[เมืองเฉิงตู] อารามเสินต้าเทียน

อารามเสินต้าเทียน

{ เมืองเฉิงตู }

【อารามเสินต้าเทียน】

จากหมู่ตึกย่านชานเมืองที่ไม่มีผู้คนเหลือบแล ได้มีขุนนางท่านหนึ่ง
ผู้นำพาจิตใจที่ชอกช้ำและความเจ็บปวดที่ทนเห็นความเหลวเหลก
ความล้มเหลวในระบบราชการของราชสำนักไม่ได้
พร้อมกับผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง มาซื้อที่ดินสร้างที่พักพึง
สำหรับเหล่าผู้คนที่หาที่พึ่งทางใจ
อารามแห่งนี้มีทั้งบุตรของชนชั้นสูงที่ล้วน
ไม่ได้รับความเป็นธรรมในระบบอยุติธรรม

ทุกท่านสามารถมาโรลเพลย์ทำงานพาร์ทไทม์ประจำวัน
(ปัดกวาดถูอาราม)
ค่าจ้าง: 100 อีแปะ - 5 EXP (รายวัน)

เจ้าอาราม: นักพรตสมญานาม เลี่ยงเหลียง
(ชื่อเดิม: หลิว ไป๋)
อุปนิสัย: นักพรตพเนจรผู้ซึ่งเมตตาต่อสรรพสิ่งทั่วหล้า
เดินทางทั่วแผ่นดินแสวงบุญจนกระทั่งได้รับคำเชิญ
จากเจ้าสัวไม่เอ่ยนามต้องการให้มาเทศนาธรรม
เป็นนักพรตประจำที่อาศรมเต๋าแห่งนี้ มักเจอท่าน
สลับอาทิตย์เว้นอาทิตย์เนื่องจากออกไปแสวงบุญ
ได้ชื่อว่าตรงต่อเวลาเป็นที่สุด นิสัยละเอียดรอบคอบ
คำนวณทุกรายละเอียดอย่างรัดกุม สอนผู้คนให้เข้าใจ
ถึงธรรมชาติปล่อยวางจาก เปี่ยมคุณธรรม

Zhangnon -

- เขียนโรลเพลย์ท่านเห็นผู้คนแห่มาฟังธรรม
จางหน๊งน้อยได้สวมผ้าคลุมดำที่เดินทางมาจากจวนสกุลสวินเพื่อมายังเมืองเฉิงตู แต่ก็ได้พบเห็นเเห่มาฟังธรรม ทำให้เขาเดิดอย่างรู้ว่านั่นเกิดเหตุการณ์อะไรเขาจึงเข้าไปสวมลอยในกลุ่มชาวบ้านทันที

เสียงพูดมากมาย ด้วยชาวบ้านคุยกันว่าวันนี้ท่านนักพรตเหลียนฟ่างมาเฉิงตู ทำให้เขานั้นได้รับทราบเป็นอันดีว่ามันเป็นเเบบนี้นี่เองที่คนแห่กันมาเยอะ คงเป็นนักพรตที่เก่งแต่แท้

"เอาล่ะท่านนักพรตเปลี่ยนฟ่างมาถึงแล้วทุกคนโปรดอยู่ในความสงบ!!"


ท่านใดนั้นเสียงก็เงียบสงัดทันที ทุกคนพร้อมใจกันตั้งใจฟังธรรม จางหน๊งก็ได้เข้ารับการฟังว่าแท้จริงแล้ว มันมีอะไรแฟงซ่อนอยู่หรือไม่
เขานั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อ

"สัตว์อื่นปรุงแต่งใจให้เป็นบ้าไม่ได้แต่มนุษย์ปรุงแต่งจิตใจจนกระทั่งกลายเป็นบ้าไปแล้วก็มี
“ความสุข” สำคัญที่คุณภาพของชีวิต ไม่ได้สำคัญที่ปริมาณของวัตถุที่คุณถือครอง
อย่าหยุดตัวเองไว้กับความทุกข์ คุณมีสิทธิ์ที่จะมีความสุขไม่น้อยไปกว่าคนอื่น
อย่าเอาของสูงค่า ไปมอบให้แก่.. คนที่ไม่เห็นคุณค่า อย่าใช้คนที่มีความรู้ความสามารถ โดยไม่สอดคล้องกับความสามารถที่แท้จริงของเขา
คนไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก นตฺถิ โลเก อนินฺทิโต
ระวังหูของเราดีกว่าเฝ้าปิดปากคนอื่น
โลกนี้มีพอสำหรับทุกคน แต่ยังคงขัดสนสำหรับผู้ไม่พอ
ผู้หญิง ผู้ชาย ถ้าสนใจปฏิบัติธรรม ก็บรรลุนิพพานได้เสมอหน้ากัน
อยู่กับคน จงอยู่ในใจของคนที่ตนอยู่ด้วย
ทุกอย่างแค่เพียงชั่วคราวนะไม่มีอะไรที่มาแล้วไม่ไป......."หลังจากเทศธรรมเสร็จก็ได้ย่างกายออกจากลานเทส ผู้คนต่างพากันแยกย้าย
      

ในระหว่างที่ผู้คนได้ฟังธรรมจางหน๊งได้นับว่าเข้ามารับการเรียนรู้ใหม่ๆ ในสิ่งที่นักพรตได้พูดเอาไว้นั่นก็คือเอา มาเป็นบทเรียนของเขาได้เพื่อเตือนสติตนเองเสมอ และพร้อมเรียนรับสิ่งใหม่ๆเสมอมิใช่แต่ห้องเรียน ความรู้นั้นอยู่รอบตัวเอง

ลักษณะนิสัยหนอนหนังสือ
+4 ที่โรลเรียนรู้

ทะเยอทะยาน
+2ที่โรลเรียนรู้

JiTianTao ดี

โรลทำงานหาเงินกินข้าว

ในวันนี้นั้นบรรยากาศรอบๆตัวของ จีเทียนเต๋านั้นต่างไปจากปกติก็เพราะว่าตอนนี้ตนเองมารับจ้างทำงานพิเศษประจำวันเท่านั้นเนื่องจากคิดว่าการที่ตนเองเอาแต่เป็นนักพูดอย่างเดียวคงจะอดตายเป็นแน่แท้แถมการที่มาทำงานบ้างคงไม่ใช่การแย่อะไรเท่าไหร่นักถึงแม้จะเริ่มมีเหล่าชาวบ้านบ้างคนนำทรัพย์สินเงินทองมาให้กับตนเองหรือว่าจะเป็นการนำอาหารเอามาให้ตนเองเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาทำงาน จนตัวเองต้องตอบปฎิเสทพวกชาวบ้านเป็นการใหญ่เนื่องจากช่วงนี้ราคาข้าวของก็ไม่ได้ลดลงแถมยังจะมีแต่เพิ่มขึ้น ราคาอาหารตอนนี้มีราคาเพิ่มขึ้นอย่างมากบางที่ถึงกับต้องกินเนื้อคนด้วยกันเองเพราะความอดอยาดถึงแม้ว่าที่ เฉิงตูแห่งนี้ยังไม่ถึงกับได้รับผลกระทบของสงครามมามากก็ตามที่แต่การประหยัดก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรในช่วยภัยสงครามแบบนี้

"การกวาดพื้นแถวนี้ก็ไม่ได้แย่มากนักนะ แต่ทำไมถึงมีไม่มีเหล่าชาวบ้านหรือพวกนักพรตมากันเลยล่ะแถวนี้ทำไมมันเหมือนกับบ้านร้างที่มีคนตายอย่างงั้นแหละนะทำไมถึงดูบรรยากาศรอบๆมันเศร้าหมองเจ้าของที่นี้ไม่ใช่ พวกคนของลัทธิเต๋าเช่นนั้นหรอ?ทำไมมันถึงไม่มีกลิ่นอายของความ ศักดิ์สิทธิ์ของลิทธิเต่าที่ปกติควรจะมีกันนะ"

ก่อนที่เจ้าตัวจะกวาดพื้นไปด้วยกับที่คอยสอดส่องว่าจะมีเหล่าสัตว์อะไรที่ตนเองกวาดเอาไปด้วยหรือไม่ก่อนที่จะค่อยๆรวมกองที่กวาดเสร็จเรียบร้อยแล้วนำไปรวมกันยังจุดที่ต้องทิ้ง ก่อนที่จะเริ่มทำการกวาดต่อไปพร้อมกับที่คอยสอดส่องอีกว่ามีจุดไหนที่ยังทำความสะอาดไม่เรียบร้อยเพราะไหนๆก็ทำงานรับค่าจ้างเจ้าเค้ามาแล้วเราก็ต้องทำงานให้คุ้มกับที่อีกฝ่ายนั้นได้จ้างเราเอาไว้ โดยที่ก็คิดไปในหัวด้วยว่าศาสนาทุกศาสนาต่างมุ่งเน้นให้ทุกคนเป็นคนดีแต่ว่าทำไมถึงมีคนเลวอยู่ปะปนกับศาสนาเหล่านั้นตลอดและใช้ศาสนานั้นเป็นข้ออ้างบังหน้าในการหาผลประโยชน์เข้าตัวเองตลอดเวลาพอคิดถึงเรื่องนี้ทีไรตัวเองก็จะคิดถึง ลัทธิไท่ผิงตลอดเพราะว่าจุดกำเนิดเริ่มต้นของลัทธินั้นมีมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ต้องได้รับความเดือดร้อนของการปกครองอันเลวร้ายของราชสำนัก แต่พอมีอำนาจมีผู้คนเข้าร่วมจำนวนมากแล้วนั้น อุุดมการณ์ที่เคยมีต่างก็เริ่มเลือนหายไปมีแต่ความต้องการของตัวเองที่เป็นใหญ่ที่สุดเพียงเท่านั้นยังไม่นับรวมเหล่าคนที่ต้องการหาผลประโยชน์จากสงครามทั้งเหล่าพ่อค้าหน้าเลือด พวกโจรใจบาป หรือแม้กระทั้งเหล่านักบวชผู้ทรงสินหลายคนยังมีการกระทำที่ไม่ต่างจากพวกนั้นเท่าใดเลย

"เตียวก๊กหนอเตียวก๊กเพราะเหตุใดอุดมการของเจ้าตอนแรกมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ ทำไมกันนะ ข้าละเสียดายความศัทธาที่ชาวบ้านต่างมีให้เจ้าจริงๆเค้าหวังพึ่งเจ้าให้ชีวิตของพวกเค้าดีขึ้นแต่ว่าตอนนี้กลับกลายว่าเจ้าพาคนที่เชื่อในตัวเจ้าเข้าไปสู่ความตายและยังพาคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องต้องไปตายเพราะการกระทำของเจ้าด้วยนะถ้าศาสนาทุกศาสนาต่างเอาข้อดีของแต่ละศาสนามารวมกันแล้วนำมาใช้คงจะดีไม่ใช่น้อยแต่การทำแบบนั้นก็ไม่ต่างกับการเอาศาสนามาหาผลประโยชน์เข้าตนเอง ทุกศาสนาต่างมีข้อดีข้อเสียในตัวของมันเองไม่มีศาสนาใดดีที่สุดมีเพียงคนที่นับถือเท่านั้นที่จะนำหลักธรรมของศาสนานั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในชีวิตประจำวันและสังคมยังไงมากกว่า ศาสนาก็เปรียบดังไม้1ท่อน ที่แข็งเกินไปก็สามารถที่จะหักได้ตลอดเวลาแต่ถ้าอ่อนเกินไปก็ไม่สามารถที่จะนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้ เห้อจิตใจมนุษย์ช่างซับซ้อนช่างยากแท้ยั่งถึงจริงๆข้าถึงพอเข้าใจว่าทำไมลัทธิเต๋าถึงสอนการปล่อยวางการหลุดพ้นแบบนี้"

พร้อมกับที่ จีเทียนเต๋าส่ายหัวของตนเองไปด้วยกับคอยกวาดทำความสะอาดอารามนี้ต่อไปโดยที่ระหว่างทำก็คอยมองดูด้วยว่าจะมีผู้คนมากราบไหว้หรือเข้ามายังที่อารามแห่งนี้หรือไม่เพราะตนเองถ้าไม่ใช่ว่าได้ข่าวว่ามีงานให้ทำความสะอาดที่นี้คงคิดว่าที่นี้นั้นเป็นอารามร้างไปเสียแล้วงานก็ไม่ได้ยากแถมไม่ได้ลำบากมากมายเงินค่าตอบแทนก็พอซื้ออาหารกินได้อยู่เรี่อยๆ คงไม่ถึงกับอดตายหรอกรอขัดสนจริงๆก่อนอาจจะหางานที่มันได้เงินมากกว่านี้

ใช้ลักษณะนิสัย เลื่อมใสศรัทธา

+3 point ทำงาน

-20 ความเคลียดเมื่อโรลทำงาน

@Webmaster

JiTianTao ดี

โรลทำงานหาเงินกินซาลาเปา

บรรยากาศภายในอารามนั้นล้วนเงียบสงบมากขึ้นหลังจากที่มีเหล่าผู้คนบางส่วนได้มาทำการสีกการะอารามเหล่านี้โดยที่วันนี้นั้น จีเทียนเต๋าก็ได้รับจ้างมาทำงานทำความสะอาดที่อารามแห่งนี้เช่นกันโดยที่ ระหว่างทำไปก็ได้คอยดูเหล่าผู้คนที่มาสักการะบูชายังวิหารเต๋าแห่งนี้ โดยที่ตนเองนั้นก็คอยปัดกวาดพื้นให้สะอาดที่สุดคอยดูว่าใบไม้ใบไหนที่หล่นลงมาจนต้องทำความสะอาดอีกบ้าง

"อืมเดี่ยวนี้ข้ายังต้องไปเช็ดทำความสะอาดภายในวิหารอีกนะเนี้ยถ้ามันไม่สะอาดข้าอาจจะโดนบ่นหรืออาจจะโดนหักเงินด้วยได้ ตอนนี้แม้แต่ 1 อีแปะก็มีค่าต่อให้เรามีเงินจำนวนมากแต่ว่าถ้าเรายังไม่รู้จักประหยัดอดออมล่ะก็ต่อให้มีมากสักวันก็ต้องมีวันหมดได้การที่เรารู้จักประหยัดอดออมนั้นก็หาได้ เป็นสิ่งที่ผิดแต่การประหยัดอดออมอย่างเดียวก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป ถ้าเราประหยัดมากเกินไปมันก็ไม่ดี เหมือนของหลักศาสนาพุทธที่ว่าทางสายกลางนั้นเอง พอมาคิดๆดูแล้วนี้นะศาสนาทุกศาสนาต่างมีหลักคำสอนที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง อืมๆๆ ว่าแต่ตอนนี้ สถานการณ์ของการรบจะเป็นยังไงบ้างนะตอนนี้ทางราชสำนักกับพวกโจรโพกผ้าเหลืองจะเป็นอย่างไรบ้างนะข้าไม่ได้รู้ข่าวทางด้านนั้นเลย แล้วเหล่าชนเผ่ากับคนนอกด่านตอนนี้มีการเคลื่อนไหวอะไรที่น่าจับตามองบ้างกันนะ เราคงปักหลักที่เฉิงตูนี้แหละบ้านเกิดเราอยู่นี้ แต่ข้าก็อยากไปที่อื่นบ้างเหมือนกัน รอเรามีกล้าข้างกายสัก คนหนึ่งที่จะปกป้องเราได้เราค่อยออกตะเวนไปตามที่ต่างๆเพื่อช่วยเหลือและเผยแผ่ศาสนาเพื่อให้ประชาชนนั้นมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ข้าจะไม่เหมือนพวกโพกผ้าเหลืองเด็ดขาดข้าสัญญา"

จีเทียนเต๋าที่พูดคนเดียวกับตนเองพร้อมกับที่ยังคงกวาดลานอารามไปเรี่อยๆ พร้อมกับคอยเก็บเหล่าใบไม้ที่ต้องคอยเอาไปทิ้งนั้นมาจัดให้เป็นระเบียบเพื่อที่เหล่าชาวบ้านหรือว่าใครก็ตามที่ผ่านเข้ามาจะได้ไม่เดินชนกับกองใบไม้เหล่านี้โดยที่ยังคอยมองเหล่าชาวบ้านที่ก็มีมาทยอยเข้ามายังอารามแห่งนี้โดยที่ก็มีเหล่าชาวบ้านบางส่วนที่รู้ว่าตนเองมาทำงานที่นี้ก็เข้ามาคอยจะช่วยเหลือแต่ตนเองก็ต้องห้ามเอาไว้เพราะว่านี้เป็นงานของตนเองถ้าชาวบ้านเหล่านั้นมาช่วยเหลืองานนี้ก็จะไม่ใช่งานของ จีเทียนเต๋าอีกแต่ก็มีเหล่าชาวบ้านบางส่วนที่พยายามจะบริจาคเงินให้หรือมอบเงินให้โดยที่ จีเทียนเต๋าก็ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นกว่าเดิมในการอธิบายให้คนเหล่านั้นเข้าใจและไม่บริจาคสิ่งของหรือว่าเงินทองให้กับตนเองอีก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องคอยห้ามเหล่าชาวบ้านไม่ให้ทำแบบนี้อีกได้กี่ครั้งกันเพราะมาทำงานทุกครั้งก็เจอแบบนี้ตลอดเลยก็หวังว่าครั้งหน้าที่มาทำงานนั้นเหล่าชาวบ้านจะเลิกยัดเยียดสิ่งของหรือว่าเงินตราให้กับตนเองอีก พร้อมกับที่ตนเองนั้นเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ตอนนี้ช่างเข้ากับบรรยากาศของสถานที่ ที่ตนกำลังทำงานอยู่จริงๆเลย

"ใบไม้เหล่านี้ก็เปรียบดังชีวิตของคนเราที่มีทั้งยามที่เกิดขึ้นมาแล้วก็ยามแก่แล้วก็ยามตาย ชีวิตของคนเราช่างสั้นนักเมื่อเปรียบเทียบกับโลกใบนี้ที่กว้างใหญ่มีเหล่าผู้คนที่ต้องลมตายกันไปเรี่อยๆ ทุกๆชั่วยามจะมีคนต้องตายไปเท่าไหร่ ถ้าโลกใบนี้สงบสุขได้ ชีวิตของมนุษย์ก็จะยืนยาวกว่านี้ แต่ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของยุคสมัยก่อนต่างก็สอนเราได้อยู่ 1อย่างก็คือว่า ยามใดที่บ้านเมืองสงบได้ไม่นานนั้นก็มักจะมีสงครามมาตลอด เปรียบดังที่ว่า สันติก็แค่ชั่วคราวแต่สงครามสิยั่งยืน คงต้องใช้คำนี้จริงๆ แต่ก่อนหน้านั้นถ้าเหล่าคนบาปเหล่านั้นรังแกข่มเหงคนดีถ้าไม่มีใครสามารถทำอะไรได้แบบนี้เราจะมีศาสนาไปเพื่ออะไรกัน? ถ้าศาสนาเรายังไม่สามารถปกป้องคนในศาสนาได้แล้วเราจะปกป้องคนอื่นได้เช่นไรกัน สันติอหิงสามันไม่สามารถที่จะใช้ได้กับทุกเหตุการณ์บนแผ่นดินนี้ เห้อข้าละเสียใจที่ตอนนี้ข้ายังไร้ซึ่งพลังที่จะปกป้องประชาชนเหล่าชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนได้แต่ข้าก็จะพยายามที่จะช่วยเหลือผู้อื่นให้ได้อย่างดีที่สุดและให้ได้มากที่สุดต่อให้ต้องใช้วิธีที่โหดร้ายก็ตามทีมันก็คงไม่มีทางเลือกที่มันดีและรวดเร็วกว่านี้อีกแล้ว"

ใช้ลักษณะนิสัย เลื่อมใสศรัทธา

+3 point โรลทำงาน

- 20 ความเครียด

@Webmaster

JiTianTao ดี

โรลทำงานบ่นไปเรี่อย

"นี้เรามาทำงานที่นี้ได้หลายวันเลยนะเนี้ย พอจะไม่มาทำก็ไม่ได้จิตใจเรารู้สึกสงบขึ้นตั้งแต่มาทำงานเลยนะ ช่วงนี้เหมือนจะปวดหัวบ่อยๆด้วยสิมาทำงานแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันถือว่าได้ช่วยให้จิตใจเราสงบขึ้นกว่าเดิมเราก็ไม่มีอันใดจะทำอยู่แล้วมาทำแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน"

โดยที่จีเทียนเต๋าก็ยังคงกวาดพื้นทำความสะอาดพื้นที่ต่อไปโดยที่สายตาคอยดูเหล่าผู้คนที่ต่างก็เข้ามา จุดธูป สวดมนต์ในอารามเต๋าแห่งนี้กันมากมาย

"ตอนนี้เราควรออกเดินทางไปเผยแผ่ศาสนาที่ทางเหนือดีหรือไม่ในเมื่อเราก็ต้องเดินทางไปบ่อยๆอยู่แล้วแต่ว่าทางเฉิงตูก็ยังต้องเผยแผ่ต่อไปสินะ... อ่าช่างเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากจริงๆเลยนี้สิ งั้นเอางี้ล่ะกันข้าจะไปเผยแผ่ศาสนาทั้งสองที่เลยล่ะกันแบบนี้ แต่ว่าจะเน้นที่เฉิงตูก่อนพอผู้คนเริ่มเข้าใจในหลักธรรมของศาสนาคริสต์ ข้าก็จะเน้นเผยแผ่ไปยังทางเหนือที่ตอนนี้นั้นมีหลายความเชื่อผสมปนเปกันไปหมด แต่ข้าก็ไม่กลัวหรอกถ้าจะเจอกับ อุปสรรคเหล่านั้นของพวกนั้นคงเป็นแบบทดสอบของพระผู้เป็นเจ้าที่ต้องการให้เรานั้นประสบกับความยากลำบากต่างๆ ไม่มีสิ่งใดได้มาโดยง่ายถ้าเราไม่ลงมือทำ ขอเพียงเราไม่ท้อถอยหรือยอมตัดใจก็เพียงพอแล้ว แต่ว่าทางเหนือมีเหล่าชนเผ่าอยู่เหมือนกันสินะ ที่ยอมมาเข้าร่วมกับทางราชสำนัก พวกเค้าเหล่านั้นต่างก็นับถือความเชื่ออีกแบบสินะที่แตกต่างจากชาวฮั่นทั่วไปแต่ข้าก็ไม่ยอมแพ้หรอกนะแบบนี้!!! ได้ข่าวทางเหนือมีเจ้าเมืองที่น่าสนใจคนหนึ่งเหมือนกันถ้าว่างๆเราคงจะต้องไปลองเข้าไปดูว่า อีกฝ่ายลักษณะท่าทางนิสัยเป็นเช่นไรบ้าง แต่ว่ารอมีเวลาก่อนก็แล้วกันค่อยไปเยี่ยมเจ้าเมืองคนนั้น อ่ายังมีอีกคนแต่คนนี้ที่ข้าได้ข่าวมานิสัยใจคอทาท่าจะค่อนข้าง ออกไปทางไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สงสัยต้องไปด้วยตัวเองเสียแล้วเพราะข่าวลืออาจจะไม่เป็นจริงก็ได้แต่ว่าข่าวลือมันก็ต้องมีส่วนที่เป็นความจริงสินะ"

โดยที่เจ้าตัวก็ยังคงกวาดอารามเต๋าแห่งนี้พร้อมกับคอยมองผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาอีกด้วยว่าจะมีใครมาชนตนเองหรือกวาดไปโดนคนอื่นเลยต้องคอยกวาดไปสอดส่องคนอื่นไปด้วยอีกในตัว ถึงแม้ว่าคนที่มายังอารามเต๋าแห่งนี้จะไม่มากแต่การระมัดระวังไว้ก็เป็นสิ่งที่ดีกว่า

ใช้ลักษณะนิสัยเลื่อมใสศรัทธา

+3 point โรลทำงาน

-20 ความเครียดเมื่อโรลทำงาน

JiTianTao ดี

โรลทำงานแต่ชาวบ้านมาชวนคุย

บริเวณอารามเสินต้าเทียนนั้น ตอนนี้จีเทียนเต๋ากำลังมาทำเช็ดถูตัวอารามอย่างขยันขันแข็งถึงแม้ว่าจะต้องใช้แรงมากกว่าปกติที่ใช้ในการกวาดพวกใบไม้หรือว่าพวกเหล่าเศษขยะบริเวณรอบอารามก็ตามทีโดยที่ตอนนี้เหล่าชาวบ้านเริ่มที่จะชินกับที่ นักพูดคนนี้นั้นมาทำงานประจำวันเป็นการทำความสะอาดอารามเสินต้าเทียน แห่งนี้นั้นเองโดยที่เหล่าชาวบ้านที่มายังอารามเต๋าแห่งนี้ถ้าว่างๆ ก็จะแวะมาสนทนากับ จีเทียนเต๋าอยู่เสมอเพราะที่มักจะได้ข้อคิดและแนวคิดใหม่ๆเสมอ และข่าวสารที่ไม่รู้ว่านักบวชคนนี้ไปเอาข่าวมาจากไหน

"ท่านนักบวช ถ้าโจรโพกผ้าเหลืองมันมาถึงเมืองเฉินตูได้พวกเราจะทำเช่นไรดีแบบนี้ข้ารู้สึกกังวลมากยิ่งได้ข่าวมาพวกที่ไม่นับถือ ลัทธิไท่ผิงนั้นต่างก็โดนกดขี่จำต้องไปเข้ารีตนับถือศาสนานั้นช่างน่ากลัวจริงๆเลย"

"ท่านอย่าพึงกังวลกับเหตุการณ์เช่นนี้เลยตอนนี้มันยังไม่เกิดและค่อนข้างจะยากที่เหล่าโจรโพกผ้าเหลืองจะมาถึงเฉิงตูเราได้เนื่องจากการเดินทางที่ยากลำบากยังไม่รวมถึงเวลาในการที่จะเดินทางมา พวกโพกผ้าเหลืองจำต้องล้มล้างราชสำนักก่อนถึงจะสามารถมาที่ปาสู่ได้ แค่ตอนนี้โจรโพกผ้าเหลืองเหล่านี้ยังไม่สามารถที่จะเข้ายึดลกเอี๋ยนได้เลยยังคงไม่ใช่เร็วๆนี้อย่างแน่นอนรวมทั้งที่ว่าตอนนี้นั้นเหล่าโจรโพกผ้าเหลืองหาได้ครองใจเหล่าประชาชนไม่จำต้องแพ้ผ่ายไปยังแน่นอน ผู้ใดครองใจเหล่าประชาได้ผู้นั้นก็ได้ครองแผ่นดินไปครึ่งหนึ่งแล้วแต่ถ้าไม่สามารถที่จะครองใจประชาชนได้ถึงแม้ว่าจะครองแผ่นดินได้แต่ก็รักษาไว้ได้ไม่นานหรอก อย่างราชสำนักนั้นตอนนี้หาได้ครองใจเหล่าประชาชนไม่ถึงแม้จะมีคนที่ยังคงสนับสนุนนั้นแต่ก็ไม่ใช่ทั้งแผ่นดินหรอกนะ เพราะถ้าแผ่นดินที่ทางราชสำนักปกครองมาดีคงจะไม่มีเหตุการณ์แบบโจรโพกผ้าเหลืองเกิดขึ้นแบบนี้หรอกนะ"

"ถ้าเป็นอย่างที่ท่านนักบวชพูดแบบนั้นข้าก็สบายใจขอบคุณท่านมากจริงๆที่ช่วยต่อสู้กับระบอบความไม่เป็นธรรมเหล่านั้น"

"หามิได้ข้าเพียงเป็นนักพูดยังไร้ซึ้งพลังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้แต่ถ้าข้ามีความสามารถมากพอจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ข้าจะรีบเปลี่ยนแปลงระบบที่มันเน่าเสียนี้ให้ดีขึ้นเอง"

พร้อมกับเจ้าตัวยังคงเช็ดถูพื้นอารามต่อไป

ใช้ลักษณะนิสัย เลื่อมใสศรัทธา

+3 point

-20 ความเครียด

JiTianTao ดี

โรลทำงานหาเงินนะ

เช้าวันที่สดใสนี้นั้น จีเทียนเต๋าก็ได้มารับจ้างประจำวันของอารามเต๋าต่อซึ้งก็ไม่รู้เพราะว่าเจ้าตัวนั้นชอบที่จะมาทำความสะอาดที่อารามเต๋า หรือว่าชอบที่จะทำงานแบบไม่เร่งรีบไปเรี่อยๆแบบนี้กันแน่ แต่ว่าถึงจะเป็นแบบนั้นเจ้าตัวก็ยังคงชอบที่จะมาทำงานประจำวันที่อารามเต๋าแห่งนี้เสมอแม้ว่าค่าจ้างมันจะน้อยไปบ้างแต่ว่าก็งานก็ไม่หนักหนาสาหัสอะไรจึงเป็นงานที่ จีเทียนเต๋านั้นค่อนข้างจะชอบทำงานเกี่ยวกับสบายๆแบบนี้ที่ไม่ต้องออกแรงมากมาย เพราะร่างกายของตนเองนั้นไม่ได้แข็งแรง มากมายขนาดนั้นเพราะตนเองไม่ได้ฝึกวิชาบู๋หรือฝึกการใช้อาวุทที่จะทำให้ตนเองนั้นออกกำลังกายมากเท่าไหร่

"เห้อเสียเงินไปเยอะเลยเราช่วงนี้ก็ต้องทำงานหาเงินบ้างเราต้องทำงานเก็บเงินเอาไว้ซื้อชาดีๆหรือว่าซื้อเหล้าดีๆเอาไว้ถึงแม้ว่าทำงานมันอาจจะยังไม่พอแต่ถ้าขยันทำยังไงมันก็ต้องพอบ้างแหละนะ"

โดยที่เจ้าตัวนั้นก็ยังคงทำความสะอาดอารามเต๋าแห่งนี้โดยที่ช่วงนี้นั้นมีเหล่าสาวกที่เข้าร่วมกับ ศาสนาคริสต์นั้นเริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นเรี่อยๆโดยที่พวกเค้าเหล่านั้นต่างก็กระจายข่าวเกี่ยวกับ ศาสนาคริสต์ที่เป็นศาสนาใหม่ที่จะเป็นศาสนาที่เท่าเทียม เป็นศาสนาที่จะช่วยให้ผู้คนในแผ่นดินนี้นั้นรอดไปด้วยกัน

"ถือว่าเป็นการเริ่มต้นได้ดีข้าควรที่จะเผยแผ่หลักคำสอนที่เฉิงตูนี้ต่อไปหรือว่าข้าควรที่จะเดินทางขึ้นเหนือหรือว่าจะไปทางใต้ดีนะ อ่า ช่วงนี้ข้าจะต้องคิดให้ดีๆก่อนแล้วว่าจะต้องทำเช่นไรตอนนี้ แผ่นดินเกิดแต่ความทุกข์ยาก ประชาชนต่างเดือดร้อนไปทั่วแบบนี้ข้าคงอยู่เฉยไม่ได้ นะแบบนี้ถ้าเกิดข้าอยู่เฉยๆแบบนี้เหล่าประชาชนต่างก็ต้องทนทุกข์กันแบบนี้ต่อไปข้าคงยอมไม่ได้ แต่ตอนนี้ข้าซึ้งไรพลังยิ่งนัก"

โดยที่จีเทียนเต๋าก็ยังคงยืนคิดถึงหนทางที่ตนเองนั้นจะเลือกเดินไปว่าตนจะเลือกเดินไปทางไหนที่สามารถจะ ช่วยเหลือเหล่าประชาชนในนั้นให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมให้ได้ถึงแม้ว่าจะต้องเจอกับภัย อันตรายอะไรก็ตามที ก็จะฝ่าฟันไปข้างหน้าอย่างไม่ย่อท้อแต่ตอนนี้นั้น ศัตรูที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของ จีเทียนเต๋าตอนนี้นั้นก็คือโจรโพกผ้าเหลืองนั้นเองที่ต้องกำจัด!!!"

ใช้ลักษณะนิสัยผู้รู้คุณ

+3 point

-20 ความเครีดเมื่อโรลทำงาน

@Webmaster

JiTianTao ดี

โรลทำงานหาเงินซื้อชาชั้นดี

"งานคือเงิน เงินคืองาน สิ่งของต่างๆล้วนต้องการเงินในการซื้อทั้งนั้นไม่มีสิ่งใดได้มาฟรีเฉกเช่นความรักของพระองค์ท่านที่มีต่อเราเพื่อนมนุษย์ทุกคนนั้นเองแต่ว่างานก็คือสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำถ้าเราเลือกไม่ได้ แต่จงให้กำลังใจตนเองเราจะสู้ต่อไปเรามีพระองค์เคียงข้างเราอยู่เสมอ"

จีเทียนเต๋าที่กำลังบ่นพึมพำเพียงคนเดียวในขณะที่ตอนนี้นั้นตนเองกำลังทำงานประจำวันที่ อารามเต๋าแห่งนี้โดยที่ติดเป็นนิสัยของตัวเองไปแล้วนั้นเองที่จะต้องมาทำงานทุกวันในอารามเต๋า ถึงแม้ว่าตนเองอาจจะขอรับบริจาคจากชาวบ้านก็ได้แต่ทำแบบนั้นก็ไม่ต่างจากการขูดรีดเลือดเนื้อของชาวบ้านอีก เพราะชาวบ้านต่างก็ทุกข์ร้อนกันอยู่แล้วการไปเบียดเบียนอีกฝ่ายอีกก็คงไม่สามารถทำได้ลง

"ถึงแม้ว่าพระองค์ จะสอนถึงความเมตตาเผื่อแผ่ต่อเพื่อน มนุษย์ด้วยกันแต่ว่าพระองค์ก็ทรงสอนถึงการเผื่อแผ่เพียงแค่เท่าที่เรามีอยู่ไม่จำเป็นจะต้องทำไปจนตัวเองเดือดร้อน ถ้าทำแบบนั้นมันจะเป็นการสร้างความทุกข์ให้แก่เราเองเราควรที่จะทำแค่พอตนเองไม่เดือดร้อนก็เพียงพอแล้ว อืม...พอพูดถึงเรื่องนี้แล้วข้าก็นึกได้ว่าข้ายังไม่เคยไปทำงานที่อื่นนอกจากเมืองเฉิงตูเลย เห็นทีแบบนี้ข้าคงต้องไปหา ประสบการณ์และงานที่มีรายได้ดีมากกว่านี้ ข้าต้องเก็บเงินเพื่อที่จะสร้าง ศาสนาอีกมันจำต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ถ้าข้าเก็บไปแบบนี้คงจะพอมีใช่ไหมนี้ถ้าเกิดไม่มีจริงๆ หรือว่าข้าควรจะรับการบริจาคจากเหล่าพ่อค้าด้วยถึงจะดีนะแบบนี้ อ่าถ้าไม่จำเป็นจริงๆข้าก็จะไม่รับบริจาคก็แล้วกัน เมื่อใดกันนะพวกราชสำนักจะเคลื่อนทัพเข้าตีพวกโจรโพกผ้าเหลืองเหล่านี้ให้หมดสิ้นไปเสียที เหล่าประชาชนจะได้รอดพ้นจากความเดือดร้อนเหล่านี้กัน?"

โดยที่จีเทียนเต๋าก็ยังคงคิดถึง อนาคตของแผ่นดินที่ตอนนี้นั้นช่างไม่มีความหวังเสียเลยถ้าเกิดไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ถ้ายังคงจมปลักแบบนี้ต่อไปก็คงจะแย่กว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้อย่างแน่นอนถ้าเรามัวแต่รออนาคตอย่างเดียวโดยที่ไม่ทำอะไรเลยเราก็คงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนี้นั้นในทางที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอนเลยแต่ถ้าไม่มีใครทำข้าก็จะทำอย่างแน่นอน

ใช้ลักษณะนิสัยถ่อมตน

+3 point

-20 ความเครียดเมื่อโรล

JiTianTao ดี

โรลทำงานเก็บเงิน

"ถ้าพวกท่านมีอันใดที่ไม่เข้าใจหรือว่าต้องการข้อคิดในด้านใดหรือมุมมองใหม่ๆพวกท่านก็ถามข้าได้เลยข้าพร้อมยินดีตอบข้อสงสัยของทุกท่านอย่างแน่นอนในเวลาพักงานข้านะ"

จีเทียนเต๋าที่ตอนนี้กำลังตอบเหล่าชาวบ้านที่กำลังมารุมล้อมตนเองพร้อมกับที่ถามคำถามแนวคิดใหม่ๆจากตนจนเต็มไปหมดทำให้ตัวเองนั้นไม่สามารถที่จะทำงานทำความสะอาดที่อารามนี้ได้ จนต้องบอกอีกฝ่ายให้รอตนเองว่างพักจากเวลางานเสียก่อนถึงจะสามารถมาตอบคำถามของอีกฝ่ายได้หมด หลังจากที่ตนเองทำงานปัดกวาดพื้นที่ของอารามจนถึงเวลาที่ตนเองได้พักแล้วก็ค่อยๆเดินไปนั่งพักที่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง หลังจากที่ชาวบ้านเห็นว่าถึงเวลาที่ตนเองได้พักแล้วนั้น ก็มารุมคำถามตนเองกันไปหมด

"เอาล่ะทีล่ะคำถามกันนะพวกท่าน ข้อแรกคือการที่พวกท่านถามข้าว่าบุตรจำต้องตอบแทนบิดามารดาหรือไม่ในเมื่อบิดามารดาผู้ที่ให้กำเนิดตนเองมาแต่ไม่ได้เลี้ยงตน แต่เป็นพ่อแม่บุญธรรมที่เลี้ยงตนเองมา ข้อนี้นั้นคือพ่อแม่ผู้ที่ให้กำเนิดเรามาล้วนมีบุญคุณกับเราแต่ว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงเรามาล้วนมีบุญคุณกับเราเหมือนกันแต่ถ้าต้องให้เลือกจงเลือกพ่อแม่ที่เลี้ยงดูแลตัวเองมา เพราะเค้าคือคนที่ให้ชีวิตใหม่กับเรา นั้นเอง จงอย่าทำให้พ่อแม่เราเสียใจการที่บุตรจะต้องเชื่อฟังบิดามารดานั้นแล้วแต่เป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ว่าถ้าคำสั่งของบิดามารดาที่สั่งนั้นมันไม่ชอบด้วยหลักเหตุผลหรือเป็นการกระทำที่ผิดศีลธรรมเราก็จงอย่าได้ทำตามถึงแม้บุคคลนั้นจะเป็นพ่อแม่ของเราเองเพราะ เรายังมีพ่อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราอีกนั้นก็คือพระเจ้าของเรายังไงกันล่ะ"

พร้อมกับที่จีเทียนเต๋าได้สอนให้คนเหล่านั้นได้รู้ถึงหลักคำสอนอันยิ่งใหญ่ของศาสนาคริสต์ที่พวกเค้าเหล่านั้นควรที่จะยึดถือกันเพื่อใช้เป็นหลักในการยึดเหนี่ยวจิตใจของตน โดยที่ก็สอนให้คนเหล่านั้น มีความคิดและการตัดสินใจได้ด้วยตนเองว่าควรที่จะเชื่อหรือไม่ เพราะตนเองนั้นไม่ได้บังคับให้คนอื่นต้องมาเข้าร่วมศาสนาของตนเท่านั้น สอนให้พวกเค้าเหล่านั้นคิดได้และสอนให้คนเหล่านั้นอย่าโดนหลอกโดยพวกทีแอบอ้างตนเองว่าเป็นคนที่มี วิชาอาคมไม่แก่ไม่ตายเพราะคนเราทุกคนนั้นล้วนต้องตายเหมือนกันหมดนั้นเอง

ใช้ลักษณะนิสัยเลื่อมใสศรัทธา

+3 point โรลทำงาน

-20 ความเครียดเมื่อโรลทำงาน

วีรชนที่หลับใหล