-จื่อหลงเข้ารีต- หนึ่งก้าวก่อนเข้าเมือง
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
ลำธารสายยาวที่ทอดผ่านด่านตะวันออกของเมืองซินเย่ทั้งใสและเย็นฉ่ำ หลังออกจากเมืองเซียงหยางจื่อหลงที่คอยอยู่ก่อนก็ถูกชักชวนให้มาชำระกายที่ข้างลำธารกับเซวียนหยวนหมิง สองหนุ่มสอบถามพื้นแพ้และจุดประสงค์ในการเดินทาง พวกเขายังไม่ลืมที่จะประชันกันจับปลาไปทำอาหารมื้อเย็นในวันนี้
เสียงของบทสนทนาที่เรียกโม่เสวียนเดินตามมาติดๆ ทันทีที่เห็นแผ่นหลังเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยเส้นสายกล้ามเนื้อที่แข็งแรง สายตาของท่านเจ้าเมืองก็อดเปรียบประเมินมิได้ ฝั่งของเซวียนหยวนหมิงมีผิวพรรณขาวอมชมพูต่างจากบุรุษเจียงหนานที่ตนเคยพบเขามีช่วงอผ่นหลังเหยียดตรง ดูภูมิฐานและสง่างาม ทางจ้าวจื่อหลงค่อนไปทางสีข้าวสาลีโทนอ่อน มองแล้วเพลินตาหากไม่ติดว่าตั้งแต่ส่วนไหล่จนถึงช่วงเอวมีรอยกรงเล็บพาดเป้นแนวยาว
“บาดแผลนั่นช่างห้าวหาญนัก ดูเหมือนเจ้าเองก็ผ่านช่วงเวลาคับขันมาไม่น้อยเลย” โม่เสวียนเอ่ยชม ตนมิได้รังเกียจบาดแผลที่ทำให้ผู้คนรอดชีวิตมาพร้อมเรื่องราวของตน
จื่อหลงได้ยินเสียงจากด้านหลังก็จดจำได้ทันทีว่าผู้มาเป็นใคร ชายหนุ่มบิดผ้าคลุมที่ซักไว้วางเหนือโขดหิน ประเดี่ยวค่อยนำไปผิงไฟให้แห้ง เขาส่งยิ้มให้กับคนชุดครามตอบคำถาม
“ท่านหมายถึงนี่หรือ? อ่า.. ข้าได้มันมาเมื่อครั้งติดตามท่านพ่อออกไปล่าพญาเสือในหุบเขา คราวนั้นหากไม่ตกลงไปในโพรงไม้คงเอาชีวิตรอดยาก” จื่อหลงกล่าวอย่างภาคภูมิใจ รอยแผลสำหรับบุรุษคือเกียรติยศ
“เหมือนว่าไม่ค่อยได้ทายาสมาน สีของมันดูใหม่อยู่มาก ขอข้าดูได้ไหม?”
“ด…ได้สิ” จื่อหลงเหล่ไปทางจินจ้าน ต่างก็เปลือยท่อนบนเหมือนกันแต่ทำไมผู้ที่คนชุดครามใส่ใจถามไถ่กลับเป็นตน ความรุ้สึกแปลกๆ ยามที่ปลายนิ้วของอีกฝ่ายสัมผัสอย่างอ่อนโยนบนแผ่นหลัง พอเงยขึ้นก็สบกับแววตาสีน้ำเงินกระจ่างและแก้มที่เนียนขาว จุ่ๆ ก็ทำให้ใบหน้าของหนุ่มไม่ประสานั่นร้อนผ่าวขึ้นมาได้แต่ก้มหน้าเก็บอาการ
“อื้ม.. นับว่าสมานตัวได้ค่อนข้างดี แต่หากจะไม่ให้รุ้สึกเจ็บตอนช่วงหน้าหนาวข้ามีสีผึ้งตลับหนึ่ง ให้เจ้า.. หมั่นทาตอนที่นึกขึ้นได้ล่ะ” ในเมื่ออีกฝ่ายเข้ามาเป็นขุนพลในสังกัดตนแล้ว โม่เสวียนจึงทุ่มเทดูแลเรื่องรอบด้านให้จื่อหลง แม้นั่นจะหมายถึงสุขภาพร่างกาย หากก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ใส่ใจความเป็นอยู่ของผ้ติดตามอย่างเขา
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณท่านเจ้าเมือง”
“ทำไมถึงหน้าแดงขนาดนั้น เจ้ามีไข้หรือ?” สิ้นเสียงถามเรียวนิ้วขาวผละออกจากแผ่นพลังรอยแผลเคลื่อนมาแตะที่ข้างแก้มของบุรุษแซ่จ้าว ภาพนี้ทำเอาจินจ้านเลิกคิ้วสูงด้วยไม่นึกว่าเจ้าเมืองจะให้ความใกล้ชิดกับขุนพลหนุ่มหน้าใหม่ในระดับนี้มาก่อน
ตึก..ตึก.. บางอย่างที่เต้นในอกเพราความประหม่า นอกจากมารดาหรือเคยมีใครประคองแก้มเขาในระยะใกล้ชิดเช่นนี้ จ้าวจื่อหลงหาจุดวางสายตาไม่เจอคิดไปคิดมาก็หลับตาเสียเลย !
“ม.. ไม่ใช่ คงเพราะว่าตากแดดนานเกินไป ข้าขึ้นจากน้ำดีกว่า” หากจะปัดมือของอีกฝ่ายออกทั้งที่เห็นอยุ่ว่าเจ้าเมืองทำไปด้วยความห่วงใย เขาควรรู้สึกซาบซึ้งและตื้นตัน แต่ทำไมแค่ได้กลิ่นหอมเย็นของป๋อเหออันเป้นเอกลักษณ์ของเจ้าเมือง ตนก็ปฎิเสธอย่างตรงไปตรงมาไม่ลง
โม่เสวียนร่นหัวคิ้วเล้กน้อยอย่างไม่เข้าใจ ทั้งสองต่างก็เป็นบุรุษเรี่ยวแรงดี โดนลมโดนน้ำนิดหน่อยใยจึงผิวแดงยังกับคนจับไข้ ถึงอยา่งนัน้ความเป้นห่วงและจิตใจที่ค่อนไปทางขี้สงสารก็ปล่อยพวกเขาไปอยุ่ดี
“เล่นน้ำกันนานแล้วสิ? ช่วงต้นหนาวแบบนี้อากาศเย็นนัก รีบขึ้นเถอะ หากจับไข้ขึ้นมาเจ้าจะปรากฎตัวครั้งแรกต่อหน้าเจ้าเมืองในสภาพอมโรค มีสง่าราศีทีใดให้พูดถึงอีก”
“ท่านเจ้าเมืองแนะนำได้ถูกต้อง หึหึ จื่อหลงเอ้ยจื่อหลง.. ข้าไปก่อนล่ะ”
จินจ้านเห็นด้วยมิใช่ว่าตัวเขาจะรีบไปให้พ้นจากสถานการณ์ตรงหน้าแต่อย่างใด บุรุษผมทองนำสานส์ในม้วนไม้ไผ่หนึ่งฉบับส่งต่อให้กับเจ้าเมืองอย่างพึง่นึกขึ้นได้ “ซีเยี่ยนผากนี่ให้เจ้า.. วิหคส่งข่าวนั้นเชื่องช้า ข้าก็เตือนแล้วว่าให้ใช้อินทรีไม่ฟัง”
“...อ่า ขอบใจที่ลำบาก” จดหมายงั้นหรือ ตนไม่คิดจะอ่านหรอกในเมื่อแทบจะเจอหน้าอยุ่รอมร่อ โมเ่สีวยนเก็บสานส์เข้าแขนเสื้อ ขณะที่ปล่อยให้ทัง้สองสวมอาภรณ์ตนก็เข้าไปสนทนากับจ้าวฟูเหริน เมื่ออีกฝ่ายฝากขนมชิงถวานให้บุตรชาย พวกเขาทั้งหมดก็มาล้อมวงกันที่ด้านข้างกองไฟเพื่อทานมือ้เย็น
จื่อหลงเผาปลาย่างเกลืออย่างชำนาญ ดูเหมือนว่าเขาจะช่ำชองด้านอาหารป่าเมือบิดาคือนายพรานใหญ่ ส่วนเซวียนหยวนหมิงรังเกียจว่าอาหารพื้นเพนั้นไม่สามารถเติบเต็มราชารสอยา่งเขาได้จึงขอผ่าน โม่เสวียนมอบขนมอบเจียงซูให้เขาไปนั่งกัดเล่น ส่วนตนเองนำฝักข้าวโพดหวานออกมาเผาจนส่งกลิ่นหอมหวนไปทั่วบริเวณ
“จื่อหลง เจ้าเคยได้ยินเรื่องความเสมอภาคเท่าเทียมกันรึไม่?” ในขณะที่พวกเขาทานจนอิ่ม โม่เสวียนได้นำตำราเจียหลุนชางมาและเริ่มอ่านให้ทุกคนได้ฟัง เขาอธิบายเรื่องราวความอยุติธรรมในดินแดนที่เกิดขึ้นจากความไม่เท่าเทียมกันและการยกเอาเพศใดเพศหนึ่งเป็นใหญ่ผ่านการยกตัวอย่าง “เรื่องราวในประวัติศาสตร์สอนชนรุ่นหลัง คำที่ถากถางว่าสตรีนั้นแพศยาเกิดจากปลายพู่กันของบุรุษ ขณะที่คำเยินยอวีรบุรุษและนักปราชญ์เป้นผู้ปั้นแต่งขึ้นมา หากแต่ละคนสูงส่งโดยเนื้อแท้ เหตุใดจึงยังมีการแก่งแย่ง เหตุใดคนยังคงลุ่มหลวงตามัวในอำนาจและสิ่งนอกกาย?”
“ข้าหมายจะสร้างจิตสำนึกที่แตกต่าง โลกที่ปราศจากการคุกคามต่อผู้ที่ประสงค์ในสันติ.. ตำราเล่มนี้เกิดขึ้นด้วยจิตใจเช่นนั้น จื่อหลง หากเจ้าไม่ชอบอ่าหนังสือ ข้าจะเล่าให้เจ้าฟังทีละเรื่องว่าเราจะเปลี่ยนแปลงใต้หล้าไปในทิศทางใด เราจะช่วยคนที่กำลังลำบากด้วยวิธีไหน ดีไหม?”
“ท่านอาโม่ช่างดีต่อข้ายิ่งนัก หากว่านั่นไม่เป้นการรบกวนท่านล่ะก็ จื่อหลงยังคงมีแีหลายเรื่องต้องพึ่งท่านช่วยสอนในอนาคต” หนุ่มน้อยผู้กล้ารวบนิ้วมือเข้าหากันแล้วคำคับอีกฝ่าย คงน่าตกใจหากทราบในภายหลังว่าโม่เสวียนอ่อนกว่าเขาถึงสองปี
“รบกวนอันใดเล่า.. ข้าจะคอยช่วยเหลือเจ้าเอง แต่ก่อนอื่น เจ้าต้องเรียนรุ้ที่จะเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ๆ..” ริมฝีปากของคนชุดครามยกรอยยิ้มอ่อนโยน หากเป้นไปตามนี้จื่อหลงก็จะเข้าร่วมศรัทธาเดียวกัน เป้นเรื่องที่น่ายินดีหากอีกฝ่ายมีน้ำหนึ่งใจเดียวและจะช่วยเป็นกำลังให้เขาสร้างความเสมอภาคที่แท้จริงขึ้นมาบนดินแดนฮั่น ชวนจ้าวจื่อหลงเข้ารีต ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
-เอฟเฟคตัวละคร- (เลื่อมใสศรัทธา) +3 Point จากการโรลทำงาน (ทะเยอทะยาน) +2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ +2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ) +5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย +5 Point จากการโรลเรียนรู้(หูดี) +5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น +2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย(เห็นอกเห็นใจ) +20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ -2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ(นักวิชาการ) +4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้(นักวางแผน) +5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบายรวม 24 Point 55exp +30 โหด -25 ความเครียดจากการกิน -ระบบเสริม- -25 ความเครียดโรลทานอาหาร +10 คุณธรรม พบหัวดี +10 โหด พบหัวคลั่ง EXP ให้จื่อหลง
. [235] เซวียนหยวน หมิง [คลั่ง] +15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย (หูดี) +10 คลั่ง พบ มาร +20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า) +20 ธาตุเกื้อหนุน ดิน หนุน ทองรวม 65.
เอฟเฟคตัวละครเซวียนหยวน หมิง +9 EXP จากการโรลเข้าสังคมกับสหายระดับ สหายรู้ใจ-อู้ม่าน +4 Point จากการโรลใช้กลอุบาย (หวาดระแวง) +2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (สุขุม) +20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทนต่อความทรมาน (สุขุม) +5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น (ตัวหอม) +15 EXP จากการโรลสร้างความน่าเคารพศรัทธาต่อผู้พบเห็น (หลังตรง) +3 Point ทุกครั้งที่โรลการทูต (หลังตรง) +30 EXP (จำเป็นต้องมีลักษณะนิสัยชอบเข้าสังคม) เมื่อโรลเพลย์มีปฏิสัมพันธ์คนอื่น (หลังตรง) +2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย (หูดี)รวม 11 POINT 79 EXP
. (จ้าวจื่อหลง 073) +35 มอบขนมชิงถวน (หูดี) +15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย +20 ธาตุหนุนกัน ไฟ หนุน ดิน +20 ประลอง +20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า) +5 พูดคุยรายวัน +95 เอฟเฟคจ้าวจื่อหลง +1 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (เที่ยงธรรม) +20 EXP เมื่อโรลเพลย์หยิ่งในศักดิ์ศรีและภาคภูมิใจแผลเป็นทุกแผลบนร่างกาย (มีแผลเป็น) +4 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์ (หล่อ/สวย) +15 EXP จากการโรลเพลย์เดินทางแบบไม่ข้ามเมืองไปทีละเมือง (สายตายาว)รวม +5 POINT +25 EXP
|