❀ เควสส่งข้าวกล่องให้พี่ชาย ❀ ระหว่างการเดินทาง
ยามเดินทางกลับเมืองลั่วหยาง มีช่วงหนึ่งที่ทั้งคู่หยุดอยู่ยังเขตป่าแถวเมืองฉางอันเพื่อให้ผู้ติดตามได้สอนเพลงกระบี่แก่ตัวจิ้นอิ๋งในระดับพื้นฐานจากความที่อยากเรียนรู้เพื่อปกป้องตัวเองของนางให้ได้ในระดับหนึ่ง กระทั่งจิ้นอิ๋งจดจำได้ขึ้นใจถึงท่วงท่าพื้นฐานเหล่านั้น ก็เร่งเดินทางต่อจนผ่านมาถึงตัวเมืองหงหนง
ความหวาดหวั่นที่มีต่อโจรโพกผ้าเหลืองคราที่แล้วที่ค่อนข้างคุกคามตัวนางทำให้จิ้นอิ๋งขอให้ตัวถานเจ๋อพาอ้อมเส้นทางไป กระทั่งได้ยินเสียงคล้ายกลุ่มคนเคลื่อนเข้าหาแผ่วเบาที่คลอรับกับเสียงฝีเท้าม้าอย่างแนบเนียนทำให้ทั้งสองต่างผลัดกันแลกเปลี่ยนสายตาและยิ่งเลี่ยงเส้นทางออกมาไกลจนมาโผล่ยังเขตปิงโจว ตัวจิ้นอิ๋งรีบเร่งเฮยเซ่อหรือเจ้าม้าสีทมิฬคู่ใจเข้าไปยังเขตด่านฉีกวนโดยมีไป๋เอ้อร์ที่ถานเจ๋อเร่งตามมาติด ๆ นางกอดไป๋เอ้อร์ในอ้อมแขนไว้แน่นขึ้นด้วยความระแวดงระวังและคาดหวังว่าจะมีนายทหารยังหนาด่านนั้นให้เสียงที่ตามมาค่อยคอยถอยไป กระนั้นกลับไม่เป็นอย่างที่นางคิดแม้แต่น้อย .
.
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ตัวจิ้นอิ๋งและผู้ติดตามหลงกลหลบเลี่ยงเสียงนั้นอย่างไม่รู้ว่ากำลังถูกชักจูง จนรู้ตัวอีกทีทั้งหมดก็มาเยือนยังหน้าเคหาสน์หลังใหญ่ที่รอบข้างเงียบสงบและร้างผู้คน และนั่นทำให้ดวงหน้าของหล่อนซีดเซียวลง รับรู้ได้ในทันทีที่ว่าเสียรู้เข้าเสียแล้ว ยามบอกให้ถานเจ๋อรีบเร่งย้อนกลับก็กลายเป็นถูกล้อมด้วยโจรโพกผ้าเหลืองไปเสียสิ้น และจากการคาดคะเนด้วยสายตาเหล่าโจรกลุ่มเล็กเพียงสามคนนี้ดูไม่ได้คุกคามนางหรือผู้ติดตามคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ พวกมันขู่ขรมก่อนเร่งให้ส่งของทั้งหมดในกระเป๋าเดินทางของจิ้นอิ๋งให้
แต่เพราะภายในล้วนมีแต่ของที่นางอยากส่งมอบให้ผู้อื่นรวมถึงของที่นางได้รับมาจากผู้อื่นอีกหลายส่วน ในห้วงความคิดพลันนึกรั้นขึ้นมาว่าไม่อยากมอบให้
ยามเห็นท่าทางลังเลบนดวงหน้าหวาน พวกโจรจึงเร่งห้อมล้อมรุมทันทีไม่มีบอกกล่าว ถานเจ๋อที่คอยระวังให้พลันเร่งไป๋เอ้อร์พุ่งเตรียมชนเหล่าโจรจนล่าถอยจากม้าของผู้เป็นนาย นางมองตามถานเจ๋อที่สู้กลับยังหลังม้าด้วยอารามติดตระหนกและตื่นตาปนกันไป ก่อนจะต้องหันกลับมาสนใจยังโจรผู้หนึ่งที่อาศัยจังหวะชุลมุนจู่โจมนางหวังเอาของบ้าง ซึ่งจิ้นอิ๋งก็ปัดป้องด้วยกระบี่ได้อย่างทันท่วงที
และดูเหมือนการสอนของถานเจ๋อจะไม่เสียเปล่า นางที่ได้เรียนรู้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม ความตระหนกเลือนหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ แต่แววตาสีนิลนั้นไร้ระลอกคลื่นความหวาดหวั่นอย่างสิ้นเชิง สมาธินางคล้ายยิ่งเพิ่มระดับไม่ว่อกแว่ก เคลื่อนไหวเท่าที่จำเป็นและสามารถตอบกลับได้อย่างฉลาดเฉลียว กลายเป็นโจรโพกผ้าเหลืองที่บุกรุกหาหญิงสาวเองเริ่มตระหนกว่านางที่ท่าทางเป็นเพียงคุณหนูเรียบร้อยผู้หนึ่งกลับใช้เพลงกระบี่แสนดาษดื่นได้ดีกว่าที่คาด
กระทั่งผู้ที่ดูเป็นหัวหน้าได้สู้กับจิ้นอิ๋งจนเสียท่าล้มกับพื้นพลันถูกกระบี่ชี้หน้าให้ชะงักงันไป เหล่าผู้ตามอีกสองที่ไม่อาจสู้ถานเจ๋อได้เช่นเดียวกันพลันวางมือดูยอมโอนอ่อนยอมแพ้ จิ้นอิ๋งที่ไม่ได้หมายจะเอาชีวิตอยู่แล้วได้แต่ถอนหายใจแผ่ว เขี่ยเอาปลายกระบี่เอาผ้าโพกบนหน้าผากอีกฝ่ายจนหลุดออกจากศีรษะผะแผ่ว
" ข้าจะไม่เอาความพวกท่าน.. เห็นแก่ที่พวกท่านดูไม่ได้มีเจตนาจะคร่าชีวิตเพียงแค่อยากได้ของก็เท่านั้น… ไยกลุ่มคนโพกผ้าเหลืองเช่นพวกท่านถึงเปลี่ยนไปกันเช่นนี้นะเจ้าคะ "
ปลายเสียงเอ่ยหาอย่างตัดพ้อเล็กน้อยก่อนจะผละกระบี่พลางพเยิดใบหน้าให้ทั้งสามได้จากไป กลุ่มโจรที่ได้ยินคำพูดคำจาไร้การดูหมิ่นหรือโกรธเกรี้ยวใด ทั้งยังแฝงความผิดหวังที่บ่งบอกว่าหญิงเบื้องหน้าพวกมันเคยมองกลุ่มคนกลุ่มนี้ในแง่ดีมาก่อน ความรู้สึกกระดากพลันฉาบจางบนใบหน้าของพวกมันเสียได้
" ขอบคุณคุณหนูที่เมตตาพวกเรา "
ผู้เป็นหัวหน้าลุกผุดลุกร่างที่ประดับรอยแผลฟันจากกระบี่บางจุดขึ้นมาอย่างทุกลักทุเลพลางค้อมเอ่ยหาจิ้นอิ๋งอย่างหนักแน่น ความใจอ่อนก็ลุกลามจนนางเผลอเม้มริมฝีปากเล็กจนระเรื่อฝาด หันไปคว้าเงินในถุงของตนออกมาก่อนจะลงจากม้ามาส่งยื่นให้อีกฝ่าย
" นำไปรักษาแผลพวกท่านนะเจ้าคะ "
หลังเงินหลายตำลึงเงินถูกมอบให้ โจรทั้งสามดูตกใจไม่น้อย พวกมันมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่ ก่อนหนึ่งในนั้นจะเอาของมอบกลับให้จิ้นอิ๋งบ้าง กลายเป็นซื้อขายส่งของกันไปเสียอย่างนั้นให้นางเผลอหลุดหัวเราะแผ่วยามมองตามหลังโจรที่เร่งจากไปหลัง ถานเจ๋อที่เห็นก็แทบหน้าคล้ำไปเล็กน้อย
" เอาเงินให้พวกมันไปทำไมท่านหญิง ท่านก็บาดเจ็บนะ "
" พวกเขาก็บาดเจ็บเพราะข้าเช่นเดียวกันไง.. เอาน่ะ แค่ไม่กี่ตำลึงเงิน ไม่ตายก็ยังหาใหม่ได้ถ้ายังรู้จักทำมาหากิน... กลับเมืองลั่วหยางเถิด ข้าจะได้ทำแผลด้วย.. หวังว่าทางที่เจ้าพาอ้อมคงไม่เป็นแบบนี้อีกหนนะถานเจ๋อ "
เอ่ยน้ำเสียงกลั้วขำใส่ผู้ติดตาม ท่าทางที่ดูอารมณ์ดีขึ้นยามเมื่อสามารถช่วยเปลี่ยนท่าทางของเหล่ากลุ่มคนโพกผ้าเหลืองได้เพียงทีละน้อยนั้น แม้ไม่มากมายหรือส่งผลอะไรเลย แต่จิ้นอิ๋งก็รู้สึกดีอยู่ดีที่อย่างน้อย ๆ ก็มีบางคนที่ยังฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าอุดมการ์แรกของพวกเขานั้นเป็นสิ่งที่ดีและควรสานต่ออย่างเหมาะสมต่อไป
มอบเงิน 100 ตำลึงเงินให้แก่ กลุ่มคนโจรโพกผ้าเหลืองที่สู้แพ้ +1 Point ทุกครั้งที่โรลให้อภัยผู้อื่น +15 EXP ทุกครั้งที่โรลแบ่งปันข้าวของ บริจาคด้วยความเมตตาให้ผู้อื่น
|