[นอกเมืองหนานไห่] ป่าเพ้อฝัน

♦ ป่าเพ้อฝัน ♦

{ นอกเมืองหนานไห่ }

【ป่าเพ้อฝัน】

ป่าแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความน่าสะพรึงกลัว มิใช่จากภูตผีแต่อย่างใด
แต่เป็นสัตว์ป่าที่ดุร้าย และเหล่าโจรที่มารวมตัวกันอย่างชุกชม
ไม่ว่าจะผ่านป่านี้กี่ครั้งก็มักจะมีบาดแผลตามตัวของผู้เสียหายไม่มากก็น้อย
หรือบางครั้งอาจถึงขั้นเป็นศพเลยก็มี ทำให้ชาวบ้านหวาดสะพรึงทุกครั้งที่
จำต้องใช้เส้นทางนี้เพื่อเดินทางผ่านไปทำการค้าทางเหนือ

Tianzhou ดี

ราชสีห์จรจัด

จุดหมาย

อาชาขาวควบลากยาวผ่านเหมืองแร่ที่เต็มไปด้วยอดีตอันแสนเจ็บปวดของเทียนโจว ชายหนุ่มจ้องมองขึ้นไปยังผืนฟ้าพลันนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ตนนั้นได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

"ความสุข?"

เทียนโจวเหมือนนึกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาเกี่ยวกับคำว่า ความสุข

'ความสุข...ในอดีต การได้อยู่กับพ่อแม่....และ.....'

ความทรงจำที่แสนเลือนลางค่อยๆฉายภาพในอดีตภายในห้วงความคิดของเทียนโจว วันคืนที่ทุกคนในครอบครัวควรรวมยินดีกันในวันนั้น เพราะ...

"ซะ...เซิ่งหุน...ตาสีแดง...นะ...น้องพี่"

หยดน้ำตาพลันไหลออกมาเมื่อนึกถึงเรื่องราวในครั้ง เบาะแสเพียงไม่กี่อย่างที่เทียนโจวครอบครองอยู่ในตอนนี้ได้ถูกถ่ายทอดออกมาจากคำกล่าวเพียงไม่กี่คำ

"ข้าต้องตามหาน้องของข้า!"

เทียนโจวกล่าวออกมาเพื่อย้ำเตือนตนเองอย่างแน่วแน่  ก่อนจะควบอาชาของตนมุ่งตรงเข้าสู่ป่าเพื่อไปยังเมืองข้างเคียงตามที่ได้ทราบมาจากห้องของซูตง

หลังจากที่เดินทางเข้ามาในป่าได้ซักพักบรรยากาศโดยรอบชั่งอึมครึมชวนให้เคว้งคว้าง ความเงียบสกัดอาจทำให้ทุกคนสติหลุดจนเป็นบ้าได้หากอยู่อย่างโดดเดียว ม้าของเทียนโจวเริ่มเกิดอาการสั่นกลัวจากสภาพแวดล้อมของป่าแห่งนี้

"เจ้ามิต้องกลัว หากอยู่กับข้าเจ้าจะปลอดภัย"

เทียนโจวกล่าวขึ้นพร้อมกับตบไปที่มาอย่างเบาๆ สายตาเริ่มสอดส่องมองรอบข้างอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก่อนที่สายตาคู่นี้จะมองเห็นร่างเงาบางอย่างกำลังเคลื่อนที่ไปมาอย่างรวดเร็ว เทียนโจวตบไปที่อาชาของตนอย่างเบาๆเพื่อให้มันหยุดนิ่ง ก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้า และพุงตามเงานั้นไป

"ดีแค่วิ่งหนีและซ่อนตัว แกคงเป็นแค่พวกกระจอกที่ไม่มีปัญญาทำอะไรสินะ"

ร่างเงาเมื่อรู้ว่าตนนั้นถูกไล่ตามมาก็เลิกวิ่งหนี อีกอย่างถึงไม่เลิกวิ่งยังไงเทียนโจวก็คงตามทันภายในระยะเวลาไม่นานอยู่ดี

"รู้ถึงการมีอยู่ของข้านับว่าเจ้าเก่งพอควร"

ร่างเงากล่าวขึ้นมาก่อนจะเดินออกมาจากเงามืดเผยให้เห็นถึงร่างของชายคนหนึ่งที่สวมชุดสีเหลืองพร้อมกับผ้าโพกหัวที่เป็นสีเดียวกัน

"ไม่หรอก แกก็แค่พวกกระจอกทำไมข้าจะหาเจ้าไม่เจอ อีกอย่างข้าว่าหมียังหายากกว่าเจ้าเสียอีก"

เทียนโจวกล่าวออกมาอย่างเย้ยหยัน พร้อมกับจ้องมองไปที่อีกฝ่ายด้วยสายตาดูถูก

"นี่เจ้า!!"

โจรโพกผ้าเหลืองพลันหยิบอาวุธของตนออกมาด้วยความโกรธที่โดนอีกฝ่ายดูถูกถึงเพียง มือทั้งสองของมันกำดาบในมืออย่างแน่นก่อนจะพุ่งตรงมาหาเทียนโจวพร้อมกับตวัดดาบในมืออย่างรวดเร็ว

"ช้าไป!! ข้าชนะคนนับยี่สิบมาแล้ว เพียงแค่เจ้าคนเดียวมิพอเรียกน้ำย่อยด้วยซ้ำ"

เทียนโจวเอื่อมมือไปจับแขนอีกฝ่ายก่อนเหวี่ยงร่างของมันกระแทกกับพื้น แต่ในจังหวะนั้นก็เหมือนมีบางอย่างพุ่งปักเข้าที่ร่างของเทียนโจว

"ลูกเล่นเยอะดีนิ แต่เจ้าก็ทำได้เท่านี้แหละ หากมิล้มเลิกข้าจะสบั้นคอของเจ้าให้ขาดเสีย!!"

เทียนโจวกล่าวออกมาพร้อมกับชี้ทวนของตนไปที่คอของอีกฝ่ายที่นอนอยู่กับพื้น เมื่อได้ประจักษ์ถึงผู้ที่แข็งแกร่งกว่าโจรตนนั้นก็พลันยอมและเลิกราแต่โดยดี

"หึ อ่อนแอ"

เทียนโจวดึงมีดที่ปักอยู่ที่หลังของตนโยนทิ้งลงกับพื้น ก่อนจะเดินกลับไปยังม้าของตนและเริ่มเดินทางออกจากป่าแห่งนี้ต่อไป

หยิ่งยะโส

+4 Pointจากการโรลอวดเบ่ง

+7 Pointเมื่อชนะการดวลกับอีกฝ่ายพร้อมหยิ่งทะนงต่ออีกฝ่าย

ขี้โมโห

+3 Pointจากการโรลต่อสู้

แข็งแกร่งดุจเซี่ยงอวี่

+6 Point เมื่อโรลเพลย์ต่อสู้ระบบ

หูดี

+3 Pointทุกครั้งที่โรลต่อสู้ผ่านระบบ

ฟันเขี้ยว

+15 Expเมื่อโรลเพลย์ข่มขู่อีกฝ่าย

+3 Pointทุกครั้งที่โรลต่อสู้พร้อมข่มขู่อีกฝ่าย

  

.: คนที่สัญจรมา :.

กติกาการโรลเพลย์สนทนาทำความรู้จักขุนพลสัญจรผ่านมา

(1) 1 โรลเพลย์ สามารถเจอได้แค่ 1 คนเท่านั้น ยกเว้นมีระบุว่า xx นั่งกับ xx

(2) ในโรลเพลย์สร้างสถานการณ์พบเจอครั้งแรกได้อิสระ โดยไม่แหกนิสัย NPC

(3) นอกจากทำความรู้จัก พูดคุย ใน 1 โรลเพลย์สามารถมอบของขวัญให้ 1 ชิ้นเท่านั้น

(4) การชักชวนเข้ากองกำลัง บาง NPC ไม่จำเป็นต้องหัวใจเต็ม 10 ดวงเสมอไป นอกจากอยู่ที่การให้ของแล้ว การพูดคุย โรลทิ้งท้ายไว้ และ กำกับว่า "ชักชวน"

ทางทีมงานจะมาคอมเม้นท์ว่าชวนสำเร็จหรือไม่ ถ้าสำเร็จคุณจะได้โต้วาทีกับเขา ถ้าชนะแสดงว่าเขายอมรับใช้คุณ

ความสำคัญก่อนโรลสร้างความสัมพันธ์ NPC

(1) สำคัญมาก ที่คุณจะต้องตรวจเช็ค (ลักษณะนิสัยขัดแย้งกันหรือไม่ สามารถเช็คได้จากที่นี่ คลิก)

(2) รองลงมา ตรวจเช็ต ธาตุวันเกิด และ ปีนักษตร ชงกันหรือไม่ สามารถเช็คได้ที่นี่ (คลิก)

(3) ทุก ๆ การโรลเพลย์ที่มีความขัดแย้งในด้านนิสัย และ ธาตุหรือปีนักษัตรชงกัน เนื้อหาโรลเพลย์คุณจะต้องสร้างให้สมเหตุสมผล

เมื่อความสัมพันธ์ต้องลบลงในโรลเดียวกับจีบ ที่ความสัมพันธ์เพิ่ม โดยการครีเอทสร้างสถานการณ์โรลเพลย์ไม่ถึงกับทะเลาะ ขัดแย้งกัน

แต่ให้คุณเผลอทำอะไรที่ไม่ดี หรือใช้คำพูด หรือ บางอย่างเกี่ยวกับนิสัย ตัวคาร์คุณในโรลนั้นด้วย เพื่อให้มีความเมคเช้นส์ในการลดความสัมพันธ์

[206] จอมยุทธ์รัตติกาล [มาร]

ช่วงเวลาผ่านมาทางนี้: ช่วงเวลา ยามปั้นเย่ซันเกิง จนถึง ยามเหม่า ของทุกวัน

เนื้อหาโรลเพลย์: อวี้กวางออกมาปราบโจรป่ามากมายที่คอยก่อกวนชาวบ้าน

หากมาเจอเขาในฐานะ 'จอมยุทธ์รัตติกาล' นี้ เขาจะปกปิดความลับนี้ ไม่เปิดเผยให้ใครรู้แม้แต่ครอบครัว

ไม่ได้เห็นหน้าอวี้กว่างนอกจากชุดดำทมิฬที่กลมกลืนกับความมืดและปิดหน้าตา เห็นแค่ลูกตาเขาเสี้ยวเดียว

หากคุณถามชื่อ เขาจะบอกให้เรียก 'จอมยุทธ์รัตติกาล' เป็นเพียงจอมยุทธ์เร่ร่อนพเนจรไม่มีที่อยู่หลักแหล่ง

* แต่งงานก่อน ปี ค.ศ. 186 ก่อนเขาจะพบคู่แท้ ซู ซูหลัน *

Tianzhou ดี

ราชสีห์จรจัด

บุรุษปริศนา

เทียนโจวเดินทางเรื่อยมาอย่างยาวนานจนในที่สุดชายหนุ่มก็เดินทางมาถึงยังแถบเจียงหนานตามคำบอกเล่าของปิงจวน

“เจ้าต้องผ่านป่านี้ไปจึงจะไปถึงท่าเรือที่ไปยังร้านข้าวมันไก่”

ปิงจวนพลันกล่าวพร้อมกับชี้เส้นทางเข้าไปยังป่าที่เทียนโจวเคยผ่านมาเมื่อครั้งอดีต เทียนโจวเดินทางควบม้ามุ่งตรงเข้าไปในป่าอย่างมิเกรงกลัว ป่าแห่งนี้ถึงจะมีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยมแต่นั่นมิใช่สำหรับเทียนโจว เขามิมีอะไรต้องกลัวกับพวกชั้นต่ำเช่นนี้ ระยะเวลาล่วงเลยผ่านมาครึ่งชั่วยามตั้งแต่เข้ามาในป่าเทียนโจวนั้นยังมิเจอโจรซักคนภายในป่าในยามนี้เลยแม้แต่น้อย ซึ่งนับเป็นเรื่องน่าแปลกเพราะที่นี่แห่งนี้ไม่ว่าไปที่ไหนก็มีแต่โจรเสมอ แต่แล้วเสียงหนึ่งก็ได้ดึงความสนใจของเทียนโจวไปจนหมด มันเป็นเสียงของ...เหล็กที่กำลังกระทบกัน! เทียนโจวรีบควบม้าไปตามทิศทางของเสียงด้วยความสนใจ ก่อนจะเห็นชายคนหนึ่งยืนประจันหน้ากับโจรสามคน หากแต่ว่าฝ่ายที่เหนื่อยนั้นกลับเป็นโจรเหล่านั้น

“ชายคนนั้นน่าสนใจใช่”

เทียนโจวกล่าวออกมาพร้อมกับจ้องมองไปที่บุรุษหนุ่มที่กำลังถือดาบของตนยืนประจันหน้ากับโจรทั้งสามด้วยเพลงดาบที่เป็นเอกลักษณ์หาที่ใดเปรียบ

“จริงด้วย ว่าแต่เจ้ามิเข้าไปร่วมวงด้วยหรอ”

ปิงจวนพลันกล่าวถามชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลัง ปกติแล้วเทียนโจวมักจะชอบอะไรแบบนี้จนกระโดดเข้าไปร่วมวงเป็นประจำทุกที

“ไม่ล่ะคราวนี้ข้าอยากดูชายคนนั้น และอีกอย่างข้ารู้สึกถูกชะตากับเขาเล็กน้อย”

เทียนโจวเริ่มจ้องมองไปที่การต่อสู้อย่างจริงจัง ลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่มผู้นั้นชั่งชวนให้เฝ้ามองอย่างหน้าประหลาด แต่สำหรับผู้โชคร้ายที่ต้องเผชิญกับกระบวนท่าเหล่านี้นับได้ว่ามิต่างอะไรจากสายลมที่มิอาจคาดเดาทิศทางได้ บาดแผลบนร่างกายของเหล่าโจรนั้นค่อยๆปรากฎขึ้นราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ เหล่าโจรมากมายเริ่มหวาดกลัวในบาดแผลที่เกิดขึ้นบนร่างของตน จึงพากันวิ่งหนีบุรุษปริศนาผู้นั้น

ปึบ ปึบ ปึบ

เทียนโจวปรบมือของตนราวๆสามครั้ง นับว่าหากยากที่เขาจับปรบมือให้ใครก็ตามถึงแม้มันจะแค่สามครั้ง บุรุษปริศนาหันมามองยังต้นเสียงที่ตนได้ยินก่อนจะพบเข้ากับเทียนโจวที่ค่อยๆเดินตรงมาจากม้าสีขาว

“ฝีมือเจ้ามิเลวเลย แถมเพลงดาบของเจ้าก็หาดูชมได้ยาก”

เทียนโจวกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม บุรุษปริศนาจ้องมองมาที่เทียนโจวด้วยความสงสัย แต่เมื่ออีกฝ่ายมิได้คิดจะสู้ตนก็มิจำเป็นต้องจับดาบ

“ขอบคุณสำหรับคำชม ข้าฝึกมันเอง”

ประโยคสั้นๆได้เอ่ยออกมาจากบุรุษปริศนา ในสายตาของเทียนโจวชายผู้นี้ค่อนข้างดูสุขุมและมีความเป็นผู้นำ แต่เหมือนจะพูดน้อยไปเสียหน่อย

“ฝึกมันเองงั้นหรอ น่าสนใจดีนิ ข้าชักถูกใจเจ้ามากยิ่งขึ้นแล้ว งั้นข้ามีของมาให้ มาทานมันด้วยกันดีกว่า”

เทียนโจวกล่าวออกมาก่อนจะนำเอาบะหมี่ฉีซานออกมาสองถ้วย ซึ่งเขาได้รับมาตอนผ่านเมืองที่ตงอัน เทียนโจวยื่นชามหนึ่งให้กับบุรุษปริศนา

“รับไปสิมิต้องห่วง ข้ามิทำอะไรกระจอกๆอย่างวางยาพิษหรอก”

บุรุษปริศนาจ้องมองไปที่เทียนโจวก่อนจะรับเอาบะหมี่ฉีซานมา เขาเองก็มิมั่นใจว่าการทานอาหารในที่แห่งนี้จะเป็นเรื่องดีหรือเปล่าแต่ในยามนี้เขาก็กำจัดโจรไปมากคงมิมีปัญหา ก่อนจะเริ่มรับประทานมันอย่างเอร็ดอร่อย

“ดูท่าเจ้าจะชอบมันสิ ข้าเทียนจวิน แชมป์แห่งลั่วหยาง”

เทียนโจวกล่าวออกมาอย่างภาคภูมิ ก่อนจะเริ่มรับประทานบะหมี่ของตนตามชายหนุ่มปิงจวนที่ตอนแรกยืนอยู่ที่ม้าก็มานั่งร่วมวงกับทั้งสองพร้อมกับเจ้าเขี้ยวเงิน

“ข้าปิงจวน ส่วนนี่เจ้าเขี้ยวเงินสัตว์เลี้ยงไม่สิ คู่หูของเทียนจวิน”

ปิงจวนกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มก่อนจะหยิบเอาชามของเทียนโจวมาร่วมรับประทานด้วย หญิงสาวยิ้มใส่เทียนโจวเบาๆหลังจากทำเช่นนั้นก่อนจะคืนให้เทียนโจว

“เรียกข้าจอมยุทธ์รัตติกาล”

จอมยุทธ์รัตติกาลกล่าวออกมาเพียงแค่ชื่อของตนก่อนจะเริ่มรับประทานบะหมี่ของโปรดของตนต่อ

“แล้วเจ้ามาจากที่ไหนล่ะ ข้านั้น….ไม่รู้สิตอนนี้ไม่มีที่อยู่แล้ว”

เทียนโจวหัวเราะออกมาหลังกล่าวจบ เทียนโจวในตอนนี้มิต่างอะไรจากคนไร้บ้านแม้แต่น้อย เขานั้นมิมีที่ให้กลับไปอีกแล้ว

“ข้าเป็นเพียงจอมยุทธ์พเนจรไม่มีที่พักหลักแหล่ง”

จอมยุทธ์รัตติกาลกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่ใบหน้านั้นหากสาวใดได้เฝ้ามองคงต้องลุ่มหลงมิใช่น้อยจากหน้ากากอีกฝ่ายที่สวมใส่ทับใบหน้าอยู่

“เป็นเช่นนี้เอง เอาล่ะข้าไปแล้ว หวังว่าเราจะได้พบกันอีก”

เทียนโจวยืนขึ้นหลังจากกล่าวจบก่อนจะอุ้มปิงจวนกลับไปยังม้าของตนก่อนจะออกเดินทางต่อ ทางด้านของจอมยุทธ์รัตติกาล

ก็เฝ้ามองทั้งสองคนจากไปจนลับสายตา

“คนประหลาด”

จอมยุทธ์รัตติกาลรีบลุกขึ้นหลังจากที่ทานบะหมี่ที่ได้มาจนหมดก่อนจะเริ่มออกผจญไปตามป่าอีกครั้งเพื่ออกล่าพวกโจรชั่วที่คอยทำร้ายผู้คนตาดำเยี่ยงวีรบุรุษในเงามืด

ให้บะหมี่ฉีซาน [206] จอมยุทธ์รัตติกาล

เอฟเฟคจากตัวละคร
Points	Exp	ความสัมพันธ์ (ปิงจวน)	ชื่อเสียง
+4 จากโรลอวดเบ่ง (หยิ่งยะโส)	+5 จากโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น (หูดี)	+15 กับคนที่ให้ความสนใจ (แข็งแกร่งดุจเซี่ยงอวี่) +15 กับคนที่คุยด้วย (หูดี) +5 มีธาตุทองเหมือนกัน +20 ปีนักษัตรถูกโฉลกกัน (ชวด > ฉลู) -20 กับคนที่สนทนาด้วย (ฟันเขี้ยว) -10 กับคนที่มีนิสัยหนอนหนังสือ (สายตายาว) +5 กับคนที่สนใจ (มีแผลเป็น) -5 กับขุนนางในสภา (หยิ่งยะโส) +15 เมื่อเจอชื่อเสียงเดียวกัน (ดี) -10 คนที่ให้ความสนใจ (เลือดออกง่าย)	+30 คุณธรรมเมื่อเจอหัวดี (ปิงจวน) +30 คุณธรรมเมื่อเจอหัวดี (จอมยุทธ์รัตติกาล)
ผลรวมของแต่ละอัน
+4	+5	+30	คุณธรรม : +60 ความชั่ว : ความโหด :

เอฟเฟคตัวละคร

ความสัมพันธ์ (206) (จอมยุทธ์รัตติกาล)

+15 กับคนที่คุยด้วย (หูดี) +5 มีธาตุทองเหมือนกัน +5 ปีชวดเหมือนกัน -20 กับคนที่สนทนาด้วย (ฟันเขี้ยว) -10 กับคนที่มีนิสัยหนอนหนังสือ (สายตายาว) +15 เมื่อเจอชื่อเสียงเดียวกัน (ดี)

ผลรวม

+10

JiTianTao ดี

โรลแวะป่านอกเมืองนิดหน่อย

ตอนนี้พวกของจีเทียนเต๋าหลังจากที่เดินทางกันมาเรียบร้อยแล้วนั้นพวกของตนเองก็ได้เดินทางกันมาจนจะใกล้ถึงที่หมายคือเมือนหนานไห่เรียบร้อยแล้วโดยที่เมืองนั้นก็อยู่ไม่ห่างจากจุดที่พวกของตนเองนั้นอยู่เสียเท่าไหร่เพียงใช้เวลาไม่นานพวกของตนเองก็จะถึงที่หมายเสียเรียบร้อยแบบนั้น

"ท่านอาเคจิเดี่ยวพวกเราเดินทางกันอีกไม่นานแล้วนะขอรับพวกเราก็จะถึงที่หมายของพวกเราแล้วแบบนั้นแล้วพอถึงเมืองเราก็จะพักผ่อนกันสักหน่อยแล้วก็หาสกุลอู๋ด้วยเพื่อที่จะไปรับงานจากอีกฝ่ายแบบนั้นแล้วพวกเราก็จะออกเดินทางไปจัดการเจ้าหมึกยักษ์ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนกันคงจะต้องลำบากท่านแล้วล่ะนะขอรับที่จะต้องให้ท่านนี้นั้นต้องมายากลำบากกับข้าด้วยแบบนั้น ข้านี้เป็นเจ้านายที่แย่จริงๆขอรับ"

"นายท่านอย่าได้กล่าววาจาเช่นนั้นเลยสำหรับข้าแล้วนั้นความยากลำบากแค่นี้เป็นเพียงความยากลำบากเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแหละขอรับนายท่าน หรือว่าต่อให้ตัวของข้านั้นจะต้องเจอความยากลำบากอย่างอื่นเสียมากกว่านี้ไม่ว่าจะเท่าไหร่ตัวข้าก็จะขอฟันฝ่าความยากลำบากนี้ไปพร้อมกับนายท่านอย่างแน่นอนสำหรับตัวของข้านั้นไม่มีทางที่จะรักความสบายเพียงผู้เดียวแล้วจะต้องทนเห็นพวกพ้องและก็นายท่านนั้นจะต้องได้รับความลำบากหรอกขอรับเพราะว่าพวกเราคือพวกเดียวกันขอรับ"

"ข้าคิดไม่ผิดจริงๆที่ท่านอาเคจิจะต้องมีความคิดเห็นเช่นนี้แต่ว่ายังไงข้าก็ต้องขอขอบคุณท่านมากจริงๆสำหรับการที่ท่านนั้นร่วมทุกข์ร่วมสุขกับข้ามาเช่นนั้น แต่ว่ายังไงข้าก็ไม่อยากเห็นพวกพ้องของตนเองจะต้องเหนี่อยยากลำบากหรอกนะขอรับ แต่ว่าขอเวลาให้กับข้าหน่อยข้าเชื่อว่าตัวของข้านั้นจะต้องหาหนทางที่ทำให้พวกเรานี้นั้นสบายขึ้นกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน แต่ว่าความสบายของพวกเรานั้นจะไม่ใช่ความสบายบนความทุกข์ของผู้อื่นหรอกนะขอรับขอให้ท่านนั้นสบายใจได้ตัวข้าจีเทียนเต๋านั่นไม่ใช่คนที่มีนิสัยอย่างงั้นอย่างไรเสียพวกเราก็มาเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ใช่มาเพื่อตอกย้ำผู้อื่นแบบนั้นนะขอรับ"

"ข้าจะติดตามนายท่านอย่างแน่นอนไม่ว่ามันจะยากลำบากมากเพียงใดก็ตามนายท่านสำหรับตัวของข้านั้นตั้งแต่ที่ข้าได้พบกับนายท่านข้าก็สาบานกับตัวเองไว้แล้วว่าตัวข้านั้นจะติดตามรับใช้นายท่านตลอดไปอย่างแน่นอนขอรับขอให้นายท่านนั้นเชื่อในความจงรักภัคดีของข้าผู้นี้ได้เลยขอรับ"

"ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็ไปฝ่าความยากลำบากด้วยกันเถอะนะขอรับฮ่าๆ สำหรับข้ายังไงข้าก็ไม่มีวันที่จะสงสัยสหายของตนเองได้หรอกนะขอรับเพราะว่าข้านั้นเชื่อใจพวกท่านยังไงพวกเราก็เป็นสหายกันในกลุ่มเดียวกันถ้าเกิดว่าตัวของข้านั้นยังไม่สามารถที่จะเชื่อใจในตัวของสหายด้วยกันเองได้แล้วล่ะก็ข้าก็คงจะไม่สามารถที่จะเชื่อใจใครในแผ่นดินนี้ได้แล้วหรอกนะขอรับแบบนั้น"

"ได้เลยขอรับนายท่านตัวของข้านั้นจะไม่ทำให้ความเชื่อใจของนายท่านต้องไร้ค่าอย่างแน่นอนขอให้นายท่านมีคำสั่งอะไรมาก็ตามทีตัวของข้านั้นก็จะทำมันให้สำเร็จให้จงได้ขอให้นายท่านเชิญสั่งข้าได้เลยขอรับ"

"เอาไว้รอข้ามีคำสั่งอะไรข้าก็จะบอกกับท่านนะท่านอาเคจิ เดี่ยวพวกเราออกเดินทางต่อกันดีกว่านะเพราะว่าคงจะอีกไม่ไกลแล้วข้าอยากที่จะทำบททดสอบนี้ให้เสร็จสิ้นไปเสียทีแบบนั้น"

ใช้ลักษณะนิสัยถ่อมตน

+2 point เมื่อโรลให้เกียติอีกฝ่ายถ่อมตน

+10 ความสัมพันธ์กับขุนนางในสภา

ผู้รู้คุณ

+10 ความสัมพันธ์ขุนนางในสภา

หูดี

+15 ความสัมพันธ์เมื่อคุยกับคนอื่น

หลังตรง

+15 EXP จากการโรลสร้างความน่าเคารพศรัทธาต่อผู้พบเห็น หรือ ถูก member คนอื่นยกย่อง

+20 ความสัมพันธ์คนในทีม

+15ความสัมพันธ์กับหัวดี

+30 คุณธรรมกับคนหัวดี

มอบไอเทม ชากงอวี้ฮวา ให้กับ NPC J-004

ใช้ลักษณะนิสัย สุขุม

+5 ความสัมพันธ์กับผู้เล่น

+10 ความสัมพันธ์คนที่มีนิสัยเหมือนกัน

คิ้วพยัค์
+20 ความสัมพันธ์คนในทีม

ผู้กล้า
+20 ความสัมพันธ์คนที่คุณสนใจ

@Watcher