
เรือนหมู่หลังใหญ่มุงหลังคากระเบื้องเขียวมรกตดุจทิวไผ่ เคหาสน์
ซ่อนตัวอยู่ในแมกไม้ ประกอบไปด้วยหอตำรา ลานฝึกยุทธ์ และศาลาเดินหมาก แผ่กลิ่นอายตระกูลปัญญาชนเก่าแก่ตกแต่งอย่างสุขุม
สง่างามทว่าไม่อวดโอ่ ที่ตั้งเหนือเขตลุ่มน้ำมีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี ทิวทันศ์งดงามอิงธรรมชาติ มีพร้อมทั้งแปลงดอกไม้และเนินเขาจำลอง ใจกลางมีศาลาหย่อนใจ ผันน้ำจากแม่น้ำเข้าสู่สระบัว
ดน้าจวนมีป้ายพระราชทานจากฮ่องเต้ฮั่นอู่ตี้ ว่ากันว่าเป็นบ้านเดิม
ของ กวีราชสำนัก 'หลิงจื่อ' เสิ่นหลิงเฮ่า ปัจจุบันแม้ผ่านกาลเวลา
หมื่นพันการเปลี่ยนแปลงจวนแห่งนี้ยังคงความสงบสง่างามไว้ได้

ประมุขสกุลเสิ่นรุ่นปัจจุบัน
เสิ่น ตี้ฮ่วน



ผู้สืบทอดวิชาแพทย์เข็มทองสกุลเสิ่นรุ่นปัจจุบัน อุปนิสัยเคร่งครัดเอาการเอางาน ไม่ค่อยมีเวลาผ่อนคลายให้ตนเองนัก ขึ้นชื่อในวิชารักษาและฝังเข็ม มีความรู้กว้างขวางความคิดอ่านลึกซึ้ง น่าเสียดายเขาไม่คิดเปิดสำนักหรือสร้างโรงหมอ มีเพียงออกเดินทางในฐานะหมอพเนจรและรักษาคนตามอารมณ์เท่านั้น เป็นคนช่างปกป้องแม้รักแต่กลับแสดงออกเพียงน้อยนิดทำให้คนข้างกายทรมานใจ

นายหญิงสกุลเสิ่น - วิกลจริต
เสิ่นฟูเหริน (จ้าว อวี้จิ่น)



นางแต่งเข้าสกุลเสิ่นตั้งแต่อายุ 12 เพื่อทดแทนบุญคุณของบิดา ถูกเลี้ยงมาเสมือนไข่ในหินและปลูกฝังให้เคารพเทิดทูนสามีเสมือนเทพ
หัวอ่อน ค่อนข้างขี้ขลาดและไม่กล้าเผชิญกน้ากับการเปลี่ยนแปลง
ครอบครัวคือทุกอย่างของนาง คือชีวิตและลมหายใจของอวี้จิ่น
มุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่นายหญิงอย่างสมบูรณ์แบบจนกดดันตนเอง
หลังสูญเสียบุตรชายความเสียใจจึงระเบิดออกทำให้นางวิกลจริต
เมื่ออยู่ต่อหน้าบุตรสาวเพยีงคนเดียวที่เหลืออยู่ก็มักจะคิดว่าอีกฝ่าย
คือบุตรชายฝาแฝดของตนเสมอ