[นอกเมืองหนานไห่] ค่ายแรงงานตระกูลซู | เหมืองเก่า

[คัดลอกลิงก์]
ไม่ระบุชื่อ  โพสต์ 2021-10-1 13:09:03 |โหมดอ่าน

ค่ายแรงงานตระกูลซู | เหมืองเก่า
{ นอกเมืองหนานไห่ }








【ค่ายแรงงานตระกูลซู】

สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ของตระกูลซูซึ่งมีไว้ใช้เพื่อให้แรงงานทาสของตระกูล
คอยทำงานเพื่อหาแร่มาให้แก่ตระกูลเพื่อนำไปค้าขาย โดยภายในมีห้องขังแรงงาน
พร้อมกับผู้คุมที่ถูกว่าจ้างมาด้วยเงินจำนวนหนึ่งเพื่อป้องการเหล่าทาสที่คิดจะเหิมเกริม
คิดล้มเจ้า แต่แท้จริงไม่มีผู้ใดรู้ว่าที่นี่รับใช้กลุ่มโจรโพกผ้าเหลือง
ผู้คุมภายใต้อาภรณ์ชุดทั่วไป กลับมีชุดอีกชั้นด้านในที่เป็นสัญลักษณ์สีเหลือง
เพื่อเชิดชูกลุ่มตนเอง ด้วยสาเหตุเพราะว่าภายในเหมืองแร่นี้เต็มไปด้วยแร่หลากหลาย
มากมาย แต่ทว่ากลับถูกปิดไม่ให้คนนอกขุดแร่ ไม่รู้เหมือนกันว่าตระกูลซูมีความคิดเช่นไร
อยู่ถึงยึดครองใช้ส่วนตัว



ทุกท่านสามารถมาโรลเพลย์ทำงานพาร์ทไทม์ประจำวัน
ค่าจ้าง: 400 อีแปะ - 5 EXP (รายวัน)





ผู้นำตระกูล: ซู ตง
อุปนิสัย:
ปีศาจร้ายหน้ายิ้มเขาลุ่มหลงในกลิ่นคาวเลือดและ
เรื่องสะเทือนขวัญระทึกใจเป็นพิเศษ เขาลิ้มลองด้านมืดของมนุษย์
มาครบทุกรูปแบบ จิตใจยิ่งร่วงหล่นถลำลึกในความบ้าคลั่ง
เย่อหยิ่งจองหองแทบไม่เห็นใครอยู่ในสายตายกเว้นผู้ที่เหนือกว่า
หรือสร้างผลประโยชน์ได้ เยือกเย็นเมื่อชำแหละเนื้อหนังคน
ตื่นตัวด้านเพศรสเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของสตรี ไม่ใช่นักวางหมากผู้ใจเย็น
แต่คือนักล่าผู้ชอบความตื่นเต้นระทึกใจสร้างสีสันให้ชีวิต
รักการประจบเอาใจและแน่นอนเขารับสินบนทั้งหมดไม่ว่า
โฉมงามทรัพย์สินหรือสมบัติ







โพสต์ 2021-10-1 19:33:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Tianzhou เมื่อ 2021-10-1 19:53



ราชสีห์จรจัด
ปลดแอก

ช่วงเวลาล่วงเลยผ่านมาอย่างยาวนาน ความลำบากยากเข็นอยู่คู่กับชายหนุ่มทุกเวลา ความเหนื่อยยากเป็นราวกับเพื่อนสนิทที่มิมีวันแยกจาก เศษอาหารเล็กน้อยช่วยแค่เพียงรองท้องให้มีเรี่ยวแรงผ่านพ้นไปในแต่ละวัน

เทียนโจวนั้นถูกจับมาตั้งแต่ยังเด็กและถูกใช้งานเยี่ยงทาสมาโดยตลอด ในทุกๆวันเขาต้องค่อยขนแร่จำนวนมากที่ขุดได้จากเหมืองเพื่อแลกกับเศษอาหารในแต่ละวัน

อาหารเพียงน้อยนิดค่อยๆทำให้เขาเติบโตขึ้นมา แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือ เมื่อเทียบตนเองกับผู้อื่นเขานั้นมีกล้ามเนื้อที่ชัดเจนกว่าใครๆรวมถึงผู้คุมเสียด้วย

เทียนโจวเริ่มตระหนักถึงความแต่ต่างนี้และย้อนนึกถึงไวเด็กที่ตนเองนั้นแข็งแรงกว่าใครๆในรุ่นเดียวกัน ซึ่งแน่นอนในตอนนี้พละกำลังของเขานั้นมากกว่าใครในที่แห่งนี้ไปแล้ว และในเมื่อเป็นเยี่ยงนี้ต่อไปอิสรภาพของเขาจะหวนคืน!

ช่วงกลางดึกหลังจากที่ทำงานเสร็จ เทียนโจวและทาสคนอื่นๆถูกนำตัวเขาห้องขังเหมือนอย่างทุกวัน และในจังหวะที่ผู้คุมกำลังจะเดินออกไปนั้นเทียนโจวก็พลันตะโกนขึ้นมา
“ผู้คุม!!!”

“มีอะไรเจ้าทาสชั้นต่ำ”

เสียงของผู้คุมกล่าวขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดพลันถือดาบของตนเดินมาเคาะที่กรงด้วยความรำคาญในทาสตรงหน้าที่จู่ๆก็เรียกตน แต่แล้วในจังหวะที่เดินไปใกล้ๆนั้น

ตึบ!!!

เทียนโจวจับคอเสื้ออีกฝ่ายกระแทกเข้ากับกรงจนสลบเทียนโจวรีบดึงร่างของผู้คุมมาใกล้ๆ ก่อนจะเอื่อมมือไปหยิบพวงกุญแจที่ติดอยู่ตรงกางเกงของผู้คุม

“เยี่ยม!!!”

เทียนโจวรีบนำกุญแจเหล่านั้นมาลองไขกรงเหล็กตรงหน้าอย่างรีบร้อน

แก๊ก!

ในที่สุดกรงที่ได้กักขังเขาไว้ก็ได้ถูกนำออกเสียที เทียนโจวสุดหายใจพร้อยยิ้ม เพื่อต้อนรับอิสรภาพในรอบหายปีที่หายไป ก่อนจะโยนพวงกุญแจที่เหลือให้พวกที่อยู่ในกรงเดียวกับตน

“นำมันไปเปิดให้กับพวกที่เหลือซะ!”

เทียนโจวกล่าวออกมาด้วยเสียงหนักแน่นก่อนจะมีผู้คุมคนอื่นๆที่ได้ยินเสียงก่อนหน้านี้พากันกรูเข้ามายังพื้นที่คุมขัง
“กลับไปที่กรงของแกซะ!”

เสียงของหนึ่งในผู้คุมดังขึ้นมาพร้อมกับหันปลายหอกใส่เทียนโจวที่ยืนอยู่ตรงหน้า

เทียนโจวมิได้แสดงท่าทีเกรงกลัวแต่อย่างใด กลับเป็นรอยยิ้มเสียด้วยซ้ำที่ได้แสดงออกมา

“แหม่ๆ ออกมากันซะเยอะเชียว แต่แค่นี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก เพราะพวกแกมันกระจอกเกินไป”

เทียนโจววิ่งเข้าใส่ผู้คุมอาวุธครบมือ ทั้งที่ตนเองนั้นมีเพียงแค่มืดเปล่าเท่านั้น หอกของผู้คุมกระหน่ำแทงใส่เทียนโจว

เทียนโจวคว้าปลายหอกของอีกฝ่ายด้วยมือเปล่าจนเหลือไหลออกมา แต่หาได้สนใจไม่ และรีบใช้ด่ามจับของหอกฟาดใส่ผู้ค้มที่ละคนโดยมิเกรงกลัวหอกจำนวนมากที่ยังคงพุ่งเเทงอย่างมิหยุดหย่อน

“นี่พวกเจ้ารัวจิ้มข้ารึยังไง หะ!!!”

เทียนโจวสับเปลี่ยนด้านของและใช้ปลายแหลมแทงเข้าที่กลางศีรษะของอีกฝ่ายจนเหลือไหลออกมาอย่างมิหยุดหย่อน แต่แค่นั้นยังไม่พอ เขาพลันเหวียงหอกที่มีร่างของหนึ่งในผู้คุมใส่คนอื่นๆจนกระเด็นไปติดกับกำแพง

“จำนวนเยอะซะเปล่า แต่ทำไมฝีมือถึงห่วยแตกขนาดนี้”

เทียนโจวพัลนปล่อยหอกและพุ่งใส่ผู้คุมด้วยมือเปล่า ก่อนจะยัดหมัดของตนเข้าที่หน้าของอีกฝ่ายจนเละไม่เป็นท่า คนอื่นที่เห็นพวกของตนถูกทำร้ายก็กรูกันเข้ามาอย่างมิหยุดหย่อน ในตอนนี้มีผู้คุมที่ยังมีสติอยู่เพียงแค่ 20 คนเท่านั้น

หอกจำนวนมากแทงมาใส่เทียนโจวแต่เขาเองก็สามารถหลบมันได้บาง ส่วนพวกที่โดนร่างของเขาก็เป็นเพียงแค่แผลธรรมดาๆเท่านั้น เหล่าผู้คุมเมื่อเห็นว่าหอกเริ่มทำอะไรไม่ได้ ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นอาวุธที่ตนถนัด มีทั้งขวาน ดาบ และมีด ตามแต่จะสรรหา

“ลูกเล่นเยอะกันจริงนะ แต่ยังไงก็แค่แมลงชั้นต่ำที่พยายามดิ้นรนเท่านั้นแหละ”

เทียนโจวพลันยิ้มออกมาด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงการดูถูก ผู้คุมจำนวนมากต่างมีน้ำโหเมื่อเห็นท่าทีอันหยิ่งยะโสของทาสตนนี้ พวกมันต่างวิ่งเข้าใส่เทียนโจวที่ยืนอยู่ อาวุธมากมายต่างถูกกวัดแกว่งอย่างชำนาญต่างจากตอนที่ใช้เพียงแค่หอก แต่นั้นก็มิใช่ปัญหาสำหรับเทียนโจว เขาจับเข้าที่ขอมือของผู้ใช้ดาบคนหนึ่งก่อนจะบีบอย่างแน่นด้วยมวลกล้ามเนื้อที่มากมายของตน จนอีกฝ่ายปล่อยดาบตกพื้น เทียนโจวหยิบดาบนั้นขึ้นมาตัดคอของผู้เป็นเจ้าของมันก่อนจะโยนร่างไร้หัวใส่คนอื่นๆ

“แหม่ คนอะไรชั่งโง่ โดนดาบตนเองตักหัวจนขาด”

เทียนโจวพลันกระโดดเข้ากลางวงของผู้คุมที่เหลือก่อนจะใช่ดาบที่พึ่งไดช้มาเริ่มไล่ฆ่าไปทีละคน พร้อมกับเปลี่ยนอาวุธไปมาด้วยความเบื่อหน่าย เพราะพวกนี้นั้นไม่พอให้เขาสนุกเสียด้วยซ้ำ

ระยะเวลาล่วงเลยไปนานครึ่งชั่วยามจนในที่สุดการต่อสู้แบบ 1 รุม 20 ก็ได้สิ้นสุดลงพร้อมกับเทียนโจวที่ยืนอยู่เหนือท่ามกลางซากศพและร่างไร้สติของผู้คุม พร้อมกับเสื้อผ้าที่ขาดวิ้นจนเห็นบาดแผลมากมายที่พึ่งได้จากการต่อสู้มา

“กระจอกจริงๆ”

เทียนโจวกล่าวขึ้นก่อนจะเดินไปเหยียบหัวของศพตนนึง ก่อนจะเตะมันไปไกลๆด้วยความรกหูรกตา แล้วจึงหันไปหาคนอื่นๆที่เหมือนว่าในตอนนี้จะได้รับการปลดปล่อยกันหมดแล้ว

“พวกเจ้าอยากทำอะไรต่อกับพวกศพหรือร่างไร้สติพวกนี้ก็แล้วแต่เจ้า เพราะข้ารู้ว่าพวกเจ้าน่ะคงเก็บกดมานานแล้วเป็นแน่”

เทียนโจวกล่าวขึ้นก่อนจะเดินต่อไปยังสถานที่หรูหราที่สุดในเหมืองแห่งนี้ ใช่แล้ว ที่นั่นเป็นที่ๆเจ้าของแห่งนี้ได้อาศัยอยู่ แต่แล้วด้วยความสงสัยบางอย่างเขานั้นก็ได้หันกลับไปดูพวกนักโทษเล็กน้อย ก่อนจะเห็นเข้ากับภาพของผู้คนมากมาย ทั้งซ้ำเติมหรือทำร้ายพวกผู้คุม บ้างก็กัดกินร่างของศพอย่างหิวกระหาย แต่แล้วสายจาของเทียนโจวก็เหลือบไปเห็นที่ซากศพของเหล่าผู้คุ้ม พวกมันทุกคนนั้นลวนผูกผ้าเหลืองไว้ที่แขนซึ่งก่อนหน้านี้พวกมันคงใช้แขนเสื้อเพื่อปกปิดไว้

“พวกนี้มันพวกโพกผ้า!! คนเดียวกับที่เคยจับเรามาขายในตอนเด็ก”

เทียนโจวกล่าวออกมาพร้อมความคับแค้นแต่ในตอนนี้นั้นมันยังไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องทำ เมื่อคิดได้อย่างงั้นเทียนโจวก็รีบเร่งฝีเท้าเดินทางค่อ

.
.
.

ตึง!!

เสียงของประตูไม้ที่ได้กระเด็นออกมาจากที่ๆมันควรอยู่ พร้อมกับร่างของเทียนโจวที่ค่อยๆปรากฎขึ้นมาพร้อมกับศพของผู้เฝ้าประตูทั้งสอง

“ไง ไม่เจอกันนานนิ ข้าเอาของมาฝาก”

เทียนโจวกล่าวออกมาก่อนจะปล่อยของศพทั้งสองลงตรงหน้าซูตง แต่แล้วเมื่อได้จ้องมองไปที่ชายผู้นั้นดีๆ ท่าทางของมันในตอนนี้ราวกับสุนัขไม่มีผิด เพราะมันกำลังเพลิดเพลินอยู่กับค่ำคืนที่สุดแสน กับหญิงสาวที่หมดประกายในดวงตา

“นี่แกถึงกับเพลิดเพลินกับทาสเลยหรอ รสนิยมแปลกไม่เบานิ”

เทียนโจวกล่าวออกมาก่อนจะพุ่งเขาใส่ซูตงพร้อมรอยยิ้มแห่งความโกรธแค้น หญิงสาวที่เคยอยู่ด้วยในตอนนี้ก็รีบหอบเสื้อผ้าวิ่งหนีออกไปเมื่อเห็นเทียนโจว

“จะ…..เจ้าต้องการอะไรถึงมาที่นี้ ผะ...ผู้หญิงหรอหระ….หรือเงินทอง”

ซูตงกล่าวออกมาด้วยเสียงอันสันกลัว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ความแข็งแกร่งของเทียนโจวที่ในตอนแรกเป็นเพียงแค่ทาสที่เขาไม่รู้จักชื่อกลับทำให้เขากลัวได้ถึงเพียงนี้

“สิ่งที่ข้าต้องการหรอ? ไม่ใช่สิ่งที่เจ้ากล่าวมาแน่ๆในตอนนี้ เพราะสิ่งที่ข้าต้องการในคืนนี้คือชีวิตของเจ้า!!!”

เทียนโจวระรัวหมัดใส่ใบหน้าของเทียนโจวอย่างมิหยุดหย่อน เลือดสีแดงต่างพุงออกมาจำนวนมาก ใบหน้าของซูตงเริ่มบิดเบี้ยวพร้อมกับฟันจำนวนมากที่หลุดออกมาด้วยกำปั้นของเทียนโจว

“แหม่ กดขี่กันมาซะนาน ที่แท้แก่ก็แค่ไอกระจอกที่มีดีแค่อำนาจเท่านั้นแหละ”

เทียนโจวยังคงซัดเข้าที่หน้าของซูตงอย่างต่อเนื่อง การหายใจของซูตงเริ่มติดขัด พร้อมกับความเจ็บปวดจำนวนมากที่แล่นเข้าสู่ร่างกาย

ปึก!

กะโหลกของซูตงพลันกลายเป็นรูด้วยกำปั้นของเทียนโจวพร้อมกับลมหายใจของมันที่ได้หมดลง รอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเทียนโจว เขารอคอยสิ่งนี้มาตลอดอย่างมิต้องสงสัย

“เท่านี้ทุกอย่างก็คงจบแล้วสินะ”

เทียนโจวฉีกยิ้มออกมาก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นไปหยิบเครื่องแต่งกายของซูตงมาสวมใส่ ลวดลายของมันนั้นชั่งงดงามและดุดันจากมังกรที่อยู่บนชุด เทียนโจวเดินไปหยิบของอื่นๆอีกเล็กน้อยก่อนจะลากศพซูตงลงไปยังโรงม้ากับตน ก่อนจะผูกติดร่างของศพกับม้า และควบท้าตนนั้นไปหาเหล่าทาสที่ได้รับการปลดปล่อย

เทียนโจวลากร่างของซูตงที่เปลือยกายอยู่มาให้แก่เหล่าทาสได้ประจักษ์ ทาสมากมายต่างจ้องมองไปที่ศพสลับกับใบหน้าของเทียนโจวผู้เป็นผู้ยุติเรื่องทั้งหมดลงในคืนเดียว

“ทะ...ท่านทำเรื่องทั้งหมดนี้ได้อย่างไร?”

ชายผู้หฯึ่งพลันกล่าวถามกับเทียนโจวที่อยู่บนอาชาสีขาว เทียนโจวนั้ยิ้มออกมาก่อนจะเริ่มกล่าวตอบ

“เพราะข้านั้นแข็งแกร่ง”

“ที่พวกเจ้าไม่สามารถทำเรื่องอย่างงี้ได้ เพราะพวกเจ้านั้นอ่อนแอ หากพวกเจ้าแข็งแกร่งที่สุดก็จะมิมีใครกล้าดูหมิ่นหรือทำร้ายเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งด้านใดจงใช้มันเพื่ออยู่เหนือผู้อื่น และกดผู้ที่อ่อนแอให้จมดิน หากมีกำลังจงใช้มันราวกับขวานที่ผ่าต้นไม้ใหญ่ได้ในครั้งเดียว หากมีปัญญาจงใช้มันราวกับกระบีที่มิมีใครสามารถทำอะไรเจ้าได้ หากมีความงามจงใช้มันเพื่ออยู่เหนือผู้อื่นและทำให้พวกมันอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้า”

เทียนโจวกล่าวออกมาก่อนจะปล่อยศพของซูตงไว้ให้กับเหล่าทาสจัดการ และควบม้าของตนออกจากค่ายที่อยู่มาอย่างยาวนานแห่งนี้

เลื่อมใสศรัทธา
+25 ศรัทธาเมื่อโรลเผยเเพร่ลัทธิ
+15 ศรัทธาเมื่อโรลเผยแพร่ลัทธิหรือเกี่ยวกับศาสนา

หยิ่งยะโส
+4 Pointจากการโรลอวดเบ่ง
+7 Pointเมื่อชนะการดวลกับอีกฝ่ายพร้อมหยิ่งทะนงต่ออีกฝ่าย

ขี้โมโห
+3 Pointจากการโรลต่อสู้
-1 Pointทุกครั้งที่โรลใช้แผนอุบาย(ตอนเรียกผู้คุมมาห้องขัง)

แข็งแกร่งดุจเซี่ยงอวี่
+6 Point เมื่อโรลเพลย์ต่อสู้ระบบ

หูดี
+3 Pointทุกครั้งที่โรลต่อสู้ผ่านระบบ
+2 Pointจากโรลใช้แผนอุบาย(ตอนเรียกผู้คุมมาห้องขัง)

ฟันเขี้ยว
+15 Expเมื่อโรลเพลย์ข่มขู่อีกฝ่าย(ตอนข่มขู่จะเอาชีวิตซูตง)
+3 Pointทุกครั้งที่โรลต่อสู้พร้อมข่มขู่อีกฝ่าย(ตอนข่มขู่จะเอาชีวิตซูตง)

สายตายาว
+2 Pointทุกครั้งที่โรลต่อสู้ผ่านระบบ


(ใช้โจรเป็นผู้คุมนะครับ)



←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หวีเซียวเฉิน
ตำราตงฟางซั่ว
ยาสมานแผลขั้นต้น
ตะเกียงซือซานเยวี่ย
ทวนสามพยัคฆ์
ม้าขาว
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x1
x1
x1
x1
x45
x1
x6
x2
x5
x984
x5
x50
x30
x2
x10
x8
x2
x8
x12
x24
x2
x7
x50
x5
x5
x5
x5
x5
x5
x5
x4
x6
x2
x2
x15
x40
x1
x6
x6
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

อย่าลืมเข้าสู่ระบบนะจ๊ะ เข้าสู่ระบบตอนนี้ หรือ ลงทะเบียนตอนนี้

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้