แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Lizixuan เมื่อ 2021-9-24 18:26
ฟังธรรมจากเจ้าอาวาส
หลี่ซีซวนเลือกเดินทางออกจากเมืองอันติงเข้าเมืองเทียนซุย ควบม้าหยุดพักระหว่างทางเป็นระยะให้มู่อิงได้พักร่างกาย เมื่อพ้นเขตภูมิภาคเหลียงโจวใต้จึงเข้าเขตของแดนเหนือ ผ่านเมืองเซียนซุย แล้วแวะหยุดพักที่เมืองจินเฉิง ให้มู่อิงนั่งลงทานหมั่วโถวกับน้ำชาบริเวณชานเมือง อุ้มมู่อิงนั่งลงบนหลังม้าตามเคยแล้วจูงมาพาชมเมืองจินเฉิง ที่นี่มีความคึกคักและมีสีสันค์มากกว่านครหลวงมากนัก ไม่รู้ว่าที่อู๋เว่ยจะสนุกสนานมากกว่านี้หรือไม่ ระหว่างทางที่เดินมาคล้ายว่ามาตรงจังหวะวันสำคัญของเมืองนี้พอดี เพราะเห็นว่าผู้คนในเมืองจินเฉิงส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางแห่งหนึ่ง หลี่ซีซวนกระตุกสายบังเหียนเร่งฝีเท้าเดินจูงม้าตามหลังคนเหล่านั้น กระทั่งสายตาเคลื่อนมาเห็นอาคารหลังหนึ่งลักษณะคล้ายกับที่หลี่ซวนพบเจอบ่อยครั้ง มันคือพระอารามที่มีลักษณะโดดเด่นกว่าที่เมืองจี้โจว มีความเก่าแก่ทางสถาปัตยกรรม หลี่ซีซวนผูกม้าไว้ด้านข้างพระอาราม พามู่อิงเดินเข้ามาชมภายในบริเวณพระอารามแห่งนี้ ที่นี่พระและแม่ต่างยืนทำความสะอาดพื้นอาราม ดูแลสิ่งของต่างๆไม่ให้มีฝุ่นเกาะหรือเลอะเทอะ พอสังเกตใบหน้าทั้งพระและแม่ชีทุกคนล้วนแน่วแน่ จดจ่อกับงานที่กำลังทำอยู่เบื้องหน้า ไม่สนใจสิ่งใดที่กำลังเกิดขึ้นรอบข้าง หลี่ซีซวนหยุดยืนด้านหน้าทางเข้าอาคารใหญ่ด้านในประดิษฐานรูปปั้นแกะสลักจากไม้ด้วยกัน 3 องค์ส่งกลิ่นหอมออกมาถึงด้านนอก ความศรัทธาของผู้คนในเมืองจินเฉิงไม่แพ้เมืองจี้โจวเลยทีเดียว เสียงท่องบนสวดมนต์พร้อมเพรียงไปในทำนองเดียวกัน เกิดความไพเราะส่งผลให้ผู้คนต้องหยุดยืนฟังด้วยอาการสำรวมแล้วเหล่าบรรดาพระและแม่ชีต่างยืนสำรวมทำความเคารพพระสูงวัยรูปหนึ่ง ใบหน้าแก่ชราบ่งบอกว่าล่วงสู่ปัจฉิมวัย ทว่าท่าทาง กิริยา ความประพฤติของพระชรารูปนี้น่าเลื่อมใส่ เคารพยิ่งนัก ระหว่างทางที่เดินมายังรับการเคารพจากพระและแม่ชีด้วยท่าทางสำรวม พบเด็กน้อยยังแสดงความเมตตา เอ็นดูอีกต่างหาก นับจากบิดาของหลี่ซีซวนที่มีอาการคล้ายอย่างนี้แล้ว พระชรารูปนี้นับว่าสูงกว่าหนึ่งขั้น ไม่ทันที่มู่อิงกับหลี่ซีซวนจะเดินจากไป เสียงก้องกังวานของพระผู้เฒ่าบอกว่าให้หยุดก่อน "ประสก หยุดให้อาตมาก่อนเถิด ฟังเราพระผุ้เฒ่าสักครู่" มิทันที่พระชราจะเดินมาถึงตัว สังเกตได้ว่าหากหลี่ซีซวนออกตัวกว่านี้อีกนิดพระในวัดคงสกัดแน่แล้ว "มิทราบว่าท่านมีความประสงค์จะบอกสิ่งใดแก่ข้าหรือ พระคุณเจ้า" แม่ชีคนหนึ่งเดินเข้ามาจะปลอบขวัญมู่อิง แต่มู่อิงไหวตัวทันมายืนหลบด้านหลังหลี่ซีซวน พระเฒ่ามิให้ใครเข้ามาข้องเกี่ยวอีก "อาตมาเพียงเห็นหน้าประสกนึกถูกชะตาและคิดว่าการที่ประสกกับเด็กน้อยมายังอารามแห่งนี้ คงเพราะเคยมีบุญสัมพันธ์กันมาก่อน อาตมาจึงอยากให้ธรรมะกับประสกซักหลายประโยค" หลี่ซีซวนไม่รู้ว่ากำลังสนทนากับรูปท่านที่ดำนงตำแหน่งเจ้าอาวาสของอารามที่นี่ จึงมิใช่เรื่องแปลกหากหลี่ซีซวนจะไว้ตัวมากกว่าสำรวมเช่นนี้ เมื่อเห็นว่าหลี่ซีซวนไม่กล่าวอันใดต่อ เจ้าอาวาสผู้ใจเย็นจึงกล่าวถึงธรรมะที่กำลังจะยกขึ้นมาพร้อมกับศรัธทาของสาธุชนที่กำลังพอฟังธรรมะจากพระคุณเจ้า อันเป็นโอกาสอันหาได้ยากยิ่งแต่หลี่ซีซวนกลับได้รับความเมตตาจากเจ้าอาวาสโดยตรง "ผู้เดินทาง ควรกำจัดความคิดทั้งมวลเสีย ความดีก็เช่นเดียวกับความชั่ว (กิเลสคือโพธิ สองอย่างนี้เหมือนกัน ไม่ต่างกัน) สิ่งนี้ย่อมเป็นเพียงหนทางที่เรียกกันว่า ภาวะที่แท้แห่งจิตเท่านั้น โดยแท้จริงแล้ว ย่อมไม่อาจเรียกเป็นชื่อใด ๆ ได้ ธรรมชาติอันไม่เป็นของคู่นี้ คือธรรมชาติที่แท้จริง และหลักคำสอนทั้งหลาย ก็อาศัยมูลฐานจากสิ่งนี้ คนเราควรจะตระหนักถึงภาวะที่แท้แห่งจิต ในทันทีที่เขามาถึง หลักธรรมนั้น จะตระหนักชัดได้ด้วยจิต และไม่ได้ขึ้นอยู่กับการนั่งขัดสมาธิ ธรรมทั้งหลายย่อมสงบและว่างเปล่า เป็นสิ่งที่ไม่ได้ไหวสะเทือนในสภาพที่มีความวุ่นวาย และก็ไม่ได้สงบนิ่งในสภาพที่มีสมาธิ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ถาวรและก็ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ไม่ถาวร ไม่ได้ไปหรือมา ไม่อาจพบได้จากภายนอก และก็ไม่อาจพบได้จากภายใน หรือไม่อาจพบได้ในอวกาศซึ่งอยู่ในระหว่างสิ่งทั้งสองนี้ เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความมีอยู่และความไม่มีอยู่ สิ่งที่อาตมาหมายถึงเหนือความมีอยู่และความไม่มี อยู่ ก็คือโดยเนื้อแท้แล้วย่อมไม่มีอยู่ แต่ในปัจจุบัน ขณะก็ไม่ได้ถูกทำลายล้าง" ธรรมะชั้นเลิศเปล่งออกมาจากปากของเจ้าอาวาาแห่งอารมต้ายือหยูไหล ธรรมบทนานทีจะออกเทศน์กลางแจ้งในลักษณะแบบนี้ ฉะนั้นทั้งพระ แม่ชี และศาสนิกชนทุกคนล้วน ฟังเทศน์นี้ด้วยอาการสำรวม สงบ ปราศจากกิริยาเลวทราม หลี่ซีซวนรับฟังด้วยความเคารพเช่นกัน ยกมือประสานขอบคุณพระผู้เฒ่า แม้จะไม่ค่อยเข้าใจนานไปคงตกผลึกได้เอง มู่อิงได้รับความเมตตาจากเจ้าอาวาสและไม่มีท่าทีกลัวเช่นหนแรก ศาสนาชิกของเมืองจินเฉิงต่างอิจฉาในความโชคดีของหลี่ซีซวนกับมู่อิง โอกาสอันงามเช่นนี้พวกเขาอยู่มานานน้อยครั้ง จะได้รับจากเจ้าอาวาส พลันเสียงระฆังภายในวัดดังขึ้น พระสงฆ์ที่มีหน้าที่ทำความสะอาดพระพุทธรูปองค์สำคัญทั้ง 3 องค์ ต่างปืนขึ้นไปทำความสะอาดพระพุทธรูปที่แกะสลักจากไม้เนื้อหอมด้วย ความระมัดระวังและสำรวม แน่นอนว่าหลี่ซีซวนและมู่อิงได้อยู่ร่วมชมด้วยเช่นกัน พลัยพระสงฆ์ทั้งนั้นทำความสะอาดพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์เสร็จสิ้น ศาสนิกชนทั้งหลายต่างไหว้ด้วยความเคารพอีกครั้งหนึ่ง หลี่ซีซวนกับมู่อิงอำลาเจ้าอาวาสเป็นที่เรียบร้อย ออกเดินทางต่อทันที
|