[เมืองซื่อซิน] ท่าเรือชิงต่าว

[คัดลอกลิงก์]
ไม่ระบุชื่อ  โพสต์ 2021-9-29 10:11:55 |โหมดอ่าน

ท่าเรือชิงต่าว
{ เมืองซื่อซิน }








【ท่าเรือชิงต่าว】

ท่าเรือเมืองท่าซื่อซิน สำหรับผู้ที่จะเดินทางข้ามฟากแม่น้ำฉางเจียง(แยงซีเกียง)
เป็นท่าขึ้นสินค้าสดนานาชนิด ทั้งรากบัว หัวเผือกหัวมัน ตามฤดูกาลของชาวลุ่มน้ำฉางเจียง
บางครั้งยังมีพ่อค้าหาบเร่เข้ามาตั้งแผงลอยจำหนายสินค้าท้องถิ่น คึกคักตลอดวัน
เป็นสถานีปลายทางของพ่อค้าคาราวานหรือนักเดินทาง รอบ ๆ กันนั้นยังมีโกดังสินค้า
ที่พักชั้นรองราคาประหยัดเปิดให้บริการ ด้านอาหารและเครื่องดื่มจัดว่ารสชาติพอใช้ได้
แต่หากต้องการรถม้า เรือโดยสารก็มีให้บริการผลัดเปลี่ยนเช่นกัน

ทุกท่านสามารถมาโรลเพลย์ทำงานพาร์ทไทม์ประจำวัน
ค่าจ้าง: 250 อีแปะ - 5 EXP (รายวัน)




{ วิถีชีวิตคนสันโดษ }

[ดูคู่มือการเก็บทรัพยากรส่วนตัว]

(1) ติดตั้ง "เบ็ดตกปลา" ชนิดใดก็ได้ (สามารถหาซื้อได้จากร้านอุปกรณ์)

(2) เขียนโรลตกปลาตามคู่มือด้านบน
(3) ระบุท้ายโพสต์เลือกปลาที่จะตก โดยแต่ละพื้นที่จะมีปลาแตกต่างกัน

{ โบนัสพิเศษ }
(1) หากเป็นคนลักษณะนิสัยสันโดษ ได้รับโบนัส x2

{ ปลาที่พบบริเวณนี้ }
(1) ปลาหม่าเจียวยวี
(2) ปลาทูน่า

* มีโอกาส 0.1% ตกได้ปลาหิมะ หรือ กุ้งมังกร - นิสัยสันโดษ 0.5% *







 เจ้าของ| โพสต์ 2021-9-29 10:12:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด
{ คู่มือการใช้บริการข้ามแม่น้ำ }


คนเรือ
พวกเจ้าจะข้ามฟากงั้นเหรอ มานี่สิข้าจะพาไป


  
(1) ตรวจเช็คจุดหมายพิกัดที่ท่านจะไป โดยท่าเรือนี้จะพาคุณข้ามฟากไปยังมณฑลดังนี้:
เมืองหวยอิน , เมืองเจียงตู , เมืองไห่ซี , เมืองเหิงเจียง , เมืองเจียงเซี่ย , เมืองเจียงหลิง , เมืองหย่งอัน , เมืองฉงเซียน , เมืองเจียงโจว
(2) เขียนโรลสร้างสตอรี่ข้ามฟาก เลือกพิกัดที่ท่านจะข้ามฟาก
(3) จ่ายเงินให้คนเรือก่อนเขาพาท่านพายเรือข้ามไป 5 ตำลึงเงิน + ภาษีเมือง 5% = 6 ตำลึงเงิน
(โอนมาไอดี Webmaster)
(4) จากนั้นให้ท่านเขียนโรลสร้างสตอรี่ขึ้นฝั่ง ที่ พิกัดเมืองเป้าหมายอีกฟาก


หมายเหตุ: กรณีมีผู้ติดตาม หากจะพาพวกเขาไปด้วยให้ท่านจ่ายเงินค่าหัวพวกเขาด้วย หรือ ให้รอที่นี่ก็ได้








←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x12
x5
x636
x241
โพสต์ 2021-9-29 12:34:48 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นัดพบทะเลสาบไท่หู
เยือนถึงยังเจียงหนาน
.
.

          เรือแพแล่นเอื่อยออกจากฝั่งมาได้สักระยะ ความเงียบที่รายล้อมพร้อมเสียงพายเป็นจังหวะค่อยคอยขับกล่อมเด็กสาวที่เดินทางแทบไม่หยุดพักในหลายวันที่ผ่านมาให้ดวงตาคู่โศกปรือปรอย ความง่วงกำลังรุกคืบให้จิ้นอิ๋งที่ยังอยากชื่นชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำกว้างขวางที่ไม่เห็นได้บ่อยนักยามตัวเรือเคลื่อนผ่าน นางจึงเลื่อนนิ้วหยิกหลังมือตนเป็นระยะ ทว่ากระทั่งหลังมือทั้งสองแดงเถือกดรุณีน้อยก็ยังง่วงงุนอยู่ดีให้เริ่มไล่มาหยิกตามหลังข้อมือ

          กัวฟ่งเสี้ยวที่นั่งเคียงพอจะจับสังเกตได้ว่าเด็กสาวดูขยับยุกยิกไม่หยุดตั้งแต่เมื่อครู่ ผินสายตามองหาก็ทันสังเกตมือเล็กทั้งสองข้างที่เป็นรอยแดงเต็มไปหมด หัวคิ้วก็พลันขมวดมุ่น รู้ตัวอีกทีมืออีกบุรุษก็เคลื่อนขวางกั้นเอาไว้ในตอนที่จิ้นอิ๋งที่ผินสายตามองออกนอกตัวเรือและเลื่อนมือหยิกตัวเองอีกรอบพอดี ผลที่ได้จึงกลายเป็นไม่รู้สึกเจ็บและแว่วเสียงอุทานแผ่วจากคนข้างกายให้ดรุณีเร่งหันมองอย่างตกใจ

          " ท่านกัว! เจ็บหรือไม่เจ้าคะ! ไฉนถึงเอามือมาให้ข้าหยิกเข้าเสียเล่า.. " ดวงหน้านวลฉายความรู้สึกผิดอย่างปิดไม่มิด หายง่วงไปช่วงหนึ่งเลยเชียว

          มือเรียวทั้งสองยกค้างคล้ายทำอะไรไม่ถูกระหว่างมองดูหลังมือของสหายที่เริ่มแดงขึ้นมา ด้วยอารามลนลานสุดท้ายจิ้นอิ๋งเลยหลุดทำกิริยาแปลก ๆ เคลื่อนใบหน้าช่วยเป่าลมไล่ความเจ็บลงหลังมือให้อีกคนไปเสียได้ ทำเอาอีกบุรุษที่กำลังจะเอ่ยตำหนิที่นางเป็นฝ่ายหยิกตัวเองก่อนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ดรุณีน้อยที่ยังไม่รู้ตัวก็ยังเป่าต่อไปก่อนจะทำปากขยุบขยิบกล่าวไล่ความเจ็บออกไปให้ถึงผละใบหน้าขึ้นมาสบตากับเจ้าของมือเพื่อดูว่าหายเจ็บหรือไม่

          แต่แล้วกลับได้จ้องหน้าสบตากันเงียบไปแทนจนเป็นฝ่ายจิ้นอิ๋งที่เผลอเอียงศีรษะเล็ก ๆ ดูฉงนขึ้นมาให้กัวฟ่งเสี้ยวตัดสินใจเอ่ยเตือนสหายผู้นี้อย่างจริงจัง

          " กู่จิ้นอิ๋ง.. แม้เจ้าจะไว้ใจใครมากเท่าใด แต่การกระทำสนิทสนมเจ้าควรลดมันกึ่งหนึ่งเสมอหากอีกฝ่ายเป็นบุรุษ...เจ้าเข้าใจที่ข้าต้องการสื่อหรือไม่? " ไร้แววความหยอกล้อบนดวงหน้าของอีกบุรุษ จิ้นอิ๋งนึกอยากค้านว่าตนก็ลดลงแล้วจากการพยายามไม่เอามือแตะกลับยังมืออีกฝ่ายก็เป็นอันต้องเม้มริมฝีปากเงียบลงเพราะรับรู้ถึงบรรยากาศจริงจังที่โรยตัวรอบ ๆ นี้

          " ข้า… เข้าใจเจ้าค่ะ ข้าจะพยายามลดลงนะเจ้าคะ " เอ่ยกลับเสียงแผ่วดูเชื่อฟัง ทว่าท่าทางดูคิดมากขึ้นมาไม่น้อยให้คนที่เอ่ยดุไปก่อนหน้ารู้สึกผิดตามไปด้วยจนอดที่จะหลุดขำออกมาไม่ได้

          " ข้าก็ไม่ได้หมายความว่าห่วงใยของเจ้าเป็นสิ่งไม่ดี เพียงแต่กับบุรุษการกระทำที่เจ้าไม่ได้คิดอะไร อีกฝ่ายอาจจะคิดมากกว่าที่เจ้าคิดก็ได้.. แม่นางคงไม่ได้อยากขึ้นชื่อว่าเป็นสตรีเจ้าสำราญหรอกกระมัง " คำล้อหยอกที่กลับคืนทำจิ้นอิ๋งที่ได้ยินคลายสีหน้าคิดมากลงเหลือเพียงสีหน้าที่ดูตระหนกตื่นพลางมองค้อนหาอีกฝ่าย

          " ไม่ขนาดนั้นเสียหน่อยเจ้าค่ะ! ท่านกล่าวว่าข้าเกินจริงไปแล้ว! "

          เสียงหัวเราะจากอีกบุรุษพลันดังออกที่สามารถทำให้ดรุณีน้อยกลับมามีแรงขึ้นเสียงส่งหาตนได้อีกหน ทว่าจิ้นอิ๋งก็พอรับรู้อยู่ว่าสหายแซ่กัวเพียงกล่าวเกินจริงให้ตนหายคิดเล็กคิดน้อยในคำพูดก่อนหน้าจึงค่อยคอยเผยรอยยิ้มตามไปด้วยในที่สุด ก่อนนางจะกลับไปผินใบหน้าออกนอกเรือเพื่อชมบรรยากาศโดยรอบระหว่างเรือกำลังถูกพายผ่านแม่น้ำฉางเจียงต่อ และแน่นอนว่าหลังไร้เรื่องให้ต้องพูดคุยกันแล้ว ความง่วงที่ไม่ได้สนใจก่อนหน้าพลันคืนหาอีกหน สุดท้ายเด็กสาวก็ไม่อาจฝืนยอมกอดอกนั่งสัปผงกจนหัวโอนเอนไปตลอดทาง

          ในห้วงนิทราที่ไม่ได้หลับลึกจนถึงกับไร้สติ จิ้นอิ๋งได้ยินเสียงหัวเราะดังแว่วผ่านพร้อมสัมผัสแผ่วเบาที่ต้นแขนตนข้างหนึ่งที่คอยยึดไว้ไม่ให้นางเอนตัวหลับจนตกเรือไปเสียก่อน..
          .
          .
          หลังผ่านไปราวครึ่งชั่วยามเรือก็เดินทางมาถึงยังท่าเรือชิงต่าวของเมืองซื่อซิน พอดีกับที่หลังเรือขยับเทียบฟากให้รู้สึกความโคลงเคลงไม่มั่นคงก็ช่วยปลุกให้ดรุณีน้อยผงกหัวยืดแผ่นหลังเสียตั้งตรงพลางลืมตาตื่นขึ้นมา ริมฝีปากถูกมือเล็กกั้นปิดหลังหลุดหาวออกมาครั้งหนึ่ง ก่อนจะเลื่อนยกขยี้ดวงตาคู่หวานที่ปรากฏร่องรอยหยาดน้ำเกาะพร่างยังขนตายาว ท่าทางราวกับเด็กน้อยยังตื่นไม่เต็มตาดีเรียกรอยยิ้มจากบุรุษแซ่กัวให้ปรากฏขึ้นก่อนจะนั่งรอให้นางเรียกสติกลับมาได้เต็มที่ถึงพากันเดินลงจากเรือไป

          เพราะมาถึงในปลายยามเว่ยพอดี บริเวณโดยรอบของท่าเรือจึงดูครึกครื้นเป็นอย่างมาก พ่อค้าและนักเดินทางต่างเดินสวนกันไปมาเสียขวักไขว่ ทำเอาจิ้นอิ๋งที่เห็นบรรยากาศโดยรอบสลัดความง่วงซึมก่อนหน้าที่ยังติดค้างออกไปจนสิ้น

          " ไว้ขากลับค่อยมาดูสินค้าก็ยังมิสาย.. เราเดินทางไปยังทะเลสาบไท่หูกันเลยดีหรือไม่? พระอาทิตย์ยามตกลับขอบผืนทะเลสาบสวยมากเลยเชียว หากเดินทางไปตอนนี้คงถึงในยามเซินพอดี.. ว่าอย่างไรแม่นาง "

          กัวฟ่งเสี้ยวที่เห็นท่าทางสนอกสนใจแผงขายสินค้าของอีกสตรีจึงเอ่ยเรียกความสนใจขึ้นมาถึงสถานที่ที่ตนเอ่ยนัดเที่ยวชมกันตั้งแต่คราแรก ซึ่งค่อนข้างได้ผลเพราะจิ้นอิ๋งที่ได้ยินตอนนี้ผินใบหน้าเลื่อนสายตาคืนสู่สหายของนางแล้ว เด็กสาวเผยรอยยิ้มกว้างจนดวงตาประกายพลางผงกศรีษะตอบรับอย่างแข็งขัน ก่อนทั้งคู่จะพากันเดินหารถม้าเพื่อทำการเช่าและออกเดินทางไปยังทะเลสาบไท่หูที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของเมืองเจียงเยี่ยที่อยู่ไม่ไกลจากท่าเรือนี้

          ระหว่างเส้นทางยังเขตภูมิภาคใหม่ที่ไม่เคยเห็น ดรุณีน้อยก็แทบเลื่อนสายตามองออกนอกกรอบหน้าต่างรถม้าแทบจะตลอดเวลา เฝ้ามองยังต้นไม้น้อยใหญ่กำลังผลัดใบเปลี่ยนสีให้ความรู้สึกงดงามชวนมองจนรอยยิ้มไม่ขาดจากดวงหน้า พาลทำเอาอีกบรุษที่เป็นฝ่ายนัดรู้สึกโล่งใจไม่น้อยที่สตรีเบื้องหน้านี้ดูชอบใจยังสถานที่ที่ตนพามามากกว่าที่คาดนัก..




←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลงเฟิ่งฉิวหวง
ถุงหอมจูอวี๋
กระบี่
พู่หยกเลือดหงส์
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าเหลียง
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x5
x2
x2
x1
x2
x2
x2
x1
x1
x27
x2
x38
x40
x50
x50
x40
x40
x50
x3
x22
x19
x31
x10
x50
x5
x5
x5
x1
x12
x1
x2
x5
x2
x9
x1
x8
x6
x6
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2021-9-29 16:16:56 | ดูโพสต์ทั้งหมด

รถม้าที่นางจ้างกลับมาหยุดจอดยังท่าเรือที่คุ้นเคยที่นางจากมา หญิงสาวมองไปยังรอบๆที่ยังคงเช้าตรู่เห็นผู้คนเดินผ่านไปมาน้อยนิดขณะที่เริ่มก้าวลงจากรถม้าเพื่อหาเรือข้ามกละบไปยังอีกฟาก เสียงผู้คนเริ่มคุยแซ่ซ้องกับแข่งกับเสียงนกร้องให้ไม่เงียบเหงาเหมือนตอนที่นางพึ่งจะลงจากรถม้าใหม่ๆ จ้าวเพ่ยค่อยๆย่างกรายไปยังท่าเรือที่ยังคงไม่เปิดบริการก็ยืนรอที่ตรงนั้นไปก่อน นางอาจจะมาเช้าไปสำหรับการใช้บริการข้ามฟากในครั้งนี้

สายตาหญิงสาวสอดส่องมองทอดไปยังฝั่งตรงข้ามราวกับหาใครสักคน สายตาคมมองไปยังโดยรอบก็ไม่ยักจะเห็นชายคนคุ้นเคยและม้าของนางที่ควรจะอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ยิ่งทำให้หญิงสาวหรี่ตาลงเพื่อเพ่งหาอีกที หัวใจเริ่มบีบเค้นให้เต้นแรงไม่เป็นจังหวะเมื่อสมองเริ่มประมวลทุกอย่างให้นางคิดไปในแง่ลบเกี่ยวกับซุนหยาง จนต้องหาข้ออ้างอื่นมาหักลบเพื่อไม่ให้นางรู้สึกเครียดและมองอีกคนไม่ดีไปมากกว่านี้

ถึงแม้นางตะเกลียดโจรโพกผ้าเหลืองหาใช่ว่าจะหลับหูหลับตาเกลียดจนไม่ได้มองเห็นสิ่งอื่นเลย


"แม่นางจะข้ามฟากหรือไม่" เสียงคนเรือดังขัดสมาธินางขึ้นมา ส่งผลให้นางต้องละสายตาจากท่าเรืออีกฟากมามองคนเรือที่เอ่ยถามนางในขณะนี้ ท่าเรือเปิดให้บริการแล้วและพร้อมจะรับลูกค้าอย่างจ้าวเพ่ยหากนางต้องการเช่นนั้น หญิงสาวยิ้มให้คนเรือพลางมองไปยังรอบๆท่าเรือแห่งนี้ ผู้คนเริ่มออกจากบ้านมาทำมาหากินก็พอจะเข้าใจบ้าง ถือว่านางมาถูกจังหวะพอดี หากมาเร็วกว่านี้ก็คงจะต้องยืนรอนานเสียหน่อย

"เจ้าค่ะ.. ข้ามได้เลยหรือไม่"

"ข้ามได้เลย…" คนเรือกล่าวทั้งเริ่มเตรียมเรือสำหรับข้ามฟาก ขณะที่หญิงสาวยืนรอเพื่อให้เรือพร้อม สายตาก็เผลอมองไปยังอีกฝั่งเพื่อเสาะหาผู้ติดตามอย่างเลี่ยงไม่ได้

คิดว่าซุนหยางจะรอนางอีกฟากเฉกเช่นตอนนางข้ามมาแต่กลับไม่มีทั้งม้าและผู้ติดตามนาง ก็แอบหวั่นๆใจอยู่บ้างว่าซุนหยางจะแอบชิ่งหนีไป

คนเรือเรียกให้นางก้าวขึ้นไปยังเรือเพื่อข้ามฟาก ทำให้นางต้องลงเรืออีกครา การลงเรือข้ามไปมาโดยไม่มีจุดประสงตค์แน่ชัดถือเป็นอะไรที่สิ้นเปลืองสิ้นดี เมื่อคิดดังนั้นนางก็พลันรู้สึกโกรธผู้ติดตามที่มาผลาญตำลึงนางเล่นๆเสียอย่างนั้น

หญิงสาวนั่งเรือข้ามกลับมายิ่งสอดส่องหาอีกฝ่ายระหว่างที่ยังคงนั่งเรือข้ามฟากอยู่กลางน้ำ ยิ่งพยายามหาเท่าไหร่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของอีกฝ่าย ก็พลันหันไปหาคนเรือทันที

"ท่านเห็นชายที่อยู่กับม้าเหลียงหรือไม่"

"ผู้ใดหรือแม่นาง.." คนเรือเอ่ยถามขึ้นมา ในท่าเรือข้ามฟากแห่งนี้ ชายที่มากับม้าเหลียงมีเป็นสิบเป็นร้อยนาย หากจ้าวเพ่ยไม่ระบุตัวตนที่แน่ชัดเขาก็ไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้อย่างชัดเจน

"ผู้ที่มากับข้าเมื่อวานนี้.. "

"อ้อ.. ชายผู้นั้นข้าเห็นออกไปตั้งแต่ยามโหย่วแล้วขอรับ" คนเรือกล่าวตามที่เห็นมา เขาจำได้ว่าชายผู้นั้นยืนที่ท่าเรืออยู่นานสองนานก่อนจะจูงม้าหายไปจากท่าเรืออีกฟากหนึ่ง คำตอบจากคนเรือส่งผลให้นางพอหาข้ออ้างให้ตนเองไม่ให้กังวลไปมากกว่านี้ อาจจะเพียงแค่ไปหาที่พักหรือไม่ก็หาจุดรอนางใหม่อีกที่ จ้าวเพ่ยพยักหน้ารับเล็กน้อยพลันมองทอดออกไปยังแม่น้ำที่อยู่รอบๆตัวนาง

ท้องฟ้ายามเช้าสาดส่องแสงอาทิตย์มาบ่งบอกว่าถึงวันใหม่แล้ว เสียงเหล่านก ร้องแข่งกับเสียงน้ำ ส่งผลให้สงบร่มเย็นขึ้นมาก แสงอาทิตย์กระทบน้ำที่ไหวสะท้อนแสงระยิบระยับดั่งอัญมณีขนาดใหญ่ ผู้คนเริ่มออกจากบ้านเรือนเพื่อทำงานในชีวิตประจำวันในแต่ละวันที่ควรจะเป็น เสียงเรือพายข้ามฟากอย่างเนิบนาบไร้ความเร่งรีบใดๆช่างเป็นวิถีเรียบง่ายเข้ากับบรรยากาศที่เป็นใจโดยรอบเสียจริง

แต่กลับไม่เข้ากับอารมณ์ของจ้าวเพ่ยในยามนี้


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่ร้อยกฎ
มุกพณาหวาซวี
ม้าเหลียง
กลยุทธ์เล่ออี้
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x7
x4
x10
x10
x13
x13
x13
x12
x11
x202
x1
x1
x1
x11
x22
x15
x30
x1
x100
x100
x9
x2
x5
x6
x8
x10
x2
โพสต์ 2021-10-1 15:50:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นัดพบทะเลสาบไท่หู
เดินทางกลับ : ท่าเรือชิงต่าวเมืองซื่อซิน
.
.

          ใกล้ยามอู่รถม้าที่นัดหมายให้มารับกลับไปท่าเรือชิงต่าวก็มาถึงยังทะเลสาบไท่หูให้จิ้นอิ๋งและกัวฟ่งเสี้ยวต้องหยุดการเล่นน้ำและตกปลาลงเพื่อเดินทางกลับ เพราะการมาเที่ยวชมทัศนีย์ในครั้งนี้ตัวจิ้นอิ๋งค่อนข้างสนุกและพึงใจอยู่ไม่น้อยเลยเชียว ก่อนที่จะเดินทางข้ามฝั่งแม่น้ำกลับไปเด็กสาวจึงขอสหายแซ่กัวอยู่ต่ออีกสักเล็กน้อยเพื่อทำการเดินดูของสดของขายแปลกตายังท่าเรือชิงต่าวเสียก่อน

          ทว่าแม้จิ้นอิ๋งจะเดินดูเสียให้ทั่วก็ไม่ได้หยิบจับซื้อของสิ่งใดเป็นพิเศษ อาจมีหยุดยืนดูนิ่งที่แผงขายเครื่องประดับอยู่นานเสียหน่อยแต่สุดท้ายก็ผละจากมาไม่ได้จับจ่ายใช้สอยอกไปจนคนที่ตามมาด้วยนึกขบขันออกมา

          " ถ้าชอบไฉนไม่ซื้อมาเสียเล่า " คำถามที่ได้ยินทำจิ้นอิ๋งทำสีหน้าลังเลออกมาแต่ก็หลับตาปี๋ราวกับบังคับให้ตัวนางเองตัดใจและลืมตาผละออกไปยังส่วนขายอาหารอย่างมุ่งมั่นแทน

          " ซื้อไปยามนี้ก็ไม่ได้เอามาใช้สอยได้บ่อย ๆ ทั้งยังมีราคาค่อนข้างสูง.. ข้าว่าในยามที่ต้องประหยัด เก็บไว้ใช้ที่เป็นประโยชน์กว่านี้จะดีกว่าน่ะเจ้าค่ะ " เด็กสาวตอบกลับหาเสียงหนักแน่น เรียกรอยยิ้มจากอีกบุรุษขึ้นมา

          " ประโยชน์ที่ว่าเช่นสิ่งใดบ้างล่ะ? "

          " เช่น… มื้อเที่ยงก่อนเดินทางนี่ยังไงล่ะเจ้าคะ ..พ่อค้าเจ้าคะ ขอข้าวอบเผือกมาลำหนึ่งเจ้าค่ะ ท่านกัวเอาด้วยหรือไม่เจ้าคะ? "

          สิ้นคำถาม อีกบุรุษก็ส่ายหน้าปฏิเสธทว่าแววตาก็มองดูตามลำไผ่ที่กำลังถูกนึ่งอย่างสนใจไม่น้อยเช่นกัน ทำเอาจิ้นอิ๋งที่เห็นตัดสินใจซื้อมาหนึ่งลำไผ่เสียก่อน จนได้มาเด็กสาวก็เป่าไล่ความร้อนเสียเล็กน้อยก่อนจับตะเกียบตักลองชิมไปคำหนึ่ง ภายใต้การจดจ้องของกัวฟ่งเสี้ยวที่ดูอยากรู้ว่าดรุณีน้อยจะมีปฏิกิริยาเช่นไร แต่จิ้นอิ๋งกลับไม่เปลี่ยนสีหน้าใดพลางหันไปขอตะเกียบจากพ่อค้าเพิ่มก่อนจะยื่นส่งให้อีกบุรุษได้ลองทานไปร่วมกับนาง

          " ลองชิมดูสิเจ้าคะ.. อย่างน้อยช่วยข้าทานก็ได้เจ้าค่ะ ท่านพ่อค้าให้มาเยอะเลยเชียว " ด้วยกลัวสหายแซ่กัวจะไม่ยอมลองทานดูสักคำเลยเอ่ยอ้างในประโยคท้ายขึ้นมา แต่ก็ไม่เชิงอ้างเสียทีเดียว เพราะลำไผ่ในมือจิ้นอิ๋งก็ค่อนใหญ่และมีข้าวอัดแน่นจนเด็กสาวคิดว่านางคงทานไม่หมดด้วยตัวคนเดียวเป็นแน่เช่นกัร

          กัวฟ่งเสี้ยวที่ได้ยินก็พอรู้ว่าหลุดหัวเราะออกมาน้อย ๆ กับการเอ่ยร้องขอให้ช่วยทานแบบที่ทำเอาปฏิเสธไม่ลงยอมจับเอาตะเกียบอีกค่มาตักทานข้าวอบเผือกที่จิ้นอิ๋งถืออยู่เสียไม่ได้ รสชาติหอมหวานของเผือกปนเคล้ากับข้าวที่ดูคลุกเคล้าร่วมกับความมันของถั่วและเกาลัดซึ่งทำเอาอร่อยกว่าที่คาดจนเผลอเลิกคิ้วสูงดูแปลกใจให้จิ้นอิ๋งที่รอเฝ้าสังเกตปฏิกิริยาของสหายเผยรอยยิ้มจนดวงตาโค้งเสี้ยวออกมา

          " อร่อยใช่หรือไม่เจ้าคะ? งั้นทานเยอะ ๆ เจ้าค่ะ! " เอ่ยกลั้วขำอย่างอารมณ์ดีก่อนทั้งคู่จะพากันกินข้าวอบเผือกจนหมดลงไม่รู้ตัวกันเลยเชียว
          .
          .
          ในตอนถึงยามที่จะเดินทางกลับสู่ซวี่โจว จิ้นอิ๋งก็เจอผู้ติดตามถานเจ๋อและสตรีแซ่เหมยให้รีบวิ่งเข้าหาอย่างดีใจที่เห็นว่าทั้งสองนั้นปลอดภัย เด็กสาวอ้าแขนเข้ากอดซูฮวาดูติดอ้อนจนอีกสตรีถึงกับหลุดหัวเราะเอ็นดูและลูบเรือนผมนุ่มกลับไป จนผละจากกันมาได้จิ้นอิ๋งก็พลันหันมาแนะนำผู้ติตตามสตรีผู้นี้แก่กัวฟ่งเสี้ยวไป

          " นี่คือเหมยซูฮวาเจ้าค่ะ เป็นสหายที่ขอพักพิงติดตามข้าในช่วงนี้อย่างที่เคยเล่าให้ฟัง ส่วนนี่คือท่านกัวฟ่งเสี้ยว สหายของข้าจากเฉินหลิวเจ้าค่ะพี่สาวซูฮวา "

          คนทั้งสองที่ถูกแนะนำต่างค้อมหาทักทายกันอย่างติดสุภาพ โดยที่ซูฮวาดูคล้ายไม่อยากจะสบตามองหน้าบุรุษหน้าหยกตรงหน้ามากนัก ด้วยทำเอาพาลนึกไปถึงอดีตกับการถูกบุรุษหน้าตาดีหลอกลวงเช่นกันจนกลายเป็นว่าดูมีท่าทางไม่เป็นมิตรนักให้กัวฟ่งเสี้ยวหลุดแสดงสีห้าลำบากใจออกมา จิ้นอิ๋งที่พอเข้าใจสถานการณืจึงเข้าไปเอ่ยเสียงแผ่วบอกกับถานเจ๋อว่าให้เดินทางร่วมกับซูอวากลับไปเสียก่อน เพราะหากทั้งสี่ต้องเดินทางกลับไปด้วยกันไม่แคล้วสตรีแซ่เหมยอาจเกิดอาการผิดปกติขึ้นมาอย่างเมื่อครั้งในป่าก็เป็นได้

          ถานเจ๋อที่ตอนแรกหมายมาดว่าจะเดินทางกลับร่วมกับผู้เป็นนายแน่ ๆ หลังจากที่ต้องคอยตามเฝ้าดูกับซูฮวาโดยไม่ให้ทั้งสองรู้ตัวมาก่อนหน้าแล้ว ในยามนี้ด้วยเหตุจำเป็นที่ต้องคอยรักษาสุขภาพทางใจให้แก่สตรีแซ่เหมยไปด้วย มันถึงยอมขึ้นเรือกับซูฮวาเพื่อเดินทางกลับไปรอยังอีกฝากของแม่น้ำเสียก่อน

          ส่วนทางจิ้นอิ๋งหลังจัดการเรื่องผู้ติดตามเรียบร้อยแล้วนั้นก็หันมาหาสหายแซ่กัวและตรงเข้าหาเพื่อเล่าอธิบายให้อีกฝ่ายได้วางใจและคลายสีหน้าที่ดูคิดมากลง

          " ท่านกัว… ไม่ใช่ว่าพี่สาวซูฮวาไม่ชอบท่านนะเจ้าคะ อย่าเข้าใจผิดไป "

          " แต่ท่าทางแม่นางผู้นั้นดูแทบไม่อยากมองหน้าข้าอยู่แล้วนะ " กัวฟ่งเสี้ยวเอ่ยตามสิ่งที่เห็น ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงจนจิ้นอิ๋งต้องตัดสินใจเล่าเรื่องที่บ้านร้างตงฟางไปให้แก่อีกบุรุษ ซึ่งทันทีที่เล่าจบก็คล้ายทำให้สหายแซ่กัวมีสีหน้าดีขึ้นและมีร่องรอยความเห็นใจขึ้นมาแทน

          " ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่ใช่พวกโจร.. ไฉนถึงคล้ายมีอาการไปได้เสียเล่า "

          " เท่าที่ข้าสังเกตมา... ถ้าพี่สาวเจอคนโพกผ้าเหลืองกับบุรุษที่หน้าตาดีเสียหน่อยก็จะมีท่าทางไม่สู้ดีนักตลอดเลยน่ะเจ้าค่ะ คาดว่าคงฝังใจอะไรบางอย่างกับบรุษที่หน้าตาดีไม่มากก็น้อย " จิ้นอิ๋งอธิบายถึงสิ่งที่ได้เฝ้าสังเกตมาตลอดช่วงที่เคยอยู่กับสตรีแซ่เหมยให้แก่กัวฟ่งเสี้ยวฟังอย่างจริงจัง ทว่าหลังเอ่ยจนจบประโยคคนตรงหน้ากลับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขึ้นมาให้เด็กสาวมองอย่างติดฉงนแทน

          " มีอะไรงั้นหรือเจ้าคะ? " เสียงหวานเอ่ยอย่างสงสัย ก่อนเด็กสาวพลันเอนดวงหน้าถอยหนีน้อย ๆ ไม่รู้ตัวยามที่อีกบุรุษก้มใบหน้าตนให้เสมอระดับสายตากับสตรีตรงหน้า

          " เจ้าว่า.. ข้าหน้าตาดีงั้นหรือ? "

          ดวงตากลมเผลอกระพริบปริบประมวลผลกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนสักพักจิ้นอิ๋งจะพยักหน้าใบหน้ารับหนักแน่นและส่งรอยยิ้มกว้างกลับไปแทน จนอีกบุรุษที่ตั้งใจจะแกล้งเป็นฝ่ายต้องผละถอยออกจากดวงหน้านวลที่ชวนมองนั้นออกมาก่อนเสียอย่างนั้น

          " เจ้าค่ะ! ท่านกัวฟ่งเสี้ยวหน้าตาดีนะเจ้าคะ " เอ่ยชมหาอย่างสัตย์ซื่อ

          " อืม.. เดินทางกลับกันเถิด " ทว่ากัวฟ่งเสี้ยวยิ่งเบือนใบหน้าหลบและเอ่ยแทรกชวนกลับกันอย่างรีบร้อนแทน

          จิ้นอิ๋งที่เห็นก็นึกว่าอีกคนไม่เชื่อจนเผลอยู่ริมฝีปากเล็กดูอยากจะย้ำออกไป แต่เพราะต้องคุยเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องขึ้นเรือข้ามไปยังท่าเรือเมืองหวยอินกับคนเรือกันเสียก่อน เด็กสาวจึงแทบลืมเรื่องเอ่ยย้ำหันมาสนใจจ่ายค่าเรือให้อีกบุรุษแทนด้วยอีกหนอย่างใจกว้าง

          " ครั้งนี้ก็.. ถือว่าตอบแทนที่พาข้ามาเที่ยวชมสถานที่ดี ๆ อย่างทะเลสาบไท่หูแล้วกันนะเจ้าคะ "


จ่ายเงินค่าเรือ 24 ตำลึงเงิน
[028] มอบ ข้าวอบเผือก ให้

ลักษณะแต่กำเนิดตัวหอม
+20 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลงเฟิ่งฉิวหวง
ถุงหอมจูอวี๋
กระบี่
พู่หยกเลือดหงส์
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าเหลียง
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x5
x2
x2
x1
x2
x2
x2
x1
x1
x27
x2
x38
x40
x50
x50
x40
x40
x50
x3
x22
x19
x31
x10
x50
x5
x5
x5
x1
x12
x1
x2
x5
x2
x9
x1
x8
x6
x6
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2021-10-2 10:19:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Fenyue เมื่อ 2021-10-2 11:24


⌜55⌟

บทที่ 10
พบพานสหายใหม่
ฉากที่ 3
         
           
          เมื่อซับเลือดจากหางคิ้วไปหนึ่งครั้งโลหิตก็ไหลซึมออกมาจากบาดแผลอีกไม่รู้จักหยุด เห็นแบบนั้นคนพยาบาลอยู่ก็ใจเสีย มือที่ซับเลือดให้ชายหนุ่มสั่นไหวไปหมด ตอนนี้เฟินเยว่ทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้แต่ทว่านางก็พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ให้สงบแล้วทำใจให้เข้มแข็ง หากว่าตงฮั่วทนไหวนางก็ต้องทนได้
         
          “คุณชายซูกดบาดแผลไว้ก่อนนะเจ้าคะ”
         
          นางสลับมาให้อีกฝ่ายจับผ้ากดบาดแผลที่ทางคิ้ว ราวกับเป็นภาพฉายซ้ำกับเมื่อตอนที่นางตกเหวและได้เขามาช่วยดูแล เฟินเยว่สำรวจเนื้อตัวกำยำเต็มไปด้วยบาดแผลฟกช้ำที่เนื้อต้องปะทะกันเข้ากับสนับเหล็ก หยิบยามาทาตามบาดแผลเท่าที่สายตาจะมองเห็น แม้จะเคยหลงไหลร่ายกายที่สมกับเป็นชายชาตรีแต่ตอนนี้เด็กสาวจำต้องละวางไม่เคอะเขินจนดูแลอีกฝ่ายไม่ได้
         
          “เฮ้อ.. ดวงซวยชะมัด”
         
          ตงฮั่วพรูหายใจออกมา ในกระแสเสียงยังคงมีอารมณ์คุกรุ่นจากการวิวาทก่อนหน้าบ้างประปราย แต่ก็ถือได้ว่าตอนนี้เขาได้กลายมาเป็นซูตงฮั่วคนเดิมกับที่เด็กสาวได้เคยรู้จัก
         
          “แถวนี้จะมีโรงหมอหรือเปล่านะ”
         
          เด็กสาวพัมพำพลางหันซ้ายแลขวา หากได้ทำแผลเย็บคิ้วแตกน่าจะดีกับเด็กหนุ่มมากกว่า ถึงเฟินเยว่จะทำงานเย็บปักถักร้อยเป็นทว่านางก็ไม่เคยใช้เข็มด้นเนื้อคน
         
          “ไม่เป็นไร ขืนหาหมอตอนนี้มีหวังไม่ทันเรือออกรอบหน้าแน่ ๆ ”
         
          พูดจบเด็กหนุ่มก็บุ้ยปากไปยังแม่น้ำฉางเจียงที่บัดนี้มีเรือพายข้ามฟากส่งคนกำลังจะมาถึง
         
          “แต่ว่า คุณชายซูไม่เป็นอะไรนะเจ้าคะ ยังไงสุขภาพก็ควรจะมาก่อน”
         
          “หึ กับเรื่องแค่นี้ มากกว่านี้ข้าก็เคยโดนมาแล้ว ไม่เป็นไร เราขึ้นเรือกันเถอะ”
         
          เฟินเยว่มองไปที่ร่างกายบุรุษอย่างห่วงใย ตามเนื้อตัวเขาเหลือร่องรอยแผลเป็นจากการต่อสู้อยู่หลายแห่ง เป็นเครื่องบ่งบอกได้ดีว่าอีกฝ่ายผ่านสมรภูมิดวลหมัดดวลดาบมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
         
          “แฮ่ก... คุณชาย คุณหนู อยู่นี่เองให้ข้าได้ติดตามรับใช้ไปด้วย!!”
         
          เสียงเรียกแว่วจากไกล ๆ มาจากอันธพาลคนนั้นที่สภาพสะบักสะบอมไม่แพ้กับคนทางนี้ เหมือนว่าเขาจะแนะนำตัวไว้ว่าแซ่อ้าย () ที่มีความหมายว่า ‘ความรัก’ แต่กลับทำตัวตรงกันข้ามเป็นนักเลงรังแกคนสร้างความหวาดกลัวและเกลียดชังให้แค่แก่ผู้คนรอบข้างไม่สมกับที่เกิดมาแซ่อ้าย
         
          “ชิ! ไอ้ตัวน่ารำคาญ เยว่เอ๋อร์ตามข้ามาเร็ว”
         
          ตงฮั่วรีบจูงมือเฟินเยว่ไปรับม้าที่ฝากเอาไว้ก่อนที่จะพาไปยังแพข้ามฟาก ส่วนทั้งสองก็ลงเรือที่เพิ่งจะมาถึง ยัดเงินใส่มือฝีพายแล้วเร่งเร้าให้รีบออกเรือไปก่อนที่อันธพาลแซ่อ้ายจะตามมาทัน แม้เรือจะออกจากฝั่งไปแล้วแต่ทว่าเจ้าคนโง่เขลาก็กระโดดน้ำตามลงมาสร้างความตื่นตกใจปนขนหัวลุกให้แก่คนบนเรือ ทว่าสังขารอันบอบช้ำพยุงตัวให้ว่ายน้ำต่อไม่ไหวจนสุดท้ายคนที่ท่าเรือก็ต้องช่วยกันลากเขาขึ้นไปยังฝั่ง
         
          ตอนนี้ถือว่ารอดจากการติดตามชั่วคราว แต่ไม่รู้ว่าหากมาเจียงหนานในครั้งหน้าจะได้พบกับชายผู้นี้อีกหรือเปล่า บางทีหากมีธุระในแดนใต้คงต้องเลือกลงเรือที่ไท่ผิงแทน
         
          “ทะ.. ทำไมเขาถึงอยากตามมาขนาดนั้นกันนะ” เด็กสาวยกมือขึ้นลูบอกปอย ๆ เป็นการเรียกขวัญแก่ตนเอง แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่ตงฮั่วออกค่าโดยสารให้ไปก่อน จึงหยิบยื่นตำลึงเงินค่าขึ้นเรือคืนแก่เขา “ท่านตงฮั่วเจ้าคะ คืนเงินเจ้าค่ะ”
         
          “ตอนขามาข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าจะเลี้ยงค่าเรือในขากลับ เพราะงั้นไม่ต้องจ่ายคืนหรอก”
         
          “ไม่ได้สิเจ้าคะ ข้ายังพอมีเงินอยู่แต่ตงฮั่วเหลือเงินไม่มาก จะเอาเปรียบคนที่จนกว่าได้อย่างไรกันล่ะ”
         
          เฟินเยว่ไม่สนใจนางรีบยัดเงินใส่ถุงย่ามของอีกฝ่ายในทันที ตงฮั่วเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจแล้วส่ายหน้า แต่ก็ต้องยอมแพ้มิเช่นนั้นสาวน้อยก็คงต้องแอบเอาเงินมายัดใส่กระเป๋าเขาในเวลาอื่นอีกเช่นกัน
         
          “ให้ตายสิ.. เจ้านี่ช่างเป็นหญิงดื้ออะไรอย่างนี้นะ”
     
.
.
.
         



ตัวละครหลัก ซุน เฟินเยว่

ลักษณะนิสัยขยัน
+10 ความสัมพันธ์กับขุนนางในสภา

อัตลักษณ์หูดี
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย

อัตลักษณ์ผิวเป็นฝ้ากระ
-20 EXP จากการโรลทำงานในช่วงกลางวัน
หรือ โรลเดินทางช่วงกลางวัน (เรียลไทม์)
-10 ความสัมพันธ์กับขุนนางในสภา
+15 ความเครียด เมื่อต้องทำอะไรก็ตามในช่วงเวลากลางวัน

เอฟเฟคความสัมพันธ์
[152] ซู ตงฮั่ว
ความสัมพันธ์ +10 จากการคนธาตุและปีเดียวกัน




ใช้งาน [152] ซู ตงฮั่ว

ลักษณะนิสัยรักสันโดษ
-10 ความสัมพันธ์กับผู้อื่น


อัตลักษณ์แข็งแรง
+5 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจ














จ่ายเงินค่าเรือ 12 ตำลึงเงิน (ขึ้นเรือเพียง 2 คน)


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
พยัคฆ์ตงเทียน
หยกเชื่อมสัมพันธ์
พู่กันเหวิ่นเซ่า
ถุงหอมจูอวี๋
กลยุทธ์เล่ออี้
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x40
x32
x1
x439
x500
x73
x500
x26
x498
x500
x10
x2
x9
x1
x400
x1
x1
x5
x28
x8
x591
x228
x228
x500
x2514
x18
x14
x1
x5
x1
x2
x100
x5
x50
x100
x3
x3
x10
x2
x47
x64
x6
x9
x2
x71
x1
x24
x95
x50
x86
x150
x260
x150
x150
x46
x46
x2
x2
x6
x2
x2
x34
x4
x1
x8
x1
x2
x7
x5
x8
x7
x110
x7
x74
x45
x3
x30
x63
x74
x79
x2
x71
x68
x6
x45
x50
x160
x316
x3
x220
x48
x35
x168
x12
x10
x25
x1
x13
x6
x4
x6
โพสต์ 2021-10-2 20:56:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โรลนั่งเรือข้ามฝากกลับพร้อมกับคุย บัณฑิต



"ท่านปู่ข้าขอข้ามไปอีกฝั่งเหมือนเดิมจะได้ไหมข้ามีธุระจำต้องกลับไปอีกฝั่งหนึ่งน่ะท่าน"

"โฮ่ะๆเจ้าหนุ่มนักบวชนี้เองได้สิว่าแต่ว่าเจ้าหายไปหลายวันเลยข้านึกว่าเจ้าจะเป็นอะไรไปเสียแล้วเห็นว่าผ่านไปเมื่อวานก็ยังไม่มาเสียทีแบบนี้"

"ข้าจะต้องกลับไปอย่างแน่นอนท่านปู่ว่าแต่ว่าคราวนี้คงจะไปส่งถึงได้ไวๆนะข้าจะต้องรีบออกเดินทางไปอย่างไวอาจจะต้องขอรบกวนท่านลุงนั้นจะต้องรีบเร่งฝีพายไปเสียแล้วล่ะนะแบบนี้ ข้ายาดจะเดินทางไปยังเมืองเหิงเจียง ท่านลุงคงจะสามารถพาข้าออกเดินทางไปได้อย่างไวใช่หรือไม่?"

"มั่นใจในตัวข้าคนนี้ได้เลยว่าแต่ว่าค่าบริการเจ้าก็คงจะรู้อยู่แล้วใช่ไหมล่ะ? เจ้าจะจ่ายคนละครึ่งใช่ไม่งั้นก็มาประทับตราตรงนี้เอาล่ะแบบนั้นแหละถ้างั้นพวกเราก็พร้อมที่จะไปกันแล้วแบบนี้ เดี่ยวจะมีพ่อหนุ่มอีกคนเดินทางไปกับเราด้วย ไม่ต้องมองข้าแบบนั้นก็เป็น บัณฑิตหนุ่มคนเดียวกับที่เจ้ามาด้วยกันจากขามาอย่างไรเล่า"

"ออข้าเข้าใจแล้วถ้างั้นก็ตดลงตามนั้นข้าจะรอเค้าก็ได้เดี่ยวเราจะได้ออกเดินทางไปพร้อมๆกันเลยทีเดียวแบบนี้"

โดยที่ระหว่างทางข้ามฝากของเรือนั้น จีเทียนเต๋าก็ยังคงพูดคุยกับ บัณฑิตนิรนามคนนั้นอย่างออกหน้าออกตา พูดคุยกันอย่างสะดุดคอโดยที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร มิตรสหายจากแดนไกลกรือเปล่าวกันนะ?


(ใช้คนละครึ่ง)


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดไท่หมินลู่
เบ็ดตกปลา
คัมภีร์ไท่หมินลู่
ไก่ฟ้าทองแดง
หวีเซียวเฉิน
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าขาว
หน้ากากขาว
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x108
x8
x800
x800
x800
x70
x470
x100
x100
x4
x3
x3
x1
x7
x25
x860
x10
x790
x490
x200
x1
x100
x100
x100
x10
x1
x2
x1
x3
x4
x10
x920
x291
x494
x5
x388
x5
x6
x77
x100
x30
x900
x68
x1
x82
x98
x1
x96
x98
x1
x6
x2
x1000
x2
x3
x3
x3
x7
x8
x3
x100
x4
x100
x26
x24
x24
x26
x14
x600
x96
x100
x60
x100
x100
x440
x25
x2
x376
x11
x492
x9
x4
x99
x80
x79
x28
x2
x379
x75
x196
x571
x167
x100
x100
x50
x100
x100
x250
x50
x86
x13
x13
x7
x74
x6
x19
x5
x1150
x324
x17
x11
x10
x10
x490
x10
x2
x42
x62
x38
x1
x108
x35
x96
x99
x85
x505
x1
x598
x3
x3
x1
x8
x24
x404
x4
x102
x6
x24
x491
x288
x39
x90
x154
x8
x1
x10
x75
x10
x93
x500
x250
x150
x250
x550
x250
x3
x500
x242
x36
x18
x465
x1015
x164
x804
x804
x804
x804
x493
x314
x13
x36
x7
x498
x1
x10
x1
x2561
x628
x320
x260
x100
x15
x1
x6
x6
x150
x9999
x2
x7
x18
x5
x2
โพสต์ 2021-10-3 17:20:38 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Tianzhou เมื่อ 2021-10-3 17:43

ราชสีห์
ออกจากแดนใต้

เทียนโจวเดินทางผ่านป่าเขามาอย่างยาวนานหลายวันผ่านพ้นเมืองต่างๆมามากมาย แถมเจอพวกโจรหรืออันธพาลมารบกวนอยู่ตลอดเวลา บ้างก็เรื่องปล้นทรัพย์ บ้างก็มาเพราะต้องการปิงจวน แต่สุดท้ายก็โดนเทียนโจวจัดการไปอย่างง่ายดาย จนในที่สุดพวกเขาทั้งสองก็เดินทางมาถึงยังเมืองซื่อซินเสียที

“เมืองนี้ใช่รึไม่?”

เทียนโจวกล่าวถามกับปิงจวนที่อยู่ด้านหน้าของตน

“ใช่แล้วล่ะ”

ปิงจวนกล่าวออกมาพร้อมเสียงเรียบนิ่ง ก่อนที่เทียนโจวจะท้องร้องออกมาเล็กน้อย จึงนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ตนนั้นยังไม่ได้ทานอะไรมาเลย

“เราไปหาอะไรทานกันก่อนไหม”

เทียนโจวกล่าวออกมาพร้อมกับรอคำตอบของปิงจวนอย่างเงียบๆ

“เอาสิ ข้าเองก็หิวเหมือนกัน”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเทียนโจวรีบควบม้าหาโรงเตี๊ยมซักแห่งภายในเมืองเพื่อแวะพักรับประทานอาหารซักหน่อย

“เถ้าแก่สั่งอาหาร”

.
.
.
หลังจากผ่านไปซักพักหลังจากที่ได้สั่งอาหารมาจนเสร็จสรรพ อาหารก็ได้มาเสิร์ฟที่โต๊ะของทั้งคู่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“อาหารที่นี่ธรรมดาเหลือเกิน”
เทียนโจวกล่าวออกมาในขณะที่กำลังกินจนทำให้คนภายในโรงเตี๊ยมรวมถึงเถ้าแก่ต่างหันมามอง ก่อนที่จะมีชายคนหนึ่งเดินมาที่โต๊ะของเขาก่อนจะนำมือของตนไปจับไหล่ของปิงจวน

“สนใจไปเที่ยวกับพี่ไหมจ๊ะน้องสาว เลิกยุ่งกับไอผู้ชายนี่ดีกว่าพี่หล่อกว่าเยอะ”

ปิงจวนแทบจะหลุดหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของชายแปลกหน้าผู้นี้

“นี่เจ้าหัวเราะอะไร”

เทียนโจวพลันกล่าวถามด้วยความหงุดหงิดเมื่อเห็นปิงจวนหัวเราะออกมา

“ก็เจ้านี่บอกว่าเจ้าหน้าตาอุบาทนิน่า เพราะว่ามันบอกว่ามันหน้าตาดีกว่าเจ้า แต่หน้ามันก็มิต่างกับหมาขี้เรื้อนเท่าไหร่”

เทียนโจวนั้นโมโหเป็นอย่างมาก เขานั้นน่าตานับว่ามิได้หล่อหรือเเย่แต่อย่างใด แต่ดันโดนชายหน้าตาแบบนี้หาว่าอุบาท

“เจ้าหาเรื่องผิดคนแล้วไอกระจอก”

เทียนโจวจับแขนของอีกฝ่ายที่จับปิงจวนอยู่ ก่อนจะฟาดร่างของชายคนนั้นลงกับพื้น โดยมีปิงจวนที่นั่งอยู่ข้างๆกำลังนั่งกินอาหารพร้อมกับชมการประลองสดที่อยู่ตรงหน้า

“อัก! เจ้า!!”

ของเหลวคำโตสำรอกออกมาจากปากของชายแปลกหน้าก่อนที่ชายผู้นั้นจะหยิบอาวุธของตนปักเข้าที่แขนของเทียนโจวที่จับตนอยู่

เทียนโจวกระหน่ำหมัดซัดเข้าที่ใบหน้าของชายแปลกหน้าอย่างเมามันส์

“ถ้าเจ้ามิอยากตายจงถอนคำพูดซะ”

ชายแปลกหน้าเริ่มยกมือขึ้นมาขอโทษด้วยความกลัว

“ผะ….ผมขอโทษ พี่ชายหล่อมากๆ”

เทียนโจวเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการก็พลันเลิกซัดอีกฝ่ายก่อนจะยืนขึ้นพร้อมกับยกยิ้มขึ้นมาด้วยความสะใจ

“เออ ไอหน้าอุบาท”

เทียนโจวกล่าวออกมาก่อนจะหันมารับประทานอาหารต่อโดยปล่อยให้ชายผู้นั้นมีชีวิตต่อไป

“ตั้งแต่ข้ารู้จักกับเจ้า เจ้ายังมิเคยแพ้ผู้ใดเลยซักครั้ง”

ปิงจวนพลันกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม

“แน่นอน ก็ข้าบอกเจ้าแล้วไงว่าข้าหน่ะแข็งแกร่ง”

เทียนโจวกล่าวออกมาในขณะที่กำลังรับประทานอาหาร

“ข้าชักถูกใจเจ้าแล้วสิ ข้ามีนามว่าปิงจวน”

ปิงจวนพลันกล่าวออกมาพร้อมด้วยรอยยิ้มโดยมิปิดบังอีกฝ่ายที่กำลังสนทนาด้วย

“เป็นชื่อที่เหมาะกับเจ้าดีนิ ข้ามีนามว่าเทียนจวิน ตอนนี้เจ้ารู้แค่นามรองข้าก็พอ”

“ฝากตัวด้วยนะเทียนจวิน”

ปิงจวนกล่าวออกมาพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อยก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มรับประทานอาหารกันต่อ

ระยะเวลาผ่านไปจนในที่สุดทั้งสองก็รับประทานอาหารจนเสร็จในที่สุด และเริ่มออกเดินทางจนมาถึงยังท่าเรือในที่สุด ก่อนจะมีชายชราผู้หนึ่งเดินเข้ามาหาเขาทั้งสอง

“พวกเจ้าจะข้ามฝากงั้นหรอ มานี่สิข้าจะพาไป”

ชายชราท่าทางแอบโรคจิตเล็กน้อยได้กล่าวขึ้น แต่เขาก็มิได้ใส่ใจอะไรมากก่อนจะเดินตามไป เพราะคิดว่าคงแค่พยายามหาลูกค้าก็เท่านั้น

“ว่าแต่เจ้าต้องการไปลงที่ไหนละ”

ชายชราพลันกล่าวถามทั้งสองเพื่อความแน่ใจ

“พวกเราต้องการไปลงที่หวยอิน”

ปิงจวนพลันกล่าวตอบแทนให้ เพราะยังไงตนก็รู้ว่าเทียนโจวคงไม่รู้อะไรอยู่แล้ว ชายชราพลันพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนที่ปิงจวนจะนำเงินค่าเรือไปให้แก่ชายชรา

“ทั้งหมด 11 ตำลึงเงินพอดี”

ปิงจวนกล่าวจบ ก็เห็นชายชรารับเงินและเดินนำไปที่เรือโดยมีเทียนโจวตามไปแล้วตนจึงเดินตามไปด้วย

“ขอบใจเจ้ามาก”

เทียนโจวกล่าวออกมาก่อนจะเดินไปขึ้นเรือพร้อมกับปิงจวน ก่อนที่ชายชราจะเริ่มออกเรือของตนเพื่อเดินทางออกจากเมืองแห่งนี้

โอนเงิน 11 ตำลึงเงิน @Webmaster

หยิ่งยะโส
+4 Pointจากการโรลอวดเบ่ง
+7 Pointเมื่อชนะการดวลกับอีกฝ่ายพร้อมหยิ่งทะนงต่ออีกฝ่าย

ขี้โมโห
+3 Pointจากการโรลต่อสู้

แข็งแกร่งดุจเซี่ยงอวี่
+6 Point เมื่อโรลเพลย์ต่อสู้ระบบ
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจ

หูดี
+5 Expจากการโรลเพลย์สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
+3 Pointทุกครั้งที่โรลต่อสู้ผ่านระบบ
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย

ฟันเขี้ยว
+15 Expเมื่อโรลเพลย์ข่มขู่อีกฝ่าย
+3 Pointทุกครั้งที่โรลต่อสู้พร้อมข่มขู่อีกฝ่าย
-20 ความสัมพันธ์กับคนที่สนทนาด้วย

สายตายาว
+2 เมื่อโรลเพลย์ต่อสู้ผ่านระบบ
-10 ความสัมพันธ์กับคนที่มีลักษณะนิสัยหนอนหนังสือ

ธาตุทองเหมือนกัน
ปีนักษัตรถูกโฉลกกัน(ชวด > ฉลู)





←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หวีเซียวเฉิน
ตำราตงฟางซั่ว
ยาสมานแผลขั้นต้น
ตะเกียงซือซานเยวี่ย
ทวนสามพยัคฆ์
ม้าขาว
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x1
x1
x1
x1
x45
x1
x6
x2
x5
x984
x5
x50
x30
x2
x10
x8
x2
x8
x12
x24
x2
x7
x50
x5
x5
x5
x5
x5
x5
x5
x4
x6
x2
x2
x15
x40
x1
x6
x6
โพสต์ 2021-10-4 09:02:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ข้ามฟากอีกครา

        ช่วงที่กำลังสำรวจคฤหาสถ์หลังงามที่หนานชาง  หลี่ซีซวนฉุกคิดได้ว่ายังมีธุระค้างอยู่อีกฟากฝั่งของแม่น้ำจำต้องขึ้นไปจัดธุระให้เสร็จสิ้น  ก่อนออกจากคฤหาสถ์ได้เขียนประกาศรับสมัครคนงานไว้ที่กำแพงด้านนอกของคฤหาสถ์  แล้วขี่ม้าเหลียงออกจากหนานชางใช้เส้นทางผ่านเมืองโผหยาง  ลัดเลาะเส้นทางเมืองท่าของแดนเจียงหนาน  จนมาถึงเมืองซือซินลงท่าเรือชิงต่าว  หลี่ซีซวนพบว่ามีหลายคนรอข้ามฝากเช่นเดียวกันนายแจวเรือจอดเทียบเรืออีกครา  หลี่ซีซวนเดินจูงม้าตามลงไปด้วยโชคดีที่ม้าไม่ได้ตื่นคนทำให้ไม่ต้องวุ่นวายกับการปลอบขวัญมัน  เห็นคนโดยสารเรือจ่ายเงินคนแจวเรือก่อนส่งข้ามฟาก  จึงควักเงินจ่ายตามไป  มันคือความสงสัยส่วนตัวว่าทำไมแจวเรือมันหาคนที่มีใบหน้าไว้ใจได้จริงหนอ  พอเทียบท่าที่หวยอินแล้ว  หลี่ซีซวนยังคิดว่าหากไม่มีธุระต้องข้ามฟาก  ไม่จำเป็นไม่ขอเจอคนแจวเรือจะดีกว่า




←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ตำราเลี่ยจื่อ
ม้าเฟิ่งหวง
กระบี่ร้อยกฎ
เตากำยาน
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x55
x2
x4
x3
x1
x3
x8
x3
x15
x19
x20
x20
x10
x1
x1
x1
x1
x9
x6
x10
x1
x2
x30
x3
x10
x2
x1
x3
x15
x35
x2
โพสต์ 2021-10-12 22:14:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ราชสีห์จรจัด
ถึงฝั่ง

หลังจากที่นั่งเรือเพื่อข้ามแม่น้ำมานานหลายชั่วยามในที่สุด ทั้งสองก็ได้ขึ้นมาถึงฝั่งที่เมืองซื่อชินเสียที เทียนโจวเดินออกไปหาม้าเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะกลับมาหาปิงจวนพร้อมกับม้าสีขาวอีกครั้ง

“ไปกันเถอะ ปิงจวน”

เทียนโจวเดินไปอุ้มหญิงสาวขึ้นไปบนหลังม้าเหมือนทุกที

“เมื่อไหร่เจ้าจะเลิกทำแบบนี้เสียที ข้าไม่ใช่เด็กนะ”

ปิงจวนพลันกล่าวออกมาหน้ามุ่ยปนเขินอาย การที่อีกฝ่ายค่อยอุ้มตนขึ้นม้าอยู่ทุกครั้ง มันทำให้เธอดูคล้ายกับเด็กน้อยยังไงยังงั้น

“ข้าไม่เลิกหรอก”

เทียนโจวนั้นยิ้มออกมาหลังจากที่ได้เห็นสีหน้าเช่นนั้นของปิงจวน หลังจากที่ทั้งสองขึ้นมาจนเสร็จสรรพ เทียนโจวก็ได้เริ่มควบม้าออกเดินทางต่อ แต่แล้วเสียงบางอย่างก็ได้ดึงดูดความสนใจของเทียนโจวไป

เบ้า! เบ้า! เบ้า!

เสียงของเจ้าเขี้ยวเงินที่กำลังเห่าบางสิ่งบางอย่างนั่นเองที่เป็นตัวดึงดูดความสนใจของเทียนโจว ชายหนุ่มมองตามเสียงนั้นไปด้วยความสงสัย ก่อนที่จะมองตามสายของเจ้าเขี้ยวเงินไป จนพบกับชายคนหนึ่งที่เดินถืออาวุธมุ่งตรงมาทางพวกเขา

“รอแปปนึงนะ”

เทียนโจวกล่าวออกมาก่อนจะลงจากม้าำร้อมกับหยิบทวนของตนเดินไปหาชายผู้นั้น

“เจ้าต้องการอะไร”

เทียนโจวจ้องมองไปที่ชายคนนั้นด้วยความหงุดหงิด ชายร่างกำยำตรงหน้าเริ่มแสยะยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของเทียนโจว

“สิ่งที่ข้าต้องการนั้นมิได้มากมายอะไร ข้านั้นก็เป็นหนึ่งในผู้ชมในงานประลองที่ลั่วหยาง การที่ข้าได้มาพบท่านในครั้งนี้ก็เพียงแค่ต้องการแลกเปลี่ยนกระบวนท่าเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเพราะข้ามิเชื่อในสิ่งที่ข้าได้เห็น”

ชายร่างกำยำกล่าวออกมาอย่างนอบน้อม หากแต่ว่าความหมายที่แท้จริงที่ชายร่างกำยำได้สื่อออกมานั้นคือ เจ้ามันกระจอก!

“ก็ดีข้าจะจัดการไอพวกอวดดีเช่นเจ้า และจะทำให้รู้ว่าระหว่างหมาขี้เรือนกับราชสีห์มันต่างกันเกินจะเปรียบเทียบ!”

เทียนโจวกำทวนในมือพุ่งเข้าใส่ร่างของชายกำยำอย่างดุดัน ชายกำยำพลันหยิบขวานของตนออกมารับการโจมตีของเทียนโจว ก่อนจะสับเข้าที่ของเทียนโจวอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เทียนโจวเมื่อรับรู้ถึงขวนที่หวังจะเอาชีวิตตนก็มิได้ถอบหลังหลบ หากแต่เลือกที่จะเบี่ยงตัวหลบการโจมตีนั้นจนขวานทำได้แค่ฝากบาดแผลไว้ที่แขนของเทียนโจว ซึ่งแผลนั้นก็มิได้ลึกมากอะไร

“บาดแผลนี้มิเลวเลยข้าชอบมัน แต่สำหรับเจ้ามันจะไม่จบแค่แผลแบบข้า!”

ทวนของเทียนโจวนั้นได้ตัดข้าข้างหนึ่งของชายกำยำจนล้มลง เทียนโจวเหยียบอกของอีกฝ่ายที่นอนอยู่กับพื้น ชายคนนั้นพยายามดิ้นอย่างสุดความสามารถ แต่กำลังของคนทั้งสองนั้นต่างกันเกินไป

“ในเมื่อสายตาของเจ้าได้เห็นผู้ที่แข็งแกร่งกว่าแล้วยังกล้าลองดี เช่นนั้นก็อย่ามิมันเสียเลย”

เทียนโจวควักเอาลูกตาทั้งสองข้างของชายผู้นั้นออกมาก่อนจะโดยนเข้าปากของเจ้าเขี้ยวเงินจนมันกินหมดเกลี้ยง ชายร่างกำยำร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่เทียนโจวนั้นมิแยแสต่อชายคนนั้นก่อนจะเดินกลับไปหาปิงจวนที่รออยู่บนม้า

“มิมีอะไรต้องกลัวหรอก”

เทียนโจวลูบหัวของปิงจวนอย่างเอ็นดูก่อนจูบหน้าผากของหญิงสาวเบาๆ

เบ้า!(ใช่!)

เจ้าเขี้ยวเงินพลันร้องออกมาพร้อมกับส่ายหางดุกดิ๊กอย่างน่าเอ็นดูพร้อมกับเดินไปรอบๆปิงจวน

“เอาล่ะเรามาเดินทางกันต่อเถอะ”

เทียนโจวยิ้มออกก่อนจะขึ้นควบม้าเริ่มออกเดินทางต่อไปยังจุดหม่ายของตนที่อยู่แสนไกล




เอฟเฟคจากตัวละคร
Points
Exp
ความสัมพันธ์
+4 จากโรลอวดเบ่ง (หยิ่งยะโส)
+7 เมื่อชนะการดวลพร้อมหยิ่งทะนง (หยิ่งยะโส)
+3 โรลต่อสู้ (ขี้โมโห)
+6 เมื่อโรลต่อสู้ระบบ (แข็งแกร่งดุจเซี่ยงอวี่)
+3 เมื่อโรลต่อสู้ระบบ (หูดี)
+3 เมื่อโรลต่อสู้พร้อมข่มขู่อีกฝ่าย (ฟันเขี้ยว)
+2 เมื่อโรลต่อสู้ระบบ (สายตายาว)
+2 เมื่อโรลต่อสู้ผ่านระบบและแพ้หรือชนะ แต่เขียนให้เกิดแผลเป็น (มีแผลเป็น)
+5 จากโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น (หูดี)
+15 เมื่อโรลข่มขู่อีกฝ่าย (ฟันเขี้ยว)
+20 เมื่อโรลหยิ่งในศักดิ์ศรีและภาคภูมิในแผลเป็นทุกแผลบนร่าง (มีแผลเป็น)
+15 กับคนที่ให้ความสนใจ (แข็งแกร่งดุจเซี่ยงอวี่)
+15 กับคนที่คุยด้วย (หูดี)
+5 มีธาตุทองเหมือนกัน
+20 ปีนักษัตรถูกโฉลกกัน (ชวด > ฉลู)
-20 กับคนที่สนทนาด้วย (ฟันเขี้ยว)
-10 กับคนที่มีนิสัยหนอนหนังสือ (สายตายาว)
+5 กับคนที่สนใจ (มีแผลเป็น)
-5 กับขุนนางในสภา (หยิ่งยะโส)
ผลรวมของแต่ละอัน
+30
+40
+25

https://rotk.xyz/dzs_npccomrade-fight.html?aid=455



←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หวีเซียวเฉิน
ตำราตงฟางซั่ว
ยาสมานแผลขั้นต้น
ตะเกียงซือซานเยวี่ย
ทวนสามพยัคฆ์
ม้าขาว
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x1
x1
x1
x1
x45
x1
x6
x2
x5
x984
x5
x50
x30
x2
x10
x8
x2
x8
x12
x24
x2
x7
x50
x5
x5
x5
x5
x5
x5
x5
x4
x6
x2
x2
x15
x40
x1
x6
x6
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

อย่าลืมเข้าสู่ระบบนะจ๊ะ เข้าสู่ระบบตอนนี้ หรือ ลงทะเบียนตอนนี้

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้