[นอกเมืองฝูเฟิง] ป่าไผ่เป่ยเฟิง

[คัดลอกลิงก์]
ไม่ระบุชื่อ  โพสต์ 2021-12-15 22:48:26 |โหมดอ่าน

ป่าไผ่เป่ยเฟิง
{ นอกเมืองฝูเฟิง }








【ป่าไผ่เป่ยเฟิง】

ป่าไผ่ทางตอนเหนือของเมืองฝูเฟิง อยู่ใกล้กับชานเมืองทางใต้ของอันติง
เป็นป่าไผ่อันอุดมสมบูรณ์ที่ชาวบ้านมักจะชอบเข้ามาหาขุดหน่อไม้ในฤดูใบไม้ผลิ
นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้อยใหญ่รวมถึงงูเขียวที่กลมกลืนไปกับไม้ไผ่
ผู้ที่ผ่านมาทางนี้โปรดใช้ความระมัดระวังสัตว์มีพิษร้าย





โพสต์ 2021-12-17 02:00:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Fenyue เมื่อ 2021-12-17 03:38

   
⌜143⌟
   
บทที่ 24
งานจิตอาสา
ฉากที่ 6
   
          เมื่อไม่มีของกินที่จะหกเรี่ยราดการคุมเกวียนจึงเพิ่มความเร็วได้มากกว่าตอนขามา แม้จะรู้สึกว่าชักช้าไม่ทันใจวัยรุ่นอยู่บ้างแต่ก็เร่งความเร็วได้มากสุดก็คงเท่านี้ มิเช่นนั้นเกวียนเก่าคงร่างแยกแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แน่ ๆ
         
          การเดินทางข้ามเมืองกินเวลาเกินครึ่งวันกว่าจะไปถึงอันติงเพราะต้องผ่านหลายเมืองมากกว่าตอนขามา แต่นั่นก็ไม่เป็นอุปสรรคเมื่อสารถีจำทางได้หมดแล้ว และกำหนดการในวันนี้ก็ไม่น่าจะมีอะไรที่ต้องรีบนอกเสียจากว่าไปซื้อของสำหรับทำอาหารเลี้ยงแขกให้ทันก่อนตลาดวาย
         
          เมื่อมาถึงเมืองฝูเฟิงทุกอย่างก็ปกติดีจนกระทั่งถึงทางที่ต้องผ่านป่าไผ่ที่รกครึ้มและเต็มไปด้วยสัตว์ป่าน้อยใหญ่ สิ่งที่ต้องระวังก็คืองูเขียวที่พลางตัวแอบซุ่มอย่างแนบเนียนตามปล้องไม้สีเขียว แต่ว่าพวกเขาเป็นเพียงแค่คนผ่านทางมิใช่ชาวบ้านหาหน่อไม้ไผ่ตงจึงไม่มีความต้องระมัดระวังสัตว์มีพิษเช่นคนเดินเท้า และงูดังกล่าวคงไม่บ้าระห่ำกระโดดจากกิ่งไม้มากัดคอม้าหวังกินสัตว์ใหญ่กว่าตัวมันเองถึงร้อยเท่า
         
          ตงฮั่วคุมเกวียนผ่านแมกไม้ไปเรื่อย ๆ จนเห็นความผิดปกติเบื้องหน้าจนต้องชะลอความเร็วของเกวียนลง
         
          “มีอะไรหรือเจ้าคะ?”
         
          น้ำหวานใสเอ่ยถามจากเบื้องหลัง แต่เมื่อมองตามทางไปก็ดูเหมือนว่าดรุณีน้อยคนถามผู้นั้นจะรู้สาเหตุด้วยตนเอง เบื้องหน้ามีรถม้าคันหนึ่งจอดเสียอยู่ข้างทางล้อไม้หลุดออกจากเพลาสลักที่ยึดเอาไว้น่าจะหัก และมีชายผู้หนึ่งแต่งกายคล้ายพ่อค้ายืนโบกมือขอความช่วยเหลืออยู่ไม่ห่างจากกัน
         
          “ช่วยด้วยขอรับ! รถม้าข้าพัง”
         
          ด้วยความเป็นคนรักความยุติธรรมตงฮั่วจึงหยุดเกวียนไว้ข้างทางแต่โดยง่ายแล้วก็โดดลงไปดูอาการของเพลาที่หัก ในเวลาที่ต้องการจะช่วยเหลือใครก็ตามนิสัยไม่ชอบผูกมิตรก็ดูเหมือนจะหายตามไป
         
          “แย่เลยนะแบบนี้ คงต้องหาไม้มาซ่อม–…”
         
          แต่เมื่อก้มลงมองดี ๆ สลักที่หลุดออกมาไม่ได้เกิดจากการแตกหักแต่ดูเหมือนกับว่ามันถูกถอดออกมามากกว่า ความผิดสังเกตนั้นทำให้เขาต้องหยุดชะงักไปชั่วครู่ คิ้วพยัคฆ์ขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด จะเป็นไปได้หรือไม่ที่สลักจะหลุดเพราะผูกเอาไว้ไม่แน่น แต่คิดอีกแง่ถ้าหากว่าไม่แน่นจริงมันน่าจะวิ่งออกมาไม่ได้ไกลถึงกลางทาง
         
          “แถวนี้น่าจะหาอะไรมาซ่อมไม่ได้ขอรับ ถ้าอย่างไรขอติดเกวียนพวกท่านเข้าเมืองไปตามช่างได้หรือไม่”
         
          “.... ถามจริง ๆ มันพังจริง …หรือว่าเจ้าถอดออก”
         
          เขาค่อย ๆ หันหลังกลับไปมองพ่อค้าที่เมื่อครู่ยังทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมเป็นคนเดือดร้อน แต่บัดนี้กลับมีรอยยิ้มชั่วร้ายพรายอยู่มุมปาก
         
          “แหม รู้ตัวไวจริง ๆ นะ”
         
          ทันทีที่กล่าวจบเงาคนประมาณห้าถึงหกคนก็ผุดลุกขึ้นมาจากพุ่มไม้ที่ซ้อนตัวราวกับว่าไม่กลัวสัตว์มีพิษหลบอาศัย บนศีรษะของคนกลุ่มนั้นคาดด้วยผ้าสีเหลือง ในยามนี้ผ้าโพกเหลืองนับว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามหากผู้ใดคาดผ้าเหลืองบนหัวย่อมต้องเป็นกลุ่มโจรผ้าเหลืองโดยไม่ต้องเอ่ยถามนามต่อ พวกมันกรูกันเข้ามาห้อมล้อมเกวียนเอาไว้ ต่อให้เคยเจอโจรมาหลายครั้งแต่ดูเหมือนสหายของเขาจะไม่ชินจนเกิดอาการหวาดกลัวอยู่ร่ำไป
         
          “....”
         
          เด็กหนุ่มกัดฟันกรอดดวงหน้าดุจ้องมองพวกเลวทรามอย่างเอาตาย พวกมันใช้กลลวงเช่นนี้หลอกปล้นชาวบ้านมากี่ครั้งแล้ว โชคดีที่คราวนี้คนที่พวกมันเจอคือจอมยุทธ์ แต่นั่นก็อาจจะถือว่าเป็นโชคร้ายของพวกมันเพราะหนึ่งในนั้นดันเป็นจอมยุทธ์ที่คาดโทษโจรผ้าเหลืองเอาไว้ด้วยว่าจะกำจัดพวกมันให้หมดสิ้นโดยไม่เลือกหน้าว่าเป็นใครมาจากไหน จะเป็นคนที่มีคุณธรรมในใจหรือไม่ เพราะแค่เขาพวกกับไอ้ชั่วจางเจี่ยวก็ย่อมได้รับคำสอนเลว ๆ ของพวกมันมาด้วย รังสีฆ่าฟันรุนแรงที่แผ่ออกมาจากร่างไม่ว่าใครเห็นก็มีแต่ต้องขนลุกซู่
         
          “อึก! ท่าทางดูจน ๆ ไม่น่าจะมีอะไรให้ปล้นแฮะ” โจรในคราบพ่อค้าแกล้งพูดเพื่อกลบเกลือนความกลัว พร้อมกับปลุกขวัญกำลังใจตัวเอง “พวกเจ้ากำลังขนเสบียงอาหารกันอยู่งั้นเหรอ เช่นนั้นข้าปล้นไอ้ที่อยู่ในหม้อก็ได้!”
         
          “ปล้นที่อยู่ในหม้อ..”
         
          ต้าซิ่นทวนคำตาม จากกลัว ๆ อยู่ก็เกือบจะหลุดหัวเราะออกมา เพราะในหม้อไหมีแต่เพียงความว่างเปล่า ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าอาหารอยู่แม้แต่อย่างเดียว
         
          “อยากได้?” เด็กหนุ่มเอียงคอถามแล้วเดินกลับมาที่เกวียน แล้วก้มลงแกะบางอย่างที่ผูกอยู่ด้านใต้เกวียนไม้เตะมันขึ้นมาชี้หน้าไปทางโจรชั่วที่เหิมเกริมมาปล้นสะดมป์คน “สิ่งที่ข้ามีให้ มีแต่ความตายของพวกเจ้า!”         
     
         
         
          “ตะ.. ตงฮั่ว อย่าถึงกับฆ่าแกงกันเลยนะเจ้าคะ”
         
          เด็กสาวที่กางแขนกันความปลอดภัยให้บัณฑิตเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวั่นใจ นางรู้ว่าเขาสามารถรับมือกับคนพวกนี้ได้ไม่ยาก และด้วยความใจดีจนหน้าหงุดหงิดใจจึงร้องขอเอาไว้เช่นนั้น
         
          “ชิ..” ตงฮั่วเดาะลิ้นอย่างหงุดหงิด หากไม่ฆ่าจะเรียกว่าล้างแค้นได้ไหม? หรือแค่ทำให้คนพวกนี้เลิกเป็นโจรได้ก็พอแล้ว? หยวน ๆ ให้เป็นอย่างหลังก็แล้วกัน ดังนั้นเขาจึงใจอ่อนยอมไม่ถอดปลอกของคมทวนออกมาขณะสู้ “ก็ได้” ใบหน้าคมสันตวัดมองกลุ่มโจรที่ขยับวงล้อมแคบลงเรื่อย ๆ “รีบ ๆ มาทำมันให้จบ!”
         
          วลีที่ว่าเปิดก่อนได้เปรียบยังคงใช้ได้ดี สิ้นเสียงเด็กหนุ่มก็พุ่งตรงไปยังเจ้าโจรที่น่าหมั่นไส้มากที่สุดก่อนจะหวดทวนฟาดใส่อย่างรุนแรง แม้ว่าจะไม่เปิดคมแต่ถูกเหล็กทั้งดุ้นกระแทกใส่ก็มีสะเทือนกันไปข้าง และดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่สะเทือนแต่เจ้าโจรคนนั้นถึงกับร้องโอดโอยเพราะแขนที่ยกขึ้นมากันหักครึ่งท่อนห้อยลงล่องแล่ง
         
          “โอ๊ยยย!!!!”
         
          เสียงร้องของมันทำเอาคนบนเกวียนสะดุ้งตกใจไปด้วย ไม่คิดเลยว่าบอกให้ว่าไม่ให้เอาถึงตายแต่สุดท้ายก็น่าสยองขวัญพอกัน หลังจากที่เปิดฉากการฟาดฟันไปทีนึง เหล่าโจรที่เห็นเพื่อนถูกทำร้ายก็กรูกันเข้ามาหมายปลิดชีพเด็กหนุ่มถือทวนมรกตพร้อม ๆ กัน
         
          ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาตงฮั่วได้ฝึกปรือกับหุ่นไม้ที่ลานฝึกยุทธ์ฯ อย่างหนัก หลายครั้งที่เขาคิดอยากสู้กับสิ่งที่เคลื่อนไหวได้สมจริงกว่าหุ่นไม้ ดังนั้นพวกโจรที่โชคร้ายนี้ก็ไม่ต่างอะไรเลยกับเป้าซ้อมมือ และดูเหมือนว่านี่จะยิ่งสร้างความเปรมปรีกับร่างสูงยิ่งกว่าการล้างแค้นครั้งไหน ๆ เพราะได้ระเบิดพลังหลังจากที่ต้องอดกลั้นเอาไว้นาน
         
          เขาฝึกกับทวนจนชินกับน้ำหนักทวนยาวจนหวดมันได้รวดเร็วดุจพายุ รุนแรงดุจสายฟ้า และร้อนแรงดุจเปลวเพลิง ออกกระบวนท่าที่ฝึกฝนอย่างชำนาญจนพวกโจรกระจอกไม่อาจต่อกรได้แม้แต่น้อย บางคนถูกปลอกทวนเสยปลายคางจนสลบเหมือด บางคนถูกฟาดหลังจนหน้าทิ่ม ใช้เวลาไม่กี่อึดใจพวกมันทั้งหกก็ลงไปนอนกำราบอยู่บนพื้น
         
          “เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ? อยากให้พาไปส่งในเมืองสินะ? ได้!”
         
          น้ำเสียงดุดันกระแทกใส่จนโจรที่แขนหักยกไม้ยกมือร้องขอชีวิต แต่ดูท่าว่าผู้ที่ถูกร้องขอจะไม่ได้ปราณีปราศรัยด้วย เขาลากคอเสื้อของอีกฝ่ายโยนขึ้นไปบนเกวียนดังโครมเสียจนผู้โดยสารอยู่ก่อนแล้วสะดุ้งแล้วเบะปากตาม เชือกป่านเส้นโตที่เคยใช้ผูกหูหม้อไม่ให้เคลื่อนที่ถูกนำมามัดตัวโจรคนนั้นเอาไว้แทนโดยไม่ได้สนใจท่อนแขนที่หักอยู่แม้แต่น้อย แม้เป็นคนละพวกกันก็ยังรู้สึกเห็นใจในฐานะเพื่อนมนุษย์อยู่บ้าง จัดการมัดคนแรกเสร็จก็มัดเจ้าคนที่ สอง สาม สี่ ห้า หก แล้วโยนขึ้นมาบนเกวียนทีละคน
         
          “คงต้องพาเจ้าพวกนี้เข้าเมืองตามคำขอก่อน”
         
          “จะ..เจ้าค่ะ”
         
          เกวียนไม้เคลื่อนตัวออกไปมุ่งสู่อันติงแทนจะย้อนกลับไปที่ฝูเฟิง เขาคิดว่าสำหรับที่นอนของโจรพวกนี้ไม่ว่าจะเป็นคุกอันติงหรือฝูเฟิงก็คงไม่ต่างกัน เช่นนั้นก็นำตัวส่งอันติงเลยก็แล้วกันจะได้ไม่เสียเวลา…
      
.
.
.
   

ใช้งาน [152] ซู ตงฮั่ว [มาร]

อัตลักษณ์แข็งแรง
+2 Point เมื่อโรลเพลย์ต่อสู้ระบบ

อัตลักษณ์คิ้วพยัคฆ์
+10 EXP จากการโรลเพลย์สร้างความหวาดกลัวแก่ผู้อื่นให้เกรงกลัวเรา
+2 Point ทุกครัั้งที่โรลต่อสู้ผ่านระบบ



         



←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
พยัคฆ์ตงเทียน
หยกเชื่อมสัมพันธ์
พู่กันเหวิ่นเซ่า
ถุงหอมจูอวี๋
กลยุทธ์เล่ออี้
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x40
x32
x1
x439
x500
x73
x500
x26
x498
x500
x10
x2
x9
x1
x400
x1
x1
x5
x28
x8
x591
x228
x228
x500
x2514
x18
x14
x1
x5
x1
x2
x100
x5
x50
x100
x3
x3
x10
x2
x47
x64
x6
x9
x2
x71
x1
x24
x95
x50
x86
x150
x260
x150
x150
x46
x46
x2
x2
x6
x2
x2
x34
x4
x1
x8
x1
x2
x7
x5
x8
x7
x110
x7
x74
x45
x3
x30
x63
x74
x79
x2
x71
x68
x6
x45
x50
x160
x316
x3
x220
x48
x35
x168
x12
x10
x25
x1
x13
x6
x4
x6
โพสต์ 2022-7-31 23:42:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ช่วยทหารค่ายโข่วซือ 1
เดินทาง 13 กลับอู่เว่ย

เวลาต่อมา หลังผ่านเมืองฮั่นจงมาแล้วทั้งสองก็ได้เดินทางผ่านเมืองซ๊ฝู่ ไม่ได้แวะเวียนอะไรในเมืองนี้ ทว่าคุณชายเซี่ยงก็พาวกไปทางขวาอีกครั้งจนกระทั่งมาถึงเมืองฝูเฟิง โดยไม่ได้เน้นเส้นทางไปสู่เมืองอู่เว่ยตรงๆ
หญิงสาวเองก็จะถามอยู่แต่ว่า ถ้าเป็นความตั้งใจของคุณชายเซี่ยงเธอก็ไม่อยากจะขัดอะไร

แต่ถ้าเป็นมุมมองคุณชายเซี่ยงจ้งหลู เขาอาจจะรู้สึกเกรงใจหญิงสาวมากเช่นกันจนคิดว่าจะพาเดินทางไปอย่างไรดี

เอาเป็นว่าตอนนี้ ต่างคนต่างเกรงใจกันและกันจนแทบจะหาข้อสรุปการเดินทางตรงๆได้ไม่ตรงใจกันเท่าไรนัก...

ในใจกล่างป่านอกเมืองฝูเฟิง ทั้งคุณชายเซี่ยงและหญิงสาวก็ได้ขี่ม้าช้าๆเป็นการผ่อนคลาย ชมความสวยงามของธรรมชาติไปในตัว มิต้องเร่งรีบอะไรในตอนนี้
เพราะเหมือนเป็นการพักเหนื่อย ออมแรงเพื่อที่จะเดินทางสู่อู่เว่ยในคราเดียว

"แม่นางเชิญชมธรรมชาติให้หายเหนื่อยก่อนดีหรือไม่ ถ้าถึงเมืองหน้าเราค่อยแวะพักในกันโรงเตี๊ยมเสียก่อนก็ดี" คุณชายเซี่ยงแนะนำ

"ได้เจ้าคะ" หญิงสาวฟังการวางแผนเดินทางของคุณชายเซี่ยงก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร พอดูดีๆเป้นการเดินทางที่ถนอมน้ำใจโดยแท้นี่ล่ะนะ ...

----------------------------------


195 เซี่ยงจ้งหลู
+5 พูดคุย
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย หูดี
+15 ความสัมพันธ์ ถ่อมตนเหมือนกัน
+5 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจเรา คิ้วหงส์
- 15 ความสัมพันธ์ ดินข่มน้ำ
-5 หัวดีเจอคลั่ง
รวม 20 คสพ.



←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ม้าฮั่นเสีย
ตลับผงชาด
ผ้าคลุมขาว
ชุดหนี่ว์จิงเจี๋ยฟางเฉอ
เกาทัณฑ์จย่าเจี๋ยอู๋เยว่
คัมภีร์หนี่กุ้ยเว่ย
ไก่ฟ้าทองแดง
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x77
x9
x1
x100
x2
x27
x47
x41
x88
x3
x45
x105
x70
x55
x180
x3
x1
x4
x2
x3
x6
x2
x10
x2
x6
x14
x19
x7
x6
x8
x4
x4
x4
x4
x60
x2
x2
x40
x25
x25
x40
x20
x20
x40
x5
x5
x1
x73
x48
x28
x9
x60
x20
x5
x3
x50
x3
x4
x30
x3
x3
x19
x4
x4
x2
x5
x10
x135
x30
x30
x86
x6
x100
x46
x1
x5
x377
x20
x40
x10
x98
x346
x2
x2
x53
x1
x5
x105
x20
x204
x45
x304
x20
x10
x5
x3
x15
x1
x6
x2
x10
โพสต์ 2022-8-7 20:27:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ช่วยทหารค่ายโข่วซือ 1
เดินทางกลับ 19

ผ่านเมืองอันติงมาก้มาถึงเมืองฝูเฟิงอันเป็นเมืองถัดมา ทว่าเมืองนี้เต็มไปด้วยป่าไผ่ทำให้มีความลำบากเล็กน้อยในการเดินทางขนส่งเสบียง
ด้วยความใหญ่ของรถขนเสบียงที่ต้องพึ่งพาเส้นทางที่ใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย ทำให้หญิงสาวสวีเซียงซานที่อยู่หัวขบวนต้องลงมาถากถางทางในป่าไผ่นี้ให้กว้างขึ้นบ้างด้วยตัวเอง
ถ้าหากการส่งเสบียงล่าช้า พวกเขาก็อาจจะเดือดร้อน

การเดินทางไปด้วยพร้อมกับการเบิกทางด้วยมีดในมือ ตัดไผ่ที่ขวางทางออกให้รถขนส่งเสบียงได้ดำเนินไปอย่างสะดวก
รถดำเนินไปอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบมากเพราะมีการเคลียเส้นทางให้กว้างขึ้น... โดยตัวหญิงสาวเองทำคนเดียวทั้งหมดโดยไม่พึ่งคนงานเลย
เธอคิดว่าให้คนงานทำหน้าที่ของเขาไปก่อนนั่นแหละดีแล้ว..

พอผ่านป่านี้ไปสำเร็จ ก็จะเข้าใกล้เมืองฉางอันแล้ว..

----------------------------------

----------------------

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ม้าฮั่นเสีย
ตลับผงชาด
ผ้าคลุมขาว
ชุดหนี่ว์จิงเจี๋ยฟางเฉอ
เกาทัณฑ์จย่าเจี๋ยอู๋เยว่
คัมภีร์หนี่กุ้ยเว่ย
ไก่ฟ้าทองแดง
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x77
x9
x1
x100
x2
x27
x47
x41
x88
x3
x45
x105
x70
x55
x180
x3
x1
x4
x2
x3
x6
x2
x10
x2
x6
x14
x19
x7
x6
x8
x4
x4
x4
x4
x60
x2
x2
x40
x25
x25
x40
x20
x20
x40
x5
x5
x1
x73
x48
x28
x9
x60
x20
x5
x3
x50
x3
x4
x30
x3
x3
x19
x4
x4
x2
x5
x10
x135
x30
x30
x86
x6
x100
x46
x1
x5
x377
x20
x40
x10
x98
x346
x2
x2
x53
x1
x5
x105
x20
x204
x45
x304
x20
x10
x5
x3
x15
x1
x6
x2
x10
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

อย่าลืมเข้าสู่ระบบนะจ๊ะ เข้าสู่ระบบตอนนี้ หรือ ลงทะเบียนตอนนี้

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้