[นอกเมืองกว่างหลิง] ป่าลู่หลิน

ป่าลู่หลิน

{ นอกเมืองกว่างหลิง }

【ป่าลู่หลิน】

『 ความเงียบ คือ ความเงียบ 』
ป่าลู่หลิวตั้งอยู่นอกเมืองก่วงหลิน มีลักษณะเป็นป่าทึบชื้น ว่ากันว่าที่ป่าแห่งนี้
มีกวางขาวตัวหนึ่งอาศัยอยู่ มันมีขนสีขาวงดงาม มีนายพรายหลายคนพยายามล่ามัน
เพื่อนำไปขายแต่ก็ไม่มีใครสามารถหามันพบ ชาวบ้านเลยเชื่อกันว่ากลางขายคือเทพพิกษ์ป่า
จากนั้นจึงตั้งชื่อที่นี่ว่า 'ป่าลู่หลิน' หรือ 'ป่ากวาง'

เพราะฉะนั้นก็เป็นป่าที่หลายๆคนที่เป็นนักหาของป่าและผลไม้ป่านั้นใฝ่หา..
แต่อย่าหวังว่าจะมีปลาทะเลมาเดินเล่นแถวนี้เชียวล่ะ เพราะไม่มีทางหรอก

WuMan มาร

- สมรภูมิกว่างหลิง 1 -

ฐานที่มั่น

♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦

            

           นายทัพและเหล่าทหารหาญแห่งซินเย่ใช้เวลาเดินทางกว่าสี่วันเพื่อเหยียบย่ำใบไม้แรกบนเขตแดนกว่างหลิงในยามรุ่งสาง ซุนปินผู้เป็นเสนาธิการทัพมอบหมายทหารหน่วยสำรวจกางแผนที่ภูมิศาสตร์ ส่วนตัวเขาใช้ไม้ฉากรุปทรงแปลกตามาวัดขนานไปกับเส้นขอบฟ้าก่อนจะเสนอให้แม่ทัพใหญ่ได้ทราบ

           “ชัยภูมิป่าเหมาะแก่การซุ่มโจมตี ทางด้านตะวันออกเปิดโล่งเผื่อเส้นทางหนี ทิศเหนือยังอาศัยแนวไม้ใช้กำบังและพรางตา.. ตามความเห็นของข้าเรายังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด รวมไปถึงข้อมูลของศัตรู ระยะสิบลี้นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสร้างฐานที่มั่น”

           ฝั่งแม่ทัพใหญ่มีวิธีสำรวจเส้นทางในแบบของตนเองเช่นกัน ถึงอยา่งนั้นข้อสรุปก็ไม่ต่างับอีกฝ่ายจึงสั่งหน่วยพลาธิการเริ่มตัดไม้และตั้งกระโจมพัก “ข้าส่งเหยี่ยวไปสำรวจมาบ้างแล้ว ตั้งค่ายในป่าหมั่นสังเกตรอบกายจะให้คุณ ให้เหล่าทหารเลือกใช้ถ่านไม้ชนิดไม่เกิดควัน พวกโจรย่อมไม่รุ้ถึงฐานที่มั่น”

           ขุนพลจางพยักหน้ารับเรียนรุ้จากแม่ทัพเยว่อย่างตั้งใจ “แม่ทัพเยว่รอบคอบยิ่ง อาจารย์ของข้าให้เตรียมยาผงสำหรับโรยรอบที่พักมากด้วย มันจะช่วยป้องกันทหารจากแมลงและสัตว์พิษ”

           “ข้าจะช่วยนำไปแจกจ่ายให้กับทุกคน คิดแล้วไม่ผิด เจ้าเมืองแม้อยู่ไกลก็ยังคงห่วงใยพวกเรา” เกิ้นหว่อสิงอมยิ้มอย่างตื้นตันและซาบซึ้ง เขารับเอาขวดกระเบื้องจากขุนพลสาวไปเต็มหอบเดินลิ่วๆ เข้าไปด้านในค่าย ฝั่งของจวี้ซินดุจะคุ้นชินกับการบัญชาแรงงานไปตัดไม้ ไม่รุ้ว่าฝึกมาจากไหนเสียงดังกว่าขวานเสียอีก

          “ฝ่ากวาน ให้ข้าด้วยขวดหนึ่ง..” หุ่นเชิดน้อยไห่ถังวิ่งเข้ามาหาขุนพลเกิ้น นางน่ารักเสียจนขัดกับบรรยากาศ หลังได้รับของที่ต้องการก็วิ่งไปหาบุรุษผมทองผู้เป็นนาย

           เลยออกไปไม่ไกลจากพวกเขา แถบภูเขาฉางไป๋คือทำเลที่ตั้งค่ายโจรภูเขา ซุนปินวานให้ทหารพาขึ้นหลังอาชาขาวและอาศัยมุมสูงบนผาเพื่อสำรวจทำเลที่ตั้งของประตุค่าย ว่าแท้จริงแล้วตั้งคร่อมภูเขารึไม่ เขาเตรียมการในกลยุทธ์ขั้นต่อไปจึงปล่อยงานส่วนอื่นแก่เหล่าขุนพล จากที่คำนวนแล้วเสบียงที่ใช้ไปและกลับราวหกร้อยหาบ หากศึกยืดเยื้อจะใช้ราวไม่เกินสองหมื่นหาบ แต่เจ้าเมืองเสิ่นนั้นเมตตามอบให้พวกตนถึงสี่หมื่นหาบ

           หากพ่าย… ก้จงตายอยุ่ที่นี่ยังคุ้มข้าวกว่า

           ด้านเซวียนหยวนหมิงเขาให้กองธนูเริ่มผลิตลูกธนูสำรองจากไม้ที่เหล่าทหารดาบโล่สะบั้นลงมา ในการศึกเรื่องยุทโธปกรณ์สำคัญไม่แพ้กำลังคน ในเมื่อสายข่าวแจ้งมาว่าจำนวนคนนั้นสูสี ก้มีแต่ต้องเล่นด้วยเล่ห์กลเพื่อชิงความได้เปรียบ ไม่ทราบว่าเจ้าตัวคิดสิ่งใดอยู่เมื่อมองต้นพืชน้ำมันรอบๆ ตัว  

           “ข้าจะไปลาดตระเวณสักหน ขอทหารติดตามไม่มาก.. ยิ่งเอิกเริกยิ่งดึงดูดความสนใจพวกนั้น”   

           เขาควบอาชาออกจากค่ายไปราวๆ สองชั่วยามเมื่อกลับมาและนำเอาข้อมูลมาให้ซุนปินในสภาพใบไม้เต็มปอยผมจากนั้นก็ออกไปอีกบอกว่ามีบางิสง่ที่เขาต้องตรวจสอบให้แน่ใจ คราวนี้บุรุษผมทองจึงจากไปลำพังแถบภูเขาฉางไป๋

            ฝั่งของซุนปินที่ร่างจดหมายเสร็จพอดีจึงส่งมอบมันให้กับขุนพลเกิ้น

           “ตามที่ขุนพลเซวียนหยวนสืบทราบมา ในเมืองกว่างหลิงยังมีทหารประจำการอีก 200 คน เจ้าเมืองมิใช่คนขลาดเพียงแต่ไร้เรี่ยวแรงหลัก.. เขาอาจเป็นกำลังให้เราได้ ท่านจงนำสานส์นี้ไปให้ถึงมือเจ้าเมือง บอกว่าความช่วยเหลือจากซินเยว่มาถึงแล้ว”

           “งานส่งข่าว? มิใช่มีแต่เจ้าจินจิ้นที่ทำรึ อ่า.. ได้สิ ข้ากำลังเมื่อยอยู่พอดี วางใจเถอะ” ชายร่างใหญ่ในเสื้อเกระาดำขึ้นควบอาชาพร้อมกับสานส์ในมือ เขานำกองกำลังติดตามไปด้วยเพียงส่วนเดียว เพระาคำสั่งถัดมาคือการรวมกองทหารม้าประจัญบาญระหว่างตนกับจางเซี่ยอิน

           เหตุที่ซุนปินแนะนำให้เแม่ทัพใหญ่ทำเช่นนี้ เป็นเพราะสองขุนพลยังด้อยประสบการณ์ หากพลาดพลังจะได้ไม่ติดอยู่ลำพังในวงล้อมศัตรู เยว่เฟยเชี่ยวชาญการรบมากที่สุดในบรรดาขุนพลย่อมเห็นด้วยและเห็นต่าง “ลูกวัวไม่กลัวเสือ ข้าเห็นว่าทหารม้าเหมาะสำหรับเ)้นจุดสนใจ ไม่แน่ว่ายามเปิดศึก.. จะใช้พวกเขาสร้างความน่าเกรงขามและตบตาด้วยแผนลวงจำนวนไปในตัว”      

           “แม่ทัพเยว่คิดใช้ฝีเท้าม้าเพื่อสร้างมายา? นั่นไม่เลว.. เพียงแต่หลอกได้แค่ชั่วครู่ เหมาะเก็บไว้ใช้ในยามคับขัน ข้ามีอีกแผนหนึ่ง กำลังของเราและโจรภูเขาเทียบแล้วมีแต่น้อยกว่า ต้องรัดกุมที่สุด.. ขุนพลจวี้คุมเหล่าทหารสร้างสิ่งนี้… อย่างลับๆ”

           “ข้าไม่เคยเห้นมันมาก่อน.. แต่ถ้าแบบแปลนละเอียดขนาดนี้ก็พอจะูไถไปได้”

           แบบแปลนประหลาดของซุนปินทำเอาแม่ทัพใหญ่และเหล่าขุนพลงุนงงไปในที ถึงอย่างัน้นจวี้ซินก้รับปากจะสร้าง ด้วยเขาต้องการนำชัยชนะกลับไให้นายท่านมากกว่าใครหน้าไหน

           การศึกกระชั้นตัว เยว่เฟยก็ยังไม่ลืมจัดเวรยามในค่ายทหาร แทนที่จะเอนกายพักผ่อนบุรุษเลือดเหล็กยังคงตรวจตราทั้งอาชาและอุปกรณ์การรบดว้ยตัวของเขาเอง สายตาดุจเหยี่ยวจ้องตรงไปยังประตูทางเข้าค่ายโจรอย่างหมายมาด.. เร้วๆ นี้ เขาจะบุกทำลายสิ่งที่เป็นภัยต่อแผ่นดิน สิ่งที่ทำให้นายท่านต้องเศร้าหมองจนสิ้นซาก

♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦

.

เอฟเฟคเยว่เฟย

+10 EXP เมื่อโรลแสดงความห้าวหาญ (กล้าหาญ)

+5 EXP เมื่อโรลเพลย์พูดปลุกใจผู้คน (กล้าหาญ)

+2 Point จากโรลช่วยเหลือส่งเสริมผู้อื่นโดยบริสุทธิ์ใจ (ซื่อสัตย์)

+5 EXP จากการโรลประพฤติตนน่าเชื่อถือ สร้างความไว้ใจต่อผู้อื่น (ซื่อสัตย์)

+7 EXP จากการทำงานช่วยเหลือเจ้านาย (ซื่อสัตย์)

+10 EXP จากการทำงานช่วยเหลือราชสำนักฮั่น (ซื่อสัตย์)

+5 EXP ในขณะที่โรลเพลย์ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย (ซื่อสัตย์)

x2 ดาเมจ ที่สร้างต่อกองทหารศัตรูในระบบสงคราม (กล้าหาญ)

x1.5 ดาเมจ สำหรับกองทหารที่คุณคุม (กล้าหาญ)

รวม + 2 Point 42 EXP

.

เอฟเฟคซุนปิน

+2 Point จากการโรลวางแผนใช้เล่ห์อุบาย (อาฆาต)

+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย (เจ้าเล่ห์)

+30% คุ้มครองแผนการของคุณไม่ถูกเปิดโปง (เจ้าเล่ห์)

+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (สุขุม)

+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทน (สุขุม)

+2 Point เมื่อโรลใช้แผนและกลอุบาย (มีไหวพริบ)

+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย (นักวางแผน)

+25% โอกาสแผนการต่อศัตรูสำเร็จสูง (นักวางแผน)

รวม +15 point 20 Exp

.

เอฟเฟค เซวียนหยวน หมิง

+9 EXP จากการโรลเข้าสังคมกับสหายระดับ สหายรู้ใจ-เกิ้นหว่อสิง

+4 Point จากการโรลใช้กลอุบาย (หวาดระแวง)

+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (สุขุม)

+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทนต่อความทรมาน (สุขุม)

+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น (ตัวหอม)

+15 EXP จากการโรลสร้างความน่าเคารพศรัทธาต่อผู้พบเห็น (หลังตรง)

+30 EXP (จำเป็นต้องมีลักษณะนิสัยชอบเข้าสังคม) เมื่อโรลเพลย์มีปฏิสัมพันธ์คนอื่น (หลังตรง)

+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย (หูดี)

รวม 8 POINT 79 EXP

.

เอฟเฟค จางเซี่ยอิน

+10 EXP เมื่อโรลแสดงความห้าวหาญ (กล้าหาญ)

+5 EXP เมื่อโรลเพลย์พูดปลุกใจผู้คน (กล้าหาญ)

+3 Point จากการโรลทำงาน (เลื่อมใสศรัทธา)

+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (ทะเยอทะยาน)

+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย (ทะเยอทะยาน)

+1 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย (ว่องไว)

+1 Point จากการโรลเรียนรู้ (ว่องไว)

+10 EXP จากการโรลทำงาน (ว่องไว)

+2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์ (น่ารัก)

x2 ดาเมจ ที่สร้างต่อกองทหารศัตรูในระบบสงคราม (กล้าหาญ)

x1.5 ดาเมจ สำหรับกองทหารที่คุณคุม (กล้าหาญ)

รวม +9 Point 25 EXP

.

เอฟเฟคเกิ้นหว่อสิง

+1 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (เที่ยงธรรม)

+2 Point จากการโรลให้เกียรติอีกฝ่าย (ถ่อมตน)

+10 EXP จากการโรลสรรเสริญคู่สนทนาด้วยความจริง (ถ่อมตน)

+15 EXP เมื่อโรลเพลย์ข่มขู่สร้างความหวาดกลัว (ฟันเขี้ยว)

+20 EXP เมื่อโรลเพลย์หยิ่งในศักดิ์ศรี

x2 ดาเมจ ที่สร้างต่อกองทหารศัตรูในระบบสงคราม (กล้าหาญ)

x1.5 ดาเมจ สำหรับกองทหารที่คุณคุม (กล้าหาญ)

รวม +3 Point 45 EXP

.

เอฟเฟคจวี้ซิน

+10 EXP เมื่อโรลแสดงความห้าวหาญ (กล้าหาญ)

+5 EXP เมื่อโรลเพลย์พูดปลุกใจผู้คน (กล้าหาญ)

+2 Point จากโรลช่วยเหลือส่งเสริมผู้อื่นโดยบริสุทธิ์ใจ (ซื่อสัตย์)

+5 EXP จากการโรลประพฤติตนน่าเชื่อถือ สร้างความไว้ใจต่อผู้อื่น (ซื่อสัตย์)

+7 EXP จากการทำงานช่วยเหลือเจ้านาย (ซื่อสัตย์)

+10 EXP จากการทำงานช่วยเหลือราชสำนักฮั่น (ซื่อสัตย์)

+5 EXP ในขณะที่โรลเพลย์ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย (ซื่อสัตย์)

+10 EXP ทุกครั้งที่โรลทำอะไรวู่วามทั้งโรล (ใจร้อน)

5% ดาเมจที่สร้างต่อทหารศัตรู จากโรลสู้รบในสงคราม (ใจร้อน)

x2 ดาเมจ ที่สร้างต่อกองทหารศัตรูในระบบสงคราม (กล้าหาญ)

x1.5 ดาเมจ สำหรับกองทหารที่คุณคุม (กล้าหาญ)

รวม + 2 Point 52 EXP

.

@Watcher

WuMan ตอบกลับเมื่อ 2022-11-8 01:09
- สมรภูมิกว่างหลิง 1 -ฐานที่มั่น♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦  ...

แม่ทัพใหญ่: เยว่ เฟย์ (STR 251 - LEA 184)  พลังชีวิต 16900/16900

กุนซือกองทัพ: ซุน ปิน (STR 6 - LEA 56 - INT 200) พลังชีวิต 6100/6100

ขุนพลคนที่ 1: เกิ้น หว่อสิง (STR 231 - LEA 72) พลังชีวิต 5100/5100

(คุมทหารม้า 500 นาย)

ขุนพลคนที่ 2: จาง เซี่ยอิน (STR 147 - LEA 21) พลังชีวิต 3200/3200

(คุมทหารม้า 500 นาย)

ขุนพลคนที่ 3: เซวียนหยวน หมิง (STR 64 - LEA 42) พลังชีวิต 14900/14900

(คุมทหารธนู 500 นาย)

ขุนพลคนที่ 4: จวี้ ซิน (STR 290 - LEA 134) พลังชีวิต 17500/17500

(คุมทหารดาบโล่ 1,000)

รวมทหารกองทัพ: 2,500 นาย

เทิร์นที่ 2

ซินเย่ - กว่างหลิง เข้าเงื่อนไข VIP

- เมืองที่ห่าง 4-6 เมือง จะใช้เวลาเดินทัพ 2 วัน (VIP ใช้เวลา 1 วัน)

ใช้เสบียงประจำ [วันที่ 8/11/2565]

กุนซือกองทัพ: ซุน ปิน (STR 6 - LEA 56 - INT 200) พลังชีวิต 6100/6100

กองทัพที่ 1

ขุนพลคนที่ 2: จาง เซี่ยอิน (STR 147 - LEA 21) พลังชีวิต 3200/3200

(ทหารม้า(ATK+60) 1000 นาย)

กองทัพที่ 2

ขุนพลคนที่ 3: เซวียนหยวน หมิง (STR 64 - LEA 42) พลังชีวิต 8100/8100

(คุมทหารธนู(ATK+40) 500 นาย)

-- ฝั่งค่ายทหารหลักไม่ต้องโรล --

ฝั่งจวี้ซิน

กองทัพที่ 3

ขุนพลคนที่ 4: จวี้ ซิน (STR 290 - LEA 134) พลังชีวิต 17500/17500

(คุมทหารดาบโล่ 1,000)

-- ฝั่งจวี้ซินยังไม่ต้องโรลจนกว่าจะถึงเทิร์นที่ 6 --

ฝั่งเกิ้นหว่อสิง

ขุนพลคนที่ 1: เกิ้น หว่อสิง (STR 231 - LEA 72) พลังชีวิต 5100/5100

- สร้างสตอรี่ เกิ้นหว่อสิง ควบม้ามุ่งหน้าไปยัง ณ ประตูทิศใต้ของเมืองกว่างหลิง

- ขุนพลเกิ้นโบกธงฮั่นที่ถือมาด้วยเพื่อให้รู้ว่าเขามิใช่พวกโจรผ้าเหลือง ก่อนแจ้งทหารขอเจอเจ้าเมือง

- ไม่นานเจ้าเมืองกว่างหลิงก็มาก่อนออกจากเมืองมาสนทนา เจ้าเมืองกว่างหลิงยินดี ก่อนเขาให้ทหาร 100 นายลากรถทุ้งประตูออกมาจะไปช่วยปราบโจร

- เขากำลังสืบหาเบาะแสที่ชุ่มกองโจรภูเขากลุ่มนี้มาสักพักแล้ว ไม่คิดว่าใต้เท้าเสิ่นจะหูตากว้างไกล

เกิ้นนำทหารยืม 100 นายที่ลากเครื่องทุ้งประตูรถทุ้งประตู (ATK 60) เดินทางกลับค่าย

-- ได้รับ ทหาร 100 นายที่ลากรถทุ้งประตู(ATK+60) 1 คัน --

- จบแค่นี้ฝั่งของเกิ้น จะกลับถึงค่าย เทิร์นที่ 4