[ทางเข้าเมืองกว่างหลิง] ประตูเมืองทิศใต้

ประตูเมืองทิศใต้

{ เมืองกว่างหลิง }

การสัญจรผ่านเส้นทางเจียงหนานเหนือคงเป็นไปอย่างชืดชาหากไม่ผ่านกว่างหลิง

เรียกได้ว่าก้าวแรกของดินแดนที่ห่างไกล อย่างลุ่มน้ำฉางเจียง เริ่มขึ้นที่สุดปลายของเมืองนี้

จึงไม่แปลกที่ประตูทิศใต้จะเข้มงวด คอยตรวจตราขบวนคาราวานต่างถิ่น

ท่านสามารถพบเห็นเหล่าพ่อค้าผู้ขยันขันแข็ง สินค้าก็มากมี แต่ระวังล้อเกวียนทับเท้าเอาเสียก่อนล่ะ

WuMan มาร

- สมรภูมิกว่างหลิง 2 -

ผู้ที่ยังสู้ไหว

♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦

            

           ล่วงไม่ทันข้ามคืนหลังทัพหน้าซินเยว่ตั้งค่ายพักแรมและจัดพลกระบวนศึกแรก ขุนพลเกราะดำนำทหารกลุ่มหนึ่งติดตามตนไปยังประตุทิศใต้ของนครกว่างหลิง ฟังว่ายามนี้ชาวบ้านนับหมื่นถูกกักตัวใช้แรงงาน ด้านในเมืองเหลือก็แต่เพียงทหารประจำการหยิบมือเดียวกับราษฎรที่หวั่นเกรงภัย เกิ้นหว่อสิงได้รับคำแนะนำและสานส์จากกุนซือ เขาจะต้องเรียกกำลังเสริมจากเจ้าเมือง

           เป้นไปได้ ก็ไม่อยากเสียเวลาให้ยืดเยื้อมากความรำคาญใจ ดังนั้นทันทีที่ทหาม้านับสิบเรียงแถวหน้ากระดานที่หน้าประตุเมือง ขุนพลหนุ่มร่างโตก็ประกาศด้วยเสียงอันดัง

           “ข้าเกิ้นหว่อสิง ขุนพลพิชิตบูรพาแห่งซินเย่! ขอพบเจ้าเมืองกว่างหลิง”

           แทนที่จะเอาธงฮั่นมาโบกให้ผู้คนรันทนว่ากว่าราชสำนักฮั่นจะขยับตัวก็มีคนตายไปแล้วครึ่งเมือง เกิ้นหว่อสิงเลือกวิธีของเจียหลุนชางด้วยการประกาศเจตนารมย์ของพวกตนออกไป “หวางจื่อเสียทรงทราบถึงเรื่องเดือดร้อนที่พวกท่านกำลังประสบ เจ้าเมืองของพวกเรามีใจช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ เฮ้อ.. ช่างเถอะวาจาไพเราะข้าไม่สันทัด ไปบอกนายเจ้า! หากถูกโจรชั่วข่มเหงมาพอแล้ว อยากลุกขึ้นสู้ก็มาร่วมกับพวกเรา! ยึดเอาบ้านเกิดและศักดิ์ศรีของพวกเจ้าคืนมา!”

         ชายหนุ่มแยกเขี้ยวอย่างฮึกเหิม คำของเขาก้องไปทั่วลานหน้าประตุเมือง

           เหล่าทหารเฝ้าประตูแตกตื่นระคนตื่นเต้น ไม่นึกว่าช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังจะมีบุรุษดั่งกองเพลิงตรงหน้าปรากฎตัวขึ้นมา เจ้าเมืองกว่างหลิงได้ยินเสียงประกาศอะนดังยังไม่ทันจะก้าวออกจากจวนพวกเขาก็ได้เห็นชัดเต็มสองตาถึงเรื่องัน่นาเหลือเชื่อ

           เกิ้นหว่อสิงควบอาชาคว้าเกาทัณฑ์จากทหารเขาพันสานส์ที่ประทับตราเมืองซินเย่ไว้กับคันศร โดยไม่ต้องพึ่งการเล็งก็ยิงออก ลูกธนูทรงพลังพุ่งราวกับดาวตกไปปักตรึงอยู่บนเสาซุ้มประตุกำแพงเมืองพอดิบพอดี ด้วยความสูงระดับนั้น แม่นยำเพียงนั้น

           เท่านี้ก็สามารถประกาศศักดาและความสามารถว่าขุนพลเมืองซินเย่หาใช่ตำแหน่งที่ดูแคลนได้

           ผ่านไปไม่ถึงครึ่งเค่อ เจ้าเมืองกว่างหลิงได้รับความมั่นใจจากทั้งตัวขุนพลหนุ่ม รวมไปถึงเนื้อความในสานส์ที่ปลุกความฮึกเหิมระคนตื้นตันใจก็พาเหล่าทหารชัดยอดของตนที่ยังเหลืออยุ่ออกมา “หวางเย่ทรงเมตตาชาวประชากว่างหลิง ข้าในฐานะตัวแทนชาวเมืองทุกคนขอขอบคุณพวกท่านและเจ้าเมืองเสิ่นผู้หยิบยื่นฟืนในหน้าหนาว ด้านนี้คือรถกระทุ้งประตูและเหล่าชายชาญที่ยังพอสุ้ไหว ด้านในเมืองเหลือแต่ลูกหลานและคนเฒ่าชรา มิอาจตามไป.. ขออภัยที่ตัวข้าด้อยสามารถในหน้าที่ ปกป้อง.. พวกเขาไว้ไม่ได้”

           เกิ้นหว่อสิงประสานมือรับน้ำใจจากเจ้าเมืองกว่างหลิง “อย่าได้ตำหนิตนเอง โจรภูเขาเหิมเกริม ข้าเห้นสันดานพวกมันมามาก การที่กว่างหลิงยังยื้อไว้ได้ไม่เสียชีวิตผู้คนและทรัพย์สินไปมากกว่านี้ นับว่าท่านทอยา่งสุดความสามารถแล้ว”

           ขุนพลหนุ่มร่ำลาเจ้าเมืองกว่างหลิงเพื่อนำทหารทั้ง 100 ควบคุมรถศึกกลับไปยังค่ายเพื่อดำเนินการในขั้นถัดไป

♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦

.

เอฟเฟคเกิ้นหว่อสิง

+1 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (เที่ยงธรรม)

+2 Point จากการโรลให้เกียรติอีกฝ่าย (ถ่อมตน)

+10 EXP จากการโรลสรรเสริญคู่สนทนาด้วยความจริง (ถ่อมตน)

+15 EXP เมื่อโรลเพลย์ข่มขู่สร้างความหวาดกลัว (ฟันเขี้ยว)

+20 EXP เมื่อโรลเพลย์หยิ่งในศักดิ์ศรี

x2 ดาเมจ ที่สร้างต่อกองทหารศัตรูในระบบสงคราม (กล้าหาญ)

x1.5 ดาเมจ สำหรับกองทหารที่คุณคุม (กล้าหาญ)

รวม +3 Point 45 EXP

@Watcher

.