[นอกเมืองเว่ยหนาน] ค่ายพยัคฆ์หยก

[คัดลอกลิงก์]




ค่ายพยัคฆ์หยก









ค่ายทหารประจำเมืองเว่ยหนาน มีการตรวจตราคนเข้าออกอย่างเข้มงวด
ทหารที่จบการฝึกที่นี่ต้องเพรียบพร้อมทั้งวิชาบู๊และความสง่าสาม
ในบุคลิกประดุจพยัคฆ์หยกที่ทั้งสง่าและเกรี้ยวกราด

เกณฑ์ทหารได้ 1 ครั้งต่อสัปดาห์
หมายเหตุ: จำนวนครั้งรวมผู้เล่นทุกคนในแคว้น 1 ครั้ง = 1 ID
โดยหากจำนวนทหารไม่เต็มจะดำเนินการกี่ ID ก็ได้
แต่หากทหารเต็มแล้วจะต้องอัพเกรดค่ายทหารก่อน



 เจ้าของ| โพสต์ 2022-6-13 23:02:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
  

ระดับค่่ายทหาร
6

ความจุทหารดาบโล่รับได้สูงสุด
10,000
จำนวนพลทหารดาบโล่ (ชาย)
-
จำนวนพลทหารดาบโล่ (หญิง)
-
จำนวนพลทหารดาบโล่ รวมทั้งหมด
-

ความจุทหารธนูรับได้สูงสุด (Level 4)
14,000
จำนวนพลทหารธนู (ชาย)
-
จำนวนพลทหารธนู (หญิง)
-
จำนวนพลทหารธนู รวมทั้งหมด
-

ความจุทหารทวนรับได้สูงสุด (Level 1)
5,000
จำนวนพลทหารทวน (ชาย)
-
จำนวนพลทหารทวน (หญิง)
-
จำนวนพลทหารทวน รวมทั้งหมด
-

ความจุทหารม้ารับได้สูงสุด (Level 4)
14,000
จำนวนพลทหารม้า (ชาย)
-
จำนวนพลทหารม้า (หญิง)
-
จำนวนพลทหารม้า รวมทั้งหมด
-

การระดมทหารใช้ส่วนตัว
(1)  เขียนโรลเพลย์ที่ "ค่ายทหารประจำเมือง"
(2) ระดมทหาร พร้อมแจ้งพิกัดที่จะนำทหารไปใช้ว่าใช้ทำอะไรเป็นอันจบ

การฝึกทหารมืออาชีพ
(1)  เขียนโรลเพลย์ที่ "ค่ายทหารประจำเมือง" เพื่อจัดแจงทหาร ระบุจำนวนทหารที่จะนำไปฝึก
(2) สร้างสตอรี่ฝึกทหาร 7 วัน[ลานฝึกม้า / ลานฝึกพลทวน / หอฝึกธนู] ที่จะฝึก
(3) วันที่ 7 โรลเพลย์หลังลงที่ลานฝึกแล้ว ให้พาทหารมาโรลที่ "ค่ายทหาร" เพื่อบรรจุกลับเข้าค่าย





←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x12
x5
x636
x241
โพสต์ 2022-8-17 20:07:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เข้มงวด กวดขัน
        การค้าขายของเมืองเว่ยหนานได้รับการฟื้นฟูให้กับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ด้วยการปลุกผีขึ้นมาจากหลุมโดยฝีมือหมอผีหลี่ซีซวน ผู้ดำรงตำแหน่งขุนนางท้องถิ่นและผู้บัญชาการค่ายทหารพยัคฆ์หยก  ไม่มากความสามารถทางการค้ากลับทำได้ถึงขั้นนี้นับว่าไม่เสียชื่อสกุลหลี่ ตระกูลการค้า  กองคาราวานทั้งหลายกลับไปแล้ว หลี่หมิงหัวหน้ากองสินค้าใบชาได้อำลากลับนครฉางอาน เนื่องจากได้รับคำไหว้วานมาจากหลี่เฟยหลงผู้เป็นพี่ใหญ่ ให้มาค้าขายเมืองเว่ยหนาน กำไรได้ไม่มากย่อมดีกว่าขาดทุน ซึ่งพวกเขาไม่ได้หวังจากตรงนี้มากนัก เพียงมาช่วยเหลือเท่านั้น
        อากาศยามบ่ายร้อนแรง ลมพัดสะพัดธงของค่ายทหารพลิ้วไหวดั่งมีชีวิต  รถม้าเทียมเกวียนปักร่มด้านหลังเกวียนนำพาคนผู้หนึ่งนั่งสง่าบนรถม้าเข้ามาในค่าย บุรุษหนุ่มสำแดงป้ายชื่อและตำแหน่งให้ยามรักษาการประตูค่าย  รถม้าเคลื่อนตัวมาด้านในค่ายพยัคฆ์หยก บรรดาทหารทั้งหลายยืนเป็นระเบียบรอต้อนรับผู้บัญชาการค่ายทหารแห่งเมืองเว่ยหนาน เดิมทีค่ายนี้พุพัง ซ่อมแซมบ่อยครั้ง ภายหลังจากได้รับเงินจากการจัดเทศกาลการค้าทำให้มีเงินมาซ่อมแซมค่าย ด้วยปัญญาของบุรุษผู้ดำรงตำแหน่งขุนนางประจำเมือง  ความมีชีวิตชีวาก่อกำเนิดขึ้นมาอีกครั้ง รถม้าจอดเทียบแท่นบัญชาการค่ายทหาร หลี่ซีซวนเดินลงจากรถม้าท่วงท่าสง่างามสมดั่งนายทหารเก่า อดีตแม่ทัพประจำชายแดน เขาสวมชุดเกราะพยัคฆ์ เสื้อคลุมแดงชาดสะบัดพลิ้วตามลม เดินขึ้นมาบนแท่นบัญชาการ  ครั้งแรกในชีวิตกับการมายืนบนแท่นบัญชาการไม่เคยได้สัมผัสการคุมทหารจำนวนมากขนาดนี้  มาดต้องนิ่ง สุขุม แสดงอาการประหม่าออกมาไม่ได้
     "สวัสดียามบ่าย ทหารทุกท่าน  ข้าหลี่ซีซวนได้รับแต่งตั้งจากเจ้าเมืองให้มาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการค่ายทหารแห่งนี้!"
     บุรุษหนุ่มชุดเกราะพยัคฆ์ มือกำด้ามกระบี่  ตะโกนเสียงดังให้ได้ยินกันทั้งค่าย
     พลันเสียงอาวุธกระทบกันทั้งค่าย  เพื่อเป็นการทำความเคารพต่อเจ้านายสูงสุดของค่ายทหารแห่งนี้  บรรดานายทหารชั้นรองลงมาตั้งใจฟังผู้บัญชาการค่าย ได้ยินมาว่าไม่เคยปราณีต่อผู้ใด  แม้กระทั่งโจรชิงทรัพย์ผู้เคยก่อเหตุในเมืองยังพ่ายต่อคนผู้นี้
ิ     "วันนี้ข้าให้ปลัดทัพอ่านกฎของค่ายทหาร รวมทั้งข้อห้ามในค่ายทหาร ผู้ใดฝ่าฝืนให้ลงโทษตามกฎไม่มีละเว้น"
     หลี่ซีซวนหันไปด้านหลังให้นายทหารผู้ดำรงตำแหน่งปลัดทัพถือม้วนข้อความออกมาอ่านด้านหน้าแท่นบัญชาการ ส่วนตัวเขาเองถอยไปยืนด้านหลังหนึ่งก้าว
     "หลี่ซีซวนผู้บัญชาการค่ายพยัคฆ์หยกประกาศวินัยอัยการศึกให้สำนึกทั่วกัน วินัยทัพไม่ถือเครือญาติ ไม่มีปราณี ใครฝืนคำสั่งลงโทษตามกฎ หากร้ายแรงต้องประหารไม่มียกเว้น
      ข้อห้าม ๗ ข้อ ผู้ใดละเมิดสร้างความเสียหาย ตัดหัว

      โทษประหาร ๕๔ ข้อ
นายทัพกลัวตาย ประหาร
หนีทัพหน้าศึก ประหาร
ขัดขืนคำสั่ง ประหาร
เรียกตัวไม่มา ประหาร
ยักยอกเสบียง ประหาร
ชูธงแล้วไม่บุก ประหาร
ลดธงแล้วไม่หมอบ ประหาร
กลองดังแล้วไม่บุก ประหาร
ระฆังดังไม่ถอย ประหาร


    ข้อห้าม ดังนี้
     ทะเลาะวิวาท โบย 20 ไม้
     ยุยง ปลุกปั่น โบย  60 ไม้

     เมื่อปลัดทัพอ่านวินัยทัพและข้อห้ามเสร็จเรียบร้อย หันมาประสานมือทำความเคารพต่อผู้บัญชาการค่ายทหาร หลี่ซีซวนเดินมาเบื้องหน้าเหล่านายทหารและทหาร  สายตาทรงอำนาจฉายออกมาชัด บ่งบอกเป็นสัญญาณจากนี้มันจะถูกใช้ในค่ายทหาร
     "ประการหนึ่ง ผู้ใดจะเข้า ออกค่าย ไม่แสดงป้ายชื่อและตำแหน่งในค่ายทหาร นายเวรรักษาประตูค่ายห้ามให้เข้าหรือออกจากค่าย" ประโยคนี้ดั่งประกาศิตสายฟ้า ผู้ใดทำป้ายหายย่อมเข้าหรือออกจากค่ายไม่ได้ "เลิกประชุม"
     หลี่ซีซวนเดินขึ้นรถมาเทียมเกวียนออกจากค่าย  ระหว่างทางรถม้าหยุดด้านหน้าประตูค่าย  เขาแสดงป้ายชื่อและตำแหน่งแก่นายเวรรักษาประตูค่าย จึงไม่เห็นแม่ทัพใหญ่ประจำค่ายแม้เงารถม้า  บรรดาคนในค่ายจากนี้ต้องเข้มงวดต่อตัวเอง  รักษาป้ายชื่อยิ่งชีวิต  ประมาท พลาดพลั้งขึ้นมา  เข้าค่ายไม่ได้โดนทำโทษหนัก  บรรดาแม่ทัพ นายกอง มองดูปลัดทัพหวังจะช่วยพูดต่อผู้บัญชาการค่ายให้ลดหย่อน ผ่อนปรน  ปลัดทัพได้แต่ส่ายหน้า เดินถือม้วนวินัยทัพไปทางอื่น
     "แม่ทัพ นายกองทั้งหลาย  ตัวข้าเฉินหยาง ดำรงตำแหน่งปลัดทัพ ทว่ามิอาจเจรจาทำที่พวกท่านร้องขอได้ พวกท่านคงทราบดี ว่าท่านผู้บัญชาการเข้มงวดแค่ไหน และเป็นคนอย่างไร ขนาดอันธพาลยังถูกเกณฑ์มาใช้แรงงานซ่อมแซมค่าย"
     เฉินหยาง ปลัดทัพทิ้งคำเตือนให้ฉุกคิดว่าอย่าได้เล่นกล ลูกไม้ใดต่อผู้บังคับบัญชาสูงสุด ผู้ได้ชื่อว่ามีความเมตตาน้อยที่สุด


ลักษณะนิสัยใจดำ
+35 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นแก่ตัวไม่สนใจ





←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ตำราเลี่ยจื่อ
ม้าเฟิ่งหวง
กระบี่ร้อยกฎ
เตากำยาน
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x55
x2
x4
x3
x1
x3
x8
x3
x15
x19
x20
x20
x10
x1
x1
x1
x1
x9
x6
x10
x1
x2
x30
x3
x10
x2
x1
x3
x15
x35
x2
โพสต์ 2022-9-1 14:36:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ชือดไก่ ขู่ลิง

        เหตุการณ์สังหารโจรร้ายกลางตลาดสองครั้งภายในเมืองเว่ยหนาน  ครั้งที่สองนับว่าโหดร้ายและดุเดือดกว่าเนื่องจากขุนนางประจำเมืองสำแดงเดชการใช้กระบี่ออกมาได้อย่างสวยงาม  เฝ้าถามตัวเองกันว่าขุนนางผู้นี้มีอะไรอีกบ้างยังไม่ได้แสดงให้พวกเขาได้เห็น  โจรร้ายฝีมือเยี่ยมยอดแล้วเจอขุนนางสำราญกลับทำอะไรไม่ได้  กลุ่มอันธพาลถูกนำตัวไปยังค่ายทหารทันที  หลังจากปะทะจบสิ้นลง  บุรุษหนุ่มผู้นี้แววตาหาความเมตตาไม่เจอเลย  ดั่งที่ปลัดทัพเฉินหยางได้บอกไว้ว่า คนผู้นี้มีความเมตตาน้อยที่สุด  บรรดาแม่ทัพ นายกอง  พอได้ยินข่าวนอกค่ายถึงเรื่องราวการแสดงเพลงกระบี่ของผู้บัญชาการค่าย  ทุกผู้คนต่างกลืนน้ำลาย  ดำริอยากหย่อนวินัยทัพจำต้องพับเก็บลงไปก่อน  เฉินหยางปลัดทัพยิ้มกริ่มด้วยความสะใจ  คราวนี้เขาจะได้สบายหูบ้าง  วันๆหนึ่งต้องมาฟังคนพวกนี้พูดจาไม่รู้กี่ร้อยรอบ
     หลี่ซีซวนนั่งรถม้ามาถึงประตูค่ายยื่นป้ายชื่อพร้อมตำแหน่งให้กับนายเวรเฝ้าประตูค่อยเดินทางเข้ามาด้านในค่ายทหาร  ได้แจ้งแก่ปลัดทัพแล้วว่าวันนี้ช่วงบ่ายจะลงอาญาอันธพาลผู้พาโจรเข้ามาเหิมเกริมในเมืองเว่ย  เขาจะทำโทษลานกลางแจ้ง  ให้ทหารทุกคนมาร่วมตัวกันให้พร้อมเพรียง  ความจริงต้องพิจารณคดีกันที่ว่าการเจ้าเมือง  เฉินหยางเข้าใจว่าต้องการสำแดงอำนาจแท้จริงให้เป็นที่ประจักษ์  การประกาศวินัยและอัยการศึกไม่เพียงพอให้คนเหล่านี้สยบต่อผู้บัญชาการค่ายทหาร  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นย่านการค้าฟังโดยมากอาจเกินจริง  ฟังเป็นนิทานก็ได้ไม่ได้ก่อเกิดความครั่นคร้ามอันใด  ใช้อันธพาลกลุ่มนี้เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ย่อมง่ายกว่า
        เขาย่างเท้าไม่เร็ว ไม่ช้า  ก้าวขึ้นเดินบนแท่นปะรำพิธียกสูง  เหล่าแม่ทัพ นายกอง ทหาร มาประชุมพร้อมกันเรียบร้อยแล้ว  ขาดไม่ได้คือกลุ่มอันธพาลคุกเข่ากลางลานพิธี  เฉินหยาง ตำแหน่งปลัดทัพเดินมาด้านหน้า  เตรียมตัวเริ่มดำเนินขั้นตอนต่อไป
     "หลี่ซีซวน ผู้บัญชาการค่ายพยัคฆ์หยก มอบหมายให้ข้าเฉินหยาง ปลัดทัพ ประกาศแก่คนทั้งปวงที่มาประชุมพร้อมกัน ณ ที่นี่ว่า  จากเหตุการณ์โจรใช้ครอบครัวอพยพรายหนึ่งเป็นตัวประกันให้มอบเงินหนึ่งพันตำลึงทองแก่มัน โดยมีกลุ่มอันธพาลพวกนี้ให้การช่วยเหลือ  นับว่าเว่ยหนานยังไม่ถึงคราวเคราะห์ ท่านแม่ทัพได้ช่วยเหลือและสังหารโจรร้ายเป็นผลสำเร็จ บัดนี้ข้าเฉินหยาง ปลัดทัพได้พิจารณาโทษอันสมควรแก่พวกมันจะได้รับตามความผิด ตามที่ได้รับมอบหมาย จึงตัดสินให้รับโทษโบยคนละ 30 ไม้ แล้วเนรเทศออกนอกเมืองเว่ยหนาน"
     มันเป็นการประกาศพร้อมพิจารณาบทลงโทษ  ไม่มีผู้ใดออกเสียงคัดค้าน ทุกคนต่างยืนตั้งใจยืนฟัง  ทหารได้นำตัวพวกมันไปโบยตรงลานที่มีเสาไม้สองข้างตั้งอยู่  พลัน เสียงไม้โบยลงหลังพร้อมกัน มีเจ้าหน้าที่ยืนตะโกนนับจำนวนการโบยเสียงดังฟังชัด  
     เมื่อครบถ้วนตามกำหนดโทษของการโบยไม้  พวกมันถูกลากออกนอกค่ายทหารทันที  นายทหารและแม่ทัพต่างหันมามองดูใบหน้าของหลี่ซีซวน ผู้เป็นแม่ทัพสูงสูดของค่ายแห่งนี้  ใบหน้าของเขานิ่งเฉย  สายสงบนิ่งดุจบ่อน้ำโบราณ  ลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะอันเสมอกัน  มันยังคิดมีผู้ใดกล้าแหย่นวดพยัคฆ์ตัวนี้อีกหรือไม่  สายตากวาดมองดูทุกคน ราวกับกำลังเลือกเหยื่อมาเชือดเล่น  แล้วยกมือขึ้นสูงเป็นสัญญาณของการเลิกประชุมค่าย  ผิดแต่ปลัดทัพที่รู้เรื่องทุกอย่างปรุโปร่ง  
        หลี่ซีซวนนั่งรถม้าเทียมเกวียนออกจากค่ายทหาร  เฉินหยางเดินออกจากปะรำพิธีเป็นคนสุดท้าย  ยังคิดอยู่ว่าหากคนผู้นี้ได้ขึ้นตำแหน่งสูงกว่านี้  น่ากลัวว่าคือคนอันตราย  เพียงแค่วันนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าอย่ากระตุกหนวดเสือ
ลักษณะนิสัยใจดำ
+35 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นแก่ตัวไม่สนใจ





←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ตำราเลี่ยจื่อ
ม้าเฟิ่งหวง
กระบี่ร้อยกฎ
เตากำยาน
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x55
x2
x4
x3
x1
x3
x8
x3
x15
x19
x20
x20
x10
x1
x1
x1
x1
x9
x6
x10
x1
x2
x30
x3
x10
x2
x1
x3
x15
x35
x2
โพสต์ 2022-12-20 15:51:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขุนศึก ขุนพล ขานรับตำแหน่ง

        ธิวธงสะบัดตามเชิงเทินทั่วบริเวณค่ายของบ่ายวันที่ตะวันสาดส่องมอบความอบอุ่นของฤดูหนาว  บนผืนธงสีแดงขลิบดำจารอักษร 'หลี่' สวยงาม ด้านหน้าประตูค่ายพยัคฆ์หยกมีทหารเดินสวนสนาม  ฝากฝากสองข้างประตูค่ายมีป้อมสังเกตุการณ์และกลองเตือนภัย ภายในค่ายตั้งไว้ด้วยกระโจมทั่วค่ายทหารมีขนาดต่างกัน  เหนือกระโจมมีธงจารอักอักษรของขุนพลไว้ไม่กี่แห่ง  รวมทั้งกระโจมใหญ่ที่เป็นที่อยู่ของผู้บัญชาการค่ายทหารรายล้อมด้วยกระโจมของขุนศึกอีกหนึ่งชั้น  กลางลานศึกซ้อมมีแท่นไม้ยกสูงไม่ใหญ่ ไม่เล็ก  ไม่ได้มีแม่ทัพมายืนบนแท่นนี้นานมากแล้ว  ปรกติมีปลัดทัพแวะเวียนมาตรวจตราความเรียบร้อยของค่ายทหาร  เหล่าขุนทหารไม่ได้พบปะ เจอหน้าผู้บัญชาการค่ายทหารนับนิ้ว คิดคำนวณ เกินครึ่งปีเป็นอย่างน้อย  เพราะงานเมืองรัดตัวจนไม่สามารถขยับตัวมาเยี่ยมค่ายทหาร  ภายหลังส่งชุนซิ่นมาประจำค่ายทหารเป็นการชั่วคราว  เหลือเพียงแขวนเป็นผู้บัญชาการค่ายแต่ในนามเท่านั้น  กระนั้นทุกครั้งยังสั่งงานผ่านเฉินหยางเป็นประจำ

        รถเกวียนเทียมด้วยวัวงามสง่านำหน้าบรรดาผู้ติดตามขี่ม้าตามหลัง  ต่างคนต่างแสดงป้ายให้นายเวรรักษาประตูค่ายได้ตรวจดูความถูกต้อง  ค่อยเคลื่อนตัวผ่านประตูค่ายเข้ามาด้านในค่ายทหาร แสงตะวันยามบ่ายช่วยคลายหนาวได้พอสมควร พวกเขาทั้งหมดต่างหยุดขบวนรถไว้ด้านหน้ากระโจมค่ายใหญ่  หลี่ซีซวนสวมชุดเกราะของขุนพล งามสง่า ดั่งแม่ทัพออกเล่นศึกเอง เซี่ยงอวี่ในชุดเกราะของขุนศึกให้ภาพความทรนง องอาจ อำนาจบารมีของพวกเขาดั่งปราการเหล็กกล้า  ผู้ใดล้วนไม่กล้าผลีผลามทำลายป้อมปราการ

        ด้านในกระโจมใหญ่อู่เถียนชุนซิ่นกับกวนเลี่ยงรอต้อนรับอยู่ด้านในกระโจมหลังใหญ่  อู่เถียนชุนซิน ขุนศึผู้กร้าวแกร่งได้พบเจอกันจากการทัศนาในป่านอกเมืองเว่ยหนาน สนทนากันจนมอบหมายให้มาดูแลค่ายทหาร  ทำเอาบรรดานายทหารต่างเกรงกลัวโดยทั่วกัน  ไม่ได้พบหน้ากันนานเดือน ทำให้ต้องหยุดสนทนาเป็นการชั่วคราว

     "ท่านอู่เถียน ข้าต้องลำบากให้ท่านมาดูแลงานในค่าย มอบภาระหนักให้แก่ท่าน ข้าต้องขออภัยด้วย"

     พวกเขาสองคนต่างคนต่างยืนกุมมือสนทนากัน ท่ามกลางบรรดาที่ปรึกษาและขุนพล

     "นายท่านเหตุใดกล่าวเช่นนี้ ข้ามาทำงานกับท่าน เพื่อช่วยลดภาระงานที่รุมเร้า ท่านจะได้ไม่ต้องห่วงหน้า พะวงหลังอย่างไรเล่า" ชุนซิ่นตอบอย่างภาคภูมิใจ ตลอดเดือนมานี้ได้ปรับการฝึกทหารบางส่วน และให้ซ้อมสู้กันทุก 7 วัน "วันนี้ท่านมาที่ค่ายคงมิใช่เพราะตรวจเยี่ยมค่ายกระมัง"
     "ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น  เมื่อทุกท่านอยู่กันพร้อมหน้า ถึงเวลาประกาศแต่งตั้งหน้าที่ในค่ายให้เป็นระเบียบเรียบร้อย"
        หลี่ซีซวนกับคณะที่ปรึกษาประกอบด้วยเฉินหยาง เทียนอินฉี เซี่ยงอวี่ และอู่เทียนชุนซิ่น ส่วนกวนเลี่ยงต้องให้ฝึกปรืออยู่ในค่ายทหาร เพื่อเรียนรู้งานราชการทหาร  ทั้งหมดออกเดินตรวจเยี่ยมทุกส่วน  ส่วนที่เป็นค่ายพลธนู ค่ายทวน และค่ายทหารม้า สามส่วนนี้ไว้ตรวจครั้งต่อไป  เนื่องจากต้องกลับไปบริหารงานเมืองต่อ ปลีกเวลามาที่นี่ได้มิใช่เรื่องง่าย สิ่งหนึ่งที่พบคือวินัยหย่อนยาน ทหารไม่ค่อยได้รับการฝึกฝนตามสมควร ท่าทางเหยาะแหยะ  อดจะเวทนากับความบกพร่องของตัวเองไม่ได้ จึงตัดเส้นทางตรวจเยี่ยมมายืนบนแท่นตรวจแถวทหาร โดยมีนายทหารและขุนพลมาพร้อมกันก่อนหน้านี้แล้ว
     เฉินหยางคลี่ม้วนกระดาษออก เดินออกมายืนด้านหน้า เตรียมประกาศคำสั่งแต่งตั้งให้ทราบโดยทั่วกันทั่งค่าย
     "หลี่ซีห่าว เจ้าเมืองเว่ยหนานและผู้บัญชาการค่ายพยัคฆ์มีประกาศแต่งตั้งขุนพลและที่ปรึกษาให้ขึ้นรับตำแหน่ง  เพื่อให้ค่ายทหารพยัคฆ์หยกมีความเป็นระเบียบเรียร้อยมากยิ่งขึ้น จึงมีประกาศดังนี้
        เซี่ยงอวี่เป็นรองผู้บัญชาการค่ายพยัคฆ์หยกและแม่ทัพค่ายทหารม้า มีอำนาจและหน้าที่ ลงโทษ ภาคทัณฑ์ เทียบเท่าผู้บัญชาการ และสามารถกระทำการตัดสินใจได้โดยไม่ต้องรอผู้บัญชาการ
        อู่เถียนชุนซิ่นเป็นแม่ทัพดูแลอู่ต่อเรือหลวงและแม่ทัพค่ายทหารธนู มีอำนาจและหน้าที่ ลงโทษ ในเขตอู่ต่อเรือหลวงและค่ายธนู
        เทียนอินฉีเป็นที่ปรึกษาค่ายทหารพยัคฆ์หยกและแม่ทัพค่ายทหารพลทวน กำกับงานดูแลประตูทิศเหนือและทิศใต้
        เฉินหยางเป็นที่ปรึกษาค่ายทหารพยัคฆ์หยก กำกับงานดูแลประตูทิศตะวันออกกับทิศตะวันตก
        กวนเลี่ยงเป็นครูฝึกทหารค่ายพยัคฆ์หยก มีหน้าที่ฝึกทหารทุกคนในค่ายทหารและรับคำสั่งจาก ผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ แม่ทัพ และที่ปรึกษาทัพ
     ขอท่านทั้งหลายที่ได้รับแต่งตั้งตำแหน่งทั้งปวง จงเข้มงวดวินัย กวดขันเหล่าทหาร นายกอง และหลี่ซีซวนผู้บัญชาการค่ายพยัคฆ์หยกประกาศวินัยอัยการศึกให้สำนึกทั่วกัน วินัยทัพไม่ถือเครือญาติ ไม่มีปราณี ใครฝืนคำสั่งลงโทษตามกฎ หากร้ายแรงต้องประหารไม่มียกเว้น"
        นายทหารทุกคนรวมทั้งที่ปรึกษาต่างขานรับคำสั่งและข้อปฏิบัติถ้วนหน้า  หากยังหย่อนหยานอีกย่อมต้องลงโทษตามลำดับชั้น หลี่ซีซวนไม่ได้กล่าวอะไรต่อบนแท่นตรวจการทหาร เดินลงจากแท่นไม้ นั่งรถเทียมวัวกลับออกจากไปตามปรกติ
ลักษณะนิสัยใจดำ
+35 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นแก่ตัวไม่สนใจ


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ตำราเลี่ยจื่อ
ม้าเฟิ่งหวง
กระบี่ร้อยกฎ
เตากำยาน
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x55
x2
x4
x3
x1
x3
x8
x3
x15
x19
x20
x20
x10
x1
x1
x1
x1
x9
x6
x10
x1
x2
x30
x3
x10
x2
x1
x3
x15
x35
x2
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

อย่าลืมเข้าสู่ระบบนะจ๊ะ เข้าสู่ระบบตอนนี้ หรือ ลงทะเบียนตอนนี้

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้