แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Lizixuan เมื่อ 2021-10-27 15:10
หนทางยาวไกล
การเดินทางตัวคนเดียวไม่กังวลเท่าผู้ร่วมทางและการแบกร่างหญิงชราไม่เคยใช่งานง่าย ร่างกายของหลี่ซีซวนได้รับการฝึกฝนมาดีครั้งยังรับราชการทหาร ทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพีงแค่เดินทางช้าลงเท่านั้นเอง ยังดีมีม้าช่วยเป็นที่เก็บสัมภาระ จึงไม่ต้องกังวลสิ่งใดให้เป็นที่หนักใจ หนทางลำบากวิถีทางไม่สะดวก ยิ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงฝนตกลงมาทำให้พื้นดินแฉะ ทำให้ยากลำบากมากขึ้นต่อการเดินทาง เขาต้องระวังเวลาเดินเท้าไม่ให้หญิงชราต้องล้มลงมาด้วย เส้นทางการเดินออกจากเมืองเทียนซุย หลี่ซีซวนต้องเดินเท้ามาทางด้านล่างแทนเพราะแบกย้ายขึ้นเขาไปทางอันติงไม่ไหว ถนอมกำลังไว้กับการเดินเท้าอันยาวไกลจึงควรกว่า หลายวันที่ต้องเดินเท้าแบกหญิงชราไว้ด้านหลัง ลุถึงด่านเฉิงซางพอดี เขาจะได้พักผ่อนร่างกายบ้าง หญิงชราจะได้ไม่เหน็ดเหนื่อยจนเกินไป ด่านเฉินซางเหมือนด่านทั่วไปในแผ่นดินคือไม่ได้มีสถานที่มากมายเช่นบรรดาเมืองต่างๆตามภูมิภาค หากพ่อค้าหรือผู้ใดมาตั้งรกร้างตามด่านดูแลดีมันย่อมดึงดูดผู้คนที่สัญจรไปมาได้ไม่ยากเย็น เขาเดินผ่านเข้ามาในด่านเฉินซางพบว่ามันมีสถานที่เพียงไม่กี่แห่งและผู้คนก็น้อยนัก มีแต่พวกสัญจรผ่านทางเท่านั้นกับพวกกองคาราวานกลุ่มหนึ่ง จำได้ว่าการเจรจาค้าขายกับกองสินค้าคาราวานคืองานตึงมือสำหรับพ่อค้ามือใหม่ที่ทักษะการพูดไม่เจนจัด เว้นหลี่หย่งเมี่ยวผู้มีวาทะศิลป์และศิลปะในการหลอกล่อให้หลงกลได้ง่าย พวกพ่อค้าเจ้าเล่ห์แสนกลคิดว่าหลอกเด็กน้อยผู้หนึ่งนั้นง่ายดายกลับถูกเด็กน้อยปั่นหัวเสียยับเยิน เถ้าแก่หลี่ก็ไม่คิดจะขอโทษแทนบุตรสาวเพราะรู้นิสัยคนจำพวกนี้ดียิ่ง พอเดินผ่านพ้นพวกกองคาราวานสินค้า การเดินเท้ามาตลอดแทบทั้งวันหยุดเท้าด้านหน้าหอนางโลม พลันคิดได้ว่าพักเสียที่นี่แล้วกันค่อยออกเดินทางต่อ หลี่ซีซวนแบกหญิงชราเข้ามาด้านในหอนางโลมและจ้างเงินให้วานช่วยดูแลหญิงชราแทนเขาเป็นการชั่วคราว เขาเดินขึ้นไปชั้นบนของหอนางโลมเลือกไว้ห้องหนึ่ง แล้วขอเลือกบริการสตรีที่ขายศิลปะ นอนพักผ่อนด้านในห้องเอนกายให้ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเอง ปวดหลังยิ่งนัก ค่อยๆลุกขึ้นนั่งหลังพิงกำแพงจิบชาที่บริกรนำเข้ามาให้ อาการเมื่อยล้าผ่อนทุเลาลงมาก พลันสตรีนางหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพร้อมด้วยผีผา มันเป็นเครื่องดนตรีที่ได้ขอให้เข้ามาบรรเลงทุกครั้งที่ได้เข้าหอนางโลมเนื่องจากชมชอบมันเป็นพิเศษ "ข้ามิเคยเห็นบุตรกตัญญูเช่น คุณชาย ที่พาแม่สูงอายุมายังที่นี่เลยซักครั้ง" ชะรอยว่าพวกนางคงเข้าใจแบบนั้นแต่ดูแลเอาใจใส่ให้อย่างดี ภายหลังที่ได้รับค่าจ้างมากแล้ว "หาใช่มารดาของข้า เพียงแค่จะพาหญิงชราผู้หนึ่งไปส่งยังบ้านของนางเท่านั้น" อดกลั้นขำมิได้ มารดาของเขายังมิสูงวัยและบางทีคนยังเข้าในว่าเขามีพี่สาว อันมาจากมารดาชอบดูแลผิวพรรณเป็นประจำนั้นเอง เสียแต่น้องสาวไม่นิยมกระทำตามมารดา "พักผ่อนเถิด คุณชาย ข้าจะขับบรรเลงให้กับท่านเอง อย่าได้ห่วงหญิงชราเลย พวกเราจะดูแลนางประดุจมารดาของพวกเรา" นางกรีดสายเครื่องดนตรีและดีดเล่นทีละสาย แล้วเริ่มขับขาน เพียงนางถอดถอนใจมองย้อนไป น้ำตาที่กลั้นไว้รินไหล เพียงนางระลึกถึงค่อย ๆ เผยความขื่นขมไว้ในแต่ละวัน จึงอาศัยสุราขมสองสามไห ด้วยเพิ่งรู้ว่าแยกจากมิได้ เพียงทอดถอนใจความคิดถึงก็กระจายไป ใจแสนแห้งเหี่ยว รักที่แลกไปไหลทิ้งดั่งน้ำ อุทิศชีวิตเพื่อได้เคียงข้าง แต่เทพเทวากลับไม่ให้ความเป็นธรรม อดีตที่ได้ลิ้มรสสั้นตวัดเพียงปลายนิ้วหนึ่งครา วันเก่าวันผ่าน หลั่งน้ำตาวอนยกโทษให้ความไม่รู้ของข้า ท่านรักใคร่ผู้ใด ใจข้าพบความเจ็บปวดเหลือคณานับ ข้าขมวดคิ้วมุ่นสุดแสนคำนึงถึงคนที่ตัดสัมพันธ์ไป นกนางแอ่นโผบินเดียวดาย น้ำตาอาบไหลเป็นสายในคืนเหงียบเหงา เปลวเทียนสั้น ความเศร้ายาว ยากลืมคนจากลา "คุณชายเหมือนคนที่อยู่ไม่ติดบ้าน นิยมการสัญจรทั่วแผ่นดิน เรียนถามคุณชาย ท่านเคยรักใคร่ผู้ใดบ้างหรือไม่" เพลงทำนองเพลงไม่ได้เศร้า เป็นเนื้อหาที่เศร้าเพื่อกลบความเศร้าหมองของผู้ฟังได้เบาบางลง ระหว่างที่ขับขานนางพอจะเดาได้จากแววตาของชายหนุ่มผู้ที่เอนอายอยู่เบื้องหน้าของนาง หรือกำลังตามหาอะไรอยู่ "ใยข้าจะไม่เคยรักใคร่ผู้ใด ข้าเคยรักใคร่กระทั่งทุ่มเทกายใจเสียด้วยซ้ำ และนางก็จากข้าไปมีคนอีกผู้หนึ่ง รู้อีกทีมันสองคนก็แต่งงานกันไปเสียแล้ว" แววตาทอดอาลัย ความรู้สึกอาวรณ์ยังมีแม้มันจะเจือจางลงมากแล้วก็ตาม คนรักใคร่ย่อมมิใช่โจ่วซืออย่างแน่นอน มีคนที่เคยทุ่มเทมากกว่าโจ่วซือเสียอีก "เช่นนั้น ข้าได้หวังว่า คุณชายจะพบคนที่ทำให้ท่านได้หยุดสัญจร ปักหลักลงได้อย่างมั่นคง ความยาวนานใดๆล้วนมีวันสิ้นสุด" นางวางผีผาลงบนพื้น มือทั้งสองข้างวางลงบนตัก มองดูดั่งคนที่ห่วงใยในกันและกัน "และข้าเองก็หวังว่าจะได้เจอคนผู้นั้น มิต่างจากท่านที่กำลังรอคอยเช่นกัน" ดั่งคนที่มีชะตากรรมเดียวได้มาพบเจอกัน ราวกับสวรรค์ได้จัดสรรไว้ให้แล้ว "ข้าขอให้เจ้าได้พบเช่นกัน" หลี่ซีซวนลุกขึ้นจากเตียง มองดูสตรีตรงหน้าผู้เข้าใจเขาได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่คิดว่าจะได้เจอด้วยซ้ำ แล้วเดินออกจากห้องไปรับตัวหญิงชราชั้นล่าง สตรีกลุ่มหนึ่งเดินประคองหญิงชราออกมาพบหลี่ซีซวน เขากล่าวขอบคุณอีกครั้งแล้วแบกหญิงชราขึ้นหลังตัวเอง โดยไม่รู้ว่าสตรีผู้ขับทำนองเพลงเดินลงมาดูอยู่ด้านหลัง เขาออกจากหอนางโลมพร้อมจูงม้าคู่กายออกเดินทางต่อ
|