เมืองโผหยาง โชคชะตาพามาเจอ กับยอดนักรบคนหนึ่ง
ตอนนี้เองตัวเจ้าเมืองสวีได้เดินทางมายังลานปราชญ์เพียงคนเดียว เพื่อมาดูว่าลานแห่งนี้มีความสงบเรียบร้อยมากน้อยแค่ไหน หลังจากที่สร้างมาสักพักหนึ่งก็ยังไม่มีการทำพิธีใดๆ เนื่องจากเจ้าเมืองอยากให้มีเสถียรภาพต่างๆให้มั่นคงยิ่งขึ้นก่อน ทางด้านการทหารและความมั่นคงของเมือง ส่วนเรื่องศาสนา... เราจะต้องให้ศาสนาของเราวางรรากฐานอย่างแข็งแกร่งเสียก่อน ถึงจะเริ่มใช้งานที่แห่งนี้ได้..
เจ้าเมืองสวีเดินมาสำรวจวัดพระพุทธศาสนาที่อยู่นอกเมือง มองไปรอบก็มีแต่ความสุขสงบร่มเย็น เป็นศาสนาที่รักสันติโดยแท้ เหมาะแก่การอุปถัมป์ควบคู่ไปด้วยกันกับศาสนาหนี่กุ้ยเว่ยของเรา
"......" เจ้าเมืองเดินเข้ามาในวัด พร้อมไปยังหน้าอารามภายในตัววัดที่มีพระพุทธรูปตั้งอยู่ ก่อนจะทำการไหว้พระพุทธรูปเล็กน้อยการสักการะ ให้ความเคารพแก่สถานที่ แม้ต่างความเชื่อ ก็ไม่ได้อยากเบียดเบียนลัทธิที่รักสงบเช่นนี้จริงๆ ตอนนั้นเองเหมือนด้านหลังของเจ้าเมืองสวีจะมีแสงสว่างวาปขึ้นมา จนเธอรู้สึกได้แต่ยังมิได้หันไปมอง จนกว่าจะไหว้พระเสร็จ
เมื่อทำการไหว้พระพุทธรูปเสร็จแล้ว ก็เดินออกมายังบริเวณหน้าประตูอาราม เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นจากแสงเมื่อครู่
ทว่าตรงหน้าก็ปรากฏชายคนหนึ่งที่ซึ่งสวมชุดเกราะเต็มยศสีดำทะมึน สวมหมวกคลุมครึ่งใบหน้า แต่ที่แน่ๆทราบว่าเป็นชายยอดนักรบคนหนึ่ง เขากวาดสายตามองไปรอบๆราวกับไม่คุ้นชินที่นี่มาก่อน "ที่นี่ที่ใดกันรึ? ไม่คุ้นมาก่อน" เสียงชายคนหนึ่งพูดขึ้น น้ำเสียงดูทุ่มต่ำ มีความองอาจและสัมพัสได้
"...." เจ้าเมืงอสวีเห้นผู้มาเยือนคนใหม่ราวกับไม่คุ้นสถานที่ดูท่าทางต้องการความช่วยเหลือ เธอจึงเดินอย่ามีกิริยามารยาทสำรวมตรงไปหาเขา "ต้องการให้ข้าช่วยสิ่งใดหรือไม่เจ้าคะ ท่านผู้มาเยือน?" เจ้าเมืงอสวีพูดคุยกับชายคนดังกล่าวตรงหน้า
".....!" ชายชุดเกราะทะมึนคนนั้นหันมองเสียงสตรีคนหนึ่งที่มีความเพรียบพร้อมในหลายๆอย่างในสายตาเขา แต่ที่น่าแปลกคือเขากลับทราบได้ทันทีว่าตนต้องภักดีต่อใคร ซึ่งไม่มีคนอื่นเลยนอกจากตรงหน้า "สถานที่แห่งนี้ช่างร่มรื่นและเงียบสงบ ต่างจากที่ตัวข้าเป็นนักรบผยองศึกคนหนึ่ง ซึ่งข้าเองก็ไม่ทราบว่ามาโผล่ที่นี่ได้อย่างไร ต้องขออภัยจริงๆแม่นาง แต่ข้านั้นรู้สึกได้ว่ายุคสมัยนั้นเปลี่ยนไป การศึกครั้งใหม่จะมาถึง แม่นางคือผู้ที่มีโชคชะตาตรงกันกับข้าใช่หรือไม่?" ชายคนนั้นกล่าวถามขึ้น
"นายของข้า?" เจ้าเมืองสวีฟังแล้วพินิจคิดครู่นึง ก่อนจะคิดได้ว่าบุคคลนี้ต้องการตามหานายที่ดีหรือไม่? ซึ่งด้วยนิสัยตัวเราก็จะต้องรับไว้เป็นธรรมดา "ท่านดูเจนศึกมามากมาย การจะหานายที่ดีและส่งเสริมให้ความสามารถของท่านแสดงออกมาให้ประจักษ์บนแผ่นดินนั้นก็มียากนักหนา หากท่านมองหานายที่มีคุณสมบัติข้างต้นที่ครบครันแล้วไซร้ อันตัวข้าสามารถมอบความตั้งใจของท่านให้ได้อย่างแน่นอนเจ้าคะ" เจ้าเมืองสวีกล่าวเป็นการชักชวนอีกฝ่าย
"ช่างมองไม่ผิดเสียจริงที่ข้าได้พบกับผู้มีโชคชะตาตรงกัน" ชายคนนั้นคุกเข่าลงราวกับน้อมรับเป็นเจ้านายตน "ข้าแซ่ตระกูลหวัง นามเกิดเจี้ยน ขอรับใช้แก่ท่านและนำความสงบสุขมาสู่เมืองของท่านและแผ่นดินที่ท่านครอบครอง ให้ข้านำเกียรติยศมาสู่เมือง และดินแดนของท่าน" ชายผู้นั้นเอ่ย เขาคือหวังเจี้ยน เทพนักรบผู้มีชื่อนั่นเอง...
"ท่านหวังเจี้ยน..." เจ้าเมืองสวีแทบไม่เชื่อสายตาตน ว่าเทพนักรบจะมารับใช้เราด้วยตัวเอง "ข้าดีใจอย่างยิ่งที่ท่านจะมารับใช้เรา และข้าจะตอบรับคำขอของท่านให้ท่านได้ทำตามความตั้งใจอีกครั้งแน่นอนเจ้าคะ" เจ้าเมืองสวีตอบรับคำสวามิภักดิ์ของหวังเจี้ยน และรับเขามาอยู่ภายในสังกัดอย่างเต็มใจ
"ข้าหวังเจีย้นจะจดจำความมีจิตไมตรีของท่านไว้อย่างดี" หวังเจี้ยนตอบรับคำของเจ้าเมืองสวี...
----------------------------------
+2 Point โรลให้เกียรติผู้ที่คุย ถ่อมตน +2 Point โรลวางแผน หูดี +5 Point โรลวางแผน นักวางแผน รวม 9 Point
----------------------------------
รับหวังเจี้ยนเข้าสภา
ความสัมพันธ์ H020 หวัง เจี้ยน +5 พูดคุย +15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย หูดี +5 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจเรา คิ้วหงส์ +15 เจอกันครั้งแรก หลังตรง +20 อัญเชิญวีรชนสำเร็จ -30 ไม่ชอบนิสัยทะเยอทะยาน รวม 30
|