[ด่านตงกวน] หอหงส์ทะยานฟ้า

[คัดลอกลิงก์]
ไม่ระบุชื่อ  โพสต์ 2021-10-27 20:30:04 |โหมดอ่าน

หอหงส์ทะยานฟ้า
{ ด่านตงกวน }






【หอหงส์ทะยานฟ้า】

ร่ำลือกันว่ามีเศรษฐีผู้มั่งคั่งไร้ทายาทสืบสกุล
มาสร้างสถานที่แห่งนี้ไว้ มันวิจิตงดงามราวกับ
ตำหนักของหวาง กระทั่งหอนางโลมของลั่วหยางยังมิสู้เท่าที่นี่




เถ้าแก่ หยาง ฮวาเจี้ยน
อุปนิสัย
หยางฮวาเจี้ยนเป็นคนชอบเข้าสังคม
มีเพื่อนฝูงมากหน้าหลายตา
เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ขยันทำงาน
รักในการดูแล เอาใจใส่กิจการของตนเอง
และยังใจกว้างอีกด้วย







ไม่ระบุชื่อ  โพสต์ 2021-10-27 20:30:43
[การใช้บริการสตรีในหอ]




(1) ทุกครั้งที่ท่านมาใช้บริการ หากจะใช้บริการสตรีในหอแบบส่วนตัว

(2) ค่าตัวสตรีในหอ รับใช้บุรุษทุกอย่าง มีด้วยกัน 2 รูปแบบ
- แบบชั่วคราว 1 ชั่วยาม (2ชั่วโมง) : 40 ตำลึงเงิน+ภาษีเมือง [เริ่มต้น 7%] สามารถลดความเครียดได้ 40 หน่วย
- แบบค้างคืน: 100 ตำลึงเงิน+ภาษีเมือง [เริ่มต้น 7%]  ~ สามารถลดความเครียดได้ 90 หน่วย

(3) ค่าตัวสตรีในหอ ไม่ขายตัวขายแต่ศิลปะ มีด้วยกัน 2 รูปแบบ
- แบบชั่วคราว 1 ชั่วยาม (2ชั่วโมง) : 15 ตำลึงเงิน+ภาษีเมือง [เริ่มต้น 7%] สามารถลดความเครียดได้ 15 หน่วย
- แบบค้างคืน: 60 ตำลึงเงิน+ภาษีเมือง [เริ่มต้น 7%]  ~ สามารถลดความเครียดได้ 60 หน่วย

* กรณีซื้อให้ ผู้ติดตาม *
* หากเป็นนางโลมทั่วไป ได้รับ +10 EXP , (หากเลือกแบบขายตัวได้โบนัสเพิ่ม) +3 Point *
* หากเป็น NPC นางโลม ตัวท๊อป ได้รับ +15 EXP , (หากเลือกแบบขายตัว ได้โบนัสเพิ่ม) +6 Point *

(4) โปรดเขียนโรลเพลย์ใช้บริการด้วยภาษาที่ไม่อนาจาร ลามกจนเกินไป หากใครอยากระบายความอดอั้นสนองนี๊ดตนเอง
ทางทีมงานก็ไม่ได้ว่าอะไรให้อิสระท่าน แต่ขอให้ท่านให้คลิกที่ไอคอน กุญแจ เพื่อล็อกโพสต์ ตั้งโพสต์เป็นแบบส่วนตัว ไม่ให้โพสต์เป็นสาธารณะ





←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x12
x5
x636
x241
โพสต์ 2021-10-29 15:34:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สำราญใจ

        ผ่านพ้นเขตแดนภูมิภาคเหลียงโจวเข้าสู่ภูมิภาคกวนจง  นับว่าเป็นการเดินเท้าอันทรหดสำหรับหลี่ซีซวนแล้ว  ไม่แคล้วโดนบิดาคาดโทษฐานพาคนชราเข้าไปในสถานที่อันไม่ควรนำพา  ให้เขาทำอย่างไรได้ในเมื่อตัวเขาเองมันเครียดและล้าจากการเดินทาง  ใช่ว่าจุดนี้เขาไม่รู้ทั้งยังจ้างสตรีดูแลเป็นอย่างดี  ทุ่มทุนไปไม่น้อยแล้ว  บิดาตำหนิบุตรเป็นเรื่องชอบแล้ว  กำชับด้วยว่าหากไม่กลับไปบ้านจะโดนตัดออกจากวงศ์ตระกูล  แต่ไหนแต่ไรมาหลี่ซีซวนก็ไม่ได้เป็นที่พึงใจของคนในตระกูลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  เถ้าแก่หลี่ห่วงบุตรและรักก็จริงแต่ใจเอนเอียงเข้าหาบุตรีมากกว่า  มีแต่มารดาที่เอ็นดู  ถนอมน้ำใจบุตรชายโดยตลอด  ไม่กลับไปคงไม่ทำให้วงศ์ตระกูลต้องเสื่อมเสียเกียรติหรอก  หลี่หย่งเมี่ยวต่างหากคือหน้าตาของตระกูลโดยแท้จริงขาดหลี่ซีซวนไปซักคน  คงไม่กระเทือนใจบิดา  คนชรากล่าวด้วยความไม่รู้ดั่งเด็กที่เจออะไรมาแล้วเล่าให้คนในบ้านฟังด้วยความตื่นเต้น  แต่ไหนแต่ไรมาบุตรชายกระทำสิ่งใดบิดาจะหลับหู หลับตาลงข้างหนึ่ง  ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น  แล้วนิ่งเงียบไม่พูดจา  ผู้ใดกล่าวสิ่งใดถึงคนในบ้านจะบอกปัดออกไปด้วยว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง  ความเข้มงวดของเถ้าแก่หลี่คนในตระกูลรับรู้กันทั่วขนาดบุตรีรักดั่งดวงใจยังเคยโดยลงโทษมาแล้ว  ลงโทษด้วยการประลองปัญญาจบลงด้วยบิดาไม่อาจเอาชัยเหนือบุตรีได้  
        ห้วงความคิดทั้งหลายในสมองของหลี่ซีซวน  ทำให้เดินทางเข้ามาถึงด่านตงกวนพอดีและเป็นด่านที่คึกคักกว่าด่านเฉินซาง  คนมากหน้าหลายตา  พลุ่งพล่านยิ่งนัก  สิ่งที่สะดุดตามากที่สุดไม่พ้นอาคารหลังหนึ่งที่มีสถาปัตยกรรม  ความวิจิตร  ราวกับตำนักหรือวังของใครซักคนหนึ่ง  โดดเด่น  ตระการตา  หลี่ซีซวนเดินเข้าไปชมดูตรงหน้า  ไม่คาดคิดว่าจะเป็นหอนางโลมสุดอลังการเช่นนี้  มันอาจจะเป็นหอนางโลมที่งดงามที่สุดเท่าที่คนอย่างหลี่ซีซวนเคยใช้บริการ  เดินแบกหญิงชราเข้ามาด้านใน  ภายในมันตกแต่งเหมือนอยู่ในวังหลวง  ความวิจิตรนี้มีเพียงวังหลวงที่สามารถเปรียบเทียบได้  เขามอบหญิงชราให้กลุ่มสตรีช่วยดูแลเช่นที่เคยทำมาทุกครั้ง  หนนี้จ่ายหนักเป็นพิเศษ  ระหว่างทางจะเดินขึ้นไปชั้นบน  ตรงกลางโถงของหอนางโลม สร้างด้วยพื้นยกสูงเป็นวงกลมมีบันไดขนาดเล็กสี่ทาง  หญิงสาวนางหนึ่งกำลังระบำด้วยท่าทางอ่อนช้อย  เขาเดินขึ้นมามองหาห้องว่างซักห้องหนึ่ง เดินจนเกือบจะท้อใจจนได้ห้องหนึ่งมาภายในห้องตกแต่งไว้อย่างหรูหราเช่นกัน  คาดว่าเถ้าแก่ของหอนางโลมที่นี่คงร่ำรวยมิใช่น้อย  
        หลี่ซีซวนนั่งลงเบาะนุ่มสัมผัสความหรูหราของที่นี่  ดื่มด่ำบรรยากาศ  เสพสุขกับห้วงแห่งความเมามายชนิดหนึ่ง  บริกรนำชุดน้ำชามาวางบนโต๊ะเบื้องหน้า  ตามหลังมาด้วยสตรีผู้มีรูปโฉมงดงาม  ไม่แปลกใจหากบางคนเลือกจะทุ่มเงินเพื่อให้สตรีนางหนึ่งพึงใจในตนเอง  นางนั่งลงตรงเบาะหนุ่มเบื้องหน้า  สายตาสอดประสานกันดั่งต้องการหยั่งเชิงซึ่งกันและกัน  เขาหรี่ตามองเล็กน้อยพลางส่งยิ้มให้  สงครามสายตาจบลงด้วยทั้งคู่ไม่แสดงอาการอันใดออกมา  นางนั่งเล่นผีผาขับกล่อมบรรเลง  เลือกไม่พูดจากับอีกฝ่ายและเขาก็เลือกไม่สนทนาเช่นกัน

ไม่อยากสับสนระหว่างถูกผิด  โดนหักหลังอย่างคาดไม่ถึง

ดอกไม้ในใจเหี่ยวเฉา  เวลาไม่หวนกลับ

อยากจะล้างความลุ่มหลง ปัดฝุ่น สาเกอีกหม้อกับเจ้ามึนเมา

ไม่อยากสับสนระหว่างถูกผิด โดนหักหลังอย่างคาดไม่ถึง

ดอกไม้ในใจเหี่ยวเฉา  เวลาไม่หวนกลับ

ความทรงจำไป ๆ มา ๆ ทำร้ายหัวใจดวงนี้ไม่ได้

ขอเพียงมีชีวิตที่เหลืออยู่โดยไม่เสียใจ โบยบินไปกับกลิ่นหอมของดอกไม้

หม้อสาเกและฝุ่น หนึ่งความคิดไปมาตลอดชีวิตที่เหลือของฉันโดยไม่เสียใจ

ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง เกิดและดับ งาม ถูกและผิด เมาอีกครั้งเมื่อดอกไม้บาน

ความทรงจำ การเกิดและการตายได้สิ้นสุดในใจของข้า

มองย้อนกลับไปและชิมสุราที่ค้างอยู่ในคอ ขอให้เวลาแห่งชีวิตไม่เหี่ยวเฉา

เมาอีกแล้วเมื่อดอกไม้บาน ขอให้เวลาแห่งชีวิตไม่เหี่ยวเฉา
        นับว่าเป็นครั้งแรกสำหรับหลี่ซีซวนที่ไม่ได้อยู่ดื่มด่ำหรือสนทนาต่อ  หลังจากสตรีขับขานบทเพลงเสร็จสิ้น  ลุกขึ้นจากเบาะนุ่มเดินออกจากห้องไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นในห้องนั้น เขาเดินลงมารับหญิงชราแบกขึ้นหลังเดินทางออกจากหอนางโลมสุดหรูหรา








←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ตำราเลี่ยจื่อ
ม้าเฟิ่งหวง
กระบี่ร้อยกฎ
เตากำยาน
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x55
x2
x4
x3
x1
x3
x8
x3
x15
x19
x20
x20
x10
x1
x1
x1
x1
x9
x6
x10
x1
x2
x30
x3
x10
x2
x1
x3
x15
x35
x2
โพสต์ 2021-10-31 16:25:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Lizixuan เมื่อ 2021-10-31 16:27

เพียงสุราและนารี
        เขาเพิ่งได้ม้าเฟิ่งหวงตัวใหม่มาจากหญิงชรามันดูสง่างามสมยอดอาชาโดยแท้  แต่เขายังคงขี่ม้าเหลียงไปแทนก่อนเพราะยังไม่ได้ทำความคุ้นเคย  รสชาติของการไม่ได้ควบม้ามาหลายวันทำเอาต้องมีการปรับตัวเล็กน้อย  พอข้ามฝั่งมาได้แวะเข้าด่านตงกวนก่อนเดินทางข้ามแม่น้ำลงใต้กลับบ้าน  ระหว่างทางมีความรู้สึกว่ามึนหัวอาจมีอาการปวดหัวแทรกซ้อนตามมา  จึงแวะเข้าด่านตงกวนเสียหน่อย  แทนที่จะเข้าโรงหมอเพื่อรักษาอาการดังกล่าว  เลือกเข้าหอหงส์ทะยานฟ้าแทน  สถานที่ที่เพิ่งเข้ามาใช้บริการไม่นานนี่เอง
        เสียงควบม้าในจังหวะไม่เร่งไม่ร้อนมาถึงด้านหน้าของหอนางโลม  ผูกสายบังเหียนม้าไว้แน่น  เดินเข้ามาด้านในที่ตกแต่งเหมือนวังของหวางผู้หนึ่ง  ท่วงท่ามาในมาดของบัณฑิต ไม่สนใจคนรอบข้าง  เพียงตอนที่มาครั้งแรกต้องใส่ใจผู้เฒ่า  ไม่ลอบสังเกตคนไว้บ้างอันตรายจะถึงตัวได้ง่าย  เดินขึ้นบันไดชั้นสองพลางสั่งให้นำสตรีที่คุยด้วยได้ตามไปที่ห้องด้วย  ความชำนาญในการเข้าหอนางโลม  ตอนนี้หลี่ซีซวนจัดว่าคล่องแคล่ว รู้งานจำพวกนี้มากขึ้น  
        หลี่ซีซวนได้ห้องเกือบท้ายสุด ด้านในเหมือนไม่ค่อยมีคนมาใช้บริการ  มันสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบ  มันอยู่เกือบจะท้ายสุดผู้ใดอยากเดินมาถึงตรงนี้กัน  นั่งลงบนเบาะนุ่ม  บริกนำสุราหนึ่งกาเข้ามาวางลงตรงหน้า  เพียงไม่กี่นาทีให้หลัง  สตรียิ้มอ่อนหวานเดินเข้ามาให้ห้อง  นั่งลงวางผีผาพลางรินสุราส่งให้หลี่ซีซวน
     "ท่านมาหนที่แล้ว สตรีมิถูกใจรือ? หนนี้จึงเจาะจงคุณสมบัติ"  ในหมู่สตรีผู้ขายศิลปะที่พายายผู้เฒ่ามาหอนางโลม  มันเป็นที่โจทย์กันไปทั่ว  เพราะจ้างให้ดูแลคนแก่อย่างไม่กลัวเงินในกระเป๋าจะพร่อง
     "ดั่งข้าประลองพลังจิตอย่างไรอย่างนั้น  แม้ส่วนที่เหลือจะถูกใจข้าก็ตามที"  เหน็ดเหนื่อยสิ่งใดมิสู้เหน็ดเหนื่อยด้วยประลองกำลังจิต  ใช้สายตาสื่อสาแทนวาจา  เห็นเขาเป็นผู้วิเศษหรืออย่างไร ขับขานเสนาะหูแต่มิถูกใจ

มีแต่ผู้คนไต่ถาม  เหตุใดเจ้าจึงหลงรักผู้มาเยือนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า

เพราะในที่สุดแล้ว  เขาก็เห็นเจ้าเป็นแค่ที่พักพิง

แล้วเหตุใดผู้คนล้วนแต่ไต่ถาม เขาอาจจะทิ้งเจ้าไป และจากเจ้าไปแสนไกล

ล้วนมีแต่ผู้คนที่เฝ้าถาม  ว่าเจ้าจะออกเดินทางไปที่แห่งใด

ไร้ซึ่งคำตอบ แต่เจ้าก็ยังต้องการเดินทางข้ามน้ำข้ามภูเขา

ข้ากลัวเพียงอย่างเดียว  ถ้าเข้าทิ้งเจ้าไปแล้วเจ้าจะเป็นเช่นไร

แล้วจะเจ้าไปกับเขา เจ้าจะคิดถึงบ้านเจ้าที่เคยอยู่ไหม

แล้วถ้าเขาไปอยู่ในโลกหลังความตาย  เขาจะจดจำเจ้าได้อย่างไร

ดินที่อยู่ในหัวใจ  ปลูกดอกไม้ที่บานสะพรั่งและหอมหวนเกินบรรยาย

แม้ว่าในความฝันจะมีถ้อยคำที่ยากจะเอ่ยมันออกมาให้ใครรู้

ถ้อยคำเหล่านั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากคำว่า "ใช่หรือไม่"

สามชีวิตพยายามเดินทางไปทั่งสามภพ จนเท้าของพวกเขาบอบบช้ำ

เลือดสีแดงชาดที่หยดลงพื้นดิน  ทำให้ดอกไม้บานเป็นสายทาง

รางกายของพวกเขาเริ่มพังทลาย แตารอยยิ้มและคำพูดนั้น ก็ยังฝังใจในอดีต

เหลือเพียงประโยคสุดท้ายที่พูดว่า "เจ้าคือที่พักพิงของข้า"
         "หวังว่าข้าคงมิได้ทำให้คุณชายต้องมัวเมาหรอกนะ เจ้าค่ะ"  นางทำกิริยานอบน้อมเป็นที่ถูกใจของชายพเนจร  พอจะรู้ว่าหากทำสิงใดถูกจุดและเป็นที่พึงใจ  อย่างอื่นล้วนราบรื่น  ชายผู้นี้มิใช่คนเข้าถึงได้ยาก  แต่ปิดกันเฉพาะคนที่ทำให้สบายใจและถูกใจเท่านั้น  ความสำราญที่แสดงออกมานั้นต่างหากคือฉากหน้าที่แสดงไว้ปิดบังตัวตน  นี่ต่างหากคือความน่ากลัวโดยแท้จริง
     "สุรากาเดียวใยทำให้ข้าเมามายได้" เสียงหัวเราะเบิกบานใจดังลั่นทั่วห้อง  ไม่สนใจผู้ใดด้านนอกแม้แต่น้อย  สนทนาอีกเพียงครู่เดียว  ลุกเดินออกจากห้องไป  ทำเอาสตรีงุนงงต่อการกระทำของเขาเป็นยิ่งนัก  เขาเดินออกมายืดเส้น ยืดสายนอกหอนางโลม  แล้วควบม้าออกจากด่านมุ่งสู่ท่าเรือเตรียมกลับเจียงหนาน

ลักษณะนิสัยใจดำ


+35 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นแก่ตัวไม่สนใจใคร











←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ตำราเลี่ยจื่อ
ม้าเฟิ่งหวง
กระบี่ร้อยกฎ
เตากำยาน
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x55
x2
x4
x3
x1
x3
x8
x3
x15
x19
x20
x20
x10
x1
x1
x1
x1
x9
x6
x10
x1
x2
x30
x3
x10
x2
x1
x3
x15
x35
x2
โพสต์ 2022-5-19 00:12:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เฉินเฟิงได้นำขบวนมาถึงด่านตงกวนได้โดยไม่มีอุปสรรคอะไร นั่นก็นับว่าเป็นเรื่องดีแต่ปัญหาจริงๆคือต่อจากนี้ต่างหากเพราะเขาต้องผ่านด่านตรวจคนเพื่อจะเดินทางไปต่อ ถึงตัวเฉินเฟิงจะเชื่อมั่นในตัวสหายเขาก็ตามแต่พอใกล้จะถึงจุดตรวจก็ชักกังวลขึ้นมา



"ไม่ต้องห่วงนา ด่านตรวจพวกนี้ถ้าไม่อยู่ในภาวะสงครามไม่ค่อยตรวจจริงจังอะไรนักหรอกแถมเราก็ไม่ได้พกของผิดกฏหมายอะไรมาด้วยยังไงก็ผ่านได้สบายอยู่แล้ว"


อู่เว่ยยืนยันเพื่อช่วยให้เฉินเฟิงสบายใจ ก่อนที่ขบวนพ่อค้าปลอมๆเขาจะมาถึงจุดตรวจแล้ว


"มากันหลายคนเลยนี้ เป็นพ่อค้าเหรอจะไปไหนล่ะแล้วมีใบอนุญาติไหม"


ทหารที่ด่านก็เริ่มถามคำถามตรวจสอบทันที ซึ่งอู่เว่ยที่เตรียมตัวไว้แล้วก็ได้มอบใบอนุญาติปลอมๆให้พวกทหารดู


"พวกเราเป็นพ่อค้าที่เมืองไท่หยวน จะเดินทางไปขายผ้าแพรที่เมืองหลงซีขอรับ ส่วนนี้ใบอนุญาติข้า"


อู่เว่ยยิ้มอย่างเป็นมิตรขณะตอบคำถามโดยไม่ติดขัดอะไรดูเป็นธรรมชาติมา ผิดกับเฉินเฟิงที่รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องขณะมองดู


"อืม.. ไม่ค่อยเห็นพ่อค้าจากเมืองไท่หยวนผ่านมานานด้วยสิ เอาเถอะใบอนุญาติไม่มีปัญหาอะไรเพราะงั้นผ่านไปได้"


พวกทหารที่ดูจะไม่ใส่ใจการตรวจเท่าไหร่ จึงปล่อยพวกเขาไปง่ายๆโดยไม่คิดซักไซร้อะไรเพิ่มเติมทำให้เฉินเฟิงโล่งอกขึ้นมา


"เห็นไหม บอกแล้วว่าเรื่องแค่นี้สบายมาก"


พอผ่านด่านมาได้อู่เว่ยก็พูดอวดเฉินเฟิงทันที


"อย่าเพิ่งคุยอวดเถอะ เรายังต้องเดินทางอีกไกลจนกว่าจะถึงจุดหมายไม่ควรประมาทหรอกนะ"


เฉินเฟิงหันไปพูดเตือนสติสหายตน อู่เว่ยก็ยิ้มรับว่าง่ายไม่ได้ว่าอะไร ก่อนที่พวกเขาจะนำขบวนผ่านไปที่ ด่านเฉินซาง
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เตากำยาน
หน้ากากยักษา
ดาบไท่จี๋
ม้าขาว
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x35
x44
x35
x10
x10
x11
x20
x15
x1
x15
x27
x60
x3
x7
x6
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

อย่าลืมเข้าสู่ระบบนะจ๊ะ เข้าสู่ระบบตอนนี้ หรือ ลงทะเบียนตอนนี้

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้