ขุนศึก ขุนพล ขานรับตำแหน่ง
ธิวธงสะบัดตามเชิงเทินทั่วบริเวณค่ายของบ่ายวันที่ตะวันสาดส่องมอบความอบอุ่นของฤดูหนาว บนผืนธงสีแดงขลิบดำจารอักษร 'หลี่' สวยงาม ด้านหน้าประตูค่ายพยัคฆ์หยกมีทหารเดินสวนสนาม ฝากฝากสองข้างประตูค่ายมีป้อมสังเกตุการณ์และกลองเตือนภัย ภายในค่ายตั้งไว้ด้วยกระโจมทั่วค่ายทหารมีขนาดต่างกัน เหนือกระโจมมีธงจารอักอักษรของขุนพลไว้ไม่กี่แห่ง รวมทั้งกระโจมใหญ่ที่เป็นที่อยู่ของผู้บัญชาการค่ายทหารรายล้อมด้วยกระโจมของขุนศึกอีกหนึ่งชั้น กลางลานศึกซ้อมมีแท่นไม้ยกสูงไม่ใหญ่ ไม่เล็ก ไม่ได้มีแม่ทัพมายืนบนแท่นนี้นานมากแล้ว ปรกติมีปลัดทัพแวะเวียนมาตรวจตราความเรียบร้อยของค่ายทหาร เหล่าขุนทหารไม่ได้พบปะ เจอหน้าผู้บัญชาการค่ายทหารนับนิ้ว คิดคำนวณ เกินครึ่งปีเป็นอย่างน้อย เพราะงานเมืองรัดตัวจนไม่สามารถขยับตัวมาเยี่ยมค่ายทหาร ภายหลังส่งชุนซิ่นมาประจำค่ายทหารเป็นการชั่วคราว เหลือเพียงแขวนเป็นผู้บัญชาการค่ายแต่ในนามเท่านั้น กระนั้นทุกครั้งยังสั่งงานผ่านเฉินหยางเป็นประจำ
รถเกวียนเทียมด้วยวัวงามสง่านำหน้าบรรดาผู้ติดตามขี่ม้าตามหลัง ต่างคนต่างแสดงป้ายให้นายเวรรักษาประตูค่ายได้ตรวจดูความถูกต้อง ค่อยเคลื่อนตัวผ่านประตูค่ายเข้ามาด้านในค่ายทหาร แสงตะวันยามบ่ายช่วยคลายหนาวได้พอสมควร พวกเขาทั้งหมดต่างหยุดขบวนรถไว้ด้านหน้ากระโจมค่ายใหญ่ หลี่ซีซวนสวมชุดเกราะของขุนพล งามสง่า ดั่งแม่ทัพออกเล่นศึกเอง เซี่ยงอวี่ในชุดเกราะของขุนศึกให้ภาพความทรนง องอาจ อำนาจบารมีของพวกเขาดั่งปราการเหล็กกล้า ผู้ใดล้วนไม่กล้าผลีผลามทำลายป้อมปราการ
ด้านในกระโจมใหญ่อู่เถียนชุนซิ่นกับกวนเลี่ยงรอต้อนรับอยู่ด้านในกระโจมหลังใหญ่ อู่เถียนชุนซิน ขุนศึผู้กร้าวแกร่งได้พบเจอกันจากการทัศนาในป่านอกเมืองเว่ยหนาน สนทนากันจนมอบหมายให้มาดูแลค่ายทหาร ทำเอาบรรดานายทหารต่างเกรงกลัวโดยทั่วกัน ไม่ได้พบหน้ากันนานเดือน ทำให้ต้องหยุดสนทนาเป็นการชั่วคราว
"ท่านอู่เถียน ข้าต้องลำบากให้ท่านมาดูแลงานในค่าย มอบภาระหนักให้แก่ท่าน ข้าต้องขออภัยด้วย"
พวกเขาสองคนต่างคนต่างยืนกุมมือสนทนากัน ท่ามกลางบรรดาที่ปรึกษาและขุนพล
"นายท่านเหตุใดกล่าวเช่นนี้ ข้ามาทำงานกับท่าน เพื่อช่วยลดภาระงานที่รุมเร้า ท่านจะได้ไม่ต้องห่วงหน้า พะวงหลังอย่างไรเล่า" ชุนซิ่นตอบอย่างภาคภูมิใจ ตลอดเดือนมานี้ได้ปรับการฝึกทหารบางส่วน และให้ซ้อมสู้กันทุก 7 วัน "วันนี้ท่านมาที่ค่ายคงมิใช่เพราะตรวจเยี่ยมค่ายกระมัง" "ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น เมื่อทุกท่านอยู่กันพร้อมหน้า ถึงเวลาประกาศแต่งตั้งหน้าที่ในค่ายให้เป็นระเบียบเรียบร้อย" หลี่ซีซวนกับคณะที่ปรึกษาประกอบด้วยเฉินหยาง เทียนอินฉี เซี่ยงอวี่ และอู่เทียนชุนซิ่น ส่วนกวนเลี่ยงต้องให้ฝึกปรืออยู่ในค่ายทหาร เพื่อเรียนรู้งานราชการทหาร ทั้งหมดออกเดินตรวจเยี่ยมทุกส่วน ส่วนที่เป็นค่ายพลธนู ค่ายทวน และค่ายทหารม้า สามส่วนนี้ไว้ตรวจครั้งต่อไป เนื่องจากต้องกลับไปบริหารงานเมืองต่อ ปลีกเวลามาที่นี่ได้มิใช่เรื่องง่าย สิ่งหนึ่งที่พบคือวินัยหย่อนยาน ทหารไม่ค่อยได้รับการฝึกฝนตามสมควร ท่าทางเหยาะแหยะ อดจะเวทนากับความบกพร่องของตัวเองไม่ได้ จึงตัดเส้นทางตรวจเยี่ยมมายืนบนแท่นตรวจแถวทหาร โดยมีนายทหารและขุนพลมาพร้อมกันก่อนหน้านี้แล้ว เฉินหยางคลี่ม้วนกระดาษออก เดินออกมายืนด้านหน้า เตรียมประกาศคำสั่งแต่งตั้งให้ทราบโดยทั่วกันทั่งค่าย "หลี่ซีห่าว เจ้าเมืองเว่ยหนานและผู้บัญชาการค่ายพยัคฆ์มีประกาศแต่งตั้งขุนพลและที่ปรึกษาให้ขึ้นรับตำแหน่ง เพื่อให้ค่ายทหารพยัคฆ์หยกมีความเป็นระเบียบเรียร้อยมากยิ่งขึ้น จึงมีประกาศดังนี้ เซี่ยงอวี่เป็นรองผู้บัญชาการค่ายพยัคฆ์หยกและแม่ทัพค่ายทหารม้า มีอำนาจและหน้าที่ ลงโทษ ภาคทัณฑ์ เทียบเท่าผู้บัญชาการ และสามารถกระทำการตัดสินใจได้โดยไม่ต้องรอผู้บัญชาการ อู่เถียนชุนซิ่นเป็นแม่ทัพดูแลอู่ต่อเรือหลวงและแม่ทัพค่ายทหารธนู มีอำนาจและหน้าที่ ลงโทษ ในเขตอู่ต่อเรือหลวงและค่ายธนู เทียนอินฉีเป็นที่ปรึกษาค่ายทหารพยัคฆ์หยกและแม่ทัพค่ายทหารพลทวน กำกับงานดูแลประตูทิศเหนือและทิศใต้ เฉินหยางเป็นที่ปรึกษาค่ายทหารพยัคฆ์หยก กำกับงานดูแลประตูทิศตะวันออกกับทิศตะวันตก กวนเลี่ยงเป็นครูฝึกทหารค่ายพยัคฆ์หยก มีหน้าที่ฝึกทหารทุกคนในค่ายทหารและรับคำสั่งจาก ผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ แม่ทัพ และที่ปรึกษาทัพ ขอท่านทั้งหลายที่ได้รับแต่งตั้งตำแหน่งทั้งปวง จงเข้มงวดวินัย กวดขันเหล่าทหาร นายกอง และหลี่ซีซวนผู้บัญชาการค่ายพยัคฆ์หยกประกาศวินัยอัยการศึกให้สำนึกทั่วกัน วินัยทัพไม่ถือเครือญาติ ไม่มีปราณี ใครฝืนคำสั่งลงโทษตามกฎ หากร้ายแรงต้องประหารไม่มียกเว้น" นายทหารทุกคนรวมทั้งที่ปรึกษาต่างขานรับคำสั่งและข้อปฏิบัติถ้วนหน้า หากยังหย่อนหยานอีกย่อมต้องลงโทษตามลำดับชั้น หลี่ซีซวนไม่ได้กล่าวอะไรต่อบนแท่นตรวจการทหาร เดินลงจากแท่นไม้ นั่งรถเทียมวัวกลับออกจากไปตามปรกติ ลักษณะนิสัยใจดำ +35 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นแก่ตัวไม่สนใจ
|