[เมืองเฉิงตู] ตลาดซินหัว

JiTianTao ดี

โรลเผยแผ่ศาสนา-วิจารณ์เหล่า บัณฑิต

ยามนี้นั้น จีเทียนเต๋าก็ได้เดินออกมาดูเหล่าชาวบ้านที่กำลังเดินผ่านไปผ่านมากันอยู่พร้อมกับที่เหล่าเด็กๆต่างก็ออกมาวิ่งเล่นกัน ตลาดที่คึกคักแห่งนี้ต่างก็เต็มไปด้วยชีวิตชีวากันมากขึ้น หลังจากที่ดูจนพอใจแล้วนั้นก็ได้ยืนคิดถึงสิ่งที่จะพูดในวันนีกับที่ได้ยินข่าวบางอย่างจากเหล่าชาวบ้านที่ไปได้ยินมานั้น จีเทียนเต๋าก็ได้ส่งยิ้มและอวยพรให้ทุกคนก่อนที่จะเริ่มการพูดของตนเองขึ้นมา

"สวัสดีทุกท่านที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้และอยู่ที่ห่างไกล ข้านักพูด จีเทียนเต๋า วันนี้นั้นจะมาพูดเกี่ยวกับเรื่องบางเรื่องที่ข้าได้ยินมาจากผู้คนที่ผ่านไปมาว่า มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับข้าในเรื่องที่พูดไปเมื่อวานก่อน ข้าก็หาได้ว่าอันใดไม่แต่ที่ข้ายอมไม่ได้ที่คนเหล่านั้นพูดมาก็คือการ ที่ต่อว่าว่าการกระทำของข้านั้นคือการดึงผู้คนให้เข้าร่วม ศาสนาคริสต์เพื่อประโยชน์ของข้าเอง? ข้าอยากจะถามพวกเค้าเหล่านั้นว่าในตอนนี้ พวกลัทธิไท่ผิงกลายเป็นโจรโพกผ้าเหลืองพวกเค้าเหล่านั้นไปอยู่ในกัน? พวกเค้าเหล่านั้นได้ทำอันใดที่มีประโยชน์ต่อประชาชนบ้าง? ข้าไม่กลัวคำวิจารณ์แต่ข้ารับไม่ได้ที่พวกท่านมาหาว่าข้าทำเพื่อตนเองข้าจะได้ประโยชน์อันใดกับการทำเพิ่อตนเอง หัวใจของข้าหาได้มีความโลภไม่ ข้ามีเพียงความ ศรัทธากับความเชื่อที่ว่าจะต้องทำให้เหล่าชาวบ้านนั้นได้อยู่ดีกินดีไม่ต้องอดอยากอีกต่อไป มีหมอรักษาในยามที่ป่วย มีบ้านให้อยู่ยามนอน มีเงินทองให้ใช้ยามทำงาน!!! ข้ามิจำเป็นที่ต้องออกมาเรียกร้องให้เหล่าปวงประชาก็ได้ข้าเพียงทำงานปกติ ใช้ชีวิตแบบคนทั่วไปก็ได้แล้วข้าถามหน่อยสิว่าถ้าข้าทำแบบนั้น ข้าจะไปต่างอะไรกับพวกท่านกัน? หนังสือคงสอนพวกท่านให้ได้แต่ความรู้แต่คงสอนพวกท่านให้รู้จัก จริยธรรมคงไม่ได้ พ่อแม่พี่น้องทุกท่าน เหล่าบัณฑิตเหล่านั้นเคยทำอันใดช่วยพวกท่านหรือไม่? พวกเค้าเหล่านั้นเคยเป็นปากเป็นเสียงให้พวกท่านหรือไม่? พวกเค้าเหล่านั้นตั้งนั่งอยู่บนหอคอยสูงไม่เป็นทุกข์เป็นร้อนต่อความเป็นอยู่ของพวกเราชาวบ้านเลย เอาแต่เชิดชูราชสำนัก เชิดชูฮ่องเต้ แต่พวกเค้ารู้บ้างไหมว่าคนที่พวกเค้าเชิดชูคือพวกคนที่ทำให้เหล่าชาวบ้านต้องทุกข์ลำบากกันแบบนี้!!! โจรโพกผ้าเหลืองจะไม่เกิดถ้าระบอบราชสำนักปกครองด้วยดี!!! พวกเหล่าบัณฑิตพวกนั้นเคยลงมาทำงานใช้แรงงาน เคยกินแบบอดๆอยากๆไหม? เคยต้องนอนขดหลังแข็ง ต้องนอนโดยที่ไม่มีแม้แต่ผ้าห่มจะห่ม ต้องอยู่บ้านที่มีรู้รั่ว ยามฝนตกก็มีน้ำหยดลงมา ยามหิมะตกก็มีหิมะล่วงหล่นมา!!! พวกเค้าเหล่านั้นเคยลำบากเหมือนพวกเราไม่พวกเค้าก็เอาแต่พูด เอาแต่วิจารณ์ แต่ไม่เคยทำอะไรเลย!!! พวกเค้าต่างอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอันใดเพื่อพวกเรา เผลอๆเค้าไม่มองว่าพวกเราเท่าเทียมกับเค้าด้วยซ้ำ!!! พวกเค้าเหล่านั้นต่างก็ได้ศึกษามีความรู้เหตุฉไหนจึงไม่นำความรู้นั้นมาช่วยเหลือเหล่าประชา กลับมัวแต่นิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลยการนิ่งเฉยก็คือการสนับสนันให้ความชั่วมันแผ่ขยายออกไป ถ้าคนดีต่างนิ่งเฉยคนชั่วก็จะยิ่งได้ใจถ้าเหล่าคนดีต่างไม่ทำอะไรเลยแล้วเราจะมีความดีไปเพื่ออันใดกันเหล่า? แต่ข้าก็ไม่ได้เหมารวมทั้งหมดยังมีเหล่า บัณฑิตที่คอยช่วยเหลือประชาชนอยู่ถึงแม้มันจะน้อยกว่าก็ตามที่ข้าไม่อยากจะ วิจารณ์พวกท่านแต่ถ้าข้าไม่เตือนสติพวกท่าน คงจะทำให้ชีวิตของพวกท่านไร้แก่นสารต่อไปความรู้ที่พวกท่านควรจะนำมาใช้เพื่อ พัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนแต่กลับไม่ทำอันใดเลยช่างน่าเสียดายยิ่งนัก ข้าจะขอย้ำอีกครั้งศาสนาเราจะเป็นมิตรกับทุกศาสนา เว้นแต่พวกลัทธิไท่ผิงที่ก่อความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้าที่ข้าจะไม่มีวันเป็นมิตรกับพวกนั้นเด็ดขาด!!! แต่พระเจ้าก็ทรงให้อภัยทุกคนที่เคยทำผิดไปเพียงสำนึกผิดและกลับตัวกลับใจมันก็ไม่สายเกินไปที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ เราไม่อาจจะย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้แต่เราจะเริ่มต้นใหม่แล้วทำอนาคตให้ดีขึ้นได้ การขอโทษที่ว่าอยากแล้วแต่การให้อภัยนั้นคือสิ่งที่ยากยิ่งกว่า สังคมเราจะดีขึ้นได้ถ้าทุกคนรู้จักการให้อภัย ข้ารู้ว่าการให้อภัยมันยากแต่เราก็ต้องทำมันให้ได้เพื่อสังคมที่ดีที่มีแต่การให้อภัย

ใช้ลักษณะนิสัยถ่อมตน,เลื่อมใสศรัทธา,ผู้รู้คุณ

@Webmaster

JiTianTao ดี

โรลเผยแผ่ศาสนา-วิจารณ์สิทธิสตรี

ตอนนี้นั้น จีเทียนเต๋ากำลังเดินดูสินค้าต่างๆที่เหล่าชาวบ้านกับเหล่าพ่อค้าแม่ค้านำสินค้าเอามาขายพร้อมกับที่ทักทายเหล่าชาวบ้านไปในตัว หลังจากที่ได้เดินดูจนเป็นที่หน้าพอใจแล้วก็ทำการอุดหนุนสินค้าของพ่อค้าแม่ค้าเหล่านั้นด้วยอีกนิดหน่อย ก่อนที่จะเดินกลับมาที่ยังที่ตนเองพูดทุกวันก่อนจะอวยพรให้ทุกคนพร้อมกับที่เริ่มการพูดในวันนี้

"สวัสดีทุกท่าน ข้าจีเทียนเต๋าก็มาเจอกับทุกท่านอีกครั้งในวันนี้ สำหรับวันนี้นั้นข้าก็มีเรื่องที่น่าสนใจเอามาบอกกล่าวกับทุกท่านอีกตามเคย สำหรับวันนี้ที่ข้าจะพูดนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเท่าเทียมของเหล่าสตรีที่ตอนนี้นั้นเหล่าสตรีต่างไม่ได้รับความเท่าเทียมอันใดเลย จากทั้งทางสังคมที่ไม่มีความเท่าเทียมกันของสตรีหรือว่าจะเป็น บรรทัดฐานที่ว่าสตรีไม่ควรรับราชการ? เพราะเหตุใดกันจึงต้องเป็นแบบนี้? อาจจะเป็นเพราะมีการทำมานานแล้วหรือจะเป็นเพราะมันควรจะเป็นทำไมถึงเป็นแบบนั้นกันได้?ทำไมผู้หญิงจึงไม่สามารถที่จะทำรับข้าราชการ หรือต้องโดนจำกัดให้อยู่ในกรอบกัน? ทำไมผู้ชายจึงสามารถแต่งงานมีทั้งภรรยาและอนุภรรยากัน? แล้วการที่สังคมบอกว่ามันเป็นเรื่องปกตินี้มันคืออันใดกัน? แล้วที่การผู้หญิงไปมีใหม่บ้างกลับหาว่าเป็นคนเลวทั้งผู้ชายทำกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นแถมสังคมยังยอมรับกันเป็นเรื่องปกติข้าก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดสังคมถึงเป็นเช่นนี้ เพราะว่ามันถูกวางกฏระเบียบแบบนี้มาเนิ่นนานแล้วเช่นนั้นหรือ? หรือเพราะว่ามันเกิดจากการที่เราเห็นจนชินชากันแน่? ทำไมในแผ่นดินนี้ผู้หญิงจึงเป็นเพียงแค่ผู้ที่ต้องคอยทำตามคำสั่งของผู้อื่นหรือว่าจะต้องคอยโดนมองเป็นสินค้าเวลาซื้อขายกัน? หรือเป็นเพียงแค่สิ่งที่เอาไว้ระบายความใคร่เท่านั้น? สิทธิผู้หญิงของสังคมในตอนนี้นั้นมีแต่แย่ลงเรี่อยถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปอีกเท่าใดกันที่ผู้หญิงถึงจะ สามารถเลือกในสิ่งที่ตนเองต้องการหรือจะเลือกเส้นทางของตนเอง ไม่ใช่เส้นทางที่สังคมคอยพร่ำบอกว่าผู้หญิงนั้น จะต้องเป็นแม่บ้านแม่เรือน ต้องมีมารยาทที่งดงาม ต้องเลี้ยงลูกได้ ทำไมผู้หญิงถึงจะไม่สามารถจับดาบถือหอกได้ พราะเหตุใดเรื่องเช่นนี้จึงเกิดขึ้นกับสังคมแบบนี้ ศาสนาเราจะให้ความเท่าเทียมกันระหว่างชายหญิงจะไม่มีการกีดกันผู้หญิงออกจากสังคม จะไม่มีการกีดกันผู้หญิงให้แต่คอยเลี้ยงลูกอยู่แต่บ้านไม่สามารถทำงานอะไรได้ ให้คอยแต่รับฟังคำสั่งจากสามีเชื่อแต่สามีเท่านั้น ศาสนาเราจะให้ผู้หญิง มีสิทธิ์เท่าเทียมกันกับผู้ชายจะไม่มีการแบ่งชายหญิงจะมีแต่การ เคารพซึ่งกันและกันเพศจะไม่ใช่ตัวแบ่งกันถึงความสามารถของผู้หญิงอีกต่อไป ผู้หญิงจะสามารถทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำได้มากขึ้น ถ้ากฏระเบียบมันล้าหลังเราก็ต้องเปลี่ยนมันบ้างจะปล่อยให้กฏระเบียบที่มันล้าหลังเราแบบนี้นั้นคอยฉุดเราไม่ได้เราจะต้องปรับตัวให้ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป กาลเวลาไม่เคยรอใคร จงเชื่อมั่นในตัวข้า จีเทียนเต๋า ข้าจะทำให้ผู้คนที่นับถือ ศาสนาคริสต์นั้นมีความเท่าเทียม มีแต่การเคราพซึ่งกันและกัน อย่าให้อะไรมาบดบังใจที่ศรัทธาของพวกท่านได้เพราะว่าเรานั้นต่างก็มีหัวใจมีเลือดเนื้อเหมือนกัน เราก็ต่างเป็นคนเหมือนกันถ้าเรายังคงรอแบบนี้หรือว่าปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นและปล่อยไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเราก็ไม่ต่างกับพวกคนที่ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงนี้ เรากำลังเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สังคมมันดียิ่งขึ้น อาจจะมีคนบอกข้าว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็ดีอยู่ไม่เห็นจำเป็นต้องเปลี่ยน ในอดีตทุกยุคสมัยนั้นต่างก็ใช้ระบบแบบนี้มานานแล้วก็ยังอยู่กันได้ แล้วถ้าเราไม่แก้ไขตอนนี้แล้วยังปล่อยไปแล้วเมื่อไหร่เราถึงจะได้แก้ไขมันให้ดีขึ้นเสียที ผู้หญิงจำต้องโดนกดขี่แบบนี้อีกไปนานเท่าใด 100ปี 200ปี หรือจะ500ปี กัน? มันควรถึงเวลาที่เราจะเปลี่ยนแปลงแล้ว ถ้าผู้หญิงคนใดต่างคิดว่าสิ่งตนเองเจออยู่มันไม่ยุติธรรม ก็ให้รวมพลังกันตราบใดที่ข้ายังอยู่ข้าจะไม่ให้ คนที่นับถือ ศาสนาคริสต์ผู้หญิงนั้นต้องโดนกดขี่เด็ดขาด เพราะข้าจะช่วยเหลือพวกท่านเอง!!!"

ใช้ลักษณะนิสัยถ่อมตน,เลื่อมใสศรัทธา,ผู้รู้คุณ

@Webmaster

JiTianTao ดี

โรลเผยแผ่ศาสนา-จับโจรกี้ๆ

วันนี้ท้องของ จีเทียนเต๋านั้นกำลังส่งเสียงร้องระงมเนื่องจากตนเองนั้นไม่ได้กินข้าวเช้ามาแล้วตอนนี้กำลังเที่ยงเลยตนเองจึงต้องพักการพูดก่อนชั่วคราวก่อนที่จะไปเดินหาอะไรกินโดยที่วันนี้นั้นเลือกเป็น ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเผ็ดที่ตนเองชอบมากหลังจากที่ใช้เวลากินอารจนอิ่มแล้วตนเองก็ลุกไปจ่ายเงินให้กับพ่อค้าก่อนที่จะเดินมายังที่ประจำของตนอีกครั้งหนึ่งก่อนจะเริ่มพูดเรื่องของวันนี้ที่ตนเองนั้นเตรียมมา

"ทุกท่านที่ฟังกันในเรื่องที่ข้าได้พูดไปในเรื่อง สิทธิของสตรีเพศอาจจะมีบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยข้า ข้านั้นก็ไม่ว่าอันใดความคิดของคนเรานั้นมันหาได้เปลี่ยนไปกันได้ง่ายๆไม่ วันนี้ข้าจะมาคุยเรื่องลูกนอกสมรสกัน หรือก็คือลูกที่พ่อหรือแม่นั้นไม่ได้เกิดจากการแต่งงานกันถูกต้องตาม ประเพณีมีแต่คนรังเกียจเดียดฉัน ไม่สามารถมีที่ยืนในสังคมได้เลย ทั้งที่พวกเค้าก็หาได้ทำความผิดอะไรจนถึงกับต้องโดนกระทำเช่นนี้? หรือพวกเค้าแค่ผิดที่เกิดมาบนแผ่นดินนี้กันแน่? คนเราเลือกเกิดไม่ได้ พวกเค้าเหล่านั้นล้วนเกิดมา อาจจะด้วยรัก หรือความไม่ได้ตั้งใจ หรืออะไรก็ตาม แต่เด็กเหล่านี้ต่างก็ไม่ได้ทำอะไรผิดทำไมเค้าจะต้องมารับผลของการกระทำที่เกิดจากพ่อแม่ด้วยมันชั่งไม่ยุติธรรมกับพวกเค้ายิ่งนัก เค้าไม่ไม่มีสิทธิที่จะเกิดมาแม้แต่ดูโลกด้วยซ้ำบางคนเพราะพ่อแม่ของเค้ารับไม่ได้กับความอับอายนี้ กลายเป็นว่าเค้าเกิดมาก็ล้วนแล้วแต่ไม่มีใครยอมรับแม้แต่พ่อแม่แท้ๆของเค้าเองก็ตาม ข้าเชื่อว่าถ้าเรามอบความคิด บรรทัดฐานของสังคมที่จะให้เด็กๆเหล่านี้ได้มีชีวิตอยู่ที่ดีขึ้นจากแต่ก่อนมันก็คงจะดีไม่น้อยเลยดีกว่าที่จะต้องปล่อยให้เด็กๆที่ไม่รู้ความผิดเหล่านี้ต้องมาโดนสังคมตีตราว่าพวกเค้าไม่น่าเกิดมาแบบนี้มันหาใช่ไม่?ทั้งที่พวกเค้าก็ต่างเป็นลูกของท่านคนหนึ่งเหมือนกันแต่ท่านทำกับเค้าเฟมือนกับว่าเค้าไม่ใช่ลูกของท่าน ลูกที่ไม่มีเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านเพียงเพราะว่าเค้าเกิดมาจากคนที่ท่านไม่ได้แต่งงานด้วย ผู้ที่ทำแบบนี้ได้ลงคออย่าเรียกตัวเองว่าเป็นคนเลยแม้แต่สุนัขมันยังรักลูกของมัน ยีงคอยปกป้องดูแล ป้อนข้าวป้อนน้ำให้ลูกของมัน แต่ท่านเป็นคนที่มีความคิดมีจริยธรรมทำไมการกระทำของท่านยังไม่เทียบเท่ากับสัตว์เลย เสือที่ว่าร้ายมันยังไม่กินลูกตัวเองเลยพวกท่านที่เป็นคนกับทำแบบนี้กับลูกของพวกท่านได้ลงคอเลยเช่นนั้นหรือ?"

โดยที่ระหว่าง จีเทียนเต๋านั้นกำลังพูดอยู่นั้นตนเองก็สังเกตุเห็นสายตาที่จะกินเลือดกินเนื้อตนจึงคอยสังเกตุอีกฝ่ายไว้ แต่เพียงไม่นานอีกฝ่ายก็ได้พุ่งตรงมาหาตนพร้อมกับมีดพกสั้นในมือพุ่งมาด้วยความเร็ว แต่ดีที่ จีเทียนเต๋านั้นได้เอาไม้กางเขนฟาดเข้าใส่อีกฝ่ายเข้าเต็มแขนถึงกับทำให้อีกฝ่ายต้องทิ้งอาวุทแล้วกุมมือตัวเองแทน พร้อมด้วยที่เหล่าชาวบ้านต่างรีบเข้ามาช่วยกันจับชายคนนี้เอาไว้

"เจ้าเป็นใครทำไมถึงต้องมาทำร้ายข้าด้วย?เจ้ากับข้าเรามีความแค้นกันจนต้องถึงกับฆ่าแกงกันเช่นนี้เลยหรอ?"

"ฮ่าฮ่าฮ่าความแค้นอย่างงั้นหรอมีมากด้วยเลยล่ะไอคนที่พูดจาว่าร้ายลัทธิไท่ผิงเรามันจะต้องโดนสวรรค์ลงโทษ ไอ้นักบวชนอกรีตแบบแกจะต้องไม่ตายดี ไอ้พวกคนที่กล้าดูถูกลัทธิไท่ผิงเราจะต้องไม่ตายดี ฮ่าๆๆ สวรรค์จะต้องลงโทษคนชั่วช้าแบบแกแน่ ราชสำนักต้องจบสิ้นอย่างแน่นอน"

"ออสุดท้ายก็เป็นเพียงโจรโพกผ้าเหลืองนี้เองข้าก็นึกว่าผู้ใดส่งเจ้ามาหรือว่าข้าไปทำอะไรให้ใครโกรธแค้นจนต้องมาทำร้ายกันแบบนี้ จุๆๆๆเจ้าช่างกล้าเข้ามาในเมืองเฉิงตูเพียงคนเดียวเสียด้วยนับว่าใจกล้าไม่เบา งั้นให้เจ้าไปอยู่ในคุกก่อนล่ะกันแบบนั้นเจ้าจะได้สำนึกถึงสิ่งที่ได้เคยทำลงไปบ้างว่าสิ่งที่ตนเองนั้นทำลงไปมันใช่สิ่งที่ดีหรือเปล่าวหรือมันเป็นเพียงแค่สิ่งที่พวกเจ้านั้นสร้างมันขึ้นมาเองแล้วเที่ยวบอกใครต่อใครว่าสิ่งนั้นมันคือการกระทำที่ถูกต้องกันแน่นะ"

พร้อมกับที่เจ้าตัวกับเหล่าชาวบ้านช่วยกับจับโจรโพกผ้าเหลืองคนนี้นำส่งเข้าไปยังคุกของตัวเมืองต่อไปโดยที่ตนเองก็ต้องคอยห้ามเหล่าชาวบ้านไม่ให้รุมทำร้ายเจ้าโจรโพกผ้าเหลืองคนนี้จนตายเสียก่อนก็ตามที

ใช้ลักษณะนิสัยถ่อมตน,เลื่อมใสศรัทธา,ผู้รู้คุณ

@Webmaster

JiTianTao ดี

โรลเผยแผ่ศาสนากับโจรใจกล้า

"เหล่าร้านค้าที่เฉิงตูแห่งนี้มองอย่างไรก็ยังคึกคักอยู่เช่นเคยถึงแม้ว่าไฟสงครามยังมาไม่ถึงแต่ว่าสภาพบรรยากาศที่อื่นนอกจากในเมืองเฉิงตูช่างเต็มไปด้วยกลิ่นอายของไฟสงครามยิ่งนัก เหล่าประชาต่างเดือดร้อนกันทุกย่อมหญ้า"

จีเทียนเต๋าเพียงเม่อลอยเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะเริ่มทำการเตรียมตัวพูดในวันนี้

"สวัสดีทุกท่านข้า จีเทียนเต๋าก็มาพูดให้กับพวกท่านได้ฟังกันอีกครั้ง ในวันนี้นั้นข้าก็จะมาพูดเกี่ยวกับเหล่าชาวนากัน โดยที่เหล่าชาวนาทั่วๆไปนั้นล้วนแล้วแต่ต้องลำบากยากเขญกันเป็นจำนวนมากเพียงเพราะว่าต้องคอยพึ่งแต่เหล่าพ่อค้าแม่ค้า ที่คอยรับซื้อข้าวจากเหล่าชาวนานำไปขายต่ออีกทีโดยที่ทีนี้นั้นการที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้านั้นต่างก็มีอำนาจในการที่จะตัดสินใจในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวกับการควบคุมราคาสินค้าเพราะว่าพวกตนเองนั้นเป็นคนที่รับซื้อข้าวจากเหล่าชาวนาเพียงผู้เดียว ถ้าชาวนาจะนำข้าวไปขายให้กับทางการ เหล่าเจ้าเมืองที่ร่วมมือกับเหล่าชาวนาก็จะกดราคาข้าวของชาวนานั้นให้ต่ำกว่าที่ขายให้กับพวกพ่อค้าอีกพอมันเกิดขึ้นแบบนี้นั้น ชาวนาก็จึงไม่มีทางเลือกนอกจากที่จะต้องจำยอมที่จะต้องขายราคาต่ำให้กับพ่อค้าเหล่านั้น พวกท่านทุกคนเคยสงสัยไหมว่าทำไมตนเองทำนาปลูกข้าวต่อให้ปีไหนได้ผลผลิตดีตนเองก็ได้กำไรจากข้าวไม่มาก ยิ่งปีไหนผลผลิตแย่ มีเหล่าแมลงมากัดกินต้นข้าวหรือว่าเกิดจาก อุทกภัยน้ำท่วม หรือเกิดจากไฟป่าที่ลามมายังที่นาตนเองก็ยิ่งขาดทุนจนต้องไปกู้หนี้ยืมสินเอามากินเอามาใช้เอามาเป็นทุนในการทำนาปีหน้า จนสุดท้ายถ้าตนเองไม่มีเงินไปใช้หนี้เหล่านั้นตนเองก็จะต้องโดนยึดพื้นที่ไร่นาแบบนั้น ทำไมเหล่าชาวนาที่เป็นกระดูกสันหลังของชาตินั้นจะต้องมาโดนการกระทำอะไรแบบนี้ด้วยกันเพราะเหตุใด? ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองต้องมาเห็นเหล่าชาวนาที่ยิ่งปลูกข้าวก็ยิ่งจะจนลงเรี่อยๆเพราะอะไรกัน? ทำไมคนที่เป็นปลูกข้าวให้เรากินถึงมีชีวิตความเป็นอยู่ที่แย่ลงแบบนี้กัน? ข้าล่ะไม่อยากจะเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับการปกครองแต่ถ้าข้าไม่เข้าไปยุ่งเหล่าชาวนาก็จะต้องไม่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้แน่นอน!!! ถ้าข้าได้มีอำนาจข้าจะยกระดับคุณภาพชีวิตของเหล่าชาวนาและทุกอาชีพที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบอบสังคมเหล่านี้ ข้าจะทำให้พวกทุกอยู่ดีกินดีไม่มีหนี้สิน แต่ข้าไม่สามารถสัญญาได้ว่าจะทำให้พวกท่านร่ำรวยได้ เพราะข้าเป็นเพียงนักบวชหาใช่นักปกครองแต่ถ้ามี บัณฑิตท่านใดเห็นแก่ใจประชาชนก็ขอให้มาช่วยกันร่วมมือกันเพื่อที่ชีวิตที่ดีขึ้นของเหล่าปวงประชา!!! ข้ามิได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือเอาหลักศาสนามาอ้างแต่ข้าทำด้วยใจของข้าเอง มิจำเป็นต้องเป็นเพียงคนที่นับถือ ศาสนาคริสต์เท่านั้น ทุกๆศาสนาข้าก็จะช่วยเหลืออย่าให้ศาสนามาเป็นตัวแบ่งว่าเราจะต้องเป็นใครทั้งที่เรานั้นก็คือคนเหมือนกัน"

"ถุ้ยไอนักบวชนอกรีตแกก็พูดหลอกคนอื่นไปเรี่อย ลัทธินอกรีตแบบแกก็หากินกับชาวบ้านแบบนั้น ต้องลัทธิไท่ผิงเราต่างหากที่ดีที่สุดแกมันพวกหลอกลวงต้องเจอข้าจัดการ"

โดยที่ผู้พูดคือโจรโผกผ้าเหลืองที่ค่อยๆหยิบมีดสั้นขึ้นมาเพื่อที่จะจัดการกับ จีเทียนเต๋าอยู่นั้น

"โอ้ข้าว่าเจ้าควรมองไปรอบๆตัวก่อนนะว่าตอนนี้นั้นมันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?ข้าว่าเจ้าคงไม่ได้ยินข่าวในเมืองมาก่อนที่จะเข้าเมืองมาใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกัน"

"ห่ะจะมีอะไรข้าก็....."

พร้อมที่เหล่าชาวบ้านต่างหยิบจอบหยิบเสียมหยิบท่อนไม้ มีดสั้นมาถือเตรียมเอาไว้นับหลายสิบคนพร้อมกับที่ทุกคนต่างก็กระชับอาวุทในมือของตนเองอย่างแน่นกับยิ้มเหี้ยมให้กับโจรโพกผ้าเหลืองคนนั้น

"ตกลงข้ายอมแล้ว...มีอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆจากันนะยังไงเราก็ชาวฮั่นด้วยกันคงไม่ทำอะไรรุนแรงกับข้าใช่ไหม? ใช่ไหม?"

พร้อมกับที่ จีเทียนเต๋ากับเหล่าชาวบ้านช่วยกันนำโจรโพกผ้าเหลืองคนนี้ไปให้กับทางการพร้อมได้สินน้ำใจมาแบ่งกันของค่าหัวโจรโพกผ้าเหลืองนี้โดยที่จีเทียนเต๋านั้นไม่รับส่วนแบ่งนี้แต่กลับให้ชาวบ้านนำส่วนแบ่งของตนเองเอาไปแบ่งกันเพราะตนเองยังมีใช้อยู่เหล่าชาวบ้านยังลำบากกว่าตนเอง

ใช้ลักษณะนิสัยถ่อมตน,เลื่อมใสศรัทธา,ผู้รู้คุณ

@Webmaster

JiTianTao ดี

โรลเผยแผ่ศาสนา-ให้สิทธินักบวช

"ขอต้อนรับทุกท่านที่มาร่วมฟังข้าพูดในครั้งนี้ ข้าดีใจที่ทุกท่านต่างก็มีความต้องการมาฟังข้าในครั้งนี้ สำหรับวันนี้นั้นข้า จีเทียนเต๋าก็จะมาพูดเกี่ยวกับเรื่องการแต่งงานของนักบวช ว่าตามหลัก ศาสนาคริสต์นั้นสามารถที่จะแต่งงานได้หรือไม่? ถ้าตามหลักแล้วเหล่า นักบวชนั้นต่างก็ถวายตนให้แกศาสนาว่าจะเป็นผู้เผยแผ่หลักคำสอนของพระเจ้า จึงต้องรักษา ความบริสุทธิ์ของตนเองเอาไว้ทั้งทางกายหรือทางจิตวิญญาณ จำต้องรับใช้ต่อพระองค์ ทั้งทางกายและทางจิตวิญญาณ ศาสนาส่วนใหญ่ล้วนแล้วไม่ให้เหล่านักบวชนั้น แต่งงานหรือมีความสัมพันธ์กับสตรี ให้มุ่งเน้นไปทางหลักศาสนาเท่านั้น แต่ว่าเราก็ต้องมาคิดถึงว่าการที่ว่าตระกูลที่มีเพียงลูกชายเพียงคนเดียวนั้นจำต้องดูแลบิดาหรือมารดาที่แก่ แต่ก็มีใจที่ศรัทาต่อพระองค์นั้น จำต้องละทิ้งเส้นทางที่พระเจ้าทรงมีเช่นนั้นหรือ? แล้วจำต้องทิ้งสกุลนี้ให้จางหายไปเป็นเพียงอดีตเช่นนั้นหรอไร? ข้าได้คิดมาสักพักใหญ่แล้วกับปัญหาด้านนี้ ว่าข้าควรทำเช่นไร แต่ข้าก็ได้นิมิตหมายจากพระองค์ที่ทรงมีมา ศาสนาคริสต์นั้นจะให้นักบวชในศาสนาแต่งงานมีลูกได้ แต่ว่าฝ่ายหญิงต้องเต็มใจเข้าร่วมศาสนาคริสต์แต่ลูกที่เกิดมาถ้าไม่ได้มีใจศรัทธาในศาสนาคริสต์ก็สามารถที่จะนับถือศาสนาอื่นได้ไม่เป็นอะไร แต่ฝ่ายหญิงที่จะมาแต่งนั้นจำต้องเต็มใจเข้าศาสนาคริสต์ก็ เพราะว่านี้คือการ พิสูจน์ว่าความรักที่คนสองคนนี้มีให้กันเป็นความรักที่ บริสุทธิ์พร้อมฝ่าฟันต่อความยากลำบากในสังคมหรือไม่ที่จะเปลี่ยนศาสนาเป็นศาสนาอื่นจากของเดิม จะทนต่อการถูกดูถูกได้หรือไม่ และจะไม่ได้จำกัดนักบวชเพียงแค่ผู้ชายเพียงคนเดียว ผู้หญิงก็สามารถที่จะเป็นนักบวชได้!!! ศาสนาอื่นอาจจะด้วยเหตุผลอันใดก็อาจจะไม่ให้ผู้หญิงเป็นนักบวชแต่ พระองค์ทรงกล่าวกับข้าว่า ขอเพียงมีใจ ศรัทธาก็สามารถเป็นได้แต่ว่าจำต้องมีการฝึกอบรมก่อนที่จะเป็นได้เพื่อเป็นการ คัดคนที้มีจิตใจอันแรงกล้าและเพื่อสอนหลักธรรมให้ลึกซึ้งก่อนและจะไม่ใช่คนที่เข้ามาหาผลประโยชน์ใช้ความ ศรัทธามากอบโกยผลประโยชน์ นักบวชศาสนาคริสต์ ทุกคนจะต้องได้รับการแต่งตั้งจากข้า จีเทียนเต๋าเท่านั้น ข้าจะเป็นคนคัดเลือกผู้มี จิตใจศรัทธา และพร้อมทำภารกิจของพระองค์ในการช่วยเหลือ เพื่อนมนุษย์ทุกคนเอง สำหรับนักบวชผู้หญิงก็ใช้หลักเดียวกับนักบวชผู้ชาย ที่ฝ่ายชายต้องเต็มใจเข้ารับการเปลี่ยนศาสนา แต่จะไม่มีการบีบบังคับอีกฝ่ายให้เข้าเปลี่ยนศาสนา ถ้ารักกันแต่ไม่สามารถเปลี่ยนศาสนาได้ ก็ถือว่าความรักนั้น เป็นเพียงความรักที่ไม่ได้เกิดมาจากหัวใจอย่างแท้จริง ความรักนั้นยังไม่ใช่ความรักที่ บริสุทธิ์ที่ชายและหญิงมีให้แก่กัน เพราะถ้าเกิดเป็นความรักแท้นั้นจะต้องฟันฝ่าทุกอย่างไม่ว่าจะต้องเจอกับภัยอันตรายใดๆก็ตามทีอาจจะมีบางคนที่ไม่เริ่มไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ข้าพูดไปเมื่อข้างต้น อาจจะมีบางคนที่สาปแช่งข้าหรือว่าดูถูก ศาสนาคริสต์แต่ข้าก็จะบอกพวกเค้าว่า ระยะทาง พิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน แล้วพวกท่านจะได้เห็นเองว่าอนาคตข้างหน้า ผู้คนศาสนาคริสต์ จะทำตัวเสี่อมเสียแบบที่พวกท่านคิดกันหรือว่าจะเป็นต้นแบบของศาสนาต่างๆที่ดีขึ้น เราก็มาดูกันว่าจะเป็นเช่นไร!!! ความรักไม่ใช่สิ่งที่ผิดความรักเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอมาแต่คนต่างหากที่ใช้ความรักกันผิดๆ จงรักผู้อื่นเหมือนที่รักตนเอง และพระเจ้าจะคุ้มครองพวกท่านทุกคน ขอให้พระเจ้าคุ้มครองท่าน"

โดยที่เหล่าชาวบ้านที่มาฟังครั้งแรกหรือว่าจะเป็นคนที่ฟังหลายครั้งแล้วแต่ยังไม่ได้คิดจะเข้ามานัลถือแบบจริงจังต่างตกใจและอึ้ง กับแนวความคิดนี้มากเพราะปกติศาสนาในแผ่นดินนี้ยังไม่มีใครที่ให้สิทธินักบวชขนาดนี้เลย พร้อมกับความเงียบที่อยู่ไปทั่วบริเวณนี้นั้นแต่ความเงียบเหล่านี้ก็มีขึ้นได้เพียงไม่นานก่อนที่ พร้อมกับมีเสียงของเหล่าชาวบ้านที่นับถือศาสนาคริสต์ต่างพูดกลับไป

"ขอให้พระเจ้าคุ้มครองท่านด้วย"

โดยที่จีเทียนเต๋าก็ยังคงมองไปที่เหล่าชาวบ้านเหล่านี้ที่ยังคงเชื่อมั่นในตัวเค้า แนวคิดเช่นนี้จะเป็นยังไงกันในอนาคตจะมีแต่เสียงก่นด่ากับแนวคิดนี้หรือว่าจะมีแต่เสียงชื่นชมกับแนวคิดนี้คงต้องให้อนาคตนั้นเป็นตัวตัดสินว่า ศาสนาคริสต์นั้นจะปักหลักลงในแผ่นดินนี้ได้หรือไม่? หรือจะโดนกาลเวลาลบให้หายไปจากหน้า ประวัติศาสตร์ของแผ่นดินนี้กัน

ใช้ลักษณะนิสัยถ่อมตน,เลื่อมใสศรัทธา,ผู้รู้คุณ

@Webmaster

JiTianTao ดี

โรลเผยแผ่ศาสนา-ให้สิทธิเพศทางเลือก

"สวัสดีพ่อแม่ทุกท่าน ข้าจีเทียนเต๋ามาพูดกับพวกท่านอีกครั้งในวันนี้ ขอบคุณทุกท่านมากที่ยังคงคอยมาฟังข้าพูดแบบนี้กันตลอดเลย สำหรับเมื่อวานนั้นที่ข้าได้พูดเกี่ยวกับสิทธิของเหล่านักบวชไปแล้วนั้นก็อาจจะมีบางคนที่ไม่เห็นด้วยหรือว่าบางคนที่เห็นด้วยก็ได้แต่ข้าก็ขอพูถึงบุคคล อีกกลุ่มหนึ่งในแผ่นดินนี้นั้นที่ไม่มีปากไม่มีเสียงมีแต่ สังคมรังเกียจทั้งที่พวกเค้าก็หาได้ทำความผิดอะไรร้ายแรงจนต้องพากันรังเกียจพวกเค้า แล้วก็ยังมีบางส่วนที่ถึงขั้นไปทำล้ายพวกเค้ากันเลยทีเดียวซึ้งข้าก็ขอถามว่าเหตุใดจึงต้องไปทำพวกเค้าถึงขนาดนั้น กลุ่มบุคคลที่ข้ากำลังพูดอยู่นั้นคือเหล่าบุคคลที่เรียกกันว่าเป็นกลุ่มที่โดนรังเกียจมากที่สุดในสังคมเลยด้วยซ้ำ คือกลุ่มเพศทางเลือกที่จะเป็นชายที่รักกับชายด้วยกันเองหรือว่าจะเป็นกลุ่มที่หญิงนั้นรักหญิงด้วยกันเองแบบนี้ พวกเค้าต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนในสังคมแบบนี้ทั้งที่พวกเค้านั้นหาได้ต้องมาทำอะไรแบบนี้หรือไม่พวกเค้าผิดอะไรกันเล่า ก็คงผิดที่เกิดมาแล้วเค้ามีความชอบเช่นนี้ที่มันผิดประเพณีของสังคมของแผ่นดินนี้ แต่พวกท่านที่เป็นกลุ่มคนเพศทางเลือกนั้นต่อไปนี้พวกท่านไม่ต้องคอยอยู่หลบๆซ่อนๆอีกต่อไปแล้วพวกท่านจะสามารถมีความชอบในสิ่งที่ตนเองชอบหรือว่าจะมีจุดยืนในสังคมนี้ได้ ข้าขอประกาศในนี้ไว้เลยว่าข้า จีเทียนเต๋ารับรองว่า ศาสนาคริสต์ของเราจะมีแต่ความเท่าเทียมตามที่บอกไปข้าจะไม่กีดกันหรือรังเกียจพวกท่าน ศาสนาคริสต์เราจะอยู่กันด้วยความเชื่อที่มีต่อพระองค์เท่ากันไม่แบ่งแยกชายหรือหญิงหรือว่าจะเป็นเพศทางเลือกก็ตาม ถ้าท่านคนใดที่ไม่มีที่ยืนในสังคมหรือโดนสังคมรังเกียจขอให้พวกท่านจงรู้ไว้ว่า ศาสนาคริสต์ของเรายังเป็นบ้านของพวกท่านทุกคน จงอย่าให้ค่ากับสังคมที่รังเกียจพวกท่านแต่จงให้ค่ากับตัวเองมากๆ ถ้าผู้ใดที่นับถือ ศาสนาคริสต์แล้วคิดว่าตนเองไม่สามารถรับกับสิ่งที่ข้าพูดไปได้ในเรื่องต่างๆนาๆพวกท่านก็คงไม่สามารถจะเข้าใจหลักธรรมคำสอนของ ศาสนาเราได้อย่างถ่องแท้ถ้าพวกท่านเข้าใจหลักธรรมคำสอนอย่างถ่องแท้พวกท่านจะรักพวกเค้าในฐานะ เพื่อนมนุษย์ได้ไม่ใช่รังเกียจพวกเค้าเพียงเพราะพวกเค้าแตกต่างจากสังคมที่พวกท่านอยู่กัน หนทางเหมื่นลี้ ไม่เดินก้าวแรกแล้วเมื่อไหร่เราจะถึงกันเล่า?"

ใช้ลักษณะนิสัยถ่อมตน,เลื่อมใสศรัทธา,ผู้รู้คุณ

@Webmaster

JiTianTao ดี

โรลอัพเกรดขั้นของ จีเทียนเต๋า

ตอนนี้รอบตัวของจีเทียนเต๋านั้นเต็มไปด้วยเหล่าผู้ที่ ศรัทธาเลื่อมใสใน ศาสนาคริสต์ที่ตอนนี้นั้นกำลังรวมกลุ่มกันเพื่อที่จะคอยติดตาม จีเทียนเต๋าเวลาไหนมาไหนเพื่อป้องกันแล้วก็เพื่อจะได้คอยฟังเวลา จีเทียนเต๋านั้นพูดด้วย

"ข้าว่าพวกท่านไม่ต้องถึงกับตามข้ามาก็ได้ขอรับข้าเพียงเดินไปแถวนี้เพียงเท่านั้นแล้วการที่พวกท่านเอาเวลามาตามข้าเพียงอย่างเดียวข้าว่ามันจะเป็นการรบกวนเวลาพวกท่านมากเกินไปและที่สำคัญพวกท่านยังจะต้องคอยดูแลครอบครัวของตนเอง หรือจะต้องคอยทำงานเพื่อเลี้ยงชีพตัวเองอีกด้วย อย่าให้เวลาของข้าไปกระทบกับเวลาของพวกท่านสิ ถึงแม้พวกท่านอาจจะบอกว่าไม่เป็นไรแต่สำหรับข้านั้นมันเป็นมากด้วย ตัวท่านมีหน้าที่อะไรก็จงไปทำเถิดข้าก็ยังคงอยู่ที่ เฉิงตูแบบนี้ไม่ได้หลบหนีไปไหนเสียหน่อยนี้นะ "

"แต่พวกเราอยากติดตามท่านไปนี้ครับให้พวกเราไปกับท่านด้วยเถอะ"

จีเทียนเต๋าเพียงยิ้มให้กับขอทานที่ตอนนี้ได้มานับถือ ศาสนาคริสต์แล้วแล้วส่ายหน้าเบาๆให้กับอีกฝ่าย

"พวกท่านล้วนแต่มีสิ่งที่จะต้องกระทำอย่าปล่อยให้ข้าไปรบกวนชีวิตความเป็นอยู่ของพวกท่านเลยครับ แค่เพียงท่านมีใจที่ ศรัทธาต่อพระองค์ก็เพียงพอแล้ว ข้าเป็นเพียง มนุษย์คนหนึ่งที่ได้รับเลือกจากพระองค์ให้มาเพื่อช่วยให้ มนุษย์นั้นได้รู้จักแสงสว่างของพระองค์ผ่านหลักธรรมก็แค่นั้นข้าไม่ใช่เทพจนต้องมาติดตามข้าตลอดเวลาหรือเป็นคนที่ต้องมากราบไหว้บูชาหรอก แค่เพียงพวกท่านจำคำสอนของพระองค์อยู่ใน จิตวิญญาณของพวกท่านก็เพียงพอแล้ว ขอให้พระเจ้าคุ้มครองท่าน"

"ขอให้พระเจ้าคุ้มครองท่านด้วย"

พร้อมกับที่เหล่าขอทานต่างรู้สึกถึงความอบอุ่นในจิตใจของตนเองเวลาได้อยู่ใกล้ จีเทียนเต๋าหรือว่าได้ฟังหลักคำสอนจากเค้า โดยที่ไม่มีใครรู้ว่ามันคือจุดกำเนิดแสงสว่างไปทั่วแผ่นดินนี้หรือว่าจะเป็นแสงของไฟสงครามครั้งใหม่ที่จะแผดเผาแผ่นดินแห่งนี้ให้มอดใหม้มากกว่าคราวที่โจรโพกผ้าเหลืองนั้นก่อขึ้นเสียอีก ความเชื่อและ ศรัทธาเป็นสิ่งที่สามารถใช้เป็นทั้งคุณและโทษได้มีเพียงแค่ จีเทียนเต๋าเท่านั้นที่รู้ตัวเองว่าจะใช้ความเชื่อเหล่านี้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเพียงปวงประชาหรือว่าจะกลายเป็นโทษที่จะทำลายทั้งแผ่นดินแม้แต่ตัวเองด้วยก็ตาม

@Webmaster

JiTianTao ดี

โรลเผยแผ่ศาสนา-แจกถังหูลู่เด็ก&เป็นพลเมืองดี

จีเทียนเต๋าตอนนี้นั้นกำลังเลือกซื้อขนมเอาไว้เผื่อที่จะเอาไปแจกจ่ายให้เหล่าเด็กที่ตามพ่อแม่ของตนออกมาฟังที่ตนพูดอยู่ทุกวันด้วยควาาเอ็นดูหลังจากเหมาร้านขนมหวานแล้วนั้นตนเองก็ค่อยๆเดินยิ้มให้กับเหล่าชาวบ้านที่ต่างมาร่วมฟังกันมากกว่าเดิมมากโดยที่มีหลายเพศหลายวัยในการที่มาฟังในครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็น เหล่าขอทานที่มาฟังเป็นประจำแล้วหรือว่าจะเป็นเหล่า แม่บ้านในเฉิงตูที่ตอนนี้นั้นต่างก็มานั่งฟังกันเป็นจำนวนมากขึ้น กับเหล่าผู้เฒ่าคนแก่ที่ยังคงออกมาฟังที่จีเทียนเต๋าพูดในวันนี้อีกด้วยยังไม่รวมเหล่าคนที่ผ่านไปผ่านมาที่ต่างก็หยุดฝีเท้หรือว่าหยุดดูหยุดฟัง ว่านักบวชคนนี้นั้นจะมีอะไรที่จะพูดหรือไม่

"สวัสดีทุกท่าน วันนี้ก็ยังเป็นอีก1วันที่พวกเรามีทั้งความสุขและทุกข์ไปในตัว ท่านทั้งหลายอาจจะงงว่ามีทั้งความสุขและความทุกข์ไปในตัวนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ก็คือเรามีความสุขที่เรามารถลืมตาตื่นขึ้นมาเจอกับบุคคลอันเป็นที่รักและสามารถอยู่รวมกันกับพวกเค้าด้วยได้ แต่ก็ยังมีทุกข์ที่ต้องเจอกับความโหดร้ายของสังคมนี้ ต้องเจอกับความไม่เป็นธรรมของสังคมนี้ที่มีมา คนเรานั้นเลือกเกิดไม่ได้แต่ว่าเราเลือกที่จะสามารถใช้ชีวิตได้ว่าเราควรจะไปทางไหน ข้าไม่ได้ขอให้พวกท่านทำเพื่อข้าแต่ข้าขอ ให้พวกท่านทำเพื่อตัวพวกท่านเองทำเพื่อครอบครัวตระกูลของพวกท่าน ยิ่งลูกๆของพวกท่านพวกท่านต้องเอาใจใส่ดูแลพวกเค้ากันให้มากๆ มอบความรักความเข้าใจคอยปลุกฝังให้พวกเค้าเติบโตมาเป็นเด็กที่ดีของสังคม แต่อย่าให้พวกเค้าเป็นคนดีจนมากเกินไปให้พวกเค้ารู้จักด้านร้ายๆของสังคมบ้าง เพราะถ้าเด็กๆเหล่านั้นที่เป็นคนดีมากเกินไปนั้น สุดท้ายพวกเค้าก็จะโดนเอารัดเอาเปรียบจากพวกคนที่จะฉวยโอกาศ เอาเปรียบคนดีๆในสังคม เป็นคนดีแล้วโดนรังแกก็จงเป็นคนเทาๆที่ไม่โดนใครเอาเปรียบ สีเทาหรือสีที่สื่อถึง คนเราที่ต้องมีทั้งด้านดีก็คือด้านที่เป็นสีขาวและด้านไม่ดีที่เป็นสีดำผสมกลมกลืนกันไปด้วยกัน จึงได้ออกมาเป็นสีเทาแบบนี้จงเป็นสีเทาที่อยู่ได้ดีกว่าเป็นสีขาวที่โดนรังแก ถ้าผู้อื่นตบแก้มซ้ายเรา จงยื่นหมัดขวาเข้าใส่แก้มขวาอีกฝ่าย อย่ายอมให้ใครมารังแกเราได้จงลุกขึ้นสู้!!! ถ้าจะไม่รังแกผู้อื่น แต่ผู้อื่นก็จะมารังแกเราไม่ได้เหมือนกัน พระองค์ทรงสอนว่าอย่ารังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า และให้รัก มนุษย์ทุกคนเหมือนรักตนเองแต่ว่าก็ไม่ใช่ว่าเราต้องยอมให้อีกฝ่ายมาทำร้ายเราได้!! คนบางคนถ้าคำพูดมันไม่สามารถสื่อสารถึงความเข้าใจได้ก็คงต้องมีแต่กำลังเท่านั้นที่จะสื่อสารกันรู้เรื่อง แต่ว่าเราก็อย่าพึ่งที่จะใช้แต่กำลังเนินๆ จงดูก่อนว่าอีกฝ่ายสามารถสื่อสารกันรู้เรื่องหรือไม่อย่างไร อย่าใช้ข้ออ้างนี้ในการรังแกผู้อื่นจงอย่าทำให้ใครมาว่าเราได้ว่าเราเป็นพวก ลัทธิหัวรุนแรง เราจะรุนแรงกับพวกที่สมควรได้รับมันไปเท่านั้น!!! พระองค์ทรงจะประทานความเชื่อให้แกคนที่เชื่อ แต่คนที่ไม่เชื่อพระองค์ก็หาว่าไม่ เพียงแค่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนแค่นี้ก็ถือว่าดีแล้ว"

พร้อมกับที่จีเทียนเต๋าได้เห็นกับโจรโพกผ้าเหลืองที่กำลังวิ่งหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่มือปราบที่จะผ่านมาทางนี้ หลังจากก้มมองหาสิ่งที่จะใช้เป็นอาวุทได้ก็ก็เห็นก้อนหินขนาดเหมาะมือตนจึงหยิบก้อนหินแถวๆนั้นก่อนจะเขวี้ยงใส่ท้องอีกฝ่ายจนเต็มแรงจน โจรโพกผ้าเหลืองคนนั้นถึงกับล้มหน้าคว่ำลงไปกับพื้น พร้อมด้วยที่เหล่าเจ้าหน้าที่มือปราบต่างก็วิ่งตามมากดโจรโพกผ้าเหลืองคนนั้นลงกับพื้นแล้วขอบคุณ จีเทียนเต๋าก่อนจะลากโจรนั้นไปขังคุกต่อไป โดยที่จีเทียนเต๋านั้นก็ให้เหล่าเด็กๆที่มาฟังตนเองพูดกับเหล่าพ่อแม่นั้น ต่างก็ให้ ถังหูลู่ไปโดยที่เจ้าภาพมื้อนี้นั้นเป็นจีเทียนเต๋าที่เลี้ยงเอง รวมทั้งเหล่าเด็กๆที่ผ่านไปผ่านมาก็ด้วย ให้ไปแจกแบ่งๆกันกินพร้อมกับที่ จีเทียนเต๋านั่งมองเหล่าเด็กๆเหล่านี้ที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างนั้นเติบโตไปเรี่อยๆ

"ถ้าเกิดแผ่นดินนี้สงบมากกว่านี้ไม่มีสงครามหรือการกดขี่ทางชนชั้นเหล่าลูกหลานใน อนาคตคงจะสามารถมีชีวิตที่ดีได้กว่านี้แน่นอนเลย

ใช้ลักษณะนิสัยถ่อมตน,เลื่อมใสศรัทธา,ผู้รู้คุณ

มอบ ถังหูลู่ให้เด็กๆ 100 ไม้

@Webmaster

JiTianTao ดี

โรลเผยแผ่ศาสนา-จับโจรกีกี้

วันนี้ยามท้องฟ้าตอนเช้าที่อากาศสดชื่นนะ จีเทียนเต๋ากำลังเดินเข้ามายัง ย่านการค้าของเฉิงตูก่อนที่จะสังเกตเห็นเหล่าผู้คนนั้นต่างก็ตื่นแต่เช้าเพื่อมาฟังตนเองและก็ตื่นมาทำงานหาเลี้ยงชีพตัวเองกันด้วย แต่ก่อนหน้านั้นจีเทียนเต๋าก็ไปแวะอุดหนุนเหล่าชาวบ้านด้วยการซื้อขนมกินกับกินอาหารเช้าที่ร้านข้างทางนั้น หลังจากใช้เวลาจัดการกับอาหารตรงหน้าเสร็จหมดแล้วนั้นจีเทียนเต๋าก็ค่อยๆเดินทางไปยังที่ของตนเองที่พูดกันทุกรอบ

"สวัสดีทุกท่านที่มาฟังข้า จีเทียนเต๋าพูดกันอีกครั้งในวันนี้ วันนี้นั้นข้าก็มาพูดคุยกับทุกท่านอีดครั้งหนึ่ง ต้องขอบคุณทุกท่านมากที่ยอมรับให้ข้ามาพูดแบบนี้ทุกๆวันโดยที่ไม่ได้ขับไล่ข้าไปไหน งั้นวันนี้ข้าก็จะมาพูดเรื่องเกี่ยวกับ ผู้ใช้แรงงานกันดีกว่า คนใช้แรงงานทั่วไปก็คือเช่น คนที่ใช้แรงงานหนักๆในการทำงานหนักๆ คนเหล่านี้นั้นล้วนแล้วแต่ได้รับค่าจ้างแต่ละครั้งนั้นไม่สมเหตุสมผลเลยไม่พอกินเสียด้วยซ้ำ ทั้งที่คนงานผู้ใช้แรงงานหนักเหล่านี้ควรที่จะได้ค่าแรงมากกว่านี้เสียด้วยซ้ำ เพราะพวกเค้าเป็นกำลังหลักในการก่อสร้างบ้านเมืองขึ้นมา เค้าเหล่านี้ต่างเอากำลังร่างกายของตนเองไปแลกกับเศษเงินที่ยุคนี้นั้น แม้แต่จะซื้ออะไรกันในวันถัดไปยังไม่พอเสียด้วยซ้ำ เพราะต้องใช้จ่ายกับค่าอื่นๆในครอบครัวของตนเอง ข้าพอเข้าใจว่ามันอาจจะได้ไม่เยอะเท่าอาชีพอื่น แต่ว่ามันก็ควรที่จะได้มากกว่านี้ ให้พวกเค้าเหล่านั้นมีเงินเก็บหรือมีเงินเหลือใช้บ้าง ทั้งที่พวกเค้าต่างก็ทำงานหนักไม่บ่นหรือว่าประท้วงอะไรกับพวกนายจ้างเลย เพราะแบบนั้นข้าเลยอยากให้พวกท่านนั้นจงคิดไตร่ตรองกันเสียเถิดว่าทำไมพวกท่านถึงได้รับค่าแรงไม่พอแม้แต่จะเลี้ยงดูตนเองให้มีชีวิตดีขึ้น พวกท่านทำได้แค่เพียงกินใช้ไปวันๆเท่านั้รหรอ? มันควรถึงเวลาที่เราจะเปลี่ยนแปลงแล้วจะต้องกดขี่ประชาชนให้มากถึงเพียงไหน? จะต้องกดขี่เหล่าชาวบ้านให้ยากจนขนาดไหน? พวกคนที่อยู่ข้างบนล้วนแล้วแต่ได้รับทรัพย์สินเงินทองมาจากกองซากศพและโครงกระดูกของเหล่าชาวบ้านก็เท่านั้น ข้าอยากจะเปลี่ยนแปลงระบอบของชนชั้นเหล่านี้ที่จะมีดีแค่การกดขี่เหล่าชาวบ้านธรรมดาเพื่อนำไปล่อเลี้ยงพวกเค้าเหล่านั้นให้มีแต่ความร่ำรวย ครอบครัวหลายครอบครัวที่ต้องสูญเสียพ่อ หรือลูกชายไปก็เพราะการใช้แรงงานที่หนักเกินคนธรรมดาจะต้องทำ หรือการให้ทำงานล่วงเวลาหรือทำงานเกินเวลาที่กำหนดเอาไว้ ถ้าหากไม่ทำก็ไม่จ่ายค่าแรงให้ ข้าจีเทียนเต๋าพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของเหล่าชาวบ้าน พระเจ้าจะไม่ทอดทิ้งคนที่เชื่อในพระองค์!!! ขอให้พวกท่านอดทนรออีกไม่นานข้าจะต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ของพวกท่านให้ดีขึ้นจงได้จงเชื่อในตัวข้า!!!ข้าจะต่อสู้เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของพวกท่านข้าจะไม่ทอดทิ้งพวกท่านในยามยากหรือว่ายามลำบากข้าจะไม่ทำให้พวกท่านต้องผิดหวังในตัวข้า ขอเพียงเราเชื่อในสิ่งเดียวกันสิ่งที่สำคัญสำหรับพวกเรา เชื่อในพระองค์ พระองค์จะทรงมีหนทางรอดของพวกเราเสมอ!!! ต่อให้เราต่างศาสนา ต่อให้เราต่างความเชื่อกันแต่พวกเราก็มีหัวใจที่รักคนอื่นเป็นเหมือนกัน !!! พวกเราก็มีความคิดเป็นเหมือนกัน!!และพวกเราก็มีชีวิตอยู่ที่ตรงนี้เหมือนกัน!!!"

โดยที่ระหว่างนั้นจีเทียนเต๋าก็สังเกตเห็นชายคนหนึ่งที่กำลังจะล้วงกระเป๋าของชาวบ้านอยู่นั้น ตนเองจึงได้เดินไปพูดไปจนถึงชายคนนั้นจึงหยิบไม้คถาฟาดไปที่ข้อมือของอีกเต็มแรงแล้วเตะตัดขาอีกฝ่ายให้ล้มก่อนที่จะกดตัวอีกฝ่ายไว้ พร้อมกับที่เหล่าชาวบ้านช่วยกันมาล็อกตัวอีกฝ่ายส่งทางการข้อหาขโมยของ โดยที่หลังจากนั้นก็มีข่าวมาว่าคนที่ขโมยเป็นทหารโพกผ้าเหลืองที่แตกทัพออกมาจากการที่โดนทหารทางการเข้าตีนั้นเองและได้เร่รอนมาจนถึงเมืองเฉินตูหลังจากที่อดยากมาได้หลายวันสุดท้ายก็จึงลงมือก่อเหตนี้ โดยที่มีทั้งเหล่าชาวบ้านที่สงสารและชาวบ้านที่โกรธแค้นที่เมืองเฉินตูแห่งนี้มีพวกโจรโพกผ้าเหลืองหลุดมาเป็นจำนวนหลายรอบแล้วต่างก่นด่าถึงความรักษาปลอดภัยของเมืองที่หย่อนยานนั้นเอง

ใช้ลักษณะนิสัยถ่อมตน,เลื่อมใสศรัทธา,ผู้รู้คุณ

@Webmaster

Tianzhou ดี

เทียนหลงมุ่งตรงมาจนถึงเมืองเฉิงตู เขตปาสู่ ที่แห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่ฐานนะก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากเขาในตอนแรก

เทียนหลงเริ่มควบม้าอย่างช้าๆชมรอบเมืองเพื่อตามหาเด็กสาวซักคนหนึ่งเพื่อรับการศึกษาพิเศาจากเจ้าเมืองหลงซี

เทียนหลงเริ่มเดินไปเรื่อยระหว่างทางได้ยินพูดถึงลัทธิแปลกๆที่มิเคยได้ยินมาก่อน แต่ในตอนนี้มิใช่เรื่องที่จะสนใจมากนัก และหลังจากนั้นไม่นาน เทียนหลงก็ได้พบเข้ากับหญิงสาวผู้ยากไร้คนหนึ่งหน้าตาถือว่าดูดีเกินวัยที่เป็นหากแต่ว่ากลับถูกบดบังด้วยความสกปรกและเสื้อผ้าที่มิสมประกอบเท่าไหร่

"หนูน้อยเจ้ามีอายุเท่าไหร่กันหรือ??"

เทียนหลงควบม้าไปกล่าวถามแก่เด็กสาวผู้นั้นอย่างรวดเร็ว

"ข้ามีอายุเพียงแค่ 13 ปีเพียงเท่านั้น เหตุใดท่านจึงถามข้าเช่นนี้..."

หญิงสาวกล่าวถามกับเทียนหลงก่อนที่จู่ๆท้องของเด็กสาวก็ร้องขึ้นมาจากการที่ไม่ได้กินอะไรมาเป็นเวลานาน เพราะเธอเป็นเพียงเเค่ขอทานเท่านั้น มิได้มีครอบครัวอะไร ทำให้มิได้รับประทานอะไรมากนัก

"เจ้าคงหิวสินะ งั้นข้าให้สิ่งนี้แก่เจ้า"

เทียนหลงยื่นหมั่นโถวให้แก่เด็กสาวผู้หิวโหย

เด็กสาวรีบกินหมั่นโถวนั้นอย่างรวดเร็วจากความหิวที่มิได้กินอะไรมาเสียนาน

"ข้ามาที่นี้เพื่อมาพาเจ้าไปร่ำเรียนที่เมืองหลงซี เจ้าสนใจหรือไม่??"

เทียนหลงกล่าวถามแก่เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า

"เหตุใดจึงเป็นข้ากัน..."

เด็กสาวกล่าวถามด้วยความสงสัย

"ข้าจะบอกตามความจริง ข้านั้นได้รับหมายงานมาเพียงแค่หาเท่านั้น หากเจ้าไม่อยากก็มิเป็นไร"

เทียนหลงกล่าวออกมาพร้อมกับลูบหัวไปมาเล็กน้อย

"เช่นนั้นข้าจะไป หากมีที่ที่ดีกว่านี้ข้าก็เต็มใจ..."

เทียนหลงเมื่อได้ยินเช่นนี้ก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะดึงมือของเด็กสาวขึ้นมาบนหลังม้าแล้วเริ่มออกเดินทางกลับสู่หลงซีที่รอคอย...