[นอกเมืองโผหยาง] ค่ายทหารวิหคธารา

ค่ายทหารวิหคธารา

ค่ายทหารประจำเมืองโผหยาง สถานที่รับสมัครฝึกพลเรือนเพื่อเข้าเป็นทหาร
และแบ่งเป็นตามเหล่าในอนาคตเพื่อรับใช้เจ้าเมืองและแผ่นดิน มีกฏที่เข้มงวดและการตรวจตราที่ดี
ด้วยนโยบายของเจ้าเมืองคนใหม่ที่รับสมัครทหารทั้งบุรุษและสตรี ไม่ว่าใครก็สามารถรับใช้
ทำเพื่อแผ่นดินได้ทั้งนั้นไม่มีการกีดกัน เมื่อถึงเวลาการฝึกจะมีการฝึกฝนร่วมกัน
แต่เรือนนอนพักนั้นจะแบ่งโซนแยกกัน

ขุนพลรักษาการณ์เมือง

กงไป๋ จินเว่ย

เกณฑ์ทหารได้ 1 ครั้งต่อสัปดาห์
หมายเหตุ: จำนวนครั้งรวมผู้เล่นทุกคนในแคว้น 1 ครั้ง = 1 ID
โดยหากจำนวนทหารไม่เต็มจะดำเนินการกี่ ID ก็ได้
แต่หากทหารเต็มแล้วจะต้องอัพเกรดค่ายทหารก่อน

XiangShan ดี

เมืองโผหยาง

บำเน็จให้กงไป๋

ต่อมา หญิงสาวนั้นได้รับจดหมายฉบับหนึ่งนานแล้ว ซึ่งเป็นของกงไป๋จินเว่ยส่งมา เธอเลยเก็บไว้จนกว่าจะกลับมาถึงเมือง

จนกระทั่งได้พบกับกงไป๋จินเว่ยหลังกลับมาไม่นาน ก็ให้ไปพบกันที่ค่ายทหาร

เมื่อมาถึงค่ายทหารนอกเมือง ก็พบว่าค่ายทหารนี้ยังดูไม่ค่อยมีทหารมาประจำการ เพราะว่าเรายังไม่พร้อมเรื่องบุคลากรในการคุมทหาร ยิ่งไปกว่านั้น ความไม่สงบภายในเมืองก้ยังยากที่จะทำให้สงบได้อยู่ดังที่ประสบพบเจอมา

"นายหญิง ยินดีที่ได้พบขอรับ" กงไป๋จินเว่ยที่มารออยู่แล้วทักหญฺงสาวหลังจากหญิงสาวเดินมาถึงค่ายทหาร

"ยินดีค่ะ" หญิงสาวทักกลับไป

"ที่นี่ก็ยังไม่มีทหารมาประจำการสินะเจ้าคะ" เธอมองไปรอบๆค่ายทหารที่สร้างมาแล้วสักพักนึง

"ขอรับนายหญิง ดังที่นายหญิงเห็น ข้าเลยส่งจดหมายไปว่าด้วยเรื่องปัญหานี้ขอรับ ว่าเราควรจะมีทหารประจำการเพื่อรักษาความสงบหลังจากนี้"

กงไป๋ออกความเห็น

"ข้านึกได้อย่างนึง ข้าขอลา 6 เดือนได้ไหมขอรับ เพื่อไปเชิญสมัครพรรคพวกเก่าในกลุ่มโจรผ้าเหลือง อาจจะได้สัก 200-300 นายที่จะมารับใช้ท่าน"

กงไป๋กล่าวต่อ ว่าจะลาไปตามหาพรรคพวกมารับใช้นายหญิง

".........." หญิงสาวฟังข้อสเนอแล้วคิดสักครู่หนึ่ง ก่อนเธอจะให้คำตอบ

"ข้อเสนอของท่านกงไป๋น่าสนใจ ทว่าเขายังขาดแคลนบุคลากรนัก ที่ข้าออกเดินทางไปไกลนั้นข้าไปตามหาคนที่มีแนวโน้มที่จะเข้ากับเราได้ง่าย และข้าพยายามสานสัมพันธ์กับพวกเขาซึ่งใช้เวลา

ดังนั้นข้าคิดว่าท่านอย่าเพิ่งไปตอนนี้ดีกว่า จนกว่าข้าจะหาบุคลากรมาร่วมงานกับท่านในอนาคตได้นะเจ้าคะ"

หญิงสาวให้คำตอบ ยังไม่อนุญาต เพราะคนยังไม่มากพอ และกังวลเกี่ยวกับจำนวนบุคลากรตอนนี้

"ถ้านายหญิงตอบเช่นนั้น ข้าก็ขอน้อมรบบัญชา" กงไป๋ยอมรับการตัดสินใจของหญิงสาว

"แต่อย่างน้อยท่านก็ทำหน้าที่รักษาการณืในเมืองได้ดี แม้ท่านจะเป็นคนพูดตรงไปหน่อย แต่ข้ามิถือโกรธเคือง ดังนั้นข้าจะบำเหน็จให้ท่านเป็นจำนวนสองเท่าของเงินเดือนเพื่อเป็นกำลังใจให้ท่านทำหน้าที่ต่อไปนะเจ้าคะ

ส่วนเรื่องเกณฑ์ทหารท่านมิต้องห่วง ยามที่เมืองสงบดีแล้วข้าจักขอถือโอกาสทำด้วยตัวเอง ให้ข้าได้ลองบริหารทหารเพื่อเป็นประสบการณ์ในภายภาคหน้า"

หญิงสาวเอ่ย และจะปูฯบำเหน็จให้กงไป๋จินเว่ยที่ทำหน้าที่ได้ดี

"ขอบพระคุณนายหญิงมากขอรับ" กงไป๋กล่าวขอบคุณเมื่อหญิงสาวเจ้าเมืองปูนบำเหน็จให้  เป็นอันจบการพบปะในค่ายทหารเพียงเท่านี้

ปูนบำเน็จให้กงไป๋จินเว่ย 160 ทอง

นิสัยละโมบ รายได้+5% เป็น 168 ทอง

---------------------------

+2 Point จากการโรลให้เกียรติผู้ที่คุย ถ่อมตน

+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ ทะเยอทะยาน

+2 Point จากการโรลวางแผนการ หูดี

+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้ นักวิชาการ

+5 Point โรลวางแผน นักวางแผน

รวม 15 Point

---------------------------

@Watcher

XiangShan ดี

เมืองโผหยาง

ตรวจตราค่ายทหารกับไป๋เชว่ปา

วันเวลาผ่านไป..

ณ ค่ายทหารโผหยาง

หลังจากเจ้าเมืองสวีสั่งให้ไป๋เชว่ปา สานุศิษย์สายต่อสู้คุมการทหารให้ทำการเกณฑ์ทหารในเมืองโผหยางของเรานำไปยังค่ายทหาร เพื่อสร้างเสถียรภาพของเมืองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิมในอนาคต

เนื่องจากเราได้รับรู้ว่ามีโจรบางกลุ่มได้มาลงหลักปักฐานใกล้ๆกับบริเวณเมืองของเราแล้ว เราจะนิ่งนอนใจไม่ได้เด็ดขาด ไม่สักวันหนึ่งพวกดจรก็จะเข้ามาตีเรา นี่คือสิ่งที่เจ้าเมืองสวีกังวลมากที่สุด

เผยแพร่ศาสนายังไม่ทันไรเลยมีโจรมาชุกชุมในเขตเมืองเราเสียแล้ว...

เจ้าเมืองสวีเดินทางมาถึงค่ายทหารในยามรุ่งเช้า เธอเดินผ่านอากาศยามเช้าที่มีหมอกเย็นยะเยือก แต่ไม่ค่อยเป็นผลกับเจ้าเมืองสวีสักเท่าไหร่เพราะเธอทนสภาพอากาศได้อยู่แล้ว

จากนั้นไม่นานเจ้าเมืองสวีก้าวเท้าเข้ามาในค่ายทหาร พร้อมกับมองไปรอบๆค่ายที่มีหมอกจางๆปกคลุมอยู่ เหมือนกับว่าค่ายแห่งนี้จะสามารถฝึกกองทหารซุ่มกลางหมอกได้เลยนะเนี่ย

เจ้าเมืองสวีก็คิดจินตนาการไปแต่คงทำได้ยากอยู่ เพราะมันต้องใช้ยุทธวิธีเท่านั้นล่ะ

มองไปกลางลานค่ายทหาร ก็เห็นกองใหม่มากมายกำลังยืนเรียงแถวกันอยู่ในยามเช้าๆตรู่แบบนี้ ทหารใหม่ที่เพิ่งเกณฑืมาไม่นานมานี้ราวๆ 3พันคนเห็นจะได้

ส่วนใหญ่ก็ดูแข็งขันกันดีในระดับหนึ่ง ส่วนอีกระดับหนึ่งก็ดูหย่อนยาน ยังไม่ค่อยมีระเบียบวินัยสักเท่าไหร่นัก ซึ่ง...ก็ปกตินั่นแหละ

"เอ้าอย่าเหยาะแหยะหย่อนยานนะพวกเจ้าทั้งหลาย! มาเป็นทหารแล้วจะต้องเข้มแข็งกว่านี้เข้าใจมั้ย!?"

เสียงหญิงสาวตะเบ็งขึ้นบอกกล่าวเหล่าทหารในค่ายทั้งหมดนั้นเอง เมื่อเสียงดังขึ้นทำให้ทหารบางคนที่หย่อนๆยานๆถึงกับสะดุ้งเฮือกกันไปบ้าง

เจ้าของเสียงนั่นก็คือ ไป๋เชว่ปา นั่นเอง เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารโผหยาง เธอก้มีความตั้งอกตั้งใจในการฝึกทหารมากทีเดียวเลยเชียว

ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่เคยฝึกทหารมาก่อนก็จริง แต่เราได้ถ่ายทอดประสบการณ์ฝึกทหารให้นางทั้งหมดแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรล่ะ

"ฮุๆ" เจ้าเมืองสวีมองภาพการฝึกทหารโดยไป๋เชว่ปาก็แอบยิ้มเล็กน้อย นี่สินะ... ก้าวแรกของการทหารในเมืองของเรา

ถ้าเราพัฒนาการทหารให้ดีขึ้นในอนาคต ไม่แน่ว่ากองทหารของเราเองจะต้องดีขึ้นอย่างมากแน่ๆนอน

ด้วยนิสัยทะเยอทะยานของตัวเจ้าเมืองสวีเองแล้ว การคิดไกลฝันไกลเกี่ยวกับกองทหารตัวเอง ก็ช่างหอมหวานเสียจริง กองทหารหญิงโผหยางระบือไกลไปทั่วแผ่นดิน นั่นล่ะ..คือสิ่งที่เราต้องการ..

เจ้าเมืองสวีก้าวเท้าไปอย่างเงียบๆเชียบและไม่เร่งรีบ เพื่อที่จะก้าวขึ้นไปยังเวทีอัฒจรรย์ที่มีเชว่ปายืนคุมทหารอยู่บนนั้น โดยมิให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าเจ้าเมืองกำลังจะมาตรวจตราความเรียบร้อย

"จากนี้จะต้องฝึกวินัยอีกเยอะ เข้าใจรึไม่! การฝึกเจ้าวันนี้จะต้องแยกเหล่าอีกด้วย ขอให้คิดดีๆ!"

เชว่ปากระกาศออกไป จากนี้จะมีการแยกฝึกอีกด้วยในอนาคต ก็เหมือนกับการแยกเหล่าทหารนั่นแหละ

"ช่างแข็งขันยิ่งนึกสมเป็นศิษย์ข้า กองทหารของเราคงเกรียงไกรยิ่งถ้ามีเจ้าคอยเป็นหัวหอกให้กองทหารของเราเจ้าคะ"

เจ้าเมืองพูดขึ้นในขณะที่กำลังก้าวขึ้นบันไดมา ทำให้เชว่ปาถึงกับหันขวับเมื่อได้ยินเสียงอาจารย์ของตนเข้าในทันใดนั้นเอง

"ทะ ท่านอาจารย์ ไม่นึกว่าท่านอาจารย์จะมาขออภัยจริงๆ!" เชว่ปาเสียมาดนายกองผู้แข็งแกร่งทันทีเมื่อเจออาจารย์ของตนแวะมาเยี่ยมเยือน ก่อนที่จะรีบทำการคำนับอาจารย์ตน

"มิเป็นไรเจ้าคะ ข้าแค่แวะมาตรวจเยี่ยมดูกองทหารของเราว่ามีความเพรียบพร้อมเพียงใด" เจ้าเมืงอสวีเอ่ยพร้อมกับขึ้นมายืนข้างๆเชว่ปา

หันหน้ามองกองทหารของตนที่เพิ่งจะได้รับการเกณฑ์มาใหม่ๆหมาด พวกเขาดูมีความเพรียบพร้อมและไม่เพรียบพร้อมปะปนกันไป เป้นเรื่องธรรมดาของทหารใหม่

"ท่านอาจารย์มาตรวจดูก็นับว่าดียิ่ง ข้าจักได้พูดปลุกขวัญกำลังใจของทหารใหม่ให้ดียิ่งขึ้นยังไงล่ะท่าน! " เชว่ปาเอ่ยพร้อมกับหันไปพูดกับเหล่าทหารที่อยู่เบื้องล่างอัฒจรรย์

"เอาล่ะพวกเจ้าจงฟัง! เจ้าเมืองสวีได้มาตรวจเยี่ยมดูพวกเจ้าแล้ว ขอให้ขยันขันแข็งกันด้วย เพื่อไม่ทำให้เจ้าเมืองผิดหวังเข้าใจมั้ย!?"

เชว่ปาพูดปลุกใจทหารในกรมกองทั้งหมดนี้เอง

"ฮะ ฮ่าห์!" เสียงทหารทั้งหลายตอบรับกลับมานั้นยังไม่ค่อยดังเท่าไหร่

"ข้าไม่ได้ยินเลย เสียงดังกว่านี้!!" เชว่ปาตะเบ็งเสียงออกไป

"ฮ่าห์!!" ทหารพร้อมใจกันเปล่งเสียงอีกครั้งอย่างแข็งขัน

"ดีมาก! ทีนี้ พวกเจ้าจะต้องเริ่มการฝึกจากอะไรก่อนรู้มั้ย ใช่แล้ว พวกเจ้าเป็นพลเรือนมาก่อน ดังนั้นเมื่มอาเป้นทหารแล้วพวกเจ้าจะต้องปรับพื้นฐานกันซะก่อน

นั่นก็คือการฝึกวินัยทหาร พวกเจ้าต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เข้าใจมั้ย!?" เชว่ปาเอ่ยให้ทหารใหม่ทั้งหลายเป็นการสอนสั่ง

"ฮ่าห์!!  เข้าใจแล้ว!!" ทหารทั้งหลายตอบรับแทบจะเป้นเสียงเดียวกัน ภายในเสียงเหล่านั้นยังพอรู้ว่ามีความหย่อนหยานแฝงอยู่บ้าง แต่เจ้าเมืองสวีคิดว่าเดี๋ยวก้ชินไปเอง

"เอาล่ะดีมาก! ทีนี้พวกเจ้าทุกคนจะต้องช้อมวินัยทหารเสียก่อน กองทัพมีวินัย 3 ข้อให้พวกเจ้าจำให้ขึ้นใจ!

พวกเจ้าจะต้องท่องกฏกองทัพให้ได้ และอย่าให้ขาดตกบกพร่องเป็นอันขาด! ถ้าพวกเจ้าไม่ปฏิบัติตามก็ไม่ใช่ทหาร เป็นแค่กองโจรเหมือนกับพวกที่ตั้งตัวกันอยู่ทั้งหลายนี้!

หากผู้ใดฝ่าฝืนวินัยทหาร จะต้องโดนประหารทันที! เข้าใจมั้ย!?" เชว่ปาพูดกฏทหารออกไป ไม่ใช่การขู่แต่คือการเอาจริงเอาจังมากที่สุดในชีวิตของเธอ

"ฮะ ฮ่าห์!!!" ทหารใหม่หลายคนฟังแล้วก็เกิดอาการกลัวเลกน้อย แต่ไม่เปนไรมาเป็นทหารแล้วทนได้อยู่แล้วล่ะ...

"ดีมาก! ต่อไปนี้ข้าจะให้พวกเจ้าฝึกฟังสัญญาณกลอง ในการเดินทัพสัญญาณกลองสำคัญมาก! ถ้าพวกเจ้าฟังไม่รู้เรื่องกระบวนทัพก็ไม่มีความหมาย เข้าใจมั้ย!?"

เชว่ปาหลังจากสอนสั่งกฏกองทัพไปแล้วทีนี้ก็ถึงเวลาฝึกทหารใหม่ด้วยสัญญาณกลอง โดยการฝึกสัญญาณกลองนั้นตรงตามกฏกองทัพที่ได้รับถ่ายทอดจากเซียงซานมาแบบไม่มีผิดเพี้ยน

สัญญาณกลองก็ประกอบไปด้วย ตีกลอง 1 ครั้ง ให้ทุกคนขวาหัน , ตีกลอง 2 ครั้ง ให้ทุกคนซ้ายหัน , ตีกลองติดต่อกันรัว ๆ ให้ทุกคนเดินหน้า

ได้ยินเสียงแตร ทุกคนจะต้องหยุดก้าวและถอยหลังก้าวนึง

*ตึง*

*ตึงตึง*

*ตึงตึงตึงตึงๆๆๆ*

เสียงกลองรัวเป้นจังหวะและสัญญาณที่ดังขึ้นบ่งบอกสัญญาณในสนามรบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ซึมซับเข้าไปอยู่ในสายเลือดของพวกเขาในฐานะทหารนั่นเอง

เพราะลงสนามรบจริงจะไม่มีใครมาบอกเช่นนี้ เราต้องมีหูไว ตาไว ต่อสู้ฉับไว

ซึ่งแน่นอนการฝึกฟังสัญญาณกลองย่อมไม่สามารถฝึกวันเดียวและจำได้ ต้องมีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เจ้าเมืองสวีเองก็ลงไปเดินอยู่การฝึกฝนอย่างใกล้ชิด

มันก็ยังมีบางคนบางตอนไม่ทัพสัญญาณกลองบ้างล่ะ เรื่องปกติสำหรับทหารใหม่ จะต้องฝึกฝนต่อไปเรื่อยๆมิให้ขาด วินัยทหารนั้นสำคัญยิ่งขาดขาดตกบงพร่องมิได้

โดยมองทะลุเข้าไป กองทหารเหล่านี้มีผสมกันไปทั้งชายและหญิง ฝึกซ้อมด้วยกัน และที่สำคัญก้สร้างความเป้นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และความเท่าเทียมเห็นค่าในกองทัพไปในตัว... มีแต่ได้กับได้แล้วจุดนี้

ผ่านไปชั่วยามเศษๆ การฝึกฟงัสัญญาณกลองก็จบลงชั่วคราว จนกระทั่งแม่ทัพเชว่ปาจึงได้ออกคำสั่งใหม่

"เอาล่ะต่อไปนี้! ข้าจะให้พวกเจ้าทุกคนฝึกช้อมทหารอิสระ พวกเจ้าจงหาจับคู่กับเพื่อนทหารฝึกช้อมด้วยกันเสีย! เพื่อปรับศักกายภาพของพวกเจ้าเองด้วย! ปฏิบัติ!!"

เชว่ปาออกคำสั่งให้ทหารทุกคนฝึกซ้อมกันเอง โดยหาจับคู่กันและกัน แสดงทท่าทางออกอาวุธไปต่างๆนาๆ

เจ้าเมืองสวีลงไปเดินดูการฝึกอย่างใกล้ชิดอีกครา ซึ่งแน่นอนว่าการฝึกฝนต่อสู้ บางคนยังจับอาวุธไม่เป็นก้ยังมี โดยเฉพาะ ทหารหญิง ที่แทบจะไม่เคยจับอาวุธแต่อยากจะมาเป็นทหาร

ขนาดจะแกว่งอาวุธให้โดนศัตรูยังทำได้ยากเลย ซึ่ง...เธอก็ไม่ว่าอะไร

"ขออภัยนะเจ้าคะ" เจ้าเมืองสวีเข้าไปหาทหารหญิงเหล่านั้น

"พวกท่านจักต้องจับอาวุธให้มั่นคง เมื่อเหวี่ยงไปจักได้มิหลุดมือ เน้นการออกอาวุธให้หนักมากขึ้นเจ้าคะ ยิ่งเราเอาใจใส่มากเท่าไหร่การฝึกซ้อมก็ยิ่งดี

ในสนามรบจริงไม่มีการออมมือกันนะเจ้าคะ ขอให้ตั้งใจฝึกซ้อมกันตั้งแต่วันนี้" เจ้าเมืองสวีกล่าวกับทหารอย่างถ่อมตนและเป้นกันเอง เปล่งราศีผู้น่าเคารพนับถืออย่างเต็มเปี่ยม ให้กำลังใจกองทหารหญิงของตนเอง

"ขะ ขอบพระคุณเจ้าคะ" ทหารหญิงคนนั้นขอบคุณที่เจ้าเมืองสวีมาสอนให้กับตนเอง

ซึ่งแน่นอน เจ้าเมืองสวีลงไปฝึกสอนบางส่วนบางตอนแก่หทารหญิงเหล่านั้นด้วยตัวเองอีกด้วย และให้กำลังใจเหล่าทหารหญิงทุกคนทุกกองที่เสียสละตนเองเพื่อเมืองของเรา...

การฝึกซ็อมดำเนินไปด้วยความทะลักทุเลเล็กน้อย ส่วนใหญ่เกินครึ่งยังไม่มีทักษะต่อสู้เท่าไหร่นัก ส่วนบางคนก็มีทักษะต่อสู้ที่ดี อาจจะเป็นทหารเก่าหรือมีอาชีพที่เกีย่วกับการใช้แรงมาก่อน ก็นับว่าเป็นเรื่องดี

ก็หวังว่าในกรมกองจะมีการฝึกฝนต่อยอดในวันข้าง ซึ่งเธอนั้นย่อมคาดหวังถึงอนาคตอย่างแน่นอน

...

....

การฝึกในยามเช้าตรู่ผ่านไปก็ถึงเวลายามสาย ให้ทหารที่เพิ่งฝึกซ้อมหมาดๆได้รับการพักเหนื่อยก่อนเสียเล็กน้อย เพราะการปรับตัวจากทหารเป็นพลเรือนมันต้องใช้เวลาอยู่บ้าง

ในระหว่างที่ทหารกำลังพัก เชว่ปาเองก็เดินลงมาดูเหล่าทหารเล็กน้อยก่อนจะเดินมาหาอาจารย์ของตน

"ท่านอาจารย์ ทหารของเราเองก็มีหน่วยก้านดีอยู่บ้าง หากแต่ว่ากลุ่มทหารหญิงส่วนใหญ่ยังไร้การฝึกฝนที่ดี จำต้องได้รับการฝึกที่เคี่ยวเข็ญกว่านี้เป็นแน่

หวังว่าพวกนางคงจะทนได้ในระยะยาว" เชว่ปาคิดและก้วิเคราะห์ เป้นธรรมดาที่เพศหญิงจะอ่อนกว่าเพศชาย

"มิต้องห่วง สตรีที่มักจะถูกตราหน้าว่าอ่อนแอก็มิได้อ่อนแอเสมอไป หากได้รับการเคี่ยวเข็ญฝึกฝนเฉกเช่นเดียวกับทหารทั่วไป ย่อมเป็นกองกำลังที่ดีในอนาคตแน่นอน ข้าเชื่ออย่างนั้น

และข้ามีเจ้าอยู่ ข้าเองก็มิต้องเป็นห่วงเรื่องเมืองและทหารของข้าอีก นับว่าเจ้าคือมือขวาของข้าโดยแท้จริง เชว่ปาศิษย์ข้า.." เจ้าเมืองกับสานุศิาย์ตนเองว่า เป็นหัวหอกในการฝึกทหารและสร้างความแข็งแกร่งให้กับเหล่าสตรีโดยแท้

"ขะ ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ชมข้า.. ท่านอาจารย์ก็กล่าวเกินไป แหะ.." เชว่ปาแอบหวั่นและเขินๆในใจเมื่อได้รับคำชมเช่นนั้น

"ถ้าอย่างนั้น เจ้ารับสิ่งนี้ไว้สิ" เจ้าเมืองสวีหยิบสิ่งของบางอย่างออกมา มันคือกระบี่เล่มหนึ่งที่ซึ่งดูหมองๆเก่าๆ

"เจ้าถือเป้นตัวแทนข้าแล้ว กระบี่นี้ข้าใช้มันผ่านสมรภุมิมา ข้าคงไม่ได้ใช้มันอีกในระยะยาว ข้าว่าเจ้าจะเหมาะกับมันมากที่สุด" เจ้าเมืองสวีกล่าวอย่างอ่อนโยนและไว้ใจเชว่ปามาก

"ทะ..ท่านอาจารย์ ท่านมอบสิ่งสำคัญถึงเพียงนี้ให้แก่ข้าเลยหรือ?" เชว่ปานึกไม่ถึงว่าอาจารย์จะมอบสิ่งสำคัญให้ตน ทั้งๆที่มันควรจะคู่ควรกับอาจารย์เองมากกว่า

"ข้าจักไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวังอย่างแน่นอน! ข้าจะทำให้ดีที่สุด!" เชว่ปาได้รับสิ่งของมอบมาจากอาจารย์ตนก็เหมือนได้รับการปลุกใจอย่างยิ่งยวด ว่าเจ้าเมืองสวีเห้นความสำคัญของตนและยินดีภักดีรับใช้จนกว่าจะหาไม่กันไปข้างหนึ่ง...

ใช้งาน 236 ไป๋เชว่ปา

+2 Point ทุกครั้งที่โรลพัฒนาเมือง ดื้อรั้น

+10 EXP เมื่อโรลแสดงความห้าวหาญ กล้าหาญ

+5 EXP เมื่อโรลเพลย์พูดปลุกใจผู้คน กล้าหาญ

+10 EXP จากการโรลเพลย์สร้างความหวาดกลัวแก่ผู้อื่นให้เกรงกลัวเรา คิ้วพยัคฆ์

มอบอุปกรณ์ระดับน้ำเงินให้ 2 ชิ้น +30 EXP

รวม 2 Point 55 EXP

มอบอุปกรณืระดับน้ำเงินให้ 2 ชิ้น +30 ความภักดี (หรือนับชิ้นเดียว?)

---------------------------

+2 Point จากการโรลให้เกียรติผู้ที่คุย ถ่อมตน

+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ ทะเยอทะยาน

+2 Point จากการโรลวางแผน หูดี

+2 Point ทุกครั้งที่โรลพัฒนาเมือง ทะเยอทะยาน

+3 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง นักบริหาร

+3 Point จากการโรลทำงาน เลื่อมใสศรัทธา

+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้ นักวิชาการ

+5 Point โรลวางแผน นักวางแผน

รวม 23 Point

---------------------------

ความสัมพันธ์

236 ไป๋เชว่ปา สานุศิษย์

+5 พูดคุย

+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย หูดี

+5 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจเรา คิ้วหงส์

+20 ความสัมพันธ์ ธาตุถูกกัน (ทองหนุนน้ำ)

+10 ความสัมพันธ์กับคนในปาร์ตี้ ถ่อมตน

+20 ความสัมพันธ์คนในทีม หลังตรง

+35 มอบอุปกรณืระดับน้ำเงินให้

-5 ความสัมพันธ์กับคนในทีม ดื้อรั้น

รวม 105

--------------------------------

@Watcher

XiangShan ดี

หวังเจี้ยน เตรียมฝึกทหาร

ต่อมา หลังจากการเกณฑ์ทหารเสร็จสิ้น จากเดิมที่เขาตั้งเป้าไว้ 3พันก็ขยับขึ้นมาเป็น5พันนาย เนื่องจากเขาต้องการมีกำลังทหารไว้เยอะๆสำหรับควบคุมความสุขในเมองและภูมิภาคใกล้เคียง และเพื่อสร้างเสถียรภาพให้แก่โผหยางตามสิ่งที่เจ้าเมืองต้องการ

หวังเจี้ยนพาทหารทั้ง5พันมายังค่ายทหารแล้วรอก่อน จากนั้นเขาจึงทำหนังสือส่งไปยังทำเนียบเจ้าเมือง เพื่อให้เจ้าเมืองหรือรองเจ้าเมืองอนุมัติในการเกณฑ์ทหาร

เพิ่มขึ้นครั้งนี้ เพราะยอดเกณฑ์เกินเป้าก้จริงแต่เขแทอยากจะรับมาทั้งหมด เพื่อทำมาฝึกทหารมิให้เสียเทียว

ไม่นานหลังจากส่งหนังสือขออนุญาติไป ผู้รักษาการณ์เจ้าเมือง หมิงซู่เหยาก็ให้การตกลง ด้วยเหตุผลเพื่อความมั่นคงของโผหยาง จึงได้รับการอนุมัติ

"ทหารใหม่ทุกนายทั้งห้าพันคนฟังข้า!" หวังเจี้ยนประกาศให้ทหารเกณฑ์ในสังกัดของเขาฟัง

"พวกเจ้าทุกคนจะต้องเข้ารับการฝึกเป็นทหารม้าทันที โดยจะเริ่มฝึกนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!

เช่นนั้นขอให้พวกเจ้าทุกคนตั้งใจฝึกฝน นิมิตหมายในการทำศึกสงครามกับเหล่าโจรใกล้เข้ามาแล้ว ฉะนั้นเราต้องเตรียมตัวตลอดเวลา ห้ามหนีทัพเป็นอันขาด เข้าใจมั้ย!?"

หวังเจี้ยนกล่าวปลุกใจเหล่าทหารใหม่ พร้อมพาไปฝึกทหารใหม่ทันทีในค่ายทหารม้า

-----------------------

H020 หวังเจี้ยน

+5 EXP เมื่อโรลเพลย์พูดปลุกใจผู้คน กล้าหาญ

+7 EXP จากการทำงานช่วยเหลือเจ้านาย ซื่อสัตย์

+5 EXP ในขณะที่โรลเพลย์ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ซื่อสัตย์

+5 EXP จากการโรลประพฤติตนน่าเชื่อถือ ซื่อสัตย์

+2 Point โรลช่วยเหลือส่งเสริมผู้อื่นโดยบริสุทธิ์ใจ ซื่อสัตย์

+2 Point โรลบริหารจัดการ รู้จักหักห้ามใจ

รวม 22 EXP 4 Point

@Watcher

[102] หลิว จวิ้นเหอ (อาจารย์) / [146] หวัง อี้ (ศิษย์) (แต่งตัวเป็นเด็กชาย) /

[195] เซี่ยง เจิ้ง / [020] หม่า เชา (ม้าเฉียว) (ศิษย์)

2 ขุนพล เซี่ยงเจิ้งกับจวิ้นเหอได้ยินข่าวว่าโผหยางมีวอประจำเดือนที่จะนำกองทัพออกปราบออกปราบ

พวกเขาอยากมาขออาสาร่วมการรบด้วย ถามว่าคุณมีตำแหน่งว่างในกองทัพบ้างหรือไม่

อีกทั้งเขาอยากจะขอพาศิษย์ทั้งสองไปเรียนรู้ในสงครามด้วย หากไม่รังเกียจจะขอพาเด็กสองคนไปได้ไหม

(เด็กไม่นับโควต้าแค่ไปดู) พวกเขาจะดูแลเด็กเองไม่ต้องห่วง

@XiangShan  รวมในสตอรี่ระดมกองทัพ ปรับกองทัพและจัดเสบียง

(หากรับโปรดจัดสรร กุนซือ หรือ 1 ใน 4 ขุนพลร่วมทัพให้ทั้งคู่ หากที่เต็มแล้ว = คุณปฏิเสธทั้งคู่ร่วมทัพปราบโจร)

- หากที่ว่างไม่พอ สามารถสลับสับเปลี่ยนบางคนออกได้ หรือจะเลือกคนเดียว ส่วนเซี่ยงเจิ้งจะขอไม่ไปสละให้น้องรอฃได้สร้างผลงานแผ่นดิน)

XiangShan ดี

เมืองโผหยาง

ระดมทหารปราบโจร

ตอนนี้เจ้าเมืองสวีพร้อมบรรดาขุนพล 3 คนประกอบด้วย หวังเจี้ยน เสิ่นเพ่ย และไป๋เชว่ปา เดินทางมายังค่ายทหารเพื่อระดมพลไปปราบโจรที่มายึดท่าเรือหูโข่วอยู่

พวกนั่นช่างกล้ามายึดถิ่นของเรา ต้องกำจัดให้สิ้นซากและคืนความสุขแก่ราษฎรโดยเร็ว

เมื่อมาถึง ก็พบกับหลี่มู่รออยู่ที่หน้าค่าย พร้อมออกศึกด้วยกันกับสวีเซียงซาน

"ท่านเจ้าเมืองสวี ยินดีที่ได้พบ" หลี่มู่คำนับทักเจ้าเมืองสวีเมื่อได้พบหน้ากัน

"ยินดีเช่นกันเจ้าคะท่านหลี่มู่ หวังว่าเราจะได้ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันและกัน" สวีเซียงซานคำนับกลับอย่างนอบน้อมเช่นกัน

"ข้าจะไประดมทหารเพื่อต่อสู้กับโจรเพื่อสร้างความสงบสุขให้กับภูมิภาคของเราโดยเร็ว การที่ท่านตอบรับรวดเร็วเช่นนี้ถือว่าเราเห็นแก่ส่วนรวมและราษฎรเป็นใหญ่เสมอ"

สวีเซียงซานกล่าวดว้ยความยินดี

"ข้าก็คิดเช่นเดียวกับท่านเจ้าเมืองด้วยขอรับ ข้าจะทำให้ดีที่สุด" หลี่มู่กล่าวรับอีกฝ่าย

หลังจากนั้นทั้งเซียงซาน ขุนนางและหลี่มู่เดินเข้ามายังค่ายทหาร แต่ที่น่าตกใจก็คือเราพบกับแขกบางคนบางอย่างในค่ายทหารนั้นด้วย

ซึ่งนั่นก็คือจอมยุทธเซี่ยง จอมยุทธหลิวและบรรดาศิษย์ของพวกเขายืนรออยู่ในค่ายทหาร

"อ๊ะ พวกท่านคือ?" เซียงซานรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตากับผู้มาเยือนเลยเข้าไปทักทาย พบว่าเป็นพวกเขาจริงๆ

"สวัสดีแม่หญิงสวี ไม่สิ ต้องเรียกว่าเจ้าเมืองสวีใช่หรือไม่ขอรับ" เซียงจ้งหลูกล่าวทักทายเจ้าเมืองสวีเมื่อได้พบหน้ากัน

"อา ยินดีที่ได้พบอีกครั้งเจ้าคะ ไม่นึกว่าท่านทั้งหลายจะอุส่าห์เดินทางมายังเมืองที่กันดารเช่นนี้ แล้วเราจะเริ่มทหารศึกสงครามเพื่อขับไล่โจรอีกด้วยต้องขออภัย"

เจ้าเมืองสวีเอ่ย

"มิเป็นไรขอรับ พวกเราเองก็ได้ยินเรื่องราวที่เจ้าเมืองสวีจะเปิดศึกกับโจรแล้ว พวกเราจึงมาขออเข้าร่วมด้วยขอรับ

พร้อมกับสหายข้าหลิวจวิ้นเหออีกคนหนึ่งและบรรดาศิษย์ไปเป้นผู้ชมในสงครามด้วย" เซี่ยงจ้งหลูกล่าวพร้อมแนะนำสหายและบรรดาศิษย์ของเขาให้รู้จักอีกครั้ง

"ยินดีที่ได้พบเจ้าคะ ข้ารู้สึกปลื้มใจมากที่พวกท่านรับรู้ว่าเรากำลังจะปราบโจร จึงอุส่าห์เดินทางมาช่วยเราถึงที่" เจ้าเมืองสวีของขอบคุณที่พวกเขาอุส่าเดินทางมาไกล

"พวกเราเองก็ยินดีที่จะช่วยปราบปรามพวกโจรให้หมดไปโดยไว ขอให้เจ้าเมืองโปรดพิจารณาให้เข้าร่วมด้วย" หลิวจวิ้นเหอออกมาอาสาพร้อมกับเซี่ยงจ้งหลู

"ยินดีอย่างยิ่งเจ้าคะ เช่นนั้นเรามาหารือกันเถิด" เจ้าเมืองสวีเอ่ยเตรียมพาไปหารือ

ขุนนางทุกคนรวมถึงผู้อาสารวมสวีเซียงซานเข้าไปในค่ายกระโจมแม่ทัพใหญ่พร้อมหารือการที่จะนำทหารออกไปต่อสู้ และจัดสรรตำแหน่งให้เรียบร้อย

"ทางเรามีตำแหน่งว่างอยู่ คือตำแหน่งกุนซือเจ้าค่ะ แต่สามารถเข้ามาได้เพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะตำแหน่งขุนพลของเราเต็ม 3 ที่ บวกอีกหนึ่งได้ให้แก่ท่านหลี่มู่แล้วค่ะ"

เจ้าเมืองสวีบอกกล่าว

"ไหนๆท่านก็มาแล้ว ท่านหลิวจวิ้นเหอสนใจเป็นกุนซือไหมเจ้าคะ ข้าพิจารณาแล้วน่าจะเหมาะกับท่านที่สุด" เจ้าเมืองสวีเสนอ พร้อมกับใช้สายตาพิจนิจวิเคราะห์อีกฝ่าย

"ยินดีอย่างยิ่งที่เจ้าเมืองกรุณา ข้าจะทำให้ดีที่สุด" หลิวจวิ้นเหอกล่าวขอบคุณ

"ส่วนท่านเซี่ยงมิต้องเสียใจนะเจ้าคะ ท่านสามารถอยู่คุ้มกันท่านกุนซือหลิวได้ในระหว่างสงครามเจ้าคะ" เจ้าเมืองสวีกล่าวกับเซี่ยงจงหลู เขาคงต้องไปรอในเมืองเสียแล้วล่ะ

หลังจากนั้น เจ้าเมืองสวีจึงสั่งการจัดสรรทหาร เสบียง และกองทัพให้เรียบร้อย

"ทหารทุกนายจงฟัง เราจะนำส่วนหนึ่งออกสู้ศึกกับโจรที่อยู่ท่าเรือนอกเมือง ขอให้จัดกองทัพตามนี้ด้วยนะเจ้าคะ!" เจ้าเมืองสวีสั่งการ

โดยจัดสรรเสบียง 30000 หาบสำหรับเตรียมเดินทางและปราบโจร

แม่ทัพใหญ่ : สวี เซียงซาน  (คุมกองทัพทั้งหมด มีอำนาจสั่งการขุนพล ทหาร คุมทหารประกอบด้วย ทหารธนู 1000 นาย ทหารทวน 500 นาย)

กุนซือกองทัพ: หลิว จวิ้นเหอ (ร่วมกับศิษย์ของพวกเขาสองคน)

ขุนพลคนที่ 1: ไป๋ เชว่ปา (คุมทหารธนู 200 นาย ทหารม้า 500 นาย)

ขุนพลคนที่ 2: หวัง เจี้ยน (คุมทหารม้า 4000 นาย)

ขุนพลคนที่ 3: เสิ่น เพ่ย (คุมทหารดาบโล่ 200 นาย ทหารทวน 300 นาย)

ขุนพลคนที่ 4: หลี่ มู่ (กองหนุน คุมทหารดาบโล่ 125 นาย ทหารทวน 200 นาย)

เหลือทหารไว้เฝ้าเมือง 1075 นาย ประกอบด้วย

ทหารทวน 275 นาย แบ่งเป็นชาย 50 คน หญิง 225 คน

ทหารธนู 300 นาย แบ่งเป็น หญิง 300 คนถ้วน

ทหารม้า 500 นาย แบ่งเป็นชาย 275 นาย หญิง 225 นาย

หลังจากจัดสรรกองทัพและเสบียงเสร็จเรียบร้อย เจ้าเมืองสวีก้สั่งการให้กองทัพเดินหน้าออกจากค่ายทหารได้

"ทหารทุกนาย! เดินหน้าได้!" เจ้าเมืองสวีสั่งการ ให้กองทัพตนเดินทางออกจากเมือง มุ่งหน้าไปจัดทัพในเขตเมืองท่าหูโข่วเพื่อกู้คืนสถานที่ทันที

----------------------------------

+2 Point จากการโรลให้เกียรติผู้ที่คุย ถ่อมตน

+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ ทะเยอทะยาน

+2 Point จากการโรลวางแผน หูดี

+3 Point จากการโรลทำงาน เลื่อมใสศรัทธา

+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้ นักวิชาการ

+5 Point โรลวางแผน นักวางแผน

รวม 18 Point

-20 ความเครียด เมื่อโรลทำงาน เลื่อมใสศรัทธา

----------------------------------

ความสัมพันธ์

236 ไป๋เชว่ปา สานุศิษย์

+5 พูดคุย

+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย หูดี

+5 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจเรา คิ้วหงส์

+20 ความสัมพันธ์ ธาตุถูกกัน (ทองหนุนน้ำ)

+10 ความสัมพันธ์กับคนในปาร์ตี้ ถ่อมตน

+20 ความสัมพันธ์คนในสภา หลังตรง

-5 ความสัมพันธ์กับคนในทีม ดื้อรั้น

รวม 70

H020 หวัง เจี้ยน

+5 พูดคุย

+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย หูดี

+5 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจเรา คิ้วหงส์

+10 ความสัมพันธ์กับขุนนางในสภา ถ่อมตน

+20 ความสัมพันธ์กับคนในทีม หลังตรง

-30 ไม่ชอบนิสัยทะเยอทะยาน

รวม 25

H012 หลี่ มู่

+5 พูดคุย

+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย หูดี

+5 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจเรา คิ้วหงส์

+15 หัวดีเหมือนกัน

รวม 40

102 หลิวจวิ้นเหอ

+5 พูดคุย

+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย หูดี

+5 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจเรา คิ้วหงส์

+5 ความสัมพันธ์ ธาตุน้ำเหมือนกัน

+15 เจอกันครั้งแรก หลังตรง

รวม 45

195 เซี่ยงจ้งหลู

+5 พูดคุย

+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย หูดี

+15 ความสัมพันธ์ ถ่อมตนเหมือนกัน

+5 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจเรา คิ้วหงส์

- 15 ความสัมพันธ์ ดินข่มน้ำ

-5 หัวดีเจอคลั่ง

รวม 20 คสพ.

020 ม้าเฉียว

+5 พูดคุย

+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย หูดี

+5 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจเรา คิ้วหงส์

+20 ความสัมพันธ์ ธาตุถูกกัน (น้ำหนุนไม้)

รวม 45

146 หวังอี้

+5 พูดคุย

+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย หูดี

+5 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจเรา คิ้วหงส์

+15 เจอกันครั้งแรก หลังตรง

- 15 ความสัมพันธ์  น้ำข่มไฟ

รวม 25 คสพ.

@Watcher

XiangShan ตอบกลับเมื่อ 2022-10-30 22:13
เมืองโผหยางระดมทหารปราบโจร
ตอนนี้เจ้าเมืองสวีพร้อม ...

แม่ทัพใหญ่: สวี เซียงซาน (STR 318 - LEA 219)  พลังชีวิต 27300/27300

(ทหารธนู 1000 นาย ทหารทวน 500 นาย)

กุนซือกองทัพ: หลิว จวิ้นเหอ (เด็กชายหวังอี้มาดูด้วย) (STR 240 - LEA 100) พลังชีวิต 19000/19000

ขุนพลคนที่ 1: ไป๋ เชว่ปา (STR 221 - LEA 202) พลังชีวิต 20000/20000

(คุมทหารธนู 200 นาย ทหารม้า 500 นาย)

ขุนพลคนที่ 2: หวัง เจี้ยน (STR 180 - LEA 239) พลังชีวิต 12600/12600

(คุมทหารม้า 4000 นาย)

ขุนพลคนที่ 3: เสิ่น เพ่ย (STR 112 - LEA 74) พลังชีวิต 17200/17200

(คุมทหารดาบโล่ 200 นาย ทหารทวน 300 นาย)

ขุนพลคนที่ 4: หลี่ มู่ (STR 150 - LEA 88) พลังชีวิต 20000/20000

(กองหนุน คุมทหารดาบโล่ 125 นาย ทหารทวน 200 นาย)

รวมทหารกองทัพ: 7025 นาย

เทิร์นที่ 1

โผหยาง - เมืองท่าหู่โข่ว เข้าเงื่อนไข VIP

- เมืองที่ห่าง 1-3 เมือง จะใช้เวลาเดินทัพ  1 วัน (VIP ครึ่งวัน)

  

- จวิ้นเหอ,ฐานะกุนซือกองทัพ เสนอแนะตั้งค่ายที่ป่านอกเมืองห่างจากเมืองสามร้อยลี้ และ แม่ทัพสวีที่มีพลธนูมากที่สุด นำหน่วยทหารไปซุ่มหุบเขาทางขวา

เขาขออำนาจบัญชาทัพใหญ่ได้หรือไม่ ให้ท่านแม่ทัพรอสัญญาณ

- สร้างสตอรี่ ณ เวลา 12.00 น. วันที่ 31/10/2565 ที่กองทัพไปถึง

- เลือกพิกัดโรลแรก สถานที่ตั้งค่าย (ป่า ริมน้ำ บลาๆ ) หรือ ป่านอกเมืองตามที่จวิ้นเหอเสนอ

- หากคุณตกลงแผนจวิ้นเหอ ให้เสนอปัก สถานที่ หุบเขาด้านขวา โรลตั้งค่ายใหญ่ซ่อนในป่าเสร็จ โรลภูเขาคุณนำกองทัพคุณไปซุ่มในหุบเขา

- หากไม่ทำตามแผนก็วางแผนที่โรลแรกที่ตั้งค่าย

XiangShan ดี

กลับค่ายทหาร

หลังจากจบศึกมาผ่านตัวเมืองมาแล้วเรียบร้อย เจ้าเมืองสวีจึงนำพาขุนพลและทหารทุกๆคนกลับไปที่ค่ายทหารก่อน

จึงเคลื่อนทัพผ่านตัวเมืองมายังประตูตะวันออก แล้วเข้าสู่ค่ายทหารต่อหลังจากนั้น

เมื่อมาถึงค่ายทหาร พร้อมกับนำทหารแต่ละหน่วยเข้าไปประจำในหน่วยทหารตัวเองเรียบร้อย ก็เป้นการจบการคุมทหารแต่เพียงเท่านี้

เหลือแต่เพียงขุนพลและตัวเจ้าเมืงอสวีที่อยู่ ณ ค่ายทหาร

"ศึกนี้คงอาจจะเป็นศึกแรกของเรา นับว่าเหนื่อยใช่ย่อยนะเจ้าคะ เพราะศัตรูมีกำลังมากกว่าเราแต่ก็เอาชนะมาได้ ซึ่งจะช่วยสร้างความฮึกเหิมแก่ทหารของเรามากขึ้นเจ้าคะ

เช่นนั้นแล้วข้าจักเรียนเชิญทุกๆท่านที่เข้าร่วมศึกครั้งนี้มารับความชอบและปูนบำเหน็จที่จวนเจ้าเมืองของเรานะเจ้าคะ" เจ้าเมืองสวีกล่าวเชิญทุกคนมารวมตัวกัน ณ จวนเจ้าเมือง

"รับทราบ" หวังเจี้ยนกล่าว

"ทราบแล้วท่านอาจารย์" เชว่ปาเองก็ตอบรับ

ขุนพลคนอื่นๆ จวิ้นเหอ เสิ่นเพ่ยและหลี่มู่เองก็ตอบรับ พร้อมกับเดินทางไปที่จวนเจ้าเมืองพร้อมๆกัน เพื่อรับการปูนบำเหน็จ

----------------------------------

+2 Point จากการโรลให้เกียรติผู้ที่คุย ถ่อมตน

+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ ทะเยอทะยาน

+2 Point จากการโรลวางแผน หูดี

+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้ นักวิชาการ

+5 Point โรลวางแผน นักวางแผน

รวม 15 Point

-----------------------

H020 หวังเจี้ยน

+7 EXP จากการทำงานช่วยเหลือเจ้านาย ซื่อสัตย์

+5 EXP ในขณะที่โรลเพลย์ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ซื่อสัตย์

+5 EXP จากการโรลประพฤติตนน่าเชื่อถือ ซื่อสัตย์

+2 Point โรลบริหารจัดการ รู้จักหักห้ามใจ

รวม 17 EXP 2 Point

----------------------------------

ความสัมพันธ์

236 ไป๋เชว่ปา สานุศิษย์

+5 พูดคุย

+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย หูดี

+5 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจเรา คิ้วหงส์

+20 ความสัมพันธ์ ธาตุถูกกัน (ทองหนุนน้ำ)

+10 ความสัมพันธ์กับคนในปาร์ตี้ ถ่อมตน

+20 ความสัมพันธ์คนในสภา หลังตรง

-5 ความสัมพันธ์กับคนในทีม ดื้อรั้น

รวม 70

H020 หวัง เจี้ยน

+5 พูดคุย

+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย หูดี

+5 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจเรา คิ้วหงส์

+10 ความสัมพันธ์กับขุนนางในสภา ถ่อมตน

+20 ความสัมพันธ์กับคนในทีม หลังตรง

-30 ไม่ชอบนิสัยทะเยอทะยาน

รวม 25

H012 หลี่ มู่

+5 พูดคุย

+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย หูดี

+5 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจเรา คิ้วหงส์

+15 หัวดีเหมือนกัน

รวม 40

102 หลิวจวิ้นเหอ

+5 พูดคุย

+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย หูดี

+5 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจเรา คิ้วหงส์

+5 ความสัมพันธ์ ธาตุน้ำเหมือนกัน

รวม 30

@Watcher