ แห่งเว่ย ยินดีเป็นโล่ให้ท่าน” ลำแสงสีเหลืองแม้อ่อนกำลังลงปรากฎเงาร่างยังคงความสง่างามของราชนิกูล บุรุษวัยกลางคนเส้นผมบางส่วนกลายเป็นสีขาวแต่บารมีที่แผ่ออกมาไมไ่ด้ทำให้เขาดูด้อยกว่าผู้ใด

            คราวนี้เหลือเพียงลำแสงสีส้มและสีแดงที่ใหญ่กว่าสีสันอื่นๆ มันแตกออกอย่างละสองสาย แทบจะมีเงาร่างของวีรชนทั้งสี่ปรากฎตัวขึ้นมาไล่เลี่ยกัน สีส้มนั้นหนึ่งร่างเงียบขรึม อีหกหนึง่ร่างเปล่งระกายรอยยิ้มเบิกบาน

            “ภักดีอยู่ที่ใจ ใยต้องประกาศคุณค่าให้คนตัดสิน.. ‘ก่วน จิ้ง’ จากวันนี้อาสาเป็นมือขวาของท่าน” ชายหนุ่มผมหยักศกถือพัดขนกระเรียนในมือเดินเข้ามาประสานคำนับ ร่างของเขามีสเน่ห์ที่จากจะถอนสายตาทว่าก็ทำให้รุ้สึกว่างไม่อาจวางใจได้เต็มร้อยส่วน

            “สิบปีล้างแค้นไม่สาย แก้แค้นไม่แก้ไข ผู้ใดดูหมิ่นข้า ผู้นั้นจะได้ลิ้มรสหายนะ… ‘ซุน ปิน’ ผู้ด้อยค่า ไม่อาจพูดว่าเป็นกำลังให้ แต่ข้าสามารถกำจัดศัตรูของท่านทั้งหมดก่อนมันคิดร้าย” เหตุการแปลกประหลาดเกิดขึ้นอยา่งตอ่เนื่อง เมื่อเสียงของรถล้อเลื่อนเข้ามาใกล้ โม่เสวียนก้มลงมองก็พบว่าวีรชนคนล่าสุดคือคนพิการท่อนขาของเขาลีบและเล็ก ใบหน้ามีรอยสักของนักโทษ แววตาขุ่นแค้นแต่ก็ไม่อาจปิดบังประกายของปัญญาอันล้ำลึก

            สุดท้ายคือลำแสงสีแดงชาดที่แตกออกเป็นสองสายมันใช้เวลานานกว่าสีสันอื่นๆ กว่าที่ร่างของยอดนักรบจะเผยกายจากเงาชาด บุรุษสวมชุดเกราะเต็มตัวผู้องอาจก้าวออกมาคนแรก หว่างคิ้วอาจหาญเปี่ยมกลิ่นอายฆ่าฟันราวกับมีเสียงกลองศึกอยู่ฉากหลัง

            “ห่มหนังศัตรูต่างเสื่อหมอนไม่ปรารถนาอาภรณ์ล้ำค่า ดื่มด่ำสุราชิงชัย.. มีข้าอยู่ เหล่าทหารยืนหยัดสู้ศึกไม่หวั่นเกรง ‘หลี่มู่’ นับจากวันนี้จะทุ่มเทชีวิตออกศึกเพื่อท่าน”

            “.....” ท่านเจ้าเมืองตกตะลึงไปยิ่งความอ่อนล้าเข้าถาโถม เจอเรื่องเหนือคาดปะแดปะดังทุกอย่างเกิดขึ้นไวมากเขาเจียนจะวูบแยู่รอมร่อ กำลังจะเรียกคนอื่นๆ มาช่วยตรวจสอบเมื่อหันหลังไปก็พบว่าแสงสีชาดลำสุดท้ายนั้นแตกออกตรงหน้าตนพอดี

            เงาของวีรชนคนสุดท้ายก้าวออกมาด้วยรองเท้าเกราะเกล็ดมังกรแค่ก้าวเดียวผู้ที่ยืนอยู่ดดยรอบต่างสั่นสะด้านสัมผัสได้ถึงปรงกดดันระดับที่สูงขึ้นไป โม่เสวียนผละถอยโดยไม่ทันตั้งตัวจนเสียหลักร่างในชุดเกราะขาวสง่าก็ยื่นมือออกมาดึงแขนอีกฝ่ายประคองไว้จนมั่นคง แล้วใช้เสียงที่ขัดกับรูปลักษณ์เอ่ยบทกวี
.
“โกรธแค้นแสนคลั่ง เส้นเกศาตั้ง ใต้มาลา
เอนพิงอิงราว พิรุณกราวกราว ก็ละรา
แหงนเล็งเหลือบจ้อง นภาพลางกู่ร้อง ก้องโกญจา
กำแหงกล้าหาญ ปณิธานราน เร้าวิญญา
สามสิบขวบปี ยศศักดิ์แค่คลี ธุลีธรา
แปดพันลี้ทาง ท่องใต้เมฆางค์ และจันทรา
อย่ารั้งละเลย วัยทรามเศียรเอย หงอกแล้วหนา
“จิ้งคัง”ครั้งอัปยศ ยังมิแทนทด ความอัปรา
ความแค้นขึ้งใจ เสวกาคราใด ดับสูญหนา?
ขับขบวนรัถยาน หัก“เห้อหลานซาน” ด่านภิณทนา
หาญมั่นเจตน์มุ่ง หิวเนื้อ“หู”ปรุง เป็นภักษา
กระหายเลือด“ซยุงหนู” ดื่มดวดแล้วกู สรวลเสวนา
ร่วมกันอีกเรา ร่วมกอบกู้เอา ภูธารา
ค่อยค้อมบังคม บาทสวรรโยดม ณ ทวารา ฯ
แดงทั่วธาร - งักฮุย
หม่านเจียงหงฉือ – 滿江紅
.
            “แม้ต้องหนาวตายก็ไม่ขอเบียดเบียนบ้านชาวประชา แม้ต้องอดตายก็จะไม่ปฏิบัติตัวเยี่ยงโจร - ขโมย จากวันนี้ตราบจนชีพมลายเกียรติยศของ ‘เย่ว์ เฟย’ คือความภาคภูมิของท่าน ข้าจะออกศึกนำหัวของโจรกบฎมาให้ท่าน”

            เก้าคน เก้าชีวิตที่ปรากฎตัวขึ้นอย่างปุปปับ หากเป็นคนอื่นคงตะโกนลั่นแล้วว่าเกิดบ้าอะไรขึ้น เคราะห์ดีที่โม่เสวียนหาใช่บุคคลธรรมดา เจ้าเมืองเสิ่นพบเจอเรื่องเหนือธรรมชาติบ่อยเสียจนตั้งตัวเป็นศาสดาได้ เขาสูดลมหายใจรวบรวมสติให้กลับมาอยู่กับร่องกับรอยก่อนจะนำเอาอาหาร สุรา น้ำชามาต้อนรับทั้งเก้าเพื่อความเป็นมิตรอันดี

            “หนึง่ในผู้ติตดามของข้า จวี้ซิน.. ก็มีการปรากฎตัวที่แปลกประหลาดเหมือนพวกท่าน บางทีวัจนะของข้าคงส่งไปถึงสวรรค์ส่งผู้มากความสามารถมาช่วยการใหญ่อีกแรง.. ท่านทั้งเก้าวางใจเถิด นครแห่งนี้มีข้า ‘เสิ่น โม่เสวียน’ เป็นเจ้าเมือง ใต้บารมีของหวางน้อย หวังจื่อเสีย.. อนาคตของฮั่นอยู่ในมือพวกเราแล้ว แม้จะมีความเชื่อที่แตกต่างแต่เจียหลุนชางของข้านั้นเปิดกว้างยอมรับความเป็นไปได้ที่หลากหลาย.. ท่านมาอย่างมิตรก็โปรดวางใจ จากนี้ไปขอฝากตัวด้วย”
            เขาเน้นย้ำเรื่องขุมกำลังเป็นสิ่งแรกตามด้วยความเชื่อที่มี อย่างน้อยก็ไม่โดนเข้าใจว่าเป็นโจรกบฎเพราะตนยังมีเชื้อพระวงศ์ฮั่นอยู่ร่วมฝ่าย โม่เสวียนรินน้ำชาและสุราให้แต่ละคนด้วยตัวเอง ผู้ที่ชอบขนมของหวานตนก็ไม่รังเกียจที่จะตัดแบ่งให้อีกฝ่าย

            อีกไม่นานคงต้องเริ่มแต่งตั้งขุนนางในสภา ทดสอบความสามารถของคนเหล่านี้..

            ขณะกำลังสนทนาสร้างความคุ้นเคยอยู่นั้น จู่ๆ ฟางอี้ก็เร่งร้อนหน้าตาตื่นมาด้วยเรื่องด่วน “ท่านเจ้าเมือง!! ที่โรงน้ำชาเกิดเรื่องแล้วขอรับ บัณฑิตไร้ศาสนากับกลุ่มบัณฑิตชางเจียกำลังโต้แย้งกันใหญ่โต.. พาดพิงมาถึงท่านด้วย!”

            “.....อ่า อย่างนัน้คงเป็นเรื่องด่วนสินะ” มือคุ่ขาวที่กำลังรินสุราให้แม่ทัพเยว่ชะงักไป เขาวางจอกลงแล้วผละออกจากโต๊ะกลม สั่งให้ฟางอี้นำทางทั้งแปดไปยังที่พัก “คนเหล่านี้เป็นผู้มีความสามาารถที่ข้าเชิญมาช่วยงานราชการ มีฐานะเป็นแขกของข้าดูแลพวกเขาให้ดี.. บอกจวี้ซินไปเตรียมม้า ทางโรงน้ำชาเป็นเรื่องเร่งด้่น ปล่อยไว้นานไมไ่ด้”

            “ให้ข้าแจ้งทางหลิวไท่ฝูไหมขอรับ”

            “ไม่ต้อง… ช่วงนี้ราชครูมีธุระส่วนตัวต้องจัดการ อย่ารบกวนเขา” สีหน้าของท่านเจ้าเมืองซีดขาวแม้จะล้าเต็มที แต่ในเมื่อเป็นประชาชนของเขา ทั้งยังเป็นกลุ่มชางเจียไม่มีใครอีกแล้วสามารถจัดการได้ดีไปกว่าเมธาจารย์อย่างตน โม่เสีวยนหันไปกล่าวกับทั้งแปด “พวกท่านพึ่งมาอาจต้องการเวลาปรับตัวกับเมืองแห่งนี้ ฟางอี้จะช่วยพาไปยังีท่พัก หากมีสิ่งใดขาดเหลือบอกกับเขาได้เลยไม่ต้องเกรงใจ.. อีกเดี่ยวพอจัดการทางนั้นเสร็จ ข้าจะกลับมาปรึกษาราชการอีกครั้ง”

            “แต่ว่าท่าน... ขอรับนายท่าน..” ส่วนมากตอบรับโดยดี ในเมื่ออีกฝ่ายคือนายคนปัจจุบันของตน แต่ก็ยังมีส่วนน้อยที่รู่สึกผิดสังเกตบางอย่างแต่ก็ยังไม่เปิดเผยตรงๆ

             คล้อยหลังท่านเจ้าเมืองจากไปบัณฑิตหนุ่มฟางอี้ดูหดหู่ยิ่งนัก เขาก้มหน้าทอดอาลัยบ่นพึมพำเสียงเบา “เฮ้อ… เข้าวันที่สามแล้ว ไม่พักผ่อนแบบนี้ต่อให้เป็นเทพเซียนยังไม่ไหวเลย! นายท่านนะนายท่าน.. ทำไมคนพวกนั้นไม่รุ้จักอยุ่สงบๆ กันบ้าง!”

            กล่าวจบก็ปรับท่าทางกลับมาเป็นบัณพิตผู้หลังตรงดูน่าเชื่อถือเช่นเคย ยิ้มแย้มผายมือไปทางเืรอนพักนำทางวีรชนทั้งเก้าแขกของท่านเจ้าเมืองไป “เชิญตามข้ามาทางนี้ขอรับ เมื่อครุ่ข้าให้คนไปบอกท่านจวี้ซินไว้แล้ว เขาจะช่วยแนะนำเรื่องราวตา่งๆ ที่จำเป้นเอง..”

            **อิเว้นท์พิเศษ เลือก 1 ขุนพลที่ปรากฎออกมาสามารถ *สังเกต* อาการของเจ้าเมืองสอบถามฟางอี้ถึงสถานที่และตามมาได้ **   

♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
-เอฟเฟคตัวละคร-
(สถาปนิก)
+2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง
(เลื่อมใสศรัทธา)
+3 Point จากการโรลทำงาน
(ทะเยอทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลพัฒนาเมือง
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ)
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
(หูดี)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย
(เห็นอกเห็นใจ)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ
-2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
(นักวิชาการ)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้
(นักวางแผน)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย
รวม 28 Point 55exp +30 โหด -25 ความเตรียดจากการทำงาน
—------
+60 โหด
+40 คุณธรรม

H-009 ชวี ผิง ดี
+35 มอบชาหลงจิ่ง
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +55
.
H-015 เว่ย อิง ดี
+35 มอบชาปี้หลัวชุน
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+15 นิสัยเดียวกัน(เห็นอกเห็นใจ)
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +70
.
H-012 หลี่ มู่ ดี
+35 มอบสุราเบญจมาศ
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +55
..
H-013 ซุน ปิน มาร
+35 มอบชาปี้หลัวชุน
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+15 หัวมาร
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +70
.
.
H-010 เยว่เฟย ดี
+35 มอบสุราเบญจมาศ
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +55
.
.
H-014 หลิน เซียงหยู มาร
+35 มอบชาปี้หลัวชุน
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+15 หัวมาร
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +70
.
.
H-016 ก่วน จิ้ง คลั่ง
+35 มอบสุราเบญจมาศ
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+10 พบมาร
+5 พูดคุยรายวัน
-10 ทะเยอะทะยาน
รวม +55
.
+10 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ
(เลื่อมใสศรัทธา)
+25 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ
+15 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิหรือ โรลเกี่ยวกับศาสนา
x4 ความศรัทธา เจ้าลัทธิ
x2 ความศรัทธา VIP

@Watcher



←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-9-15 00:50:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ท่านเจ้าเมืองที่แน่นิ่งไป
-ข้อกังขาของหลิวไท่ฝู-
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
            เพราะการอุ้มใอ้อมแขนสำหรับท่านเจ้าเมืองผู้หมดสิไปด้วยความอ่อนล้าดูจะเป็นการลบหลู่สถานภาพของอีกฝ่าย หลี่มู่จึงเปลี่ยนมาแบกร่างสีครามขึ้นบนหลังและใช้เส้นทางเลี่ยงสายตาผู้คนไปจนถึงจวนเจ้าเมือง ทุกครั้งที่ลมหายใจอันสดชื่นเป่ารดบริเวณลำคอทำให้เขาสะกิดใจอยุ่บ้างว่านายใหม่ผู้นี้คงเป็นบุรุษสำอางค์ไม่น้อย ขนาดกลิ่นกายอย่างบุรุษยังไม่มีกลับกันเขาแบกมานานเพียงนี้กลับไม่รุ้สึกว่าหนักเลยสักนิด
            “เกิดอะไรขึ้นกับเขา?” เพียงก้าวเข้าประตุมาก็มีเสียงเรียกที่เย็นชาและกดดันยิ่ง หลี่มู่เงยหน้าขึ้นค่อยพบว่าผู้มาคือบุรุษอาภรณ์ขาวทีู่ปลักษณ์ราวกับเทพเซียน งดงามเสียจนตาพร่าถ้าไม่ติดว่าเส้นสายบนใบหน้าออกจะเคร่งขรึมไม่เป็นมิตรไปสักหน่อย
            “นายท่านออกไปสะสางข้อพิพาท เพียงหลับไปด้วยความอ่อนล้าจึงให้ข้าแบกกลับมา” ด้วยไม่รู้ฐานะของอีกฝ่ายจึงตอบกลลับไปอย่างแบ่งรับแบ่งสุ้ ขเาไมไ่ด้ทำอะไรผิดก็จริง แต่ในเมื่อดูจากการที่ชาบชุดขาวสามารถเข้านอกออกในส่วนเรือนของท่านเจ้าเมืองได้ถ้าไม่ใช่แขกก็คงเป็นคนสนิท
            “อย่างนั้นรึ? คงจะเหนื่อยมากสินะ เจ้าไปพักเถอะ ต่อจากนี้ข้าจะดูแลเอง”

            “ขออภัยด้วย ข้าไม่ทราบว่าท่านเป็นใครคงจะส่งนายท่านไปเช่นนี้ยิ่งไม่อาจวางใจ” ขุนพลหนุ่มเบี่ยงกายพาร่างบางหลบจากมือของอีกฝ่ายที่ยื่นเข้ามาหมายจะพาตัวนายของเขาไป
            “หลิวช่างสวี่ จะเรียกว่าหมอส่วนตัวของเจ้าเมืองก็ไม่ผิด” เขาคิดคำนวนอย่างถี่ถ้วนแล้ว ซีเยีย่นมองว่าอีกฝ่ายเรียกโม่เสวียนว่านายท่านแต่ตนกลับไม่คุ้นหน้าของขุนพลผู้นี้สักนิด บางทีอาจเป็นผู้มีความสามารถที่อีกฝ่ายเกริ่นว่าจะสรรหามาช่วยงาน รอดูท่าทีไปก่อนจึงไม่บอกบานะทั้งหมด
            “คำพูดปากเปล่ายากจะสรุป มีสิ่งยืนยันรึไม่?”
            “หึ ของแบบนั้นไม่จำเป็น ในแขนเสื้อของเจ้าเมืองมีขวดยากระเบื้องอยุ่ นั่นคือยาบำรุงที่ข้าปรุงขึ้นเอง ลูกกลอนมีสีครามใส่ลงในขวดวาดลายคลื่น”
            เมื่อขุนพลหนุ่มตรวจสอบจนพอใจว่าคำพูดของคนผู้นี้เป็นความจริง สุดท้ายก็ยอมมอบคนให้โดยดีแน่นอนว่าไม่จบแค่เดินจากไปแต่หลี่มู่ได้แจ้งต่อฟางอี้เอาไว้อีกชั้นหนึ่ง กลายเป้นว่าหลังอธิบายเรื่องราวหนึ่งจบเลขาของท่านเจ้าเมืองพยักหน้าแล้วค่อยเฉลยสิ่งที่ซีเยี่ยนจงใจจะปิดบังไปว่า ‘บุรุษชุดขาวหน้านิ่งรูปโฉมราวเทพเสกสรรค์อีกทั้งยังแซ่หลิว ในเมืองซินเย่แห่งนี้มีเพียงหนึ่งเดียว ขุนพลหลี่มาถึงวันแรกท่านก็มีวาสนาได้พบหลิวไท่ฝูเข้าแล้ว’
             อีกทางด้านหนึ่งหลิวไท่ฝูกำลังดูแลท่านเจ้าเมืองในสภาพหลับลึกด้วยความอ่อนเพลียที่สั่งสมกันมาหลายวันกำลังกลัดกลุ้ม จวนแห่งนี้ไม่มีบ่าวไพร่รึแม้แต่คนใช้สักคน เหล่าผู้ติดตามล้วนถูกจัดเป็นแขกและว่างตัวช่วยงานในอนาคต แม้แต่มู่ชุนเองก็ได้รับมอบหมายงานไม่ว่างมาดูแลปล่อยให้เรือนพักแห่งนี้ว่างเปล่าแค่จะตักน้ำสักถังยังต้องกระทำเอง

            “พอถามว่าจะให้หาบ่าวมารับใช้ไหม เจ้าก็ปฎิเสธท่าเดียว.. ไว้ใจคนมันยากเพียงนั้น?”

            ชายหนุ่มส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นเพื่อกดผ้าผืนเล็กลงในถังน้ำ หากปล่อยหให้หลับไปทั้งแบบนี้คงจะไม่สบายตัวเป็นแน่ เห็นแก่ที่นับอีกฝ่ายเป็นสหายและไหนจะใบหน้าที่คล้ายคลึงกับผู้ที่เขารึกถึงราวเก้าส่วน เหตุผลสองข้อก็พอใจดำโยนทิ้งไว้บนเตียงไม่ลง
            ทว่าเมื่อเริ่มเช็ดไปตามใบหน้าและข้แขนอีกฝ่ายกลับมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น สัมผัสอันคุ้นเคยยามพัวพันกับนิ้วมือเรียวขาวดั่งหิมะนั้นแทบจะทาบสนิทกับคนผู้นัน้ในงานเทศกาล บนตัวของโม่เสวียนมีกลิ่นของป๋อเหอที่เย็นสดชื่น ส่วนอู้ม่านจะกี่ครั้งที่พบนางก็มักจะได้กลิ่นของดอกอวี้หลันอยุ่เป็นนิจ ‘ถุงหอมอาจเปลี่ยนกันได้.. แต่ถ้าเป็นร่างกายล่ะ’
            เงาร่างสูงโน้มลงหาผู้ที่กำลังจมดิ่งในห้วงฝัน เมื่อมองอย่างใกล้ชิดทั้งสองคนก็มีรายละเอียดที่คล้ายคลึงกันหลายจุดหากไม่ติดที่ว่า.. สายตายคมเลื่อนระดับลงจากลำคอจนถึงช่วงที่ราบเรียบแตกต่างกับอิสตรี เขาจำได้ว่าอู้ม่านมีสัดส่วนที่เพรียวบางแต่ก็ยังคงมีส่วนที่แสดงถึงอิตถีเพศ
            ครั้งเดินทางไปเจียงหนานอู้ม่านเคยพูดว่า ‘หากมีโม่เสวียนอยู่ ที่ตรงนั้นก็ไม่อาจมีนาง’ เป็นการบอกใบ้ถึงบางสิ่งใช่ไหม?
            สิ่งที่เขาคิดมันเหลวไหล ซีเยีย่นทราบดี.. เพียงแต่ถ้าเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้มีบางสิ่งซ่อนอยู่ล่ะ?

          ราวกับถูกมารร้ายแห่งความสงสัยเข้าครอบงำ มือหนาเคลื่อนลงไปยังสายคาดเอวของเจ้าเมืองเสิ่นเมื่อปลายนิ้วเตรียมจะปลดมันออก จู่ๆ ร่างที่นอนนิ่งก็ขยับพลิกตัวทำให้เขาชะงักไปแล้วกำหมัดแน่นลุกเดินออกไปจากเรือนอย่างก่นด่าตนเอง เขากำลังทำอะไรอยู่? ทำสิ่งไร้มารยาทกับสหายในสภาพไม่อาจป้องกันตัว มารยาทที่ควรปฎิบัติทิ้งลงเหวไปหมดแล้วรึไร..
            หลิวซีเยี่ยนเดินกลับมายังข้างเตียงอีกครั้งพร้อมถ้วยยาบำรุงกำลังในมือ แต่ละช้อนที่ป้อนลงไปอย่างระมัดระวังไม่ให้สำลักเต้มไปด้วยเงาสะท้อนของสายตาคู่คมที่จับจ้องอย่างคิดไม่ตก
            “ไม่ว่าพวกเจ้าทั้งสองกำลังปิดบังสิ่งใดอยู่… ข้าจะรอจนกว่าจะถึงวันที่เจ้าเลือกจะพูดมันออกมาเอง”

            ผ่านไปอีกหนึ่งคืนหลิวไท่ฝูสั่งไม่ให้ใครนำเรื่องไปรบกวนเจ้าเมืองเสิ่น เขารับสะสางงานราชการแทนในส่วนที่จำเป็น อาการขึ้นๆ ลงๆ ของราชครูทำเอาชาวเมืองสับสนระคนเลิ่กลั่กไม่มีใครกล้าก่อเรื่องนัก ส่วนทางด้านแขกผู้มากสามารถทั้งแปดก็ไม่พ้นถูกหลิวซีเยี่ยนเรียกตัวมาทดสอบระคนซักฟอกอย่างละเอียดเก็บรวบรวมบันทึกข้อเด่นข้อด้อยของพวกเขาเหล่านั้นอาไว้ รอให้เจ้าเมืองตัวดีลืมตาขึ้นมาจัดการสะสางต่อ
            ผ่านไปอีกหนึ่งวันโม่เสวียนที่ได้พักผ่อนอย่างเต็ที่และกินจนอิ่มก็เดินหน้าใสมารับคำร้องของชาวเมืองต่อ กลับกลายเป็นว่าสามชีวิตผู้ที่รอเขาอยุ่ในห้องด๔งว่าการกลับมิใช่ชาวซินเย่ หนึ่งในนั้นงดงามเปี่ยมพิษมีรอยยิ้มมอมเมาคน หนึ่งในนั้นกำยำล่ำสันแค่โล่ที่แบกมาก็บดบังแสงตะวันไปเกินครึ่งเรี่ยวแรงมหาศาลเกินคณา และหนึ่งในนั้นคือชาวต่างแดนที่มีเส้นเกศาสีทองคำผู้มีสเน่ห์อันแปลกประหลาดทำเอาบุปผาทั้งสวนดูหมองไปถนัดตา

            “ท่านราชครู… นี่มันเรื่องอะไรกัน คนเหล่านี้คือ?” หลังยืนจ้องตากันปริบๆ มาพักใหญ่สุดท้ายร่างเพรียวก็เอ่ยถามคนที่ครองพื้นที่ตำแหน่งที่ปรึกษาข้างเก้าอี้
            “ทักทายไว้สิ ทั้งสามคือสหายรุ้ใจของข้าเหล่าจอมยุทธ์ที่ตอบรับคำร้องขอ.. จะมาช่วยเป็นกำลังสำคัญให้กับเรา ฝ่านการรับรองขากข้า ทั้งสามสามารถไว้วางใจได้”
            เหมือนกับว่าตาฝาดปวันนี้สีหน้าของหลิวไท่ฝูดูลำพองอย่างผิดสังเกต เชื้อเชิญผู้มีความสามารถมาร่วมงานได้แน่นอนล่ะว่าสร้างความชอบครั้งใหญ่ แต่รอจนแล้วจนเล่าโม่เสวียนกลับไม่เอ่ยชมเขาสักที ทำไมรุ้สึกหงุดหงิดอย่างประหลาด
            “ข้าเสิ่นโม่เสวียน ขอต้อนรับเหล่าเหมินเค่อทั้งสาม หวังว่าในอนาคตจะได้ร่วมงานใหญ่พัฒนาบ้านเมืองกับพวกท่าน” คนชุดครามคลี่รอยยิ้มเป็นมิตรไม่มีการวางท่าหรือเจ้ายศเจ้าอย่าง เขาเรียยกให้ผู้ติดตามยกสุราอาหารและขนมทานเล่นออกมาเพื่อนั่งทานไปสนทนาไปสร้างความผ่อนคลาย
            “ข้าเกิ้นฝ่ากวาน รุ้จักกับราชครูหลิวมานานแล้ว ทันทีที่เขาเขียนจดหมายไปเยีย่นอวิ๋นว่าต้องการความช่วยเหลือเพื่อความเป็นอยู่ของผู้คนในใต้หล้า ข้าก็เร่งเดินทางมาจนม้าล้มไปหกตัว” บุรุษร่างโตพูดขึ้นก่อนเขานำโล่วางไว้ข้างกายเสมอ ยามดื่มสุราคำโตก็องอาจยิง่นัก
            “เจียงหน่วน เจ้าเมืองเสิ่นเรียกข้าว่าอาหน่วนได้ ช่วงนี้ได้ข่าวว่าละแวกจิงโจวมีแหล่งสมุนไพรหายาก คงไม่ว่าอะไรถ้าข้าจะขอยืมพรานป่าสักคนสองคนไปนำนาง อ่อ.. แน่นอนเรื่องช่วยงานน่ะไม่ต้องกังวล” หญิงสาวสวมเครื่องเงินและชุดของชาวเผ่าเหมียวเจียงพูดขึ้นบ้าง นางดูสนใจเรื่องของตนเองมาก่อนทว่าโม่เสวียนสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายมิใช่พวกแล้งน้ำใจเสียทีเดียว ดูจากการที่นางมักหันไปพูดคุยกับสัตว์เลีย้งตัวเล็กๆ ในถุงข้างเอวก็น่ารักไม่หยอก
            “แม่นางเจียงยังพกเจ้าพวกนั้นไปไหนมาไหนด้วยอีกหรือ? ฮ่าๆ ระวังอย่าให้คนเห็นเล่า ชาวบ้านจะหวาดกลัวเอาได้” หลิวซีเยีย่นรู้ดีว่าของในถุงนัน้คือตัวอะไร เขาคลี่ยิ้มบางๆ อย่างมีเลศนัย
            “หึ กลัวทำไม เด็กๆ ของข้าออกจะน่ารัก”
            ด้านบุรุษผมทองหันขวับแล้วส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย “เจ้าเอาสัตว์สยองพวกนั้นไปไกลๆ โต๊ะอาหาร ข้ากลืนข้าวไม่ลง… อ้อ ขออภัยที่แนะนำตัวช้า ข้า เซวียนหยวน จินจ้าน สามารถเรียกข้าจินจ้าน ครั้งนี้เพื่อเรียกข้ามาไม่รุ้ว่าซีเยี่ยนเปลืองหมึกไปกี่แท่ง ฮ่าๆๆ”
            “น้อยกว่าที่เจ้าคิดแล้วกัน อย่าลืมสิว่าข้าสลักไม้แล้วทำภาพพิมพ์สารเอาก็ได้” ราชครูหลิวโต้กลับชายผมทอง ดูเหมือนทั้งสองจะสนิทกันไม่น้อยไปกว่าสองจอมยุทธ์เลย โม่เสวียนมองภาพเบื้องหน้าแล้วคาดหวังถึงผลลัทธ์ที่ตามมา หากพันธมิตรแข็งเกร่งมาร่วมช่วยงานเป"นไปได้ว่าทุกสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นอีก "ช่วงนี้ชางเจียกำลังเปลี่ยนแปลงบริบททางสังคม จะชายหรือหญิงสามารถใช้ชีวิตในเมืองได้อย่างเท่าเทียมกัน ถึงอย่างนั้นหากเป็นัตว์เลี้ยงที่อาจสร้างความหวาดกลัวก็ขอให้ระวังสักนิดนะ"
            “ทั้งสามเดินทางมาไกลคคงเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย ข้าจะให้ฟางอี้ช่วยเตรียมที่พักและอาหาร หลังจากนั้นเราค่อยหารือกันเรื่องแบ่งสรรหน้าที่ดูแล.. ช่วงนี้ถือว่าผ่อนคลายใช้ชีวิตในเมืองซินเย่อย่างสบายใจเถอะ”
                        
           
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
-เอฟเฟคตัวละคร-
(สถาปนิก)
+2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง
(เลื่อมใสศรัทธา)
+3 Point จากการโรลทำงาน
(ทะเยอทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลพัฒนาเมือง
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ)
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
(หูดี)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย
(เห็นอกเห็นใจ)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ
-2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
(นักวิชาการ)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้
(นักวางแผน)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย
รวม 28 Point 55exp +90 โหด +20 คุณธรรม -25 ความเครียดจากการกิน
—------
เอฟเฟคหลิวซีเยี่ยน
(งดงาม)
+6 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์
(ถ่อมตน)
+2 Point จากการโรลให้เกียรติอีกฝ่าย
+10 EXP จากการโรลสรรเสริญคู่สนทนาด้วยความจริง
(สุขุม)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทน
(เจ้าเล่ห์-เสแสร้ง)
+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย
+30% คุ้มครองแผนการของคุณไม่ถูกเปิดโปง
รวม 14pt 30exp
.
—-----------
x3.5 ทุกครั้งที่คุยแลกเปลี่ยนศาสนากับคนศาสนาเดียวกัน (เจียหลุนชาง-หลิวซีเยี่ยน)
+10 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ
(เลื่อมใสศรัทธา)
+25 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ
+15 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิหรือ โรลเกี่ยวกับศาสนา
x4 ความศรัทธา เจ้าลัทธิ
x2 ความศรัทธา VIP
+50 ต่อวัน โรลเผยแพร่ศาสนา

ความสัมพันธ์
(ซีเยี่ยน ♥ 171)
+35 มอบขนมบัวหิมะ
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+20 ระกาหนุนมะโรง
+15 มาร พบ มาร
-15 ดิน ข่ม น้ำ
+5 พูดคุยรายวัน
+?? อิเว้นท์เช็ดตัว
รวม +75+??
.
[230] เจียง หน่วน [มาร]
+35 มอบขนมชิงถวน
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  (หูดี)
+15 นิสัยเดียวกัน (เห็นอกเห็นใจ)  
+15 มาร พบ มาร
+20 ธาตุเกื้อหนุน ไฟ  หนุน ดิน
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +105
.
[234] เกิ้น หว่อสิง [ดี]
+35 มอบขนมบัวหิมะ
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  (หูดี)
+15 นิสัยเดียวกัน (เลื่อมใส)  
+20 ธาตุเกื้อหนุน ไฟ  หนุน ดิน
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +90
.
[235] เซวียนหยวน หมิง [คลั่ง]
+35 มอบลูกชิ้นหัวสิงห์(ม่วง)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  (หูดี)
+10 คลั่ง พบ มาร
+20 ธาตุเกื้อหนุน ดิน หนุน ทอง
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +85
.
เอฟเฟค หลี่มู่
+15 EXP จากการโรลสร้างความน่าเคารพศรัทธาต่อผู้พบเห็น (หลังตรง)
(สุขุม)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทนต่อความทรมานและอื่น ๆ ที่คนทั่วไปทนไม่ได้
รวม 35 exp 2pt
.
H-012 หลี่ มู่ ดี
+35 มอบสุราเบญจมาศ
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +55

@Watcher




←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-9-17 01:43:21 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สถานการณ์แปลกประหลาด
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
            กลางดึกสงัดจวนเจ้าเมืองที่ไร้บ่าวไพร่และคนรับใช้เรียกได้ว่าทางสะดวก บางทีนี่อาจเป้นเหตุผลที่โม่เสวียนเจ้าเมืองซินเย่ไม่เปิดรับคนงานจนถึงบัดนี้เพื่อเหตุผลบางอย่าง ‘หน้าต่างประตูไม่มีหูไม่มีตา หนอนบ่อนใส้สักตัวคิดจะเข้ามาข้าเองยังไม่เปิดรับ’ เรือนพักแยกนั้นวังเวงกว่าีท่ใด ยามนี้เงาร่างครามที่เคลื่อนไหวอย่างกระฉับกระเฉงพึ่งจะตวัดอักษรตัวสุดท้ายลงบนกระดาษ

            “หึ.. ก้คงประมาณนี้กำลังดี”

            เนตรคู่ครามวาวเรืองในความมืดมิดจับจ้องไปยังเรือนหลังของเหล่าผู้มีความสามารถ หลายวันแล้วที่ได้รับผู้ติตดามเพิ่มจัดให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีจนตายใจ ไหนจะสหายชาวยุทธ์ของราชครูหลิวที่ความเป็นมาลึกลับทัง้สามราย โม่เสวียนครุ่นคิดแผนการไว้เป้นอย่างดีแล้วว่าตนจะถือโอกาสนี้ในการทดลองบางอย่าง วันนี้ชายหนุ่มสวมอาภรณ์มิดชิดปิดใบหน้าด้วยหน้ากากไม้ ทัง้ตัวดูลึกลับและอึมครึม
            จดหมายนัดพบรุมเร้าเสียจนรบกวนสมาธิ คงต้องออกไปหาบางอย่างทำเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศและถือโอกาสนี้ทำบางสิ่งให้แก่ส่วนรวม

            นครแห่งนี้ตนทุ่มเทดูแลจนแทบขาดใจตายมาร่วมเดือน จะทรัพยากร เสบียง หรือแม้แต่เงินถุงเงินถังตนก็เตรียมไว้ให้แล้ว ร่างเพรียวแบกห่อผ้าขึ้นหลังอาศัยเงามืดเร้นกายลัดเลาะบนกำแพงจวน พอสังเกตเห็นสัญญาณบางอย่างก็กระโจนออกไปควบบนหลังอาชาออกจากเมืองไปในเวลาก่อนรุ่งสาง

            กว่าที่คนอื่นๆ จะรุ้ตัวว่า ‘ท่านเจ้าเมืองหายตัวไป’ นั่นก็เป็นยามสาม ฟางอี้พบว่านายท่านไม่เรียกหาเขามาตรวจคำร้องเหมือนอย่างเคย แต่กลับกันบนโต๊ะทำงานวางไว้ด้วยจดหมายหนึ่งฉับับทำเอาเขาหน้าซีดเผือด
            “บรรลัยล่ะงานนี้…”

            เมื่อพวกจวี้ซินและเหล่าหมินเค่อวีรชนทั้งแปดมาถึงภาพที่พวกเขาเห็นสามจอมยุทธ์หน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างไม่นึกว่าท่านเจ้าเมืองจะเป้นคนตลกร้ายก็บังเกิดขึ้น เซวียนหยวนหมิงอ่านจดหมายลายมือของโม่เสวียนให้ทุกคนในห้องได้ยินได้ฟัง เขาเชื่อว่าเรื่องนี้เองก็จะไปถึงหลิวซีเยีย่นก่อนฟ้าสางแน่

            ถึง.. ทุกท่านที่ได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ลองมาคิดดูแล้วตัวข้าในฐานะเจ้าเมืองไม่อาจดูแลชาวประชาได้รอบด้านในทุกช่วงเวลา ภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่เกินกำลังของคนเพียงคนเดียว สมควรมองหาผู้มากสามารถมาช่วยเหลือ ระหว่างที่ข้าออกไปสะสางธุระด่วนขอพวกท่านจงเห็นครานี้เป็นโอกาส ใช้ทรัพยากรในยุ้งฉางแสดงความสามารถในการบริหารบ้านเมือง บำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ชาวประชา.. หากสงสัยสิ่งใดให้ปรึกษาราชครูหลิว ดูเหมือนว่าปัญหาใหญ่ในตอนนี้จะเป็นเรื่องศาสนากบฎ หากผู้ใดสามารถจัดการเรื่องที่เหล่าชาวเมืองกังวลใจได้ วันที่ข้ากลับเข้าเมืองคนผู้นั้นจะได้รับตำแหน่งฐานะที่เหมาะสม รวมถึงผู้ช่วยเหลือทุกคนก็จะได้รับรางวัลไปด้วย---โม่เสวียน เจ้าเมืองซินเย่

            “ข้าเข้าใจถูกไหม.. ดูเหมือนท่านเจ้าเมืองจะเปิดสอบขุนนางเข้าให้แล้ว” สวินโหยวลูบห้าจรดปลายคาง รอบด้านมีแต่คนเก่งกาจเขาเริ่มเครียดแล้วสิ
            “..ก็อยากจะปฎิเสธ แต่ดูแล้วคงใช่” เกิ้นหว่อสิงหัวเราะร่วน ก็ดี ตั้งแต่เดินทางมานี่ยังไม่ด้ยืดเส้นยืดสายเลย
            
โม่เสวียน/อู้ม่าน ออกจากเมืองซฺนเย่เป็นเวลา xx วัน
ทุกสิ่งมอบหมายให้เหล่าผู้ติดตามดูแลเพื่อเป็นบททดสอบแต่งตั้งขุนนาง
            
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
-เอฟเฟคตัวละคร-
(สถาปนิก)
+2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง
(เลื่อมใสศรัทธา)
+3 Point จากการโรลทำงาน
(ทะเยอทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลพัฒนาเมือง
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ)
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
(หูดี)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย
(เห็นอกเห็นใจ)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ
-2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
(นักวิชาการ)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้
(นักวางแผน)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย
รวม 28 Point 55exp +30 โหด -25 ความเตรียดจากการกิน
—------

@Watcher


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-10-2 23:59:37 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WuMan เมื่อ 2022-10-9 14:50

-คดีความนักปราชญ์มากเรื่อง-
ขงจื้อ VS ม่อจื้อ
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
           เกิดเหตุประหลาดขึ้นเพียงวันแรกที่เจ้าเมือง 'หายตัวไป' แม้ในทางการหลิวไท่ฝูจะให้คนประกาศออกไปว่าท่านเจ้าเมืองเสิ่นไปติดต่อราชการที่เมืองหลวง หากทว่าเหล่าขุนนางและผู้ติดตามทุกรายในโถงยามนี้ล้วนทราบความจริงดี

           เจ้าเมืองหายตัวไปกระทันหันเพื่อทดสอบพวกเขา…

           ราวกับคำท้าทายที่ถูกละเลงไว้บนสานส์ 'จงแสดงความสามารถของพวกเจ้าออกมาในระหว่างที่ข้าไม่อยู่ ทุ่มเททั้งกำลังและความคิดปกป้องเมืองนี้'

           คงไม่มีใครคิดหนักไปกว่าสวินโหยวเป็นห่วงสวัสดิภาพของเจ้าเมือง และไม่มีผู้ใดที่จะรู้นึกถึงความท้าทายไปกว่าเยว่เฟยและหลี่มู่

           หวางน้อยยังเยาว์วัยอำนาจการปกครองถูกมอบให้ผู้เป็นหัตุ์อย่างเจ้าเมืองเสิ่นและราชครูหลิว ตำแหน่งสำคัญในสภาใหม่ยังคงว่างเปล่า เหล่ากุนซือต่างเล็งเห็นว่านี่คือโอกาสชั้นเลิศ!

           "รายงาน!! กลุ่มบัณฑิตม่อเจียและบัณฑิตหยู(ขงจื้อ)มีข้อโต้แย้งจนลุกลาม ทั้งสองลัทธิจะใครก็ไม่ยอมใคร พวกเขาต้องการให้เจ้าเมืองตัดสินว่าคำสอนของข่งจื้อรึม่อจื้อดีกว่ากันขอรับ”

           เจ้าหน้าที่ด้านหน้าจวนนำข่าวมาแจ้งทำเอาทั่วทั้งโถงตกอยุ่ในสภาพกระอักกระอวนใจ ฝั่งของเยว่เฟยและหลี่มู่ถอนตัวจากโอกาสนี้ พวกตนยินดีรับหอกดาบตัวเปล่ามากกว่าโต้วาทีกับพวกหนอนหนังสือ ด้านซุนปินเองมีแค้นล่ำลึกกับเหตุการณ์คล้ายๆ กันจึงถอนตัวไปอีกราย

           เหลือแต่เพียงเว่ยอิง สวินโหยว และชวีผิงที่เสนอตัวอาสาช่วยวิเคราะห์สถานการ

           “เจ้าเมืองมีภารกิจเร่งด่วน เวลานี้ข้าจำต้องรักษาการแทน.. ไป ให้ทั้งสองฝ่ายเลือกคนมา ข้าจะดูสิว่ามาตราการของเจ้าเมืองเสิ่นพึ่งประกาศออกไป ใครยังกล้าสั่นคลอนความสามัคคีชาวเมืองอีก”

           หลิวซีเยี่ยนถอนหายใจเจ้าพวกบัณฑิตสรรหาความวุ่นวายไม่จบสิ้นหาแต่กลับเป็นเรื่องดีหากสงบเกินไป จะมีโอกาสให้เหล่าว่าที่ขุนนางได้แสดงฝีมือหรือ พวกเขาทั้งหมดย้ายไปด้านหน้าศาลาว่าการก็ได้ยินเสียงเอะอะมีใจความว่าทั้งสองฝ่ายต่างถากถางเย้ยหยันปรัชญา รวมไปถึงลักคำสอนของอีกความเชื่อหนึ่งอย่างไม่มีใครยอมถอน บัญฑิตม่อเจียใกล้ชิดกับการประดิษฐ์และชีวิตเสรี ฝั่งบัญฑิตหยูอ้าปากเชิดชูคุณธรรมและความภักดียอมตายไม่เสียเกียรติ

           “ท่านราชครู.. ทั้งสองสำนักปราชญ์ล้วนมีลุกศิษย์ทั่วแผ่นดิน เรื่องนี้หากจัดการไม่ดีย่อมเกิดข้อครหา ชวีผิงพอศึกษาคำสอนของหยูและม่อเจียมาบ้างขอบังอาจแนะนำ”

           ชวีผิงเห็นดังนั้นจึงก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อเสนอตัว ราชครูหลิวมิได้ห้ามปรามเพียงพยักหน้ากับท่านอาสวินโหยว อย่างไรเสียพวกเขาล้วนเป็นบัณฑิตหยุเก่า แต่เมื่อได้รับมุมมองใหม่จากชางเจียฝ่ายไหนก็ดี เป้นเพียงวัตถุดิบในการตกตะกอนของอารยธรรมทั้งนั้น

           “ท่านม่อจื้อของพวกเราด้อยกว่าขงจื้อที่ใด จะเรื่องคุณธรรม ความลึกซึ้งทางปรัชญาก็ไร้ที่ติ ไหนจะเป็นอัจฉริยะทางด้านกลไกช่วยเหลือชาวประชาจนวาระสุดท้ายของชีวิต ขงจื้อยกย่องบุรุษแต่กลับจำกัดเสรีของสตรีให้โลกของพวกนางมีแค่ผนังสี่ด้าน ทั้งที่สตรีนัน้มีดีมากกว่านั้น”

           “เหอะ อย่าอวดอ้างนักเลย คำสอนของม่อจื้อให้สิทธิมารดาทำให้บุตรอ่อนแอ สตรีโง่เขลาจึงจะมีคุณธรรม! ไหนจะกลไกที่ไม่ได้ช่วยในการปกป้องบ้านเมือง ฮั่นกวงอู่ตี้เก็บสุนัขจรมาเลี้ยงแท้ๆ รักแต่ตนเองสิไม่ว่า ทำไมถึงไม่ทำกลศึกที่ช่วยผู้นำพิชิตแว่นแคว้นรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียว สุดท้ายมหาปราชญ์ของพวกเจ้าก็ตายอย่างยาจกข้างถนนไม่ใช่รึไง ถุ้ย ม่อเจียมันก็แค่ชื่อล่ะวา”

           ปราชญ์ม่อเจียดิ้นเร่าๆ แทบจะถอดรองเท้าขึ้นฟาดหน้าเหล่าบัณฑิตหยู “เจ้า! จะมากเกินไปแล้ว ท่านม่อจื้อยอมแลกชีวิตกับต้าซินก็เพื่อมาตุภูมิ การจากไปของท่านคือแบบอย่างแก่คนหรุ่นหลังที่ไม่ยอมจำนน แม้สำนักของพวกเราจะล่มสลาย ทว่า! ม่อเจียมิใช่สถานที่แต่คือผู้คน!”

           เหล่าบัณฑิตหยูหัวเราะจนฟันโยกอย่างไรพวกของเขาก็มากกว่าไม่เกรงกลัวเลยสักนิด คิดแต่จะเหยียบย่ำพวกลัทธินอกรีตที่เล่นปาหี่ไปวันๆ

           “แล้วอย่างไร? ม่อเจียเข้าสู่ยุคเสื่อมถอยนั่นก็เพาะเมธีตัวดีม่อจื้อไง พวกเจ้ากอดศักดิ์ศรีผุพังลงหลุมไปพร้อมความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะกลับมาโด่งดังเป็นที่นับหน้าถือตาเสียเถอะ ไม่รุ้จักเจียมตัวเสียบ้าง เป้นแค่บัณฑิตยาจกกล้ามาเสนอหน้ากับพวกเราบัณฑิตชั้นสูงได้ไง”

           เอาเข้าจริงการชมสองลัทธิแหวกใส้กันเองนั้นราชครุหลิวก็ว่าบันเทิงอยุ่ หากไม่ติดว่าเสียงเริ่มจะดังขึ้นทุกทีพาลให้เหล่าขุนนางปวดหัว ฝั่งของชวีผิงก็ก้าวออกมาไกล่เกลี่ยโดยมีสวินโหยวและซีเยี่ยนคอยคุมเชิง

           “ช้าก่อนทั้งสองฝ่าย การผรุสวาทให้ผู้อื่นได้อับอาจการธารกำนัลมิได้ช่วยให้สิ่งใดดีขึ้น.. ข้าชวีผิง ขอร้องให้ทั้งหยูและม่อเจียโปรดสงบใจลงก่อน” น้ำเสียงชวีผิงนุ่มนวลท่าทางนอบน้อมจนคนไม่กล้าขัดเขา แม้จะแปลกหน้าอยู่บ้างแต่ในเมื่อข้างหลังของบุรุษชุดเขียวอ่อนผู้นี้คือราชครูหลิวก็ต่างคาดเดาฐานะของอีกฝ่ายไว้ไม่เบา


           “หึ.. เห็นแก่ท่านราชครูหรอกนะ พวกข้ามาเพื่อยุติข้อพิพาทนี้ต่างหาก เห็นๆ อยุ่ว่าม่อเจียเป็นพวกขี้แพ้ นครซินเย่กำลังพัฒนาไม่มีที่ว่างสำหรับความล้าหลังหรอก”

           “หนอยแน่.. จะจองหองเกินไปแล้ว วิญญูชนจอมปลอมอย่างขงจื้อมีมารยาทไว้แค่ทำให้คนดูรึไง”

           “ทุกท่าน ใจเย็นก่อน…” เหล่าบัณฑิตหัวร้อนเพราะต่างยึดถือในความคิดตนเองเรื่องนี้คงไม่จบลงง่ายๆ ชงีหวานขอเวลานอกไปกระซิิบให้คำแนะนำบางอย่างกับท่านราชครู เขาเห้นว่าถ้าตัดสินโดยตรงอีกฝ่ายที่พ่ายแพ้ไม่อาจยอมรับจึงยื่นข้อเสนอแผนการ

           “อื้ม.. ข้าเข้าใจที่ท่านชวีจะสื่อ เพียงแต่จะให้ทำตามทั้งหมดนั้นไม่ใช่วิถีของข้า.. การตัดสินครั้งนี้ย่อมอยู่ใต้กฎของบ้านเมือง และแน่นอน ชางเจียให้ความเสมอภาคเมธีร้อยแปดสำนักอย่างเท่าเทียมกัน”

           หลิวไท่ฝูยกมือให้สัญญาณเจ้าพนักงานนำตำราของลัทธิขงจื้อมอบแก่ม่อเจีย ให้ตำราม่อจื้อมอบแก่หยู โดยที่ไม่ลืมนำตำราเจียหลุนชางวางไว้ตรงกลาง “ทุกท่านในเมื่อความขัดแย้งเริ่มขึ้นจากหลักคำสอนที่แตกต่าง ในยุคสมัยที่บ้านเมืองระส่ำระส่ายการแตกสามัคคีมิใช่วิธีของผู้เจริญ พวกท่านใช้ดวงตาที่ดำมืดในการจ้องจับผิดฝ่ายตรงข้ามจนลืมเลือนไปว่าหัวใจของนักปราชญ์ที่แท้จริงคือสิ่งใด”

           เหล่าชาวบ้านที่มาฟังคำตัดสินรายล้อมรอบลานพิจารณาคดีล้วนหน้าชาแทนบัณฑิต จริงอยุ่ก่อนหน้านี้เมื่อมีเหตุโต้แย้งระหว่างสาวกเจียหลุนชางกับชนไร้ศาสนาท่านเจ้าเมืองก็ปประกาศชัดถึงแนวทางการแก้ปัญหาไว้แล้ว พวกเขาทั้งสองฝ่ายช่างไม่ดูตาม้าตาเรือเอาเสียเลย

           “เบื้องหน้านี้คือตำราคำสอนที่ผู้คนให้การยอมรับ ข้าเชื่อว่าแต่ละฝ่ายคงเรียนรุ้มาไม่มากก็น้อย แทนที่จะจับผิดกันเอง ข้าจะให้ทั้งสองฝ่ายวิเคราะห์ข้อดีของอีกลัทธิออกมาตามความเข้าใจโดยไร้อคติ หากผู้ใดไม่ยินยอม ให้ท่านเลือกตำราของเจียหลุนชางแทนได้ ทุกคนต้องเขียนออกมาคนละอย่างตำหนึ่งหน้ากระดาษ หาไม่.. เตือนก่อนว่าข้ามิได้น้ำใจงามเท่าเจ้าเมืองเสิ่น”

           รอยยิ้มของบุรุษงามแห่งซินเย่นั้นเยือกเย็นจนทำให้ผู้มองหนาวสันหลังไปตามๆ กัน โม่เสวียนจะปกครองด้วยเมตตาเช่นนั้นเขาต้องเป็นพระเดชเพื่อเสริมถ่วงสมดุล “ม่อจื้อใช้การประดิษฐ์บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ราษฎ์ เชื่อในความถูกต้องและความเสมอภาคสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ขงจื้อให้ความสำคัญกับความกตัญญู คุณธรรมและสัมพันธ์ระหว่างบุคคล มีจุดเน้นที่แตกต่างใยต้องเปรียบอีกฝ่ายให้ด้อยค่า”

           “...ท่านราชครูหล่าวได้ถูกต้อง เดิมทีเมธีร้อยสำนัก มีมหาปราชญ์ท่านใดบ้างไม่เคยเป้นศฺษย์ร่วมครู ทุกท่านอย่าได้ลืมว่าบัณฑิตศึกษาความรุ็เพื่อสร้างประโยชนืให้บ้านเมือง ยิ่งเรียนรุ็วิสัยทัศน์ยิ่งกว่างใกล.. หาใช้เพื่อทำให้จิตใจและดวงตาคับแคบลง ขงจื้อกล่าวว่าท่านมีชื่อเสียงมากเท่าไรยิ่งต้องแสดงออกถึงความมีน้ำใจและถ่อมตน” ชวีหยวนช่วยเสริมอีกคราเมื่อพบว่าพวกที่สำนึกได้บางคนเริ่มคัดบทวิเคราะห์แล้ว บางตัวีท่ยังหน้าซ๊ดเชิดดจมูกอย่างเย่อหยิ่งอยุ่ก็ถึงคราวที่ราชครูใช้ไม้แข็ง

           “หลายวันมานี้ท่านสวินโหยวปรึกษากับข้าเรื่องสำนึกฝึกบัณฑิตพิเศษ ข้ากำลังกลุ้มอยุ่เชียวว่าจะหาบัณฑิตที่มากความสามารถ ภักดี และมีความกล้าหาญเยี่ยงม่อจื้อในอดีตได้จากที่ใด หนำซ้ำคุณสมบัติยังต้องการผู้ที่ช่ำชองศิลปะหกแขนงสมอยุ่บัณฑิตหยูชั้นแนวหน้า หากว่าในหมู่พวกท่านมีใจจะอาสา ตัวข้าไท่ฝูจะร่างจดหมายแนะนำตัวให้เป็นไร”

           ไม้เด็ดท่านราชครูแล้วไง ต่อให้สำนักแห่งนี้ยังไมไ่ด้สร้างขึ้นมา แต่คนเขาก็ลือกันแล้วว่าท่านสวินโหยวกำลังก่อการบางอย่างเพื่อเตรียมรับมือกลียุคที่เกิดขึ้น ความลึกลับนี้ของเมืองซินเย่.. บัณฑิตขลาดเขลาย่อมมิกล้าเอาตนเองเข้าไปเสี่ยง

           “ท่านราชครู อะแฮ่ม” สวินโหยวหันขวับมา ก่อนจะส่งรอยยิ้มชืดชา ทำไมอยุ่ๆ ตนโดนลากลงน้ำไปด้วยเล่า ไหนว่าจะรอปรึกษากันอีกครั้งหลังเจ้าเมืองกลับมาค่อยคัดคน

           ดูท่าการแก่ไขปัญหาของราชครูหนนี้จะได้ผลตอบรับที่ทรงประสิทธิภาพ เมื่อผ่านไปครึ่งชั่วยาม ชวีหยวนไปเก้บกระดาษคำตอบเหมือนการสอบคัดขุนนางมาให้เหล่าหมินเค่อในจวนเจ้าเมืองทำการตรวจสอบ ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ หลิวซีเยี่ยนกล่าวปิดการพิจารณาคดีที่ทุกท่านรอคอยจึงได้ผลลัพธ์ว่า

           “โต้แย้งกันใหญ่โตสุดท้ายก็ยังสามารถหาข้อดีของอีกฝ่ายได้… บทเรียนในครั้งนี้ขอให้ทุกท่านจดจำใส่ใจ แม้ต่างแรงศรัทธาแต่ก็ใช่ว่าไม่อาจอยู่ร่วมโลก ชางเจียให้คุณค่าพวกท่านเท่าเทียมกัน คุณค่ามาจากการกระทำและคุณงามความดี ปลาเน่าหนึ่งตัวย่อมส่งกลิ่นไปทั้งบึง อย่าด้อยค่าคำสอนที่พวกท่านนับถือด้วยการกระทำเยี่ยงผู้ไร้การศึกษา ข้าประกาศว่าการแลกเปลี่ยนความเห้นในครั้งนี้ ขงจื้อและม่อจื้อไร้ความผิด จบการตัดสิน.. แยกย้ายกันได้”

           ปัญญาชนต่างได้รับคำชี้แนะ เหล่าผู้เฒ่าเคราขาวและบัณฑิตที่เฝ้ามองจากสำนักอื่นล้วนพึงพอใจ ไมมีใครที่แพ้รึชนะมีแต่ผู้ที่ต้องปรับปรุงพฤติกรรมให้สมกับการเป้นอารยชน ชาวบ้านแม้เสียดายที่ไมไ่ด้ดูบทลงโทษ แต่ก็บันเทิงนักตอนราชครูหลิวให้พวกเขาสอบหน้าพระพักตร์หวางน้อย ถือเสียว่าเป็นการซ้อมสอบขุนนางไปในตัว

♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
เอฟเฟคตัวละคร
ชวีผิง
(เที่ยงธรรม)
+4 Point +10 EXP ทุกครั้งที่ตัดสินหรือยุติความขัดแย้งอย่างยุติธรรม (เควส)
+1 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
(เข้าสังคม)
+1 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้การเข้าสังคม
(ภักดี)
+10 EXP จากการทำงานช่วยเหลือราชสำนักฮั่น
(ฉลาด)
+3 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+3 Point จากการโรลเรียนรู้
+20 EXP จากการโรลทำงาน
รวม +12  Point 40exp
เอฟเฟคหลิวซีเยี่ยน
(งดงาม)
+6 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์
(ถ่อมตน)
+2 Point จากการโรลให้เกียรติอีกฝ่าย
+10 EXP จากการโรลสรรเสริญคู่สนทนาด้วยความจริง
(สุขุม)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทน
(เจ้าเล่ห์-เสแสร้ง)
+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย
+30% คุ้มครองแผนการของคุณไม่ถูกเปิดโปง
รวม 14pt 30exp




←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-10-7 21:17:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด
หลังจากที่เขานั้นได้ตามบุรุษที่มีชื่อว่า มู่ชุน เข้ามาในตัวเมืองของซินเย่ เขาก็เล่ารายละเอียดปลีกย่อยต่างๆให้เขานั้นฟังเล็กน้อยอยู่สักพักหนึ่งโดยที่เขานั้นก็เดินไปฟังอีกฝ่ายสาธยายอยู่เงียบๆ พร้อมกับวิเคราะห์รูปแบบของเมืองซินเย่ไปด้วยโดยรวมแล้วเมืองซินเย่นั้นเป็นเมืองที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป มีโรงเตี้ยม โรงหมอ โรงน้ำชา และย่านการค้าอยู่อย่างล่ะ 1 ที่ซึ่งไม่ถือว่าแย่อันใดเลย ในตอนนี้แต่ก็ไม่แน่อาจจะมีมากกว่านี้อีกก็ได้เพราะเขานั้นยังเดินได้ไม่ถึงไหนเลย จนมู่ชุนพาเขามาหยุดที่หน้าจวนหลังหนึ่ง? " คาราวะใต้เท้า "

" ท่านราชครูหลิวอยู่หรือไม่ ? "

" อยู่ขอรับใต้เท้า " เมื่อพวกเขายืนหยุดที่หน้าจวนทหารยามที่หน้าจวนก็กล่าวทักทายบุรุษนามมู่ชุนทันที ก่อนที่เขานั้นจะได้ยินชื่อของใครหนึ่งที่มู่ชุนกล่าวถึง ราชครูหลิว? เขานั้นนึกสงสัยอยู่สักพักและเมื่อทหารยามปล่อยให้เขานั้นผ่านเข้ามาแล้วเขาจึงได้เอ่ยถามกับมู่ชุนไปตรงๆด้วยความสงสัย " ใต้เท้าท่านราชครูหลิวคือผู้ใดหรือ? "

" จริงด้วยๆ ข้าเกือบลืมบอกเจ้าเกี่ยวกับเรื่องท่านราชครูเลย เอ้างี้เจ้าตั้งใจฟังล่ะ "

" ท่านราชครูหลิวคือผู้รักษาการแทนท่านเจ้าเมือง เพราะในตอนนี้นั้นท่านเจ้าเมืองไม่อยู่เรื่องต่างๆภายในเมืองเลยได้รับการดูแลจัดการทั้งหมดจากท่านราชครูหลิว โดยท่านนั้นหล่อเหลาเป็นอย่างมากเลยล่ะ พูดง่ายๆก็ขี้เก๊กนั้นแหละ แถมยังหน้าตายด้าน เจ้าเล่ห์เพทุบายดั่งจิ้งจอกเฒ่า มีน้ำใจแต่ฝีปากดั่งคมมีดอีก "

" ที่สำคัญน่ะนะ ท่านราชครูนั้นเก่งและเป็นที่เคารพพอสมควร แต่ก็ไม่เท่าข้าหรอกนะ ยังไงเรื่องนี้ก็เหยียบให้มิดล่ะไม่งั้นข้าเอาเจ้าตายแน่ "

" ขอรับใต้เท้าข้าจะเหยียบให้มิดเลย " เเม้ว่าลู่เฉินนั้นจะยืนฟังมู่ชุนสาธยายเรื่องของท่านราชครูหลิวมาได้สักพักหนึ่งเขานั้นก็ได้รับรู้ขึ้นมาในทันทีว่า มู่ชุนนั้นต้องมีเรื่องผิดใจกับท่านราชครูหลิวสักอย่างเป็นแน่แต่เขานั้นก็ไม่ได้สนใจอันใด เพียงเเต่วิเคราะห์ลักษณะนิสัยของท่านราชครูหลิวจากคำบอกเล่าไปพลางๆ ด้วยท่าทางที่สุขุมเพราะดูเหมือนว่าเขานั้นต้องเข้าถ้ำเสือร้ายก็มิปาน ' แต่เท่าที่ฟังมาท่านราชครูหลิวนั้นน่าจะเป็นบัณทิตหรือไม่กันนะ ' ชายหนุ่มคิ้วบางเพียงนึกในใจก่อนที่เขานั้นจะเดินตามมู่ชุนเข้าไปในจวน

" มาแล้วรึ?.... " หลังจากที่เข้าไปมู่ชุนก็ทำการพาเขาเข้าไปในห้องๆหนึ่งซึ่งเป็นห้องที่รายล้อมด้วยตำรามากมายและยังมีเอกสารอยู่พอสมควรโดยที่โต๊ะที่มีกองเอกสารอยู่นั้นมีบุรุษรูปงามท่านหนึ่งนั่งอยู่พร้อมกับเงยขึ้นมามองที่ตัวของเขาและเอ่ยถามขึ้น " มาแล้วล่ะนี้ ไงคนที่ข้าให้คนมาแจ้งท่าน "

" ดีงั้นไหนเจ้าแนะนำตัว....ให้ข้าฟ้งแล้วก็เป้าหมายของเจ้า "

" คาราวะท่านราชครู ข้ามีนามว่าลู่เฉิน ข้ามาจากเจียงหนาน เป้าหมายของข้าคือใช้ชีวิตอย่างผาสุขแล้วก็ ทำนุบำรุงบ้านเมืองให้สงบร่มเย็น "

" ข้ามีความสามารถในการต่อสู้ยิงธนูเล็กน้อย แต่ข้าชำนาญพิชับสงคราม การค้า การปกครอง" เมื่อมู่ชุนผายมือมาที่เขาและท่านราชครูหลิวได้เอ่ยถามคำถามกับเขา ลู่เฉินจึงประสานมือคาราวะกับบุรุษรูปงามตรงหน้าด้วยท่าทางที่สงบนิ่ง ปราศจากความร้อนรนพร้อมกับเอ่ยตอบคำถามของท่านราชครูด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งพร้อมกับรอยยิ้มบาง ซึ่งดูเหมือนว่าบุรุษรูปงามตรงหน้าของเขานั้นก็เงียบนิ่งไม่ได้กล่าวอันใดเขาซึ่งนั้นทำให้เขาทราบได้เลยว่าซึ่งที่มู่ชุนนั้นกล่าวบางเรื่องนั้นไม่ได้เกินจริงเลย " เอาล่ะตอนนี้นั้นท่านเจ้าเมืองไม่อยู่...ข้าจึงเป็นผู้จัดการ ดูแลและมอบบททดสอบให้กับเจ้าเนื่องจากเจ้าเมืองนั้นพึ่งได้รับตำแหน่งมาไม่นาน เขาเป็นบัณทิตหัวก้าวหน้าจึงเปิดรับผู้มีความสามารถโดยไม่ถามไถ่อะไรมาก ดังนั้นสำหรับผู้ที่เสาะแสวงหาโอกาศ "

" เจ้าพร้อมที่จะรับบททดสอบความสามารถหรือไม่"

" ข้าพร้อมขอรับ "

หลังจากเขาได้ยินคำถามที่บุรุษรูปงามตรงหน้าของเขา เขาก็ยืนคิดอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่เขานั้นจะประสานมือของเขาและเอ่ยตอบคำถามของบุรุษรูปงามด้วยความแน่วแน่แต่กับสงบราวกับผืนมหาสมุทรซึ่งเมื่อเขานั้นเอ่ยตอบคำถามไปบุรุษรูปงามตรงหน้าของเขานั้นก็พยักหน้ารับแล้วก็เอ่ยถามคำถามต่อเลยในทันที " เอาล่ะเมื่อเป็นแบบนั้นก็ดี...แล้วเจ้าพักที่ไหนกันล่ะมีที่พักหรือไม่ ถ้าไม่ข้าจะได้ให้คนจัดเตรียม"

" ยังเลยขอรับท่านราชครูหลิวแต่ข้าไม่อยากรบกวนท่านข้าจะไปพักที่โรงเตี้ยมเยี่ยนอวิ๋น "

" อื้อ...เอาล่ะงั้นข้าจะอธิบายรายละเอียดของเมืองให้เจ้าฟังคร่าวๆแล้วกันนะ" เมื่อเขาตอบคำถามของบุรุษรูปงามตรงหน้าเสร็จเรียบร้อย บุรุษผู้นั้นก็ได้เริ่มอธิบายเนื้อหาเกี่ยวกับกองกำลังของเมืองซินเย่ โดยมีรายละเอียดว่า " เมืองซินเย่นั้นภักดีต่อท่านหวางจื่อเสีย ด้วยหวางเย่ยังทรงเยาว์กิจภายในและภายนอกจึงเป็นของข้าและเจ้าเมืองเสิ่นโม่เสวียนเรื่องที่เจ้าควรรู้เอาไว้เพียงเท่านี้ก่อนแล้วกัน "



Affinity
faith
   มู่ ชุ่น
-20 วามสัมพันธ์กับคนที่นับถือขงจื๊อ/เต๋า และ ไร้ศาสนา (ชาวฮั่น)
+10 ความเชื่อเดียวกัน ( ไร้ศาสนา )
+5 ธาตุเดียวกัน
+5 พูดคุยประจำวัน
หลิว ซีเยี่ยน
      
      +10 ลักษณะนิสัยสอดคล้องกัน

+10 ลักษณะนิสัยสอดคล้องกัน

+5 ความสัมพันธ์คนที่มีนิสัยเดียวกัน


+20 ความสัมพันธ์กับกลุ่มบัณฑิต/นักปราชญ์
-15 ธาตุข่มกัน ( น้ำข่มไฟ )
+5 พูดคุยประจำวัน

No
มู่ ชุ่น 0
หลิว ซีเยี่ยน +35

Point.
Exp.

จากการเรียนรู้เรื่องในเมืองซินเย่


+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้

+4 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้

+1 Point ทุกครัั้งที่โรลเรียนรู้


+3 Point ทุกครัั้งที่โรลเรียนรู้
No
+10 Point 0 Exp.
<font face=&quot;Kanit&quot; size=&quot;3&quot;></font>
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x60
x60
x10
x3
x1
x5
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

อย่าลืมเข้าสู่ระบบนะจ๊ะ เข้าสู่ระบบตอนนี้ หรือ ลงทะเบียนตอนนี้

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้