[เมืองหวยหนาน] โรงเตี๊ยมซุ่นฉั่ว

[คัดลอกลิงก์]
ไม่ระบุชื่อ  โพสต์ 2021-8-17 16:11:32 |โหมดอ่าน




 โรงเตี๊ยมซุ่นฉั่ว   


{ เมืองหวยหนาน }

>




【 โรงเตี๊ยมซุ่นฉั่ว 】

『บรรเลงเสียงเพลงขับขาน


โรงเตี๊ยมซุ่นฉั่ว เป็นสถานที่ ที่ผู้คนและนักเดินทางมากมาย ต่างก็แวะเวียนเข้ามาพักผ่อน และนั่งสังสรรค์กัน เป็นโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ของเมืองหวยหนาน เพราะฉะนั้นแขกไปใครมาก็จะเห็นว่ามีโรงเตี๊ยมแห่งนี้ที่เป็นจุดขาย


เพราะว่ามีความสวยงาม และทองอร่าม โดยตกแต่งเป็นอย่างดี และช่วงเย็นจะมีดนตรีบรรเลงให้ได้ฟังกันและที่พักอย่างเป็นส่วนตัว ชั้นล่างจะเป็นร้านอาหารที่บริการอย่างจุใจ พร้อมหากสั่งกลับบ้านก็มี



ไม่ระบุชื่อ  โพสต์ 2021-8-17 23:04:47
  
.: แขกที่สัญจรมาโรงเตี๊ยม :.

กติกาการโรลเพลย์สนทนาทำความรู้จักขุนพลสัญจรผ่านมา
(1) 1 โรลเพลย์ สามารถเจอได้แค่ 1 คนเท่านั้น ยกเว้นมีระบุว่า xx นั่งกับ xx
(2) ในโรลเพลย์สร้างสถานการณ์พบเจอครั้งแรกได้อิสระ โดยไม่แหกนิสัย NPC
(3) นอกจากทำความรู้จัก พูดคุย ใน 1 โรลเพลย์สามารถมอบของขวัญให้ 1 ชิ้นเท่านั้น
(4) การชักชวนเข้ากองกำลัง บาง NPC ไม่จำเป็นต้องหัวใจเต็ม 10 ดวงเสมอไป นอกจากอยู่ที่การให้ของแล้ว การพูดคุย โรลทิ้งท้ายไว้ และ กำกับว่า "ชักชวน"
ทางทีมงานจะมาคอมเม้นท์ว่าชวนสำเร็จหรือไม่ ถ้าสำเร็จคุณจะได้โต้วาทีกับเขา ถ้าชนะแสดงว่าเขายอมรับใช้คุณ


ความสำคัญก่อนโรลสร้างความสัมพันธ์ NPC
(1) สำคัญมาก ที่คุณจะต้องตรวจเช็ค (ลักษณะนิสัยขัดแย้งกันหรือไม่ สามารถเช็คได้จากที่นี่ คลิก)
(2) รองลงมา ตรวจเช็ต ธาตุวันเกิด และ ปีนักษตร ชงกันหรือไม่ สามารถเช็คได้ที่นี่ (คลิก)
(3) ทุก ๆ การโรลเพลย์ที่มีความขัดแย้งในด้านนิสัย และ ธาตุหรือปีนักษัตรชงกัน เนื้อหาโรลเพลย์คุณจะต้องสร้างให้สมเหตุสมผล
เมื่อความสัมพันธ์ต้องลบลงในโรลเดียวกับจีบ ที่ความสัมพันธ์เพิ่ม โดยการครีเอทสร้างสถานการณ์โรลเพลย์ไม่ถึงกับทะเลาะ ขัดแย้งกัน
แต่ให้คุณเผลอทำอะไรที่ไม่ดี หรือใช้คำพูด หรือ บางอย่างเกี่ยวกับนิสัย ตัวคาร์คุณในโรลนั้นด้วย เพื่อให้มีความเมคเช้นส์ในการลดความสัมพันธ์





←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x12
x5
x636
x241
โพสต์ 2021-9-27 17:05:33 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ฝูงคนในบริเวณโรงเตี๊ยมกลับดูหนาแน่นเป็นพิเศษจากความเร่งรีบในชีวิตประจำวัน ผู้คนที่นี่และเหล่านักเดินทางต่างต่างส่งเสียงสังสรรค์กันราวกับมีงานรื่นเริงบางอย่างภายในโรงเตี๊ยมแห่งนี้ ภายในโรงเตี๊ยมกลับดูงดงามด้วยของตกแต่งเข้าตามยุคสมัย

เสียงแซ่ซึ้งดังขึ้นเป็นระยะเคล้ากับเสียงดนตรีบรรเลงในห้องรับประทานอาหารส่งผลให้หญิงสาวผู้มายังโรงเตี๊ยมกับผู้ติดตามของนางต้องแสร้งปิดหูไปเสียเพื่อปิดมลภาวะทางเสียงไป ตากลมโตเหลือบมองบุรุษที่ยังคงกินอาหารตรงหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรก็พลันเกิดความหงุดหงิดขึ้นมาแม้เพียงแค่เห็นใบหน้า

"อะไรของเจ้า.. ทำหน้าดูไม่สนุกเอาเสียเลย"

"เพราะเจ้าทำให้ข้าต้องอดไปงานมงคล เจ้าทำให้ข้าดูเสียมารยาทแก่เถ้าแก่หอโคมเขียว"

จ้าวเพ่ยกล่าวขึ้นมาด้วยความโกรธ นางไม่คิดว่าความขี้เกียจของซุนหยางจะทำให้ทุกอย่างที่นางตั้งแผนวางเอาไว้ในการทำอะไรในแต่ละวันพังไม่เป็นท่าได้มากขนาดนี้ ในวันที่ต้องไปงานมงคล นางได้กล่าวดิบดีกับผู้ติดตามของนางว่าจะไปที่นัดหมายช่วงย่ำค่ำ หากแต่ชายหนุ่มเอาแต่ร่ำสุราจนเมามายและไม่สามารถตื่นไปส่งนางได้.. กว่าซุนหยางจะเปิดตาตื่นรับแสงขึ้นก็เป็นช่วงตะวันสาดส่องเข้าใบหน้าไปเสียแล้ว

"อะไรของเจ้า ขาดข้าไปคนเดียว ขาพิการเลยหรือ" กล่าวทั้งหยิบสุราขึ้นมาดื่มไปด้วย

กลิ่นแอลกอฮอล์เข้มข้นผสมผสานกับกลิ่นดอกไม้ที่เจือจาง และอาหารรสชาติดีตรงหน้า ไม่อาจปฏิเสธได้ว่านี่คือสวรรค์ที่ซุนหยางต้องการจะอยู่ที่นี่ตลอดโดยไม่ต้องออกเงินแม้แต่แดงเดียว เสี่ยวเออร์ยกถาดขนมและเครื่องดื่มมาวางตรงหน้าพวกเขา ก่อนน้ำชากลิ่นดอกไม้หอมจะถูกจับจองจากมือนุ่มจากหญิงสาวและยกเข้าปากทันที

"ข้าว่าการใช้ชีวิตของเราต่างกันมากเพียงนี้ จะแยกกันที่นี่เลยดีหรือไม่" จ้าวเพ่ยเอ่ยถามด้วยความจริงจัง สองมือประคองถ้วยชาลงวางกับโต๊ะอย่างช้าๆ นางไม่ได้ต้องการจะถีบหัวส่งผู้ติดตามคนนี้ แต่เหมือนนางกับเขาจะสวนทางในด้านการใช้ชีวิตไปเสียหมด

"เจ้าพูดอะไร.. ข้าแยกจากเจ้าใครจะคอยเลี้ยงคอยจ่ายเบี้ยหวัดให้ข้าได้กินทุกวันเล่า" ซุนหยางกล่าวทั้งยังหยิบอาหารเข้าปากไปด้วย "หากเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าคงจะกลับไปหาอุดมการของข้าเช่นเดิม"

"ไม่ได้นะ!" จ้าวเพ่ยกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงดัง กว่าจะรู้ตัวว่าถูกบางคนในร้านหันมามองนางเพราะเสียงที่แผดขึ้นมาก็พลันอับอายขึ้นมา จ้าวเพ่ยยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายให้มากขึ้นเพื่อย้ำคำพูดของนางที่น้องการจะบอกแก่ซุนหยาง "โจรโพกผ้าเหลืองชั่วช้าเกินไป เจ้าก็เห็นไม่ใช่หรือ"

"เช่นนั้น เจ้าก็ล้มเลิกความคิดที่จะแยกทางเสียสิ" ซุนหยางเอ่ยโดยไม่รู้สึกร้อนหนาวอะไร ทิ้งให้จ้าวเพ่ยยังคงนั่งนิ่งอยู่ตรงหน้าด้วยความคิดอะไรบางอย่าง นางหยิบขนมตรงหน้าเข้าปากเพื่อกักเป็นคำเล็กๆ พลางมองชาและสุราสลับกันไปมาด้วยความคิดที่อยู่ในหัว

"ข้าจะทำให้เจ้าลดสุรา"

"อะไรนะ.."

"เจ้าเอาแต่เมามายกับสุราจนขี้เกียจเพียงนี้ จะให้ข้าคิดเป็นอื่นว่าไม่ใช่เพราะสุราได้อย่างไร ตั้งแต่นี้.. ข้าจะให้เจ้าดื่มชาแทนสุราทุกครั้งที่มาโรงเตี๊ยม"

ซุนหยางได้ยินดังนั้นก็หัวเราะขึ้นจมูก ไหเหล้าถูกยกขึ้นวางบนโต๊ะให้เจ้าเพ่ยมองอย่างงุนงง กลิ่นสุราตีขึ้นมาบ่งบอกว่าภายในยังคงเหลืออยู่บ้าง

"ข้ารู้ขีดจำกัดของข้า.. ตอนนี้ข้าก็ไม่ได้เมามายเจ้าก็เห็นใช่หรือไม่ เพียงแค่ช่วงย่ำค่ำก่อนจะนอนเท่านั้นที่ข้าอยากจะร่ำสุราให้สมใจอยาก"

"ข้าไม่สน.. ตราบใดที่เจ้ายังขี้เกียจและอยู่ในการดูแลของข้า" จ้าวเพ่ยประกาศกร้าวก่อนนางจะลุกขึ้น แต่ความผลุนผลันผลันแล่นกลับทำให้นางเผลอชนกับโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆจนของกระจัดกระจายไปจนหมด หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปากดเวยความตกใจ ขณะที่สายตาของเหล่าเจ้าของโต๊ะมองมาด้วยความโกรธเคือง

"แม่นางมีปัญหาอะไรกับพวกข้าหรือเปล่า" ชายร่างกำยำเอ่ยถามขึ้นมาพลันลุกขึ้นยืนคล้ายกับว่าจะก่อเรื่องในโรงเตี๊ยมแห่งนี้ให้หญิงสาวถอยกลับไปนั่งเก้าอี้เดิมที่นางลุกด้วยสายตาที่จับจ้องชายผู้นั้นไม่วางตา ความกลัวปรากฏต่อสายตาที่สั่นระริกอย่างชัดเจน เมื่อตอนนี้นางถูกชายถึงสามคนล้อมหน้าหลังจนไม่รู้จะหนีไปจากเหตุการณ์นี้อย่างไร "ถึงเป็นสตรี พวกข้าก็หาสนหากต้องการก่อเรื่องกับพวกข้า"

"ข.. ขออภัย ข้าไม่ได้ตั้งใจ"

เหล่าผู้คนในโรงเตี๊ยมหันมามองการทะเลาะวิวาทครั้งนี้ โดยไม่มีแม้สักคนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเลย จ้าวเพ่ยกล่าวขอโทษกับคู่กรณีพลันส่งสายตาขอความช่วยเหลือกับซุนหยางที่อยู่ไม่ไกล ความกดดันรอบตัวทำให้นางต้องเร่งคิดหาวิธีเอาตัวรอดไปก่อนที่จะถูกทำร้ายร่างกายภายในโรงเตี๊ยมนี้เสียก่อน

"พี่ชายก็เห็นแก่ว่าแม่นางผู้นี้เป็นสตรีเถิด.. ดูสิ.. นางสั่นเป็นลูกนกแล้ว"

"อ้อ.. เจ้ามากับสตรีผู้นี้หรือ.. มีปัญหากับพวกข้าอีกคนหรือ!" เป้าหมายเปลี่ยนไปเป็นซุนหยางแทน จ้าวเพ่ยมองผู้ติดตามตนที่ตอนนี้ถูกรุมกดดันแทนตนก็ใช่ว่าจะอยู่เป็นสุข หญิงสาวเร่งหยิบถุงตำลึงขึ้นมาวางบนโต๊ะเพื่อหยุดการกระทำของชายกำยำที่เริ่มจะง้างหมัดใส่ซุนหยางจนพวกเขาหยุดนิ่งลงไป

"ข้า.. ข้าจะจ่ายค่าอาหารทั้งหมดให้ อย่ามีเรื่องกันที่นี่เลย"

"ค่อยพูดกันรู้เรื่องหน่อย" เหล่าชายฉกรรจน์เอ่ยขึ้นขณะหยิบถุงตำลึงของจ้าวเพ่ยขึ้นมาเก็บกับตัวและแยกย้ายกลับไปนั่งที่เดิม จ้าวเพ่ยหันไปมองพวกเขาที่ยังคงมองมาที่ตนก็รีบเร่งลุกขึ้นและเรียกซุนหยางให้ลุกเพื่อจะออกจากที่นี่โดยเร็ว

"ขออภัยเจ้าค่ะ" นางกล่าวขอโทษกับโต๊ะนั้นอีกครั้งก่อนจะถูกโยนถุงตำลึงของนางกลับคืนไปจนแทบจะรับไม่ทัน ก่อนจะงุนงงกับพฤติกรรมของเหล่าชายฉกรรจ์ พวกเขาก็ได้เฉลยออกมาให้นางเข้าใจขึ้นบ้าง

"ข้ารับเฉพาะส่วนที่เจ้าทำเสียหายเท่านั้น ส่วนเกินเอาคืนไปเถิด"

จ้าวเพ่ยนำถุงตำลึงเก็บเอาไว้กับตัวขณะเร่งฝีเท้าออกจากโรงเตี๊ยมนี้ทันที นางเห็นซุนหยางจูงม้ามารอเมื่อเห็นหน้านางก็พลันหลุดขำออกมาจากเหตุการณ์เมื่อครู่นี้

"ขำอะไรของเจ้า"

ซุนหยางไม่ตอบอะไรได้แต่ยืนรอให้จ้าวเพ่ยขึ้นบนหลังม้าเพื่อที่จะจูงม้าออกจากจุดนี้ ออกเดินทางไปยังเมืองอื่นที่อยู่ติดกัน สายตาพลันเหลือบมองสาวที่นั่งบนหลังม้าเป็นระยะๆ เห็นนางเริ่มดึงถุงตำลึงออกมาดูด้วยสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียดก็พอจะรู้ว่าตอนนี้นางเริ่มกังวลเรื่องอะไร

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่ร้อยกฎ
มุกพณาหวาซวี
ม้าเหลียง
กลยุทธ์เล่ออี้
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x7
x4
x10
x10
x13
x13
x13
x12
x11
x202
x1
x1
x1
x11
x22
x15
x30
x1
x100
x100
x9
x2
x5
x6
x8
x10
x2
โพสต์ 2021-9-28 16:46:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด

คุ้มครองคณะหลวงจีนสู่หมู่บ้านซีตี้
ซวี่โจว - เมืองหวยหนาน
.
.

          หลังท่านหมอได้บ่นที่ถานเจ๋อทำแผลเก่าเปิดและเอ่ยเตือนให้ระวังเรื่องแผลอักเสบจนไข้ขึ้น ก็ค่อยปล่อยให้กลุ่มจิ้นอิ๋งได้เดินทางต่อไป ซึ่งในตอนนี้ก็เข้ายามอู่พอดี พวกนางจึงขอคณะหลวงจีนในการซื้อเสบียงที่ย่านการค้า ก่อนจะพากันเร่งทานและนำขบวนเดินคุ้มครองคณะหลวงจีนให้เดินทางต่อ โดยเมืองหวยหนานที่จะต้องเดินทางไปก็เข้าเขตซวี่โจวซึ่งใกล้ยังหมู่บ้านซีตี้ที่พวกนางต้องไปส่งแล้ว ทำเอาถานเจ๋อที่เริ่มแอบปวดบาดแผลบนร่างกายตัวเองแทบหายเป็นปลิดทิ้งเลยเชียว

          " มา! เดินทางต่อกัน!! "

          กลายเป็นคนขี้เกียจที่สุดดูกระตือรือร้นขึ้นมาเป็นคนแรกเสียอย่างนั้น ด้วยความอยากเร่งพักผ่อนมันจึงขี่ม้านำอย่างแข็งขัน เหล่าคณะหลวงจีนที่ต้องเดินเท้ามานานก็แทบไม่เอ่ยบ่นสิ่งใด ด้วยเพราะอย่างไรหลังจากที่ได้เห็นการคุ้มครองอย่างเต็มที่จากกลุ่มของเด็กสาวกู่จิ้นอิ๋ง เหล่าหลวงจีนก็รู้สึกวางใจมากทีเดียว

          เวลาล่วงเลยไปจนใกล้ยามโหย่วในที่สุดทั้งหมดก็เข้าเขตภูมิภาคซวี่โจวแล้ว และยังสมเป็นเขตที่กล่าวถึงการชุกชุมของเหล่าโจรจนชาวบ้านชาวเมืองต่างต้องการสิ่งช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจ เหล่าโจรโพกผ้าเหลืองกลุ่มใหม่นั้นก็ปรากฏตัวแทบจะทันทีที่เห็นขบวนคณะหลวงจีนที่กำลังเดินทาง ซึ่งกลุ่มโจรนี้ก็ได้ทำพฤติกรรมดักปล้นที่จิ้นอิ๋งรู้สึกคุ้นตามากกว่าที่หรูหนานจนนางเผลอผ่อนลมหายใจออกมา ก่อนเด็กสาวจะมาฉุกคิดได้ว่านางไม่ควรโล่งใจกับกลุ่มที่ดูเป็นคนไม่ดีไม่ใช่หรือ..

          .
          ฝั่งถานเจ๋อที่เห็นกลุ่มโจรมาดักเส้นทางไว้ทั้งที่เห็นตัวเมืองต่อไปอยู่ลิบ ๆ ก็แทบอยากจะกลอกตาให้รู้แล้วรู้รอด และเพราะกลุ่มโจรเหล่านี้มีพฤติกรรมทรามหยาบคล้ายกับกลุ่มที่เมื่อสวี่ซาง ถานเจ๋อจึงไม่คิดอยากเสียเวลากับพวกมันนั้น พุ่งตัวเหวี่ยงดาบสู้ทั้งบนหลังม้าเช่นเดิม และอาจด้วยความประหม่า หรือเพราะมีอาการปวดจากบาดแผลบางส่วนทำให้มันปล่อยโจรให้หลุดเข้าสู่กลุ่มคณะหลวงจีนมากกว่าสองครั้งที่ได้สู้กับโจรก่อนหน้า

          ทว่าโชคดีที่จิ้นอิ๋งก็ไม่ได้เป็นดรุณีน้อยไม่รู้วิถีกระบี่อย่างเก่า นางคอยช่วยปกป้องให้กลุ่มขบวนอีกชั้นหนึ่งแทนถานเจ๋อที่อ่อนแรงลงจนไม่สามารถมีโจรผู้ใดสามารถแตะต้องเหล่าหลวงจีนและรถม้าที่ภายในมีซูฮวาอยู่ได้เช่นเดิม

          แววตาสีนิลพลันทอดมองยังผู้ติดตามนางเล็กน้อยด้วยความติดห่วงว่าอีกฝ่ายจะไหวหรือไม่ กระนั้นสถานการณ์นางในตอนนี้นั้นควรจะห่วงตัวเองดีกว่า เด็กสาวจึงกลับมาตั้งสติสู้กับเหล่าโจรที่เหลือต่อจนพวกมันค่อยคอยโดนเพลงกระบี่ของจิ้นอิ๋งตีตวัดเกี่ยวใฟ้กระแทกหาจนดาบหลุดมือไปกันหมด เด็กสาวก็พลันยอมรามือไปด้วย ท่าทางไม่ได้มุ่งร้ายเพียงอยากให้พวกโจรหยุดมือเข้าปล้นชิงกลุ่มขบวนพวกนางเช่นนั้นทำให้พวกโจรที่ไม่สามารถเข้าปล้นยังกลุ่มเดินทางที่หมายตาเอาไว้อย่างปกติจำยอมรามือไปอย่างรวดเร็ว

          ท่าทางขลาดกลัวเหล่านั้นทำเอาดรุณีน้อยอดทอดมองตามไปไม่ได้ ทำเอาอดคิดไม่ได้ว่าอาจเป็นกลุ่มโจรโพกผ้าเหลืองที่เพิ่งลองเข้าดักปล้นชิงก็ได้ แม้มีฝีมือดาบกันทว่าก็ดูยอมแพ้กันง่ายดาย ถ้าไม่เพราะแค่อยากหาเหยื่อง่าย ๆ ก็หวาดกลัวว่าตัวเองจะถูกจับ เพราะเพียงแค่รู้สึกว่าตนจะแพ้พ่ายให้แก่คนที่ดักปล้นก็พากันหนีหายไปเสียเร็วรี่
          .
          .
          ในที่สุดคณะหลวงจีนและผู้คุ้มครองก็เดินทางมาสู่เมืองหวยหนานกันได้อย่างปลอดภัย ทางฝั่งถานเจ๋อที่แทบจะหมดแรงก็ขอตัวขึ้นไปพักในห้องทันทีที่จิ้นอิ๋งจองห้องได้ที่โรงเตี๊ยมซุ่นฉั่ว ทำเอาเด็กสาวอดยู่ริมฝีปากเล็กขึ้นมาอย่างขัดใจไม่ได้ที่อีกฝ่ายไม่อยู่รอทานอาหารเย็นเสียก่อน ทว่ากลับเป็นซูฮวาที่เอ่ยอาสาเอาอาหารไปให้และอาจช่วยดูแผลแก่ถานเจ๋อให้อีกแรง

          จิ้นอิ๋งถึงกับกระพริบตามองค้างอีกสตรีไปครู่หนึ่ง ริมฝีปากแทบเม้มเข้าหากลั้นรอยยิ้มเอาไว้ก่อนจะพยักหน้ารับกลับไปให้ซูฮวาดูแลได้ตามสบาย ส่วนเรื่องภัตตาหารเย็นของเหล่าหลวงจีนนั้นนางจะช่วยดูแลให้เอง ซึ่งลับหลังสตรีแซ่เหมยที่สั่งอาหารมาได้และเตรียมเอาไปส่งให้แก่อีกบุรุษของกลุ่มแล้ว เด็กสาวก็ถึงได้เผยรอยยิ้มดูชอบใจยกใหญ่ที่อย่างน้อยความกลัวบุรุษของซูฮวาก็ดีขึ้นมากเลยเชียวยามได้รู้จักถานเจ๋อ

          ในตอนที่ไปขอใช้โรงครัวของโรงเตี๊ยม ดวงหน้านวลจึงประดับยังรอยยิ้มชวนมันเขี้ยวไว้ตลอดเวลาจนเอ่ยขออนุญาตเถ้าแก่ไม่นานอีกฝ่ายก็อนุญาตอย่างรวดเร็วเลยเชียว แต่อีกเหตุผลที่ทำให้เจ้าของโรงเตี๊ยมเต็มใจให้จิ้นอิ๋งทำอาหารนอกจากรอยยิ้มชวนเอ็นดูนั่นแล้ว ก็มาจากการที่เหล่าคณะหลวงจีนที่มาด้วยนั้นเต็มใจเทศนาให้คนที่มาเยือนโรงเตี๊ยมหนึ่งบทระหว่างรอภัตตาหารจากนางนั่นเอง

          ซึ่งอาหารที่นางจะทำในมื้อเย็นนี้เป็นตับหมูผัดกระเทียมและข้าวสวยร้อน ๆ เนื่องจากทำได้ง่ายและรวดเร็วทั้งยังช่วยบำรุงร่างกายนางจึงได้หยิบยกมื้อนี้ขึ้นมาเตรียมถวายภัตตาหารแก่เหล่าหลวงจีน นอกจากนี้เพราะได้คนครัวมาช่วยงานอีกแรง ข้าวสวยจึงเสร็จไปก่อนอย่างรวดเร็ว ทางด้านกับข้าวนางได้เตรียมในส่วนของตับหมูเสียก่อน โดนหั่นเป็นชิ้นพอดีคำก่อนจะนำมาคลุกกับแผ้งให้ช่วยดูดซับเลือดอันเป็นสาเหตุให้เกิดกลิ่นคาวจนทั่วถึงได้นำไปล้างแป้งออกด้วยน้ำสะอาดจนน้ำใสถึงพักตับหมูเอาไว้ให้สะเด็ดน้ำ

          เสร็จสิ้นขั้นตอนนางก็เตรียมกระทะใส่น้ำมัน ระหว่างรอร้อนก็มาจัดการสับกระเทียม ตำพริกไทยรอเอาไว้ ยามน้ำมันเริ่มร้อนเพียงอ่อน ๆ จิ้นอิ๋งก็น้ำกระเทียมลงเจียวไฟอ่อนจนเหลืองกรอบและส่งกลิ่นหอมชวนทานนางถึงได้นำมาพักรอโรยหน้า หันไปอีกด้านคนครัวก็หยิบเอาตับหมูที่พักสะเด็ดน้ำมาให้อย่างรู้งาน เด็กสาวเอ่ยขอบคุณเล็กน้อยก่อนจะนำลงผัดดูคล่องแคล่ว ปรุงรสไม่รสเข้มหรืออ่อนเกินไปจนตับสุกนุ่มทั่วดีถึงนำลงจานและโรยด้วหอมเจียวที่ทอดเอาไว้แต่งหน้าก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

          " เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ! "

          น้ำเสียงหวานเอ่ยอย่างโล่งใจ ก่อนเป็นเหล่าเสี่ยวเอ้อร์เองที่อาสาเอาภัตตาหารเหล่านี้ไปถวายแก่คณะหลวงจีนที่ใกล้เทศนาเสร็จพอดี ซึ่งจิ้นอิ๋งก็พยักหน้ารับแข็งขันและก็เป็นทางฝ่ายดรุณีน้อยที่ขอตัวไปพักบ้างเช่นกัน นางเอ่ยสั่งอาหารจากทางโรงเตี๊ยมเพื่อเป็นการตอบแทนที่มีน้ำใจให้นางใช้โรงครัวไปด้วย

          จนหลังจากทานอาหารอิ่มเรียบร้อยก็ถึงเวลาแยกพักผ่อน ในห้องพักที่ยังไร้เงาของซูฮวาทำเอาจิ้นอิ๋งนึกอยากไปตามอีกฝ่ายขึ้นมา แต่สุดท้ายเด็กสาวก็คลี่ยิ้มอารมณ์ดีตัดสินใจตรงไปแช่น้ำอาบในถังไม้ที่ทางโรงเตี๊ยมเตรียมไว้ให้อย่างวางใจในตัวถานเจ๋อว่าจะไม่ทำอะไรสตรีแซ่เหมยเป็นแน่!


มอบ ตับหมูผัดกระเทียมและข้าวสวย ให้ คณะหลวงจีนทั้งหมด 7 ที่
ผลการประลองต่อสู้
| 1 2 3 |

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลงเฟิ่งฉิวหวง
ถุงหอมจูอวี๋
กระบี่
พู่หยกเลือดหงส์
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าเหลียง
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x3
x5
x2
x2
x1
x2
x2
x2
x1
x1
x27
x2
x38
x40
x50
x50
x40
x40
x50
x3
x22
x19
x31
x10
x50
x5
x5
x5
x1
x12
x1
x2
x5
x2
x9
x1
x8
x6
x6
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2021-9-30 22:59:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โรลพักขบวนสงฆ์ที่นี้&จีเทียนเต๋าแยกตัวไปตามเสียงเรียกปริสนา



"อีกนิดเดียวเท่านั้นนะทุกๆคนอดทนกันหน่อยนะยังไงเราก็ต้องเดินทางกันต่อไปแค่ข้างหน้านั้นก็จะถึงกันแล้วเราจะใกล้ถึงกันแล้ว!!!"

"ใช่อดทนกันหน่อยนะเดี่ยวข้าจะดูแลความปลอดภัยของทุกๆคนเองข้ากับต้าจงจะปกป้องพวกท่านทุกคนเองนะไม่ต้องเป็นห่วงไป"

ขณะที่เหล่าขบวนของคณะ สงฆ์นั้นกำลังพักที่โรงเตี๊ยมของเมืองห้วยหนานโดยที่เหล่าโจรโผกผ้าเหลืองนั้นก็ยังคงที่จะตามล่าพวกจีเทียนเต๋ายังไม่เลิกลาจนกว่าจะถึงหมู่บ้านหรือที่มีคนเยอะๆ

"เดี่ยวข้าจะต้องขอตัวไปก่อนข้ามีธุระที่สำคัญมากจะต้องทำมันเหมือนกับมีเสียงเรียกให้ข้านั้นจะต้องไปทำให้ได้เพราะแบบนั้นจงเหยียนกับท่านเหวินหยวนข้าขอฝากให้พวกท่านนั้นคุ้มกันขบวนสงฆ์แห่งนี้ด้วยอย่าให้ใครมาทำร้ายหรือว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นเด็ดขาดเดี่ยวข้าจะรีบไปรีบกลับให้พวกท่านนั้นรอข้าที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้ไปก่อนแล้วพอข้ามาพวกเราก็จะเดินทางไปยังหมู่บ้านซีตี้ด้วยกันข้าจะต้องฝากพวกท่านด้วยแล้ว"

"รับทราบครับท่านอาจารย์ข้ากับท่านเหวินหยวนนั้นจะปกป้องทุกคนในขบวนของเรานั้นให้ดีที่สุดอย่างแน่นอนข้าให้ท่านอาจารย์นั้นถนอมตัวเองด้วยขอให้ท่านนั้นเดินทางปลอดภัยครับ"

"เดินทางโชคดีนะสหายของข้าข้าจะรอท่านอยู่ที่นี้ถ้าไม่มีท่านเราจะไม่เดินทางไปไหนเด็ดขาด"

"ถ้าแบบนั้นข้าก็สบายใจฝากพวกท่านด้วยข้าต้องไปก่อน"

ก่อนที่จีเทียนเต๋าจะเก็บของที่จำเป็นและออกเดินทางไปตามเสียงเรียกทันที โดยที่ไม่ต้องรอจนนานเกินไปนั้นก็มีกลุ่มโจรที่บุกเข้ามายังที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้ แต่ว่าก็ต้านทานเหวินหยวนกับจงเหยียนไม่ไหวเพียงต่อสู้กันไม่ถึง50กระบวนท่าพวกกลุ่มโจรที่บุกเข้ามาต่างก็โดนคมหอกแทงขาแทงแขนจนไปไหรไม่ได้ พร้อมกับที่เจ้าหน้าที่มือปราบนั้นมาควบคุมตัวพวกนี้ทันทีโดยที้ต้องนับว่าโชคดีมากที่พวกมือปราบนั้นมาลาดตระเวนแถวนี้เลยสามารถมาห้ามพวกเหวินหยวนนั้นไม่ให้ลงมือกับพวกโจรโผกผ้าเหลืองนั้นหนักมากกว่านี้ไม่อย่างงั้นคงจะต้องมีคนตายอย่างแน่นอน








←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดไท่หมินลู่
เบ็ดตกปลา
คัมภีร์ไท่หมินลู่
ไก่ฟ้าทองแดง
หวีเซียวเฉิน
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าขาว
หน้ากากขาว
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x108
x8
x800
x800
x800
x70
x470
x100
x100
x4
x3
x3
x1
x7
x25
x860
x10
x790
x490
x200
x1
x100
x100
x100
x10
x1
x2
x1
x3
x4
x10
x920
x291
x494
x5
x388
x5
x6
x77
x100
x30
x900
x68
x1
x82
x98
x1
x96
x98
x1
x6
x2
x1000
x2
x3
x3
x3
x7
x8
x3
x100
x4
x100
x26
x24
x24
x26
x14
x600
x96
x100
x60
x100
x100
x440
x25
x2
x376
x11
x492
x9
x4
x99
x80
x79
x28
x2
x379
x75
x196
x571
x167
x100
x100
x50
x100
x100
x250
x50
x86
x13
x13
x7
x74
x6
x19
x5
x1150
x324
x17
x11
x10
x10
x490
x10
x2
x42
x62
x38
x1
x108
x35
x96
x99
x85
x505
x1
x598
x3
x3
x1
x8
x24
x404
x4
x102
x6
x24
x491
x288
x39
x90
x154
x8
x1
x10
x75
x10
x93
x500
x250
x150
x250
x550
x250
x3
x500
x242
x36
x18
x465
x1015
x164
x804
x804
x804
x804
x493
x314
x13
x36
x7
x498
x1
x10
x1
x2561
x628
x320
x260
x100
x15
x1
x6
x6
x150
x9999
x2
x7
x18
x5
x2
โพสต์ 2022-6-2 21:59:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย LiuLing เมื่อ 2022-6-2 22:42

                Open Character | เปิดตัวละคร
            หลิวหลิง | จวินเฉิง  •  LiúLing | 劉靈


                                 


                                 

                                

     วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป ดั่งสายน้ำไหลหลั่งไปมิคืนมา จากเด็กน้อยตระกูลเชื้อพระวงศ์แถวล่างผู้หนึ่งก็เติบใหญ่ย่างกายสู่หนุ่มวัยรุ่นรูปร่างสูงใหญ่แลสง่างาม นามว่า " หลิวหลิง จวินเฉิง "

    หนุ่มน้อยสกุลหลิวเมื่อก้าวสู่วัย 16 ปี หลังจากบิดา มารดาสิ้นชีวิตเสียแล้ว จึงตัดสินใจปิดจวนพร้อมกับนำทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งหมดแจกจ่ายให้กับคนใช้ในจวนให้กลับบ้านกลับช่องและหาอาชีพใหม่เสีย

" พวกพี่ต่างเป็นเพื่อนเล่นกับข้ามาตั้งแต่เด็ก ข้ารู้สึกเสียใจหนักที่ต้องจากและอำลา อันตัวข้ามีปณิธานที่ยิ่งใหญ่เหลือคนา จึงตัดสินใจสานฝันให้เสร็จสิ้น ข้าจึงนำทรัพย์สินทั้งหมดแจกจ่ายพวกท่านตามเหมาะสม ขอให้พวกท่านจงหางานใหม่ที่ดีเสีย ขอบใจที่อยู่เคียงข้างกันมา ข้าจะมิลืมบุญคุญเป็นอันขาด ! "

     หลิวหลิงกล่าวต่อทุกคนที่รู้สึกผูกพันธ์กันมาดั่งเช่นพี่น้อง วันนี้ตนต้องออกเดินทางสานฝันปณิธานสุดแสนจะยิ่งใหญ่นั้น จึงจำใจต้องอำลา จากกันด้วยความผูกพันธ์หลายปีนั้นช่างแสนเศร้ายิ่งนัก

    หลังจากตนปิดจวนเสร็จจึงสวมชุดคลุมเพื่อออกเดินทางพร้อมหมวกฟาง แลผ้าอดบริเวณส่วนหน้าด้านล่างเอาไว้ ก่อนจะนำทรัพย์สินที่หลงเหลือเพียงเล็กน้อยติดตัวออกไปด้วย เพื่อจำเป็นต้องใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ ใช้ในการเติมพลังปากท้อง หากไม่มีกิน " กองทัพก็จะไม่สามารถเดินได้ "

     ในขณะเดินทางอยู่นั้นพลันก็มองท้องฟ้า ณ ตอนนี้เข้าสู่ยามเย็น 申时辰 | เซินสือเฉิน | เสียแล้วจึงคิดแวะพักทานข้าวที่โรงเตี๊ยมเสียก่อนเดี๋ยวเดินทางไกลจักไม่มีแรงเอา แต่ก่อนจะเข้าโรงนั้นตนก็มองดูตะวันใกล้จะลับขอบฟ้าพร้อมกับกล่าวคำออกมาว่า :

" อันว่าแผ่นดินฮั่นปัจจุบันนั้นเละเทะ เสื่อมถอย ตับฮั่นหลิงตี้เป็นจักรพรรดิที่ไร้ความสามารถ เราผู้สืบเชื้อสายมาจากฮั่นชุนตี้จึงทนมิได้ที่จะต้องเห็นแผ่นดินเป็นเช่นนี้ ! "

   " ข้าพเจ้าขอสาบานหากไม่สำเร็จจะไม่ขอพบหน้าบิดาที่ยมโลกเป็นอันขาด ! "


                                 
  
                          ณ. โรงเตี๊ยมซุนฉั่ว

ตึก ๆ เสียงฝีเท้าเดินเข้าไปในร้านพลางสอดสายตามองหาโต๊ะสำหรับนั่งดื่มกิน เนื่องจากเวลานี้ก็ใกล้พบค่ำแล้วไฉนร้านเช่นนี้จะไม่เต็มเล่า ผู้คนมากมายต่างกระจุกอยู่ในร้านโดยส่งเสียงพูดคุยจอแจไม่ขาดสาย พลันก็เหลือบเห็นโต๊ะว่างเพียงหนึ่งที่จึงเดินไปวางสัมภาระยังที่ว่างนั้น ก่อนจะเดินทอดผ้าปิดหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าที่เรียวขาวงามดั่งเช่นสตรี

" พี่สาวช่วยเอาบะหมี่ชาม 1 ถ้วย กับ น้ำชาสำหรับหนึ่งที่มาให้ข้าด้วย "

ชายหนุ่มกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ทรงยั่วยวนใจรบกวนสตรีนางใดอื่นที่ได้พบจะต้องหลงใหลนั้นทำเอาแม่นางสาวใช้ในร้านใจหวั่นด้วยรูปทรงที่สง่างดงามทำเอาสาวคนนั้นพูดเกอะกะทันใด " อุ้ย......จ.......เจ้าค่ะ "

หลิวหลิงเห็นสาวคนนั้นหน้าแดงก่ำเนื่องด้วยรูปใบหน้าทีหล้อเหลาของตนจนทำให้นางเขินมิกล้าสบตา เป็นเช่นนั้นก็ยิ้มเขินไม่ตอบอันใดก่อนจะเดินไปนั่งที่ของตน ไม่ช้านักก็มีบุรุษผู้ทรงสง่าราวกับผู้มีความรู้เดินมาขอนั่งด้วยกับที่ของตนเนื่องจากโต๊ะส่วนมากเต็มแล้ว

" คารวะน้องชาย ข้าขอร่วมนั่งด้วยจักได้หรือไม่ ? "


หนุ่มคนนั้นกล่าวขึ้นพลางประสานมือคำนับอย่างเป็นมารยาทดี และ สูงส่ง หลิวหลิงจึงยิ้มให้พร้อมผายมือเชิญอีกฝ่ายนั่งลงร่วมพร้อมกล่าวอนุญาตให้ดื่มกินด้วยได้ตามสบาย .

                      " มาแล้วเจ้าค่าาาา "

ไม่นานเกินรอสาวใช้ก็หิ้วของที่สั่งไว้นำมาเสริฟ หลิวหลิงจึงกล่าวต่อว่า ช่วยจัดชุดน้ำชาพร้อมถามอีกฝ่ายว่าจะรับบะหมี่ด้วยรึไม่และอีกฝ่ายรับจึงจัดสั่ง 2 ชุดมอบให้แก่สหายที่ร่วมนั่งด้วยทันที สาวใช้รับคำก็เดินออกไปจัดแจง หนุ่มผู้นั่งร่วมด้วยนั้นจึงหันมาขอบคุณหลิวหลิง หลิวหลิงจากเอ่ยสนทนาขึ้นตามภาษาคนนั่งร่วมดื่มกินด้วยกัน

" มิเป็นไรขอรับ เรานั่งร่วมดื่มกินกันใยจะต้องทานคนเดียวด้วยเล่า สู้ร่วมดื่มกินด้วยกันยังดีเสียกว่าแถมยังเป็นการสร้างมิตรภาพแก่อีกฝ่ายด้วย ถึงเรามิเคยรู้จักกันมาก่อน แต่เมื่อได้นั่งร่วมกันแล้วเราผู้น้องก็เห็นท่านนั้นเป็นสหายผู้หนึ่ง "

บัณฑิตหนุ่มได้ยินเช่นนั้นก็ปล่อยรอยยิ้มออกมาพร้อมพยักหน้ารับคำตอบของอีกฝ่าย จึงกล่าวถามชื่อออกไปด้วยความสุภาพว่า :

" น้องชายผู้นี้นั้นช่างพูดช่างเจรจาทรงสติปัญญาเป็นเลิศ ข้าพเจ้าแซ่ : หมี่ ชื่อ :จู้ นามรอง : จือจ้ง ใคร่ขอถามนามของน้องชายผู้รูปโฉมสง่างามงามผู้นี้เสีย "


หลิวหลิงยิ้มพลางคำนับตอบกลับไปด้วยความสุภาพเช่นกัน อันตัวหลิวหลิงนั้นชอบคบหามิตรสหายเป็นประจำอยู่แล้วอีกทั้งยังชื่นชอบผู้มีความสามารถ แลใคร่ต้องการบัณฑิตมาเป็นกลุ่มสนับสนุนตนอีกทาง จึงกล่าวชื่อแซ่ และ นามให้อีกฝ่ายได้ทราบ

" คารวะท่านพี่ หมี่จือจ้ง ข้าพเจ้าแซ่ : หลิว นาม : หลิง ชื่อรอง : จวินเฉิง ขอคารวะท่านผู้มากความรู้ "

" เห้ย.... มิต้องขนาดนั้นหรอก ข้าเกรงใจน้องชายแย่ ........ หลิวหลิง หลิวจวินเฉิง อืม ! ใช่บุตรของหลิวเฉิงรึไม่ "


หมี่จู้ ถามออกมาดั่งเหมือนรู้จักครอบครัวของตนดี หลิวหลิงได้ยินดั่งนั้นจึงเอ่ยยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับด้วยความสุภาพว่า

" ใช่แล้วขอรับ ข้าคือบุตรของหลิวเฉิง กับ นางเสียวฟูเหริน "


หมี่จู้ ตกใจเล็กน้อยจึงคำนับค่อหลิวหลิงอีกคราพร้อมกล่าวประโยชน์สรรเสริญยกยอบิดาตนออกมา

" คำนับ ! ข้าพเจ้าได้ยินชื่อเสียงบิดาท่านมานานว่าเป็นคนดีมีจิตเมตตา และ ใจกว้างหาใครเปรียบได้อีกทั้งยังมีบุตรชายที่มีรูปโฉมสง่างดงาม ใคร่พบตัวท่านวันนี้ย่อมสมคำล่ำลือจริงๆ "

" มิขนาดนั้นดอกขอรับ อ่านั้นมาแล้วกับข้าวเรา งั้นก็ทานกันเถิด "


กล่าวจบทั้งสองจึงได้ลงมือทานบะหมี่พร้อมกันอย่างเอร็ดอร่อยจนสุดท้ายก็หมดถ้วยพร้อมกัน หมี่จู้ นั้นเป็นคนช่างสังเกตุอยู่แล้วจึงได้ถามออกต่อหลิวหลิงด้วยความสงสัยว่า

" ท่านจะไปที่ใดหรือ ? ข้าต้องขออภัยด้วยหากเป็นการล่วงเกินหรือเสียมารยาท  "

หลิวหลิงถอดหายใจเฮือกหนึ่งโดยไม่ได้ล่งงเกินอันใดต่อตนจึงตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า

" ณ.ปัจจุบันแผ่นดินนั้นไร้ความสงบสุข โจรชุกชุมเต็มไปหมด ราชสำนักขาดประสิทธิภาพ น้องเป็นเชื้อพระวงศ์ที่ทนมิได้จึงต้องการจะทำตามปณิธานนั้นคือ การช่วยเหลือราษฎรที่ทุกข์ยากลำบาก ปราบปรามความไม่สงบนำความรุ่งเรืองกลับมาสู่แผ่นดินราชวงศ์ฮั่นอีกครา นั้นละพี่หมี่จือจ้ง ข้าจึงเตรียมออกเดินทางนั้นแล "

หมี่จู้ ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าพร้อมรอยยิ้มที่ดูภูมิใจนัก จึงกล่าวสรรเสริญต่อหลิวหลิงว่า :

" สมคำร่ำลือ บุตรของหลิวเฉิงนั้นมีปณิธานที่สูงส่งเหนือคนทั่วไปข้าละนับถือยิ่งนัก เสียดายตัวข้ามีงานจึงมิอาจจะร่วมด้วยกับน้องได้ขออภัย
"

" มิเป็นไรขอรับ พี่หมี่จือจ้งเราคงต้องจากกันแล้วเช่นนั้นเพื่อเป็นการบอกลากัน ข้าจะจ่ายค่าอาหารให้ท่านในฐานะมิตรสหายที่รู้จักกัน คำนับขอลา !
"

    หมี่จู้ยังมิทันได้ปฎิเสธหลิวหลิงก็เดินเก็บสัมภาระออกจากแล้วเดินทางไปจ่ายเงินกับสาวใช้ ก่อนจะเอาปิดตรงส่วนล่างของหน้าแล้วเดินออกไปด้วยท่วงท่าสง่างาม หมี่จู้ที่มองก็ได้อมยิ้มพร้อมกล่าวขอบใจในน้ำใจของหนุ่มผู้นี้อย่างสุดใจ

   ชายหนุ่มหลิวหลิง เดินเท้ามุ่งออกจากเมืองไปทิศตะวันตก อันเป็นที่ตั้งเมืองหรูหนานเพื่อจุดหมายครั้งใหม่ในการก่อตั้งสร้างตัว

                  ________________________
   เปิดใช้เอฟเฟกต์ ตามแต่ละอย่างของตัวละคร
                     • ความทะเยอทะยาน

    + 10 ความศรัทธาทุกครั้งที่โรลเผยแผล่ลัทธิ
                        • ลักษณะงดงาม
             +6 Point เมื่อโรลบริหารเสน่ห์         


                    _______________________
                ค่าความสัมพันธ์ [ 183 ] หมี่จู้
                                
               -  ปีระกา ถูกโฉลก ปีมะโรง
                       + 20 ความสัมพันธ์
                - พูดคุยประจำวัน
                       + 5 ความสัมพันธ์
               - ธาตุไม่ถูกกัน
                       - 15 ความสัมพันธ์




       | ขอแจ้งสิทธิรับ  Level  5 |






←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ทวนสามพยัคฆ์
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x7
x1
x1
x1
x5
x1
x2
x1
x1
x10
x1
x10
x29
x8
x2
x4
x4
x5
x1
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

อย่าลืมเข้าสู่ระบบนะจ๊ะ เข้าสู่ระบบตอนนี้ หรือ ลงทะเบียนตอนนี้

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้