[เมืองฉางอัน] ศาลเจ้าเทพธิดาฉางเอ๋อ

[คัดลอกลิงก์]
ไม่ระบุชื่อ  โพสต์ 2021-9-15 16:22:19 |โหมดอ่าน

ศาลเจ้าเทพธิดาฉางเอ๋อ
{ เมืองฉางอัน }








【ศาลเจ้าเทพธิดาฉางเอ๋อ】

ศาลเจ้าฉางเอ๋อ เทพธิดาแห่งดวงจันทร์
เป็นศาลเจ้าที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กับศาลเจ้าแม่หนี่วา
ตัวศาลเจ้าสร้างอยู่กลางสระบัวที่ให้ความร่มรื่นและงดงาม
ชาวบ้านนิยมมาสักการะขอพรเรื่องความรัก
และด้านสุขภาพให้มีชีวิตยืนยาว ในช่วงเดือนกันยายน (จิ่วเยว่)
ศาลเจ้าจะจัดพิธีสักการะเทพีฉางเอ๋อร์
เพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร

ทุกท่านสามารถมาโรลเพลย์ทำงานพาร์ทไทม์ประจำวัน
ค่าจ้าง: 100 อีแปะ - 8 EXP (รายวัน)






เทพีฉางเอ๋อร์
ฉางเอ๋อร์ เป็นคนรักของโฮ่วอี้ ซึ่งเป็นนักยิงธนูแห่งสวรรค์
ในยุคเหยาตี้ ดวงอาทิตย์พร้อมกันส่องแสงอย่างสนุกสนานพร้อมกัน
ถึง 10 ดวง ยังความเดือดร้อนแก่ผู้คนบนโลกมนุษย์อย่างมาก
อวี้หวงต้าตี้ (เง็กเซียนฮ่องเต้) จึงมีบัญชาให้โฮ่วอี้ไปจัดการ
ด้วยความคะนองโฮ่วอี้ใช้ธนูยิงดวงอาทิตย์ ตกลงไปถึง 9 ดวง
นั่นถือเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ อวี้หวงต้าตี้จึงมีบัญชาให้เนรเทศโฮ่วอี้
และฉางเอ๋อร์ลงไปอยู่บนโลกมนุษย์เฉกเช่นมนุษย์ธรรมดาทั่วไป
ในระหว่างที่ใช้ชีวิตแบบมนุษย์ธรรมดา โฮ่วอี้ได้ใช้ฝีมือยิงธนู
ปราบปรามสัตว์ร้ายต่าง ๆ จนผู้คนยกย่องให้เป็นผู้นำ
โฮ่วอี้ลำพองใจจนลืมตัว ฉางเอ๋อร์สังเกตเห็นการเปลี่ยนไปนี้
แต่มิอาจทัดทานได้ วันหนึ่ง โฮ่วอี้ได้น้ำอมฤตมาจากเจ้าแม่หว่างมู่
หากใครได้ดื่มกินแล้วจะมีชีวิตเป็นอมตะเป็นหนุ่มสาวตลอดไป
แต่โฮ่วอี้ได้ถูกเฟิงเมิ่ง ชายผู้แอบอิจฉาเขามาตลอดดักยิงตายที่หน้ากระโจมที่พัก
ส่วนฉางเอ๋อเศร้าโศกเสียใจต่อการตายของโฮ่วอี้
นางก็ได้ดื่มน้ำอมฤตนี้แต่เพียงผู้เดียวและ
เหาะกลับไปยังดวงจันทร์เหมือนเดิมแต่เพียงผู้เดียวด้วยความเศร้าสร้อย
ซึ่งเรื่องราวของนางเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นที่มาของเทศกาลไหว้พระจันทร์
ในคืนวันเพ็ญเดือน 8 (กันยายนตามปฏิทินสากล)
แต่อย่างไรก็ดี เรื่องราวเกี่ยวกับนางก็มีแตกต่างกันออกไป
เช่น ดั้งเดิมฉางเอ๋อมิใช่เทพธิดา แต่เป็นมนุษย์ธรรมดาบนโลก เป็นต้น





ชื่อผู้ดูแล: เยว่ เสี้ยวเซียน
อุปนิสัยผู้ดูแล:
บุตรสาวคนโตของตระกูลเยว่จะถูกเลือกขึ้นเป็น
ผู้ดูแลศาลเจ้ามาหลายรุ่น
เสี้ยวเซียนเป็นหญิงสาว
ที่ยึดมั่นในพรหมจรรย์ สำรวม สุขุม และมีความเป็นผู้นำสูง
แม้ว่านางจะดูแลศาลเจ้าที่ผู้คนนิยมมาขอพรเรื่องความรัก
แต่หญิงสาวกลับไม่ได้ศรัทธาในเรื่องของความรัก
นางเชื่อว่านั่นคือเวรกรรม "ที่ใดมีรักที่นั่นย่อมมีทุกข์"
ความงดงามของนางทำให้เกิดเสียงเล่าลือกันว่า
"หากอยากรู้ว่าเทพีฉางเอ๋องดงามเช่นไร ก็ให้ลองมองหน้าของเยว่เสี้ยวเซียนดู"





โพสต์ 2021-9-16 20:02:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
[เทศกาลไหว้พระจันทร์]




เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง (จงชิวเจี๋ย)  หรือหลายคนมักคุ้นเคยภายใต้ชื่อ เทศกาลไหว้พระจันทร์ ในค่ำคืนนี้พ่อแม่พี่น้องจะพาลูกมาเดินชมจันทร์ที่แสนงดงาม
เทศกาลนี้มีความสำคัญกับชาวฮั่นเป็นอย่างมาก เพราะว่า เป็นการเฉลิมฉลองหลังการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง เป็นการมาร่วมกันรื่นเริง
ก่อนที่จะต้องเก็บเนื้อเก็บตัวในช่วงฤดูหนาว ในสมัยก่อนกษัตริย์จะทำการบูชาพระอาทิตย์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และบูชาพระจันทร์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
ซึ่งธรรมเนียมนี้ได้มีมาพันกว่าปี ตามแนวคิดของลัทธิเต๋าแล้ว และเมื่อผ่านการเวลามาเรื่อย ๆ ประเพณีนี้ก็ได้ลงสู่ชาวบ้านร้านตลาด
จนแพร่หลายมาถึงปัจจุบัน วิถีชีวิตของชาวฮั่นได้เปลี่ยนไป จากการไหว้บูชา ได้เปลี่ยนเป็นการร่วมกันชื่นชมความงามของดวงจันทร์แทน





::.คำอธิบายเควส.::
- คำในวงเล็บ อาทิ (พ่อหนุ่ม/สาวน้อย) เลือกคำใดคำหนึ่งมาใช้ ให้เข้ากับคุณ -
- [...] สีน้ำเงิน คือ โรลคำพูดเฉพาะคนมีลักษณะนิสัยตามที่ระบุ -



::.เงื่อนไขเข้าร่วมเทศกาบ.::
- เข้าร่วมได้คนละ 1 ครั้ง
- เข้าร่วมได้วันที่ 21 เดือนจิ่วเยว่ จงผิงศกปีที่ 1 ยามไห้ เป็นต้นไป -





.: ข้อมูลการโรลเพลย์ :.
- เมื่อถึงเวลาโรลเพลย์ สามารถมาเปิดโรลเพลย์ได้เลย
- เขียนโรลสร้างสตอรี่การมาร่วมเทศกาลของท่าน [สามารถนัด NPC ที่มีความสัมพันธ์ 4 ดวง+ มาร่วมชมจันทร์ได้]
- สำหรับคนที่ NPC ตอบนัดแล้วให้สร้างสตอรี่เปิดโรลกับ NPC ได้เลย
- สร้างสตอรี่ร่วมเทศกาลได้อิสระ

รางวัลที่ได้จากการร่วมกิจกรรม
*จะต้องมีเนื้อหาโรลเพลย์ถึงรายละเอียดแต่ละหัวข้อจึงได้รางวัล หากไม่สร้างสตอรี่ดำเนินหัวข้อใดก็ไม่ได้หัวข้อนั้น*
- เดินชมเทศกาลได้รับ xx
- ร่วมซื้อของจากพ่อค้า ได้รับ xx
- นมัสการขอพรเทพีฉางเอ๋อ xx
- เขียนคำอธิษฐานและปล่อยโคมลอย (ค่าโคม 15 ตำลึงเงิน) xx
- ชมจันทร์ ได้รับ xx
- ทำขนมเยว่ปิ่งมาถวายเทพีฉางเอ๋อ 3 ลูก (ส่งขนมมาไอดี Webmaster หลังรลถวายเทพี) xx
- โรลเพลย์โคกับ Member อื่น โบนัส xx
- โรลเพลย์โคกับ Member มากกว่า 4 คน โบนัส xx




←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x12
x5
x636
x241
โพสต์ 2021-9-16 20:29:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด
[ตลาดช่วงเทศกาล]

เหล่าพ่อค้าแม่ค้าในฉางอันต่างพากันนำของมาขายในเทศกาล เพื่อให้ผู้มาท่องเที่ยวได้จับจ่ายใช้สอย
โดยตลาดนี้จะซื้อขายได้ตลอดทั้งวัน 21 เดือนจิ่วเยว่ เท่านั้น ตั้งแต่เช้าจนค่ำ (23.00) ตลาดวาย



.: การซื้อวัตถุดิบหายาก :.
(1) เขียนโรลเพลย์มาทำการค้าซื้อวัตถุดิบบางชนิดที่ไม่มีขาย
(2) ทุก ๆ ครั้งที่มาทำธุรกรรมให้ระบุสินค้า จำนวนชุด ราคาต่อชุดไว้ท้ายโพสต์โรลเพลย์เสมอ
(3) หลังโพสต์โรลเพลย์ให้ทำการโอนเงินตามจำนวนผ่านระบบโอนเงิน
(4) รอทีมงานตรวจเพื่อจัดส่งวัตถุดิบให้ท่าน


.: รายการสินค้า :.

ตารางสินค้าที่ 1
* สินค้า 1 ชุดมีปริมาณ 50 หน่วย *

ชื่อสินค้า
ใบชาผิงลี่
ใบชาต้าหงเผา
ใบชาเจียวกู่หลาน
ใบชาผู่เอ๋อร์
ใบชาเหมาเฟิง
บ๊วย
ปลากง
ปลาเก๋า
ปลาดุก
จำนวนชุดที่ขายต่อวัน
หมด
หมด
หมด
หมด
หมด
หมด
หมด
หมด
หมด
ราคาชุดละ
800 อีแปะ
800 อีแปะ
800 อีแปะ
800 อีแปะ
700 อีแปะ
700 อีแปะ
500 อีแปะ
500 อีแปะ
500 อีแปะ


ชื่อสินค้า
ปลาทูน่า
ปลาชิง
โสมคน
ปลาลิ่น
ปลาซ่ง
ปลาเฉา
ปลากง
ขึ้นฉ่าย
ถั่วฝักยาว
จำนวนชุดที่ขายต่อวัน
5
5
2
5
5
5
5
18
18
ราคาชุดละ
500 อีแปะ
500 อีแปะ
4,000 อีแปะ
500 อีแปะ
550 อีแปะ
600 อีแปะ
500 อีแปะ
560 อีแปะ
410 อีแปะ





ตารางสินค้าที่ 2 - สมบัติ
* ขายต่อชิ้น ด้านหลังคือสต๊อก อาจสต๊อกหมดจะหมดสำหรับรอบนี้ *

ชื่อสมบัติ
เตากำยาน
หม้อขาตั้งเก้า
พู่หยกเลือดหงส์
ผังภาพเหอถู
มุกราตรีจิ้งสู่
จำนวนที่ขาย(ชิ้น)
หมดสต๊อก
1
1
1
1
ราคาชิ้นละ
350 ตำลึงเงิน
8,000 ตำลึงเงิน
10,000 ตำลึงเงิน
3,000 ตำลึงเงิน
7,000 ตำลึงเงิน




ตารางสินค้าที่ 2 - พาหนะ
ลดพิเศษ ราคาลดพิเศษ มีที่นี่ที่เดียว !!!
* ขายต่อชิ้น ด้านหลังคือสต๊อก อาจสต๊อกหมดจะหมดสำหรับรอบนี้ *

ม้าฮั่นเสีย
สต๊อก 1 ตัว
มูลค่า: 500 ตำลึงทอง

เก้าอี้ล้อเลื่อน
สต๊อก หมด
มูลค่า: 4 ตำลึงทอง


ม้าโกรคูยอ
สต๊อก 3 ตัว
มูลค่า: 200 ตำลึงทอง





←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x12
x5
x636
x241
โพสต์ 2021-9-18 23:32:21 | ดูโพสต์ทั้งหมด
[สามพ่อค้าใหญ่]




หวัง จิน
หวัง เย่า
หวัง ทู่

"พวกเจ้าใครอยากได้เงินมาทางนี้สิ พวกเราสามพี่น้องวันนี้วันดีเทศกาลชวนสร้างกุศลจะแจกเงินแก่ทุกคน"




::.คำอธิบายอีเว้นท์.::
- คำในวงเล็บ อาทิ (พ่อหนุ่ม/สาวน้อย) เลือกคำใดคำหนึ่งมาใช้ ให้เข้ากับคุณ -
- [...] สีน้ำเงิน คือ โรลคำพูดเฉพาะคนมีลักษณะนิสัยตามที่ระบุ -



::.เงื่อนไขเข้าร่วมเทศกาล.::
- เข้าร่วมได้คนละ 1 ครั้ง -
- จะต้องร่วมงานเทศกาลครบ 3 รายการก่อน -
- เข้าร่วมได้เฉพาะ Member หรือในเนื้อหาโรล คือ คนที่มีอุดมการณ์จะทำการใหญ่ -
- เข้าร่วมได้วันที่ 21 เดือนจิ่วเยว่ จงผิงศกปีที่ 1 ยามไห้ เป็นต้นไป -
- จะต้องไม่มีประวัติทรยศที่ขึ้นทะเบียนหน้าป้ายคาราวานพ่อค้าหวังคนใดคนหนึ่ง -





.: ข้อมูลการโรลเพลย์ :.
- เมื่อถึงเวลาโรลเพลย์ สามารถมาเปิดโรลเพลย์ได้เลย
- เขียนโรลสร้างสตอรี่หลังร่วมเทศกาล 3-4 รายการในงานแล้ว ท่านมาเจอคาราวานสามพี่น้องพ่อค้าหวัง
- สร้างสตอรี่มารับของแจกฟรี 1 อย่าง โดยพ่อค้าหวังขอเช็คหนังสือเดินทางของท่านเหมือนที่ท่านไปรับงาน
* สามารถให้พ่อค้าหวังสุ่มให้ได้ *

ของแจกจากพ่อค้าหวัง
* เลือก 1 อย่าง แจ้งท้ายโพสต์ *
(1) ใบรับรองพ่อค้าหวัง (30 วัน) - ใบรับรองนี้จะสามารถทำธุรกรรมการค้ากับพ่อค้าทั่วแผ่นดินได้ โดยคุณจ่ายค่าสินค้าแค่ครึ่งเดียว
เพราะอีกครึ่งพ่อค้าที่คุณซื้อจะทำเรื่องส่งไปให้พ่อค้าหวังจ่ายให้
(2) แจกเงิน 150 ตำลึงทอง , 3,000 ตำลึงเงิน , 5,000 อีแปะ
(3) แจกคำอวยพรจากพ่อค้าหวัง (แล้วแต่คุณอยากให้พ่อค้าหวังอวยพรอะไร) +35 EXP , +6 Point
(4) แจกเสบียงอาหาร: ข้าวสาร 1,000 กระสอบ ( เลือกซี่โครงหรือเนื้อ 1 ชนิด แจ้งพ่อค้าหวัง ได้ 100 อัน) , (เลือกผัก 1 ชนิด 100 อัน)
(5) แจกไอเท็มพิเศษ "ม้วนโองการฟ้า" 1 ชิ้น
(6) แจกทรัพยากรก่อสร้างเมือง: ไม้ 1,000 , ก้อนหิน 1,000




←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x12
x5
x636
x241
โพสต์ 2021-9-20 13:16:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด
  
.: แขกที่สัญจรมาเทศกาล :.

* NPC ที่ปรากฎที่นี่ วันที่ 20-21 ไม่สามารถโรลพบเจอตามสถานที่ประจำในตอนนี้ได้ *

กติกาการโรลเพลย์สนทนาทำความรู้จักขุนพลสัญจรผ่านมา
(1) 1 โรลเพลย์ สามารถเจอได้กี่คนก็ได้ แค่เขียนสร้างเรื่องราวในโรลให้เมคเช้น บางคนเมื่อโรลคุยน้อยอาจไม่ได้ +5 จากการพูดคุย (แต่ไม่เกิน 4 คน)
(ไม่เจอพร้อมกัน แต่รวมในโรลเดียวกัน)
(2) ในโรลเพลย์สร้างสถานการณ์พบเจอครั้งแรกได้อิสระ โดยไม่แหกนิสัย NPC
(3) นอกจากทำความรู้จัก พูดคุย ใน 1 โรลเพลย์สามารถมอบของขวัญให้ 1 ชิ้นเท่านั้น
(4) การชักชวนเข้ากองกำลัง บาง NPC ไม่จำเป็นต้องหัวใจเต็ม 10 ดวงเสมอไป นอกจากอยู่ที่การให้ของแล้ว การพูดคุย โรลทิ้งท้ายไว้ และ กำกับว่า "ชักชวน"
ทางทีมงานจะมาคอมเม้นท์ว่าชวนสำเร็จหรือไม่ ถ้าสำเร็จคุณจะได้โต้วาทีกับเขา ถ้าชนะแสดงว่าเขายอมรับใช้คุณ


ความสำคัญก่อนโรลสร้างความสัมพันธ์ NPC
(1) สำคัญมาก ที่คุณจะต้องตรวจเช็ค (ลักษณะนิสัยขัดแย้งกันหรือไม่ สามารถเช็คได้จากที่นี่ คลิก)
(2) รองลงมา ตรวจเช็ต ธาตุวันเกิด และ ปีนักษตร ชงกันหรือไม่ สามารถเช็คได้ที่นี่ (คลิก)
(3) ทุก ๆ การโรลเพลย์ที่มีความขัดแย้งในด้านนิสัย และ ธาตุหรือปีนักษัตรชงกัน เนื้อหาโรลเพลย์คุณจะต้องสร้างให้สมเหตุสมผล
เมื่อความสัมพันธ์ต้องลบลงในโรลเดียวกับจีบ ที่ความสัมพันธ์เพิ่ม โดยการครีเอทสร้างสถานการณ์โรลเพลย์ไม่ถึงกับทะเลาะ ขัดแย้งกัน
แต่ให้คุณเผลอทำอะไรที่ไม่ดี หรือใช้คำพูด หรือ บางอย่างเกี่ยวกับนิสัย ตัวคาร์คุณในโรลนั้นด้วย เพื่อให้มีความเมคเช้นส์ในการลดความสัมพันธ์
(4) ตรวจเช็ตรายการของที่ชอบและไม่ชอบได้ในหน้า [ข้อมูล NPC



[003] เหอ จิ้น (โฮจิ้น)



[004] หาน อิน (หันอิ้น)



[009] หยวน ซู่ (อ้วนสุด)



[023] อู่ฟูเหริน (ง่อฮูหยิน)(Lady Wu)



[027] จาง เหอ (เตียวคับ)




[029] สวิน อวี้  (ซุนฮก)




[031] หมี่ จู้ (บิต๊ก)




[031] เถา เชียน (โตเกี๋ยม)




[041] เยี่ยนซือ




[045] จ้าว อวี่




[046] จิน เสวียน (กิมสวน)




[052] สวิน โหยว (ซุนฮิว)




[057] ข่ง โจ้ว (ขงมอ)




[058] หวัง หยุน (อ้องอุ้น)




[073] จ้าว หยุน




[074] เตี๋ยน เหวย (เตียนอุย)




[075] เซี่ยโหว หยวน (แฮหัวเอี๋ยน)




[076] เซี่ยโหว ตุน (แฮหัวตุ้น)





[111] ลู่ เจิ้ง (ปลอมตัวใช้ชื่อ เจิ้งจิ้น สวมหมวกไผ่ผ้าคลุมดำ)




[110] เจิ้ง เจียง  (ปลอมตัวใช้ชื่อ เจิ้งฉ่าย สวมหมวกผ้าคลุมดำ)




[123] จวี โซ่ว (ชีสิว/จอสิว)




[124] เทียน เฟิง (เตียนห้อง)




[131] หลี่ ซู่ (ลิซก)




[132] หวง จง (ฮองตง)




[133] เหยียน เหยียน ( เงียมหงัน )




[147] เฉา ซง (โจโก๋)




[148] หลี่ โป๋เซอ (ลิแปะเฉีย)




[149] ต่ง ฝู




[158] มู่ อิง




[157] ฟ่าน จิ้งเจิน




[164] หลี่ หย่งเมี่ยว




[165] อู๋ อวี้หมิง




←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x12
x5
x636
x241
โพสต์ 2021-9-21 22:22:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Fenyue เมื่อ 2021-11-9 00:24


⌜ 32 ⌟

บทที่ 7
เทศกาลจงชิวเจี๋ย
ฉากที่ 3


            เมื่อได้เวลายามไห่ก็ถึงคราวที่หนุ่มสาวออกไปเที่ยวงานเทศกาล ก่อนแยกย้ายกันเข้าพักในช่วงบ่ายตงฮั่วบอกว่าเขาของีบเอาแรงเสียหน่อย ซึ่งสำหรับมนุษย์ถ้ำแล้วเขามักจะนอนเร็วกว่าคนทั่วไป เนื่องด้วยไม่มีแสงสว่างและเสียงดังรบกวน อันที่จริงในช่วงเวลานี้ก็เป็นเวลาที่เด็กสาวต้องหลับนอนด้วยเช่นกัน แต่ว่าคนที่รอจะเที่ยวงานนี้มาโดยตลอดตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าเมื่อวาน แม้สติอาจเลื่อนลอยไปบ้างจากสภาพร่างกายอันเหนื่อยล้า แต่ทว่าตาของนางยังคงใสแจ๋ว
            
            ตรงกันข้ามกับลูกหมูป่าที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวใด ๆ มันนอนหลับปุ๋ยไปแล้ว วัน ๆ ไม่ได้ทำอะไรแท้ ๆ ช่วยทำงานไหมก็ไม่ได้ทำ แต่ยังนอนได้นอนดี สงสัยว่านางคงจะต้องปล่อยให้มันนอนหลับอยู่ที่นี่ ถ้าเป็นเรื่องความสงบเรียบร้อยไว้ใจเปาเปาได้ นอกจากวันนั้น.. วันที่อยู่ ๆ มันก็วิ่งเข้าไปที่บ้านร้างของอดีตซินแสตงฟางซั่ว
            
            มาคิดดูแล้วเหมือนว่าท่านซินแสจะเคยทำงานรับใช้ฮ่องเต้ฮั่นอู่ตี้ที่ฉางอัน ก่อนที่จะกลับไปซีเหอเพื่อนำกระดูกท่านไปฝังน่าจะลองสำรวจพื้นที่บริเวณฉางอันนี้ดูสักหน่อยก็ไม่เลว
            

            ‘อื้ม.. หวังว่าคนที่โรงเตี๊ยมซีเหอจะไม่เจออะไรแปลก ๆ นะ’
            
            เด็กสาวยิ้มเจื่อน กังวลว่าอาจมีผู้คนพบเห็นเงาของชายปริศนาในห้องว่างที่เช่าไว้แต่ไม่มีคนพัก หรือเสียงประหลาดในยามวิกาล แต่ท่านซินแสเป็นคนดี ท่านย่อมไม่ออกมาหลอกหลอนลูกหลานชาวฮั่นที่ท่านต้องการปกป้องคุ้มครองอยู่แล้ว
            
            ‘ใช่แล้ว ที่นั่นน่ะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่เชียวนะ เพราะฉะนั้นไม่เป็นไรหรอก!’
            
            และเฟินเยว่ก็ยังคงมองโลกในแง่ดีได้อยู่เสมอ…
            
            เมื่อใกล้เวลาเด็กสาวก็อาบน้ำแต่งตัวใหม่เป็นชุดเสื้อผ้าที่ซื้อจากร้านลดราคาโล๊ะสินค้าเก่าที่ลั่วหยาง อาภรณ์จากเมืองหลวงอย่างไรก็ต้องดีกว่าเสื้อผ้าสาวชาวบ้านที่ใส่ซ้ำมานานหลายปีอยู่แล้วไม่ว่านั่นจะเป็นของค้างปีก็ตาม นางปล่อยผมออกให้ทิ้งตัวที่กลางหลัง ไปเที่ยวงานแบบนี้นางก็อยากจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเองบ้างเพราะอย่างไรก็ไม่ต้องกลัวเส้นผมหล่นลงไปในอาหารที่ใครกิน
            
            เฟินเยว่สางผมที่เป็นลอนคลื่นจากเปียที่รัดแน่นมาทั้งวันให้เหยียดตรง แต่ก็ทำไม่ได้ทั้งหมด ผมของนางค่อนข้างหยาบจากความร้อนหน้าเตาไฟแทบตลอดเวลา ดังนั้นต่อให้หวีเท่าไรก็ไม่อาจเรียบตรงเหมือนสาวต้าฮั่นคนอื่น ๆ ได้ เด็กสาวส่องกระจกมองใบหน้าของตัวเองพลางคิดว่าจะประดับผมอย่างไรดี ถึงจะคลายเปียออกแล้วแต่ก็ไม่วายที่นางจะจัดแต่งทรงผมเป็นเปียเส้นเล็ก ๆ ข้างศีรษะทั้งสองข้างแล้วเสียบด้วยปิ่นรูปดอกบัวประดับพู่ แน่นอนว่านี่ก็เป็นของลดราคาที่ซื้อมาจากลั่วหยางด้วยเช่นกัน
            
            น่าเสียดายว่าคนจนมีเงินซื้อของฟุ่มเฟือยได้เพียงเท่านี้ นางจึงไม่มีปัญญาจะซื้อเรื่องสำอาง แป้งหอม และสีชาดมาทาหน้าแบบคนอื่นเขา แต่กระนั้นอาจจะดีแล้วก็ได้ เพราะว่าเฟินเยว่ไม่เคยแต่งหน้าเองมาก่อน หากว่าได้ลองทาคงออกมาไม่พ้นเป็นงิ้วในงานตรุษ
            
            เสียงกลองดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าล่วงเข้ายามไห่ ถึงเวลาที่จะไปปลุกคุณชายซูที่ห้องข้าง ๆ นางออกจากห้องแล้วลงกลอนประตูให้แน่นหนา จู่ ๆ ก็กลับรู้สึกประหม่าขึ้นมาจนต้องจัดผมเฝ้าใหม่อีกรอบ เด็กสาวสูดหายใจเข้าลึกแล้วค่อย ๆ เคาะประตู แต่ด้วยความตื่นเต้นจนมือสั่นก็เลยกลายเป็นการเคาะในจังหวะที่ประหลาด
            
            ก๊อก กึก ก๊อก..
            
            รอไม่นานบานประตูก็เปิดออก สีหน้าของตงฮั่วติดดูจะประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้พบหน้านางครั้งแรก


            
            ภาพจำของซุนเฟินเยว่สำหรับเด็กหนุ่มก็คือ หญิงสาวชาวบ้านหน้าตาธรรมดาใบหน้าตกกระ ถักผมเปียและโพกผ้าเหมือนผู้ใช้แรงงาน บนหลังสะพายอาวุธและกระเป๋าพะรุงพะรัง ไม่คิดเลยว่านางจะแต่งกายเป็นผู้เป็นคนให้สมกับที่เกิดมาเป็นสตรีได้ แถมยังมีเรือนผมยาวเป็นลอนอีกช่างดูไม่คุ้นตาราวกับว่ากำลังประชันหน้ากับเด็กสาวคนอื่นอยู่
            
            ‘สตรีเนี่ย พอเปลี่ยนทรงผมหน่อยก็กลายเป็นคนละคนไปเลยสินะ..’
            
            เห็นเขาจ้องนานเฟินเยว่ก็ประหม่าทำตัวไม่ถูกยิ่งกว่าเก่า ความไม่มั่นใจจึงตามมา นางเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
            
            “อะ..เอ่อ… มีอะไรที่แปลก ๆ หรือเปล่าเจ้าคะ”
            
            “แปลกทุกตรง”
            
            “อึ๋ย..”
            
            ได้ยินคำตอบเด็กสาวก็ยิ่งเสียความมั่นใจมากกว่าเก่า ไหล่บางห่อลู่ลงมา มือที่ทำอะไรไม่ถูกไม่รู้ว่าจะเอาไปวางไว้ตรงไหนก็ขยำแขนเสื้อตัวเองจนยับยู่ยี่
            
           “หืม?”
            
           ตงฮั่วเลิกคิ้วมองอากัปกิริยาของอีกฝ่ายที่ดูหงิกงอ แล้วมาพิจารณาตัวเองว่าตนพูดผิดไปตรงไหน ถ้าถามว่าแปลกไหมก็คือแปลกไปจากเดิม ก็ไม่ได้พูดตรงไหนผิดไปนี่นา ด้วยความเป็นบุรุษที่รักสันโดษเป็นทุนเดิม อย่าว่าแต่แค่สตรีเลย กับมนุษย์ด้วยกันเขาก็แทบจะไม่สนทนาด้วย หรือเขาควรจะบรรยายรูปลักษณ์นางออกมาให้หมดเผื่อจะทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น
           
           “ก็.. ทรงผมแปลกไป ปกติไม่เคยเห็นเจ้าปล่อยผม แล้วก็ไม่เคยใส่ชุดผ้าพริ้ว ๆ แบบนี้ด้วย” สายตามองสำรวจจุดผิดปกติอื่น ๆ อีกแต่ก็ดูเหมือนว่าจะหมดแล้ว “นอกนั้นก็ไม่มีแล้ว...”
           
           “อ๋อ อย่างนั้นเอง โล่งอกไปที” ได้ยินแบบนั้นก็โล่งใจไปมากแม้จะไม่มีทั้งคำติและคำชม ดูท่าทางว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนที่ซื่อตรงกว่าที่คิด แต่ก็เอาเป็นว่าถ้าไม่มีคำติว่าดูไม่ดีเฟินเยว่ก็พอจะมีความมั่นใจขึ้นมาบ้าง “ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะเจ้าค่ะ”

.
.
.

           ทั้งสองเดินออกจากซอกร้านบะหมี่สามหาวมาก็พบกับผู้คนคับคั่งหลังไหลกันไปที่ศาลเจ้าเทพีฉางเอ๋อกันเป็นทางเดียว เพียงแค่เห็นจำนวนคนตงฮั่วก็เบ้หน้า แต่ในเมื่อสัญญาต้องเป็นสัญญา พอรับปากเข้าแล้วก็จำเป็นต้องอดทน
           
           “คนเยอะจังเลยนะเจ้าคะ”
           
           เด็กสาวดูจะตื่นเต้นกับงานเทศกาลในเมืองใหญ่มากกว่าปกติ ตรงกันข้ามกับอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง แต่ในตอนนี้ทำอะไรไม่ได้นอกจากไหลไปตามคลื่นมนุษย์
           
           “อุ๊ย!”
           
           เด็กสาวอุทานขึ้นเมื่อถูกดันไปด้านหน้า นางไม่มีทางเลือกอื่นใดเลยนอกจากต้องไหลตาม ๆ กันไปก่อน เด็กสาวอยากจะหันหลังกลับแต่ก็ดูท่าผู้คนที่แออัดจะไม่ยอมให้นางทำอย่างนั้นได้โดยง่าย แต่แล้วก็มีมือหนึ่งฉุดแขนเสื้อของนางไว้แล้วดึงหลบออกจากแถวฝูงชน
           
           “เฮ้อ.. เกือบจะหลงกันแล้วไหมล่ะ”
           
           เสียงนั้นพูดออกมา เขาคือตงฮั่วที่ตามมารั้งนางเอาไว้
           
           “ขอบคุณนะเจ้าคะคุณชายซู ถ้าเมื่อกี้หลงทางกันล่ะก็แย่แน่ ๆ เลย”
           
           “นั่นสินะ มีทางเข้าอื่นอีกหรือเปล่า?”
           
           “ข้าก็ไม่มั่นใจเหมือนกันเจ้าค่ะ” มือเล็กยกขึ้นลูบแก้ม เฟินเยว่เองก็ไม่เคยมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้เสียด้วย แต่โดยทั่วไปหากศาลเจ้าเป็นที่นิยมก็มักจะมีประตูทางเข้าออกหลายทาง “ลองเดินวนหากันดูดีไหมเจ้าคะ?” เด็กสาวเสนอออกมา
           
           “อืม ข้าก็ว่าอย่างนั้น หากเข้าทางหลักไม่ไหวแน่ ๆ”
           
           “ถ้าอย่างนั้นเริ่มวนจากทางนี้กันก่อนก็แล้วกันนะเจ้าคะ”
            
           ชี้นิ้วไปยังเส้นทางตามเข็มนาฬิกาถือคติขวาร้ายซ้ายดี เมื่อตกลงกันได้แล้วทั้งสองก็ออกเดินวนไปทางนั้น บรรยากาศโดยรอบถือว่าสงบเงียบกว่าทางเข้ามากนัก จะมีแต่เพียงแต่เสียงจอแจเบา ๆ จากทิศทางด้านในศาลเจ้าเทพีฉางเอ๋อ ตามเส้นทางที่เลาะคูคลองขนาบข้างประดับประดาไปด้วยแสงไฟสีสันสวยงาม เมื่อมองไปบนฟ้าก็เห็นดวงจันทร์ลอยเด่นเป็นสง่า ในวันจงชิวเจี๋ยไร้แสงดาราได้จะมาแข่งความงามกับจันทราได้ แม้ไม่มีแสงไฟบนถนนแต่ก็พนันได้เลยว่าเพียงแค่แสงจันทร์ก็สามารถทำให้ราตรีนี้สว่างไสวขึ้นมาได้
           
           “เจอทางแล้ว”
           
           จู่ ๆ ตงฮั่วก็โพลงออกมาแล้วชี้ให้เฟินเยว่ดูสะพานด้านหน้าที่สามารถข้ามคูน้ำไปได้แต่ถัดจากนั้นไปก็เป็นกำแพงแต่ไร้ซึ่งช่องประตู มีเพียงต้นเฟิงฉู่ (เมเปิ้ล) เท่านั้นที่อยู่ในกรอบสายตา แต่ไม่ทันที่เด็กสาวจะแย้งอีกฝ่ายก็เดินนำไปนู่นแล้ว มีแต่ต้องเดินตามเขาไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ บางทีอีกฝ่ายน่าจะอยากเดินเลาะด้านในเผื่อจะเจอทางเข้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาข้ามคลอง แต่เด็กหนุ่มกับยืนจ้องกำแพงที่มีความสูงเลยศีรษะบุรุษไปเล็กน้อย
           
           “เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะคุณชายซู ตรงนี้ไม่มีประตูเลยนะเจ้าคะ”
           
           “มาถึงตรงนี้ก็ไม่ต้องใช้แล้วประตงประตู” ตงฮั่วขยับตัวไปใช้ต้นเฟิงฉู่สูงใหญ่เป็นกำบังก่อนจะย่อตัวลงแล้วหันมาพูดกับเด็กสาว “เหยียบไหล่ข้าปีนขึ้นไปเลย”
           
           “อะ..อะไรนะเจ้าคะ!”
            
           คำพูดที่ได้ยินทำเอาเด็กสาวแทบไม่เชื่อหู อยู่ ๆ ให้มาปีนกำแพงศาลเจ้าแบบนี้เทพีฉางเอ๋อคงจะพิโรธตายเลย
           
           “ตามนั้น เร็วสิ”
           
           คำรบเร้าของเด็กหนุ่มทำเอาเฟินเยว่ไร้ทางเลือก “ขออภัยนะเจ้าคะ” นางเหยียบไหล่ของตงฮั่วก่อนที่จะพยุงตัวขึ้นบนกำแพงไป บอกตามตรงเลยว่าอยู่สูงขนาดนี้ก็รู้สึกกลัวอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ทันที่นางจะคิดอะไรไปมากกว่านั้นคนที่ให้เหยียบไหล่ก็ปีนขึ้นมาและกระโดดลงอีกฝั่งไปแล้ว
           
           “กระโดดลงมาเลย ไม่ต้องกลัวข้ารอรับให้”
           
           เด็กหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับอ้าแขนทั้งสองข้างออกมาที่ด้านหน้า ไหน ๆ มาขนาดนี้แล้วไม่ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลังก็มีแต่ต้องกระโดดลงไป เด็กสาวหลับตาปี๋ก่อนที่จะกระโดดลงมา เฟินเยว่ได้แต่เชื่อใจสหายว่าจะไม่ทำให้นางหน้าคะมำ
           
           “ฮึ้บ!!!”
           
           ด้วยความพริ้วไหวของเนื้อผ้าทำให้เห็นได้ว่านางใส่กางเกงขายาวด้านในไว้ชัดเจน การกระโดดลงพื้นดูจะเป็นไปอย่างสวยงามโดยไม่ต้องพึ่งพาคนรับด้านล่าง แต่ด้วยแรงดันอากาศปะทะพื้นก็ส่งผลต่อฝ่าเท้าไปไม่น้อย
           
           “อ๋าาา จะ.. เจ็บ ๆๆๆ”
           
           เด็กสาวกระโดดโหยงเป็นกระต่ายขาเดียวอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ความเจ็บปวดนั้นจะหายไปอย่างรวดเร็ว พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นอีกฝ่ายกุมท้องขำแทนที่จะสงสาร เฟินเยว่จึงได้แต่ทำแก้มพองเป็นปลาปักเป้า
           
           “เห็นไหม ก็ไม่ยากใช่ไหมล่ะ ฮะฮะ..”
           
           “ฮึ่ม ไม่ยากเลยเจ้าค่ะ แต่ขากลับไม่เอาแบบนี้แล้วนะเจ้าคะ”
           
           เด็กสาวทำเสียงเหมือนงอนแต่ว่าไม่ได้โกรธอะไรเขาหรอก นางชะโงกหน้าไปทางที่สักการะรูปปั้นเทพี ตรงนั้นยังคงคนเยอะไม่สร่างซา เห็นแล้วก็น่าเหนื่อยใจหากจะต้องเข้าไปแทรกฝูงชน แต่พอมองไปอีกฝั่งก็เห็นร้านค้าออกมาตั้งแผงเรียงราย เนื่องจากผู้เข้าชมมัวแต่สนใจขอพรกันอยู่จึงไม่ค่อยมีผู้ใดผ่านมาทางนี้
            
           “คุณชายซูเจ้าคะ เราไปที่ร้านน้ำชาตรงนั้นกันก่อนไหมเจ้าคะ พอคนซาค่อยไปไหว้เทพีฉางเอ๋อกันเจ้าค่ะ”
           
           “เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน ไปกันเถอะ”
           
           ทั้งสองเดินไปที่จุดตั้งแฝงร้านค้าเร่ ที่ตรงนั้นมีร้านขายของมากมายไม่ว่าจะเป็นน้ำชา ขนมหวาน อาหาร สมบัติล้ำค่า ของทำมือ หรือแม้แต่อาชาที่นางไม่มีปัญญาซื้อ เพียงแค่รู้กำลังทรัพย์ก็สามารถปลงตกและละกิเลสได้ในทันที ตรงกลางลานเป็นโต๊ะเก้าอี้ที่ทุกร้านสามารถใช้ได้ร่วมกัน
           
           “เจ้าเป็นคนสั่งก็แล้วกันข้านึกไม่ออก”
           
           เด็กสาวกำลังจะอ้าปากพูดว่า ‘ถ้าคุณชายซูอยากทานอะไรก็สั่งได้เลยนะเจ้าคะ’ แต่ก็ต้องหุบปากลงไปแล้วหันไปยิ้มหวานสั่งกับเถ้าแก่ร้านแทนแล้วจ่ายเงินไปตั้งแต่ต้น
           
           “ขอชาเจียวกู่หลานสองที่เจ้าค่ะ แล้วก็ขนมแป้งนึ่งหนึ่งจาน”
           
           เมื่อสั่งเสร็จไม่นานของที่สั่งก็มาส่งในทันที เด็กสาวชิมชาไปหนึ่งอึกแล้วรู้สึกติดใจ นางจำได้ว่าคุณชายซูเคยบ่นว่าอยากดื่มชาเจียวกู่หลาน ดังนั้นหากหาซื้อติดไว้บ้างก็น่าจะดี
           
           “เถ้าแก่เจ้าคะ มีใบชาขายหรือเปล่าเจ้าคะ”
           
           “มีขอรับ แม่นางเลือกได้เลย”
           
           “อื่ม ถ้าอย่างนั้นขอเป็นใบชาเจียวกู่หลานหนึ่งชุดเจ้าค่ะ”
            
          “ใบชาเจียวกู่หลานหนึ่งชุด แปดร้อยอีแปะขอรับ”
           
           “นี่เจ้าค่ะ”
           
           เด็กสาวออกเงินจ่ายไปแล้วรับเอากระปุกใบชามาพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนที่จะกลับมานั่งทานขนมต่อ
            
.
.
.
            

ลักษณะนิสัยเห็นอกเห็นใจ
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ

ซื้อ ใบชาเจียวกู่หลาน จำนวน 2 ชุด เป็นเงิน 1,600 อีแปะ

[152] มอบ ชาเจียวกู่หลาน ให้ ซู ตงฮั่ว




←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
พยัคฆ์ตงเทียน
หยกเชื่อมสัมพันธ์
พู่กันเหวิ่นเซ่า
ถุงหอมจูอวี๋
กลยุทธ์เล่ออี้
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x40
x32
x1
x439
x500
x73
x500
x26
x498
x500
x10
x2
x9
x1
x400
x1
x1
x5
x28
x8
x591
x228
x228
x500
x2514
x18
x14
x1
x5
x1
x2
x100
x5
x50
x100
x3
x3
x10
x2
x47
x64
x6
x9
x2
x71
x1
x24
x95
x50
x86
x150
x260
x150
x150
x46
x46
x2
x2
x6
x2
x2
x34
x4
x1
x8
x1
x2
x7
x5
x8
x7
x110
x7
x74
x45
x3
x30
x63
x74
x79
x2
x71
x68
x6
x45
x50
x160
x316
x3
x220
x48
x35
x168
x12
x10
x25
x1
x13
x6
x4
x6
โพสต์ 2021-9-21 22:31:55 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Jinying เมื่อ 2021-9-21 23:09


เที่ยวงานเทศกาลไหว้พระจันทร์
.
.
.

          เมื่อเดินทางมาถึงเมืองฉางอันก็เข้าใกล้ยามห้ายพอดีทำให้เมืองครึกครื้นเป็นพิเศษ ผู้คนจากหลายเมืองต่างแวะเวียนเข้ามาร่วมงานทำให้รอบบริเวณคนอยู่อย่างเนืองแน่น ยามที่ทั้งสามลงจากม้ายังจุดพักม้า รวมถึงบอกลาบัณฑิตหนุ่มที่ราวกับถูกละลายพฤติกรรมจนลดมาดที่ฉาบไว้ในคราแรกลงทั้งยังส่งยิ้มลาในตอนท้ายอีกเสียด้วย ต่อมาจิ้นอิ๋งจึงได้พาผู้ติดตามทั้งสองไปยังโรงเตี๊ยมของเมืองเพื่อทำการเก็บของที่ปลดจากหลังม้ามาเก็บไว้ก่อนเดินเที่ยวในงาน

          ทว่าทันทีที่เก็บเสร็จและเตรียมตัวเดินงานนั้น ถานเจ๋อกลับแสดงสีหน้าลำบากใจขึ้นมาขณะยืนนิ่งยังหน้าโรงเตี๊ยม ซึ่งจิ้นอิ๋งที่เดานิสัยผู้ติดตามได้ไม่ยากก็เผยรอยยิ้มเจือความขบขันส่งไปให้

          " เอาเป็นว่า.. ข้าจะเดินเที่ยวงานกับแม่นางเหมย ส่วนถานเจ๋อเที่ยวตามใจเจ้าเลยแล้วกันนะ "

          สิ้นประโยคจากจิ้นอิ๋ง ถานเจ๋อก็แย้มรอยยิ้มกว้างก่อนค้อมตัวขอบคุณผู้เป็นนายด้วยความดีใจก่อนเดินย้อนกลับหายังส่วนของโรงเตี๊ยมที่มีคนคึกคักไม่ต่างกัน ทำเอาสตรีสองนางที่มองตามถึงกับหันสบตาหลุดหัวเราะกันทั้งคู่ ก่อนจิ้นอิ๋งจะพาซูฮวาเดินต่อมายังส่วนของศาลเจ้าเทพธิดาฉางเอ๋อ

          ยามนี้ทั้งคู่ต่างแต่งกายด้วยชุดผ้าคลุมยาวและกระโปรงตวนทำจากผ้าแพรมีระบายดูสวยงาม หากแต่ต่างสีและช่วยขับเรือนร่างและรูปลักษณ์ให้น่ามอง ทางฝั่งเหมยซูฮวานั้นส่วนเสื้อคลุมเป็นสีเขียวตองปักลายดอกเหมยฮวาสีชมพูยังขอบปก ประดับรับกับผืนกระโปรงพองยาวสีเขียวตองที่อ่อนลงมาอีกราวสองระดับ จิ้นอิ๋งเป็นเสื้อคลุมสีชมพูอ่อนปักลายดอกหลันฮวาสีขาว ผืนกระโปรงสีชมพูครีมอ่อนชวนให้รู้สึกอ่อนเยาว์ ทรงผมทั้งคู่ต่างผลัดกันมัดรวบเอาผมเพียงด้านข้างไว้เบื้องหลังก่อนประดับปักด้วยปิ่นเงินฉลุลายเรียบ ๆ เมื่อทั้งคู่เดินเคียงชวนให้รู้สึกราวกับพี่สาวน้องสาวก็ไม่ปาน

          ปลายทางสถานที่อันเป็นพื้นที่ศาลที่จัดงาน คนมากหน้าหลายตาต่างเดินขวักไขว่ชวนให้บรรยากาศดูสนุกสนาน จิ้นอิ๋งที่เพิ่งก้าวถึงวัยปักปิ่นจึงมีความเป็นเด็กที่ยังสลัดไม่หาย จับจูงมือซูฮวาพาเที่ยวชมงานอย่างกระตือรือร้น เริ่มแรกนั้นสองสตรีได้เข้าไปขอพรกันเพื่อทำความเคารพเทพีฉางเอ๋อเสียก่อนจะได้เดินเที่ยวงานอย่างไร้ความกังวลใด

          " ขอพรกันเจ้าค่ะแม่นางเหมย! "

          ดรุณีน้อยเอ่ยหาสตรีข้างกายอย่างกระตือรือร้นหลังค้อมประนมทำความเคารพและมอบขนมเยว่ปิ่งที่ตนทำเองลงยังโต๊ะรับของสักการะเบื้องหน้ารูปปั้นของเทพีแล้ว สองมือประสานรับแนบชิดยังริมฝีปากเล็กที่ขยับขมุบขมิบเอ่ยขอพรไร้เสียงอย่างที่เคยกระทำมาทุกปี

          ท่านเทพีเจ้าคะ ในปีนี้ตัวข้า กู่จิ้นอิ๋ง ก็มาขอพรเรื่องสุขภาพเช่นเดิม ขอให้ครอบครัวข้า ท่านพ่อท่านแม่และจิ้นเล่อสุขภาพแข็งแรง ไม่ว่าอยู่ที่แห่งใดก็ขอให้ปลอดภัยด้วยนะเจ้าคะ.. แล้วก็ขอให้บรรดาคนรู้จักมิตรสหายของข้าสุขภาพดีโดยทั่วกัน

          โดยเฉพาะท่านกัวฟ่งเสี้ยว ขอให้หายป่วยไว ๆ เลยนะเจ้าคะ…

          ดวงตาหวานโศกลืมขึ้นยามเมื่อสิ้นคำอธิษฐาน แต่แล้วในตอนที่กำลังจะชวนซูฮวาให้เที่ยวชมงานด้วยกันต่อไปก็ต้องเร่งย้อนกลับมาหันประสานมือพร้อมหลับตาปี๋อีกหน

          จริงด้วย! แล้วก็ขอให้ข้าสุขภาพแข็งแรงเช่นกันด้วยนะเจ้าคะ!

          เป็นอีกปีที่จิ้นอิ๋งเกือบจะลืมขอพรให้ตัวเองอีกหน ทำเอาซูฮวาที่เห็นภาพเมื่อครู่ แม้ไม่รู้ว่าเด็กสาวขอเรื่องอะไร แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะเอ็นดูไม่น้อยเลยเชียว
          .
          .
          ภายในตัวงานคึกคักไปด้วยแผงลอยขายของ สองสตรีผู้ชื่นชอบของเครื่องประดับต่างพากันหยุดแวะเวียนชื่นชมกันไม่หยุด แม้ไม่ได้อุดหนุนซื้อของติดไม้ติดมือแต่เถ้าแก่ร้านต่างไม่ถือสาใด อาจเพราะพวกนางยังดูเยาว์วัยจึงไม่ได้บังคับหรือโน้มน้าวใดมากนัก แต่แล้วในตอนที่ผ่านมายังส่วนของแผงขายวัตถุดิบ ทั้งสองต่างหยุดยืนนิ่ง ดูแล้วไม่แคล้วสนใจอยากจับจ่ายใช้สอยมากกว่าเครื่องประดับเสียอีก

          " แม่นางเหมยชอบชาหรือไม่เจ้าคะ? "

          จิ้นอิ๋งเอ่ยถามระหว่างไล่ปลายนิ้วแตะจับยังเหล่าใบชาแห้งที่วางไว้เป็นตัวอย่าง พลางยกจรดดมกลิ่นอย่างสนใจ ซึ่งสตรีข้างกายก็พยักหน้ารับหนักแน่นไม่ต่างกัน ก่อนเอ่ยแนะนำยังตัวใบชาต่าง ๆ อย่างผู้มีความรู้เสียจนจิ้นอิ๋งสบมองนางทั้งตาประกาย

          " แล้วก็ใบชาผิงลี่ใช้สำหรับทำชาผิงลี่หนี่วา ชาตัวนี้จะโชยกลิ่นหอมหวาน แต่จะกลิ่นไม่แรงนะเจ้าคะ ทั้งยังฝาดน้อย ดื่มแล้วชุ่มคอนักล่ะเจ้าค่ะ "

          " โห.. แม่นางเหมยรู้เยอะดีจังเลยเจ้าค่ะ ข้าตัดสินใจแล้ว! ท่านเถ้าแก่เจ้าคะ ข้าขอซื้อใบชาทุกชนิดอย่างละชุดเจ้าค่ะ! "

          หลังได้ความรู้เพิ่มเติมมาเล็กน้อยเกี่ยวกับใบชาหายากแต่ละชนิด ทำให้จิ้นอิ๋งตัดสินใจกวาดซื้อชามาด้วยความสนใจ อีกทั้งแต่ละชุดของใบชาก็ทำได้หลายครั้งจนนางคิดว่าสามารถดื่มร่วมกับผู้ติดตามทั้งสองได้อย่างแน่นอน ฝั่งซูฮวาที่เห็นแบบนั้นก็อดแอบดึงแขนเสื้อของดรุณีน้อยเรียกความสนใจไม่ได้เมื่อได้ยินราคาทั้งหมด ทว่าจิ้นอิ๋งก็เพียงหันไปส่งยิ้มให้แก่อีกสตรีเพื่อให้คลายกังวล

          " มางานเทศกาลทั้งทีนะเจ้าคะแม่นางเหมย.. เราอย่าเครียดเรื่องราคาที่จ่ายไปดีกว่า สนใจว่าเรามีความสุขที่ได้ซื้อดีกว่านะเจ้าคะ~ "

          สิ้นเสียงกระซิบที่จิ้นอิ๋งเอ่ยหา นางก็หันไปค้อมหัวพลางยื่นมือรับหีบห่อที่บรรจุบรรดาใบชาที่สั่งซื้อจากเถ้าแก่ร้านทั้งรอยยิ้มกว้างจนดวงตาหวานโค้งหยี ซูฮวาที่เห็นท่าทางสดใสสมวัยแบบนั้นของนางก็ได้แต่พยักหน้าทั้งรอยยิ้มตามไปด้วย
          .
          .
          หลังเดินดูของจนพอใจ สตรีทั้งสองก็ตัดสินใจมาเลือกดูโคมที่จะทำการปล่อยหลังเริ่มเห็นผู้คนบางส่วนได้จุดโคมเตรียมปล่อยกันบ้างแล้ว ซึ่งทันทีที่มาเยือนยังจุดขายโคม จิ้นอิ๋งก็อดไม่ได้ที่หลุดเสียงหัวเราะใสออกมาด้วยความตื่นเต้น ก่อนเร่งจูงมือซูฮวาให้พากันเลือกลายบนโคมนั้นโดยได้เสนอวิธีการแข่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ขึ้นมาด้วยความนึกสนุกของนางเอง

          " เรามาแข่งกันลองหาลายโคมเป็นลายเดียวกับดอกไม้บนเสื้อเราดีหรือไม่เจ้าคะแม่นางเหมย! " ซูฮวาที่ไม่นึกว่าจะโดยเสนอให้ลองแข่งอะไรแบบนั้นมาพลันนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนหลุดรอยยิ้มเอ็นดูออกมาไม่รู้ตัว

          " คนแพ้เลี้ยงถังหูลู่นะเจ้าคะ "

          ซูฮวาเอ่ยเย้ากลับหาจนจิ้นอิ๋งตาประกายดูมุ่งมั่นไม่น้อย จนเถ้าแก่ที่ขายโคมแทบอยากจะหลุดหัวเราะให้กับสองสตรีนี่เข้าให้ แต่ก็กลายเป็นนิ่งมองทั้งคู่ที่หลังสิ้นคำพูดก็พยายามหาเสียจริงจัง โดยแน่นอนว่าดรุณีในชุดชมพูดูจะจริงจังเสียจนริมฝีปากเล็ก ๆ นั้นเม้มแน่นเลยเชียว ทว่าเถ้าแก่ก็แอบเห็นว่าทางซูฮวาหาเจอแล้วแต่พอแอบผินสายตามองไปยังจิ้นอิ๋งที่ยังหาไม่ได้อยู่นั้น นางก็ทำทีไปหาที่อื่นจนเด็กสาวหยิบลายดอกหลันฮวาขึ้นมาได้ ก็ร้องบอกเจอแล้วเสียงไม่ดังนักพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้มจนดวงตาโค้งเสี้ยว เถ้าแก่จึงเข้าใจว่าทำไมสตรีที่อายุมากกว่าถึงรอเป็นฝ่ายแพ้แทนเช่นนั้น

          " ท่านจิ้นอิ๋งตาไวจังเลยเจ้าค่ะ "

          " แฮะแฮะ~ ชมเกินไปแล้ว อย่าลืมถังหูลู่ข้านะเจ้าคะ "

          เด็กสาวตอบรับน้ำเสียงสดใสก่อนจะยื่นเงินจ่ายให้เถ้าแก่ร้านที่รอรับทั้งรอยยิ้มอยู่ด้วยความเอ็นดู จนเรียบร้อยทั้งคู่ถึงผละพากันไปจุดโคมเตรียมอธิษฐานก่อนปล่อยไป

          ในยามที่หน้าผากนางแตะแผ่วยังตัวโคม จิ้นอิ๋งภาวนาขอให้ครอบครัวปลอดภัยไม่หยุดหย่อน ทั้งขอให้ตัวนางนั้นได้พบกับครอบครัวอีกครั้งอย่างคาดหวัง มือเล็กถึงยอมปล่อยให้โคมที่พองสว่างละล่องลอยขึ้นเหนือฟ้า ไหลตามกระแสลมอ่อนเคลื่อนคล้อยไปทางเดียวกับเหล่าโคมอื่นจนคล้ายกับดวงดาวดวงโตประดับล้อมดวงจันทร์กลมสว่างที่ทอแสงนวลอยู่

          แววตาสีนิลแทบสะท้อนภาพเบื้องหน้าไว้ชัด เฝ้ามองยังดวงจันทร์ที่ยามปรากฏเต็มดวงดาวรอบ ๆ ก็พลันเลือนหาย แม้ชูเด่นสวยงามท่ามกลางผืนฟ้าสีหมึกที่ไร้เมฆเคลื่อนคล้อย ทว่ากลับดูโดดเดี่ยวอย่างประหลาด ให้เสียงหวานเอ่ยหาคนข้าง ๆ ขึ้นมา

          " แม่นางเหมยว่า.. ท่านเทพีฉางเอ๋อจะเหงาหรือไม่เจ้าคะที่ขึ้นไปบนดวงจันทร์คนเดียว "

          " อืม… คงจะเหงาบ้างนะเจ้าคะ เพราะท่านโฮ่วอี้ไม่ได้ตามไปด้วย "

          แววตาเด็กสาวดูหมองลงเล็กน้อย ก่อนนางจะประสานมือขึ้นมาพลางส่งคำอวยพรหนึ่งคืนไป

          ขอให้เหล่าโคมที่ลอยไปกลายเป็นเพื่อนเล่นให้ท่านเทพีฉางเอ๋อร์ด้วยนะเจ้าคะ
          .
          .
          " จะว่าไป.. ท่านจิ้นอิ๋งเรียกข้าว่าซูฮวาได้นะเจ้าคะ ข้าไม่ถือ "

          ระหว่างเส้นทางเที่ยวงานรอบสุดท้าย สตรีแซ่เหมยที่คล้ายสบายใจมากขึ้นยามได้รู้จักกับเด็กสาวข้างกายพลันเอ่ยหาเรื่องการเรียกชื่อ ซึ่งทำให้จิ้นอิ๋งที่กำลังกัดเอาถังหูลู่ในมือทานไปคำหนึ่งถึงกับรีบกลืนลงคอเพื่อตอบรับอีกฝ่ายเลยเชียว

          " เรียกได้หรือเจ้าคะ! งั้นพี่ซูฮวาก็เรียกข้าว่าอิ๋งเอ๋อร์ได้เช่นกันนะเจ้าคะ! "

          นางกล่าวบอกถึงชื่อเล่นที่มักจะเอ่ยให้คนที่ไว้ใจเรียกกลับ ซึ่งซูฮวาที่ได้ยินก็พยักหน้ารับรับคำของดรุณีน้อยไปด้วยความเต็มใจเช่นกัน ก่อนทั้งคู่จะสังเกตถึงบริเวณหนึ่งที่มีคนรุมออมากกว่าปกติพร้อมกับเสียงประกาศบอกว่ามีของแจกวันเทศกาลแสนคุ้นหูดังขึ้น จิ้นอิ๋งพลันพาอีกสตรีให้เดินไปดูด้วยกันก่อนเจอเข้ากับสามพ่อค้าใหญ่ตระกูลหวังที่ทำเอานางหลุดร้องอุทานขึ้นมาด้วยนึกได้ว่าตั้งใจเอาขนมมาฝาก ร่างเล็กจึงจูงมือซูฮวาให้เข้าไปหาด้วยกันอย่างกระตือรือร้น
          .
          " ท่านพ่อค้าหวังเจ้าคะ~ " เสียงของจิ้นอิ๋งที่เอ่ยทักเรียกความสนใจจากพ่อค้าหวังคนพี่ได้เป็นคนแรก หวังจินหันมาตามเสียงก่อนจะแย้มรอยยิ้มกว้างทันทีที่เจอเด็กสาวคุ้นหน้าจากลั่วหยาง

          " โฮ่! กำลังรอแม่นางกู่อยู่เลยเชียวว่าจะมางานหรือไม่ ถือขนมมาเช่นนี้ เที่ยวจนเพลินเลยสิท่า "

          พ่อค้าหวังจินเอ่ยทักขึ้นเสียงกลั้วขำ ซึ่งจิ้นอิ่งที่ได้ยินก็เผลอลดมือที่ถือไม้ขนมลงราวจะซ่อน แต่ก็ไม่ทันกาลแล้วจนได้แต่พากันหัวเราะส่งหากันไป ก่อนนางจะเอ่ยแนะนำผู้ติดตามของนางอย่างซูฮวาให้พ่อค้าทั้งสามได้ทำความรู้จัก ซึ่งนางก็เพียงเดินมาหลบหลังจิ้นอิ๋งดูทั้งอายและแฝงแววความหวั่นเล็กน้อยให้ดรุณีน้อยต้องเร่งอธิบาย

          " พอดีพี่สาวซูฮวานางเจอเรื่องยากลำบากมาน่ะเจ้าค่ะ " แม้กล่าวออกมาไม่ได้ทั้งหมด แต่พ่อค้าหวังจินก็คล้ายเข้าใจและไม่ได้เอ่ยทักท้วงอะไรมากไปกว่าพาเปลี่ยนเรื่องให้คลายบรรยากาศ

          " อืม.. ข้าเข้าใจแล้ว… เอาเป็นว่าวันนี้วันดี ข้าเลยจะแจกของให้ทุกคนรวมถึงเจ้าด้วยนะแม่นางกู่ ...ถึงจะไม่จำเป็นเท่าไหร่ แต่ก็ต้องทำเหมือนคนอื่น ข้าขอดูสมุดเดินทางของแม่นางได้หรือไม่? "

          สิ้นคำขอของพ่อค้าหวังจิน จิ้นอิ๋งก็ค้นเอาสมุดเดินทางของนางในกระเป๋าย่ามออกมาให้อีกฝ่ายดู ซึ่งอีกฝ่ายก็ตรวจดูอย่างละเอียดตามที่ตรวขของผู้อื่น ก่อนพยักหน้ารับดูพอใจพลางส่งคืนและเอ่ยถึงของที่นำมาแจกให้ประชาชนอื่นแก่เด็กสาวตรงหน้า และเปิดโอกาสให้เลือกได้อย่างใดอย่างหนึ่ง

          " โห.. ท่านพ่อค้าใจดีจังเลยเจ้าค่ะ ไม่ขาดทุนอะไรหรือไม่เจ้าคะ " เอ่ยถามอย่างนึกห่วงแทนเสียอย่างนั้น ทำเอาพ่อค้าแทบหลุดหัวเราะพลางเอ่ยเร่งให้นางเลือกได้เลยไม่ต้องเกรงใจ

          " งั้น… ข้าขอให้ท่านพ่อค้าช่วยอวยพรในวันงานให้แก่ข้าก็แล้วกันเจ้าค่ะ! "

          " หืม? แน่ใจหรือแม่นางกู่ " พ่อค้าหวังจินที่ได้ยินสิ่งที่ขอจากนางพลันเลิกคิ้วฉงนดูไม่แน่ใจนัก

          " แน่เจ้าค่ะ!.. เพราะปกติท่านพ่อกับท่านแม่ต้องอวยพรให้ข้าแล้วในยามนี้… ท่านพ่อค้าหวังอวยพรให้แทนได้หรือไม่เจ้าคะ? "

          จิ้นอิ๋งเอ่ยน้ำเสียงที่ดูหนักแน่นขึ้นกลับหา แสดงเจตนาของนางว่าตั้งใจเลือกเอาคำขอนี้แน่นอน ทำเอาพ่อค้าทั้งสามต้องยินยอมในที่สุด โดยคนแรกเป็นพ่อค้าหวังจินได้อวยพรเรื่องสุขภาพให้แก่จิ้นอิ๋ง ให้ร่างสุขภาพแข็งแรงอยู่ดีมีความสุข ไร้โรคภัยมาเบียดเบียนนาง ต่อมาเป็นพ่อค้าหวังเย่าที่อวยพรเรื่องเงินทองให้แก่นางว่าทำมาค้าขึ้น เก็บเงินได้ดี และอย่าบริจาคเกินควร ซึ่งในคำอวยพรตอนท้ายพ่อค้าหวังจินก็คล้ายมาช่วยย้ำอีกแรงราวกับรู้ว่าเด็กสาวคนนี้ใจอ่อนเป็นนิสัย ทำเอาจิ้นอิ๋งหลุดหัวเราะออกมาอย่างขบขัน ก่อนคนสุดท้ายที่ช่วยอวยพรจะเป็นพ่อค้าหวังทู่ที่เพิ่งได้พบพาน แต่หลังเห็นพี่ทั้งสองดูเอ็นดูเด็กสาวตรงหน้าดีเลยอดไม่ได้ที่หยอกเย้าตามประสาคนเจ้าสำราญ โดยอวยพรเรื่องความรักให้ผู้คนรักใคร่เอ็นดูไม่ขาด ไหนจะบอกให้สมหวังในความรักกับคนในดวงใจอีกด้วย

          ตัวจิ้นอิ๋งที่ได้ยินก็พาลคิดถึงครอบครัวที่นางนับว่าเป็นคนในดวงใจเลยแย้มยิ้มขานรับขอบคุณอีกฝ่ายขึ้นมาจนพ่อค้าหวังจินหันมองเด็กสาวที่เห็นมาแต่อ้อนแต่ออดกลับมาขานรับเรื่องความรัก เล่นเอาเผลอแสดงสีหน้าแปลกประหลาดเรียกเสียงหัวเราะพอใจจากพ่อค้าหวังทู่ขึ้นมาที่แกล้งพี่ชายได้ผล

          " ขอบคุณสำหรับคำอวยพรของท่านพ่อค้าทั้งสามมากเลยนะเจ้าคะ! ข้าก็ขอให้คำอวยพรที่ข้าได้รับมาส่งคืนหาพวกท่านด้วยเลยเจ้าค่ะ! แล้วก็นี่! ขนมเยว่ปิ่งที่ข้าทำเองเจ้าค่ะ! ตอนนี้มันยังแข็งอยู่เสียหน่อย อีกสักสามวันค่อยทานนะเจ้าคะ " จบคำจิ้นอิ๋งก็หันไปกระซิบข้างหูบางอย่างให้ซูฮวา ก่อนสองสตรีจะหันหลับมาค้อมหาพ่อค้าทั้งสามพลางเอ่ยประโยคหนึ่งออกพร้อมกัน

          " สุขสันต์วันไหว้พระจันทร์เจ้าค่ะ / สุขสันต์วันไหว้พระจันทร์นะเจ้าคะท่านพ่อค้าหวัง~ "
          .
          .
          หลังได้แยกจากพ่อค้าทั้งสาม ทั้งสองที่เดินเที่ยวงานเสียจนเกือบดึกดื่นก็เตรียมเข้านอนด้วยเพราะตัวจิ้นอิ่งก็เริ่มที่จะง่วงขึ้นมาจนดวงตากลมเริ่มจะหรี่ปรือน้อย ๆ กับซูฮวาที่เริ่มปวดเท้าหลังเดินไม่หยุด ทว่าก่อนที่ทั้งคู่จะกลับคืนสู่โรงเตี๊ยมที่พัก เสียงหวานจากจิ้นอิ๋งพลันถามแทรกขึ้นมา

          " วันนี้พี่ซูฮวาสนุกหรือไม่เจ้าคะ "

          เจ้าของชื่อแทบชะงักไปครู่ ความเครียดจากความทรงจำที่คอยหลอกหลอนในวันนี้ดูเบาบางกว่าทุกวันจนนางหันมองเด็กสาวข้างกายที่สบสายตามองกลับอยู่เช่นกัน คล้ายรับรู้ถึงเจตนาที่พยายามพานางเที่ยวในวันนี้ ซึ่งช่วยผ่อนคลายให้นางรู้สึกดีขึ้นจริง ๆ รอยยิ้มหวานจึงถูกส่งกลับยังจิ้นอิ๋งด้วยความรู้สึกขอบคุณจากใจ

          " สนุกมากเลยเจ้าค่ะ.. ขอบคุณอิ๋งเอ๋อร์มากเลยนะเจ้าคะ "

          คำตอบนั้นทำเอาจิ้นอิ๋งยกยิ้มเสียแก้มกลม ก่อนทั้งคู่จะเดินกลับด้วยบรรยากษสที่ความเหนื่อยล้าที่โรยตัวก่อนหน้าแทบจะหายไปเสียปลิดทิ้ง ยิ่งยามกลับมาเจอถานเจ๋อกำลังดวลสุรากับคนในโรงเตี๊ยมอย่างสนุกสนานก็ยิ่งเรียกเสียงหัวเราะให้ทั้งคู่เข้าไปอีก สองสตรีจึงผละแยกพากันเข้าห้องพักปล่อยให้บุรุษเพียงหนึ่งของกลุ่มได้ใช้เวลายามเทศกาลให้สนุกสนาน

          ส่วนจิ้นอิ๋งที่อิ่มเอมแล้วในวันนี้ก็ขอชำระร่างกายเตรียมตัวนอนก่อนแล้วกัน!


ซื้อ: ใบชาผิงลี่ 1 ชุด, ใบชาต้าหงเผา 1 ชุด, ใบชาเจียวกู่หลาน 1 ชุด,
ใบชาผู่เอ๋อร์ 1 ชุด, ใบชาเหมาเฟิง 1 ชุด รวมจ่ายค่าสินค้า 3,900 อีแปะ
ซื้อ: โคมลอย 2 อัน รวมจ่ายค่าสินค้า 30 ตำลึงเงิน
ตัวเลือกรางวัลจากสามพ่อค้าใหญ่ : (3) แจกคำอวยพรจากพ่อค้าหวัง

มอบ ขนมเยว่ปิ่ง 3 ก้อน ให้พ่อค้าหวังสามพี่น้อง
ลักษณะนิสัยใจกว้าง
+15 EXP ทุกครั้งที่โรลแบ่งปันข้าวของบริจาคด้วยความเมตตาให้ผู้อื่น

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลงเฟิ่งฉิวหวง
ถุงหอมจูอวี๋
กระบี่
พู่หยกเลือดหงส์
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าเหลียง
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x5
x2
x2
x1
x2
x2
x2
x1
x1
x27
x2
x38
x40
x50
x50
x40
x40
x50
x3
x22
x19
x31
x10
x50
x5
x5
x5
x1
x12
x1
x2
x5
x2
x9
x1
x8
x6
x6
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2021-9-21 22:50:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ZhaoPei เมื่อ 2021-9-24 11:21


เสียงผู้คนมากมายพูดคุยแข่งกันเกิดดังไปทั่วบริเวณงานเทศกาล แม้จะเข้าสู่กลียุคแต่ภายในตัวงานกลับครื้นเครงให้กลับมาเป็นช่วงที่บ้านเมืองยังสงบสุขอีกครั้ง แสงจากโคมส่องประกายไปทั่วเส้นทางปรากฏผู้คนมากหน้าหลายตาที่ไม่เคยเห็นตาแสดงท่าทีสนุกสนานก็พลอยทำให้จ้าวเพ่ยรู้สึกดีไม่น้อย

ยังดีที่ไม่มีตัวทำลายอารมณ์อย่างซุนหยางติดตามมาก็ยิ่งทำให้เทศกาลดูน่าสนุกยิ่งขึ้นกว่าเดิม จ้าวเพ่ยเดินชมงานพร้อมห่อขนมเยว่ปิ่งที่พร้อมจะนำมาถวายแก่เทพีฉางเอ๋อ ในช่วงเทศกาลจงชิ่วเจี๋ย สายตามองไปทั่วงานที่มีครอบครัวมากมายต่างพูดคุยอย่างสนุกสนาน ยิ่งทำให้นึกถึงช่วงอดีตที่ยังเด็ก ครั้งที่นางกับอาอี๋ร่วมชมงานเทศกาลจงชิ่วเจี๋ย ความรู้สึกเดิมๆผุดขึ้นมาให้นางก้มหน้ายิ้มขึ้นมาเมื่อนึกอยากจะย้อนอดีตกลับไปยิ้มแย้มกับอาอี๋ดั่งเช่นเคยเป็นมา

สองขาก้าวอย่างเอื่อยเฉื่อยราวกับไม่รีบร้อนอะไรมาหยุดยืนตรงหน้าศาลเจ้าเทพธิดาฉางเอ๋อที่มีการจัดพิธีสำหรับงานจงชิ่วเจี๋ยอยู่แล้ว หญิงสาวนำขนมเยว่ปิ่งที่ทำขึ้นมาเองขึ้นวางถวายแก่เทพีฉางเอ๋อ ขนมเยว่ปิ่งสามลูกวางด้วยกันบนถ้วยอย่างสวยงามทำให้นางพอใจกับฝีมือที่ดูไม่น่าจะมีข้อติ ก่อนจะก้าวถอยออกมาเพื่อสักการะเทพีฉางเอ๋อไปด้วย

'ขอให้ข้า สมหวังในเรื่องความรักพบคู่กายคู่ใจเสียทีเถิด'

หญิงสาวกล่าวขอพรแก่เทพีก่อนจะนิ่งไปครู่หนึ่ง นางลดมือลงอย่างช้าๆ ก่อนจะมองไปยังรอบๆบริเวณที่มีผู้คนต่างมาขอพรแก่เทพีอย่างมากล้น รับรู้ถึงพรที่เทพีมอบให้มา ถึงแม้จะเพียงความรู้สึกที่ดีที่ได้รับหลังจากที่ได้ถวายขนมและร่วมขอพรแต่ก็ย่อมดีกว่าไม่ได้อะไรกลับคืนมา นางเดินไปยังจุดที่มีผู้คนบางส่วนรอซื้อโคมลอยกันในเทศกาลนี้ หญิงสาวใช้มือป้องปากเพื่อปกปิดรอยยิ้มอันเปี่ยมด้วยความสุขเล็กน้อยก่อนจะเอียงคอมองจำนวนโคมที่ดูมีมากพอที่จะเหลือให้นางสักอัน

"แม่นาง… ต้องการโคมลอยสักอันไหมขอรับ?" ชายผู้ถือโคมลอยเพื่อแจกจ่ายแก่คนที่มารอรับ หันมามองจ้าวเพ่ยขณะเขารับตำลึงจากการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม

"เจ้าค่ะ" นางตอบรับด้วยความไว นิ้วเรียวสวยหยิบถุงใส่ตำลึงลายปักขึ้นมาเพื่อหยิบตำลึงเงินจำนวน 15 หน่วยขึ้นมาแลกกับโคมลอยในมือชายผู้นั้น หญิงสาวรับโคมมาแต่ดูเหมือนความเทอะทะของไผ่บางที่คอยทำให้นางลำบากกับการถือโคมขณะจับพู่กันมาเขียนในที่ที่ศาลเจ้าจัดเตรียมมาให้

ความลำบากวุ่นวายของหญิงสาวที่มาคนเดียวย่อมเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว มือหนึ่งที่ถือโคมให้มั่นมือกับอีกมือถือพู่กันเพื่อเขียนคำอวยพรย่อมไม่แข็งแรงอยู่แล้ว หลังเขียนคำอธิฐาน หญิงสาวที่วางพู่กันลงเป็นจังหวะที่มือไม้อ่อนแรงจนโคมลอยในมือหลุดออกไป โชคดีที่มีคนรับไว้ให้ได้ทันก่อนจะตกถึงพื้น ทำให้นางต้องรีบไปหาผู้ที่เก็บโคมของนางได้ทันที

"ขอบคุณมากเจ้าค่ะ" จ้าวเพ่ยกล่าวขอบคุณกับผู้ที่ช่วยตนเอาไว้ นางรับโคมจากอีกฝ่ายก่อนจะพึ่งนึกได้ว่าเขียนคำอธิฐานอะไรลงไป หญิงสาวเร่งปิดคำนั้นทันทีแต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้วเมื่อสายตามองมาที่นางกลับดูเหมือนรู้ทั้งหมดอยู่แล้ว

"ท่าน… อ่านหมดแล้วหรือเจ้าคะ?"

"ข้าแค่เก็บโคมให้ ไม่ได้ใส่ใจอ่านคำอธิฐานของผู้อื่น แม่นางสบายใจได้" ชายผู้นั้นกล่าวเพื่อให้ความสบายใจแก่จ้าวเพ่ยเล็กน้อยทำให้นางโล่งอกไปเปราะหนึ่ง หากให้บุรุษมาอ่านคำอธิฐานที่มาจากสตรีเยี่ยงนาง คงได้อับอายจนต้องแหกแผ่นดินหนีเป็นแน่

หญิงสาวถือโคมลอยเพื่อไปยังจุดปล่อย แต่ดูท่าว่านางจะดูลำบากในการถือโคมที่ซื้อมาไม่น้อย เสียงบุรุษที่เก็บโคมให้นางดังขึ้นมาจากด้านหลังให้นางพอจะหันกลับไปมองคู่สนทนาอีกครั้ง

"ให้ข้าช่วยหรือไม่"

"อ๊ะ.. ดีเลยเจ้าค่ะ" โดยไม่มีท่าทีปฏิเสธเมื่อได้รับการยื่นความช่วยเหลือมา โคมลอยในมือนางถูกแย่งไปเพื่อช่วยในการถือเมื่อเดินไปยังจุดปล่อยโคมลอย จ้าวเพ่ยเดินตามอีกฝ่ายขณะลอบมองเพื่อพิจารณาบุรุษตรงหน้าทีละนิด

เมื่อถึงจุดปล่อยโคมลอย หญิงสาวได้ถือโคมจุดไฟเพื่อประคองตัวโคมให้ลอยขึ้น สายตามองจ้องไปยังโคมของตนที่ลอยขึ้นสูงดูเหมือนจะเป็นไปได้ดี หญิงสาวหวังว่าโคมของนางจะลอยสูงพอที่จะนำคำอธิฐานนั้นไปถึงบนสวรรค์ได้

ขอให้เทพีฉางเอ๋อได้เห็นมันเสียทีเถิด

หญิงสาวหันกลับไปเพื่อจะกล่าวขอบคุณแต่บุรุษผู้นั้นกลับชิงเดินกลับไปก่อน ทำให้นางเร่งก้่วผ่านผู้คนเพื่อเข้าหาอีกฝ่ายทันที จ้าวเพ่ยจับผมช่อหนึ่งของตนลูบไปมาด้วยความเขินอายขณะจะเริ่มสนทนากับอีกฝ่าย

"แม่นางมีอะไรหรือ"

"ขอบคุณที่ช่วยเหลือข้านะเจ้าคะ หาก..ท่านไม่ถือ ข้าอยากจะชวนท่านเดินเล่นภายในเทศกาลกับข้าสักครู่"

"แม่นางน่ะหรือ?" ชายผู้นั้นกล่าวถามขึ้นมาทำให้จ้าวเพ่ยเกิดความไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย หญิงสาวเกิดความกังวลเล็กน้อยเมื่อในใจก็กลัวว่าจะถูกปฏิเสธ "ย่อมได้.. สตรีที่มาเที่ยวเล่นในงานลำพัง ย่อมอันตรายหากอยู่ผู้เดียว"

จ้าวเพ่ยยิ้มขึ้นมาก่อนจะเร่งตามอีกฝ่ายให้ทันก้าวที่ยาวกว่านาง หญิงสาวเที่ยวเล่นกับบุรุษนิรนามที่ไม่ได้แม้จะเอ่ยถามขื่อ ความประหม่าเกิดขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อความเงียบเริ่มทำให้นางคิดมาก

จ้าวเพ่ยจะต้องเร่งหาบทสนทนา

"ให้เรียกท่านว่าอย่างไรเจ้าคะ?"

"เรียกข้าว่าจวิ้นไอ่ แม่นางล่ะ.."

"ข้า.. จ้าวเพ่ยเจ้าค่ะ" หญิงสาวยิ้มขึ้นมาเมื่อได้หาบทสนทนาเริ่มต้นได้แล้ว สายตาสอดส่องไปทั่วงานที่อย่างไรก็ดูครึกครื้น ตลาดรอบๆต่างตั้งของขายในราคาพิเศษที่ดูอย่างไรก็คุ้มค่าหากซื้อของติดไม้ติดมือกลับไป

"แม่นางมักจะมาเที่ยวเล่นเทศกาลผู้เดียวตลอดเลยหรือ"

"ศกนี้ข้าพึ่งจะเคยมาเดินเที่ยวผู้เดียวครั้งแรกเจ้าค่ะ" จ้าวเพ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนลงในช่วงท้ายเมื่อนึกถึงทุกปีที่ได้มากับอาอี๋ของนาง "เดินเที่ยวเล่นผู้เดียวก็สนุกไปอีกแบบนะเจ้าคะ"

"นี่มันเทศกาลของครอบครัว" ชายหนุ่มกล่าวออกมาแต่สังเกตุเห็นว่าจ้าวเพ่ยนิ่งและซึมลงเล็กน้อย ดูเหมือนจะสะกิดแผลใจอะไรบางอย่างทำให้เขาเลือกที่ตะเปลี่ยนเรื่องทันที "แม่นางเป็นคนที่ใดหรือ ข้าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน"

"เป็นคนฮั่นจงเจ้าค่ะ เดินทางมาฉางอะนเพราะเห็นเขาลือกันว่าชมจันทร์ที่นี่สนุก"

จ้าวเพ่ยกล่าวก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตร หญิงสาวมองตามร้านแผงลอยต่างๆที่ตั้งแข่งกันต่างเย้ายวนด้วยคำว่าราคาพิเศษไปเสียหมด

"ข้าจะขอไปดูร้านแผงลอยใกล้ๆนี้ ท่านจะว่าอะไรไหม"

"เชิญสิ" จวิ้นไอ่เอ่ยก่อนจะมองจ้าวเพ่ยที่เดินไปยังร้านขายชา ดูเหมือนจะมีความเป็นผู้หญิงอยู่ไม่น้อยที่จะสนใจเรื่องพวกนี้ หญิงสาวเห็นว่าชาแค่ละชุดมีราคาที่น่าสนใจ ทำให้นางเริ่มหยิบห่อชาขึ้นมาเพื่อรวมกันกับตัวก่อนจะจ่ายด้วยถุงอีแปะจำนวนไม่น้อยให้แม่ค้าไป

"แม่นางถือผู้เดียวไหวหรือไม่"

"เจ้าค่ะ ขออภัยที่ทำให้เสียเวลาการเดินเล่นในเทศกาลนะเจ้าคะ" จ้าวเพ่ยเอ่ยออกมาขณะมองไปรอบๆ เหมือนกับว่านางจะดูสนุกขึ้นมาอีกเล็กน้อยเมื่อเริ่มไล่ดูของตามร้านค้าต่างๆ

"ท่านจะว่าอะไรหรือไม่ หากข้าชวนท่านมาร่วมชมจันทร์" จ้าวเพ่ยเอ่ยขณะที่ยังเลือกของตามร้านค้าอย่างสนุกสนาน นางหันไปมองบุรุษผู้ที่เดินมาเที่ยวเล่นด้วยก่อนจะยิ้มออกมา "ท่านชอบอะไรหรือ ข้าอยากจะซื้อเพื่อตอบแทนที่มาเดินเเที่ยวงานกับข้า"

"ข้าเพียงแค่เดินเที่ยวเล่นเพียงเท่านั้น แม่นางไม่จำเป็นต้องมอบของให้ข้าหรอก"

"อย่างนั้นท่านก็จะลืมข้าเอาง่ายดายเสียสิ" จ้าวเพ่ยกล่าวก่อนจะมองร้านค้ารอบๆ "บุรุษคู่กับสุรา ข้าเดาว่าท่านคงชอบดื่มสุราแน่แท้"

หญิงสาวหยิบไหเหล้าขึ้นมามองก่อนจะหันไปมองจวิ่นไอ่ที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากตน นางตัดสินใจให้อีกฝ่ายเลือกสุราที่เขาน่าจะชอบจนสุดท้ายก็ได้มอบสุราเก๊กฮวยที่ซื้อมาจากร้าค้าให้แก่อีกฝ่าย

"ขอบคุณที่ทำให้งานเทศกาลของข้าสนุกขึ้นเยอะเลยนะเจ้าคะ" จ้าวเพ่ยกล่าวขอบคุณขณะเดินไปด้วยกันกับอีกฝ่าย หญิงสาวลอบมองอีกฝ่ายที่ยังคงถือตัวกับสตรีแปลกหน้าเช่นนางอยู่ จ้าวเพ่ยเดินมายังจุดที่ชมจันทร์ได้เด่นชัดสุดก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างสุขใจ

ภาพดวงจันทร์กลมใหญ่เต็มดวงกลับสวยที่สุดที่จ้าวเพ่ยได้มอง อย่างที่เขาร่ำลือว่าเมืองฉางอะนเทศกาลสนุกอย่างที่หวังเอาไว้ หญิงสาวนึกถึงคำอธิฐานเมื่อครั้งยังขอพรแก่เทพีฉางเอ๋อร์ก็หวังว่จะให้มันเกิดขึ้นได้เร็วๆนี้

หญิงสาวหันมองบุรุษที่เงยหน้ามองดวงจันทร์ไม่ต่างกันให้นางจับจ้องใบหน้านั้น มือสวนยกป้องปากตนเมื่อสำรวจชายที่อยู่ข้างๆไปพลาง

"เทศกาลครั้งนี้สนุกมากเลยเจ้าค่ะ"

"ใช่.. แม่นางดูสนุกกับเทศกาล เป็นอย่างไรบ้างเมืองฉางอัน"

"เป็นเมืองที่ข้าคิดว่าน่าอยู่นะเจ้าคะ หากไม่ติดเรื่องเหล่าโจรล่ะก็"

จ้าวเพ่ยเอ่ยขึ้นมาทั้งเขินอาย หญิงสาวมองไปยังอีกฝ่ายที่ยิ้มให้ตนก็ยิ้มกลับให้ นางเงยหน้ามองดวงจันทร์อีกครั้งแต่เสียงบุรุษกลับขัดขึ้นมาเสียก่อน

"ข้ามีกิจต้องทำ แม่นางเดินชมงานผู้เดียวต่อเถอะ"

เหมือนกับว่าความสุขย่อมมีวันเลิกลา จ้าวเพ่ยเองก็ไม่อาจยื้อชายที่พึ่งจะเจอกันได้หรอก หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตรก่อนจะเอ่ยคำลาแก่บุรุษผู้นี้ ทำให้นางต้องเดินชมงานเทศกาลต่อไป

เสียงผู้คนมากมายต่างดังขึ้นมาเป็นกลุ่มให้จ้าวเพ่ยที่หงอยลงกว่าเดิมหันมองอย่างนึกสงสัย หญิงสาวก้าวแทรกผ่านผู้คนไปพบเหล่าพ่อค้าสามคน สองคนนั้นเป็นชายผู้คุ้นหน้าให้นางได้แต่กระพริบตาปริบๆ

"อ้าว.. แม่นาง มาสิ วันนี้วันดีข้าแจกตำลึงให้กับทุกคน"

"แจกตำลึงหรือเจ้าคะ!?" หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้นก่อนจะเข้าไปหาพ่อค้าหวังอย่างมีความหวัง

"ใช่.. แม่นางต้องการอะไรล่ะ"

จ้าวเพ่ยคิดถึงเรื่องขอพรไปก็ยกยิ้มขึ้นมา วันนี้วันดีเสียจริง หญิงสาวมองหน้าพ่อค้าหวังที่เหมือนพร้อมจะมอบของให้นางอยู่แล้ว

"ข้าต้องการตำลึงเจ้าค่ะ!!?" เพียงประกาศความต้องการออกไป หญิงสาวก็ได้รับมันอย่างที่ปรารถนา ใบหน้างามยิ้มขึ้นมาอย่างสุขใจก่อนจะเดินแทรกผู้คนเพื่อออกจากบริเวณนั้นทันที

ดีเหลือเกินที่ได้มางานเทศกาลนี้

คงจะกลับไปนอนฝันดีกว่าที่คิด จ้าวเพ่ยที่ดูอารมณ์ดีกว่าปกติก็ได้เดินกลับออกจากงานเทศกาลนี้ โดยไม่ลืมที่จะเก็บความรู้สึกดีๆของนางกลับมาด้วย



ชมงานเทศกาล + 5EXP
ร่วมซื้อของจากพ่อค้า +5EXP
นมัสการขอพรเจ้าแม่ฉางเอ๋อ +10EXP
เขียนคำอธิฐานและปล่อยโคมลอย +10EXP
ชมจันทร์ +10 EXP
ถวายขนมเยว่ปิ่งแก่เทพีฉางเอ๋อ3ลูก +10EXP
ชวน NPC ที่มาเที่ยวเดินเล่นเทศกาล และทำความรู้จัก +15EXP

ค่าโคม 15 ตำลึงเงิน
ถวายขนมเยว่ปิ่งแก่เทพีฉางเอ๋อ 3 ลูก
[027] มอบสุราเก๊กฮวย ให้กับ เตียวคับ

(รายการซื้อของ)
ใบชาผิงลี่ 1 ชุด ราคา 800 อีแปะ
ใบชาต้าหงเผา 1 ชุด ราคา 800 อีแปะ
ใบชาเจียวกู่หลาน 1 ชุด ราคา 800 อีแปะ
ใบชาผู่เอ๋อร์ 1 ชุด ราคา 800 อีแปะ
ใบชาเหมาเฟิง 1 ชุด ราคา 700 อีแปะ
ขึ้นฉ่าย 2 ชุด ราคา 1120 อีแปะ
ถั่วฝักยาว 2 ชุด ราคา 820 อีแปะ
เตากำยาน 1 ชิ้น 350 ตำลึงเงิน

= รวมค่าใช้จ่ายในงานเทศกาลทั้งหมด 5840 อีแปะ / 365 ตำลึงเงิน

รับเงินแจกจากพ่อค้าหวัง 150 ตำลึงทอง 3000 ตำลึงเงิน 5000 อีแปะ


ลักษณะนิสัย : มีตัญหา
+2 Point เมื่อดำเนินการวางแผนจีบเพศตรงข้าม
ลักษณะนิสัย : โลเล
-15 ความสัมพันธ์คนที่กำลังจีบ

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่ร้อยกฎ
มุกพณาหวาซวี
ม้าเหลียง
กลยุทธ์เล่ออี้
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x7
x4
x10
x10
x13
x13
x13
x12
x11
x202
x1
x1
x1
x11
x22
x15
x30
x1
x100
x100
x9
x2
x5
x6
x8
x10
x2
โพสต์ 2021-9-21 22:56:37 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย JiTianTao เมื่อ 2021-9-21 23:26

โรลซื้อของ(ค่อยไปเที่ยวงาน)



หลังจากที่เดินทางมากันยาวนานในที่สุดจีเทียนเต๋ากับเหล่าขบวนศาสนาก็มาถึงที่ฉางอันแห่งนี้เสียที โดยที่ตอนนี้ผู้คนต่างก็เดินกันเต็มไปหมดโดยที่จีเทียนเต๋าตื่นเต้นกับบรรยากาศเหล่านี้และผู้คนมากที่มีเยอะกันขนาดนี้

"เดี๋ยวพวกท่านไปหาพื้นที่ที่พวกเราจะได้แสดงธรรมกันกับบริจาคข้าวของกันด้วยนะ เดี๋ยวข้าขอตัวไปเดินหาซื้อของเสียก่อนแล้วข้าจะติดตามพวกท่านไปทีหลังไม่ต้องสนใจข้าหรอก ท่านเหวินหยวนคอยไปกับข้าทั้งคน พวกท่านอย่าได้ไปมีเรื่องกับใครหรือไปหาเรื่องใครด้วยข้าขอให้พวกท่านระมัดระวังตัวให้ดีถึงแม้ว่าจะเป็นงานเทศการแต่ว่ามันก็ใช่ว่าจะปลอดภัยได้ตลอดจงใช้ชีวิตที่ตั้งมั่นด้วยความไม่ประมาทข้าเชื่อว่าพวกท่านทุกคนทำได้ ขอให้พระเจ้าสถิตกับท่าน"

"สถิตกับท่านด้วย"

พร้อมกับที่จีเทียนเต๋านั้นเดินทางไปดูของตามที่ต่างโดยที่ตนเองก็เจอกับสิ่งของแปลกๆมากมายนัก โดยที่ตอนนี้นั้นแววตาของตนเองก็เปลี่ยนไปด้วยความแววาวมาก

"ข้าจะเหมามันทั้งหมดเนี้ยแหละข้าไม่สนแล้วของดีๆ วัตถุดิบดีๆทั้งนั้นถ้าไม่รีบซื้อตอนนี้นั้นจะให้ไปหาซื้ออีกที่ไหนได้กันเล่าแบบนี้มันต้องรีบซื้อแล้ว!!! จ่ายมันเข้าไปนี้พ่อข้าข้าเหมาอันนี้ อันนี้ด้วย แล้วก็ตรงนั้นอย่าลืมตรงนู้นด้วยนะ"

โดยที่จีเทียนเต๋านั้นเหมาสิ่งของไปจนผู้คนที่จะมาซื้อนั้นต่างอ้าปากมองกันตามๆกันเลย


ใบชาผิงลี่ 8 ชุด ราคา 6400 อีแปะ
ใบชาต้าหงเผา 8 ชุด ราคา 6400 อีแปะ
ใบชาเจียวกู่หลาน 6 ชุด ราคา 4800 อีแปะ
ใบชาผู่เอ๋อร์ 8 ชุด ราคา 6400 อีแปะ
ใบชาเหมาเฟิง 8 ชุด ราคา 5600 อีแปะ
บ๊วย 10 ชุด ราคา 7000 อีแปะ
ปลากง 5 ชุด ราคา 2500 อีแปะ
ปลาเก๋า 5 ชุด ราคา 2500 อีแปะ
ปลาดุก 5 ชุด ราคา 2500 อีแปะ

รวมราคาทั้งหมด 44100 อีแปะ

เก้าอี้เลื่อน 5 คัน 20 ตำลึงทอง

ไปซื้อของจากพ่อค้า +5EXP

@Webmaster


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดไท่หมินลู่
เบ็ดตกปลา
คัมภีร์ไท่หมินลู่
ไก่ฟ้าทองแดง
หวีเซียวเฉิน
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าขาว
หน้ากากขาว
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x108
x8
x800
x800
x800
x70
x470
x100
x100
x4
x3
x3
x1
x7
x25
x860
x10
x790
x490
x200
x1
x100
x100
x100
x10
x1
x2
x1
x3
x4
x10
x920
x291
x494
x5
x388
x5
x6
x77
x100
x30
x900
x68
x1
x82
x98
x1
x96
x98
x1
x6
x2
x1000
x2
x3
x3
x3
x7
x8
x3
x100
x4
x100
x26
x24
x24
x26
x14
x600
x96
x100
x60
x100
x100
x440
x25
x2
x376
x11
x492
x9
x4
x99
x80
x79
x28
x2
x379
x75
x196
x571
x167
x100
x100
x50
x100
x100
x250
x50
x86
x13
x13
x7
x74
x6
x19
x5
x1150
x324
x17
x11
x10
x10
x490
x10
x2
x42
x62
x38
x1
x108
x35
x96
x99
x85
x505
x1
x598
x3
x3
x1
x8
x24
x404
x4
x102
x6
x24
x491
x288
x39
x90
x154
x8
x1
x10
x75
x10
x93
x500
x250
x150
x250
x550
x250
x3
x500
x242
x36
x18
x465
x1015
x164
x804
x804
x804
x804
x493
x314
x13
x36
x7
x498
x1
x10
x1
x2561
x628
x320
x260
x100
x15
x1
x6
x6
x150
x9999
x2
x7
x18
x5
x2
โพสต์ 2021-9-21 23:49:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Fenyue เมื่อ 2021-11-9 00:24
Fenyue ตอบกลับเมื่อ 2021-9-21 22:22
⌜ 32 ⌟
บทที่ 7เทศกาลชงจิวเจี๋ยฉากที่ 2

⌜ 33 ⌟

บทที่ 7
เทศกาลจงชิวเจี๋ย
ฉากที่ 4


            “ฮ่าห์~ อร่อย! ชาเจียวกู่หลานนี่มันสุดยอดไปเลยนะ”
            
            ได้เห็นเด็กหนุ่มสีหน้ามีความสุขขณะดื่มชาที่อยากดื่มมานานเฟินเยว่ก็ดีใจตามพลางยิ้มมองเขาอย่างเอ็นดู ท่าทางตงฮั่วจะชอบสมุนไพรจริง ๆ ด้วย ขนาดว่าสุราคราวที่แล้วเขายังบอกว่าชอบที่มีรสสมุนไพรเข้ม ๆ ตอนนี้นางก็มีใบชาแล้วจะชงให้เขาดื่มตอนไหนก็ไม่ลำบากแล้วทีนี้
            
            “ตอนนี้คนซาลงไปมากแล้ว น่าจะสักการะเจ้าแม่ฉางเอ๋อกันได้แล้วล่ะเจ้าค่ะ”
            
            “อืม”
            
            ตงฮั่วยักหน้ารับ แม้ว่าสำหรับคนที่รักสันโดษอย่างเขานั่นก็ยังถือว่าคนเยอะอยู่ดีถึงจะซาลงมากกว่าตอนแรกแล้วก็ตาม แต่ช่วยไม่ได้ขอแค่ไม่ต้องเบียดเสียดก็น่าจะพอทำให้ไม่หงุดหงิดใจ
            
            ในเมื่อจ่ายเงินครบตั้งแต่ตอนที่อาหารนำมาส่งแล้วทั้งสองก็ลุกขึ้นแล้วเดินจากไปได้ทันที ทว่า...
            
            “ไม่มีนะ..”
            
            “อย่ามาล้อเล่นน่า หาดีแล้วหรือยังพี่ตุ้น ท่านพี่บอกเองนะว่าวันนี้จะเลี้ยง ข้าเลยไม่ได้พกเบี้ยมาสักแดง”
            
            “หาดีแล้ว ข้าหาหลายรอบแล้ว ใจเย็น ๆ เถอะน่า”
            
            “เอ่อ.. ตกลงว่าจะเอายังไงเหรอขอรับท่านลูกค้า”
            
            บทสนทนาทั้งหมดเข้าหูของเด็กสาวทำให้นางหันไปมองโต๊ะข้าง ๆ เห็นบุรุษร่างสูงใหญ่สองคนกำลังค้นตามเนื้อตามตัวเพื่อหาอะไรบางอย่าง ทางด้านเจ้าของร้านบะหมี่จากตอนแรกที่ยิ้มเป็นมิตรตอนนี้เริ่มทำสีหน้าอำมหิตใส่ ท่าทางดูจะไม่ดีแล้ว ด้วยนิสัยชอบช่วยเหลือทำให้เด็กสาวเดินเข้าไปหาโดยที่ไม่ได้บอกตงฮั่วก่อนทำให้คราวนี้เป็นอีกฝ่ายที่ต้องเดินตามมาแทน
            
            “อะ..เอ่อ ขอนุญาตเจ้าค่ะ มีอะไรกันหรือเปล่าเจ้าคะ”
            
            “ก็ลูกค้าสองท่านนี้น่ะสิคุณหนู จะชักดาบค่าบะหมี่”
            
            “เฮ้ย! พูดจาให้มันดี ๆ ถ้าตั้งใจเบี้ยวพวกข้าไม่มัวมาหาถุงเงินหรอก”
            
            เด็กสาวหันมองใบหน้าของคนพูดแล้วชะงักไปเล็กน้อย ใบหน้านั้นช่างคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูกทว่านางนึกไม่ออกว่าเคยเจอกับเขาที่ไหน จนหัวคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย และเมื่อเลื่อนสายตาไปยังชายอีกคนที่กำลังหาถุงเงินของตัวเองอยู่ ใบหน้าเขาก็คล้ายกับอีกคนที่มาด้วยทว่าดูอาวุโสกว่าเล็กน้อยราวกับเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมา และมันก็ได้ซ้อนทับเข้ากับใบหน้าของ ‘ซุนเจียเฮา’
            
            “ท่านพ่อเจ้าคะ...”
            
            เฟินเยว่หลุดเสียงเรียกออกมากลางวงสนทนาในสถานการณ์คับขัน ใบหน้าของบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง บุคคคลที่พลัดพรากจากกันไปนับสิบปี ใบหน้าที่แสนคะนึงหามาตลอดบัดนี้ได้มาอยู่ตรงหน้าของนางแล้ว ภาพคืนวันต่าง ๆ ไหลเวียนเข้ามาให้หัวเป็นฉาก ๆ ทั้งตอนที่ท่านพ่อสอนพับกระดาษ ตอนที่ท่านพ่อพาขี่คอแล้วให้นางเล่นว่าวจนท่านแม่ดุ ภาพของท่านพ่อที่ออกไปทำงานหนักทุกวันแต่เมื่อกลับบ้านมาก็มักจะมีรอยยิ้มอ่อนโยนมอบให้อยู่เสมอ ช่างคิดถึงเหลือเกินจนหยาดน้ำใสไหลปริ่มที่หัวตา..
            
            “ห๊า!”
            
            บุรุษทั้งสี่ในที่นั้นหลุดอุทานร้องออกมาพร้อมกัน บางคนเหงื่อตก บางคนกุมขมับ บางคนคิดในใจว่า ‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย!!’
            
            แต่เสียงที่ดังนั้นทำให้เด็กสาวสะดุ้งขึ้นและหลุดออกจากภวังค์ ใบหน้าของบิดาที่รักได้หายวับไปกับตาเหลือเพียงแต่บุรุษหน้าคล้ายกำลังหน้าถอดสี
            
            “พี่ตุ้น ไปเผลอไข่ไว้ที่ไหนทำไมไม่บอก..”
            
            “จะบ้าเรอะ! ข้าจะไปมีลูกสาวโตขนาดนี้ได้ยังไงกันเล่า!”
            
            คนเป็นพี่ตวาดลั่นใส่น้องชาย ในใจคิดแต่ว่านี่มันเรื่องซวยซ้ำซวยซ้อนอะไรกัน
            
            “อะ.. เอ่อ.. ขะ.. ขอโทษเจ้าค่ะ คือว่าข้า… ทักคนผิด” เด็กสาวยิ่งล่กเข้าไปใหญ่ รู้สึกอยากเอาหน้ามุดดินหนีเสียนี่กระไรที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด แต่จากเรื่องปัญหาตรงหน้าที่เกิดขึ้นจะปล่อยทิ้งไว้ก็ไม่ได้ “เอ่อ.. คือว่าเรื่องของข้าช่างมันเถอะเจ้าค่ะ แต่ว่าเรื่องของคุณชายสองท่านนี้เขาไม่น่าจะมีเจตนาชักดาบนะเจ้าคะ ถ้าอย่างไรให้ข้าจ่ายแทน.. ทั้งหมดเท่าไรเจ้าคะ”
            
            พ่อค้าร้านบะหมี่ไม่สนใจว่าใครจะเป็นคนจ่าย ขอแค่ให้ได้เงินที่ควรจะได้มาก็พอ เมื่อพ่อค้าบอกราคาค่าบะหมี่น้ำกุ้งทะเลกับบะหมี่เนื้อวัว เด็กสาวก็ยัดเงินใส่มือเขาโดยไม่มีอิดออดแล้วขอตัวเดินจากไป ทำให้ตงฮั่วผู้ไร้บทบาทได้แต่เดินตามด้วยความงุนงง
            
            “เดี๋ยวก่อนแม่นางน้อย เหตุไฉนจึงมาช่วยเหลือพวกเราเสียล่ะ แล้วเรื่องที่เรียกพี่ชายข้าว่าท่านพ่อน่ะหมายความอย่างไร”
            
            ชายผู้น้องเดินมาดักหน้าเด็กทั้งสองคนไว้ โดยมีผู้เป็นพี่ถูกลากให้ตามมาด้วย สีหน้าของเขาดูบูดบึ้งไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด
            
            “ก็.. ถ้ามีเรื่องกันน่าจะไม่ดีใช่ไหมเจ้าคะ แล้วโทษของการขโมยก็คือตัดมือด้วย แต่ว่าข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นโทษนั้นจริงหรือเปล่า” เด็กสาวพูดรัวจนลิ้นแทบพันกัน โชคดีมากแค่ไหนแล้วที่ไม่เผลอกัดลิ้นตัวเอง “ส่วนที่เรียกคุณชายว่าท่านพ่อต้องขอประทานโทษด้วยจริง ๆ เจ้าค่ะ... นั่นเพราะว่าข้าแค่จำคนผิดเฉย ๆ เอ่อ... ใบหน้าของคุณชายละม้ายคล้ายบิดาข้าเล็กน้อย แต่คือว่า.. ไม่ต้องกังวลเรื่องเข้าใจผิดนะเจ้าคะ คือว่าท่านพ่อเสียไปนานแล้วน่ะเจ้าค่ะ แหะ ๆๆ”
            
            “อ่อ.. เอ่อ..” พอได้ยินแบบนั้นผู้ถามก็ตอบไม่ถูกว่าจะอย่างไรก่อนดี หากว่าเด็กสาวหลุดโพลงออกมาทั้งที่รู้ว่าบิดาสิ้นไปแล้วก็แปลว่านางน่าจะคิดถึงเขามาก ถ้าแสดงความเสียใจจะคล้ายกับเป็นการซ้ำเติมให้คิดถึงมากกว่าเก่าหรือไม่ “เอาเป็นว่าข้า เซี่ยโหว เหมี่ยวฉาย กับ พี่ชาย เซี่ยโหว หยวนยรั่ง ขอบคุณแม่นางน้อยมากนะที่ช่วยเหลือไว้ ถ้าอย่างไรขอทราบนามของเจ้าได้หรือไม่”
            
            “ซุน.. เฟินเยว่เจ้าค่ะ แต่ว่าไม่ต้องตอบแทนอะไรก็ได้นะเจ้าคะ เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ช่วยเหลือกันได้เองเจ้าค่ะ”
            
            “ถึงแม่นางน้อยซุนจะกล่าวเช่นนั้นก็เถอะ แต่ถ้ามีโอกาสพวกข้าพี่น้องตระกูลเซี่ยโหวจะไม่ลืมแม่นางอย่างแน่นอน” เซี่ยโหวเหมี่ยวฉายเป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียวส่วนทางด้านคนเป็นพี่ยังคงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ดูจะไม่สบอารมณ์กับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่มาก “ถ้าอย่างนั้นก็ขอตัวไปหากระเป๋าเงินก่อนนะแม่นางน้อยซุน”
            
            “เจ้าค่ะ ขอให้ท่านทั้งสองโชคดีนะเจ้าคะ”
            
            เมื่อร่ำลากันเสร็จบุรุษสองพี่น้องก็จากไปโดยทันที
            
.
.
.
            

รักสงบ
+1 Point ทุกครั้งที่โรลใช้แผนอุบาย หรือ ทางการทูต

ลักษณะนิสัยเห็นอกเห็นใจ
+2 Point จากการโรลการทูต
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ

[075] มอบ บะหมี่น้ำกุ้งทะเล ให้ เซี่ยโหว หยวน (แฮหัวเอี๋ยน)
[076] มอบ บะหมี่เนื้อวัว ให้ เซี่ยโหว ตุน (แฮหัวตุ้น)






←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
พยัคฆ์ตงเทียน
หยกเชื่อมสัมพันธ์
พู่กันเหวิ่นเซ่า
ถุงหอมจูอวี๋
กลยุทธ์เล่ออี้
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x40
x32
x1
x439
x500
x73
x500
x26
x498
x500
x10
x2
x9
x1
x400
x1
x1
x5
x28
x8
x591
x228
x228
x500
x2514
x18
x14
x1
x5
x1
x2
x100
x5
x50
x100
x3
x3
x10
x2
x47
x64
x6
x9
x2
x71
x1
x24
x95
x50
x86
x150
x260
x150
x150
x46
x46
x2
x2
x6
x2
x2
x34
x4
x1
x8
x1
x2
x7
x5
x8
x7
x110
x7
x74
x45
x3
x30
x63
x74
x79
x2
x71
x68
x6
x45
x50
x160
x316
x3
x220
x48
x35
x168
x12
x10
x25
x1
x13
x6
x4
x6
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

อย่าลืมเข้าสู่ระบบนะจ๊ะ เข้าสู่ระบบตอนนี้ หรือ ลงทะเบียนตอนนี้

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้