[เมืองซินเย่] โรงน้ำชาผานถาว

[คัดลอกลิงก์]





โรงน้ำชาผานถาว

{ นครซินเย่ }








โรงน้ำชาผานถาว
『 หมื่นเรื่องเล่าขาน สิบตำนาน ล้านคำลือ 』
อาคารไม้เนื้อแข็งทรงสูงสามชั้นมีที่นั่งสำหรับชาวเมืองและนักเดินทาง
เป็นสถานที่ผ่อนคลายประจำวันของเหล่าชาวเมืองและนักเล่านิทาน
ข่าวลือที่เกิดขึ้นที่นี่ไปตามอารมณ์ของสุราและน้ำชาเลิศรสเสมอ
ว่ากันว่าหากต้องการฟังเสียงของชาวซินเย่ ต้องมาที่นี่เท่านั้น
บริการอาหารและห้องรับรองของว่าง นอกจากเครื่องดื่มแล้ว
หอท้อวิเศษแห่งนี้ยังมีขนมของหวานเลิศรสแปลกใหม่มากมาย
ไว้ดึงดูดเหล่าคุณหนูคุณนายรังสรรค์อย่างปราณีตจากอดีตพ่อครัวหลวง
ทุกท่านสามารถมาโรลเพลย์ทำงานพาร์ทไทม์ประจำวัน
ค่าจ้าง: 300 อีแปะ - 5 EXP (รายวัน)





เถ้าแก่โรงน้ำชา

ฟาง เลี่ยง

อดีตชาวยุทธ์ผู้เสียโฉมจากบุญคุณความแค้นของคนรุ่นก่อน เขาชำระกระบี่
เพื่อสร้างกิจการเลี้ยงดูครอบครัว มีน้องชายที่เป็นบัณฑิตที่สนิทกันมาก
ไม่ว่าน้องชายจะทำสิ่งใดผิดผู้เป็นพี่ก็จะออกหน้าปกป้องอยู่เสมอ
เขามักออกมาต้อนรับแขกด้วยตนเอง กำไรที่ได้ก็นำไปสร้างการกุศล
เป็นบุรุษอัทธยาศัยดีชื่นชอบการฟังเรื่องเล่ารวมไปถึงข่าวลือต่างๆ
บ้างก็ว่าตัวเขานี่ล่ะนักสร้างข่าวลือมือฉมัง





โพสต์ 2022-8-23 00:58:37 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สตรีที่ปรากฎตัว
(เซอร์ไพรซ์อู้ม่าน)
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
            นครซินเย่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ชาวเมืองล้วนสัมผัสได้ จากนครที่ประชากรย้ายออกจนเหลือเพียงหนึึ่งพันชีวิตย่ำแย่เสียยิ่งกว่าหมู่บ้าน ยามนี้ดัชนีความสุขมวลรวมพุ่งสูงเสียจนแม้แต่ชาวเมืองข้างๆ ก็ยังอยากย้ายถิ่นฐานเข้ามาตั้งรกรากในซินเย่
            ภายใต้การปกครองของหวางน้อย หวังจื่อเสีย อาศัยผู้ช่วยที่มากความสามารถทั้งราชครหลิวและท่านเจ้าเมืองเสิ่น ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาพวกเขาก็ได้เห็นความขยันขันแข็งของทั้งสองเทียววิ่งทำงานไปทั่วเมืองแล้ว วันนี้สร้างงาน วันรุ่งขึ้นพัฒนาเมือง มิได้หยุดพัก
            กิจการที่รุ่งเรืองขึ้นปุบปับ เงินสะพัดเศรษฐกิจหลั่งไหล เหล่านายทุนย้ายเข้ามาเปิดการค้า ไหนจะเรื่องของเหล่าปัญญาชนที่ติดตามเจ้าเมืงอคนใหม่เข้ามาร่วมมีส่วนในการพัฒนาเมืองอย่างก้าวกระโดด ทั้งหมดทั้งมวลราวกับเรื่องมงคลยามฟ้าหลังฝน
            ทางด้านหนึ่งท่านราชครูที่บรรดาชาวบ้านต่างแซ่ซ้องชื่นชมทั้งรูปลักษณ์และสติปัญญาอยู่นั้นกำลังใช้เวลาอย่างคุ้มค่า แม้จะเป็นช่วงพักผ้อนจากการทำงานแต่ในเมื่อมีกิจการมาเปิดใหม่ในเมือง บุรุษชุดขาวไม่รอช้าเปิดชั้นรับรองเพื่อทดสอบงานบริการแทบจะในทันที
            ชั่วจังหวะหนึ่งที่เขาคล้ายตาฝาด ท่ามกลางหมู่คนในย่านการค้า มองเห็นแผ่นหลังของดรุณีนางหนึ่งดูค้นตาอย่างประหลาด เมื่อผุดลุกออกไปเพื่อจะตามหานางกลับไม่เจอตัว เดิมคิดที่จะถอดใจและเดินกลับไปยังโรงน้ำชาแล้ว กระทั่งข้างหูได้ยินเสียงหยกพกกระทบกันอยู่ไม่ไกล

            บุรุษผู้สุขุมและรักษากิริยามาโดยตลอดชะงักไปก่อนจะทำสิ่งที่เขาไมค่อยทำอย่างการ ‘ออกวิ่ง’ ท่ามกลางสายตาชาวเมืองที่แตกตื่นตกใจ
            เป็นนางใช่รึไม่? เขาเชื่อว่าตนไม่มีทางจำผิด!
            ครึ่งชั่วยามก่อน ณ จวนเจ้าเมือง
            แน่นอนว่าเบื้องหลังการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของเมืองย่อมไม่มีใครรู้ว่า หัวเรี่ยวหัวแรงหลักตึเครียดจนจะวูบอยู่รอมร่อ โม่เสวียนพึ่งได้พักหายใจหลังเขาเสริมการก่อสร้างกำแพงจนครบสี่ทิศร่วมกับเชิญเถ้าแก่ร้านน้ำชามาเปิดกิจการ คนร่างเล็กวูบหลับคาโต๊ะทำงานมาสามวันติด ในที่สุดก็พอมีเวลาว่างจึงทิ้งจดหมายให้ผู้ติดตามว่าตนมีธุระจะกลับมาในอีกหนึ่งวันให้หลัง
            จากนั้นก็เข้าเส้นทางลับผลัดเปลี่ยนอาภรณ์การแต่งกาย จากบุรุษหน้ามนก็กลับเป็นหญฺงสาววัยกำดัด กระโปรงสีฟ้าอ่อนไร้ลวดลายบุด้วยขนกระต่ายเป็นรุปเสื้อกั๊ก ทำให้นางดูทะมัดทะแมงและอ่อนหวานในเวลาเดียวกัน อาจเพราะไม่ต้องการให้ชาวเมืองจดจำได้ระหว่างผ่อนคลาย เขาจึงแต่งกายเช่นนี้ออกมาเดินเล่น
            “อ้า.. เห็นว่าที่ร้านน้ำชามีขนมแปลกๆ ผลิตออกมาใหม่ด้วยสินะ” ถูกต้อง การผ่อนคลายสำหรับอู้ม่านคือวิถีอาหาร บำบัดนางได้ดีกว่าการแช่บ่อน้ำแร่เสียอีก
            หลังเตรียมเงินถุงใหญ่เจ้าตัวก็มุ่งตรงไปที่ดรงน้ำชาอย่างไม่รีบร้อน หาไดรู้ตัวไม่ว่าตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครด้วยรุปลักษณ์ที่โดดเด่นเสียยิ่งกว่ายามเป็นเจ้าเมืองในคราบบุรุษเสียอีก
            “เถ้าแก่.. ขนมที่ออกใหม่ในวันนี้มีขนมอะไรบ้างหรือ”
            หญฺงสาวถามอย่างตื่นเต้นดวงตาคู่ครามประกายของนางแม้จะมีร่องรอยของความอ่อนล้า แต่นั่นกลับทำให้ผู้คนเอ็นดูว่านางขี้เซาเหมือนลุกแมว
            “เชิญด้านในก่อนคุณหนู ท่านเองก็มาลิ้มลองขนมของหอผานถาวเราสินะ วันนี้พ่อครัวได้เตรียมขนมหลายประเภทโต๊ะส่วนตัวเลยเต็ม เอาแบบนี้ข้าสามารถใส่กล่องให้ท่านได้ ทั้งแบบทอดกรอบ แบบแป้งปั้น แม้แต่ของหวานสูตรพิเศษที่ทานคุ่กับน้ำชา..”
            “พอจะมีรายการอาหารว่างไหม.. ข้าพึ่งเคยมาที่นี่หนแรก อืม…” หญิงสาวตอบเถ้าแก่ไปอย่างลังเลใจไม่อยากทำให้ยุ่งยากเพราะตนมาคนเดียว นางมาคนเดียวจะให้กินหมดทุกอย่างอาจใช้เวลาทั้งวัน แม้ใจจะอยากขนกลับจวนไปกินแค่ไหนแต่ก็อาจผิดสังเกตเอาได้ จังหวะนั้นเองที่มีเสียงทุ้มทรงสเน่ห์ดังขึ้นจากด้านกลัง
            “ขนมที่ทำออกมาใหม่วันนี้ทั้งหมดนำมาอย่างละจาน ของว่างที่ขึ้นชื่อเป็นจานแนะนำของร้านก็นำมาอย่างละชุดให้แม่นางผู้นี้”
            “ถ้าจะรับทั้งหมดนั้น… อาจมีบางชนิดที่ยากสักหน่อย พ่อครัวทำออกมาจำกัดจำนวน โอ้ เงินจำนวนนี้ออกจะมากเกินไปนะขอรับ” พร้อมกับการที่เถ้าแก่ได้รับเงินถุงใหญ่ ยังไม่ทันจะตั้งตัวพอเงยหน้าค่อยพบว่าผู้มาใหม่คือคนใหญ่คนโต ท่านราชครูหลิว.. เขาเป็นอะไรกับสาวน้อยคนนี้กันเล่า
            “ที่เหลือเป็นค่าขนมออกใหม่ที่ยังมีอยู่ ข้าเหมาทั้งหมด นำไปที่โต๊ะชั้นรับรอง” ไม่ทราบบุรุษชุดขาวมายืนอยู่ข้างนางเมื่อใด รู้ตัวอีกทีข้อแขนเล็กก็ถูกกุมไว้ พาขึ้นไปยังชั้นรับรองส่วนตัวที่จับจองไว้ด้านบน
            “ท่าน.. ช้าก่อน ใยต้องรีบร้อนปานนี้” เรียกก็แล้วแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ฟัง
            “เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย ดีนัก..” ชายหนุ่มพึมพำประโยคหนึ่งที่นางฟังไม่ชัด เพราะกำลังขึ้นบันไดจึงไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มมุมปากของอีกฝ่าย ทำไมถึงรับคว้าน่ะหรือ? เพราะกลัวว่านางจะหายวับไปอีกไง         
ระยะเวลาปรากฎตัว 1 วัน
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
-เอฟเฟคตัวละคร-
(สถาปนิก)
+2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง
(เลื่อมใสศรัทธา)
+3 Point จากการโรลทำงาน
(ทะเยอทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ)
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
(หูดี)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย
(เห็นอกเห็นใจ)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ
-2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
(นักวิชาการ)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้
(นักวางแผน)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย
รวม 23 Point 25exp +30โหด
—------
เอฟเฟคหลิวซีเยี่ยน
(งดงาม)
+6 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์
(ถ่อมตน)
+2 Point จากการโรลให้เกียรติอีกฝ่าย
+10 EXP จากการโรลสรรเสริญคู่สนทนาด้วยความจริง
(สุขุม)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทนสายตาชาวบ้าน
(เจ้าเล่ห์-เสแสร้ง)
+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย

รวม 14pt 30exp
—-----------





←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-8-23 19:04:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สตรีที่ปรากฎตัว 2
(เซอร์ไพรซ์อู้ม่าน)
เริ่มเปลีย่นศาสนาประจำเมือง
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
            ยากจะแปลงความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดเมื่อนางมาอยู่เบื้องหน้าเขาอีกครั้ง ยามกลางวันมีแสงอร่ามสาดส่องใบหน้าที่เล็กเรียวเพียงฝ่ามือของอีกฝ่ายชวนให้นึกถนอม หลิวซีเยี่ยนเฝ้ามองหญิงสาวเริ่มทานขนมของว่างที่ถูกสั่งมาเสียเต็มโต๊ะอย่างไม่วางตา ราวกับว่าอยากจะหยุดช่วงเวลานี้ไว้ให้ได้นานที่สุด ปฎิเสธความจริงที่เชื่อว่าอีกไม่นานนางก็คงจากไปอีกครั้ง
            “ท่าน… ไม่ทานหรือ?” อู้ม่านเพลิดเพลินกับของหวานตรงหน้าก็จริง ถึงอย่างนั้นก็รับรุ้ได้ถึงสายตาจับจ้องจึงออกจะกินไประแวงไปอยู่บ้าง เห็นเขานิ่งเงียบอยุ่แบบนี้จึงเข้าใจไปว่าไม่รุ้จะเริ่มบทสนทนาอย่างไร รึไม่ก็… สนใจขนมที่นางกำลังกินอยู่
            “นั่นอร่อยมากหรือ?” บุรุษชุดขาวบนตั่งฝั่งตรงข้ามเอาแต่เท้าคางสังเกตุการณ์ จากคำถามนี้เขาสงสัยมากกว่าในยามที่ขนมชิ้นนั้นถูกริมฝีปากจิ้มลิ้มกัดลงไปมันจะรู้สึกอย่างไร วูบหนึ่งถึงกับเกิดความคิดที่ว่า.. ตนอยากเข้าไปแทนที่ขนมชิ้นนั้น
            เป็นความคิดประหลาดกระทั่งเจ้าตัวยังแทบสะบัดทิ้งจากหัวในทันที
            “อื้อ ขนมเปี๊ยะมรกตของที่นี่ทั้งหอมทั้งนิ่ม หวานน้อยหากว่าท่านจะถาม.. ตัวแป้งทำก้วยถั่วแดงกวนละเอียด อร่อยมากเลยล่ะ ท่านลองชิมดู”
            อู้ม่านกลับตีความท่าทีเช่นนั้นว่าเขาสนใจขนมที่นางกำลังกินอยุ่จริงๆ เมื่อก้มลงมองยังจานกระเบื้องขาวบนนัน้คือบัวหิมะชิ้นเล็กปราณีต นางตัดใจแบ่งให้เขาเพราะถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นคนเหมาของเหล่านี้ทั้งหมดให้ตนได้ลิ้มลอง มือคู่เล็กหยิบขนมเปี๊ยะมรกตหนึ่งชิ้นยื่นส่งไปยังคนตรงหน้า
            “เอ๊ะ!”
            กลับกลายเป็นว่าแทนที่เขาจะรับกลับยื่นตัวเข้ามาใช้ริมฝีปากกัดขนมชิ้นนั้นรวดเดียว วูบหนึ่งที่เรียวนิ้วขาวสัมผัสกับความนุ่มชิ้นบนเรียวปากได้รูปก็เกิดความรุ้สึกคล้ายกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน นางชักมือกลับในทันทีทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปลายนิ้วของนางสั่นไหวเบาๆ ความร้อนรุ่มเมื่อครู่ส่งผลต่อเนื่องจนสองแก้มเปลี่ยนสี
            “หอมมากอย่างที่เจ้าว่า ติดจะหวานนิดๆ ก็ไม่ได้แย่” เสียดาย.. คือความรู้สึกแรกของบุรุษชุดขาว หากว่าเขาสามารถแตะต้องนางได้โดยไร้ความกังวลที่ว่าจะทำให้ร่างบางตรงหน้าตื่นกลัวจนวิ่งหนีไปคงจะดีกว่านี้ “ทำไมเจ้าถึงมาที่ซินเย่ได้ กำลังเดินทางไปไหน.. หรือว่ามาพบพี่ชายเจ้า”
            “แวะนำของมาให้คนผู้นึง.. บังเอิญพบท่านพอดี ไม่ทราบว่าหยกพกชิ้นนั้นขอคืนข้าได้รึไม่”
            คิดแล้วว่าเขาต้องถาม ดวงตาสีน้ำเงินครามหรุบลงนำถ้วยชาขึ้นจิบอย่างสงบความคิด ทำไมอีกฝ่ายถึงเรียกนางมาทานขนมอยุ่ที่นี่ได้ เมื่อครุ่ตอนขึ้นมายังชั้นรับรองมีสายตาหลายคุ่จับจ้อง ราชครูหลิวเป็นบุคคลในแวดวงสังคมของซินเย่ อาจจะเกิดเรื่องยุ่งยากถ้าอยู่ที่เดียวกันเป็นเวลานานเกินไป
            แว่วเสียงกริกเบาๆ เมื่อหยกพกลายฉยงฉีถูกวางลงบนโต๊ะ นางกำลังประหลาดใจที่เขาส่งมอบของคืนง่ายๆ ก่อนจะเจอเงื่อนไขของคนเจ้าเล่ห์อีกประการ “หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาข้าให้ช่างฝีมือมาตรวจสอบแล้ว เป็นหยกเนื้อดี ทั้งยังมีอายุการใช้งานมานาน คืนให้เจ้าพร้อมค่าชดเชย.. แต่ต้องอยู่เป็นเพื่อนข้าในห้องรับรองนี้อีกหนึ่งชั่วยาม”
            หนึ่งชั่วยาม เป็นเวลาที่ไม่มากไม่น้อย อู้ม่านเห็นตั๋วเงินที่วางไว้ด้านใต้หยกพกก็ถอนหายใจเบาๆ ดูเหมือนเขาจะรู้ว่าช่วงนี้ตนมีรายจ่ายไม่น้อยใจการให้ค่าแรงเหล่าขุนนาง หญิงสาวพยักหน้ารับ อย่างไรก็แค่นั่งทานขนมไปเรื่อยๆ ไม่ลำบากอะไร

            “ฟังจากพี่ชายเจ้า.. ความศรัทธาในเจียหลุนชางทำให้เจ้าต้องลำบากหรือ?”
            ร่างบางไม่ทันนึกว่าเขาจะถามเสียปุบปับจึงใช้เวลาในการตั้งหลัก นิ้วเล้กวนเล่นบนผิวหยกพกแล้วพยักหน้าเบาๆ ไม่ได้คิดที่จะหลอกอีกฝ่าย เพียงแต่พูดออกไปตามตรงไมไ่ด้ในเมื่อนางคือศาสดา “ในตอนนี้ข้าเองก็มีศรัทธาร่วมกับเจ้า ลำบากอย่างไร พอจะเล่าให้ข้าฟังได้ไหม”
            “เอ่อ…” นั่นสินะ ก่อนจะมารับตำแหน่งชายตรงหน้ายินยอมเปลี่ยนความเชื่อไปแล้ว อย่าบอกนะว่า..เพื่อนนาง? อู้ม่านสลัดความิคดนั้นออก ตัวตนที่สูงส่งเช่นราชครูหลิวการข้องแวะกับผู้อื่นจนเกินความจำเป็นเขารังเกียจนักหนา

            “ข้ามีสถานะ.. เป็นคล้ายๆ ผู้นำของเจียหลุนชาง เพื่อเผยแพร่ความรู้และศรัทธาแห่งปัญญาย่อมต้องวางตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่สาวก ทั้งด้านชีวิต ความสำเร็จ.. รวมถึงความรัก”
            ประกายรอคอยในดวงคาคู่คมกระตุกวูบ กำลังคิดอยู่เชียวว่าจะทำอย่างไรเพื่อหยั่งความในใจของนาง ในเมื่อเปิดหัวข้อนี้ขึ้นมาเขาต้องรีบตามน้ำเพื่อเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุด “ครอบครัวและความรักเป็นรื่องส่วนตัว ทำไมถึงมองว่าลำบาก.. หรือว่าเจ้ามีพันธะหมั้นหมายกับผู้ใดอยุ่ก่อนแล้ว?”
            ร่างบางส่ายหน้า แม้จะในฐานะของโม่เสวียนก็ตามตนยังไม่มีคู่หมั้นที่ยังหายใจอยู่
            หากว่าไม่ได้นั่งเบื้องหน้านาง ราชครูหลิวคงเก็บรอยยิ้มแห่งความยินดีไว้ไม่มิด เขายังคงแสร้งวางสีหน้าเรียบคงความสุขุม “อ้อ..แล้วเป็นปัญหาอย่างไรหรือ เจ้ามาสามารถบอกข้าได้ มีหลายหัวคิดย่อมมีโอกาสพบทางแก้ไขมากขึ้น”
            
            อาจเพราะหลายวันีท่ผ่านมานางอ่อนล้าจากการทำงาน เมื่ออยุ่ต่อหน้าของกินและคนที่ตนเองก็ยอมรับว่าสนใจเขาไม่น้อย หญิงสาวเผลอคล้อยตามเขาบอกเล่าเรื่องราว “เจียหลุนชางเปิดกว้างเรื่องการครองคู่ คำนึงถึงโอกาสทั้งบุรุษและสตรีในรูปแบบความรักที่มาพร้มอควมรับผิดชอบต่อส่วนรวม ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวจะชายหรือหญิงสามารถมีคู่สมรสได้สามคน หนึ่งในนัน้คอคู่สมรสหลัก”
            “ในทางการเมือง คือการรวมกลุ่มของทรัพยากรและอำนาจที่ช่วยผลักดันไปสู่เป้าหมาย.. แต่ในด้านความรัก ยากที่จะพบผู้ใจกว้างนึกถึงอีกฝ่ายมากก่อนตนเอง และอาจเป้นเรื่องยาก..”
            “สิ่งที่เจ้ากังวลคืออะไร” ร่างสูงรินน้ำชาเพิ่มให้นางเดินเข้าไปใกล้ในจังหวะที่อีกฝ่ายไม่ทันรู้ตัว
            “ข้าต้องแต่งงานกับบุรุษหรือสตรีสามคน ท่านคืดว่าจะมีผู้ที่สามารถมองคนรักของตนเองอยู่กับคนอื่นอีกสองรายโดยไม่คิดหึงหวง หรือริษยาอีกฝ่ายได้รึ? บางทีมันคงไม่มีคนแบบนั้นอยู่บนโลก” แผ่นอกของนางสะท้อนขึ้นลงยามทอดถอนใจ หลังจากส่ายหน้าเบาๆ จึงกล่าวว่า “หากเป็นแบบอย่างที่ดีให้เห็นไมไ่ด้ดังนั้น ข้าจึงคิดว่าครองตัวเป็นโสดก็คงไม่แย่”
            แย่สิ! เขายังไม่ทันเริ่มก้าวต่อไปนางจะปิดประตูใส่แล้วบอกว่าจะบวชชีแบบนี้มิได้
            “ตามธรรมชาติของบุรุษแล้วหากหญิงที่รักไปอยู่กับคนอื่น ย่อมมีหึงหวงเป็นธรรมดา สำหรับข้า.. ขอเพียงคนที่ข้ารักมีความสุข ยินดีแลกทุกสิ่งเพื่อให้ในใจนางมีข้า เท่านั้นก็พอ”
            เพียงได้เป็นบุรุษในดวงใจที่นาง ‘รัก’ จำเป็นด้วยหรือว่าเป็นคนที่เท่าไร เป็นหนึ่งเดียวชั่วครู่ชั่วยามไม่เท่าความมั่นคงที่มี เสมือนบอกกลายๆ ว่าตนพร้อมจะเป็นทั้งคนรัก สหายร่วมเป็นตาย รวมไปถึงที่ปรึกษาในทุกเวลาที่นางต้องการ
            “ท่าน.. เป็นคนที่ตรงไปตรงมาดีนะ” อู้ม่านนั้นประหลาดใจเดิมทีคิดว่าราชครูหลิวต้องเป็นบุรุษหัวแข็งคนหนึ่ง คงจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงแหวกม่านประเพณีไม่ใคร่ได้ แต่เขากลับมอบคำตอบที่ผู้ชายส่วนใหญ่ให้การปฎิเสธออกมา ทำให้นางต้องมองคนตรงหน้าใหม่ มากเสียยิ่งกว่าความน่าสนใจ.. คือตัวนางเองเริ่มเทตวามสนใจไปทางบุรุษชุดขาวมากขึ้นเรื่อยๆ
            แรงดึงดูดที่มองไม่เห็นสร้างเป็นภาพแปลกประหลาดระหว่างทั้งสอง คนหนึง่ที่ปฎิเสธจะสุงสิงกับใครๆ กับอีกรายที่ใช้ชีวิตดั่งคนตายไปแล้วด้วยนามของผู้อื่น ยามนี้ทัง้สงอคนนึงนั่งกินขนมอยู่เงียบๆ อีกรายก็นำขลุ่ยไผ่ม่วงขึ้นมาบรรเลงบทเพลงที่บิดาเคยสอนตนไว้ในรอบสิบปี
            อู้ม่านฟังบทบรรเลงสองตาก็มองลงไปยังย่านการค้าด้านล่าง มีบางคนได้ยินเสียงขลุ่ยให้ความสนใจมองหาผู้เป่า พอพบว่าเป็นท่านราชครูผู้งดงาม บ้างก็ยิ้มหัวเราะ บ้างก็ฉงนใจ ต่อมเ่ือคนเหล่านั้นได้เห็นนางก็เหมือนจะได้คำตอบ ทีละน้อย เมื่อสายลมด้านนอกพัดเอาท่วงทำนองฤดูใบไม้ร่วงเข้ามา สองตาที่เหนื่อยล้าก็เริ่มปิดลงในที่สุดก็ผลอยหลับไป
            นางไร้ความระมัดระวังตัวเมื่ออยู่กับอีกฝ่าย แต่ไม่ทันที่ศรีษะจะโขหเข้ากับเสา มือหนาที่ควรจะอยู่ฝั่งตรงข้ามก็เข้ามารองไว้และเบนให้ซบลงยังไหล่ของตน
             ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่เคยละสายตารึสมาธิไปจากนางเลย..
            เสียงขลุ่ยเปลี่ยนท่วงทำนองเป็นขับกล่อม หลิวซีเยี่ยนปรับมันใหเข้ากับการหายใจของสตรีนิทราข้างกาย อีกครุ่นหนึ่งก็ละมือจากเครื่องดนตรีช้อนใบหน้าเล็กด้านข้างขึ้นมาอย่างเบามือ กดสันจมูกตรงลงกลุ่มผมหนานุ่มด้วยความคิดถึงทว่ามิได้ทำสิ่งใดมากไปกว่านั้น เขาทุ่มเทคิดวิธีมากมายเพื่อเข้าใกล้นาง รับรุ้เรื่องของนาง รวมไปถึง.. วิธีใดที่จะสัมผัสแตะต้องโดยไม่ทำให้อีกฝ่ายหนีจากเขาไป จะทำอย่างไรให้นาง…
            เป็นคนของเขาอย่างสมบูรณ์
  
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
-เอฟเฟคตัวละคร-
(สถาปนิก)
+2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง
(เลื่อมใสศรัทธา)
+3 Point จากการโรลทำงาน
(ทะเยอทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ)
+30 EXP จากการโรลทำงาน
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
(หูดี)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย
(เห็นอกเห็นใจ)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ
-2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
(นักวิชาการ)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้
(นักวางแผน)
+15% เมื่อโรลเพลย์เก็บเกี่ยวทรัพยากร หรือ เพิ่มประชากร
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย
รวม 25 Point 55exp +30 โหด -25 ความเตรียดจากการกิน
—------
เอฟเฟคหลิวซีเยี่ยน
(งดงาม)
+6 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์
(ถ่อมตน)
+2 Point จากการโรลให้เกียรติอีกฝ่าย
+10 EXP จากการโรลสรรเสริญคู่สนทนาด้วยความจริง
(สุขุม)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทน
(เจ้าเล่ห์-เสแสร้ง)
+4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย
+30% คุ้มครองแผนการของคุณไม่ถูกเปิดโปง
รวม 14pt 30exp
.
(ซีเยี่ยน ♥ 171)
+35 มอบขนมบัวหิมะ
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+20 ระกาหนุนมะโรง
+15 มาร พบ มาร
-15 ดิน ข่ม น้ำ
+5 พูดคุยรายวัน
+?? อิเว้นท์รั้งตัวคนป่วย
รวม +75+??
—-----------
x3.5 ทุกครั้งที่คุยแลกเปลี่ยนศาสนากับคนศาสนาเดียวกัน (เจียหลุนชาง-หลิวซีเยี่ยน)
+10 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ

(เลื่อมใสศรัทธา)

+25 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ
+15 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิหรือ โรลเกี่ยวกับศาสนา
x4 ความศรัทธา เจ้าลัทธิ
x2 ความศรัทธา VIP

@Watcher


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
 เจ้าของ| โพสต์ 2022-8-27 16:09:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด
[Event] พบปะ The Watcher



[เงื่อนไขการรับภารกิจ]
- รับได้คนละ 1 ครั้งเท่านั้น
- ระยะเวลาหมดอายุเควสภายในวันที่ 25 กันยายน 2565 (รวมทั้งส่งด้วยส่งไม่ได้)





The Watcher
(ผู้เฝ้าดู)

- กำหนดสตรอรี่ตามสตรอรี่ตัวละครของตัวเอง แน่นอนว่าไม่มีใครช้ำกัน -

- สร้างสตอรี่เมื่อคุณเดินเข้ามาในโรงน้ำชาก่อนกระพริบตาแปบเดียว ลืมตาอีกครั้งพบเห็นคนหายไปทั้งร้าน มีชายผมสีเงินนั่งโต๊ะลำพัง เรียกคุณไปร่วมโต๊ะ
- สร้างสตอรี่เขายิ้ม "ไม่เจอกันนานเลยนะ ตอนนี้เจ้าเป็นไงกันบ้าง"
- สร้างสตอรี่อิสระเขาถามไถ่ความเป็นอยู่และภาระหน้าที่ตอนนี้ของคุณ
- สร้างสตอรี่อิสระเล่าให้อีกฝ่ายฟัง
- สร้างสตอรี่บุรุษผมสีเงินหยิบกล่องใบหนึ่งมาวางบนโต๊ะสี่ห้ากล่อง ก่อนบอกขึ้น หากเธออยากได้กล่องพวกนี้ลองสเก็ตภาพสิ่งหนึ่งมาหน่อยสิ
"ข้ากำลังอยากทำอะไรบางอย่าง นี่ลองวาดมันลงไป"
- อีกฝ่ายยื่นม้วนกระดาษมาให้คุณพร้อมหมึก

[แบบฟอร์ม]
ชื่อธนู
รูปภาพธนู: ขนาด 84x84 px จากไฟล์ต้นฉบับไม่ใช่มาปรับในเว็บ
คำบรรยายธนู: ลองหยิบยกตำนานในประวัติศาสตร์มาเขียนดูสิ ข้ากำลังศึกษาโปรเจกต์หนึ่งอยู่
(มีโบนัสหินตีบวกและอัพเกรด อย่างละ 2 ก้อน และ ผงหยกดำ สำหรับคนเขียนคำบรรยายถูกใจแอดมิน)


- สร้างสตอรี่สเก็ตภาพจนสำเร็จและเขียนประวัติที่มาที่ไปของคันธนูที่คุณสเก็ตให้ผู้เฝ้าดู
- สร้างสตอรี่อิสระเมื่อคุณยื่นให้อีกฝ่ายก่อนรู้สึกง่วงหลับลง
- สร้างสตอรี่อิสระตื่นขึ้นมาพร้อมหีบสี่ห้าใบนั้น คุณกำลังนอนงีบบนโต๊ะในร้านน้ำชา ผู้คนเดินผ่านไปมาตามปกติ
- จบ


รางวัลภารกิจ
+ตั๋วเสบียง 1 ใบ , +ตั๋วหินและไม้อย่างละ 2 ใบ , หินตีบวก 9 ก้อน , หินอัพเกรด 2 ก้อน
ผงสายทอง และ ผงหยกดำ อย่างละ 1 ชิ้น


*โบนัส* ใช้ 300 Reward เพื่อปลดขุนพลวีรชนมาช่วยทำการใหญ่
- สร้างสตอรี่เมื่อคุณเดินออกมาด้านหน้าโรงน้ำชา ก่อนพบแสงสว่างยาวลงมาจากฟ้า
- มีบางคน ใช่คนค่อย ๆ ลอยหรือควรเรียกว่าร่วงลงมาจากฟ้าจนเท้าเขาแตะพื้น
- สร้างสตอรี่อิสระเขายกมือคารวะคุณ "นายท่าน ข้ามาเพื่อช่วยท่านสานปณิธานเพื่อความสงบสุขให้ไต้หล้านี้"
ได้รับ ชุนพลวีรชน 1 คน (สุ่ม R-SR Link)


(พิเศษใช้เพียง 499 Reward แลกขุนพลวีรชนเกรด SSR ได้ทันทีไม่สุ่ม แค่ 1 ท่านแรกเท่านั้น พร้อมได้รับสกิลขุนพลพิเศษ
มีเฉพาะในโปรเท่านั้น หากได้วีรชนจากกิจกรรมก็ไม่มีสกิล
ได้รับขุนพลวีรชนเกรด SSR : เว่ย จื่อฟู

( เลือก 1 สกิล )
ถ่ายทอดสรรพวิชา : สามารถมอบความรู้แก่ NPC ในสภาของเรา ในทุก ๆ 2 วัน ทุกครั้งที่สอนความรู้ NPC หรือคุณ ผู้รับได้รับ +4 Point
หากโรลเพลย์ผู้สอนและผู้รับด้วย NPC ผู้ใช้สกิลและผู้รับความรู้ได้โบนัสคนละ +4 Point
(แคปภาพหลังกดใช้สกิลเพื่อยืนยัน)
สกิล ยิ้มพันตำลึงทอง : ทุก ๆ 2 วัน เมื่อคุณใช้สกิล NPC จะมอบศรัทธาที่เธอสร้างให้แก่คุณ +30 ศรัทธา
หากโรลเพลย์เผยแพร่ศรัทธาด้วยจะได้โบนัสอีก +30 ศรัทธา + จาก EXP ที่ได้จากโพสต์ = โบนัสศรัทธาที่ได้
เอฟเฟคสามารถใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจ และ ดูแลเมือง ปลอบขวัญชาวบ้านได้ ค่าความสุขเมืองจะ +2 ต่อครั้ง (ใช้เอฟเฟคได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง)
(แคปภาพยืนยันทุกครั้งที่ใช้งานเอฟเฟค)





←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x12
x5
x636
x241
 เจ้าของ| โพสต์ 2022-8-29 22:22:54 | ดูโพสต์ทั้งหมด
  
.: แขกที่สัญจรมา :.

กติกาการโรลเพลย์สนทนาทำความรู้จักขุนพลสัญจรผ่านมา
(0) ก่อนเริ่มทุกครั้ง ท่านต้องเช็คนิสัย NPC เพื่อนำมาโรลบังคับ NPC ที่นี่ (คลิกเพื่อหาข้อมูล NPC)
(1) 1 โรลเพลย์ สามารถเจอได้แค่ 1 คนเท่านั้น ยกเว้นมีระบุว่า xx นั่งกับ xx
(2) ในโรลเพลย์สร้างสถานการณ์พบเจอครั้งแรกได้อิสระ โดยไม่แหกนิสัย NPC
(3) นอกจากทำความรู้จัก พูดคุย ใน 1 โรลเพลย์สามารถมอบของขวัญให้ 1 ชิ้นเท่านั้น
(4) การชักชวนเข้ากองกำลัง บาง NPC ไม่จำเป็นต้องหัวใจเต็ม 10 ดวงเสมอไป นอกจากอยู่ที่การให้ของแล้ว การพูดคุย โรลทิ้งท้ายไว้ และ กำกับว่า "ชักชวน"
ทางทีมงานจะมาคอมเม้นท์ว่าชวนสำเร็จหรือไม่ ถ้าสำเร็จคุณจะได้โต้วาทีกับเขา ถ้าชนะแสดงว่าเขายอมรับใช้คุณ





ความสำคัญก่อนโรลสร้างความสัมพันธ์ NPC
(1) สำคัญมาก ที่คุณจะต้องตรวจเช็ค (ลักษณะนิสัยขัดแย้งกันหรือไม่ สามารถเช็คได้จากที่นี่ คลิก)
(2) รองลงมา ตรวจเช็ต ธาตุวันเกิด และ ปีนักษตร ชงกันหรือไม่ สามารถเช็คได้ที่นี่ (คลิก)
(3) ทุก ๆ การโรลเพลย์ที่มีความขัดแย้งในด้านนิสัย และ ธาตุหรือปีนักษัตรชงกัน เนื้อหาโรลเพลย์คุณจะต้องสร้างให้สมเหตุสมผล
เมื่อความสัมพันธ์ต้องลบลงในโรลเดียวกับจีบ ที่ความสัมพันธ์เพิ่ม โดยการครีเอทสร้างสถานการณ์โรลเพลย์ไม่ถึงกับทะเลาะ ขัดแย้งกัน
แต่ให้คุณเผลอทำอะไรที่ไม่ดี หรือใช้คำพูด หรือ บางอย่างเกี่ยวกับนิสัย ตัวคาร์คุณในโรลนั้นด้วย เพื่อให้มีความเมคเช้นส์ในการลดความสัมพันธ์







←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x12
x5
x636
x241
โพสต์ 2022-9-2 00:43:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
[Event] พบปะ The Watcher
นักออกแบบอัตราจ้าง
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
            โม่เสวียนเผลอหลับไปเมื่อครั้งเขาใช้เวลาอยุ่นอกเมือง ก่อนที่ยุงจะหามเจ้าเมืองเสิ่นก็ได้มีผู้ติดตามมาเรียกหาเสียก่อน ภายหลังจากการจัดการธุระปะปังในแต่ละวันของเจ้าเมืองจนอ่อนล้า เจ้าของร่างในชุดครามก็คิดจะผ่อนคลายตนเองเสียหน่อยด้วยการมาหาของว่างยังโรงน้ำชาผานถาว
            “เถ้าแก่.. ขนมเปี๊ยะมรกตห้าที่ อย่าลืมชาเจียวกู่หลาน…” แม้กระทั่งเสียงก็ยังคงระโหยโรยแรง โม่เสวียนคิดว่าตนคงต้องหาขุนนางมาช่วยงานเพิ่มสักสามสี่คน
            ระหว่างที่นั่งรออาหารมาส่งจิบน้ำชาพลางเบนสายตามองรอบกาย มีทั้งชาวบ้านที่กำลังจับจ่ายซื้อของอยุ่ด้านนอก เหล่าคนงานที่ขนฟืนและถ่านเข้าๆ ออกในโรงครัว ยามเย็นอากาศปลอดโปร่งน่าง่วงนอน เขาเท้าใบหน้าเล้กสัปหงกอย่างหมิ่นเหม่อยุ่ที่โต๊ะ
            ทว่าก่อนที่ตาทั้งสองข้างจะปิดสนิท อยู่ๆ โต๊ะในร้านที่จอแจกลับว่างเปล่าร้างผู้คน โม่เสวียนดีดตัวลุกขึ้นทันใดก่อนจะพบว่ามีบุรุษเกศาเงินนั่งหันหลังอยู่ด้านหน้า ทันทีกับที่เขาเอะใจอีกฝ่ายก็หันมาเปิดปากทักทายเสียก่อน
            “เสิ่นอู้ม่าน เราพบกันอีกครั้ง.. ดูเหมือนเจ้าจะสบายดีสินะ?”

            “หืม.. คนที่ศาลเจ้านี่นา ตกลงว่าท่านไม่ใช่ผีหรือ” ความจำของร่างเพรียวดีมาเสมอ บางครัง้ก้ดีเหินไปปากไวไปสักหน่อย พอมานึกว่าการที่อีกฝ่ายถูกสับสนว่าเป็นวิญญษณในศาลรกร้างนอกลั่วหยางอาจจะดูน่าเวทนากว่าเป็นผีจริงๆ ก็ได้ “ขอโทษที ช่วงนี้ข้าปากไวไปสักหน่อย ค่อนข้างพักผ่อนน้อยน่ะอย่าถือสาเลย”

            ด้านวอชเชอรืหรือผู้เฝ้ามองนั้นหยักรอยิย้มเอ็นดูนางราวกับเด็กเล็ก คนผู้นี้ใช้ชีวิตสองฐานะเป้นเรื่องที่ยากสำหรับหลายคน เกรงว่าปมชีวิตคงได้พันกับผู้อื่นจนยุ่งเหยิงแน่ เอาล่ะ เขาจะช่วยเหลือนางอย่างไรดี “ข้าไม่ว่าอะไรหรอกสาวน้อย มนุษย์ใช่ว่ามีเรื่องเข้าใจผิดเป็นแค่เรื่องสองเรื่อง.. ว่าแต่เจ้าพอมีเวลาไหมช่วยงานข้าสักเรื่องสิ”
             แน่นอนว่ามีค่าตอบแทนที่มากพอจะทพให้ตาลุกวาว
            หมอนี่รวย โม่เสวียนพยายามไม่คิดหาคำตอบเรื่องที่เขารู้ชื่ออีกสถานะตน เรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นรอบกายอย่าสู่รุ้มากจะนำถัยมาหาตัว ร่างเพรียว้าวเข้าไปใกล้อีกฝ่ายในเมื่อเขาเดินทางเข้าเมืองซินเย่ก็นับว่าตนที่เป้นเจ้าเมืองต้องรับปากช่วเรื่องเดือดร้อนของผู้มาเยือนอยู่แล้ว

            “ลองว่ามาสิ เผื่อจะเป็นการฆ่าเวลาที่ดีกว่าหลับเอาแรงอยู่บนโต๊ะ”
            ผู้เฝ้ามองมิได้อธิบายเพียงมอบกระดาษและเครื่องเขียนให้กับนาง เขาเอาแบบแปลนของศาสตรามากมายในอดีตขึ้นมาประกอบเมื่อพบว่าดวงตาคุ่ใสมีแววฉงน “ข้ากำลังศึกษาเรื่องหนึ่งอยู่ ตำนานของเหล่ามนุษย์ช่างน่าตื่นตาตื่นใจ ดูสิ นี่คือศาสตราที่เคยเป็นของคุ่บารมีและรวมไปถึงสารพัดสิ่งไร้นามต่างๆ เจ้าไม่ลองออกแบบธนุดูสักชิ้น สร้าเงรื่องราวให้มัน.. หากว่าถูกใจข้าแน่นอนว่าให้รางวัลพิเศษ”
            “หึหึ ข้ามิกล้าเดาใจท่านส่งเดช แต่จะให้ลองดูสักรอบก็ไม่เสียหายเช่นกัน”
            โม่เสวียนกำลังเบื่อๆ เมื่อย้ำเรื่องรางวัลก็ไม่ได้โลภหรอก แค่คิดว่ามันน่าสนุกดี เรื่องวาดภาพแม้จะไม่เก่งกาจเท่าจิตรกรแห่งยุค แต่ฝีมือของบัณฑืืตตระกุลเสิ่นทุกรุ่นมิใช่ชั่ว มือคุ่ขาวขยับอย่างรวดเร็วร่างเอาภาพในหัวออกมาโดยไม่มีขาดตดบกพร่อง
            “ประมาณนี้พอได้รึไม่?”
เกรดเขียว
เกาทัณฑ์ไร้นาม
https://i.imgur.com/Fbipxhs.png
<font color="#358a19"><i><b>'หอสูงร้อยชั้นสร้างขึ้นจากไม้ท่อนแรก พฤกษาพณาป่าเริ่มต้นจากเมล็ดเดียว'</b></i></font> ซากของธนูโบราณนิรนามที่ถูกหลอมสร้างขึ้นใหม่นับร้อยครั้งจึงออกมามีรูปทรงดั่งปีกหงส์ อาบไปด้วยสีสันน้ำตาลกระดำกระด่าง ส่วนของสายถักทอจากไหมฟ้ามีความคงทนและยืดหยุ่นสูง ด้วยคุณสมบัติพิศดารน้ำหนักที่มากกว่าธนูเหล็กกล้าทั่วไปสามเท่า คงทนกว่าสี่เท่า และควบคุมทิศทางของลูกศรได้ยากกว่าห้าเท่าตัว พื้นผิวของศาสตราขรุขระไม่เรียบราวกับผู้สร้างยังไม่ช่ำช่องในศาสตร์ศิลป์ เปรียบเสมือนเศษเหล็กเมื่ออยู่ในมือผู้ไร้พลังและขาดพรสวรรค์ จะหวังให้มันสำแดงฤทธิ์เดชได้จำต้องพึ่งทั้งโชคชะตา เวลา โอกาส แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ขาดไมได้คือการฝึกปรือ
เกรดน้ำเงิน
เกาทัณฑ์ร้อยศึก
https://i.imgur.com/cQaBbXf.png
<font color="#0a14a4><i><b>'หมื่นหมอกโลหิตรอบทิศทักษา หนึ่งชีวิตฝากไว้ใต้เงาฟ้าลิขิต วันนี้รอดตายคือโชคชะตา วันนี้มอดม้วยคือทัณฑ์สวรรค์'</b></i></font> ธนูทองสัมฤทธิ์มีสีเขียวอมฟ้าเสริมความทนทานด้วยอความารีน ถูกหลอมสร้างอย่างปราณีตจนได้องศาที่งดงามมีราคาสูงในท้องตลาด น้ำหนักมากถึงร้อยชั่งและยิ่งได้ไกลถึงสามร้อยก้าว แรงปะทะมากพาจะเจาะเข้าชุดเกราะในระดับเดียวกันได้อย่างง่ายดาย ถือเป็นอาวุธสังหารอันน่าสะพรึงกลัวในศึกสงครามและการออกล่า ว่ากันว่าธนูชนิดนี้เป็นที่นิยมในหมู่แม่ทัพเจนศึกด้วยความที่มันยิงได้ไกลและทรงพลังในการรบอย่างมากจึงถูกเรียกขานว่า ‘ธนูร้อยศึก’  
เกรดม่วง
เกาทัณฑ์จอมทัพ
https://i.imgur.com/eUwXsDp.png
<font color="#510774"><i><b>'สั่นคลอนขุนเขลาสะเทือนแว่นแคว้น สยบไพรีทศทิศ ทั่วแดนดินไร้ผู้ต่อกร'</b></i></font> ธนูเหล็กกล้าที่ถูกหลอมสร้างอย่างปราณีตด้วยภูมิปัญญาของช่างตะวันตกร่วมกับประสบการณ์ช่างตีอาวุธตะวันออก มีอีกชื่อว่าธนูสยบแดน ส่วนของคันธนูถูกหลอมด้วยแร่เหล็กแกล้าบริสุทธิ์คงทนนับร้อยปี สามารถใช้ต่างเกราะป้องกันในยามคับขัน
ระยะการยิ้งห้าร้อยก้าวสามารถคาดหวังผลได้ แรงปะทะเจาะเกราะในระดับเดียวกันและอีกหนึ่งความพิเศษนั้นคือ ส่วนคันธนูสลักเสลาอย่างวิจิตรและคมกริบเป็นได้ทั้งอาวุธระยะไกลและใกล้ในเวลาเดียวกัน ว่ากันว่าแบบร่างของธนูนี้ครั้งแรกถูกร่างขึ้นในสมัยฮั่นอู่ตี้เพื่อพระราชทานเป็นรางวัลให้แก่ขุนชนะชัย ฮั่วชวี่ปิ้ง ครั้งที่แม่ทัพผู้แกร่งกล้าสามารถพิชิตชงหนูในศึกสมรภูมิชิงไห่ได้เป็นผลสำเร็จขับไล่ชนชาวนอกด่านไม่กล้ารุกรานดินแดนอีกหลายสิบปีหลังจากนั้น
เกรดส้ม (ตำนาน)
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
<font color="#ca0c15"><i><b>'คร่าพญาหงส์เหนือเมฆา คร่าพญามัจฉากลางเกลียวคลื่นสมุทร พบเทพสังหารเทพ พบมารสังหารมาร กำหนดชะตาฟ้าพิพากษาเทวทัณฑ์'</b></i></font> ธนูทองคำศักดิ์สิทธิ์มีอีกชื่อเรียกขานว่า ‘ธนูเทวทัณฑ์’ หลอมขึ้นจากเทวรูปทั้งเจ็ดสิบสองลัทธิในสมัยชุนชิวเสริมแกร่งด้วยศิลานอกฟ้าตีขึ้นรูปเป็นปีกปักษาทองคำ ระยะยิงหนึ่งพันก้าวรัศมีทำลายล้างสูง ลูกศรที่ถูกยิงด้วยธนูนี้แม้จะเป็นแค่กิ่งไม้ก็สามารถทะลวงเข้าเกราะศัตรูที่อยู่ไกลออกไปได้ราวมัจฉาแหวกสมุทร ตัวคันศรแข็งแกร่งจนสามารถใช้เป็นโล่ได้อย่างสบายๆ หากอยู่ในมือของผู้ที่ไม่คู่ควรจะมีน้ำหนักมากจนสุดคณา เป็นศาสตราเลือกนายเฟ้นหาผู้ใช้ที่เปี่ยมด้วยอุดมการณ์และความสามารถมันจะค้นหายอดอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ จอมทัพในหมู่แม่ทัพหาญ รวมไปถึงมหาราชแห่งยุคสมัย ครั้งหนึ่งเคยเป็นศาสตราคู่กายของ หยั่งโหยวจี เป็นแม่ทัพที่โด่งดังแห่งรัฐฉู่ในสมัยชุนชิว ทั้งยังเป็นนักยิงธนูฝีมือฉกาจ จนมีนามกระเดื่องอยู่ในประวัติศาสตร์เล่าว่าครั้งหนึ่งฉู่กงหวางแห่งรัฐฉู่ ถูกลูกธนูของแม่ทัพเว่ยฉีแห่งรัฐจิ้นยิงทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา เกิดความเคียดแค้นเป็นอันมาก จึงได้มอบเกาทัณฑ์และลูกธนูให้หยั่งโหยวจี 2 ดอกเพื่อนำไปใช้แก้แค้นให้ตนเอง ผลที่สุดหยั่งโหยวจีใช้ลูกธนูไปเพียงดอกเดียวก็สามารถสังหารแม่ทัพเว่ยฉีได้ด้วยเกาทัณฑ์นี้ และคืนลูกธนูที่เหลืออีก 1 ดอกให้กับฉู่หวาง เมื่อเขาถูกลูบคมโดยนักแม่นธนูอีกผู้หนึ่ง นามว่า พานตั่ง ซึ่งสามารถยิงลูกธนูไปที่ใจกลางเป้าธนูมิเคยพลาด หยั่งโหยวจีกล่าวกับพานตั่งว่า "ฝีมือเช่นนี้ยังไม่นับเป็นอะไรได้ หากพอจะนับได้ว่ามีฝีมือ ท่านต้องอยู่ในระยะไกลกว่า 100 ก้าวแล้วสามารถยิงธนูทะลุใบหลิวอย่างแม่นยำไม่ผิดพลาด" พานตั่งไม่เชื่อว่าจะมีผู้ทำได้ จึงได้จัดการทดสอบขึ้น โดยเขียนตัวเลข 1,2, 3 กำกับไว้ที่ใบหลิว 3 ใบ แล้วให้หยั่งโหยวจียิงธนู ผลปรากฏว่าหยั่งโหยวจีใช้ธนู 3 ดอกยิงออกไป ดอกแรกยิงทะลุใบหลิวหมายเลข 1 ดอกที่ 2 ยิงทะลุใบหลิวหมายเลข 2 ดอกที่ 3 ยิงทะลุใบหลิวหมายเลข 3 อย่างแม่นยำ ดังนั้นผู้คนจึงใช้คำว่า “ไป่ฟาไป่จ้ง” หรือการยิงออกไป 100 ครั้งก็ถูกเป้าหมายทุกครั้งไม่ผิดพลาด เพื่อยกย่องความสามารถของหยั่งโหยวจี

            “อื้อม… ไหนข้าดูสิ” ผู้เฝ้ามองยื่นมือมาทางแบบวาด โดยไม่ลืมมอบหีบมากมายไว้เบื้องหน้าอีกฝ่ายต่างของกำนัลและสินจ้าง โม่เสวียนมีบางอย่างอยากจะถาม แต่ทันทีที่ตนปล่อยมือออกจากกระดาษทั้งสี่ชิ้นก็รุ้สึกหนักตาร่วงหล่นวูบหลับไปทั้งแบบนั้น
*โบนัส* ใช้ 300 Reward เพื่อปลดขุนพลวีรชนมาช่วยทำการใหญ่


♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
-เอฟเฟคตัวละคร-
(สถาปนิก)
+2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง
(เลื่อมใสศรัทธา)
+3 Point จากการโรลทำงาน
(ทะเยอทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลพัฒนาเมือง
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ)
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
(หูดี)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย
(เห็นอกเห็นใจ)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ
-2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
(นักวิชาการ)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้
(นักวางแผน)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย
รวม 28 Point 55exp +30 โหด -25 ความเตรียดจากการกิน
—------





←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-9-14 00:27:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ผู้มัวหมองครั้งที่หนึ่ง
-ศึกศาสนา-
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
            ลานน้ำชาด้านหน้าของหอผานถาวเป็นีท่รู้กันดีในหมุ่ชาวเมืองซินเย่ว่าเป็นเวทีย่อมๆ เมื่อเหล่าปราชญ์และบัณฑิตมาแสวงหาคู่ประลองโต้ความรู้ ธรรมเนียมของนครแห่งนี้ที่ท่านเจ้าเมืองเชิดชูการศึกาาเป็นพิเศษนั่นคือทุกคนสามารถถามคำถามและเลือกผู้ประชันได้ ผู้พ่ายแพ้ต้องจ่ายค่าน้ำชาเลี้ยงแก่ผู้ชนะ เป็นการละเล่นง่ายๆ ที่สร้างืชอ่เสียงและความภาคภูมิใจของเหล่าศิษย์สำนักปราชญ์จึงเป็นที่นิยมในทุกชนชั้น

            ใครเล่าจะไปคิดว่าการละเล่นของเหล่าบัณฑิตในวันนี้จะเกิดเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา ตั้งแต่แรกผู้พบเห้นเหตุการคือสวินโหยว เขามาตรวจตราความเป็นระเบียบเรียบร้อยประจำวันจนกระทั่งกลุ่มบัณฑิตไร้ศาสนาเริ่มถกเถียงกับปราชญ์เจียหลุนชางจำนวนน้อยนิด เขาก็ดูอยู่ตลอดเมื่อเห้นท่าไม่ดีจึงรีบแจ้งให้คนไปตามฟางอี้มา

            ยามนี้สวินโหยวเห็นท่านเจ้าเมืองแต่ไกลๆ จึงรีบเร่งให้คนคุมเชิงไว้แล้วตามตัวอีกฝ่ายไปยังลานน้ำชา “นายท่านมาได้เวลายิ่ง ด้านในวุ่นวายใหญ่โตพวกเขาไม่ว่าใครก็ไม่ยอมถอยเหล่าชาวบ้านได้ยินเสียงก็เริ่มมามุงดูกัน ข้าเกรงจะเกิดข่าวลือเป็นผลเสียต่อชางเจีย”

            “เช่นนั้นมิถูก.. ฟังว่ากลุ่มไร้ศาสนามีจำนวนมากกว่า ต้องให้แน่ใจว่าพวกเขามิใช่ใช้คนน้อยรังแกคนมาก ว่ามาเถอะมันเกิดอะไรขึ้น” โม่เสวียนพยายามส่านหัวขับไล่ความวิงเวียนที่กลุม่รุมเข้ามาจากอาการอ่อนล้าสะสม เมื่อจับจองที่นั่งบริเวณยกพื้นได้แล้วก็ฟังที่คนสนิทเล่า ตามด้วยวเคราะห์สถานการตรงหน้า

            “ไร้เหตุผลสิ้นดี เห็นๆ อยู่ว่าพวกเรามาก่อนคิดจะแย่งชิงของเหมือนโจรกลางวันแสกๆ ก็อย่ายกเรื่องอื่นขึ้นมาอ้างเลย มารยาทของเจ้าถูกสุนัขกินไปหมดแล้วรึยังไง” กลุ่มไร้ศาสนากำลังหนุนหลังชายใบหน้าแดงก่ำด้วยโทสะส่งเสียงเอะอะอยุ่ด้านใน

            “กลุ่มนอกรีตอย่างเจ้ายังมีหน้ามาใช้สถานที่ของปัญญาชนอีกรึ จะบอกให้ ท่านเจ้าเมืองคือเมธาจารย์ของพวกเรากลุ่มเจียหลุนชาง! ให้ความเคารพยำเกรงสาวกอย่างพวกข้าเสียตั้งแต่ตอนนี้จะไม่ถือสา!”

            บัณฑิตหนุ่มชางเจียเลือดร้อนคนกนึ่งถูกกลุ่มไร้ศาสนาแย่งชิงห้องรับรองเดิมทีก็ไม่พอใจอยุ่ก่อน ความรุ้สึกเป็นปรปักษ์ยังไม่นับว่ากลุม่คนที่มากับเขาต่างก็วางอำนาจบาตรใหญ่ เลือกถือหางศาสนาที่มีท่านเจ้าเมืองนับถือเพื่อเอื้อใบบุญ แต่ละคนไม่มีท่าทีหวาดกลัวนอบน้อมคิดแต่ว่าอย่างไรถึงทาการมาท่านเจ้าเมืองก็เข้าข้างพวกเขาอยู่ดี

            “หึ! ไม่ได้ทำสิ่งใดผิดจึงต้องละอาย ข้าไม่เกรงกลัวคำกล่าวหา เสียแรงร่ำเรียนเป็นบัณฑิตดีแต่คิดใส่ความคนบริสุทธิ์ไปวันๆ ชางเจียสั่งสอนสาวกเช่นนี้รึ น่าเวทนานัก”

            “พวกเจ้านั่นล่ะที่ดวงตามืดบอดไร้ซึ่งศรัทธา หนทางสว่างเปิดกว้างอยุ่ตรงหน้าไม่ยอมก้าวเดิน ช่างเขลาปัญญายังจะดื้นรนยกตัวเองมาเปรียบเทียบกับพวกเรา ไม่ดูเงาหัวตัวเองเสียบ้าง!”

            โม่เสวียนยืนฟังไปสักพักทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันด้วยเรื่องเล้กๆ แต่กลับเอาทั้งชื่อตน ฐานะของเจ้าเมือง รวมไปถึงความเชื่อขึ้นมาฟาดฟันกันไม่จบไม่สิ้น เหล่าชาวบ้านชะเง้อมองมาทางท่านเจ้าเมืองที่รอชมเรื่องสนุกอย่างใจกล้าก็ไม่ยอมจากไป บ้างก็คอยดูว่าท่านเจ้าเมืองจะตัดสินใจทิศทางไหนเพราะเจ้าบัณฑิตเจียหลุนชางนั้นหาเรื่องก่อนจริงๆ

            “ท่านเจ้าเมือง! ท่านต้องให้ความเป็นธรรมแก่พวกเรานะขอรับ!” ถกเถียงกันอยุ่นานไม่นานนักทั้งสองกลุ่มก็รับรุ้ถึงการมาของท่านเจ้าเมืองเสิ่น ต่างฝ่ายต่างแย่งชิงกันรายงาน แน่นอนว่าไม่มีใครพูดให้ตนเองเสียเปรียบ แม้แต่สวินโหยวผู้ยืนฟังอยู่ด้านข้างแต่แรกก็ยังมีท่าทีลำบากใจ

            ด้านหนึ่งเป็นสาวกร่วมศรัทธา อีกด้านก็กลุ่มไร้ความเชื่อที่เป็นอิสระในเมืองนี้ จัดการไม่ดีคงเกิดข้าพิพาทเป้นแน่

            โม่เสวียนมีสีหน้าเคร่งขรึม เขาอดนอนมาสามวันมิใช่เพื่อพบเจอปัญหาไม่หยุดหย่อน ร่างเพรียวกดเปลือกตาลงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “วาจาของบัณฑิตคือหน้าตาของสำนัก จะแสดงกิริยามุทะลุ โต้แย้งด้วยถ้อยคำรุนแรงกลางที่สาธารณะล้วนไม่เกิดผลดีต่อตัวพวกท่านเอง”

            ประโยคเดียวกระตุ้นเตือนให้ทั้งลานได้คิด ต่างเผ็นผู้มีการศึกษาแม้จถูกแรงยั่วยุจนตกเป็นทาสอารมณ์ก็โดนน้ำเสียงเย็นๆ สาดจนตื่นแล้วยืนประสานมือฟังคำของท่านเจ้าเมืองแต่โดยดี

            สำหรับเจ้าเมืองหนุ่มจะตัดสินลงโทษฝ่ายไหนก็ล้วนเป็นการแสดงให้ผู้คนเห็นถึงความปล่อยปละละเลยของตน โม่เสวียนกำหมดใต้ชายเสื้อลำพงัตัวเขาคนเดียวไม่อาจดูแลรอบด้าน พึ่งพัฒนาเศรษฐกิจและกำลังทหารฝั่งของศาสนากลับมีตัวปัญหางอกเงยไม่จบสิ้น

            “ระยะนี้โจรกบฎรุกรานดินแดนทุกคนคงได้เห็นทหารชุดแรกของนครเราเข้าประจำการแล้วใช่รึไม่?” เขาพูดสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการร์ตรงหน้า ทำให้ผู้คนงุนงงแล้วตอกทีละหมุดเพื่อเน้นย้ำ “ด้วยบารมีของโอรสสวรรค์ การที่ทุกท่านยังสามารถกินอิ่ม นอนอุ่น ใช้ชีวิตสนทนาดื่มน้ำชากันได้อยู่นี้ เคยคิดรึไม่ว่ามีกี่ชีวิตที่กำลังลำบากและสูญเสีย”

            “ท่านอาจพูดว่ามันไม่ได้เกี่ยวกันเลยกับเรื่องสองบัณฑิตที่กำลังโต้แย้งกันอยู่อย่างนั้นหรือ? เปล่าเลย ภาพเมื่อครู่ทำให้ข้าเกิดความคิดขึ้นมาว่า หากในหนึ่งก้านธูปต่อจากนี้กบฎไท่ผิงโจรโพกผ้าเหลืองบุกประชิดกำแพงเมือง จะมีสักกี่คนอาสาสู้ศึกกับข้า? ในระหว่างที่พวกท่านยังคงแตกสามัคคีและไม่มีจิตสำนึกต่อส่วนรวม… จะเกิดโศกนาฎกรรมเช่นไรตามมา”

            “ต่างคนต่างเอาตัวรอด แตกสามัคคี ไม่มีใครยอมเสียสละ คงจะมีสภาพไม่ต่างจากชาถ้วยน้ำสักเท่าไร” จอกชาในมือสั่นไหวก่อนจะแตกร้าวเป็นเสี่ยงในหัตถ์ท่านเจ้าเมือง ดวงตาตกตะลึงนับร้อยคู่มองมายังเศษกระเบื้องร่วงกราวลงพื้นไม่มีใครกล้าพูดอะไรนอกเสียจากบัณฑิตไร้ศาสนาที่เป็นผู้ถูกเอาเปรียบ


            “แม้ตัวข้าจะเป็นบัณฑิตแต่ก็หาใช้คนขลาด ข้ายินดีไปแนวหน้าเพื่อต่อสู้กับโจรกบฎ! แต่ก่อนอื่นขอเรียนถามท่านเจ้าเมือง ในฐานะที่ท่านเป็นผู้เผยแพร่ของชางเจีย จะทำเช่นไรกับสาวกที่เที่ยวระรานผู้อื่นเช่นนี้เล่า!”

            เนตรคู่ครามจรดลงประสานกับอีกฝ่าย เห็นแววมุ่งมั่นของบัณฑิตผู้นี้ก็รู้สึกถูกชะตา อนาคตอาจเป็นกำลังให้แก่นครได้ ริมฝีปากโม่เสวียนยกรอยยิ้มบาง ตรงเข้าไปประสานมือคำนับท่ามกลางความตกตะลึงของผู้คน และที่หน้าซีดที่สุดคงไม่พ้นกลุ่มบัณฑิตเจียหลุนชางหยิบมือนั้น

            เสียหน้า… ขนาดท่านเจ้าเมืองยังยอมขอโทษเจ้าพวกนอกรีต! เป็นไปได้อย่างไร!


            “ข้าต้องขออภัยในฐานะเมธาจารย์ผู้ให้กำเนิดเจียหลุนชาง ศรัทธามิใช่ความผิด หากอ้างศรัทธาเพื่อเบียดเบียนผู้คนนั้นคือสิ่งไม่ควร เจียหลุนชางมีวัจนะและจุดประสงค์เพื่อผู้คนในใต้หล้าได้พัฒนาไปสู่วิถีรุ่งเรื่องร่วมกัน จะชนชั้นล่าง ชนชั้นสูง คนมั่งคั่ง ยาจก สำหรับชางเจียล้วนเป็น ‘คน’ เหมือนกัน ไม่มีใครที่อยู่สูงกว่าใคร การกระทำเพื่อส่วนรวมเท่านั้นจึงเป็นสิ่งตัดสินว่าพวกเขามีค่า”

            ถ้อยคำเรียบง่ายแต่ทำให้ใจคนฟังสะท้าน ขณะชาวบ้านเริ่มได้สติที่ยังมุงอยุ่ก็เงียบเสียงลง ที่คิดได้ต่างก็ก้มหน้าก้มตาทำงำานของตนต่อไปเพื่อให้ชีวิตมีคุณค่า ฝั่งของกลุ่มบัณฑิตนั้นมีท่าทีอ่อนลงจนตัวลีบอย่างชัดเจน เดิมทีพวกเขาคิดว่าเจ้าเมืองเสิ่นเป๋นบัณฑิตหน้าหวานที่อาศัยวาสนาได้รับตำแหน่งส้มหล่น เพระาจิตใจที่ชอบช่วยเหลือผู้คนแค่พยายามโดดเด่นสักหน่อยคงเข้าหาไม่ยาก

            ใครจะรู้ว่าเจ้าเมืองเสิ่นเองก็มีด้านนี้ด้วยเช่นกัน

            “ท่านเจ้าเมือง.. นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน ค.. อย่าทำแบบนี้พวกเราไม่กล้ารับ” คำนับจากผู้สูงศักดิ์กว่า ทำเอาบัณฑิตหนุ้มไร้ศาสนาแตกตื่น กลับกันเขาก็พบว่าความรุ้สึกขุ่นเคืองที่ได้รับแต่แรกก็หายไปโดยสิ้นเชิง ท่านเจ้าเมืองที่เป็นผู้นำของเจียหลุนชางให้เกียรติเขาโดยไม่สนฐานะ ยังมีคนแบบนี้อยู่ด้วยรึเนี่ย
           

            “แก้ไขความเข้าใจผิดของคำสอนเป็นสิ่งที่เมธาจารย์อย่างข้าจำต้องกระทำ.. เพื่อความมั่นคงในการปกครอง เพื่อมิให้สาวกร่วงหล่นสู่ผู้มัวหมอง ปกป้องเหล่าชาวเมืองให้ได้รับความเป็นธรรม ข้าขอประกาศไว้นับแต่นี้ หากชางเจียทำผิด ได้รับโทษเท่าทุกศาสนา นี่คือความเท่าเทียมที่ข้าจะมอบให้ทุกคน”

            “ยอดไปเลย! แบบนี้สิกฎหมายถึงจะศักดิ์สิทธิ์!” เหล่าชาวบ้านส่งเสียงเซ็งแซ่ขึ้นมาในทันที แม้จะมีบางคนที่รุ้สึกเสียดายแต่พวกเขาค้นพบในอนาคตว่าวิถีการปกของของท่านเจ้าเมืองจะช่วยลดปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับกลุ่มศาสนาลงไปได้มาก

            สวินโหยวถอนหายใจโล่งอกที่ทุกอยา่งดูจะคลี่คลายลงไปได้ด้วยดี เดิมทีเขาคิดว่าท่านเจ้าเมืองคงเลือกลงโทษสักฝ่าย แต่กลับเสียสละตนเองอย่างไม่คิดเล้กคิดน้อย “เท่าที่สืบมาข้าเห็นบัณฑิตกลุ่มนี้เป็นสาวกหน้าใหม่ หลายคนอาศัยศรัทธาโดยมีจุดประสงค์แอบแฝงอนาคตอาจเกิดเรื่องขึ้นอีก.. ให้จับตาดูพวกเขาไหมขอรับ”

            “ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง.. ต่อให้คดเหมือนเถาวัลย์ก็ยังมีประโยชน์หากดัดให้เป็นขอเคียว”

            โม่เสวียนเดินกลับไปยืนอยู่เบื้องหน้ากลุ่มบัณฑิตตัวต้นเรื่องทั้งสามคน หนึง่ในนั้นคือตัวตั้งตัวตีที่ก้มหน้าราวกับข่มกลั้นอารมณ์สะเทือนใจ “การแตกสามัคคีไม่ใช่สิ่งที่ดี หากเจ้าขอโทษคุณชายผู้นั้น ข้าจะละเว้นให้สักคราหนึ่ง”


            “ทำไมข้าต้องทำ! ท่านเจ้าเมืองนั่นมันพวกนอกรีต! ท่านควรอุปถัมป์ชางเจียของเราสิ”

            “ดูเหมือนเจ้าจะยังไม่เข้าใจ.. ชาวเมืองทุกท่านได้ยอมรับกฎเกณฑ์ของซินเย่แล้ว ข้าจะขอเน้นย้ำอีกสักจุดหนึ่ง การกดข่มผู้อื่นไม่ได้ช่วยให้ตัวตนเจ้าดูสูงขึ้น คำว่า ‘นอกรีต’ แท้จริงเป็นเพียงวิถีที่แตกต่าง ชางเจียเป็นแนวคิดแปลกใหม่แต่เดิมก็ถือเป็นพวกนอกรีตเช่นกัน รึว่าเจ้ากำลังปฎิเสธความเชื่อของตนเล่า?”
            “ต.. แต่ อึก” บัณฑิตหน้าซีดอึกอัก เขายังศึกษาหลักคำสอนของเจียหลุนชางมาไม่เท่าไร เป็นเพราะทางบ้านเล้งเห็นว่าเข้ารีตมีความเชื่อเดียวกับท่านเจ้าเมืองจะสามารถต่อยอดอนาคตได้ดีกว่า แต่สิง่ีท่ท่านเจ้าเมืองพูดม้าก็พอคุ้นๆ ว่าหลับตาอ่านผ่านๆ มาบ้างจึงเถียงไม่ออก


            “ข้าจะไม่กล่าวโทษเจ้าแต่จะให้คำสอน.. ในเมื่อครั้งนี้ทำผิดไปให้เรียนรุ้ที่จะแก้ไข ชางเจียพร้อมให้โอกาสต่อผู้ที่กล้าพอจะยอมรับความผิดพลาดของตนเองเสมอ ตอนนี้มีสองทาง ขอโทษคุณชายผู้นั้นให้คำอธิบายกับเขาจนกว่าจะพอใจ รึไม่ก็.. จงคัดตำราวัจนะ 100 จบ สามวันหลังจากนี้ข้าจะมาทดสอบด้วยตนเอง ตอบผิดหนึ่งข้อต้องรับงานช่วยเหลือชาวเมือง 3 คนจะเลือกทางไหนล่ะ”
            ผ่าม.. ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหัวโจกจะเลือกเส้นทางไหน เขายอมเสียหน้าดีกว่าเสียเวลา อย่างน้อยคราวนี้ยังถือว่าท่านเจ้าเมืองลงโทษสถานเบาทั้งยังรับผิดชอบแทนเขาไปแล้วกึ่งหนึ่ง ยังดึงดันต่อไปเท่ากับเนรคุณต่ออีกฝ่าย หลังเอ่ยขอโทษไปฝั่งของบัณฑิตไร้สาสนากลับสลายความขุ่นเคืองลงไปนานแล้ว เชื้อเชิญเหล่าชางเจียให้มานั่งร่วมโต๊ะกันเพื่อแลกเปลีย่นความคิดเห็น โม่เสวียนเห็นดังนั้นก็ไม่ขัดศรัทธาเลี้ยงน้ำชาชั้นดีแก่ทั้งสองกลุ่ม

            แม้ว่าหัวข้อหลักๆ จะถามถึงความเป็นมากับการวิเคราะห์การตัดสินข้อพิพาทของท่านเจ้าเมืองที่ออกมาเหนือความคาดหมายก็ตามที

            “สวินโหยว ช่วยข้าคัดลอกคำสอนไปมอบให้กลุ่มบัณฑิตไร้ศาสนา บอกว่าท่านเจ้าเมืองขอให้ช่วยวิเคราะห์ออกมาเป็นบทความ ผู้ใดสามารถแก้ไขรึเสนอแนวคิดที่ผ่านประเมิน ข้าจะตกรางวัลให้อย่างงาม” มือคุ่ขาวส่งมอบงานให้กับคนสนิท แม้จะขยิบตาเน้นหนักว่าห้ามพลาดเจ้าหนุ่มหน้ามนที่กล้าเผชิญหน้าอาสาจะไปเป็นหน่วยกล้าตายเป็นพิเศษ


            ร่างในชุดครามที่อ่อนล้าเต็มทีเมื่อเห้นว่าเรื่องราวคลี่คลายลงแล้ว อีกทั้งเหล่าชาวบ้านดูจะพอใจและมีเสียงตอบรับที่ดี เขาปล่อยให้เหล่าบัญฑิตสังสรรคืกันไปแล้วปลีกตัวออกมาในยามสนธยา เดิมทีคิดว่าตนสามารถประคองร่างอันโรยแรงกลับไปได้จนถึงจวน แต่เมื่อขึ้นหลังอาชาเท่านั้นภาพเบื้องหน้าก็มืดดับฟ้าดินพลิกตลบลง

            “นายข้า!!” เสียงตะโกนที่ดังขึ้น พร้อมกับแรงกระแทกที่แน่นหนัน แม้จะดีกว่าโขกลงพื้นแต่ด้วยอ้อมแขนที่เต้มไปด้วยเกราะนั้นก็ทำให้คนที่ตจากหลังม้ายังคงเห็นดาวระยิบระยับ

            “อา.. ทำไมฟ้ามืดกระทันหัน เจ้า? ใคร..?”


            “...เรื่องนั้นช่างเถิด ยังไหวรึไม่? ท่านไม่สบายที่ใดข้าจะพาไปโรงหมอ” หลี่มู่หน้าเสียไปที่อีกฝ่ายจดจำตนไม่ได้ แต่เมื่อลองย้อนคิดถึงคำของฟางอี้แล้วอีกฝ่ายคงอดหลับอดนอนบริหารเมืองจนสายตัวแทบขาด ความนับถือระคนเห็นใจก็ผุดขึ้นมาจนกระชับอ้อมแขนให้มั่นคงขึ้น

            “..ไม่ต้อง ปล่อยข้าลง”


            “ขออภัย เกรงว่าไม่สามารถทำได้ หากปล่อยปล้วท่านได้รับบาดเจ็บภายใต้การคุ้มกันของข้า นั่นมิเท่ากับว่าข้าหาเรื่องเสียเอง?”

            เขาลอบตามมาจึงได้ยินและได้เห็นวิธีการยุติข้อพิพาทของท่านเจ้าเมืองแล้ว ดังีท่คิด.. นายใหม่ผู้นี้มีความสามารถ ด้านสติปัญญาไม่กังขา ทว่าจังหวะที่อีกฝ่ายบีบถ้วยชาจนแตกด้วยมือเดียวเห็นทีทั้งความเด็ดเดี่ยวและพลังยุทธ์ก็ไม่ได้ด้อยเช่นกัน น่าสนใจจริงๆ

            “...ช่างเล่นลิ้นเสียจริง เอาเถอะ ตอนนี้ข้าไม่ไหวจะต่อปากต่อคำ ช่วยพาไปส่งที่จวนที.. ในสภาพที่ไม่เป็นจุดสนใจนัก”

            โม่เสวียนรุ้หนักเบาหลังถอนหายใจเฮือกหนึ่งมือก็ผลักเกราะอกของอีกฝ่าย ดูแล้วคงเป้นหนึ่งในขุนพลวีรชนทั้งแปด แต่ไม่ว่าจะคนไหนตนก็ไม่คิดให้ชายตัวโตคนใดอุ้มเท่านเจ้าเมืองกลับจวนในสภาพเป้นเป้าล่อคนนินทาแบบนี้หรอก
            “ยินดีรับบัญชา” อ่า.. นายใหม่เป็นพวกมีอารมณ์ขันสินะ
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦

เลี้ยงชาต้าหงเผาบัญฑิต 2 ชุด
รับศิษย์ศาสนาจากกลุ่มนอกรีต - รอส่งประวัติ
-เอฟเฟคตัวละคร-
(สถาปนิก)
+2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง
(เลื่อมใสศรัทธา)
+3 Point จากการโรลทำงาน
(ทะเยอทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลพัฒนาเมือง
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ)
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
(หูดี)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย
(เห็นอกเห็นใจ)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ
-2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
(นักวิชาการ)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้
(นักวางแผน)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย
รวม 28 Point 55exp +30 โหด -25 ความเตรียดจากการกิน
—------

เอฟเฟค หลี่มู่
+15 EXP จากการโรลสร้างความน่าเคารพศรัทธาต่อผู้พบเห็น (หลังตรง)
(สุขุม)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทนต่อความทรมานและอื่น ๆ ที่คนทั่วไปทนไม่ได้
รวม 35 exp 2pt
.
H-012 หลี่ มู่ ดี
+35 มอบสุราเบญจมาศ
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +55

.
—-----------
x3.5 ทุกครั้งที่คุยแลกเปลี่ยนศาสนากับคนศาสนาเดียวกัน (เจียหลุนชาง-สวินโหยว)
+10 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ
(เลื่อมใสศรัทธา)
+25 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ
+15 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิหรือ โรลเกี่ยวกับศาสนา
x4 ความศรัทธา เจ้าลัทธิ
x2 ความศรัทธา VIP
+50 ต่อวัน โรลเผยแพร่ศาสนา

@Watcher




←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-10-27 22:29:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
-เปลี่ยนศาสนา-
สตรีแห่งปาสู่
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
           หอผานถาวคืนนี้มีเหตุให้คนร้อนใจ..
           ฟังว่าสองในห้าขุนพลพยัคฆ์นั้นเป้นสตรี และหนึ่งในนั้นคือหญิงชาวปาสู่ผู้มีความเป้นมาอันลึกลับที่รูปโฉมงดงามหาตัวจับยาก เรื่องราวเล่าลือเกี่ยวกับตัวนางส่วนใหญ่แค่ข่าวลือไร้สาระ แต่สิ่งหนึง่ที่ชาวเมืองซินเย่ยืนยันได้.. ก้คือความเอาแต่ใจและอารมณ์ที่เปรียบดั่งพายุของขุนพลเจียง
           “บอกว่าสตรีมีดีแค่เป็นเครื่องผลิตทายาทงั้นเรอะ ขี้ครอก! ไสหัวออกไปให้หมด!!”
           เสียงตบโต๊ะที่ดังลั่นลงมาจากชั้นสองดึงความสนใจของราชครุหลิวได้ในบัดดล เกรงว่าสหายของเขาจะพบเจอพวกแมลงน่ารำคาญเข้าอีกแล้ว
           “เหอะๆ แม่นางขอรับ เคืรอ่งเรืนอของทางเราบอบบางนักหวังว่าแม่นางจะเห็นใจคนทำการค้าช่วยละเว้นสักครั้ง..” เถ้าแก่หนุ่มรีบเร่งออกมาเป้นเสื่อหน้าไฟ ยับยั้งมิให้ลุกค้าอันธพาลต่างเมืองมาหาเรื่องสตรีที่ดุราวกับเสือบนโต๊ะ
           “ไม่ต้องกังวล.. ส่วนใดที่สหายทำพังข้าจะชดใช้เอง”
           “ในเมื่อท่านราชครุหล่าวเช่นนั่นข้าคงมิทำให้เสียบรรยากาศ.. เชิญตามสบายขอรับ” เถ้าก่ลอบลิงโลดในใจตนต้องการได้ยินคำนี้มากที่สุด เมื่อพบว่าบุรุษชุดขาวออกหน้าแทนก็ได้แต่คาราวะแล้วพาเจ้าคนไม่รุ้ที่ต่ำที่สูงพวกนั้นถอยไปห่างๆ
           “ตำราครั้งก่อนเจ้าได้พิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้วหรือถึงได้ออกมาสร้างความคึกคักอยุ่ที่นี่” ราชครุหลิวจับจองโต๊ะที่ว่างฝั่งตรงข้ามกับสตรีชุดม่วง นางส่งยิ้มเป้นมมิตรมาให้เขาก็จริงทว่าสายตาของอีกฝ่ายยังไม่ยอมคลายโทสะลงง่ายๆ
           “อ่านแล้ว.. นอกจากประโยคที่ว่า ‘ชายหญิงล้วนเท่าเทียม ไม่มีผู้ใดควรถูกตีกรอบด้วยจารีต’ นอกนั้นก็ล้วนน่าเบื่อ มิสู้เจ้าเอาตำรา 102 วิธีทรมานของสกิลหลิวมาให้ข้ายังเป้นระโยชน์กว่า”
           เจียงหน่วยมักพูดตรงเสมอ บางครั้งก้ไม่ใคร่เสนาะหูคนฟังหากมิใช่ราชครุหลิวใครเล่าจะทนวาจาอันร้ายกาจเช่นนี้ได้ บุรุษชุดขาวยกพัดขึ้นมาโบกเบาๆ อย่างผ่อนคลาย รุ้วิสัยของสหายดีจึงไม่เร่งรัด
           “อ่านแล้วก็ดี เช่นัน้นใคร่ครวญในข้อเสนอของข้าแล้วรึยัง เรื่องที่เจ้าจะเปลีย่นมาศรัทธาในชางเจีย”
           เจียงหน่วนหัวเราะในลำคอก่อนจะตักยำแมงป่องเข้าปากเคี้ยวกรวมๆ “ได้สิ หากว่ามันจะทำให้ข้าได้เข้าไปชมพฤกษาประหลาดในวิหารนั่นอย่างใกล้ชิดล่ะก็ จะนับถืออะไรย่อมไม่ต่างกัน”
           “ศรัทธาที่เกิดจากใจจึงจะเป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนชางเจีย..” จู่ๆ เสียงของผู้มาใหม่ก็ก้าวเข้ามาด้านในห้องรับรอง มิใช่ใครอื่นแต่เป็นเจ้าเมืองเสิ่น ในมือของเขามีเถาปิ่นโตเหมือนพึ่งทานของว่างเสร็จก็ตรงดิ่งมาตามนัดหมาย ไม่คิดเลยว่าจะได้ยินภ้อยคำเช่นนี้จากหนึ่งในห้าขุนพลของตน
           “ไม่ต้องห่วงโมเ่สสวียน อาหน่วนแค่ยังไม่ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าสิ่งีท่สามาถเปลี่ยนโลกได้มีเพียงเจียหลุนชาง”
           “ข้าคิดว่าท่านควรอธิบายนางให้ชัด ทันทีที่ก้าวเข้าสู่อ้อมกอดของเทพแห่งปัญญา ผู้ที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดก็คือตัวนางเอง” เจ้าเมืองตอบกลับราชครูหนุ่มก่อนจะแจกขนมชิงถวานให้กับทั้งสอง ส่วนตนก็ปล่อยให้สองสหายสนทนากันต่อแล้วหลบมานั่งร่างแนวทางพัฒนากำลังทหารอยุ่อีกมุมหนึ่ง
           “โอ้ ไม่เห้นบอกล่วงหน้าว่าเจ้ามีกำลังเสริม.. หลิวซีเยี่ยน”
           ต่างฝ่ายต่างอดทนต่อความไร้มารยาทและตีมึนหน้าตาย หลิวซีเยีย่นทราบดีว่าเจียงหน่วนนั้นต้องการสิ่งใดจึงเข้าประเดินอย่างไม่อ้อมค้อม “ได้ยินว่าเจ้ากำลังทดลองพิษชนิดใหม่ ในวิหารของชางเจียมีครบทั้งพื้นที่และวัตถุดิบจากทั่วทุกทิศ หากว่าเจ้ายืนยันจะเข้าร่วมชางเจีย ทั้งยินดีจะส่งผลลัทธ์การค้นคว้าให้เป้นประโยชน์แก่ส่วนรวม มันก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวว่าไหม?”
           “งั้นรึ หากน้ำพัักน้ำแรงของข้ากลายเป้นสิ่งที่แพร่หลายแล้วตัวข้าล่ะจะได้อะไร?”
           โม่เสวียนที่นิ่งอยู่นานเป้นฝ่ายตอบขึน้มาแทน “ความสำเร็จที่เจ้าไม่สามารถกระทำได้โดยลำพัง นามของเจ้าจะถูกจารึกในฐานะผู้ที่อุทิศตนแก่การค้นคว้าที่สร้างอนาคตใหม่ให้ดินแดนนี้”
           ข้อเสนออันหอมหวาน.. จิตใจของสตรีปาสู่เริ่มหวั่นไหว ใช่แล้ว นางมิได้ต้องการของมีค่าหรือเงินทองใดใด ที่หมายใจมาตลอด คือการที่ทุกคนยอมรับตน ยออมรับความสามารถของสตรีผู้นี้
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
-เอฟเฟคตัวละคร-
(ทะเยอทะยาน)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ)
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
(หูดี)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย
(เห็นอกเห็นใจ)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ
-2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
(นักวิชาการ)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้
(นักวางแผน)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย
รวม 21 Point 25exp
.
-ระบบเสริม-
+30 โหดพบหัวมาร
+20% ความภักดีชุนพลในสังกัดเกิดความรักคุณมากขึ้น (เห็นอกเห็นใจ)
+80% ความภักดีของขุนพลคุณจะไม่แปรพักตร์
มอบของให้ขุนพล
.
[230] เจียง หน่วน [มาร]
+35 มอบขนมชิงถวน
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  (หูดี)
+15 นิสัยเดียวกัน (เห็นอกเห็นใจ)  
+15 มาร พบ มาร
+20 ธาตุเกื้อหนุน ไฟ  หนุน ดิน
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อโรลกับคนที่คุณสนใจ (ผู้กล้า)
+15 ความสัมพันธ์กับขุนนางในสภา (นักบริหาร)
+5 พูดคุยรายวัน
รวม +140
.
เอฟเฟค เจียง หน่วน
+6 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์ (งดงาม)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ (สุขุม)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทน (สุขุม)
+3 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย (ไร้เหตุผล)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลใช้อำนาจอย่างเผด็จการ (ไร้เหตุผล)
+3 EXP ทุกครั้งที่โรลทำตัวไร้เหตุผลในที่สาธารณชน (ไร้เหตุผล)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ (เห็นอกเห้นใจ)
รวม +11 Point 63 EXP
@Watcher




←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

อย่าลืมเข้าสู่ระบบนะจ๊ะ เข้าสู่ระบบตอนนี้ หรือ ลงทะเบียนตอนนี้

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้