[หมู่บ้านหงชุน] ลานการค้าจุ้นหลินหมิน | ตลาดแสนไผ่

ลานการค้าจุ้นหลินหมิน

{ หมู่บ้านหงชุน }

【ลานการค้าจุ้นหลินหมิน | ตลาดแสนไผ่】

ลานการค้าจุ้นหลินหมินอันเป็นจัสตุรัสการค้าใหญ่ของหมู่บ้านหงชุน
ที่มีผู้คนผ่านไปผ่านมาทุกวี่วัน จุดรวมตัวของชาวบ้านในหมู่บ้านที่มักจะออกมา
ต้อนรับเหล่าพ่อค้าแม่ขายที่สัญจรผ่านหมู่บ้านเสมอด้วยบรรยากาศอบอุ่น

Tianzhou ดี

ราชสีห์จรจัด

เผยแผ่ศาสนา 1

หลังจากที่ทั้งสองได้พักอยู่ที่ยอดเขามานานในที่สุด พวกเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะลงมาจากที่นั่นเสียที ซึ่งในระหว่างทางที่เดินขึ้นเขาไปนั้นเขาจำได้พลางๆว่าที่ต้นทางนั้นได้มีหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งอยู่จึงได้แวะเข้ามายังหมู่บ้านแห่งนี้ หลังจากที่เดินมาได้ซักพัก ทั้งสองก็ได้เดินมาถึงยังลานการค้าประจำหมู่บ้าน ซึ่งที่นี่มีของขายมากมายทั้งของกินของใช้เต็มไปหมด ซึ่งในจังหวะนั้นสายตาของเทียนโจวก็ได้เหลือบไปเห็นร้านๆหนึ่งที่น่าสนใจเข้าจึงเดินไปอย่างรวดเร็ว

“เอาสิ่งนี้ 3 ชุด”

หลังจากที่เทียนโจวกล่าวออกไปทางร้านก็ได้ยื่นอาหารที่เทียนโจวได้สั่งมานั่นก็คือฮวาเจี่ยวปิ้งย่าง เทียนโจวเดินถืออาหารทั้งสามชุดไปหาปิงจวนที่กำลังเดินเล่นอยู่

“กินซะสิ”

เทียนโจวพลันกล่าวออกมาพร้อมกับยื่นให้ปิงจวนหนึ่งชุด

“ขอบคุณมากเลยนะ”

ปิงจวนยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอื่อมมือไปรับฮวาเจียวปิ้งย่างมารับประทานอย่างเอร็ดอร่อย เจ้าเขี้ยวเงินที่อยู่คู่กับคนทั้งสองมาตลอดเวลาก็เริ่มน้ำลายไหลออกมาเมื่อได้เห็นภาพของปิงจวนที่กำลังกินโดยมิแบ่งตนซักชิ้น เทียนโจวนั้นจ้องมองไปที่เจ้าเขี้ยวเงินพร้อมรอยยิ้มก่อนจะยื่นอีกชุดให้กับเจ้าเขี้ยวเงิน

“ข้าเตรียมให้เจ้าไว้อยู่แล้วมิต้องห่วง”

เทียนโจวเอื่อมมือไปลูบหัวของเจ้าเขี้ยวเงิน ก่อนจะเริ่มรับประทานอีกชุดที่เป็นของตน

เบ้า!(เย้!)

เจ้าเขี้ยวเงินเริ่มรับประทานอาหารที่เจ้านายของตนประทานมาให้อย่างเอร็ดอร่อย เทียนโจวนั้นก็ได้กินอาหารต่อไปซักพักก่อนจะเริ่มจ้องมองไปรอบๆพบเห็นผู้คนมากมายที่เดินไปมาอยู่มาก

“นี่ก็คงเป็นเวลาดีที่จะเริ่มแล้วสินะ”

เทียนโจวพลันกล่าวออกมาหลังจากที่ทานอาหารจนเสร็จสรรพก่อนจะเดินไปยืนกลางลานกว้างที่เต็มไปด้วยผู้คนในยามค่ำ

“พวกเจ้าทั้งหลายลองมาฟัง! พวกเจ้าหลายคนอาจจะรู้จักข้าผู้นี้จากงานประลองที่ลั่วหยาง หรือไม่ก็มิรู้จัก แต่ที่ข้ามาที่นี่ตอนนี้มิได้เกี่ยวกับงานประลองแต่ข้าต้องการที่จะเผยแผ่ความเชื่อของข้าเกี่ยวกับลัทธิมารจิตอสูร มันเป็นความเชื่อของข้าที่เกิดจากรากฐานแห่งความเป็นจริงอันโหดร้ายเกี่ยวกับโลกนี้ พวกเจ้าหลายคนคงถูกกดขี่ด้วยคนที่แข็งแกร่งกว่าหรือมีอำนาจมากกว่าถูกหรือไม่ แต่พวกเจ้าจงจำเอาไว้ว่าพวกเจ้าเองก็มีสิ่งที่เก่งกว่าพวกนั้นเช่นกันในด้านอื่นๆ และสิ่งที่ข้าจะมาบอกพวกเจ้าคือ ข้าจะเป็นคนทำให้พวกเจ้าแข็งแกร่งขึ้นภายใต้ลัทธิมารจิตอสูรที่ข้าเป็นผู้นำ ข้าจะทำให้พวกเจ้ากลายเป็นราชสีห์ผู้เก่งกาจจนมิมีใครหาญกล้าจะเทียบเคียงขอเพียงแค่พวกเจ้าเชื่อมั่นและเดินตามข้ามาสู้ลัทธิของข้า ตามผู้แข็งแกร่งคนนี้!”

เทียนโจวปักทวนลงพื้นอย่างเเรงหลังจากกล่าวจบเพื่อสร้างความสนใจให้แก่คนในหมู่บ้านและรอคอยคำตอบจากคนหมู่มากในที่แห่งนี้ ปิงจวนที่รับประทานอาหารเสร็จก็นั่งมองเทียนโจวอยู่ใกล้ๆพร้อมกับเจ้าเขี้ยวเงิน

"ในที่สุดก็เริ่มแล้วสินะ"

เบ้า!(ใช่!)

ให้ฮวาเจียวปิ้งย่าง [173] ปิงจวน

ให้ฮวาเจียวปิ้งย่าง เขี้ยวเงิน(หมาป่า)

เอฟเฟคจากตัวละคร
Points	Exp	ความสัมพันธ์ (ปิงจวน)
+4 จากโรลอวดเบ่ง (หยิ่งยะโส)	+5 จากโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น (หูดี)	+15 กับคนที่ให้ความสนใจ (แข็งแกร่งดุจเซี่ยงอวี่) +15 กับคนที่คุยด้วย (หูดี) +5 มีธาตุทองเหมือนกัน +20 ปีนักษัตรถูกโฉลกกัน (ชวด > ฉลู) -20 กับคนที่สนทนาด้วย (ฟันเขี้ยว) -10 กับคนที่มีนิสัยหนอนหนังสือ (สายตายาว) +5 กับคนที่สนใจ (มีแผลเป็น) -5 กับขุนนางในสภา (หยิ่งยะโส)
ผลรวมของแต่ละอัน
+4	+5	+25

เอฟเฟคตัวละคร

ศรัทธา

+25 ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ +25 ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิหรือ โรลเกี่ยวกับศาสนา

ผลรวม

+50

Tianzhou ดี

ราชสีห์จรจัด

เผยแผ่ศาสนา 2

หลังจากค่ำคืนที่ผ่านมาภายในหมู่บ้านแห่งนี้ เทียนโจวก็ได้เลือกที่จะเข้าไปพักที่โรงเตี๊ยมในหมู่บ้านจนถึงยามเหม่าเทียนโจวได้ออกมาจากโรงเตี๊ยมเพื่อจะออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆเหมือนทุกวัน ซึ่งในวันนี้เขาเลือกที่จะวิทพื้นพร้อมกับฝึกการใช้ทวนของตนโดยการนำหินไปถ่วงที่ด้านปลายเพื่อเพิ่มความยากในการฝึกฝน หลังจากที่ฝึกฝนไปอยู่ซักพัก เทียนโจวก็ได้กลับไปที่โรงเตี๊ยมผ่านทางตลาดเมื่อวาน

“อรุณสวัสดิ์เทียนโจว”

ปิงจวนยิ้มทักทายเทียนโจวที่พึ่งขึ้นมาถึงห้องเมื่อครู่ สภาพของปิงจวนในตอนนี้พร้อมที่จะออกไปข้างนอกมากๆหลังจากที่อาบน้ำในยามเสร็จไปแล้ว และในตอนนี้เธอก็ได้อ่านตำราเกี่ยวกับศาสนาหลายๆประเภทที่มีอยู่ในโรงเตี๊ยม

“อ่า อรุณสวัสดิ์ แล้วก็ข้าซื้อสิ่งนี้มาฝากเจ้า แล้วก็เจ้าเขี้ยวเงินด้วย”

เทียนโจวยื่นอวาเจียวปิ้งย่างให้กับปิงจวน และแน่นอนเขานั้นก็ยื่นให้กับเจ้าเขี้ยวเงินเหมือนกัน

เบ้า!(ขอบคุณ!)

“ขอบคุณมากนะเทียนโจวข้ากำลังหิวอยู่พอดี”

ปิงจวนยิ้มออกมาพร้อมกับรับฮวาเจียวปิ้งย่างมารับประทานพร้อมกับอ่านตำราไปพลางๆ เทียนโจวนั้นก็ได้มุ่งตรงเข้าไปยังโรงอาบน้ำของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ หลังจากผ่านไปซักพักเทียนโจวก็ได้ทำธุระอะไรจนเสร็จสรรพก็ได้ออกมาจากโรงเตี๊ยมพร้อมกับปิงจวนก่อนจะเดินตรงไปยังศูนย์กลางของลานการค้าอีกครั้ง และแน่นอนปิงจวนนั้นรู้ว่าเทียนโจวนั้นไปทำอะไรจึงได้นั่งรอชายหนุ่มอยู่แถวๆนั้น

“พวกเจ้าทั้งหลายเข้ามาฟัง วันนี้ข้าจะมาบอกพวกเจ้าเกี่ยวกับหนทางแห่งการหลุดพ้นจากอำนาจของผู้อื่นที่ทำให้พวกเจ้าทุกคนรวมถึงข้าในอดีต ต้องถูกข่มเหงและดูถูกจากการเป็นผู้อ่อนแอ แต่สิ่งนั้นมันไม่จริงเสมอไปหากเจ้าได้มาเข้าร่วมกับลัทธิมารจิตอสูรของข้า ข้านั้นแข็งแกร่งขึ้นหลังจากที่ข้าได้รู้ถึงความสามารถของตนเองและฝึกฝนมันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อขึ้นสู่จุดสูงสุด และแน่นอนพวกเจ้าเองก็มีสิ่งที่เก่งเหนือกว่าใครในตัวของพวกเจ้า บ้างอาจมีพละกำลัง บ้างอาจมีปัญญา หรือบ้างอาจมีพรรคพวกหรือมิตรสหาย ทั้งหมดนั่นชล้วนแล้วเเต่เป็นความแข็งแกร่งของพวกเจ้า หากแต่ว่าพวกเจ้านั้นขาดผู้ชี้นำที่ถูกต้อง และขาดผู้ที่จะคอยผลักดันเจ้าให้พัฒนา มาเข้าลัทธิมารจิตอสูรกับข้า! ข้าจะนำพาพวกเจ้าไปสู่จุดสูงสุดที่พวกเจ้ามิอาจวาดฝันได้เลย!!!”

เทียนโจวตะโกนออกมากลางลานกว้างผ่านผู้คนที่สัญจรไปมา บ้างคนนั้นสนใจและยืนฟัง บ้างคนนั้นหาว่าบ้าและสายหน้าหนี ซึ่งนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่เทียนโจวหาได้สนใจไม่ เทียนโจวเดินออกจากลานกว้างมุ่งตรงไปหาปิงจวนที่นั่งอยู่

“ได้เวลาออกเดินทางกันต่อแล้ว”

เทียนโจวกล่าวออกมาก่อนจะพาปิงจวนขึ้นขี่ม้าสีขาวออกจากหมู่บ้านแห่งนี้โดยมีเจ้าเขี้ยวเงินวิางตามมาอย่างใกล้ชิด

ให้ฮวาเจียวปิ้งย่าง [173] ปิงจวน

ให้ฮวาเจียวปิ้งย่าง เขี้ยวเงิน(หมาป่า)

เอฟเฟคจากตัวละคร
Points	Exp	ความสัมพันธ์ (ปิงจวน)
+4 จากโรลอวดเบ่ง (หยิ่งยะโส)	+5 จากโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น (หูดี)	+15 กับคนที่ให้ความสนใจ (แข็งแกร่งดุจเซี่ยงอวี่) +15 กับคนที่คุยด้วย (หูดี) +5 มีธาตุทองเหมือนกัน +20 ปีนักษัตรถูกโฉลกกัน (ชวด > ฉลู) -20 กับคนที่สนทนาด้วย (ฟันเขี้ยว) -10 กับคนที่มีนิสัยหนอนหนังสือ (สายตายาว) +5 กับคนที่สนใจ (มีแผลเป็น) -5 กับขุนนางในสภา (หยิ่งยะโส)
ผลรวมของแต่ละอัน
+4	+5	+25

เอฟเฟคตัวละคร

ศรัทธา

+25 ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ +25 ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิหรือ โรลเกี่ยวกับศาสนา

ผลรวม

+50

เอฟเฟคตัวละคร ปิงจวน

Points

+2 จากการโรลเรียนรู้(ทะเยอทะยาน) +4 เมื่อโรลเรียนรู้(หนอนหนังสือ) +1 จากการโรลเรียนรู้ (ว่องไว)

ผลรวม

+7

  

.: แขกที่สัญจรมาโรงอุปรากร :.

กติกาการโรลเพลย์สนทนาทำความรู้จักขุนพลสัญจรผ่านมา

(1) 1 โรลเพลย์ สามารถเจอได้แค่ 1 คนเท่านั้น ยกเว้นมีระบุว่า xx นั่งกับ xx

(2) ในโรลเพลย์สร้างสถานการณ์พบเจอครั้งแรกได้อิสระ โดยไม่แหกนิสัย NPC

(3) นอกจากทำความรู้จัก พูดคุย ใน 1 โรลเพลย์สามารถมอบของขวัญให้ 1 ชิ้นเท่านั้น

(4) การชักชวนเข้ากองกำลัง บาง NPC ไม่จำเป็นต้องหัวใจเต็ม 10 ดวงเสมอไป นอกจากอยู่ที่การให้ของแล้ว การพูดคุย โรลทิ้งท้ายไว้ และ กำกับว่า "ชักชวน"

ทางทีมงานจะมาคอมเม้นท์ว่าชวนสำเร็จหรือไม่ ถ้าสำเร็จคุณจะได้โต้วาทีกับเขา ถ้าชนะแสดงว่าเขายอมรับใช้คุณ

ความสำคัญก่อนโรลสร้างความสัมพันธ์ NPC

(1) สำคัญมาก ที่คุณจะต้องตรวจเช็ค (ลักษณะนิสัยขัดแย้งกันหรือไม่ สามารถเช็คได้จากที่นี่ คลิก)

(2) รองลงมา ตรวจเช็ต ธาตุวันเกิด และ ปีนักษตร ชงกันหรือไม่ สามารถเช็คได้ที่นี่ (คลิก)

(3) ทุก ๆ การโรลเพลย์ที่มีความขัดแย้งในด้านนิสัย และ ธาตุหรือปีนักษัตรชงกัน เนื้อหาโรลเพลย์คุณจะต้องสร้างให้สมเหตุสมผล

เมื่อความสัมพันธ์ต้องลบลงในโรลเดียวกับจีบ ที่ความสัมพันธ์เพิ่ม โดยการครีเอทสร้างสถานการณ์โรลเพลย์ไม่ถึงกับทะเลาะ ขัดแย้งกัน

แต่ให้คุณเผลอทำอะไรที่ไม่ดี หรือใช้คำพูด หรือ บางอย่างเกี่ยวกับนิสัย ตัวคาร์คุณในโรลนั้นด้วย เพื่อให้มีความเมคเช้นส์ในการลดความสัมพันธ์

Jinying ดี

❀ เทศกาลฉงหยาง ❀

วันเทศกาล : เที่ยวงานเทศกาล

.

.

           เมื่อเก็บใบจูอวี๋ได้เป็นที่พอใจแล้วจิ้นอิ๋งก็ได้ขี่ม้าตามอีกบุรุษเพื่อเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านหงชุนกันต่อ ด้วยเพราะจิ้นอิ๋งไม่สันทัดที่ทางในภูมิภาคเจียงหนานเสียเท่าไหร่ จึงหวังพึ่งอีกบุรุษที่เคยมามาเยี่ยมชมจนรู้ถึงที่ทางทะเลสาบไท่หู ยังบริเวณหมู่บ้านหงชุนก็คงไม่ต่างกัน

           .

           ซึ่งทันทีที่ทั้งคู่มาถึงก็เข้าเวลายามโหย่วพอดี เนื่องจากเป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ จึงไม่ได้มีแผงร้านขายของมากมาย แต่ก็ตกแต่งโดยรอบได้อย่างอบอุ่นสมกับเป็นเทศกาลฉงหยาง ยังบ้านเรือนมีแควนโคมประดับให้ส่องสว่างตลอดทาง หากมองผ่านเข้าไปทางหน้าต่างของบางบ้านที่เปิดโล่งไว้ก็จะเจอครอบครัวอยู่พร้อมหน้าร่วมสังสรรค์

           จิ้นอิ๋งที่สังเกตเห็นเข้าก็ลอบเผยรอยยิ้มน้อย ๆ ด้วยความคะนึงถึงขึ้นมา บรรยากาศรอบตัวพลันหงอยเหงาขึ้นมาเล็กน้อยแม้ในใจของนางจะพยายามปลอบตัวเองอยู่เสมอว่าครอบครัวยังปลอดภัยอยู่ก็ตาม กัวเจียที่มองเสี้ยวหน้าสร้อยซึมลงไปของอิสตรีก็พลันเอ่ยชวนคุยขึ้นมาเพื่อหวังคลายบรรยากาศ

           " อาอิ๋งรู้หรือไม่ว่าหมู่บ้านหงชุนออกแบบให้คล้ายกับวัวเพราะเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งด้วยนะ "

           และดูคล้ายเรื่องที่กัวเจียเอ่ยจะเรียกความสนใจจากจิ้นอิ๋งได้ไม่น้อย เด็กสาวถึงกับผินสายตามาสบหาคนข้างกายอย่างนึกฉงนขึ้นมา ก่อนจะมองรอบตัวหมู่บ้านที่ตอนนี้ทั้งคู่เริ่มออกเดินเที่ยวชมอีกหนเพื่อจะดูว่าเหมือนวัวที่ตรงไหนให้ได้ยินเสียงหัวเราะหลุดแผ่วจากอีกบุรุษขึ้นมา

           " สังเกตตรงนี้ก็ไม่รู้หรอก เจ้าจะต้องไปมองจากมุมสูงแล้วจะเห็นภาพของโครงสร้างหมู่บ้านเสมือนวัวตัวใหญ่นอนเอียงกายแนบชิดอยู่ริมธารหน้าภูเขาใหญ่ และสระน้ำกลางหมู่บ้านนี้.. "

           กัวเจียเอ่ยลากเสียงในตอนท้ายให้เป็นปริศนาระหว่างที่ทั้งคู่มาหยุดยืนยังสระน้ำหนึ่งที่ประดับสวยงามด้วยกอบัวและมีปลาแหวกว่ายให้มองเพลินไม่น้อย ซึ่งในตอนที่ละสายตาจากสระสวยเบื้องหน้ามาได้ ดวงตาโศกหวานก็หันมาหายังบุรุษแซ่กัวอีกหนเพื่อรอฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับหมู่บ้านต่อทั้งดวงตาประกายระยับ จนเรียกรอยยิ้มของผู้เล่าให้เผยออกขึ้นมา

           " สระน้ำตรงนี้เขาบอกเปรียบเสมือนกระเพาะวัว นอกจากนี้ลำธารที่คดเคี้ยวทั่วหมู่บ้านความยาวเกือบหนึ่งลี้ก็เปรียบดังลำไส้ของวัวด้วยล่ะ "

           " โห.. ช่างเปรียบเทียบและสร้างสรรค์สร้างโครงสร้างของหมู่บ้านเช่นกันนะเจ้าคะ "

           จิ้นอิ๋งอดไม่ได้ที่จะร้องขานรับขึ้นมาอย่างชื่นชม ก่อนจะชะโงกมองลงยังสระน้ำตรงหน้าอีกหน แต่แล้วเสียงของผู้ใหญ่บ้านก็พลันเอ่ยทักดังขึ้นให้ทั้งสองผินสายตามองหา อีกฝ่ายเป็นบุรุษมีอายุที่หลังเห็นจิ้นอิ๋งกับกัวเจียก็ลอบหัวเราะชอบใจบางอย่าง ก่อนจะเอ่ยอวยพรให้แก่นักท่องเที่ยวเช่นพวกนางหนึ่งคำรบก่อนยื่นส่งตราประทับที่เข้ามาท่องเที่ยงยังหมู่บ้านหงชุน และมีการเผยแพร่เรื่องเล่าของหมู่บ้านให้กันได้ฟังอย่างน่าประทับใจ

           " ผู้เฒ่าคนนี้ก็ขอให้เจ้าทั้งคู่รักใคร่ปรองดองกันนาน ๆ นะ โฮ่โฮ่โฮ่ "

           " ขอรับ "

           สิ้นคำพูดชวนเข้าใจผิดจิ้นอิ๋งก็ตาโตขึ้นมาอย่างตกใจ แต่กัวเจียกลับตามน้ำเอ่ยขานรับทั้งรอยยิ้มขึ้นมาให้ดรุณีน้อยได้แต่อ้าปากพะงาบกล่าวไม่ออกเสียอย่างนั้น จนพ้นร่างของผู้ใหญ่บ้านที่ตรวจตราหมู่บ้านต่อจิ้นอิ๋งก็ยู่ปากเอ่ยหาบุรุษแซ่กัวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกึ่งดุน้อย ๆ

           " ไปตอบรับแบบนั้นได้อย่างไรเจ้าคะ ผู้ใหญ่บ้านกำลังเข้าใจผิดอยู่นะเจ้าคะ! "

           " เข้าใจผิด? ท่านผู้ใหญ่บ้านอาจอวยพรในฐานะสหายก็ได้.. อาอิ๋งคิดว่าท่านผู้ใหญ่บ้านอวยพรให้ในฐานะอะไรงั้นหรือ? "

           น้ำเสียงระคนล้อหยอกส่งหาพร้อมทั้งรอยยิ้มระยับ ทำเอาจิ้นอิ๋งที่ราวเสียรู้อีกหนพาลกระดากอายขึ้นมาจนพวงแก้มเนียนฝาดสี ดวงหน้าหวานที่แทบแดงระเรื่อรีบเบือนหนีและก้าวเดินผละจากกัวเจียไปเสียดื้อ ๆ ให้ได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วไล่หลัง ก่อนร่างสูงจะตามมาประชิดข้างกายเด็กสาวรวดเร็วพร้อมแว่วเสียงขอโทษตามมาให้ดรุณีน้อยใจเย็นลงได้บ้าง

           " ขอโทษ ๆ.. ข้าไม่ล้อเจ้าแล้วอาอิ๋ง อยากซื้อของอะไรในงานหรือไม่? "

           จิ้นอิ๋งที่โดนเปลี่ยนเรื่องไปให้ก็พลันขบริมฝีปากผะแผ่วขึ้นมา รู้สึกคล้ายอยากจะขอโทษอีกฝ่ายเสียมากกว่าที่เป็นฝ่ายคิดกับกัวเจียในอีกแง่ไปชั่ววูบหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยอะไรตอบกลับไปมากกว่าผงกดวงหน้ารับและเดินดูของตามแผงที่วางขายยังย่านการค้าของหมู่บ้าน ด้วยเพราะนึกถึงซูฮวาและถานเจ๋อขึ้นมา จิ้นอิ๋งจึงได้ซื้อใบชาทั้งหมดอย่างละชุดเอาไว้ ก่อนจะเห็นวัตถุดิบหนึ่งให้หวนนึกถึงอาหารที่บุรุษแซ่กัวชอบขึ้นมาและยังไม่เคยทำให้ทานก็หยิบสิ่งนั้นมาโดยไม่ทันได้ตรึกตรองเลยเชียว

           จนจับจ่ายเสร็จสิ้น พร้อมโดนลดราคาให้ทั้งรอยยิ้มดูยินดีจากเถ้าแก่ร้านขายของ เด็กสาวก็ได้แต่ยกรอยยิ้มแหยกลับหาอย่างไม่เข้าใจขึ้นมาว่าลดให้เนื่องจากอะไร แต่สุดท้ายก็ได้ของมาแล้วจึงไม่ได้คิดมากอะไร จนเมื่อผ่านยังแผงขายของหายาก กัวเจียก็ผินสายตามองหาดรุณีน้อยและเอ่ยถามขึ้น

           " มุกพวกนี้งามนัก เหมือนวันงานบุญครานั้นเลยเชียว.. อยากซื้อหรือไม่อาอิ๋ง "

           เด็กสาวที่มองยังราคาก็พลันนิ่วคิ้วขึ้นมาอย่างคิดหนัก ด้วยเพราะหากซื้อของเหล่านี้ไม่ได้ถือว่าจ่ายเงินแลกของให้ไปทำนุบำรุงศาสนจักรใดแล้ว เป็นเพียงของประดับที่ซื้อให้ตัวเองเท่านั้น ยามจับจ่ายของฝากให้แก่ผู้อื่นราวกับจ่ายไม่คิด กลับกันพอจะซื้อให้แก่ตัวเองจิ้นอิ๋งกลับลังเลขึ้นมา จนบุรุษข้างกายที่เดาความคิดได้นึกเอ็นดูไม่น้อยก่อนสุดท้ายจะไม่ได้ขยั้นขยออะไรต่อและพานางมายังส่วนที่ขายโคมลอยแทน

           " ลอยโคมด้วยกันดีหรือไม่อาอิ๋ง? "

           กัวเจียเอ่ยถามทั้งรอยยิ้มนึกสนุกขึ้นมา ซึ่งจิ้นอิ๋งที่แอบนึกสับสนบางอย่างในหัวและอยากจะลองทำอะไรตามใจตัวเองเพียงครั้งเดียวก่อนจะกลับไปทำตัวให้เป็นปกติจึงพลันพยักหน้ารับแผ่วขึ้นมา จนเป็นคนที่เอ่ยเสนอเองที่มองหาเด็กสาวอย่างตกใจด้วยไม่นึกว่าจะได้รับคำตอบรับมาเช่นนั้น ดรุณีน้อยพลันหันไปซื้อโคมสีนวลตาขึ้นมาหนึ่งอันเพื่อหลบเลี่ยงสายตาเหมือนคาดไม่ถึงจากอีกบุรุษ

           ซึ่งก็เป็นอีกหนที่หลังเถ้าแก่ร้านเห็นทั้งคู่ก็ลดราคาให้ขึ้นมา ทว่าครานี้คล้ายจิ้นอิ๋งจะรู้ความนัยนั้น ดวงหน้าหวานจึงซับสีขึ้นมาจนต้องคอยเลี่ยงไม่ให้อีกบุรุษเห็นใบหน้าของตน

           ก่อนที่จะได้จุดไฟลอยโคม พู่กันด้ามหนึ่งก็เลื่อนส่งให้กัวเจียได้เขียนยังอีกฝั่งด้านของโคม ส่วนจิ้นอิ๋งก็เขียนยังอีกด้าน โดยเน้นเขียนขอพรให้ครอบครัวอยู่ดีมีสุขและสุขภาพแข็งแรงกันโดยถ้วนหน้า ก่อนทิ้งท้ายเขียนอวยพรให้ตัวเองอย่างที่นาน ๆ ทีเด็กสาวจะนึกได้ขึ้นมา คือขอให้ตัวนางนั้นหากตัดสินใจทำสิ่งใดขอให้เป็นสิ่งที่ถูกต้องและนางไม่นึกเสียใจทีหลัง

           แม้จะกำกวมไปเสียหน่อย แต่จิ้นอิ๋งที่ยังสับสนอยู่ในตอนนี้ก็ถือว่านางกำลังพยายามชัดเจนในความรู้สึกบางอย่างที่สุดแล้ว

           " เสร็จหรือยังเจ้าคะอาเจีย "

           เสียงหวานเอ่ยหาก่อนได้รับการขานรับจากอีกฝั่งให้ตัดสินใจจุดไฟแล้วค่อยคอยปล่อยโคมให้ลอยประดับยังผืนฟ้าสีหมึกที่ทอประกายระยับจากหมู่มวลดาราที่ราวกับกำลังช่วยอวยพรให้พรของทั้งคู่สมใจดั่งหวัง

           ความเงียบพลันล้อมหาทั้งคู่ที่เอาแต่เฝ้ามองโคมลอยหนึ่งเดียวที่ลอยประดับฟ้า จนลับเลือนสายตาจิ้นอิ๋งถึงเลื่อนสายตาคืนหายังบุรุษข้างตัวที่คล้ายสบมองหาตนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ ราวกับห้วงเวลาหยุดเคลื่อน สองข้างหูนางนั้นไม่ได้ยินเสียงใดนอกจากจังหวะระรัวทั่วทั้งอก จิ้นอิ๋งเพิ่งจะมาสังเกตเอาตอนนี้เองว่าจริง ๆ แล้วบุรุษเบื้องหน้านางนั้นรูปงามไม่น้อย เครื่องหน้าเหมาะเจาะดูเพลินตาและชวนแฝงยังเสน่ห์กระแสหนึ่งที่ทำเอาเผลอมองค้างไม่อาจผละ

           แต่แล้วเสียงร้องของสตรีผู้หนึ่งก็ดังขึ้นไม่ไกลจากจุดที่พวกนางยืนอยู่ ด้วยเพราะโดนไฟที่จุดโคมลวกมือเข้าให้จนเด็กสาวลอบสะดุ้ง ก่อนจะรู้ตัวว่าใบหน้าของทั้งสองคล้ายเคลื่อนอยู่ระดับสายตาเดียวกันเพราะอีกบุรุษค้อมหัวลงหา ทำเอาจิ้นอิ๋งก้าวขาถอยหลังเสียลนลานไปหมด

           " กลับ.. กลับกันเถิดเจ้าค่ะ… ค่ำ ค่ำมากแล้ว เดี๋ยวจะกลับถึงเจียงเยี่ยดึกไปกว่านี้เจ้าค่ะ "

           เสียงหวานเอ่ยตะกุกตะกักเร่ร้อนไปหมดก่อนร่างเล็กของจิ้นอิ๋งจะรีบเดินนำไปยังคอกม้าที่ฝากไว้หน้าหมู่บ้านเพื่อตั้งสติ ระหว่างนั้นมือทั้งสองก็คล้ายตบตีลงสองข้างแก้มของตัวเองผะแผ่วราวเรียกสติ ดวงตาสีนิลก็คล้ายไหวระริกหวั่นในความรู้สึกบางสิ่งที่กำลังก่อตัวนี้ขึ้นมา..

กิจกรรมช่วงเทศกาล

ซื้อของในงาน

กิจกรรมช่วงเทศกาล

❀ รายการของที่ซื้อ ❀ ใบชาผิงลี่ 1 ชุด (800 + ภาษี 7%) = 856 อีแปะ ใบชาต้าหงเผา 1 ชุด (800 + ภาษี 7%) = 856 อีแปะ ใบชาเจียวกู่หลาน 1 ชุด (800 + ภาษี 7%) = 856 อีแปะ ใบชาผู่เอ๋อร์ 1 ชุด (800 + ภาษี 7%) = 856 อีแปะ ใบชาเหมาเฟิง 1 ชุด (700 + ภาษี 7%) = 749 อีแปะ ใบชาหลงจิ่ง 1 ชุด (700 + ภาษี 7%) = 749 อีแปะ โสมคน 1 ชุด (5,000 + ภาษี 7%) = 5,350 อีแปะ ❀ รวมราคาที่ต้องจ่าย = 9,572 อีแปะ ลักษณะแต่กำเนิดหน้าผากกว้าง -5% ทุกครั้งที่ซื้อสินค้าจากพ่อค้าตามเมืองต่าง ๆ ❀ รวมราคาที่ต้องจ่ายหลังลดราคาเป็น 9,094 อีแปะ ❀

❀ เดินชมเทศกาลภายในเมือง ❀ เขียนคำอธิษฐานและปล่อยโคมลอยร่วมกับคู่เดท     จ่ายค่าโคมลอย 15 ตำลึงเงิน + ภาษี 7% = 16 ตำลึงเงิน ลักษณะแต่กำเนิดหน้าผากกว้าง -5% ทุกครั้งที่ซื้อสินค้าจากพ่อค้าตามเมืองต่าง ๆ รวมค่าโคมลอยที่ต้องจ่ายหลังลดราคาคือ 15 ตำลึงเงิน ❀ ให้เจ้าเมืองประทับตราว่าท่านมาเที่ยวเทศกาล ❀ นัดเดทกับ NPC เดินเทศกาล

ลักษณะแต่กำเนิดตัวหอม

+20 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย

.

สถานะธาตุหลัก : +10 ความสัมพันธ์ [028] ธาตุดินและปีนักษัตรเหมือนกัน

ค่าชื่อเสียง : +10 ความโหดเมื่อเจอคนหัวมาร/หัวคลั่ง

เทศกาลค้าขายของทะเล 19 เดือนสืออี่เยว่ - 24 เดือนสืออี้เยว่ จงผิงศก ปีที่ 1

พ่อค้า: ชู หยวนจวิน

เป็นหนุ่มรุ่นไฟแรง มีอุปนิสัยประหยัดมัธยัสถ์และรักสัตว์ รักธรรมชาติ เป็นบุรุษที่เจ้าระเบียบและรักสะอาดมากถึงมากที่สุด

ทุกอย่างต้องอยู่เป็นที่เป็นทาง ถ้ามีสิ่งใดขยับแม้แต่น้อยจะรู้ได้ทันที ไค่เจียงเติบโตในแถบตุนหวงจึงมีเข้าใจว่าความอดอยากเป็นอยากไร

กระนั้นด้วยความเมตตาทำให้ไม่อาจฆ่าสัตว์เพื่อกินเป็นอาหารได้ เป็นคนแยกงานกับเรื่องส่วนตัว ไม่ว่าจะดีหรือชั่วจะไม่นำมาปนกัน

.: การซื้อวัตถุดิบหายาก :.

(1) เขียนโรลเพลย์มาทำการค้าซื้อวัตถุดิบบางชนิดที่ไม่มีขาย

(2) ทุก ๆ ครั้งที่มาทำธุรกรรมให้ระบุสินค้า จำนวนชุด ราคาต่อชุดไว้ท้ายโพสต์โรลเพลย์เสมอ

(3) หลังโพสต์โรลเพลย์ให้ทำการโอนเงินตามจำนวนผ่านระบบโอนเงิน [อย่าลืม +ภาษีเมือง 8%]

(4) รอทีมงานตรวจเพื่อจัดส่งวัตถุดิบให้ท่าน

.: รายการสินค้า :.

* ชุดหมดแล้วหมดเลย วันอื่นก็ไม่มีขาย ขายที่ยังเหลือ *

หอยพัด (ชุดละ 15 ชิ้น)

สต๊อกสินค้า: 6 ชุด

ชุดละ: 590 อีแปะ

ปลาชิง (ชุดละ 50 ชิ้น)

สต๊อกสินค้า: 6 ชุด

ชุดละ: 3,000 อีแปะ

หมึกสด (ชุดละ 50 ชิ้น)

สต๊อกสินค้า: 6 ชุด

ชุดละ: 3,000 อีแปะ

ปลากะพงแดง (ชุดละ 50 ชิ้น)

สต๊อกสินค้า: 6 ชุด

ชุดละ: 3,500 อีแปะ

ปลาหม่าเจียวยวี (ชุดละ 50 ชิ้น)

สต๊อกสินค้า: 6 ชุด

ชุดละ: 3,500 อีแปะ

ปลาดอร์ลี่ (ชุดละ 50 ชิ้น)

สต๊อกสินค้า: 6 ชุด

ชุดละ: 3,500 อีแปะ

ปลาทูน่า (ชุดละ 50 ชิ้น)

สต๊อกสินค้า: 6 ชุด

ชุดละ: 3,500 อีแปะ

ปลากะพง (ชุดละ 50 ชิ้น)

สต๊อกสินค้า: 6 ชุด

ชุดละ: 4,000 อีแปะ

กุ้ง (ชุดละ 50 ชิ้น)

สต๊อกสินค้า: 6 ชุด

ชุดละ: 4,500 อีแปะ

ปลาเก๋า (ชุดละ 50 ชิ้น)

สต๊อกสินค้า: 6 ชุด

ชุดละ: 4,500 อีแปะ

กุ้งมังกร (ชุดละ 15 ชิ้น)

สต๊อกสินค้า: 6 ชุด

ชุดละ: 199 ตำลึงเงิน

ปลาแซลมอน (ชุดละ 15 ชิ้น)

สต๊อกสินค้า: 6 ชุด

ชุดละ: 199 ตำลึงเงิน

หอยนางรม (ชุดละ 15 ชิ้น)

สต๊อกสินค้า: 3 ชุด

ชุดละ: 250 ตำลึงเงิน

หอยแมลงภู่ (ชุดละ 15 ชิ้น)

สต๊อกสินค้า: 3 ชุด

ชุดละ: 200 ตำลึงเงิน

ปลาหิมะ (ชุดละ 1 ชิ้น)

สต๊อกสินค้า: 3 ชุด

ชุดละ: 35 ตำลึงทอง

ชุดพิเศษชาวประมง
[ภายในเซ็ตประกอบด้วย หอยเป๋าฮื้อ x30 , ปลิงทะเล x30 , กระเพาะปลา x20 , หูฉลาม x20 , หอยนางรม x15 , หอยแมลงภู่ x15 , กุ้งมังกร x7 , ปลาหิมะ x1 ]

สต๊อกสินค้า: 1 ชุด

ชุดละ: 60 ตำลึงทอง

สินค้าที่รับซื้อ

ระยะเวลารับซื้อ: 19-20 เดือนสืออี้เยว่ จงผิงศกปีที่ 1 เท่านั้น

ข้าวสาร 1,000 กระสอบ

รับซื้อวันละ 3 ID

รับซื้อ 1,000 ตำลึงเงิน

ส้ม

รับซื้อวันละ 100 ผล

รับซื้อ 10 ตำลึงเงิน

แร่เหล็กไหล

รับซื้อวันละ 10 ก้อน

รับซื้อ 15 ตำลึงทอง

ก้อนทอง

รับซื้อวันละ 10 ก้อน

รับซื้อ 4 ตำลึงทอง

เพชร & คริสตัล

รับซื้อวันละ 10 เม็ด

รับซื้อ 20 ตำลึงทอง

ก้อนดีบุก

รับซื้อวันละ 100 ก้อน

รับซื้อ 200 ตำลึงเงิน

[The Watcher] ศาสตร์บันทึกลัทธิ

::.คำอธิบายเควส.::

- คำในวงเล็บ อาทิ (พ่อหนุ่ม/สาวน้อย) เลือกคำใดคำหนึ่งมาใช้ ให้เข้ากับคุณ -

- [...] สีน้ำเงิน คือ โรลคำพูดเฉพาะคนมีลักษณะนิสัยตามที่ระบุ -

- ใครมายังมีวงเล็บ [..] โผล่ในโรลจะไม่ส่งรางวัลให้ โปรดตรวจสอบความถูกต้องหลังโพสต์ -

.: เงื่อนไขเควส :.

- มีระดับ Level 35 ขึ้นไป -

- ใช้แต้มศรัทธา 900 แต้มเพื่อรับศาสตร์ตำราลัทธิ -

- เข้าร่วมได้คนละ 1 ครั้ง -

- ท่านต้องโรลเพลย์ไปทิ้งผู้ติดตามไว้ที่อื่นก่อน มาเพียงลำพังเท่านั้น -

- ต้องเป็นลัทธิที่ดีและไม่เป็นการเบียดเบียนผู้อื่น มุ่งเน้นช่วยเหลือผู้คน -

.: โรลเพลย์เปิด :.

       ผู้เฝ้าดูเฝ้าสังเกตการณ์ชายผู้เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นศรัทธาแรงกล้าที่ปรารถนาจะสร้างนิกายใหม่ขึ้นมาเพื่อกล่อมเกลาผู้คนในยุคสมัยแห่งความวุ่นวาย ก่อนเขาจะสังเกตว่าอีกฝ่ายอยู่ลำพัง เขาได้ส่งเสียงพูดกับคนผู้นี้

       - เขียนโรลเพลย์เข้าฉากคัทซีน ในขณะท่านผ่านมาทางยอดเขา ก่อนท่านได้ยินเสียงบางอย่างจากบนฟ้า แต่กลับมองไม่เห็นว่าเสียงอะไร ทำให้ท่านคิดว่าเสียงพระเจ้าหรือทวยเทพแล้วแต่ลัทธิศาสนาตามความเชื่อแต่ละคนที่นับถือ -

       "[ชื่อทางการของท่าน] ข้าเฝ้ามองเจ้ามาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ดูเหมือนตอนนี้เจ้าจะเริ่มมีความมุ่งมั่นที่ไม่ย่อท้อ" ผู้เฝ้ามองกล่าวขึ้นก่อนจะตอบคำถามอีกฝ่าย "เราเป็นใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับความคิดและความเชื่อของเจ้า"

       @Everyone

       "ข้าเห็นศรัทธาเจ้าที่มุ่งหมายจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ในทางที่ดี ข้าจึงอยากมอบของขวัญนี้แก่เจ้า" เสียงนั้นกล่าวดังก้องทั่วขุนเขา

       @Everyone

       "เจ้าจงหลับตาและนึกถึงลัทธิที่เจ้าตั้งมั่นจะสร้างขึ้นเพื่อสอนสั่งผู้คน" บุรุษกล่าวก่อนจะมองดูอีกฝ่าย

       @Everyone [สร้างสตอรี่หลับตาเพ่งสมาธิ]

       วอชเชอร์เมื่อเห็นอีกฝ่ายหลับตาก่อนเขาชี้ปลายนิ้วไปยังตรงหน้าก่อนปรากฎแสงบางอย่างพุ่งลงไปตรงหน้าอีกฝ่าย ค่อย ๆ ก่อรูปลักษณ์ออกมาเป็นตำราเล่มหนึ่ง

       @Everyone [เพ่งจิตสร้างตำราลัทธิ]

ชื่อตำรา: คัมภีร์[ชื่อลัทธิ]

รายละเอียดไอเท็ม:

       ก่อนคุณยื่นมือไปรับตำราที่วางบนโขดหิน พระเจ้าหรือสิ่งใดก็ตามหายไปแล้ว.......

      - สร้างสตอรี่โรลเพลย์จบ -

รางวัล: ตำราลัทธิ(lv35) เกรดส้ม 1 เล่ม

+35 EXP , +5 Point

XiangShan ดี

ออกเดินทางกลับสู่จงหยวน

แวะเจียงหนาน พบวอชเชอร์อีกครั้งและสร้างคัมภีร์ลัทธิตนเอง

หลังจากหญิงสาวขึ้นท่าเรือที่ท่าฝูโขว่ หลิงสาวก็เดินทางขึ้นมาเรื่อยๆจนมาถึงหมู่บ้านหงชุน ซึ่งเป็นหมู่บ้านในหุบเขาอีกทีหนึ่งซึ่งมีความเย็นสบายร่มรื่น เพราะอากาศในเจียงหนานเย็นสบายดี

หญิงสาวคิดว่า เดี๋ยวไว้คราวหน้า เราจะมาเผยแพร่ศาสนาที่นี่ดีกว่า แต่ตอนนี้ขอให้เผยแพร่สำเร็จเป็นที่ๆ ไปก่อน..

ระหว่างหญิงสาวเดินมาตามทางเรื่อยๆ ท่านผ่านมาทางยอดเขา ก่อนท่านได้ยินเสียงบางอย่างจากบนฟ้า แต่กลับมองไม่เห็นว่าเสียงอะไร

ทำให้ท่านคิดว่าเสียงของวอชเชอร์ ที่เธอเคยพบพานมาแล้วนั่นเอง

"สวี เซียงซาน ข้าเฝ้ามองเจ้ามาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ดูเหมือนตอนนี้เจ้าจะเริ่มมีความมุ่งมั่นที่ไม่ย่อท้อ" ผู้เฝ้ามองกล่าวขึ้นก่อนจะตอบคำถามอีกฝ่าย

"เราเป็นใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับความคิดและความเชื่อของเจ้า"

"เสียงนั่น ท่านผู้เฝ้ามอง?" เซียงซานคุ้นเคยเสียงนี้ดี เลยหยุดเพื่อสนทนากับเขาตรงนั้น

"ข้าเห็นศรัทธาเจ้าที่มุ่งหมายจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ในทางที่ดี ข้าจึงอยากมอบของขวัญนี้แก่เจ้า" เสียงนั้นกล่าวดังก้องทั่วขุนเขา

"ในที่สุดท่านผู้เฝ้ามองก็เข้าใจ" หญิงสาวเงยหน้าคุยกับวอชเชอร์ซึ่งไม่รู้ว่าตัวตนนั้นอยู่ที่ไหน

"ข้ามีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างดินแดน และอาณาจักรที่สตรีปกครองอย่างผาสุกเจ้าคะ" หญิงสาวกล่าวเช่นนั้น

"เจ้าจงหลับตาและนึกถึงลัทธิที่เจ้าตั้งมั่นจะสร้างขึ้นเพื่อสอนสั่งผู้คน" บุรุษกล่าวก่อนจะมองดูอีกฝ่าย

หญิงสาวทำตาม เธอหลับตาเพ่งสมาธิ นึกถึงดินแดน อาณาจักรที่ปกครองโดยสตรี ที่สร้างความผาสุกไปทั่วแผ่นดิน ไร้ความขัดแย้ง ไม่ก่อสงคราม.. ทุกคนมีปัญญาที่ดีรู้จักกันหน้าเข้าคุยหันแล้วหาทางออกแก้ปัญหาร่วมกัน...

วอชเชอร์เมื่อเห็นอีกฝ่ายหลับตาก่อนเขาชี้ปลายนิ้วไปยังตรงหน้าก่อนปรากฎแสงบางอย่างพุ่งลงไปตรงหน้าอีกฝ่าย ค่อย ๆ ก่อรูปลักษณ์ออกมาเป็นตำราเล่มหนึ่ง

หญิงสาวเพ่งจิตสร้างตำราลัทธิ ขอจงเป็นตำราลัทธิที่จะช่วยเหลือสอนสั่งเหล่าสตรี สร้างอาณาจักรและดินแดนที่สตรีขึ้นมามีสิทธิมีเสียงบนแผ่นดินได้ ให้มีสิทธิเทียบเท่าหรือมากกว่าบุรุษก็ยังได้

ภาพตำรา

ชื่อตำรา: คัมภีร์หนี่กุ้ยเว่ย

รายละเอียดไอเท็ม: ศาสนาช่วยเหลือเหล่าสตรีที่ลำบาก ที่ถูกตีตราว่าเป็นเพศที่อ่อนแอ ต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนมายาวนานให้ดีขึ้น

ส่งเสริมสิทธิสตรี ผ่อนปรน ยกเลิก ปรับเปลี่ยนกฏจารีตและความเชื่อที่กดขี่ดูหมิ่นสตรี อยู่เหย้าเฝ้าเรือนทุกรูปแบบ

ปกป้องผู้ที่อ่อนแอกว่า ให้ความรัก การศึกษาสรรพวิชา ส่งเสริมแนวคิดเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้อื่นกับความคิดของสตรีอย่างเสรี ไม่ดูถูกซึ่งกันและกัน ซื่อสัตย์สุจริตกตัญญูต่อคู่ครองและบรรพบุรุษ ใช้สติปัญญาการเจรจาหาทางออกอย่างสันติร่วมกัน รังเกียจดูหมิ่นต่อความรุนแรงทุกรูปแบบ

สนับสนุนความคิดของสตรี ควบคุมทั้งสตรีและบุรุษให้อยู่ในบรรทัดฐานที่ดี สืบทอดความเชื่อและเจตนารมร์ของลัทธิเราสืบไปแม้ตัวเราจะตายไปก็ตาม

ยกระดับสิทธิฐานะของสตรีให้สูงขึ้น มีตำแหน่งและบรรดาศักดิ์ สตรีเองก็สามารถเป็นหัวหน้าครอบครัว ช่วยเหลือและปกครองชาติบ้านเมืองได้

(จุดมุ่งหมายสูงสุด สร้างดินแดนและอาณาจักรที่ปกครองโดยสตรีอย่างมีความสุข)

เมื่อหญิงสาวลืมตาขึ้นมา ก็มีคัมภีร์เล่มหนึ่งกรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ ก่อนเธอยื่นมือไปรับตำราที่วางบนโขดหิน ""

"นี่มัน...เหมือนที่ฝันไว้เลย..." หญิงสาวเปิดอ่านด้านใน เนื้อเป็นไปตามที่หญิงสาวคิดไว้ทุกประการ

แต่ว่าหลังจากนั้น วอชเชอร์ได้หายไปแล้ว

"ข้าจะทำให้ดีที่สุด เพื่อแผ่นดินที่น่าอยู่ และดีขึ้นกว่าเดิม.." หญิงสาวให้คำมั่นกับตัวเอง ก่อนจะออกเดินทางต่อพร้อมคัมภีร์ในมือที่ได้มาสดๆร้อนๆ

---------------------------

+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ ทะเยอทะยาน

+2 Point จากการโรลวางแผนการ หูดี

+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้ นักวิชาการ

+5 Point โรลใช้วางแผน นักวางแผน

+5 EXP จากการโรลเพลย์บริหารเสน่ห์ คิ้วหงส์

รวม 13 Point / 5 exp

ใช้ 900 ศรัทธาสร้างคัมภีร์ลัทธิตนเอง

---------------------------

รางวัล: ตำราลัทธิ(lv35) เกรดส้ม 1 เล่ม

+35 EXP , +5 Point

@Watcher

XiangShan ดี

แวะเจียงหนาน เผยแพร่ความเชื่อที่หมู่บ้านหงชุน

เวลาต่อมา หลังจากหญิงสาวได้พบกับวอชเชอร์และได้พูดคุยกับสร้างคัมภีร์ลัทธิที่เธอใฝ่ฝันขึ้นมา

เธอได้อ่านมันข้างใน ก็พบกับคำสอนที่ช่วยจุดประกาบไฟในการเผยแพร่ศาสนาของเธอมากขึ้นกว่าเดิม

ถ้ามีคัมภีร์นี้ในมือ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเผยแพร่ไม่ได้อีกต่อไป...

หญิงสาวเดินทางไปยังใจกลางตลาดลานการค้าของหมู่บ้าน ก่อนจะพูดขึ้นเพื่อเผยแพร่ความเชื่อสักเล็กน้อย

"สวัสดีเจ้าค่ะ ชาวบ้านที่เคารพทุกท่าน หลายๆคนอาจไม่รู้จักข้านักว่าข้ามาจากที่ใด ข้าขอแนะนำตัวก่อนว่าตัวข้านาม สวี เซียงซาน เจ้าคะ

ข้าขอรบกวนเวลาทุกๆท่านโปรดรับฟังสิ่งต่อไปนี้ ข้าได้รับความเชื่อ คำสอนที่อันมีค่ายิ่งมามอบให้แก่ทุกๆท่าน และสุภาพสตรีทั้งหลายโปรดรับฟังอย่างเข้มแข็งนะเจ้าคะ"

หญิงสาวเริ่มพูดบรรยายความเชื่อตนเองต่อ

"ข้าได้รับคัมภีร์คำสอนเล่มนี้มากจากท่านผู้หนึ่ง ประทานมาให้แก่ข้า ด้วยอันตัวข้าคือคนที่จะปลดปล่อยและยกระดับสิทธิสตรีเจ้าค่ะ

ข้ามีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะยกฐานะสิทธิสตรีให้ดีขึ้น มีสิทธิมีเสียงในแผ่นดินมากขึ้น

กับการศึกษาต่อทุกคนถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะสตรีที่ว่ากันว่าควรอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนนั้นเป็นสิ่งไม่จริง หากพวกเราทุกคนมีปัญญาที่ดีแล้ว ความรุนแรงกดขี่เช่นนี้ก็คงไม่เกิดบนแผ่นดิน

การกดขี่สตรีนั้นเป็นเพียงผลประโยชน์ของคนกลุ่มหนึ่งที่พยายามปลูกฝังในอดีตเมื่อนานมาแล้ว

จนกระทั่งมาถึงยุคนี้ ผู้คนลำบากยากเข็ญ แต่ถูกกดขี่ไม่ให้รับรู้ ไม่ให้ตรวจสอบ ก็เพราะว่าระบบที่กดขี่สตรีและกดขี่ผู้ไม่มีปัญญาทุกๆท่านเพื่อหลอกให้โง่งมเจ้าคะ

ดังนั้นข้ามาเพื่อปลดปล่อยผู้รับฟังที่เคารพรักทุกๆท่านออกจากความกดขี่ให้โง่งม ออกจากการหลงผิดตามืดบอด ข้าอยากจะนำพาทุกๆท่านไปสู่ยุคสมัยที่ดีกว่าโดยปราศจากความรุนแรงเจ้าคะ"

หญิงสาวเริ่มเผยแพร่ลัทธิต่อถ้าเป็นหมู่บ้านดีๆที่นึง เมื่อเรามีคัมภีร์ลัทธิช่วยและ อะไรๆมันก็เริ่มราบรื่นขึ้นแล้วล่ะ...

---------------------------

+2 Point จากการโรลให้เกียรติผู้ที่คุย ถ่อมตน

+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ ทะเยอทะยาน

+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย ทะเยอทะยาน

+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย หูดี

+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้ นักวิชาการ

+5 Point โรลใช้กลอุบายหรือวางแผน นักวางแผน

+15 EXP จากการโรลสร้างความน่าเคารพศรัทธาต่อผู้พบเห็น หลังตรง

+10 EXP โรลสรรเสริญเหล่าผู้ที่คุยด้วย ถ่อมตน

+5 EXP จากการโรลเพลย์บริหารเสน่ห์ คิ้วหงส์

รวม 17 Point / 30 exp

---------------------------

ค่าศรัทธา

+15 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิหรือ โรลเกี่ยวกับศาสนา ถ่อมตน

+10 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ ทะเยอทะยาน

+25 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ เลื่อมใสศรัทธา

+15 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิหรือ โรลเกี่ยวกับศาสนา เลื่อมใสศรัทธา

+50 ศรัทธา ใช้เอฟเฟคเทศนา วันละครั้ง

รวม 115

+ ศรัทธา ตามจำนวน exp ที่ได้รับ คูณ 2 // ฐานะ ซินแสนอกรีต

@Watcher

แวะเจียงหนาน เผยแพร่ความเชื่อที่หมู่บ้านหงชุน 2

หลังจากหญิงสาวกล่าวเริ่มต้นการเผยแพร่ไปแล้วในครั้งก่อนหน้า หญิงสาวจึงพูดเผยแพร่ลัทธิความเชื่อต่อไป

"ผู้รับฟังที่เคารพรักทุกท่านเจ้าคะ ในช่วงนี้แผ่นดินของเรากำลังวุ่นวายเพราะภัยโจรโพกผ้าเหลืองก่อตัวขึ้นมาปั่นป่วนเป็นระยะ

ด้วยสาเหตุมาจากความแร้นแค้น ความอดอยากที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินของเรามีอยู่อย่างต่อเนื่อง นั่นก็เพราะขบวนการขันทีที่ขูดรีดและตบตาราษฎรทุกๆท่านอยู่ขณะนี้

ที่สำคัญพวกเขากดขี่การศึกษาของทุกท่านไม่ให้มากความรู้มากไปกว่านี้ ตรวจสอบไม่ได้ ถูกสอนให้เชื่อฟังเท่านั้นไม่อาจคิดเป็นได้ ทำให้เราไม่ทราบที่มาที่ไปของปัญหาทั้งหมดมาจากอะไร

อันตัวข้านั้นส่งเสริมการศึกษาและมีความต้องการยกระดับสิทธิสตรีแก่ทุกๆท่าน ให้มีสิทธิมีเสียงบนแผ่นดินนี้และมีส่วนร่วมในการบริหารปกครองต่างๆด้วย

การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้ทุกๆท่านนั้น คิดเป็น วิเคราะห์เป็น ไม่ถูกชักจูงได้ง่ายๆ และที่สำคัญเราเล็งเห็นการศึกษาต่อ สตรี ที่ถูกกดขี่มานาน

อยู่เหย้าเฝ้ากับเรือนนั้นเป็นสิ่งอุปโลกขึ้นมาให้สตรีที่มีศักกายภาพไม่ได้ฉายแววออกมา ช่างน่าเสียดายยิ่ง

ผู้รับฟังที่เคารพรักทุกท่านเจ้า การผลักดันสิทธิสตรีให้มีขึ้นบนแผ่นดินจะเป็นการแบ่งเบาภาระแก่ราษฎรทุกๆท่าน ว่าการบริหารไม่ต้องตกเป็นของฝ่ายบุรุษเพียงอย่างเดียว

ทั้งสตรีและบุรุษสามารถช่วยกันได้ ดังนั้นพวกเราทุกคนควรหันมาส่งเสริมศิทธิสตรีให้ได้รับการยอมรับมากขึ้นนะเจ้าคะ"

หญิงสาวกล่าวในครั้งนี้เสร็จลงไปเรียบร้อยแล้ว

---------------------------

+2 Point จากการโรลให้เกียรติผู้ที่คุย ถ่อมตน

+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ ทะเยอทะยาน

+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย ทะเยอทะยาน

+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย หูดี

+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้ นักวิชาการ

+5 Point โรลใช้กลอุบายหรือวางแผน นักวางแผน

+15 EXP จากการโรลสร้างความน่าเคารพศรัทธาต่อผู้พบเห็น หลังตรง

+10 EXP โรลสรรเสริญเหล่าผู้ที่คุยด้วย ถ่อมตน

+5 EXP จากการโรลเพลย์บริหารเสน่ห์ คิ้วหงส์

รวม 17 Point / 30 exp

---------------------------

ค่าศรัทธา

+15 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิหรือ โรลเกี่ยวกับศาสนา ถ่อมตน

+10 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ ทะเยอทะยาน

+25 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ เลื่อมใสศรัทธา

+15 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิหรือ โรลเกี่ยวกับศาสนา เลื่อมใสศรัทธา

รวม 65

+ ศรัทธา ตามจำนวน exp ที่ได้รับ คูณ 2 // ฐานะ ซินแสนอกรีต

  

วีรชนที่หลับใหล

>> ไปใส่รหัสดูข้อมูล ณ เขาหวงซาน