[เมืองลั่วหยาง] จตุรัสกลางเมือง | ลานฉง

[คัดลอกลิงก์]
ไม่ระบุชื่อ  โพสต์ 2021-8-13 23:22:57 |โหมดอ่าน

จตุรัสกลางเมือง | ลานฉง

{ เมืองลั่วหยาง }




ลานหินลาดขนาดใหญ่ใจกลางจตุรัสลั่วหยาง
เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลสำคัญตลอดปี ไม่ว่าจะการแสดงในวันสำคัญ งานประลอง การประกวดความสามารถ
ล้วนถูกตระเตรียมขึ้นที่ลานกว้างแห่งนี้ เรียกได้ว่า เป็นความคึกคักแห่งนครหลวง
อีกทั้งในยามปรกติ ที่แห่งนี้ยังเต็มไปด้วยร้างรวง แผงลอยของเหล่าพ่อค้า แม่ค้ามากมาย




ไม่ระบุชื่อ  โพสต์ 2021-8-14 00:21:53
[งานรับจ้างประจำวัน]


พ่อค้า: หวัง จิน
พ่อค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้มีด้วยกัน 3 คน คือ หวัง จิน / หวัง เย่า / หวัง ทู่ ทั้งสามล้วนเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน
ครอบคลุมเศรษฐกิจ 3 ภูมิภาคใหญ่ของแผ่นดิน สำหรับหวังจินเป็นพี่คนโต เป็นคนนิสัยหัวการค้าและรู้จักประยุกต์อย่างสร้างสรรค์
เขามักมองทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง หากสิ่งใดขาดทุนก็จะตัดออกโดยไม่พิจารณา หากสิ่งใดได้กำไรไม่เคยรอดพ้นสายตาหวังจิน
อีกทั้งแม้เขาจะดูขี้เหนียว แต่ภายในค่อนข้างเจรจาการค้าง่ายและเป็นกันเอง เป็นคนติดตลกไม่เคร่งขรึม





::.คำอธิบายเควส.::
- คำในวงเล็บ อาทิ (พ่อหนุ่ม/สาวน้อย) เลือกคำใดคำหนึ่งมาใช้ ให้เข้ากับคุณ -
- [...] สีน้ำเงิน คือ โรลคำพูดเฉพาะคนมีลักษณะนิสัยตามที่ระบุ -



.: เงื่อนไขงาน :.
- ทำได้วันละครั้ง - เป็นเควสประจำวัน -
- ทำได้ทุกคน ใน 1 วันจะมาทำกี่คนก็ได้
- ทุกคนสามารถเสนอขอสร้างสถานที่ได้ที่นี่ (คลิก) เพื่อใช้ประกอบการโรลเรื่องราวของคุณในระหว่างทำเควส -
- หากคุณหักหลังพ่อค้าหวังจิน คุณจะไม่สามารถทำงานกับพ่อค้าหวังจินได้อีกตลอดไป -



.: ข้อมูลงานทั้งหมด :.

เลือก 1 งาน (ไม่สามารถรับพร้อมกันทุกงานได้ จะต้องทำงานที่ (1) ให้เสร็จก่อน จึงจะมารับงานที่ (2) ได้)
* ในกรณีระหว่างทำงานใดงานหนึ่งอยู่นั้น หากรับงานวันนี้ แต่ทำเสร็จในวันถัดไป = งานนั้นคือของวันที่เสร็จ ไม่สามารถรับงานนั้นได้ *
ตัวอย่าง คุณรับงาน (2) วันที่ 20/8/2021 แต่งานเสร็จวันที่ 21/8/2021 เท่ากับว่า งาน (2) นั้นในวันที่ 21/8/2021 รับไปแล้วไม่สามารถรับได้


       (1) งานส่งเนื้อม้าสู่หลันเทียน (ประจำวัน)
                 คำเตือน: โปรดเว้นพื้นที่กระเป๋าให้มีพื้นที่ว่างให้พอดีกับวัตถุิบขนส่ง
                        - เขียนโรลเพลย์รับงานจากพ่อค้าหวังที่นี่ โดยพ่อค้าหวังบอกว่างานนี้ไม่ยากอะไร แค่ส่งเนื้อม้าแพ็คเหล่านี้ไปยัง [โรงเตี๊ยมเหอหลิงเตี้ยน] แห่ง เมืองหลันเทียน
                        - เดินไปรับแพ็คห่อม้าจำนวน x30 เนื้อม้า , x5 เนื้อม้าฮั่นเสีย
                        - เลือกเส้นทางจากลั่วหยางไปเมืองหลันเทียนเขียนโรลเพลย์สร้างเรื่องราวเดินทาง เมืองใดก็ได้อย่างน้อย 2-3 เมืองเพื่อสร้างเรื่องราวการเดินทางของคุณ
                        - เขียนโรลเพลย์ส่งเนื้อม้าทั้งหมด (ส่งข้าวสารมาไอดี Watcher) ณ โรงเตี๊ยมเหอหลิงเตี้ยน แห่งเมืองหลันเทียน
                        - เลือกเส้นทางจากเมืองหลันเทียนกลับไปลั่วหยาง เขียนโรลเพลย์สร้างเรื่องราวเดินทาง เมืองใดก็ได้อย่างน้อย 1-2 เมืองเพื่อสร้างเรื่องราวการเดินทางของคุณ
                        - กลับมารายงานเมื่อทำงานเสร็จกับพ่อค้าหวังที่นี่
                        รางวัลเควส:ได้รับ +10 ตำลึงทอง ,  +300 ตำลึงเงิน , +3,500 อีแปะ  , +35 EXP  , เนื้อม้าพรีเมี่ยม(ฮั่นเสีย) 2 ชิ้น , น้ำหนิวเอ้อเฉ่า 30 ไห
                        หมายเหตุ: สามารถหักหลังพ่อค้าหวัง ไม่นำข้าวสารไปส่งได้ เลือกที่โรลสักที่เพื่อโรลหักหลัง ยึดข้าวสารไว้เอง

      (2) รับแร่จากหมู่บ้านเซิ่งหุน (ประจำวัน)
                 คำเตือน: โปรดเว้นพื้นที่กระเป๋าให้มีพื้นที่ว่างมากกว่า 100 เพื่อแบกแร่กลับมาได้
                        - เขียนโรลเพลย์รับงานจากพ่อค้าหวังที่นี่
                        - เลือกเส้นทางจากลั่วหยางไปหมู่บ้านเซิ่งหุน เขียนโรลเพลย์สร้างเรื่องราวเดินทาง เมืองใดก็ได้อย่างน้อย 1 เมืองเพื่อสร้างเรื่องราวการเดินทางของคุณ
                        - เขียนโรลเพลย์รับแร่จำนวนหนึ่งจาก นายช่างเสิ่น ณ บ้านตีเหล็ก | สกุลเสิ่น แห่งหมู่บ้านเซิ่งหุน
                        - กลับมารายงานเมื่อทำงานเสร็จกับพ่อค้าหวังที่นี่ พร้อมส่งมอบแร่แก่พ่อค้าหวัง (ส่งแร่ที่ได้จากนายช่างเสิ่นมาที่ไอดี Webmaster
                        รางวัลเควส:ได้รับ +30 ก้อนเงิน , +3,000 อีแปะ  , +40 EXP
                        หมายเหตุ: สามารถหักหลังพ่อค้าหวัง ไม่นำข้าวสารไปส่งได้ เลือกที่โรลสักที่เพื่อโรลหักหลัง ยึดแร่ไว้เองได้ ไม่ต้องกลับมาหาพ่อค้าหวัง


      (3) ส่งก้อนสำริดสู่เฉินหลิว (ประจำวัน)
                 คำเตือน: โปรดเว้นพื้นที่กระเป๋าให้มีพื้นที่ว่างมากกว่า 100 เพื่อแบกแร่ไปส่งมาได้
                        - เขียนโรลเพลย์รับงานจากพ่อค้าหวังที่นี่
                        - โดยมีเนื้อหางานจะเป็นการจ้างวานคุณนำก้อนแร่สำริดที่ถลุงเป็นก้อนแล้วไปส่งยัง  บ่อนเฉาเหอจวินแห่งเฉินหลิว
                        - เลือกเส้นทางจากลั่วหยางไปเฉินหลิว เขียนโรลเพลย์สร้างเรื่องราวเดินทาง เมืองใดก็ได้อย่างน้อย 1 เมืองเพื่อสร้างเรื่องราวการเดินทางของคุณ
                        - เขียนโรลเพลย์ส่งก้อนแร่สำริดจำนวน 100 ก้อน มอบให้แก่เถ้าแก่บ่อน ณ บ่อนเฉาเหอจวิน | เมืองเฉินหลิว
                        - กลับมารายงานเมื่อทำงานเสร็จกับพ่อค้าหวังที่นี่ หลังจากทำงานสำเร็จ
                        รางวัลเควส:ได้รับ +30 ก้อนเงิน , +600 อีแปะ  , +35 EXP , ไก่ขอทาน 2 ตัว
                        หมายเหตุ: สามารถหักหลังพ่อค้าหวัง ไม่นำข้าวสารไปส่งได้ เลือกที่โรลสักที่เพื่อโรลหักหลัง ยึดแร่ไว้เองได้ ไม่ต้องกลับมาหาพ่อค้าหวัง

     (4) ขนส่งเสบียงจากแดนใต้ (ประจำสัปดาห์)
       * รับได้จนกว่าแนวหน้าได้รับเสบียงครบเป้าหมาย *
                        - เขียนโรลเพลย์รับงานจากพ่อค้าหวังที่นี่
                        - โดยมีเนื้อหางานพ่อค้าหวังบอกว่าเขาได้อาสาราชสำนักช่วยจัดหาเสบียงให้แนวหน้าในการใช้เตรียมความพร้อมในการป้องกันโจรโพกผ้าเหลือง ข้าได้ติดต่อพ่อค้าเอาไว้แล้ว แต่การขนส่งขนส่งได้รอบละ 10,000 กระสอบ หน้าที่ของเจ้าคือไปรับขบวนเสบียงที่เจียงหลิงและขนส่งขึ้นมาทางเหนือไปยังแนวหน้า คุ้มกันขนรถขึ้นมาตามจุดต่าง ๆ ที่เจ้าเลือก มีด้วยกันดังต่อไปนี้

เหอไน่:  0/100,000 เสบียง
(เส้นทางขนรถ: เซียงหยาง-ซินเอี๋ย-หรูหนาน-สวี่ซาง-ซื่อสุยกวน-หู่เหลากวน-ลั่วหยาง-หงหนง-เหอตง-ฉีกวน-ไท่หยวน-เหอไน่)

ฉางซาน: 0/100,000 เสบียง
(เส้นทางขนรถ: เซียงหยาง-ซินเอี๋ย-หรูหนาน-สวี่ซาง-ซื่อสุยกวน-หู่เหลากวน-ลั่วหยาง-หงหนง-เหอตง-ฉีกวน-ไท่หยวน-เยี่ยนเหมิน-ฉางซาน)

หลิงพี: 0/30,000 เสบียง
(เส้นทางขนรถ: เซียงหยาง-ซินเอี๋ย-หรูหนาน-หวยหนาน-หลิงพี)

                        - สร้างสตอรี่ไปพบเจอกลุ่มชาวนาแดนใต้ เพื่อรับขบวนข้าวขนรถขึ้นเหนือให้แนวหน้า ณ ย่านการค้า เมืองเจียงหลิง
                        - สร้างสตอรี่คุ้มกันรถเสบียง 10,000 หาบไปตามเส้นทางขนรถ (ผ่านทุกเมือง เนื่องจากเสบียงปริมาณมากทำให้เดินทางได้ช้า)
                        - สร้างสตอรี่พบเจอ [โจรผ้าเหลืองระดับกลางคนใดก็ได้] อย่างน้อย 3 เมือง และ [ขุนพลโจรผ้าเหลืองคนใดก็ได้] อย่างน้อย 2 เมือง
                        * หมายเหตุ: ไม่สามารถเจอพร้อมกันได้ในเมืองเดียว *
                        - สร้างสตอรี่ ณ ค่ายทหารชั่วคราว นอกเมืองเป้าหมายที่มาส่งข้าว
                       - สร้างสตอรี่ส่งข้าวกับนายทหารหน้าค่าย ก่อนพวกเขาพาคุณไปทำเอกสารรับรองให้พ่อค้าหวังและฝากขอบคุณพ่อค้าหวัง
                        - เลือกเส้นทางจากเมืองที่คุณอยู่กลับลั่วหยาง 3-6 เมือง อิสระ
                        - กลับมารายงานความสำเร็จของงานต่อพ่อค้าหวัง
                        รางวัลเควส):ได้รับ +500 ตำลึงทอง , +10,000 ตำลึงเงิน  , +70 EXP (หาก Level ตันจะได้รับ +3 Point แทน) , ข้าวสารและไม้อย่างละ 1,000 ท่อน/กระสอบ  ,
            ใบรับรองคนละครึ่ง 1 ใบ (ได้เพียงครั้งเดียว) , กล่องสุรา 7 กล่อง , สุ่มใบชา 1 ชนิด (50 ใบ)
             * สามารถหักหลังระหว่างทางฆ่าคนอื่น ชิงเสบียงไปได้ *





←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x12
x5
x636
x241
โพสต์ 2021-9-1 15:09:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
      เทียนหลงหลังจากที่รู้ถึงสถานที่แล้วก็รีบควบอาชาขาวมายังจัตุรัสลานกว้างของเมืองลั่วหยาง รอบๆบริเวณมีผู้คนคับคั่ง บางก็เร่ขายของ บางก็มาหางานเช่นเดียวกับเขา เทียนหลงขี่ม้าไปหาจุดที่มีกลุ่มคนกำลังล้อมรอบชายร่างอ้วนคนหนึ่งอยู่...

      "ท่านใช่พ่อค้าหวังจินหรือไม่ขอรับ??" เทียนหลงพลันกล่าวถามในขณะที่กำลังลงจากหลังม้าของตน


      "ใช่แล้วนั่นข้าเอง แล้วเจ้ามีธุระอันใดรึพ่อหนุ่มม้าขาว" ชายอ้วนท้วมพลันกล่าวถ่มพร้อมกับหัวเราะออกมาเล็กน้อย เขาเองนั้นเป็นคนที่ไม่ได้เคร่งขรึมอะไรอะไร ออกจะเป็นคนที่ติดตลกเสียด้วยซ้ำ


       "ฮ่าๆๆ ท่านช่างมีความขบขันมากนัก ที่ข้ามาวันนี้ก็หวังจะมารับงานเหมือนกับคนอื่นๆเพียงเท่านั้นเองขอรับ" เสียงหัวเราะของเทียนหลงดังออกมาก่อนจะกล่าวประโยคนั้นออกมา


       "เช่นนั้นข้าก็มีงานให้เข้าพ่อหนุ่มม้าขาว"


       "ตามมาสิ" ชายร่างท้วมเดินนำเทียนหลงไปหาของบางซึ่งนั้นคือเหล่าข้าวสารจำนวน 100 กระสอบ


       "เอาสิ่งนี้ไปส่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เขตเหลียงโจว เมืองอู๋เว่ย ที่จวนของเจ้าเมือง เจ้าทำได้ไหมละ??" ชายร่างท้วมพลันกล่าวถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เพราะของพวกนี้ก็ถือว่าเยอะและระยะทางก็ไกลอีก คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะมิทำกันทั้งนั้น

       "ขอรับ ข้าทำได้แน่นอน" เทียนหลงพลันกล่าวตอบอย่างมั่นใจอีกอย่างการที่เขาได้เดินทางไกลเช่นนี้ก็นับเป็นการสำรวจสถานที่ต่างๆไปในตัวอีกด้วย

       "ถ้าเช่นนั้นก็ขนของพวกนี้แล้วก็เริ่มงานได้เลย" ชายร่างท้วมกล่าวขึ้นพร้อมกับตบลงไปยังกระสอบข้าว



       "ได้เลยขอรับ" เทียนหลงรีบขนกระสอบข้าวมาทั้งหมดก่อนจะเริ่มควบอาชาไปส่งของตามจุดหมายที่ตนได้รับมา....
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หวีเซียวเฉิน
ตำราตงฟางซั่ว
ยาสมานแผลขั้นต้น
ตะเกียงซือซานเยวี่ย
ทวนสามพยัคฆ์
ม้าขาว
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x1
x1
x1
x1
x45
x1
x6
x2
x5
x984
x5
x50
x30
x2
x10
x8
x2
x8
x12
x24
x2
x7
x50
x5
x5
x5
x5
x5
x5
x5
x4
x6
x2
x2
x15
x40
x1
x6
x6
โพสต์ 2021-9-2 08:51:42 | ดูโพสต์ทั้งหมด
      เทียนหลงได้เดินทางจากเมืองอู๋เว่ยมาอย่างยาวนาน เขาใช้เส้นทางเดิมในตอนแรกเพื่อมิให้หลงทาง แต่นนั่นมิใช่เรื่องสำคัญเพราะในตอนนี้เขาได้กลับมาถึงเมืองลั่วหยางแล้ว...


      "ท่านหวังจินข้ากลับมาแล้วขอรับ" เทียนหลงพลันกล่าวขึ้นในขณะที่กำลังขี่ม้าขาวตัวหนึ่งมุ่งตรงมาทางมาหาพ่อค้า

      "เป็นเจ้าเองรึพ่อหนุ่มม้าขาว" หวังจินพลันกล่าวขึ้นพร้อมกับสำรวจสัมภาระอย่างถีถ้วนว่าคงเหลือไหม แถมดูจากหน้าตาบวกกับท่าทางแล้วคงมิได้คดโกงเขาแต่อย่างใด งั้นก็คงเหลือเพียงอย่างเดียวคืองานนั้นได้สำเร็จลุล่วงแล้ว



       "เอาหละในเมื่อเจ้าทำงานเสร็จก็รับรางวัลของเจ้าไป" หวังจินกล่าวขึ้นพร้อมกับยื่นถุงเงินให้แก่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว


       "ขอบคุณท่านหวังจิน ว่าแต่ข้าขอถามเรื่องอะไรหน่อยได้รึไม่.." เทียนหลงพลันกล่าวออกมาหลังจากรับถุงเงินมาเสร็จ


       "ว่ามาสิ..." หวังจินพลันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้


       "ข้าในพ่อมีความรู้ด้านศาตราก่อนหลอมอยู่บ้าง หากแต่ว่าข้ามิมีวัตถุดิบในการทำเลย ท่านพอจะทราบไหมว่าข้าสามารถหาแร่ได้ที่ใด??" เทียนหลงพลันกล่าวขึ้นตามความจริงเพราะเขานั้นมิมีความรู้เกี่ยวกับเมืองต่างๆมากนักทำให้ไม่รู้ว่าที่ใดมีอะไรบ้าง...


       "ออเรื่องง่ายแค่นี่เอง...เจ้าต้องไปทางทิศเหนือ เขตซีเหอ ที่นอกเมืองผูโจวจะมีเหมืองแร่อยู่แห่งหนึ่ง" หวังจินพลันกล่าวขึ้นเท่าที่เขารู้ถึงแม้จะไม่รู้ว่ามีแร่ใดบางแต่ก็พอรู้สถานที่อยู่...


       "ขอบพระคุณมากขอรับ" เทียนหลงพลันโค้งกล่าวลา ก่อนจะเดินรอบจัตุรัสอยู่ซักพักเพื่อหาซื้อพลั่วซักอันตามร้านค้า ก่อนจะเริ่มออกเดินทางมุ่งสู่ทิศเหนือ...
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หวีเซียวเฉิน
ตำราตงฟางซั่ว
ยาสมานแผลขั้นต้น
ตะเกียงซือซานเยวี่ย
ทวนสามพยัคฆ์
ม้าขาว
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x1
x1
x1
x1
x45
x1
x6
x2
x5
x984
x5
x50
x30
x2
x10
x8
x2
x8
x12
x24
x2
x7
x50
x5
x5
x5
x5
x5
x5
x5
x4
x6
x2
x2
x15
x40
x1
x6
x6
โพสต์ 2021-9-3 15:52:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ชายหนุ่มกับกองทหารเล็กๆจำนวน 25 นาย ค่อยๆเคลื่อนขบวนเกวียนมายังเมืองลู่หยาง มันเดินทางมาไม่นานนักในขามา..เพราะว่า ยังไม่มีเสบียงนั้นเอง…


"หยุดกันก่อนเถิด พี่น้อง เดี๋ยวข้าจักไปสอบถามข้อมูลให้" ชายหนุ่มกล่าวก่อนจะมองไปยังทหารยามที่อยู่ใกล้ๆ..ก่อนจะเอ่ยถาม

"สวัสดี พวกข้าได้นัดแนะจะมาซื้อเสบียงกับท่านพ่อค้าหวัง ไม่ทราบว่าร้านค้านั้นอยู่แห่งหนใด" มันเอ่ยถามทหารตรงหน้า

"ร้านท่านพ่อค้าหวัง เชิญตามมา ข้าจักนำทางให้" ทหารคนนั้นกล่าวก่อนค่อยๆเดินนำไป

'ง่ายดายนัก' ชายหนุ่มคิดพลางกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ
ก่อนจะเดินตามไปยังที่ร้านค้าแห่งนึง มีพ่อค้ารูปร่างอ้วนท้วม ดูเป็นวัยกลางคน คนนึง ยืนอยู่ 'ดูท่าแล้วนั้นคือพ่อค้าหวังสินะ' ชายหนุ่มขอบคุณทหารยาม ก่อน จะเดินเข้าไปกล่าว

"สวัสดีเถ้าแก่หวัง ข้าคือตัวแทนของกลุ่มทหารอาสา โขว่ซื่อ ข้ามาขอซื้อ เสบียง 8000หาบ คาดว่า น่าจะเคยมีทหารมาติดต่อแล้ว" ชายหนุ่มกล่าว


"อ่อๆ ได้ๆ เดี๋ยวข้าขอดูรายชื่อก่อน" เถ้าแก่หวังกล่าวก่อนเปิดบัญชีดูรายชื่อ

'ดูงานนี้แล้วน่าจะง่าย..' ห่าวอู๋คิดในใจ

"อ้อ...ข้าเจอแล้ว สเบียง 8000 หาบ ราคา 3000 ตำลึงเงิน"
เถ้าแก่คนนั้นกล่าว

"หืม…?" ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย เนื่องจากไม่คิดว่า จะราคา 3000 ตำลึงเงิน แบบไม่ลดให้ เลยแม้แต่น้อย

"พวกข้าสั่งเสบียงไปตั้งเยอะ ลดให้หน่อยมิได้หรือท่าน" ห่าวอู๋กล่าวพลางยกเหตุผล


"ไม่ได้ๆ ของซื้อของขาย จักลดราคาได้อย่างไร…"
เถ้าแก่หวังส่ายหน้าพลางปฏิเสธรัวๆ

"ลดให้อีกหน่อยน่า เถ้าแก่…." ชายหนุ่มพยายามใช้ความรู้รวมถึงเล่ห์กลต่างๆ
พยายามทำให้อีกฝ่ายลดราคา
แต่เล่ห์พ่อคัานั้นสูงส่งกว่ามันมาก…

'ฮึ่ม...ไอ้เจ้าพ่อค้าคนนี้...เหลี่ยมเยอะนัก...ฝากไว้ก่อนเถอะ' มันคิดในใจอย่างเคียดแค้น พลางหมายหัวจะมาแก้มือในภายหลัง

"เอ้า นี่ เงิน 3000 ตำลึงเงิน ค่าเสบียง" ห่าวอู๋จำต้องจ่ายเงินไป..

"ยินดีที่ได้ทำการค้า" พ่อค้าหวังรับเงินไปพลางยิ้มกริ่ม

"พี่น้อง มาขนเสบียงขึ้นเกวียนกัน!" มันกล่าวกับทหารทั้ง 25 คน พลางไปช่วยขนเสบียงด้วย



ก่อนที่มันจะค่อยๆคุมกองทหารขนเสบียงแล้ว ค่อยๆเดินทางกลับ



←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
อริยสัจสี่
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าเหลียง
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
เตากำยาน
ดาบใบหลิว
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x8
x8
x21
x8
x17
x28
x8
x18
x18
x38
x16
x8
x8
x8
x18
x10
x4
x17
x5
x8
x21
x13
x2
x19
x12
x16
x16
x5
x2
x6
x16
x20
x15
x1
x10
x15
x1
x7
x6
x53
x1
x1
x3
x3
x3
x68
x1
x28
x5
x9
x1
x26
x11
x5
x2
โพสต์ 2021-9-3 22:29:14 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Jinying เมื่อ 2021-9-3 22:33

รับเควสส่งก้อนสำริดสู่เฉินหลิว

          หลังพักแรมยังเมืองสวี่ซางไปหนึ่งคืน พร้อมกับพาถานเจ๋อผู้ติดตามคนใหม่ได้เปลี่ยนชุดเพื่อไม่ให้โดนเฝ้าระวังว่าเป็นอดีตโจรโพกผ้าเหลืองมาก่อนเสร็จสิ้น ตัวจิ้นอิ๋งก็เดินทางมาถึงยังเขตเมืองลั่วหยางบ้านเกิดในช่วงสายของวันต่อมา ซึ่งทันทีที่มาถึงยังเขตเมืองนางก็แอบชำเลืองมองบุรุษผู้ติดตามนางยังด้านหลังไม่ไกลจากไป๋เอ้อร์อยู่เป็นระยะ แม้นางจะคอยบังคับม้าให้เดินมาตลอดทาง แต่ก็อดกังวลไม่ได้ว่าบุคคลด้านหลังจะรู้สึกเมื่อยหรือเหนื่อยหรือไม่

          จิ้นอิ๋งอดคิดเช่นนั้นวนเวียนในหัวไม่ได้ กระทั่งมาถึงยังคอกรับฝากม้านางถึงได้ลงจากไป๋เอ้อร์เพื่อฝากเอาไว้รวมถึงไป๋เซ่อไก่ตัวน้อยที่เริ่มเดินหาที่ทางนั่งหมอบหลับตาพักผ่อน และค่อยเดินหายังถานเจ๋อที่สบตามองกลับตั้งแต่เห็นหญิงสาวลอบสำรวจก่อนหน้า

          “ ข้าทำให้ท่านหญิงไม่สบายหรือ? ” ถานเจ๋อเอ่ยน้ำเสียงเข้มตามบุคลิกแต่แววตาดูไหวระริกเจือกังวล ทำจิ้นอิ๋งที่สังเกตเห็นต้องรีบส่ายหน้าหวือปฏิเสธให้อีกฝ่ายสบายใจ

          “ ไม่เลย ๆ ข้าสบายใจเสียอีกที่สามารถเดินทางได้ไร้กังวลขึ้นยามท่านช่วยระวังภัยให้ข้า.. เพียงแต่ข้าสงสัยว่าท่านเดินมาตลอดรู้สึกเหนื่อยบ้างหรือไม่? ”

          ท้ายประโยคจิ้นอิ๋งลดเสียงลงเล็กน้อยราวรู้สึกผิดขึ้นมาที่ไม่ได้เอ่ยถามเร็วกว่านี้ยามเมื่อยังอยู่ที่สวี่ซาง แต่ดูเหมือนถานเจ๋อนอกจากจะไม่ขุ่นเคืองใดยังถอหายใจโล่งพลางส่งยิ้มคืนแก่นายหญิงของมัน

          “ ว่ากันตามตรง.. ข้าก็เหนื่อยจริง ๆ หวังว่าท่านหญิงจะไม่รีบเดินทางต่อและพักที่ลั่วหยางสักพัก ”

          คำพูดที่ไม่ปิดบังความเกียจคร้านของมันเรียกสีหน้าสำนึกผิดของจิ้นอิ๋งให้เปลี่ยนเป็นตกตะลึง ก่อนหลุดหัวเราะขบขันจนดวงตาหวานโศกทั้งสองโค้งประกายระยับดูชอบใจไม่หยุดกับความตรงไปตรงมาของผู้ติดตามก่อนนางจะผายมือชี้ชวนไปนั่งม้านั่งไม่ไกลจากคอกม้าราวบอกนัย ๆ ให้อีกฝ่ายได้นั่งพัก

          “ เช่นนั้นก็นั่งพักก่อนเถิดท่านถานเจ๋อ หากหิวก็เอาเบี้ยรายวันไปยังโรงเตี๋ยมในเมืองได้ แล้วกลับมาเจอข้าที่คิกม้าอีกคราในยามเย็นนะเจ้าคะ ข้าว่าจะ.. จะตามหาคนเสียหน่อย ”

          ได้ยินเช่นนั้นมันก็มีท่าทีลังเลเล็กน้อย เนื่องจากนิสัยของมันที่รักความสบายก็อยากที่จะพักเช่นกัน แต่ก็กังวลกลัวนายหญิงของมันจะมีอันตราย แต่เพราะจิ้นอิ๋งได้ย้ำถึงเมืองลั่วหยางที่เป็นบ้านเกิดของตนไปว่าปลอดภัยแน่ มันถึงได้ยอมไปนั่งพักตามที่ถูกบอกในที่สุด


          คล้อยหลังถานเจ๋อที่ไปนั่งพัก จิ้นอิ๋งก็เร่งเดินกลับยังเรือนของตน เท้าเล็กก้าวสับรวดเร็วอย่างร้อนรนกว่าทุกคราจนเกือบจะชนชาวบ้านแถวนั้นเสียหลายหน บ้างคุ้นหน้าคุณหนูกู่แห่งลั่วหยางก็ลอบมองอย่างสงสัยก่อนจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องที่ขบวนรถม้าของครอบครัวนี้ที่ถูกลอบปล้นระหว่างทางกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าคนอื่นที่ร่วมเดินทางไปด้วยเมื่ออาทิตย์ก่อน จนหลายสายตาที่มองตามแผ่นหลังเล็กของหญิงสาวฉายความเห็นใจเจืออาดูรเสียหลายส่วน

          จนในยามที่จิ้นอิ๋งมาถึงยังเรือนของตน ความเงียบที่โรยตัวรอบพื้นที่ทำให้นางพลันรู้สึกสิ้นหวังไปวูบหนึ่ง ใบหน้าหวานคล้ายซีดขาวลงพร้อมกับที่มองเหม่อเข้าไปยังด้านใน ไม่รู้นางยืนนิ่งเช่นนั้นนานเท่าไหร่ แต่ก็คงมากเกินพอให้ชาวเมืองหญิงคุ้นหน้าผู้หนึ่งเอ่ยทักและกอดปลอบประโลมนางให้พอเรียกสติได้อีกหน

          รู้ตัวอีกทีนางก็เดินทอดน่องมายังจตุรัสกลางเมืองเสียแล้ว ราวอยากให้เสียงจอแจของผู้คนโดยรอบช่วยดึงสติที่กำลังดิ่งต่ำของนางให้คืนสู่ความนึกคิดแง่บวกอีกหนพลันเจอพ่อค้าหวังที่คุ้นหน้าคุ้นตามาตั้งแต่นางยังเยาว์วัยกว่านี้ก็ถือโอกาสพูดคุยเล่นถามสารทุกข์สุขดิบ พร้อมได้คำพูดให้กำลังใจอีกหลายประโยค สุดท้ายจิ้นอิ๋งจึงคืนรอยยิ้มยังใบหน้าได้ ก่อนจะเอ่ยสอบถามงานจากอีกฝ่ายเพื่อให้ตนหายฟุ้งซ่านและถือโอกาสออกเดินทางตามหาครอบครัวโดยได้ช่วยเหลืองานผู้อื่นไปอีกด้วย

          “ ได้ยินมาว่าช่วงนี้ท่านพ่อค้าหวังค้าขายไดดีนัก มีงานให้ข้าช่วยอย่างที่เคยฝากสินค้าให้บิดาข้าส่งบ้างหรือไม่เจ้าคะ? ”

          และราวกับบุรุษกลางคนเบื้องหน้าก็เข้าใจเจตนาคล้ายเศร้าของจิ้นอิ๋ง อีกฝ่ายพลันพยักหน้ารับให้นางเสียหลายหน ก่อนจะกล่าวถึงงานส่งของสามที่ โดยหนึ่งในนั้นมีหมู่บ้านเซิ่งหุนที่นางเพิ่งเคยจากมา จิ้นอิ๋งจึงปัดตกว่าในยามนี้คงไม่ต้องไปสำรวจอีกหน ส่วนเมืองอู๋เว่ยก็ดูไกลเกินไปที่ครอบครัวนางอาจอพยพถึง เช่นนั้นแล้วจึงมีแต่ย้อนหลังกลับไปเมืองเฉินหลิว แม้โอกาสจะน้อยที่ครอบครัวนางจะเลือกไป แต่ย้อนไปดูในส่วนเขตกวนจงให้หมดก็คงไม่เสียหาย อย่างไรทางจากหรูหนานถึงสวี่ซางก็ไม่พบแล้ว ทางที่นางยังไม่สำรวจก็ไม่ควรมองข้าม

          “ งานนี้เจ้าค่ะ ส่งสำริดไปยังเมืองเฉินหลิว ”

          “ โฮ้ะ ๆ ส่งสำริดงั้นหรือ? เช่นนั้นท่านต้องระวังตัวหน่อยล่ะแม่นางกู่ เพราะสถานที่ที่ต้องไปส่งน่ะเป็น บ่อนเฉาเหอจวินแห่งเฉินหลิว ไม่ใช่ที่ที่สตรีเพิ่งเข้าวัยปักปิ่นเช่นเจ้าควรอยู่นาน รีบไปรีบกลับล่ะ! ข้ามีไก่ขอทานเป็นค่าจ้างให้ด้วยเชียวนา! ”

          แม้รอยยิ้มยังประดับใบหน้าของพ่อค้าหวังแต่น้ำเสียงก็ฟังห่วงใยนางอยู่หลายส่วน จิ้นอิ๋งที่ได้ยินเช่นนั้นจึงยิ่งรู้สึกอบอุ่นภายในใจ และรีบเอ่ยหาให้มอบของที่ต้องส่งมายังนางอย่างกระตือรือร้นเพื่อให้อีกฝ่ายได้สบายใจว่านางจะไม่เศร้าซึมให้นานนักและสนใจเมนูที่อีกฝ่ายเสนออยู่ไม่น้อย ก่อนโค้งลาอย่างสุภาพหลังได้ของมาเสร็จสิ้นแล้ว

          แต่เพราะสำริดก็ไม่ใช่ของที่สามารถขนส่งได้ง่าย สุดท้ายตัวจิ้นอิ๋งเลยต้องหาม้ามาเพิ่มเป็นม้าเหลียงสีดำกำมะหยี่ท่าทางแข็งแรงตัวหนึ่งโดยให้ชื่อว่า เฮยเซ่อ ตามสีขน จนพาดเทียมด้วยกระเป๋าใส่สำริดเสร็จสิ้นนางก็จูงมายังส่วนของคอกม้าเพื่อเตรียมเดินทางให้ได้พักแรมยังเมืองเฉินหลิวในยามเย็นได้ทัน


          ถานเจ๋อที่สังเกตเห็นม้าตัวใหม่เข้า มันก็พลันเลิกคิ้วฉงนขึ้นมาพร้อมกับอารมณ์ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างดีใจที่อาจได้ม้าจากนายหญิงแต่ก็ทำเอาอดรู้สึกคร้านไม่ได้เพราะตัวมันเพิ่งจะพักได้ครู่เดียวแม้ความจริงจะผ่านมาเกือบ 1 ชั่วยามแล้วก็ตามที

          “ หน้าท่านไม่ปิดบังเลยนะว่ารู้สึกขี้เกียจเดินทางน่ะท่านถานเจ๋อ ” จิ้นอิ๋งเอ่ยล้อหยอกด้วยน้ำเสียงกึ่งขบขัน ก่อนจะเดินไปเอาไป๋เอ้อร์ออกมาพลางยื่นส่งสายจูงให้แก่ถานเจ๋อ

          “ ฝากไป๋เอ้อร์ด้วยล่ะ ดูแลนางดี ๆ ”

          สิ้นคำของหญิงสาว ถานเจ๋อที่ยังปรากฏร่องรอยความเหนื่อยล้าพาดผ่านยังแววตาแต่รอยยิ้มกลับเผยออกช้า ๆ เมื่อได้รับม้ามาจริง มันโค้งขอบคุณแก่จิ้นอิ๋งและลูบทำความคุ้นเคยไป๋เอ้อร์เป็นอย่างดีให้นางเผยรอยยิ้มขณะทอดมองไม่ต่างกัน


[ ผู้ติดตามถานเจ๋อ ] มอบ ม้าขาว ให้

ลักษณะนิสัยใจกว้าง
+15 EXP ทุกครั้งที่โรลแบ่งปันข้าวของบริจาคด้วยความเมตตาให้ผู้อื่น
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลงเฟิ่งฉิวหวง
ถุงหอมจูอวี๋
กระบี่
พู่หยกเลือดหงส์
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าเหลียง
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x5
x2
x2
x1
x2
x2
x2
x1
x1
x27
x2
x38
x40
x50
x50
x40
x40
x50
x3
x22
x19
x31
x10
x50
x5
x5
x5
x1
x12
x1
x2
x5
x2
x9
x1
x8
x6
x6
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2021-9-5 02:37:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ส่งเควสส่งก้อนสำริดสู่เฉินหลิว

          ช่วงขากลับโชคดีที่มีฝนตกปรอยเพียงครู่ก็หายไป ยามเมื่อเดินทางเข้าใกล้เขตของเมืองลั่วหยางท้องฟ้าก็ใสขึ้นจนเหมือนเมื่อวานได้กลั่นเหล่าเมฆครึ้มก่อนหน้าไปจนหมดแล้ว มือเรียวที่ยื่นพ้นเขตร่มที่กางบังยังเหนือศีรษะ สัมผัสได้เพียงลมพัดแผ่วและกลิ่นดินชื้นจากเขตป่า จิ้นอิ๋งถึงหุบร่มลงในที่สุด ก่อนบังคับม้าให้ค่อย ๆ เดินเพื่อชมทัศนีย์หลังฝนหยุดโดยรอบไปด้วย อ้อมแขนอุ้มตัวไป๋เซ่อเอาไว้พร้อมกับดวงหน้าหวานเชิดเงยเล็กน้อยสูดเอากลิ่นธรรมชาติไปด้วย

          ยามเหยียบเข้ามาถึงยังตัวเมืองลั่วหยางได้ ม้าทั้งสองก็ถูกฝากไว้ยังส่วนของคอกฝากเช่นเดิม ต่างกันที่ครั้งนี้ตัวจิ้นอิ๋งพาถานเจ๋อให้เข้าตัวเมืองมาด้วยกันไม่ได้ปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งพักอย่างก่อนหน้าแล้วเพราะมีเรื่องจะวานให้ทำอยู่เรื่องหนึ่ง

          “ถานเจ๋อ เจ้าเข้าไปยังจตุรัสกลางเมืองแล้วรับค่าจ้างกับพ่อค้าหวัง อืม... เอากำไลนี่ไปให้พ่อค้าหวังดูแล้วเขาจะรู้เองว่าเป็นผู้ติดตามของข้า แล้วรอข้าอยู่ที่นั่น… ข้าเชื่อใจเจ้านะ ”

          เอ่ยย้ำในท้ายประโยคหลังถอดเอากำไลเงินเส้นเล็กที่ประดับเพชรเม็ดน้อยยังกลางวงที่จิ้นอิ๋งได้เป็นของขวัญวันเกิดวัยปักปิ่นของนางจากท่านแม่ ก่อนตัวจิ้นอิ๋งจะแยกเดินออกไปยังอีกทิศที่มีบ้านเรือนของชาวบ้านภายในเมือง ส่วนถานเจ๋อก็แทบยืนค้างอยู่ที่เดิมด้วยไม่นึกว่าจะได้รับมอบหน้าที่ที่เสี่ยงต่อการทรยศได้ง่ายเช่นนี้ ไหนเลยจะได้ของล้ำค่ามาไว้ในมืออีก พลันหวนนึกถึงคำพูดของบุรุษแซ่กัวที่เคยบอกว่าถ้าจิ้นอิ๋งไม่จิตใจดีก็แค่เป็นคนโง่ ซึ่งคล้ายถานเจ๋อนึกอยากจะตอบว่านายหญิงของมันค่อนข้างโง่จริง ๆ หรือถ้าเรียกพอให้รักษาน้ำใจก็คงซื่อมาก.. มากจนเกินไป มันส่ายหัวแผ่วเบาก่อนเดินไปยังจตุรัสกลางเมือง

          และไม่ใช่ว่าคนละโมบเช่นถานเจ๋อจะไม่คิดถึงการเอากำไลและค่าจ้างส่งสำริดแล้วหนีหายไป แต่ถ้าทำแบบนั้นไม่แคล้วได้ของมีค่าแค่ชั่วครั้งชั่วครู่ ไหนจะเรื่องที่มันเคยลั่นปากบอกจะกลับใจนั่นอีก ลูกผู้ชายก็ควรรักษาสัจจะ มันเลยตัดสินใจเลือกที่จะทำตัวดีกับท่านหญิงที่ไม่เคยทำตัวแย่ใส่มันเช่นเดียวกันไปก่อน


          จิ้นอิ๋งที่ยังไม่รู้ตัวถึงการกระทำของตัวเองว่ายังคงหลุดทำสิ่งไม่ระมัดระวังด้วยความเคยชินออกไป ตอนนี้นางกำลังเดินมายังเขตบ้านตนด้วยสีหน้าที่ดูโศกศัลย์ขึ้นมาเล็กน้อย ในหัวกำลังคิดว่าตนอยากที่จะเอาของบางอย่างในบ้านออกมา แต่แล้วในตอนที่เยือนถึงยังเขตหน้าประตู กลับปรากฎแผ่นป้านกระดาษติดบอกถึงการยึดสถานที่เนื่องด้วยเจ้าของบ้านอย่าง กู่ จิ้น ได้ตายลงและไม่มีผู้แสดงตนเป็นเจ้าของคนต่อไปในเวลาที่กำหนด ทางการจึงยึดบ้านของนางไปแล้วจนจิ้นอิ๋งที่อ่านประกาศจบดวงตาโศกทั้งสองข้างแทบจะร้อนผ่าวไปหมด

          หยาดน้ำหยดลามแต่เหมือนเจ้าตัวไม่รู้ตัวนัก ก่อนเลื่อนมือออกแรกผลักประตูแต่ก็ถูกล็อคเอาไว้ ปลายจมูกรั้นคล้ายแสบร้อนขึ้นมาจนแว่วเสียงสูดพร้อมกับมือเล็กที่พยายามเขย่าประตูจนกลบเสียงสะอื้นที่หลุดแผ่วออกมา หน้าผากมนเอนซบยังบานประตูนิ่ง ดวงตาทั้งสองหลับแน่นปิดกั้นการรับรู้โดยรอบไปทั้งสิ้น

          จมจ่อมสู่ห้วงความจริงที่ไม่อยากยอมรับ ริมฝีปากสั่นระริกกล่าวสิ่งใดแทบไม่ออก ดวงตาคลอน้ำเปิดปรอยพร้อมเสียงสะอื้นร้องห้ามไม่อยู่

          ทั้งที่พยายามแบ่งให้ตัวเองได้ทำใจมาแล้วส่วนหนึ่งแต่ยามต้องรับรู้ความจริงก็คล้ายยังยอมรับไม่ได้ อีกทั้งจิ้นอิ๋งยังคิดปลอบโยนตัวเองต่ออีกว่าต้องไปถามญาติฝ่ายมารดายังฉางอันให้ได้เพื่อยืนยันอีกทอดหนึ่ง แม้ความหวังแทบริบหรี่แต่นางก็คล้ายอยากจะให้ตัวเองเชื่อไปแบบนั้นเสียก่อน ไม่เช่นนั้นนางคงเอาแต่ทรุดตัวนั่งปล่อยให้ความเศร้าเกาะกุมไม่ยอมผละไปไหนแน่

          มือเล็กยกเช็ดตามใบหน้าที่ประดับยังคราบน้ำตาจนเหลือเพียงความแดงฝาดระเรื่อทั่วเท่านั้นเป็นหลักฐานถึงก่อนหน้าว่านางได้เผลอหลุดร้องไห้ออกมา ก่อนนางจะทอดมองเรือนเบื้องหน้าเป็นครั้งสุดท้าย.. เพื่อให้ได้จดจำภาพตรงหน้าไว้ในใจไปอีกนานเท่าที่จะนานได้


          ทางด้านถานเจ๋อที่แยกออกมาและอยู่ยังจัตุรัสกลางเมืองแล้วพร้อมถือกล่องใส่ไก่ขอทานสองกล่องกับถุงเงินวางเหนือเอาไว้ในสองมือ กำลังเผชิญปัญหาโดนคนงานของพ่อค้าหวังคุมหิ้วปีกแขนทั้งสองข้างเอาไว้ พร้อมกับที่ฝ่ายพ่อค้าก็ยึดกำไลของนายหญิงมันเป็นสิ่งประกันก่อนทอดมองหรี่ตาใส่ถานเจ๋ออย่างไม่ไว้ใจจนอดีตโจรได้แต่ถอนหายใจใส่กลับคืนเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่ทราบ

          “ ข้าเป็นผู้ติดตามของท่านหญิงกู่จริง ๆ.. ”

          “ ใครให้เจ้าพูดเจ้าคนแปลกหน้า ข้าไม่เห็นจำได้ว่าแม่นางกู่มีผู้ติดตามหน้าตาเช่นเจ้าด้วย จะให้ข้าเชื่อก็เงียบแล้วรอแม่นางกับข้าเงียบ ๆ ต่อไปเสีย! ”

          พ่อค้าหวังแทบจะเอ่ยแทรกเสียงถานเจ๋อขึ้นมาพร้อมกับชี้นิ้วใส่ ทำเอาอดีตโจรได้แต่ถอนหายใจอีกพนพลางแกล้งกระตุกแขนให้ยิ่งถูกยึดจับแน่นขึ้นจนหลุดกลอกตาใส่ ท่าทางไร้มารยาทแบบนั้นยิ่งทำให้คนโดยรอบไม่วางใจยังถานเจ๋อ ถึงอย่างนั้นเพราะเจ้าตัวไม่ได้มีท่าทางที่คิดจะหลบหนีเลยชั่งใจว่าอาจจะเป็นผู้ติดตามของอดีตคุณหนูกู่ผู้นั้นจริง ๆ

          ถานเจ๋อก็เหนื่อยที่จะเอ่ยย้ำคำเดิมเป็นรอบที่ห้าจึงเบี่ยงความสนใจตนมาจ้องยังกล่องอาหารส่งกลิ่นหอมในอ้อมแขนแทน พลันนึกถึงใบหน้าบุรุษเมืองเฉินหลิวที่ให้ที่หลบฝนแล้วยังทวงของตอบแทนเสียเจาะจงว่าเป็นไก่ขอทานนี้อีก ความไม่วางใจระคนอารมณ์เสียพลันตีตื้นขึ้นมาจนเผลอลั่นปากเอ่ยขึ้นมา

          “ เจ้าพ่อค้า ข้าไม่รับไก่ขอทานนี้จะได้หรือไม่? ”

          “ เป็นแค่ผู้ติดตามจะมาเลือกค่าจ้างแทนนายไม่ได้!! ไม่รู้จัก-- ”

          “ อ๋อ.. สรุปเชื่อแล้วหรือว่าข้าเป็นผู้ติดตาม ”

          เอ่ยแทรกย้อนใส่พ่อค้าจนอีกฝั่งหน้าแดงก่ำด้วยความโมโหเรียกรอยยิ้มให้ปรากฎประดับใบหน้าของถานเจ๋อขึ้นมา ก่อนสุดท้ายมันจะโดนผ้าผูกปิดปากไม่ให้ลั่นคำกวนประสาทขึ้นมาได้อย่างเมื่อครู่ จนมันได้แต่กลับมาคิดขุ่นเคืองอยู่คนเดียวที่ไม่สามารถเอาไก่ขอทานนี้ออกไปได้อีก

          ไม่ใช่ว่ามันหึงหวงหรือคิดไม่ซื่อกับท่านหญิงของมันจนไม่อยากให้กลับไปเอาของตอบแทนผู้มีพระคุณ แต่ถานเจ๋อแค่รู้สึกไม่วางใจบุรุษหน้าหยกผู้นั้น แม้ท่าทางจะดูแล้วไม่มีพิษมีภัยในแง่ของการคร่าชีวิต แต่สายตาอีกฝ่ายนั้นแฝงแววความสำราญไม่น้อย นายหญิงที่ซื่อจนโง่ของมันจะรอดพ้นได้อย่างไรหากต้องไปพบอีกจนได้สนิทสนมกัน ถานเจ๋อในตอนนี้กังวลเหลือแสนจนใบหน้าโหดของมันยิ่งดูไม่น่าดูชมขึ้นไปอีก โดยไม่รู้ตัวความคิดมันนั้นใกล้เคียงกับพี่ชายผู้ห่วงน้องสาวไม่น้อยเลยเชียว

          จนในตอนที่พ่อค้าหวังที่เห็นใบหน้าบูดเบี้ยวของถานเจ๋อแล้วยิ่งนึกระแวงอยากจะยึดของคืนก็สังเกตเห็นอดีตคุณหนูกู่ผู้นั้นเดินเข้ามายังบริเวณของพวกเขาทั้งคู่พอดี ให้ถูกดึงความสนใจเอ่ยทักหาหญิงสาวทั้งรอยยิ้มแทน จนจิ้นอิ๋งที่ได้เห็นก็พลันเผยรอยยิ้มจนดวงตาหวานนั้นโค้งตามดูน่าชังไม่น้อย

          “ สวัสดีเจ้าค่ะท่านพ่อค้าหวัง… จะว่าไปเหตุใดถึงจับตัวผู้ติดตามข้าไว้เช่นนั้นล่ะเจ้าคะ? ”

          และประโยคแรกที่เอ่ยหาก็มาพร้อมกับที่จิ้นอิ๋งตรงไปขอร้องให้ลูกจ้างของพ่อค้าได้ปล่อยมือที่จับกุมตัวของถานเจ๋อออก ผู้ติดตามอดีตโจรผู้นั้นหลังถูกปล่อยเป็นอิสระก็พลันไปยืนหลบหลังท่านหญิงตัวเล็กของมัน ก่อนยักคิ้วหลิ่วตาราวจะสื่อว่า ‘ เห็นหรือไม่? ’ ให้แก่พ่อค้าเสียน่าหมั่นไส้จนแทบปากกระตุก จิ้นอิ๋งที่ไม่ได้รู้ถึงความบาดหมางของทั้งสองพลันเห็นสีหน้าพ่อค้าที่ดูกรุ่นโกรธก็สบสายตาติดฉงนกลับไปให้บุรุษกลางคนเบื้องหน้าดูมีท่าทีประนีประนอมขึ้น

          “ สรุปเป็นผู้ติดตามของเจ้าจริง ๆ สินะแม่นาง.. อย่างไรคราวหน้าก็แจ้งชื่อผู้ติดตามให้ข้าได้รู้ก็พอ อย่าเอาของมีค่าให้ใครง่าย ๆ เช่นนี้อีกเล่า ”

          จบคำเอ่ยเตือนจากอีกฝ่าย กำไลของนางก็ถูกยื่นส่งคืนให้จิ้นอิ๋งโค้งรับก่อนส่งรอยยิ้มแหยกลับไปราวเด็กที่กำลังสำนึกผิด ก่อนนางจะหันเช็คของที่ได้รับเป็นค่าจ้างจากมือของถานเจ๋อไปด้วยถึงได้กลับผินใบหน้ากลับมาและโค้งขอบคุณให้พ่อค้าหวังอีกหน

          “ ขอบคุณสำหรับค่าจ้างเหล่านี้นะเจ้าคะท่านพ่อค้าหวัง ”

          จิ้นอิ๋งเอ่ยน้ำเสียงดูดีใจพลางแตะลงกล่องไก่ขอทานอีกสองสามครั้งประกอบไปด้วยให้เห็นว่าสิ่งที่ทำให้ตนชอบใจนั้นคือของในกล่องนี้ โดยมีถานเจ๋อที่ลอบสังเกตท่าทางท่านหญิงของมันจนพลอยหน้าดำคล้ำเครียดประกอบฉาก

          “ โฮะ ๆ ชอบสินะไก่ขอทาน ทานให้อร่อยแล้วกันนะแม่นางกู่ ก่อนหน้าผู้ติดตามเจ้าเกือบจะคืนอาหารจานนี้แก่ข้าที่ให้เป็นของตอบแทนเจ้าด้วยล่ะ ข้าล่ะไม่อยากจะพูด! ”

          “ แต่เจ้าก็พูดไปแล้ว! ” ถานเจ๋อตอบกลับด้วยน้ำเสียงกัดฟัน

          “ ถานเจ๋อ! ไฉนพูดกับพ่อค้าหวังเช่นนั้น ขอโทษท่านเดี๋ยวนี้ ”

          เอ่ยดุที่ผู้ติดตามกล่าวน้ำเสียงไม่น่าฟังเช่นนั้นออกมา ซึ่งถานเจ๋อก็รับฟังและยอมขอโทษกลับไปแม้จะฟังดูแบบขอไปทีก็ตามทีจนจิ้นอิ๋งแสร้งตีหน้าขึงขังจนดูตลกมากกว่าน่าเกรงขาม มันถึงยอมขอโทษไปอีกหนที่ฟังดูอ่อนลงมากขึ้น ส่วนเรื่องที่จะคืนไก่ขอทานนั้นจิ้นอิ๋งไม่ได้นึกเอาความอะไรเพราะหากไม่ได้จากพ่อค้าหวัง หญิงสาวก็แค่ทำขึ้นมาเองอีกจานโดยอาจถามสูตรจากพ่อค้าก็เพียงพอแล้ว

          “ โฮ่.. แม่นางกู่หัดดุคนอื่นได้แล้วหรือนี่ ช่างน่าประทับใจ ดียิ่ง ๆ ใครผิดก็ควรตักเตือนเสียบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ยอมเขาเดี๋ยวจะเสียเปรียบ ”

          โดยสอนไปอีกหนึ่งคำรบ ทำเอาจิ้นอิ๋งพลันหวนนึกถึงบิดาที่มักจะคอยสอนให้นางแก้เกี่ยวกับข้อเสียในตัวอย่างการช่างใจอ่อนบ่อย ๆ พลอยทำนางที่ยังไม่หายเศร้าซึมดีเผลอบิดเบ้ใบหน้าคล้ายจะร้องไห้อีกรอบให้วุ่นวายไปครู่หนึ่งด้วยพ่อค้าหวังนึกว่าดุนางเข้าให้จนน้ำตาตก ก่อนจิ้นอิ๋งจะรีบปฏิเสธและเล่าเรื่องทุกข์ใจให้ฟังจนต้องมาคอยนั่งคุยนั่งปลอบกันดี ๆ ก่อนจะพากันเอ่ยลาและโดนอวยพรให้โชคดีหลังได้ยินเป้าหมายสถานที่ที่จิ้นอิ๋งจะไปต่อคือเมืองฉางอันของเขตเหลียงโจว

          .

          “ ท่านหญิงจะไปฉางอันเลยหรือไม่ ข้ายินดีเดินทางไปวันนี้เลย ” ถานเจ๋อถามขึ้นอย่างขยันขันแข็งผิดวิสัย

          “ มันค่ำแล้วนะถานเจ๋อ แล้วเราต้องย้อนไปเฉินหลิวเอาไก่ขอทานให้ท่านกัวฟ่งเสี้ยวเสียก่อนด้วย วันนี้พักผ่อนกันเสียก่อนเถิด ”

          สิ้นคำใบหน้าถานเจ๋อก็กลับมาคล้ำสนิทอีกหน ความอิดออดปรากฏชัดจนโดนจิ้นอิ๋งทำหน้าขึงที่ไม่ดุใส่ถึงยอมทำตามคำสั่ง..


[ ผู้ติดตามถานเจ๋อ ] มอบ EXP จากเควสส่งก้อนสำริดสู่เฉินหลิว ให้

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลงเฟิ่งฉิวหวง
ถุงหอมจูอวี๋
กระบี่
พู่หยกเลือดหงส์
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าเหลียง
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x5
x2
x2
x1
x2
x2
x2
x1
x1
x27
x2
x38
x40
x50
x50
x40
x40
x50
x3
x22
x19
x31
x10
x50
x5
x5
x5
x1
x12
x1
x2
x5
x2
x9
x1
x8
x6
x6
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2021-9-6 00:11:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด
หลังใช้เวลามาอย่างยาวนานเฉินเซียวเฟิงก็พาทหารขนเกวียนมาถึงเมืองลั่วหยางโดยไม่พบอุปสรรคใดๆ นั่นถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับเขา

"ที่นี้นะรึลั่วหยาง.. ช่างยิ่งใหญ่จริงๆ"


แวบแรกที่เฉินเซียวเฟิงเข้ามาในเมืองก็พบถึงความเจริญของเมืองที่เทียบกับบ้านเกิดเขาไม่ติด แค่ทหารที่คอยตรวจตราก็ดูน่าอันตรายแล้ว


"ทั้งๆที่เมืองหลวงเจริญขนาดนี้ ทำไมราชสำนักถึงไม่เคยส่งความช่วยเหลือไปให้ประชาชนบ้างเลยเล่า?"


เฉินเซียวเฟิงคิดในใจก็ยิ่งแค้น แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเขาจำเป็นต้องทำงานของเขาให้เสร็จ จึงไปถามคนข้างทางเพื่อไปหาพ่อค้าหวังที่จะติดต่อซื้อขายในคราวนี้


"ท่านคือพ่อค้าหวังใช่หรือไม่?"


เฉินเซียวเฟิงเดินทางไปถึงที่จตุรัสก่อนจะพบคนที่ท่าทางน่าจะใช่คนที่เขาติดต่อซื้อของด้วย


"เป็นข้าเองเจ้ามีธุระอะไรรึ?"


พ่อค้าหวังหันมามองท่าทางเขาเหมือนประเมิณตัวเฉินเซียวเฟิงอยู่


"ข้ามีนามว่าเฉินเฟิง เป็นตัวแทนจากลุ่มทหารโขว่ซื่อเพื่อมารับเสบียงที่สั่งเอาไว้"


เฉินเซียวเฟิงกล่าวตามตรงไม่อ้อมค้อมแม้แต่น้อย


"อ่อ กลุ่มโขว่ซื่อนี้เอง ไหนๆขอดูรายการก่อนสิ นี้ไงเสบียง 8,000 หาบ ทั้งหมด 3,000 ตำลึงเงิน"


พ่อค้าหวังรีบเช็ครายการก่อนบอกราคาออกไป


"นี้เงินของท่านลองนับดูสิครบไหม"


เฉินเซียวเฟิงยื่นถึงเงินให้โดยไม่คิดต่อรองแม้สักนิด เพราะเดิมทีนี้ก็ไม่ใช่เงินเขาอยู่แล้วจึงไม่คิดเสียดายอะไรมาก


"อืมๆ ลูกค้าแบบเจ้านี้คุยง่ายจริงๆ ไหนดูสิ.. โอเคครบถ้วนไม่มีตกหล่นเจ้าเอาเสบียงไปด้วยได้เลย"


พ่อค้าหวังยิ้มรับเพราะนานๆทีจะเจอพวกหน้าใหม่มารับสินค้าโดยไม่ต่อรองสักนิด


"ขอบคุณมาก เอาล่ะพวกเราขนขึ้นเกวียนให้หมด!"


เฉินเซียวเฟิงตะโกนเรียกทหารทั้ง 25 นายก่อนจะเริ่มช่วยกันขนเสบียง 8,000 หาบขึ้นรถเกวียนโดยที่ตัวเฉินเซียวเฟิงก็ออกแรงช่วยด้วยและขนมากว่าใครๆ


"เรียบร้อย เอาล่ะพักกันสัก 2 ชั่วยามค่อยออกเดินทาง ไหนๆก็มาถึงเมืองหลวงแล้วข้าขอเลี้ยงพวกเจ้าเองล่ะกัน!"


เฉินเซียวเฟิงที่เห็นว่าพวกทหารเหนื่อยๆกันเลยเพิ่มขวัญกำลังใจโดยการ พาทหารพวกนั้นไปกินเลี้ยงที่ร้านอาหารใกล้ๆให้กินกันได้เต็มที่แต่สั่งห้ามงดกินเหล้าเพราต้องเดินทางต่อ และเมื่อกินกันอิ่มหน่ำสำราญก็ให้ทหารเตรียมตัวพร้อมเดินขนเกวียนไปที่ ด่านหานกู่กวน


[จ่ายเงินเพิ่ม 100 ตำลึงเงินสำหรับเลี้ยงทหารทั้ง 25 คน]
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เตากำยาน
หน้ากากยักษา
ดาบไท่จี๋
ม้าขาว
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x35
x44
x35
x10
x10
x11
x20
x15
x1
x15
x27
x60
x3
x7
x6
โพสต์ 2021-9-7 20:51:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด
    เทียนหลงเมื่อมาถึงยังเมืองลั่วหยางก็พลันนำทางทุกคนมายังจัตุรัสกลางเมืองได้อย่างรวดเร็วเพราะตนนั้นเคยมารับงานที่นี่เมื่อครั้งอดีต

    "คาราวะท่านพ่อค้า" เทียนหลงโค้งตัวลงเล็กน้อยกล่าวกับชายตรงหน้า

    หวังจินพลันหันตามเสียงมาอย่างรวดเร็ว สายตาพลันจ้องมองดูชายที่กล่าวทักทายตนก่อนจะนึกออกอย่างรวดเร็วว่าชายตรงหน้าคือใคร

    "อ่าว!! พ่อหนุ่มม้าขาว" หวังจินพลันกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มก่อนที่สายตาจะจ้องมองไปที่ม้าของอีกฝ่ายซึ่งบัดนี้ได้เปลี่ยนสีจากขาวเป็นดำไปเสียแล้ว "ข้าคงต้องเรียกเจ้าพ่อหนุ่มม้ามืดแล้วสินะ"

    "ท่านพ่อค้าอย่าล้อข้าเล่นเช่นนั้นเลย วันนี้ข้ามาด้วยเรื่องของเสบียงนะขอรับ" เทียนหลงพลันกล่าวขึ้นพร้อมกับยื่นเงินจำนวน 3000 ตำลึงเงิน ให้แก่พ่อค้าหวังจิน

    "เป็นเช่นนั้นเอง ข้าขอเวลาซักครู่แล้วกัน..." หวังจินกล่าวจบก็รับเงินจำนวนนั้นมาก่อนจะเดินไปนำเสบียงมาให้แก่พวกเทียนหลง

    "ขอบคุณมากขอรับ" เทียนหลงกล่าวโค้งคำนับก่อนจะนำคนทั้งหมดที่นำมาด้วยมาขนเสบียงเหล่านั้นไป ก่อนจะเริ่มเดินทางออกจากเมืองลั่วหยางเพื่อนำของไปส่งให้แก่เหล่าทหาร
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หวีเซียวเฉิน
ตำราตงฟางซั่ว
ยาสมานแผลขั้นต้น
ตะเกียงซือซานเยวี่ย
ทวนสามพยัคฆ์
ม้าขาว
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x1
x1
x1
x1
x45
x1
x6
x2
x5
x984
x5
x50
x30
x2
x10
x8
x2
x8
x12
x24
x2
x7
x50
x5
x5
x5
x5
x5
x5
x5
x4
x6
x2
x2
x15
x40
x1
x6
x6
โพสต์ 2021-9-9 22:47:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เควสส่งข้าวกล่องให้พี่ชาย
ส่งข้าวห่อใบบัวแก่พ่อค้าหวังจิน

          หลังจากเจอกลุ่มโจรถึงสองคราหลังเดินทางผ่านเขตเมืองหงหนง จากที่ตั้งใจจะอ้อมทางปกติเพื่อเลี่ยงเข้าเมืองและพักก่อนเดินทางสู่ลั่วหยางในช่วงเช้า สุดท้ายจิ้นอิ๋งก็ตัดสินใจเร่งห้อม้าให้มาถึงลั่วหยางในยามดึก เมื่อมาถึงเมืองบ้านเกิดจิ้นอิ๋งก็ส่งให้ถานเจ๋อเข้าพักยังโรงเตี๊ยมไปเสียก่อน ส่วนตัวนางได้แวะยังโรงหมอให้ช่วยทำแผลเสียก่อนและพักแรมยังสถานที่นั้นไปด้วยป้องกันแผลอักเสบจนไข้ขึ้นจะได้รักษาได้อย่างทันท่วงที

          คืนนั้นจิ้นอิ๋งหลับฝันถึงครอบครัวที่พร้อมหน้าและอยู่ร่วมกันราวกับไม่เคยโดนกลุ่มโจรเข้าโจมตีขบวนสินค้า เพราะนางกล่าวห้ามได้ทันและวอนอ้อนให้อยู่ยังลั่วหยางเช่นเดิมจนกว่าจะพ้นไปอีกเดือน เป็นฝันที่ดีในรอบหลายสัปดาห์นับแต่นางจากครอบครัว ยามตื่นดวงตาโศกพลันช้ำแดงเล็กน้อยทั้งยังปรากฏคราบน้ำตาที่เกาะจางยังแพขนตา แม้ล้างออกและเผลอขยี้ด้วยความปวดเพียงแผ่วพลันยิ่งช้ำสีหนักขึ้น จนมาเจอกับถานเจ๋อที่รอยังโรงเตี๊ยมนั้น อีกฝ่ายถึงกับเผลอชะงักตกใจยามเมื่อเห็นเข้า

          " ท่านหญิง! เมื่อคืนไม่ได้เกิดเรื่องร้ายอะไรขึ้นใช่หรือไม่! "

          มันถามเสียงตระหนกพร้อมทำมือยึกยักราวทำตัวไม่ถูก เรียกเสียงหัวเราะใสจากจิ้นอิ๋งให้ดังขึ้นก่อนนางจะส่ายหัวกลับเพียงแผ่วให้เห้นว่าสบายดี ก่อนจะบอกให้ผู้ติดตามได้หาอะไรทานในยามเช้าเสียก่อนพร้อมกับส่งแผ่นกระดาษแผ่นหนึ่งที่มีรายชื่อวัตถุดิบที่ต้องซื้อจากตลาดส่งมาให้นางที่จะแวะไปทำข่าวห่อใบบัวให้แก่พ่อค้าหวังจินยังโรงครัวของโรงเตี๊ยมเสียก่อน และเนื่องด้วยเป็นสถานที่บ้านเกิด ผู้คนคุ้นหน้าคุ้นตาจิ้นอิ๋งเต็มไปหมด เพียงนางเอ่ยขอใช้ครัวทำอาหารเพียงครู่ก็ตอบรับอย่างใจดี

          ยามเมื่อถึงโรงครัวจิ้นอิ๋งก็เริ่มจากก่อฟืนตั้งหม้อทำไข่ต้มจากไข่ของไป๋เซ่อรอไว้เสียก่อนด้วย หลังจากนั้นถึงสั่งอาหารเช้าของโรงเตี๊ยมเป็นการตอบแทนสถานที่ที่ให้ใช้โรงครัว เกือบเวลาหนึ่งก้านธูปจิ้นอิ๋งถึงทานข้าวหมดเพราะมัวแต่หวนนึกถึงความฝันไม่หยุด และเพราะถานเจ๋ฮได้นำของเข้ามาให้ตัวนางจึงจำต้องดึงตัวเองกลับมาและลงมือทำอาหารต่อ ไข่ต้มที่ถูกนางยกออกมาพักนานแล้วถูกวางแยกไว้เสียก่อนจะตั้งกระทะผัดเนื้อให้สุก จนผัดเสร็จพักเนื้อก็ตามด้วยผัดข้าวสารกระทั่งเม็ดใสถึงนำลงตั้งหม้อเตรียมหุงข้าวต่อแทน ซึ่งในขั้นตอนนี้จิ้นอิ๋งก็ได้ใส่เนื้อ เห็ดหูหนูขาว และเม็ดบัวลงไปคลุกรวมกัน ก่อนจะผสมซอสและเครื่องปรุงตามสูตรที่จำมาจากท่านพ่อค้าหวังเย่าอย่างไม่ขาดตกบกพร่องคนคลุกรวมอีกหนถึงปิดฝาและรอข้าวสุก

          ระหว่างรอจิ้นอิ๋งก็ย้ำให้ถานเจ๋อไปหาข้าวทานอีกหน และเป็นไปอย่างที่นางคาดว่าอีกฝ่ายไปตระเวนหาซื้อของให้เสียก่อนจนยังไม่ได้ทานข้าว เมื่อจัดการเรื่องผู้ติดตามเสร็จสิ้นนางก็เหม่อมองหม้อนึ่งข้าวครู่หนึ่ง ปล่อยห้วงความคิดลอยล่องจนกลิ่นหอมโชยออกพร้อมควันโชยคลุ้งจิ้นอิ๋งถึงลุกไปตรวจสอบ ยามเห็นว่าสุกดีก็คนข้าวให้เสมอกันทั่วถึงนำมาห่อกับใบบัวพร้อมวางไข่เค็มและไข่ต้มคู่กันด้านบน ตกแต่งประดับผักชีอีกเล็กน้อยก็มัดห่อให้แน่นด้วยก้านใบบัวถึงได้นำนึ่งอีกหนครู่หนึ่ง ข้าวห่อใบบัวก็ได้ทีหอมฉุยพร้อมเสิร์ฟ

          จิ้นอิ๋งยกยิ้มพลางสำรวจมองยังข้าวห่อใบบัวของนางอย่างพึงใจก่อนจะนำใส่กล่องอาหารอีกหนไม่ให้ร้อนลวกยังมือตนเองถึงได้ออกจากโรงเตี๊ยมไปโดยไม่ลืมที่จะขอบคุณเจ้าของที่กรุณาช่วยเอื้อเฟื้อสถานที่ให้
          .
          .
          ไม่นานนักทั้งคู่ก็มาเยือนถึงตัวจตุรัสกลางเมืองลั่วหยาง จิ้นอิ๋งกวาดสายตาสำรวจไม่นานก็เจอพ่อค้าหวังจินที่ตามหา ร่างเล็กพลันตรงเข้าหายกยิ้มทักทายจนดวงตาโค้งประดับพร้อมเสียงหวานเอ่ยแจ้วทักดูสดใส

          " ท่านพ่อค้าหวังเจ้าคะ! น้องชายท่านฝากนำข้าวห่อใบบัวมาให้เจ้าค่ะ "

          เจ้าของชื่อหันตามเสียงเรียกแทบจะเดี๋ยวนั้นพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนเผยส่งกลับ ทว่ายามเห็นดวงตาหวานโศกของดรุณีน้อยช้ำแดงก็นึกห่วงขึ้นมา กระนั้นท่าทางจิ้นอิ๋งเมื่อตอนยื่นส่งข้าวห่อใบบัวให้นั้น สีหน้าซื่อใสนั้นดูคาดหวังคำชมเอามาก ๆ เลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลยไม่เอ่ยถามในสิ่งที่อาจทำให้อารมณ์ดี ๆ ของนางเลือนหายไป

          " ข้าวห่อใบบัวงั้นหรือ? โอ้! หอมมากเลยนะเนี่ย ยังอุ่นอยู่เลย นี่เจ้าต้องรีบส่งจากฉางอันมาถึงนี่ขนาดไหนเนี่ยแม่นางกู่ "

          เสียงแซวส่งหาก่อนบุรุษกลางคนเบื้องหน้าจะรับเอาข้าวห่อใบบัวมา พลางแกะห่อออกดมกลิ่นที่ชวนน้ำลายสอ ก่อนลอบยกทานเสียคำหนึ่งก็พลันตาวาวเมื่อสัมผัสถึงรสชาติที่ชวนคะนึงถึง จิ้นอิ๋งที่เห็นท่าทางของอีกฝ่ายก็หลุดหัวเราะน้อย ๆ ดูทั้งชอบใจและยินดีที่คนรับดูพอใจในอาหารของนางถึงเพียงนั้น

          " ไม่ได้รีบหรอกเจ้าค่ะ พอดีท่านพ่อค้าหวังเย่าก็ไม่ว่างทำให้ เลยส่งข้าวสารให้ข้าพร้อมบอกสูตรให้ทำมาให้ท่านพ่อค้าหวังจินเองน่ะเจ้าค่ะ รสดีอย่างที่เคยได้ทานไหมเจ้าคะ? "

          ประโยคท้ายเอ่ยถามกระตือรือร้น โดยพ่อค้าหวังจินที่ได้ยินก็ตาโตตอบสนองยังไม่อาจตอบได้ตอนนี้เพราะเคี้ยวไข่ต้มอยู่เสียเต็มปาก ยามเมื่อกลืนลงไปได้ถึงเอ่ยชมสลับกล่าวคาดโทษผู้เป็นน้องไปด้วยอย่างไม่จริงจังนัก

          " เป็นเช่นนั้นหรอกหรือ! ปัดโธ่! ตัวข้าก็ดันนึกว่าหวังเย่าเกิดใส่ใจพี่ชายเช่นข้าขึ้นมาเสียที ที่ไหนได้! ..แต่รสเยี่ยมมากแม่นางกู่ รสอย่างที่ครอบครัวข้าเคยทำให้ทานเลยเชียว "

          สิ้นคำชมใบหน้านวลพลันยิ่งสดใสฝาดระเรื่อแดงยังพวงแก้มที่ยกกลมจากรอยยิ้มกว้างชวนให้ท่านพ่อค้าหวังที่เห็นนางมาตั้งแต่เด็กรู้สึกทั้งเอ็นดูและสบายใจยามได้เห็นสีหน้าเช่นนี้ของนาง ก่อนสักพักที่อีกบุรุษจะนึกได้ว่ารับงานหนึ่งมาที่ดูมีลับลมคมนัยเสียหน่อย หากแต่ดูแล้วของรางวัลน่าจะราคางามเหมาะกับให้ดรุณีน้อยนี้ได้เก็บเงินหลังจากบ้านได้ถูกทางการยึดไป ไหนจะผู้ว่าจ้างนั้นฟังจากน้ำเสียงเป็นหญิงสาวผู้หนึ่ง พ่อค้าหวังเลยพอวางใจแนะนำให้แก่จิ้นอิ๋งเผื่อจะสนใจ ซึ่งนางก็คล้ายมีท่าทีลังเลเล็กน้อยกระนั้นเพราะถูกแนะจากบุคคลที่ตนไว้ใจเลยตอบแนวแบ่งรับแบ่งสู้ไปเสียก่อน

          " น่าสนใจอยู่นะเจ้าคะ.. แต่ข้าขอเก็บไปคิดก่อนแล้วกันเจ้าค่ะท่านพ่อค้าหวัง "

          " ไม่มีปัญหาเลยแม่นางกู่ มาหาข้าอีกครั้งได้เสมอหากเจ้าสนใจ "

          จิ้นอิ๋งที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อยก่อนจะขอตัวลาเพื่อที่จะเดินทางไปหาคนผู้หนึ่งที่่เคยให้สัญญาจะทำไก่ขอทานให้ไป ซึ่งพ่อค้าหวังแม้จะโบกมือลาพร้อมเอ่ยให้เดินทางปลอดภัยไป แต่คล้อยหลังพลันมีสีหน้าคิดหนักขึ้นมาที่เด็กสาวที่เห็นมาตั้งแต่น้อยกำลังจะโตสมวัยปักปิ่นแล้วหรืออย่างไร

          ทางด้านถานเจ๋อก็แทบไม่ต่างกัน อยากชักแม่น้ำทั้งร้อยมาบอกให้จิ้นอิ๋งนำเรื่องที่ส่งข้าวกล่องถึงมือพ่อค้าหวังจินแล้วไปให้น้องชายเขาที่ฉางอัน ทว่ายามนึกถึงเมืองหงหนงที่เพิ่งโดนโจรดักถึงสองรอบซึ่งสร้างความตระหนกให้ท่านหญิงของมันมากเสียจนต้องขอให้มันที่รู้กระบี่เพียงพื้น ๆ สอนให้ สุดท้ายมันเลยได้แต่เงียบปากเจ็บใจยอมเดินทางไปกับนายหญิงที่เตรียมตัวแวะไปยังเฉินหลิวต่ออย่างจำยอม



←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลงเฟิ่งฉิวหวง
ถุงหอมจูอวี๋
กระบี่
พู่หยกเลือดหงส์
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าเหลียง
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x5
x2
x2
x1
x2
x2
x2
x1
x1
x27
x2
x38
x40
x50
x50
x40
x40
x50
x3
x22
x19
x31
x10
x50
x5
x5
x5
x1
x12
x1
x2
x5
x2
x9
x1
x8
x6
x6
x1
x3
x2
x2
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

อย่าลืมเข้าสู่ระบบนะจ๊ะ เข้าสู่ระบบตอนนี้ หรือ ลงทะเบียนตอนนี้

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้