[ซานเมืองลั่วหยาง] วัดไป๋หม่า

[คัดลอกลิงก์]
ไม่ระบุชื่อ  โพสต์ 2021-9-22 20:07:41 |โหมดอ่าน

วัดไป๋หม่า
{ ซานเมืองลั่วหยาง }








【วัดไป๋หม่า】

' หนึ่งก้าวระลึกตื่นรู้ หมื่นปัญหาพลันคลี่คลาย '
วัดไป๋หม่า หรือ วัดม้าขาว อารามพระพุทธศาสนาแห่งแรกที่ตั้งขึ้นในต้าฮั่น
สร้างขึ้นในนครหลวงลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน
ด้านหลังติดหุบเขาทั้งเงียบสงบและเหมาะแก่การบำเพ็ญปฎิบัติธรรมกัมมัฎฐาน
มีทั้งเจดีย์ที่บรรจุพระพุทธรูปที่คณะฑูตอัญเชิญมาจากชมภูทวีป
เพื่อได้เป็นศูนย์รวมจิตใจ หอตำราบรรจุพระไตรปิฎกฉบับดั้งเดิม
และเอกสารแปลทางพุทธศาสนา ทุกวันพระจะมีเทศนาธรรม
และเปิดให้เข้ารักษาศีลอุโบสถแก่ผู้ที่สนใจ

ทุกท่านสามารถมาโรลเพลย์ทำงานพาร์ทไทม์ประจำวัน
ค่าจ้าง: 80 อีแปะ - 14 EXP (รายวัน)




【ประวัติอาราม】
พระเจ้าฮั่นหมิงตี้ รัชศกหย่งผิง ปีที่ 10 (ค.ศ. 66) ได้คณะทูต 18 คน
ไปสืบพุทธศาสนาที่ชมพูทวีป โดยใช้เวลา 3 ปี พวกเขาได้เดินทางกลับ
ในรัชศกหย่งผิงปีที่ 12 (ค.ศ. 68) พร้อมด้วยพระภิกษุอีก 2 รูป
คือ ไต้ซือเส้อม๋อเถิง (พระกัศยป มาตันคะ) และ ไต้ซือจู๋ฝ่าหลาน (พระธรรมรัตน์ โคภรณ์)
พร้อมกับอัญเชิญคัมภีร์ทางพุทธศาสนามาด้วย โดยบรรทุกมาบนหลังม้าสีขาวตัวหนึ่ง
ฮั่นหมิงตี้จึงได้โปรดให้มีการสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นที่ชานเมืองลั่วหยาง เพื่อเป็นที่เก็บพระคัมภีร์
และให้พระภิกษุทั้ง 2 จำพรรษา ณ วัดแห่งนี้ และพระราชทานนามให้ว่า "วัดไป๋หม่า"
เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ม้าขาวตัวนั้น และวัดแห่งนี้ ก็เป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาในต้าฮั่น
นับแต่นั้นเป็นต้นมา เปิดคำว่า หลักธรรมคำสอนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จนเผยแผ่ไปทั่วแผ่นดินฮั่น





เจ้าอาวาส:
ไต้ซือเหวินจิ้ง
อุปนิสัย:

อบอุ่นอ่อนโยนอยุ่เสมอ ดื้อรั้นในแบบสัมมาทิฐฐิ ยิ้มแย้มอย่างสำรวม
อ่อนโยนดุจกระแสน้ำที่พร้อมจะดับความร้อนรุ่มในจิตใจคนรอบข้าง
หนักแน่นด้วยเหตุผล เอาใจใส่มิตรสหายและมิตรทางธรรม
ซาบซึ้งในรสพระธรรมและพร้อมจะชี้นำผู้คนไปสู่ทางสว่าง
ตามแนวทางของพระศาสดา







ไม่ระบุชื่อ  โพสต์ 2021-9-24 18:07:46
- เงื่อนไขจีบ NPC -
1) ทุกครั้งที่มาเจอปฏิสัมพันธ์จะต้องโรลเพลย์ถ่ายทอดความรู้ 1 อย่างแก่ เตียวฉาน
2) ทุกครั้งที่ถ่ายทอดความรู้ จะสูญเสีย -30 EXP เพื่อมอบให้เตียวฉาน +30 EXP แทน และ คุณได้รับความสัมพันธ์โบนัสต่อเตียวฉาน +25 ความสัมพันธ์
3) สามารถมาเจอได้ทุกวันที่ทัศนาจรที่นี่ และ ปฏิบัติตามเงื่อนไขการเจอ NPC ข้อ 1) - 2)
4) ให้ของได้วันละครั้ง แต่สามารถสอนได้ไม่จำกัด

คำเตือน:
โปรดอย่าปั่นโพสต์เกินไป เว้นความถี่ CD 1-2 ชม. ยกเว้นโรลเพลย์ยาวพอสมควรอนุญาติไม่มี CD


[014] เตียว ฉาน (เตียวเสี้ยน)



←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x12
x5
x636
x241
โพสต์ 2021-9-25 21:34:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด

รับเควสคุ้มครองคณะหลวงจีนสู่หมู่บ้านซีตี้
.
.
.

          หลังเข้าเขตกวนจงใกล้จะถึงยังตัวเมืองลั่วหยาง จิ้นอิ๋งก็ลดความเร็วม้าลงจนแทบจะกลายเป็นให้ม้าย่ำเท้าเดินช้า ๆ มากับถานเจ๋อ กระทั่งผ่านในส่วนของตัววัดไป๋หม่า คนที่ไม่ได้รับถือศาสนาเช่นนางหันมองเล็กน้อย หวนนึกถึงครอบครัวที่ไม่รู้เป็นอย่างไรในตอนนี้ อดคิดไม่ได้ว่าหากนางจะขอพรไปด้วยองค์พระศาสดาของศาสนานี้จะรับฟังหรือไม่

          แต่แล้วยังไม่ทันที่ดรุณีน้อยจะได้ลองทำมือประสานภาวนา นางก็พลันได้ยินเสียงคนรู้จักจากเมืองลั่วหยางเอ่ยทักทายในตอนที่เพิ่งเดินทางมาถึงและเตรียมเข้าไปในตัววัดให้นางหยุดม้าพูดคุยทักทายเล็กน้อย สตรีวัยหลางคนผู้นั้นเอ่ยถามไถ่เด็กสาวเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนทันเห็นถานเจ๋อที่หยุดม้าอยู่ด้านหลังถัดไปอีก ท่าทางดุกร้าวหากแต่เมื่อโดนสบตามันก็ค้อมหัวคล้ายทักทายให้เล็กน้อย ทำสตรีผู้นั้นอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยก่อนเอ่ยถามจิ้นอิ๋งที่เป็นนายของผู้ติดตามด้านหลังนั้น

          " นั่นผู้ติดตามของแม่นางกู้งั้นหรือ? ท่าทางแข็งแรงแข็งขันน่าดู.. ได้ยินจากพ่อค้าหวังจินว่าเจ้ากำลังเก็บเงินซื้อบ้านแทนบ้านเก่า เช่นนั้นไม่สนใจรับงานจากหลวงจีนในวัดไป๋หม่าดูล่ะ " จิ้นอิ๋งที่ได้ยินเลิกคิ้วเรียวดูฉงนเล็กน้อย อีกฝ่ายที่เห็นก็หลุดหัวเราะเล็กน้อยพร้อมเอ่ยให้นางคลายกังวลว่าคนนอกศาสนาก็สามารถรับได้

          " เช่นนั้นคืองานอะไรงั้นหรือเจ้าคะท่านน้า "

          " งานคุ้มครองคณะหลวงจีนไปยังหมู่บ้านซีตี้ที่เขตซวี่โจวน่ะแม่นาง.. ช่วงนี้เจ้าก็น่าจะรู้เกี่ยวกับกลุ่มโจรโพกผ้าเหลืองใช่หรือไม่ ชาวบ้านแถบนั้นโดนปล้นไม่น้อยเลยเชียว ทางวัดเลยอยากส่งคณะหลวงจีนไปช่วยเทศนาให้มีที่พึ่งทางใจ แต่ก็น้า.. เส้นทางที่ไปก็มีโจรน้อยเสียเมื่อไหร่ จะได้เทศนาหรือโดนดักปล้นเสียก่อนก็ยังไม่รู้.. ทางวัดเขาก็เลยต้องการคนคุ้มครองก่อนเดินทางอยู่น่ะแม่นาง "

          " งั้นหรือเจ้าคะ "

          จิ้นอิ๋งตอบรับทั้งสีหน้าที่ดูติดห่วงขึ้นมา ด้วยแม้นางจะไม่ได้นับถือศาสนา ทว่าก็เคยได้ยินถึงคำสอนของทางศาสนาพุทธมาไม่น้อยว่าเป็นอีกศาสนาหนึ่งที่น่าชื่นชมศาสนาหนึ่ง นางจึงอดเห็นใจขึ้นมาไม่ได้ สุดท้ายจึงสอบถามชื่อของหลวงจีนที่สามารถพูดคุยเรื่องงานนี้ได้ อีกสตรีที่สามารถช่วยหาคนคุ้มครองคณะหลวงจีนไปได้เช่นกันพลันเอ่ยตอบอย่างเต็มใจ

          " หลวงจีนต๋าจง น่ะแม่นาง ยามนี้คงกำลังฉันอาหารเย็นกันอยู่ เจ้ารออีกสักหน่อยค่อยพบท่านแล้วกันนะแม่นาง ..อย่างไรถ้าแม่นางเดินทางไปด้วยก็ระมัดระวังตัวด้วย แม้ผู้ติดตามเจ้าน่าจะดูแลไหวก็อย่าประมาทเสียล่ะ "

          สิ้นคำอีกสตรีผู้นั้นก็ตัดสินใจยืนรอเพื่อพาจิ้นอิ๋งไปพบหลวงจีนที่แนะนำให้ด้วยกัน เด็กสาวจึงลงจากม้าที่พาไปผูกยังใต้ร่มไม้ไม่ไกล ทางฝั่งถานเจ๋อที่มีส่วนในงานนี้ร่วมกันจึงแอบอู้ไปยืนเฝ้าม้าให้ไม่ได้แล้ว ต้องมาฟังรายละเอียดจากอีกสตรีแปลกหน้าผู้นั้นแทน มันที่รู้สึกขี้เกียจไม่น้อยที่ต้องเดินทางไกล ทว่าพลันเห็นสีหน้าของผู้เป็นนายดูอยากช่วยเหลือเสียขนาดนั้น สุดท้ายมันก็จึงได้แต่เลยตามเลยเท่านั้น

          ยามเหล่าหลวงจีนออกมาจากโรงทานเพื่อเตรียมตัวทำวัตรเย็นต่อ จิ้นอิ๋งและถานเจ๋อก็ถุกสตรีที่แนะนำงานให้พามาพบกับหลวงจีนต๋าจง อีกฝ่ายยกยิ้มอ่อนโยนดูออกว่ายินดียินร้ายหรือไม่ยามได้ยินว่ามีคนอยากช่วยคุ้มครองคณะให้ยามเดินทางยังหมู่บ้านซีตี้ ทว่าคำกล่าวขอบคุณจิ้นอิ๋งที่มีน้ำใจอยากช่วยเหลือนั้น สุ้มเสียงทุ้มฟังแสนนุ่มนวลและกระจ่างใสพาลให้คนฟังรับรู้ได้ถึงความจริงใจจากคำพูดของหลวงจีนเบื้องหน้าได้ไม่ยากเย็น

          " ขอบคุณสีกาที่มาช่วยคุ้มครองให้แก่คณะหลวงจีนของอาตมา สีกาพร้อมมาช่วยวันใดก็สามารถแจ้งอาตมาได้แล้วอาตมาจะไปแจ้งแก่ท่านเจ้าอาวาสให้.. ประสกด้านหลังคงเป็นผู้ที่คอยคุ้มครองใช่หรือไม่? " ถานเจ๋อที่ไม่คุ้นเคยกับบุคคลทางศาสนาไหนพลันอึกอักเก้กังไม่น้อย แต่ก็พนมมือตามคนอื่นแล้วพยักหน้ารับตามด้วยไม่รู้ว่าควรใช้คำพูดอย่างไรคุยกับอีกฝ่าย

          " เจ้าค่ะ เขาเป็นผู้ติดตามของข้าน้อยเองเจ้าค่ะ นามถานเจ๋อ.. ฝีดาบดียิ่ง ท่านหลวงจีนต๋าจงวางใจได้เลยนะเจ้าคะ "

          จิ้นอิ๋งที่ไม่เคยได้พูดคุยกับหลวงจีนทางศาสนาพุทธเช่นกันออกจะใช้คำพูดเป็นกันเองไม่น้อย ทั้งยังพูดกล่าวเฉย ๆ จนสตรีกลางคนที่ยืนอยู่ข้างนึกอมยิ้มขำด้วยความเอ็นดูกึ่งหนึ่ง ก่อนจะพนมมือให้นางได้เห็น ดรุณีน้อยถึงยอมทำตามยามเอ่ยถึงเวลาที่จะนัดคุ้มครองไปที่หมู่บ้านซีตี้ต่อไป

          " เช่นนั้นเรื่องเวลา.. ข้าน้อยจะมารับคณะหลวงจีนในยามเหม่าของวันที่ 27 นะเจ้าคะ พอดีพรุ่งนี้ตัวข้าน้อยยังมีธุระอยู่น่ะเจ้าค่ะ "

          หลวงจีนได้ยินพลันผงกหัวรับด้วยกิริยานุ่มนวลก่อนขอตัวจากไปเพื่อปฏิบัติธรรมทำวัตรต่อ จิ้นอิ๋งจึงค้อมกลับหาไปด้วย ให้อีกสตรีข้างกายต้องมายืนบอกกล่าวถึงกิริยายามปฏิบัติกับหลวงจีนของศาสนานี้ต่อให้โดยคร่าว ๆ ทั้งยังช่วยแนะนำถึงการถวายข้าวปลาอาหารแก่คณะหลวงจีนขณะเดินทางไปด้วย เผื่อเด็กสาวจะอยากช่วยจัดการให้ ซึ่งจิ้นอิ๋งก็รับฟังอย่างตั้งใจ แม้ไม่ได้นับถือศาสนานี้แต่เรื่องความใจกว้างยินดีช่วยเหลือผู้อื่นนั้นเป็นนิสัยของนางที่ทำให้ละเลยไม่ได้อยู่แล้ว

          ซึ่งเมื่อพูดคุยกันเรียบร้อยดีแล้วจิ้นอิ๋งจึงขอตัวลาและพาถานเจ๋อออกจากวัดเพื่อไปเจอกับซูฮวาที่โรงเตี๊ยมเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับงานแต่งงานในวันพรุ่งนี้ต่อไปเสียก่อน




←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลงเฟิ่งฉิวหวง
ถุงหอมจูอวี๋
กระบี่
พู่หยกเลือดหงส์
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าเหลียง
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x5
x2
x2
x1
x2
x2
x2
x1
x1
x27
x2
x38
x40
x50
x50
x40
x40
x50
x3
x22
x19
x31
x10
x50
x5
x5
x5
x1
x12
x1
x2
x5
x2
x9
x1
x8
x6
x6
x1
x3
x2
x2
x1
 เจ้าของ| โพสต์ 2021-9-27 12:23:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
[วันบูชาข้าวพระ]





::.คำอธิบายเควส.::
- คำในวงเล็บ อาทิ (พ่อหนุ่ม/สาวน้อย) เลือกคำใดคำหนึ่งมาใช้ ให้เข้ากับคุณ -
- [...] สีน้ำเงิน คือ โรลคำพูดเฉพาะคนมีลักษณะนิสัยตามที่ระบุ -



::.เงื่อนไขเข้าร่วมเทศกาบ.::
- เข้าร่วมได้คนละ 1 ครั้ง
- เข้าร่วมได้วันที่ 3 เดือนสือเยว่ จงผิงศกปีที่ 1 ยามไห้ เป็นต้นไป -





.: ข้อมูลการโรลเพลย์ :.
- เมื่อถึงเวลาโรลเพลย์ สามารถมาเปิดโรลเพลย์ได้เลย
- เขียนโรลสร้างสตอรี่การมาร่วมฟังเทศนาธรรมใหญ่ [สามารถนัด NPC ที่มีความสัมพันธ์ 4 ดวง+ มาร่วมฟังธรรมได้]
- สำหรับคนที่ NPC ตอบนัดแล้วให้สร้างสตอรี่เปิดโรลกับ NPC ได้เลย
- สร้างสตอรี่ร่วมงานได้อิสระ
- EXP พิเศษจะได้ตามเนื้อหาโรลเพลย์ที่ท่านเข้าร่วม ถ้าเขียนเข้าร่วมหมดทั้งวันก็ได้ครบทุกข้อ
แต่ท่านจะไปที่ไหนไม่ได้ เนื่องจากเวลาเข้าร่วมคือตลอดทั้งวัน
- เขียนรวมในโรลเพลย์เดียว โพสต์เวลาไหนก็ได้ แต่ตัวละครท่านจะต้องไม่เคยไปที่อื่นไกล ๆ ในวันนี้ กรณีที่ท่านเลือกเข้าร่วมทั้งวัน
หรือจะเลือกเข้าร่วมตอนเวลาไหนก็ได้ โดยเขียนโรลเริ่มต้นที่หัวข้อเวลานั้นในโรล

รางวัลที่ได้จากการร่วมกิจกรรม
*จะต้องมีเนื้อหาโรลเพลย์ถึงรายละเอียดแต่ละหัวข้อจึงได้รางวัล หากไม่สร้างสตอรี่ดำเนินหัวข้อใดก็ไม่ได้หัวข้อนั้น*
- 06.30 - ตักบาตรยามเช้ากับคณะสงฆ์แปรแถวบริเวณที่เปิดให้สาธุชนได้ตักบาตร [เซ็ทกล่องเท่านั้น] ได้รับ +5 EXP
- 09.00 - นั่งสมาธิบำเพ็ญกุศล กำหนดจิตให้สงบก่อนเริ่มฟังธรรม ได้รับ +5 EXP
- 09.25 - ปฏิบัติธรรม บูชาข้าวพระ ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน ได้รับ +20 EXP , +7 Point (หากไม่ถวายสังฆทานแค่สวดฟังธรรมจะได้ +10 EXP)

ลำดับช่วงเวลานี้ เขียนโรลใส่บทสวดบูชาดังนี้ (ครบถ้วน)
- บทสวดพระรัตนตรัย
- อาราธนาศีล และ อาราธนาประปริตร
- นั่งสมาธิฟังพระเจริญพุทธมนต์
- จุดเทียนน้ำมนต์ (ฟังพระสวดมงคลสูตร)
- บทบูชาข้าวพระพุทธ
- กล่าวคำ ถวายภตัตาหาร และเครื่องธรรม
- กล่าวคำลาข้าวพระพุทธ
- ประเคนถวายสังฆทานและเครื่องธรรมที่เตรียมมา  

สามารถหลอมเซ็ทอาหารที่จะถวายสังฆทานได้ที่หน้านี้ [ส่งกล่องเซ็ทอาหารที่จะถวายสังฆทานมาไอดี Webmaster]

- จัดเซ็ทอาหารใหม่ -
* สำหรับคนที่อยากได้เซ็ทอาหารเพิ่มเติม สามารถยื่นแบบฟอร์มส่งมาทาง PM *

ชื่อเซ็ทกล่องอาหาร:
รายละเอียดเซ็ท:
อาหารเครื่องดื่มภายในกล่อง: [จัดเซ็ทอาหารที่คุณอยากจะจัดกล่องของฝากหรือทำอื่น ๆ ไม่ควรมากหรือน้อยเกินไป ลิสต์เป็นรายการ ปริมาณมา]
ตัวอย่าง
ข้าวสวย x1
เป็ดเป่ยผิง x2
* เมื่อได้รับอนุมัติ จะเพิ่มเซ็ทอาหารลงศูนย์หลอมให้ท่านไปจัดได้ *




- 13.00 น. ฟังไต้ซือเหวินจิ้งเทศนาธรรม ได้รับ +10 EXP
- 14.30 น. ถวายปัจจัยแก่ไต้ซือเหวินจิ้ง และฟังไต้ซือให้โอวาท ได้รับ +10 EXP
(หากถวายปัจจัยด้วย 100 ตำลึงทองขึ้นไปหรือไอเท็มยกเว้นสุราเกรดม่วง+ ได้รับ +5 Point)
15.00 - พักเบรก ช่วงเวลาที่คุณจะได้เดินเล่นชมวัดและเดทกับคู่ควงที่มางาน ได้รับ +5 EXP
- 18.00 - ร่วมสักการะ กล่าวบทสวดธรรมจักรกัปปวัตนสูตร (โรลถึงบทสวดด้วย) +10 EXP
- 19.00 - ร่วมเดินขบวนในพิธีเวียนประทักษิณรอบอุโบสถวัด ได้รับ +10 EXP
- โรลเพลย์โคกับ Member มากกว่า 4 คน โบนัส +20 EXP
- นัดเดทกับ NPC เดินเทศกาล ได้รับความสัมพันธ์พิเศษ+35 (ไม่รวมมอบของและพูดคุย)
- ชวน NPC ที่มาเที่ยวเทศกาลเดินเล่นทำความรู้จัก ได้รับความสัมพันธ์พิเศษ+25 - EXP+15

* ท่านจะมาเข้าร่วมเทศกาลช่วงไหนก็ได้กรณีอยากไปทำอย่างอื่นก่อนมาวัด ให้โรลเพลย์สร้างสตอรี่เริ่มเวลาปัจจุบันที่คาร์มาถึง
อาทิ หากก่อนหน้าอยู่ชวี่โจว ปาสู่ ซีเหอ เหลียงโจว จี้โจว จิงโจว เจียงหนาน ท่านจะมาถึงช่วงเย็นของพิธี *



←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x12
x5
x636
x241
โพสต์ 2021-9-28 17:46:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ส่งเควสคุ้มครองคณะหลวงจีนสู่หมู่บ้านซีตี้
.
.
.

          ทั้งสามมาถึงบริเวณชานเมืองที่ตั้งของวัดไป๋หม่าในช่วงเวลาเข้ายามอู่พอดิบอดี เหล่าหลวงจีนที่เวลานี้กำลังแยกทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ บ้างศึกษาพระธรรม บ้างออกมากวาดลานวัด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีหลวงจีนต๋าจงที่จิ้นอิ๋งได้พูดคุยเพื่อรับงานคุ้มครองกำลังกวาดบริเวณศาลากลางแจ้งนอกวัดอยู่พอดี ทำให้เด็กสาวไม่ได้เสียเวลามองหานานและเร่งเข้าไปแจ้งเรื่องเกี่ยวกับคณะหลวงจีนที่หมู่บ้านซีตี้ให้ฟัง

          " นมัสการหลวงจีนต๋าจงเจ้าค่ะ " สิ้นเสียงทักหลวงจีนก็ละมือจากไม้กวาดพลางเงยหน้าหาผู้มาเยือน รอยยิ้มอ่อนโยนประดับหากล่าวต้อนรับดรุณีน้อยเบื้องหน้าอย่างยินดี

          " สีกากู่นี่เอง.. ส่งคณะหลวงจีนของอาตมาที่หมู่บ้านซีตี้เรียบร้อยแล้วงั้นหรือ "

          " เจ้าค่ะ คณะหลวงจีนทั้งหมดถึงหมู่บ้านซีตี้กันหมดแล้ว ชาวบ้านดูดีใจมากเลยล่ะเจ้าค่ะ " เด็กสาวประนมมือหาระหว่างเอ่ยกล่าวน้ำเสียงเจื้อยแจ้วดูยินดีไม่ต่างกันที่สามารถช่วยเหลือเยียวยาจิตใจแก่ชาวบ้านได้ แม้ตัวนางจะแต่คอยคุ้มครองไปส่งเหล่าหลวงจีนให้เท่านั้น

          " ขอบคุณสีกาทั้งสองและประสกมากที่ช่วยเหลือ "

          หลวงจีนต๋าจงเอ่ยหาน้ำเสียงติดชื่นชมไม่น้อยแก่กลุ่มคุ้มครองนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถานเจ๋อที่ดูมีร่องรอยการปกป้องมากกว่าใคร หลังจากเหล่าหลวงจีนรูปอื่นได้ทราบข่าวการส่งคณะหลวงจีนไปยังหมู่บ้านซีตี้ได้ปลอดภัยคณะหนึ่งแล้ว ก็มอบของตอบแทนให้ทั้งสามกันมากมายจนจิ้นอิ๋งแทบเกรงใจ

          " จริงด้วย.. ในวันที่ 3 เดือนสือเยว่จะมีจัดงานบุญบูชาข้าวพระ หากสีกาว่างเว้นในวันนั้นก็มาทำบุญที่วัดไป๋หม่าได้ ทางวัดยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่ง "

          และก่อนที่ทั้งสามจะได้เอ่ยลา หลวงจีนต๋าจงก็ได้แจ้งข่าวถึงวันงานบุญให้แก่จิ้นอิ๋งเอาไว้ ซึ่งหลังจากนางได้ร่วมสัมผัสพิธีทางศาสนาพุทธมาระยะเวลาหนึ่ง นางก็เกิดความศรัทธาอยู่ไม่น้อยจึงเอ่ยตอบรับให้สัญญาไปหากว่านางและผู้คิดตามทั้งสองนั้นมีเวลาว่าง
          .
          .
          " ว่างแล้วสินะ! "

          ถานเจ๋อเอ่ยขึ้นอย่างดีใจก่อนยืดแขนบิดขี้เกียจเสียต่อหน้าสตรีทั้งสองให้แว่วเสียงหัวเราะขบขันส่งหา ทว่าสักพักจิ้นอิ๋งก็พลันมีสีหน้าคิดมากขึ้นมาให้ซูฮวาที่สังเกตเห็นเอ่ยถามขึ้นอย่างติดเป็นห่วง

          " มีอะไรหรือเจ้าคะอิ๋งเอ๋อร์ "

          " คือ… " เด็กสาวขบริมฝีปากครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยบอกเรื่องนัดหมายของสหายแซ่กัวออกไปให้ทั้งสองได้ทราบ ซึ่งก็เป็นอย่างที่คาดว่าถานเจ๋อที่เห็นการกระทำที่หอโคมของบุรุษแซ่กัวมาแล้วก็แทบปฏิเสธไม่ให้ไปตามนัดเสียงแข็ง

          " ไม่ต้องไปขอรับ! "

          " แต่.. ก็แค่ไปนัดพบกับสหายเองนี่เจ้าคะ " จิ้นอิ๋งเอ่ยเสียงแผ่ว ทว่าในหัวก็นึกเกรงใจถึงสตรีไฉ่เมี่ยนขึ้นมาด้วยว่าหากรู้จะโกรธขึ้งนางหรือไม่

          ซูฮวาที่ราวกับรู้ความในใจของจิ้นอิ๋งก็แทบถอนหายใจอย่างหนักอกหนักใจออกมา นางนึกตามแล้วก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าสรุปแล้วบุรุษผู้นั้นตั้งใจทำอะไรกันแน่ ทว่าเพราะเห็นดวงหน้าของจิ้นอิ๋งดูลำบากใจไม่น้อยเช่นกัน ทำให้สตรีแซ่เหมยพอรู้สึกโล่งใจได้บ้างว่าเด็กสาวนั้นยังรู้ถึงสิ่งที่เหมาะที่ควรอยู่ไม่น้อย

          " เช่นนั้น… อิ๋งเอ๋อร์ไปตามนัดก็ได้เจ้าค่ะ หากอีกฝ่ายนับอิ๋งเอ๋อร์เป็นเพียงสหายเช่นกันก็คงไม่ได้มีอะไรต้องเกรงใจแม่นางไฉ่เมี่ยน "

          " เหมยซูฮวา! " ถานเจ๋อแทบจะเรียกชื่อเต็มของสตรีในกลุ่มเป็นครั้งแรก ทำเอาเจ้าของชื่อเกือบจะหลุดขำออกมาในสถานการณ์เคร่งเครียดนี้

          " ฟังข้าให้จบก่อนสิเจ้าคะท่านถานเจ๋อ.. ก็ให้อิ๋งเอ๋อร์ไปตามลำพัง แสดงว่าพวกเราก็จะได้พักผ่อน ..เช่นนั้นข้าก็อยากไปพักผ่อนที่ทะเลสาบไท่หูเช่นกันเจ้าค่ะ! "

          ถานเจ๋อที่หัวช้าที่สุดในกลุ่มเกือบจะตีหน้าถมึงทึงขึ้นมาด้วยความไม่เข้าใจ แต่หลังจากนิ่งประมวลผลไปเกือบหนึ่งเค่อมันก็ร้องอ๋อเสียงดังและพยักหน้ารับระรัวบอกจะไปกับซูฮวาไม่หยุด เรียกรอยยิ้มขบขันให้เผยออกจากสตรีแซ่เหมย ก่อนทั้งคู่จะหันมาสบตาเด็กสาวเพื่อถามความเห็น ซึ่งจิ้นอิ๋งที่โดนมองอย่างคาดหวังเช่นนั้นก็ได้แต่ต้องยินยอมเท่านั้น

          " ได้เลยเจ้าค่ะ! เช่นนั้นเราเช่ารถม้าไปด้วยกันดีหรือไม่เจ้าคะ จะได้รวดเร็วและไม่เหนื่อยกันมากด้วยล่ะเจ้าค่ะ "

          ไหน ๆ ก็เป็นการพักผ่อนแล้ว จิ้นอิ๋งจึงได้เสนอการเดินทางที่ทำให้เหนื่อยน้อยที่สุดไปด้วย ซึ่งผู้ติดตามอีกสองก็ไม่เอ่ยค้านใด ต่างพาเด็กสาวไปฝากม้าเอาไว้ในตัวเมืองลั่วหยางและเตรียมเช่ารถม้าเดินทางกันต่อเลยเนื่องด้วยเหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็ถึงเวลานัดแล้ว ส่วนเจ้าไก่น้อยไป๋เซ่อซูฮวาได้เอ่ยบอกจะช่วยดูแลให้เอง เด็กสาวจึงโล่งใจมากขึ้น

          ก็… แค่พี่สาวซูฮวากับถานเจ๋อผ่านทางมาพักผ่อนสถานที่เดียวกันเท่านั้น.. คงเป็นการไปพบตามลำพังอยู่ล่ะนะ!


[ผู้ติดตามถานเจ๋อ] มอบ EXP เควสคุ้มครองคณะหลวงจีนสู่หมู่บ้านซีตี้ ให้

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลงเฟิ่งฉิวหวง
ถุงหอมจูอวี๋
กระบี่
พู่หยกเลือดหงส์
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าเหลียง
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x5
x2
x2
x1
x2
x2
x2
x1
x1
x27
x2
x38
x40
x50
x50
x40
x40
x50
x3
x22
x19
x31
x10
x50
x5
x5
x5
x1
x12
x1
x2
x5
x2
x9
x1
x8
x6
x6
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2021-9-29 21:11:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โรลต่างศาสนาก็ช่วยเหลือกันได้(อีเว้นศาสนา)



สำหรับตอนนี้นั้น จีเทียนเต๋าได้เดินทางพร้อมกับขบวนของตนเองนั้นมาที่ยังวัดแห่งหนึ่งที่ลั่วหยาง ชื่อวัดว่าไป๋หม่า โดยที่ตั้งใจว่าจะมา สวดมนต์ เสียหน่อยแต่ระหว่างที่กำลังเดินดูอะไรไปเรี่อยๆนั้น

"อมิตาพุทธ ประสบเป็นนักบวชที่นับถือศาสนาอื่นเช่นนั้นหรือ จากการแต่งตัวของประสกแล้วเหมือนอาตมาไม่ได้พบเจอเลย"

"สวัสดีครับท่านหลวงจีน ใช่แล้วข้าไม่ใช่คนที่นับถือศาสนาพุทธแล้วก็ไม่ได้นับถือศาสนาหลักเสียเท่าไหร่แต่ว่าข้านั้นก็ไม่ได้กีดกันศาสนาอื่นเพราะทุกศาสนานั้นต่างก็ต้องการให้ประชาชนนั้นมีที่พึ่งทางจิตใจ ถึงเราจะนับถือต่างกันมีความเชื่อต่างกันแต่ว่าเราล้วนแต่เป็นเพียงคนดีก็เพียงพอแล้วครับ"

"ประสบคิดเช่นนั้นได้ก็ดีแล้ว เพียงแต่ว่าคนที่คิดได้แบบประสบช่างน้อยนักในปัจจุบันนี้ ว่าแต่ว่าประสบมีความเข้าใจแบบนี้ประสบสนใจที่จะช่วยเหลืออาตมาหรือไม่ตอนนี้ที่หมูบ้านซีตี้นั้นล้วนแล้วแต่ประสบกับความทุกข์เข็ญมากเลยต้องการที่พึ่งทางใจ ทางเจ้าอาวาสนั้นเลยมีคำสั่งให้จัดตั้งขบวนพระสงฆ์จำนวน 7 รูปเพื่อที่จะเดินทางไปยังหมู่บ้านซีตี้โดยที่หวังว่าประสบจะช่วยคุ้มครองได้หรือไม่ เพราะหนทางที่ไกลแล้วก็ไม่มีผู้ใดที่พอจะคุ้มกันขบวนสงฆ์เหล่านี้เลย"

"ออถ้าท่านจะไปที่หมู่บ้านซีตี้ข้าก็พร้อมที่จะคุ้มกันขบวนสงฆ์เหล่านั้นอย่างแน่นอนเพราะว่าข้าก็ต้องไปที่หมู่บ้านซีตี้อยู่แล้วยังไงเราก็ร่วมทางไปกับพวกข้าเลยก็ได้เพราะทางข้านั้นมีผู้ที่สามารถต่อสู้ได้อยู่ หลายคนคงจะปลอดภัยมากกว่าที่พวกท่านนั้นจะไปกันเองแล้วนี้คือขบวนแรกอย่างนั้นหรือครับที่จะไป"

"ขอบคุณประสบมากที่ช่วยเหลือพุทธศาสนาถึงแม้จะต่างศาสนากัน ไม่ใช่หรอกนี้จะเป็นขบวนที่สองแล้วที่จะออกเดินทางไปขบวนแรกมีคนอาสารับไปแล้วส่งถึงที่หมายเรียบร้อย"

"ออถ้าเช่นนั้นข้าก็ขอตัวไปเตรียมตัวก่อนเพื่อออกเดินทางส่วนขบวนสงฆ์พร้อมตอนไหนก็บอกข้าได้เลยนะครับถ้าเราพร้อมกันจะได้ออกเดินทางกันเลยทันที"

"ขอบคุณประสบมาก เจริญพร"

"ขอให้พระเจ้าคุ้มครองท่าน"

ก่อนที่จีเทียนเต๋าจะให้เหวินหยวนและจงต้าไปเตรียมการออกเดินทางส่วนตนเองนั้นก็จะไปหาซื้อของก่อนเพื่อเดินทางไกลโดยที่ก่อนจะไปนั้นตนเองก็ไม่ลืมที่จะไปแสดงความรู้ให้เหล่า บัณฑิตที่โรงเตี๊ยมก่อนจะไปจากลั่วอยางแห่งนี้




←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดไท่หมินลู่
เบ็ดตกปลา
คัมภีร์ไท่หมินลู่
ไก่ฟ้าทองแดง
หวีเซียวเฉิน
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าขาว
หน้ากากขาว
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x108
x8
x800
x800
x800
x70
x470
x100
x100
x4
x3
x3
x1
x7
x25
x860
x10
x790
x490
x200
x1
x100
x100
x100
x10
x1
x2
x1
x3
x4
x10
x920
x291
x494
x5
x388
x5
x6
x77
x100
x30
x900
x68
x1
x82
x98
x1
x96
x98
x1
x6
x2
x1000
x2
x3
x3
x3
x7
x8
x3
x100
x4
x100
x26
x24
x24
x26
x14
x600
x96
x100
x60
x100
x100
x440
x25
x2
x376
x11
x492
x9
x4
x99
x80
x79
x28
x2
x379
x75
x196
x571
x167
x100
x100
x50
x100
x100
x250
x50
x86
x13
x13
x7
x74
x6
x19
x5
x1150
x324
x17
x11
x10
x10
x490
x10
x2
x42
x62
x38
x1
x108
x35
x96
x99
x85
x505
x1
x598
x3
x3
x1
x8
x24
x404
x4
x102
x6
x24
x491
x288
x39
x90
x154
x8
x1
x10
x75
x10
x93
x500
x250
x150
x250
x550
x250
x3
x500
x242
x36
x18
x465
x1015
x164
x804
x804
x804
x804
x493
x314
x13
x36
x7
x498
x1
x10
x1
x2561
x628
x320
x260
x100
x15
x1
x6
x6
x150
x9999
x2
x7
x18
x5
x2
 เจ้าของ| โพสต์ 2021-10-2 22:52:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด
[ชุ้มขายสิ่งมงคล]

ผู้คนภายในวัดได้ขอหลวงจีนในวัดทำการปลุกเสกของต่าง ๆ เพื่อมาเสริมสิริมงคลแก่ทุกท่าน
และพ่อค้าแม่ค้าบางคนนำของมงคลขจากที่อื่นมาขายในงานบุญใหญ่เช่นนี้
โดยตลาดนี้จะซื้อขายได้ตลอดทั้งวัน 3 เดือนสือเยว่เท่านั้น ตั้งแต่เช้าจนค่ำ (23.59) ตลาดวาย



.: การซื้อวัตถุดิบหายาก :.
(1) เขียนโรลเพลย์มาทำการค้าซื้อวัตถุดิบบางชนิดที่ไม่มีขาย
(2) ทุก ๆ ครั้งที่มาทำธุรกรรมให้ระบุสินค้า จำนวนชุด ราคาต่อชุดไว้ท้ายโพสต์โรลเพลย์เสมอ
(3) หลังโพสต์โรลเพลย์ให้ทำการโอนเงินตามจำนวนผ่านระบบโอนเงิน
(4) รอทีมงานตรวจเพื่อจัดส่งวัตถุดิบให้ท่าน



.: รายการสินค้า :.

ตารางสินค้าที่ 1 - ของมงคล
* ขายต่อชิ้น ด้านหลังคือสต๊อก อาจสต๊อกหมดจะหมดสำหรับรอบนี้ *

* ทุกครั้งก่อนโอนเงินให้ท่าน +ภาษีเมืองลั่วหยาง 10% ตัวอย่าง *
ซื้อพุทธรูปซีฟางซานเซิ่ง 249 ตำลึงทอง
เท่ากับเงินที่ต้องจ่ายจำนวน: 274 ตำลึงทอง (ปักเศษขึ้น)

ชื่อสมบัติ
มุกพณาหวาซวี
พุทธรูปซีฟางซานเซิ่ง
พู่หยกเลือดหงส์
ค้อนมหามงคล
มุกราตรีจิ้งสู่
จำนวนที่ขาย(ชิ้น)
หมดสต๊อก
7
3/4
หมดสต๊อก
2
ราคาชิ้นละ
629 ตำลึงทอง
249 ตำลึงทอง
49 ตำลึงทอง
399 ตำลึงทอง
7,000 ตำลึงเงิน


ตารางสินค้าที่ 2 - ชาหายาก
* ขายต่อชิ้น ด้านหลังคือสต๊อก อาจสต๊อกหมดจะหมดสำหรับรอบนี้ *

ชาหลินไห่ผานหาว
สต๊อกสินค้า: 3/4 ชิ้น
มูลค่า: 15 ตำลึงทอง หรือ รับเป็นตำลึงเงิน 159 ตำลึงเงินแทนได้




[ชุ้มแจกฟรี]


ไต้ซือเหวินจิ้ง
อุปนิสัย: อบอุ่นอ่อนโยนอยุ่เสมอ ดื้อรั้นในแบบสัมมาทิฐฐิ ยิ้มแย้มอย่างสำรวม อ่อนโยนดุจกระแสน้ำที่พร้อม
จะดับความร้อนรุ่มในจิตใจคนรอบข้าง หนักแน่นด้วยเหตุผล เอาใจใส่มิตรสหายและมิตรทางธรรม
ซาบซึ้งในรสพระธรรมและพร้อมจะชี้นำผู้คนไปสู่ทางสว่าง ตามแนวทางของพระศาสดา

[การรับของฟรี]
(1) เขียนโรลสร้างสตอรี่ เวลา 21.00 เป็นต้นไป (จนถึง 21.30) มาฟังเทศน์จากไต้ซือเหวินจิ้ง
(2) เขียนโรลเพลย์นั่งสมาธิ 2 เค่อ (30 นาที) พร้อมฟังท่านภาวนาจิต (ฟังท่านพูด - ถอดรูปแบบของหลวงพ่อคล้าย ๆ ในคลิปออกมาเป็นโรล)
(3) เขียนโรลเพลย์จบการเทศน์ ก่อนรับน้ำมนต์จากไต้ซือและคัมภีร์อริยสัจสี่
ท่านได้รับ อริยสัจสี่ 1 เล่ม , +30 EXP , +1 Point
คนถอดรูปแบบประโยคพูด 99% ได้โบนัสเพิ่ม +10 EXP

โบนัสลักษณะนิสัย
- เสื่อมใสศรัทธา ได้รับ +30 ศรัทธา , +5 EXP
- รักสงบ/สุขุม ได้รับ +10 EXP
- ใจกว้าง (หากถวายปัจจัย 3 แก่ไต้ซือประกอบด้วย อาหาร เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค) ได้รับ +20 EXP
- ถ่อมตน ได้รับ +7 EXP
- สันโดษ ได้รับ +5 EXP , +30 ความเครียด
- หัวล้าน / เลือดบริสุทธิ์ ได้รับ +2 Point




←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x12
x5
x636
x241
โพสต์ 2021-10-2 23:40:14 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โรลสำเร็จภารกิจส่งพระ



"เห้อต้องลำบากพวกท่านด้วยนะที่ต้องเดินทางกันมาแบบนี้ข้าจะต้องรีบมาแจ้งข่าวแก่ทางวัดก่อนที่ข้าจะต้องออกเดินทางไปตามนัดที่โรงเตี๋ยม ที่นอกด่านอีกเพราะแบบนั้นข้าจึงต้องรีบเดินทางมารับของรางวัลก่อน แต่ว่าข้าได้ข่าวมาจากเหล่าชาวบ้านว่าจะมีการประลองที่ลั่วหยาง เจ้าไม่ลองไปประลองล่ะแต่ว่าย่าทำจนเกินตัวล่ะ เดี่ยวข้าจะรอเจ้าที่โรงเตี๊ยมที่ด่านล่ะกันหูเล่ากวนแบบนั้นถ้าเจ้าไปลงทะเบียนเสร็จแล้วนั้นก็ค่อยตามข้ากลับมาก็แล้วกัน"

"รับทราบครับท่าน อาจารย์ศิษย์จะไม่ทำให้ท่านผิดหวังถ้างั้นศิทย์ขอตัวไปลงชื่อสมัคก่อน รักษาเนื้อรักษาตัวด้วยขอรับ"

ก่อนที่จีเทียนเต๋าจะพยักหน้าให้กับอีกฝ่ายก่อนที่จะพาคนที่เหลือนั้นเข้าไปยังภายในวัดเพื่อที่จะรายงานผลของการเดินทางที่นำคณะสงฆ์นั้นเอาไปส่งถึงที่หมายเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ใช้เวลาสักพักในการยืนยันว่าตนเองนั้นเอาไปส่งเรียบร้อยแล้วก็ต้องใช้เวลาในการที่จะตามตัว หลวงจีนหลายคนที่ได้เป็นพยานในการที่ตนเองนั้นได้ทำภารกิจนี้นั้นเอง


ใช้ลักษณะนิสัยถ่อมตน

+0.5% ความศรัทธา จากการสำเร็จอีเว้นท์ทางศาสนา

เลื่อมใสศรัทธา

+0.8% ความศรัทธา จากการสำเร็จอีเว้นท์ทางศาสนา



@Webmaster


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดไท่หมินลู่
เบ็ดตกปลา
คัมภีร์ไท่หมินลู่
ไก่ฟ้าทองแดง
หวีเซียวเฉิน
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าขาว
หน้ากากขาว
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x108
x8
x800
x800
x800
x70
x470
x100
x100
x4
x3
x3
x1
x7
x25
x860
x10
x790
x490
x200
x1
x100
x100
x100
x10
x1
x2
x1
x3
x4
x10
x920
x291
x494
x5
x388
x5
x6
x77
x100
x30
x900
x68
x1
x82
x98
x1
x96
x98
x1
x6
x2
x1000
x2
x3
x3
x3
x7
x8
x3
x100
x4
x100
x26
x24
x24
x26
x14
x600
x96
x100
x60
x100
x100
x440
x25
x2
x376
x11
x492
x9
x4
x99
x80
x79
x28
x2
x379
x75
x196
x571
x167
x100
x100
x50
x100
x100
x250
x50
x86
x13
x13
x7
x74
x6
x19
x5
x1150
x324
x17
x11
x10
x10
x490
x10
x2
x42
x62
x38
x1
x108
x35
x96
x99
x85
x505
x1
x598
x3
x3
x1
x8
x24
x404
x4
x102
x6
x24
x491
x288
x39
x90
x154
x8
x1
x10
x75
x10
x93
x500
x250
x150
x250
x550
x250
x3
x500
x242
x36
x18
x465
x1015
x164
x804
x804
x804
x804
x493
x314
x13
x36
x7
x498
x1
x10
x1
x2561
x628
x320
x260
x100
x15
x1
x6
x6
x150
x9999
x2
x7
x18
x5
x2
โพสต์ 2021-10-3 10:13:25 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Fenyue เมื่อ 2021-10-3 13:38


⌜59⌟

บทที่ 11
งานบุญ ณ วัดม้าขาว
ฉากที่ 1
                    
            
          ตั้งแต่เช้าตรู่ก่อนรุ่งสางเฟินเยว่ลุกขึ้นมาเตรียมอาหารเพื่อถวายเพลแก่พระสงฆ์ในตอนเช้าจำนวนแปดชุด และเมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยจึงไปเคาะห้องปลุกทุกคนขึ้นมาทานอาหารเช้า คนช่วยตรวจอุปกรณ์คือบัณฑิตหนุ่มจากไท่หยวน
         
          “ทำของถวายมาแค่แปดชุดอย่างนั้นหรือ โดยทั่วไปหลวงจีนที่มาให้ตักบาตรมักจะมาเป็นเลขคี่เนี่ยสิ ไม่สาม ก็ห้า ก็เจ็ด ก็เก้า”
         
          “ถ้าอย่างนั้นก็เอาออกไปชุดนึงสิ เท่านี้ก็เป็นเจ็ดแล้ว”
         
          “ไม่ได้นะเจ้าคะถ้าเกิดหลวงจีนมากันทั้งหมดเก้ารูป รูปสุดท้ายก็จะไม่ได้ของถวายน่ะสิเจ้าคะ”
         
          “เอาน่าการทำบุญน่ะ ถ้าทำด้วยใจก็ได้แล้ว ไม่ต้องกังวล”
         
          “แต่ว่าข้าจะไปทำเพิ่มมาอีกชุดเจ้าค่ะ ไม่อย่างนั้นคงจะไม่สบายใจแน่ ๆ ”
         
          สุดท้ายเฟินเยว่ก็ขอยืมครัวโรงเตี๊ยมอีกรอบแล้วทำภัตตาหารเพิ่มอีกหนึ่งชุดอย่างฉุกละหุก เมื่อทำเสร็จแล้วจึงค่อยไปเปลี่ยนชุดเสื้อผ้า วันนี้ไปทำบุญที่วัดจึงต้องเลือกชุดเสื้อผ้าสีสุภาพเสียหน่อย ต้าซิ่นแนะนำว่าควรจะใส่ชุดขาวทว่าเฟินเยว่ไม่มีสุดสีขาว เพราะว่าสีขาวเป็นสีที่เลอะง่ายเวลาทำงานหรือเดินทาง สีอ่อนและดูสุภาพที่สุดเห็นจะเป็นสีเหลืองอ่อนนวลตา น่าจะพอใส่ทดแทนกันไปได้
         
          เมื่อมาถึงวัดในตอนเช้าพุทธศาสนิกชนจำนวนไม่มากได้มาทำบุญตักบาตรกันในวันนี้ ตงฮั่วดูจะอึดอัดไม่น้อยที่ต้องอยู่ท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก แม้ไม่มากเท่าเมื่อวันงานจงชิวเจี๋ยแต่ดูหน้าเขาแล้วเหมือนกับว่าอีกฝ่ายกำลังฝืนทนอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อถึงเวลาตักบาตรก็ดูเหมือนว่าเขาจะละวางความรำคาญใจนั้นลงได้เมื่อจิตใจผ่องแผ้วขึ้น
         
          สิ่งของที่นำมาตักบาตรในวันนี้เป็นเฟินเยว่จัดมาเป็นชุดอาหารแห้งตามคำแนะนำของต้าซิ่นอันประกอบด้วย ข้าวสาร ไข่เค็ม ผักดอง บ๊วยดอง และน้ำผึ้ง อย่างละเก้าชุด น่าเสียดายที่เด็กสาวเกิดความกังวลใจว่าจะมีพระรูปไหนที่แพ้นมหรือเปล่าจึงไม่ได้ใส่เนยแข็งที่อุดมไปด้วยสารอาหารก่อพลังงานไปให้ด้วย
         
          “นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธธัสสะ… นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธธัสสะ… นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธธัสสะ… อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ… สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมังนะมัสสามิ… สุปะฏิปปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ…”
         
          ต้าซิ่นที่มีประสบการณ์เป็นผู้นำเด็กทั้งสองสวดมนต์ใส่บาตร เฟินเยว่พยายามท่องตามแต่ทว่านางยังไม่ค่อยรู้ถึงความหมายในภาษาบาลีที่เข้าใจยาก ไม่รู้ว่าต้องนึกถึงอะไรจึงพยายามทำใจให้สงบ ไม่วอกแวกแล้วคิดแต่เรื่องคุณงามความดี
         
          “มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ... ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ... ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ... ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ... ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ... ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ...”
         
          ระหว่างสวดมนต์เฟินเยว่แอบเหลือบมองไปยังตงฮั่วเล็กน้อย ตอนนี้เด็กหนุ่มกำลังอยู่ในภาวะสงบแล้วกล่าวบทสวดตามผู้นำ เห็นเขาไม่มีท่าทีหม่นหมองแล้วเด็กสาวก็สบายใจ จึงตั้งใจสวดบทต่อไปต่อเนื่อง
         
          “วิปัตติปะฏิพาหายะ... สัพพะสัมปัตติสิทธิยา... สัพพะทุกขะวินาสายะ... ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง... วิปัตติปะฏิพาหายะ... สัพพะสัมปัตติสิทธิยา... สัพพะภะยะวินาสายะ... ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง... วิปัตติปะฏิพาหายะ... สัพพะสัมปัตติสิทธิยา... สัพพะโรคะวินาสายะ... ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง…”
         
          ระหว่างที่กำลังใส่บาตรอยู่นั้นเองเฟินเยว่เห็นสตรีนางหนึ่งในอาภรณ์สีขาวล้วน ใบหน้าของนางดูงดงามราวกับว่าเป็นเทพธิดาบนสวรรค์ที่แม้แต่เด็กสาวอย่างเฟินเยว่ยังไม่อาจละสายตาออกไปจากนางได้ แต่ทว่าใบหน้าที่งดงามนั้นกลับซีดจางดูคล้ายกับคนที่จะเป็นลม เฟินเยว่มองสตรีผู้นั้นด้วยความเป็นห่วง หลังจากการสวดมนต์กับกลุ่มเสร็จนางก็ขอปลีกตัวออกมาจากสองหนุ่ม
         
          “เดี๋ยวข้ามาสักครู่นะเจ้าคะ”
         
          เมื่อบอกกล่าวแก่ผู้ร่วมเดินทางทั้งสองแล้วเฟินเยว่ก็มุ่งตรงไปหาสตรีนางนั้นทันที เด็กสาวเข้าไปสะกิดที่แขนพลางเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
         
          “แม่นางไม่สบายหรือเจ้าคะ เป็นอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ?”
         
          หญิงงามผินใบหน้ากลับมามอง ใบหน้าที่ซีดขาวดูไร้อารมณ์ราวกับเป็นตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ มีเพียงแค่แววตาที่มีประกายเหมือนแก้วที่มองมาเท่านั้นที่บ่งบอกได้ว่านางเป็นคนไม่ใช่ปูนปั้น
         
          “เราไม่เป็นไร... ขอบคุณแม่นางที่เป็นห่วง… ช่วงเช้า… มักจะมีอาการเช่นนี้อยู่เสมอ… ไม่ต้องเป็นห่วง… ฮัดชิ้ว!”
         
          สตรีผู้นั้นเอ่ยวาจาออกมาเป็นคำ ๆ ช้าเนิบ และแผ่วเบา หากเป็นเฟินเยว่เมื่อก่อนคงต้องเงี่ยหูเข้าไปฟังใกล้ ๆ ทว่าตอนนี้เด็กสาวได้รับธรรมชาติบำบัดจากทะเลสาบไท่หูมาแล้วจึงฟังชัดกระจ่างแจ้งทุกคำ โดยเฉพาะเสียงจามที่แม้จะยกมือขึ้นปิดปากแล้ว แต่สาวน้อยก็รู้ได้ชัด ๆ ว่าอีกฝ่ายน่ะไม่สบายอยู่จริง ๆ
         
          “แม่นางไม่สบายนี่เจ้าคะ จะไม่ให้เป็นห่วงได้อย่างไรกันล่ะ มานั่งพักกันก่อนเถอะนะเจ้าคะ”
         
          เฟินเยว่ถือวิสาสะประคองหลังสาวงามผู้นั่นไปนั่งพักใต้ต้นไม้ใหญ่ แล้วหาน้ำหาท่าให้อีกฝ่ายได้จิบดื่ม แล้วยื่นถังหูลู่ที่เป็นเสบียงแก้เมาม้าของต้าซิ่นสละให้นางไปด้วยสิบไม้
         
          “ดื่มน้ำก่อนนะเจ้าคะ ข้ามีถังหูลู่ด้วยเจ้าคะ รสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ น่าจะช่วยให้หายอาการเวียนหัวได้”
         
          “....” สตรีชุดขาวมองนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าไม่ไหวติง หัวคิ้วไม่ขมวด สีหน้านั้นดูไร้อารมณ์จนไม่รู้ว่าตอนนี้นางกำลังคิดอะไรอยู่ แต่สุดท้ายก็รับมา “ขอบคุณเจ้าค่ะ...” หญิงสาวยอมทานถังหูลู่เสียบไม้ ด้วยรสชาติเปรี้ยวอมหวานทำให้สีหน้านั้นดีขึ้น
         
          “สีหน้าดีขึ้นแล้ว ถ้าอย่างไรก็พักกันก่อนนะเจ้าคะ ยังเหลือเวลาอีกสักพักก่อนที่จะนั่งสมาธิเจ้าค่ะ” เฟินเยว่ตัดสินใจจะนั่งเป็นเพื่อนอีกฝ่าย มีเวลาอีกหลายเค่อกว่าจะไปปฏิบัติธรรมต่อ เด็กสาวจึงหาเรื่องคุยเพื่อไม่ให้บรรยากาศเงียบจนเกินไป “ข้าซุนเฟินเยว่นะเจ้าคะ บ้านเกิดอยู่อันติง ยินดีที่ได้รู้จักนะเจ้าค่ะ”
         
          ดรุณีน้อยแย้มยิ้มอย่างสดใส แม้จะมีฝ้ากระกระจายอยู่ทั่วใบหน้าแต่ก็ไม่อาจบดบังความแจ่มใสของวัยรุ่นได้
         
          “เรา… ฟ่าน… จิ้งเจิน… จากเซียงผิง...”
           
          หญิงสาวแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงช้าเนิบประดุจแม่ชี อาจจะเพราะว่าเฟินเยว่มีน้ำใจช่วยเหลืออะไรก็ตามทำให้จิ้งเจินรู้สึกถูกชะตากับเด็กสาวอย่างบอกไม่ถูก
         
          “โอ้โห แม่นางฟ่านมาจากเซียงผิงเลยหรือเจ้าคะ นั่นไกลมาก ๆ เลยนี่นา” เด็กสาวทำตาโตร้องโอ้โหออกมา “ถ้าเพื่อมางานนี้โดยเฉพาะแสดงว่าแม่นางฟ่านคงจะศรัทธาในพุทธะมากเลยสินะเจ้าคะ”
         
          “ใช่แล้ว… เราศรัทธาในพุทธะมาก…”
         
          “อย่างนี้นี่เอง ดีจังเลยนา...” เฟินเยว่รู้สึกอึ้งไม่น้อย นางเป็นคนไร้ศาสนาและคนรอบตัวส่วนมากก็เป็นชาวบ้านธรรมดาที่ไม่ได้นับถือสิ่งใดเป็นพิเศษ เว้นแต่สหายใหม่ร่วมเดินทางที่นับถือขงจื๊อกัน แต่นั่นก็เป็นแนวทางปฏิบัติที่กระทำกันทั่วไปอยู่แล้ว “สหายข้าเขาอยากจะมาทำบุญน่ะเจ้าค่ะ ข้าก็เลยติดสอยห้อยตามมาด้วย ยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลยว่าพุทธมีหลักธรรมอะไรบ้าง ที่สวดมนต์ไปเมื่อครู่ก็ไม่รู้ความหมายด้วยสิเจ้าคะ ถ้าเป็นภาษาง่าย ๆ ก็น่าจะดีสินะ”
         
          “บทสวด… นะโมสามจบ… เป็นการนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า... อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น…”
         
          แม่นางฟ่านพยายามพูดอธิบายออกมาเป็นความรู้แก่ผู้ที่อยากจะศึกษา แต่ว่านางเป็นคนพูดไม่เก่งจึงอธิบายเพียงสั้น ๆ ให้เด็กสาวได้เข้าใจ
         
          “อ๋อ จำได้แล้วเจ้าค่ะ ที่มักจะต้องสวดซ้ำก่อนการสวดมนต์ต่าง ๆ คล้าย ๆ กับว่าเป็นบทยกย่องหรืออัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในมาทำพิธีใช่หรือไม่เจ้าคะ?”
         
          “ไม่เชิง… เป็นเพียงการรำลึกถึง… เท่านั้น…” หญิงสาวพอเข้าใจหลักธรรมของพุทธะอาจจะแตกต่างจากความเชื่อดั้งเดิมที่ชาวบ้านต้าฮั่นรู้จักกันมา “ในพุทธศาสนา… สิ่งสำคัญที่สุดคือคำสอนของพุทธะ… และพระพุทธเจ้าไม่ใช่เทพเจ้าอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจ...”
         
          “เอ๋ อย่างนั้นหรือเจ้าคะ” เฟินเยว่ฟังแล้วก็ทำตาปริบ ๆ เด็กสาวคิดว่าพระพุทธเจ้าคือเทพเจ้ามาตลอด “ถ้าอย่างนั้นก็คล้าย ๆ กับว่า เราสวดบทนี้เพื่อให้เอาใจไปคิดถึงคำสอนของท่านถูกต้องหรือไม่เจ้าคะ?”
         
          “ถูกแล้ว...” แม่นางฟ่านคลี่ยิ้มบางเบาที่มุมปาก เมื่อมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้ายิ่งทำให้ระดับความงดงามของสตรีนางนี้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว “ส่วนคำอาราธนาศีลที่ขึ้นต้นด้วยมะยังภันเต… หมายถึง… ผู้พูดต้องการที่จะถือศีลห้า… อันประกอบไปด้วย… ไม่ฆ่าสัตว์… ไม่ลักทรัพย์… ไม่ประพฤติผิดในกาม… ไม่พูดโกหก… ไม่เสพสิ่งมึนเมา...”
         
          ได้ยินคำอธิบายเด็กสาวก็ยิ้มแห้ง เพราะก่อนหน้านี้นางเพิ่งจะผิดศีลข้อแรกซึ่งก็คือการฆ่าสัตว์มาเป็นเข่ง ๆ แม้ไม่ได้ทุบหัวปลาทำให้มันตาย แต่การตกปลาขึ้นมาจากบ่อก็เป็นส่วนหนึ่งที่พรากชีวิตมันไปด้วย
         
          “หวา.. แย่แล้วสิ ข้าเพิ่งทำบาปข้อที่ร้ายแรงที่สุดมาเลยเจ้าค่ะ”
         
          “....” ฟ่านจิ้งเจินประมวลผล โดยทั่วไปชาวบ้านที่ไม่รู้หลักศาสนาจะคิดว่าการพรากชีวิตเป็นบาปที่สำคัญที่สุด ซึ่งนั่นก็ถูกต้อง ทว่านางก็เข้าใจ ในยุคสมัยแบบนี้ชาวบ้านต้องหาเช้ากินค่ำ ล่าสัตว์ หรือไม่ก็เลี้ยงสัตว์มาเชือดกิน เป็นเรื่องปกติของวิถีชีวิตสัตว์โลก “บาป… ส่วนหนึ่งอยู่ที่เจตนา… แม้ทำบาปมาด้วยเหตุผลอันสมควร… หากเจตนาร้ายบาปจะเท่าทวีคูณ… หากไม่ได้ตั้งใจหรือเพื่อปากท้องก็ยังบาป… แต่ไม่ได้หนักหนาที่สุด...”
         
          “อย่างนั้นหรือเจ้าคะ.. อื้ม ก็ยังบาปอยู่ดี ข้ารู้สึกผิดจัง”
         
          “การสำนึกผิดเป็นสิ่งที่ดี… แต่นอกจากบาปเรื่องฆ่าสัตว์… อีกหนึ่งสิ่งที่ควรระวังคือศีลข้อห้า...”
         
          “ศีลข้อห้า?” เฟินเยว่ไล่เรียงความคิดย้อนกลับ “หมายถึงไม่เสพสิ่งมึนเมาน่ะหรือเจ้าคะ? ข้ายังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรเจ้าค่ะว่าดื่มสุราจะเป็นบาปอย่างไร”
         
          แม้เฟินเยว่จะไม่ชอบสุรายกเว้นแค่เหล้าทำอาหารแต่ก็ยังไม่เข้าใจ สำหรับนางเป็นเพราะว่ามันมีรสร้อนแรงและเผื่อนคอมากเกินไปก็เท่านั้น
         
          “เพราะเมื่อเสพของมึนเมา… จะทำให้ขาดสติ… และเมื่อขาดสติ… จะเป็นเหตุทำให้ผิดศีลข้ออื่น ๆ ได้ง่าย… เมื่อขาดสติอาจประพฤติผิดทางวาจา… เมื่อขาดสติอาจประพฤติผิดในกาม… เมื่อขาดสติอาจลักขโมย… เมื่อขาดสติอาจเข่นคร่าชีวิตผู้อื่น...”
         
          “อ๊ะ! อย่างนี้นี่เอง” ราวกับว่าเมื่อได้ฟังคำอธิบายของแม่นางฟ่าน เฟินเยว่ก็ดวงตาเห็นธรรมขึ้นมาได้ในทันที “แบบนี้ทุกอย่างอยู่ที่การมีสติทั้งนั้นเลยสิเนี่ยเจ้าคะ.. หลักการพุทธเนี่ยทั้งแปลกแล้วก็น่าสนใจดีจัง”
         
          “ถูกต้อง… เอาไว้หากแม่นางซุนสนใจ… ไว้มีโอกาสไปเซียงผิง… แวะมาหาเราที่ร้านขายอัญมณีสกุลฟ่าน… แล้วมาสนทนาธรรมกันอีก… ก็ได้...”
               
          “ได้สิเจ้าคะ แต่ว่าเซียงผิงไกลจัง ข้าจะมีโอกาสได้ไปแถบนั้นหรือไม่นะ”
         
          “เรื่องนั้นอยู่ที่กรรมจัดสรรแล้ว...”
         
          เฟินเยว่ยังไม่ค่อยเข้าใจว่ากรรมจัดสรรที่แม่นางฟ่านกล่าวเอาไว้นั้นคืออะไร แต่ก็พยักหน้ารับคำไป การสนทนากับแม่นางฟ่านทำให้เด็กสาวได้รับความรู้เพิ่มขึ้นรวมถึงปรับทัศนคติบางอย่าง ทั้งคู่สนทนากันอีกเล็กน้อยก็ได้เวลาเจริญสมาธิภาวนา เด็กสาวจึงขอตัวลากลับไปร่วมกลุ่มกับพรรคพวกของตนเอง
         
          “ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะไม่นางฟ่าน ไว้มีโอาสแล้วพบกันใหม่เจ้าค่ะ”
         
          “แล้วพบกันใหม่... แม่นางซุน...”
         
.
.
.

        

ลักษณะนิสัยรักสงบ
-10 ลดความเครียด

ลักษณะนิสัยขยัน
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
-20 ลดความเครียดเมื่อทำงานหรือทำกิจกรรมใด ๆ

ลักษณะนิสัยเห็นอกเห็นใจ
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ

อัตลักษณ์อัจฉริยะ
+5 Point จากการโรลเรียนรู้

อัตลักษณ์ผิวเป็นฝ้ากระ
-20 EXP จากการโรลทำงานในช่วงกลางวัน หรือ โรลเดินทางช่วงกลางวัน (เรียลไทม์)
+15 ความเครียด เมื่อต้องทำอะไรก็ตามในช่วงเวลากลางวัน

เอฟเฟคความสัมพันธ์
[157] ฟ่าน จิ้งเจิน
มอบ ถังหูลู่ จำนวน 10 ไม้
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย (หูดี)
ความสัมพันธ์พิเศษ +20 ธาตุไฟ เกื้อหนุนธาตุดิน

ตักบาตรยามเช้า ได้รับ +5 EXP
ใส่บาตรถวายอาหารแห้งดังนี้
กล่อง[อาหารแห้ง]





←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
พยัคฆ์ตงเทียน
หยกเชื่อมสัมพันธ์
พู่กันเหวิ่นเซ่า
ถุงหอมจูอวี๋
กลยุทธ์เล่ออี้
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x40
x32
x1
x439
x500
x73
x500
x26
x498
x500
x10
x2
x9
x1
x400
x1
x1
x5
x28
x8
x591
x228
x228
x500
x2514
x18
x14
x1
x5
x1
x2
x100
x5
x50
x100
x3
x3
x10
x2
x47
x64
x6
x9
x2
x71
x1
x24
x95
x50
x86
x150
x260
x150
x150
x46
x46
x2
x2
x6
x2
x2
x34
x4
x1
x8
x1
x2
x7
x5
x8
x7
x110
x7
x74
x45
x3
x30
x63
x74
x79
x2
x71
x68
x6
x45
x50
x160
x316
x3
x220
x48
x35
x168
x12
x10
x25
x1
x13
x6
x4
x6
โพสต์ 2021-10-3 13:22:14 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Jinying เมื่อ 2021-10-3 14:01


วันบูชาข้าวพระ
บูชาข้าวพระถวายภัตตาหาร
.
.

          ในวันบูชาข้าวพระมาเยือนถึง จิ้นอิ๋งที่ไม่รู้เวลาที่ทำบุญที่แน่นอนทำให้กว่าจะถึงตัวงาน เด็กสาวก็มาเยือนถึงที่ตัววัดไป๋หม่ายังยามซื่อเสียแล้ว ดรุณีน้อยยืนเก้กังน้อย ๆ ยังส่วนหน้าทางเข้าของลานปฏิธรรมของตัววัด สายตากวาดเห็นยังผู้ที่เข้ามาร่วมงานบุญกันเนืองแน่น พร้อมกันนั้นก็คล้ายกำลังสวดบทสวดบางอย่างที่จิ้นอิ๋งไม่เข้าใจออกมา จนต้องค้อมตัวทำให้ตัวเล็กที่สุดเพื่อเดินไปนั่งยังแถวหลังไม่ให้ตนต้องเป็นจุดสนใจ

          เมื่อนั่งลงได้แล้ว ดวงตากลมก็พลันกวาดมองท่าท่าทางที่ต้องพนมมือและกล่าวบทสวดไปด้วยให้ยกมือทำตาม แต่เพราะจิ้นอิ๋งแทบไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นสวดอย่างไรด้วยเพราะรู้เพียงบทสวดพื้นฐานที่เคยได้ยินมาบ้างเท่านั้น พอเริ่มเข้าอาราธนาศีล ดรุณีน้อยก็ได้แต่ปากพะงาบงับอากาศไปมาแล้ว

          ถึงอย่างนั้นจิ้นอิ๋งก็คล้ายมีเพื่อนที่มีสภาพไม่ต่างกันอยู่อีกหนึ่ง คือสตรีข้างกายที่ภายนอกอายุอานามคงไม่ต่างจากนางมาก ยามนี้อีกฝ่ายก็ตาปรือปรอยจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่กับบบสวดตรงหน้าให้เด็กสาวเผลอเม้มปากอมยิ้มกลั้นเสียงขำเอาไว้ ผ่านไปสักระยะก็คล้ายรู้สึกสตรีข้าง ๆ เริ่มขยับยุกยิกไปมา แว่วเสียงโอดโอยน้อย ๆ เหมือนจะปวดตามเท้าที่ต้องนั่งทับขาเป็นเวลานาน ทำเอาจิ้นอิ๋งที่สังเกตเห็นรู้สึกอยากช่วยขึ้นมา ดวงหน้านวลพลันเลื่อนใกล้อีกสตรีเพื่อกระซิบให้ได้ยินฝ่าเสียงสวดที่ระงมทั่ว

          " อยากออกไปพักกันสักครู่ดีหรือไม่เจ้าคะ? " สิ้นคำชวน สตรีผู้นั้นก็หันมามองอย่างตกใจน้อย ๆ เหมือนไม่คิดว่าจะมีคนเอ่ยพูดแทรกระหว่างมีการสวดมนต์เช่นนี้ ก่อนจะเผลอยื่นใบหน้าหาเล็กน้อยพลางทำจมูกฟุดฟิดบางอย่างด้วยความลืมตัว ก่อนสักพักถึงตั้งสติได้ว่ากำลังโดนถามให้เอ่ยกระซิบตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น

          " ไม่ล่ะ! ข้าจะตั้งใจสวดมนต์เพื่อให้บุญบารมีที่ได้ส่งผลให้คำอธิษฐานข้าเป็นจริง! อย่ามาชวนข้าอู้นะ! "

          คำกล่าวของอีกฝ่ายคล้ายอยากจะตำหนิจิ้นอิ๋ง ทว่าเด็กสาวที่ได้ยินกลับต้องรีบยกมือบังริมฝีปากตนที่เกือบจะหลุดรอยยิ้มออกมาเสียอย่างนั้น ท่าทางนั้นดูเอาแต่ใจแต่ก็ชวนน่าเอ็นดูจนดรุณีน้อยยอมพยักใบหน้ารับและกลับมายืดตัวนั่งตรงสวดมนต์ปากพะงาบไร้เสียงต่อ

          ทว่าผ่านไปไม่ถึงหนึ่งเค่อ จิ้นอิ๋งกลับรู้สึกถึงแรงสะกิดที่ไหล่เล็กให้ผินใบหน้ามองหาจนเห็นสีหน้าคล้ายกำลังจะเบะร้องงอแงของอีกสตรีให้ตนพยักใบหน้าที่เผยรอยยิ้มขบขันออกมาอย่างรู้กัน ก่อนจิ้นอิ๋งจะพาสตรีแปลกหน้าผู้นั้นออกไปพักให้กลับมากระปรี้กระเปร่าเสียก่อนเข้ามาในลานปฏิบัติธรรมอีกหนเพื่อทำการมอบภัตตาหารที่เตรียมมาให้แก่หลวงจีนกันอีกที

          .
          " ไอหยา! ปวดเท้าชะมัด! ทำไมถึงพากันสวดมนต์นานขนาดนี้ก็ไม่รู้ "

          ทันทีที่ออกมาพักกันใต้ร่มไม้ด้านนอก สตรีผู้นั้นก็เอ่ยบ่นขึ้นมาอย่างไม่คิดปิดบัง ซึ่งในยามนี้เพราะทั้งคู่ออกมายังด้านนอกแล้วทำให้จิ้นอิ๋งหลุดเสียงหัวเราะใสออกมาได้ ซึ่งช่วยคลายบรรยากาศเหนื่อยล้าจากที่ต้องนั่งนิ่งทั้งนั่งสมาธิและสวดมนต์ก่อนหน้าของอีกสตรีได้มากเลยเชียว

          " อย่างไรก็ต้องขอบคุณเจ้าที่ชวนข้าออกมาล่ะนะ! ข้ามีนามว่า อู๋อวี้หมิง เจ้าล่ะ? " น้ำเสียงฟังสดใสเอ่ยหาให้จิ้นอิ๋งแนะนำตัวออกไปอย่างกระตือรือร้นไม่ต่างกัน

          " กู่จิ้นอิ๋งเจ้าค่ะ ..ตามจริงข้าไม่ได้นับถือศาสนา แต่ถูกชวนมางานบูชาข้าวพระนี้จากคำแนะนำของหลวงจีนหลังทำงานคุ้มครองไปน่ะเจ้าค่ะ ยามต้องมาร่วมงานบุญที่ไม่ค่อยได้มาเลยไม่คุ้นเคยนัก.. หากข้ารบกวนทำให้ท่านละความตั้งใจที่จะสวดมนต์ก็ขออภัยด้วยนะเจ้าคะ "

          เด็กสาวกล่าวขอโทษถึงเรื่องที่เอ่ยชวนให้พากันออกมาพักระหว่างปฏิบัติธรรม แม้คราแรกสตรีเบื้องหน้าจะปฏิเสธและมาเป็นฝ่ายชวนให้ออกมาด้วยกันทีหลังด้วยตัวเองก็ตาม ทว่าก็ต้องยอมรับในเรื่องที่ข้อเสนอการออกมาพักนั้น อย่างไรจิ้นอิ๋งก็เป็นฝ่ายลั่นปากออกมาก่อน นางจึงอาจมีความผิดกึ่งหนึ่งที่ชี้โพรงให้แก่อีกสตรีด้วยนั่นเอง

          ซึ่งสตรีแซ่อู๋ที่ได้ยินก็ทำเพียงโบกมือไม่ถือสากลับไปพร้อมยกแขนบิดขี้เกียจให้นางได้เห็นว่าพึงใจมากทีเดียวที่ได้ออกมาพักเช่นนี้

          " อย่าคิดมากเลยน่า~ ข้าก็ไม่ได้นับถือพุทธเช่นกัน เพียงแต่มาทำบุญภาวนาให้คำปรารถนาข้าเป็นจริงก็เท่านั้น.. แล้วข้าก็มาตั้งแต่ยามเหม่าเลยเชียว พักสักหน่อยก็ไม่เสียหายหรอก! " อีกสตรีกล่าวหนักแน่นก่อนทิ้งตัวนั่งลงพลางเหยียดตัวเอนพิงต้นไม้ใหญ่ที่เป็นร่มให้ทั้งสองในยามนี้ ท่าทางดูทั้งเกียจคร้านคุ้นตาเช่นนี้ทำเอาจิ้นอิ๋งนึกขบขันไม่น้อยเลยเชียว ก่อนนางจะนั่งตามลงไปด้วย

          " เจ้าอยากรู้หรือไม่ความปรารถนาข้าคือสิ่งใด? "

          หลังนั่งได้ไม่นานก็ถูกเอ่ยถามย้อนมาให้เด็กสาวเลิกคิ้วฉงน หลุดร้องอ๋อรับในใจขึ้นมาว่าที่พูดถึงความฝันเสียหลายครั้งหลายคราเพราะอยากให้ตนถามขึ้นมาอย่างนั้นเองสินะ ทำเอาจิ้นอิ๋งที่จับสังเกตในมุมนี้ของอีกสตรีได้อยากจะหลุดหัวเราะเอ็นดูขึ้นมาอีกหน แต่ก็พยายามเก้บกลืนไว้เหลือเพียงคำถามที่เอ่ยหาตามความตรงการของอีกฝ่าย

          " เช่นนั้น ความปรารถนาของแม่นางอู๋คือสิ่งใดงั้นหรือเจ้าคะ "

          สิ้นคำถาม สตรีแซ่อู๋ที่ทำท่าคร้านเอนตัวเหยียดพิงต้นไม้ก็พลันเด้งผึ่งขึ้นมาสบตากับจิ้นอิ๋งทั้งตาประกายพร้อมเล่าถึงความฝันของนางอย่างกระตือรือร้นเลยเชียว

          " ปลาน่ะ! ข้าอยากตามล่าปลาในตำนานที่มีเขาแหลมยาวในทะเลทางตอนเหนือให้ได้! แต่ว่าน้า.. ทะเลแถบนั้นข้าเคยได้ยินว่าอยู่ไกลมาก! หลายหมื่นลี้เลยเชียวล่ะ… ข้าเลยคิดว่าหากข้ามีวาสนาทำตามความฝันได้ก็คงดีไม่น้อยเลยเชียวล่ะ " ร่องรอยเศร้าสร้อยในประโยคท้ายทำให้จิ้นอิ๋งจางรอยยิ้มลงเล็กน้อย กลายเป็นมานึกกังวลตามสตรีแปลกหน้าไปเสียได้ พร้อมกันนั้นก็พยายามเอ่ยให้กำลังใจกลับไปเพื่อให้สตรีแซ่อู๋กลับมาร่าเริงอย่างก่อนหน้า

          " อาจล่าได้สักวันก็ได้นะเจ้าคะถ้าแม่นางอู๋ยังมีความปรารถนาถึงมันอย่างมุ่งมั่นเช่นนี้! ความดีที่แม่นางมาร่วมงานบุญต้องส่งผลในสักวันแน่! เรากลับเข้าไปในงานตั้งใจสวดภาวนาให้ความปรารถนาของแม่นางเป็นจริงมากขึ้นดีหรือไม่เจ้าคะ "

          สุดท้ายก็ได้ชวนกลับเข้าไปร่วมงานบุญรวดเร็วกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย ถึงอย่างนั้นก็ทำให้อีกสตรีนั้นแย้มยิ้มกว้างออกมาอย่างสดใสพลอยทำให้จิ้นอิ๋งรู้สึกโล่งใจขึ้นบ้าง ทว่าก่อนที่จะเข้างานไปพลันเริ่มเห็นผู้คนภายในนั้นเริ่มเตรียมเอาภัตตาหารออกมาเพื่อทำการถวาย เด็กสาวจึงหันไปหาทางอีกสตรีว่ามีของมาถวายด้วยหรือไม่ ซึ่งสตรีแซ่อู๋ก็ส่ายหัวตอบกลับแทบจะเดี๋ยวนั้น

          " ต้องเอาข้าวให้ด้วยงั้นหรือ! " น้ำเสียงคาดไม่ถึงทำเอาจิ้นอิ๋งหลุดขำออกมาอีกหนอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะตรวจสอบกระเป๋าย่ามของนางว่าเอาอาหารมาพอที่จะแบ่งเผื่อแก่อีกฝ่ายได้หรือไม่

          " ข้ามีบะหมี่น้ำกุ้งทะเลไว้ทานเป็นมื้อเที่ยงอยู่น่ะเจ้าค่ะ จะเอาไปถวายแทนดีหรือไม่เจ้าคะ... "

          ประโยคท้ายพลันแผ่วเสียงลงเพราะเห็นแววตาวาวมองอาหารในหีบห่อที่นางเอาออกมา พร้อมลำคอขาวที่ขยับขึ้นลงตามแรงขยับกลืนจนจิ้นอิ๋งเดาได้ไม่ยากว่าอาหารในมือตนนี้ไม่แคล้วสตรีตรงหน้าคงชื่นชอบไม่น้อยแน่

          " แม่นางอู๋พอจะมีอาหารเที่ยงเตรียมมาหรือไม่เจ้าคะ? " จิ้นอิ๋งเอ่ยถามหลังคิดบางอย่างได้ขึ้นมา

          " มี ๆ แต่เป็นพวกปลาย่างอะไรแบบนี้น่ะ! "

          " เช่นนั้นแลกอาหารเที่ยงนี้กับข้าดีหรือไม่เจ้าคะ? ข้าทำมาเยอะ ตอนนี้ยังเหลือบะหมี่อีกหนึ่งที่ แม่นางค่อยเอาบะหมี่ในหีบนี้ถวายหลวงจีน ส่วนอีกหนึ่งก็แลกกับข้าแทนนะเจ้าคะ "

          สิ้นคำเสนอ สตรีแซ่อู๋ก็แทบมองจิ้นอิ๋งตาประกาย สีหน้าดูซาบซึ้งกับความคิดของเด็กสาวไม่น้อยพร้อมกับเอ่ยขอบคุณมาเสียหลายรอบ ทำเอานางเผยรอยยิ้มขึ้นมาไม่ต่างกันเลยเชียวที่สามารถช่วยเหลืออีกคนได้ ก่อนทั้งคู่จะกลับเข้าไปในงานบูชาข้าวพระที่ทันในช่วงที่ศาสนิกชนท่านอื่นทำการสวดมนต์ถวายข้าวพระกันอยู่พอดี สตรีทั้งสองก็เร่งนั่งทับขาพนมมือปากขยับเอ่ยเสียงตามถูกบ้างผิดบ้างสลับกันไป ทว่าก็ดูตั้งใจกว่าตอนก่อนหน้าที่จะไปพักอยู่หลายส่วน

อิมัง สูปะพยัญชะนะสัมปันนัง สาลีนัง
โภชะนัง อุทะกัง วะรัง พุทธัสสะ ปูเชมิ

ข้าพเจ้าขอบูชาด้วยโภชนะข้าวสาลี พร้อมด้วยแกงกับและน้ำอันประเสริฐนี้แด่พระพุทธเจ้า
.
อิมานิ มะยัง ภันเต, ภัตตานิ, สะปะริวารานิ, ภิกขุสังฆัสสะ,
โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภันเต, ภิกขุสังโฆ, อิมานิ, ภัตตานิ, สะปะริวารานิ
ปะฏิคคัณหาตุ, อัมหากัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ ฯ

ข้าแต่พระภิกษุสงฆ์ผู้เจริญ
ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวาย ซึ่งภัตตาหาร พร้อมกับบริวาร ทั้งหลายเหล่านี้ แด่พระภิกษุสงฆ์
ขอพระภิกษุสงฆ์ จงรับภัตตาหาร พร้อมกับบริวารทั้งหลายเหล่านี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย
เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย
ตลอดกาลนานเทอญ ฯ

          สิ้นบทคำสวดเหล่านั้น ผู้คนโดยรอบก็ต่างส่งถวายภัตตาหารในมือออกไปให้จิ้นอิ๋งและอวี้หมิงได้ทำตาม จนทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อยก็เป็นเวลาพักช่วงสายถึงเที่ยงและรอฟังเทศน์ธรรมในตอนบ่ายต่อ สตรีทั้งสองก็ต่างพากันหลบไปพูดคุยยังใต้ร่มไม้ร่มเดิม กระทั่งถึงเวลาอาหารค่อยผลัดกันแบ่งข้าวกันทานอย่างไม่อิดออดใด จนจิ้นอิ๋งนึกชอบใจไม่น้อยเลยเชียว และพาลคิดมุ่งมั่นไปว่าถ้าเจอกันใหม่ในภายภาคหน้านางต้องเข้าหาทำความรู้จักให้สนิทสนมกันมากกว่านี้อีกเป็นแน่
        .
        .
        เด็กน้อยคนหนึ่งที่ได้รับการไหว้วานจากท่านกัวมาส่งของให้หญิงสาวในวันพระเช่นนี้ เขาเองก็รู้สึกหวั่นเกรงว่าท่านกัวจะหลอกเขามารอเก้อ นึกไม่ถึงจะหาเจอจนได้

        "แม่นาง แม่นางกู่ใช่ไหมขอรับ"

        ระหว่างที่จิ้นอิ๋งกำลังจะพักทานอาหารร่วมกับสตรีแซ่อู๋ก็พลันมีเด็กชายผู้หนึ่งตรงเข้าหาพลางเอ่ยเรียกนางให้มองติดฉงน สองสตรีแลกเปลี่ยนสายตากันว่าเป็นคนรู้จักของใครหรือไม่ แต่ก็ต่างไม่รู้ว่าเป็นใคร ทว่าเพราะเป็นจิ้นอิ๋งที่ถูกเรียกแซ่เอาไว้นางจึงหันไปหาทั้งรอยยิ้มดูเป็นมิตรขณะเอ่ยถามกลับไป

        " ใช่แล้วเจ้าค่ะ ข้าคือแม่นางกู่ มีอะไรหรือไม่เจ้าคะ? "

        "มีคนผู้หนึ่งฝากสิ่งนี้มาให้ท่านขอรับ" เด็กหนุ่มวัยสิบสามกล่าวแก่อีกฝ่าย ก่อนควักไหชาไหหนึ่งออกม

        จิ้นอิ๋งที่เห็นก็คล้ายมองรอบกายนางราวกับจะมองหาผู้ที่ฝากของมาให้ ทว่าก็ไม่เห็นใครจนสุดท้ายต้องยินยอมรับของมาในที่สุด ทว่าเพราะของที่ได้เป็นชาเหมือนครั้งวันงานไหว้พระจันทร์ขึ้นมา ทำเอาเด็กสาวแอบคิดไม่ได้ว่าจะมาจากสหายที่นางนึกถึงหรือไม่

        " ผู้ที่ฝากมาเขาได้บอกชื่อแซ่ไว้หรือไม่เจ้าคะ? " ถึงอย่างนั้นก็เอ่ยถามเพื่อความแน่ใจออกไปเสียก่อน

         "บอกไม่ได้ขอรับ แต่ท่านผู้นั้นบอกว่าแม่นางกู่เห็นย่อมเข้าใจ"

         พลันคำตอบที่ได้รับ ทำให้จิ้นอิ๋งมั่นใจมากขึ้นว่าไม่แคล้วเป็นสหายแซ่กัวที่ก็มาร่วมงานด้วยเป็นแน่ รอยยิ้มขบขันจึงหลุดเผยออกเพราะนางตั้งใจจะเอ่ยทักทายอยู่แล้วหากเจออีกฝ่ายในงานบุญเช่นนี้ หลังรับของมาแล้วนางจึงเอ่ยขอบคุณเด็กชายผู้ฝากของมาให้นี้จนอีกฝ่ายจากไป สตรีแซ่อู๋ที่เฝ้ามองมาตั้งแต่เมื่อครู่ก็ชะโงกหน้ามาดูชาในมือของจิ้นอิ๋งอย่างสนอกสนใจ

        " อะไรกันนี่.. ใครส่งมาให้เจ้าน่ะ! ชาดีน่าดูเลยนะเนี่ย " อวี้หมิงเอ่ยระหว่างยื่นใบหน้าดมตามลำไผ่เก็บชาให้เด็กสาวหลุดกลั้วขำออกมาน้อย ๆ กับท่าทางนั้นระหว่างเอ่ยตอบกลับหาทั้งรอยยิ้มที่ยังไม่จางลงจากใบหน้า

        " น่าจะสหายข้าเองน่ะเจ้าค่ะ ทั้งที่ก็มาร่วมงานเดียวกันอยู่แท้ ๆ เลยเชียว.. คงต้องไม่ลืมทักทายยามเจอกันแล้วล่ะเจ้าค่ะ! "


[165] มอบ บะหมี่น้ำกุ้งทะเล ให้
สถานะธาตุหลัก : +5 ความสัมพันธ์ [165] ธาตุดินเหมือนกัน
ลักษณะแต่กำเนิดตัวหอม
+20 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย


กิจกรรมงานบูชาข้าวพระ
บูชาข้าวพระ ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน
ถวาย กล่องข้าว(เกือบจะเจ) ให้แก่หลวงจีน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลงเฟิ่งฉิวหวง
ถุงหอมจูอวี๋
กระบี่
พู่หยกเลือดหงส์
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าเหลียง
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x5
x2
x2
x1
x2
x2
x2
x1
x1
x27
x2
x38
x40
x50
x50
x40
x40
x50
x3
x22
x19
x31
x10
x50
x5
x5
x5
x1
x12
x1
x2
x5
x2
x9
x1
x8
x6
x6
x1
x3
x2
x2
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

อย่าลืมเข้าสู่ระบบนะจ๊ะ เข้าสู่ระบบตอนนี้ หรือ ลงทะเบียนตอนนี้

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้