เจ้าของ: ไม่ระบุชื่อ

[นอกเมืองลั่วหยาง] ท่าเรือไคว่กู่เจิน

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2022-7-8 00:01:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย WuMan เมื่อ 2022-8-14 00:25

สตรีใต้โคมจันทรา
-โรลสานสัมพันธ์-
-เดินเที่ยวเทศกาล-
♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
            วันที่เจ็ดเดือนเจ็ด เหล่าชาวเมืองลั่วหยางเห็นพ้องต้องกันอีกคราเมื่อเทศกาลมาเยือนพร้อมกับเหล่าโคมไฟหลากสีสันประดับประดาไปทั่วทุกท้องถนน บรรยากาศอันหวานชื่นของบรรดาคุ่รักทั้งหนุ่มแก่ที่ออกมาสร้างควมทรงจำอันล้ำค่าให้มหานครอันตราตรึง ท่าเรือไคว่กู่เจินในยามนี้เต็มไปด้วยเสียงการแสดงแสงสีราวกับราตรีที่ไม่มีวันยุติ จะทางซ้ายหรือขวาชาวเมืองและนักท่องเที่ยวเคล้าคลอคนรัก

            ความอบอุ่นชิดเชื้อที่เห็นได้ทั่วในเทศกาลต่างกับบรรยากาศรอบตัวบุรุษชุดขาวในศาลาริมน้ำโดยสิ้นเชิง เขาไม่เพียงนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นโดยลำพัง ชายเสื้อสีสว่างดนลายเมฆาเสริมภาพลักษณ์ราวบณฑิตผู้เคร่งขรึม ใบหน้าเย็นชาสงบนิ่งยังไม่มีวี่แววว่าจะรื่นเริงไปกับงานจะว่าสิ่งนี้ทำให้เขาเป็นจุดสนใจเพียงอย่างเดียวก็คงไม่ถูกนัก..

            สิ่งที่ทำให้บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ใจกล้าตบเท้าเรียงเข้ามาเสี่ยงดวงเชิญเขาไปเที่ยวงานนั่นคือ ‘ใบหน้า’ ราวปีศาจทรงสเน่ห์ที่กระชากวิญญาณผู้คนนั้นต่างหากเล่า
   
         
            “คุณชาย.. ไม่ทราบท่านพึ่งมาเมืองนี้หรือ หากว่าไม่คุ้นทางล่ะก็ข้าสามารถแนะนำร้านเลื่องชื่อในแถบนี้ได้..”

            หญิงสาวใจกล้ารายที่สิบยืนบิดตัวเอียงอายเบิ้องหน้าบุรุษชุดขาว แว่วเป็นเสียงถอนหายใจของผู้พบเห็น แม่นางครานี้อรชรจิ้มลิ้มแม่จะดูมีแต้มต่อหากทว่าผู้รับคำเชิญในศาลากลับไม่ยอมหันมาแม้สักครึ่งสายตา ท่ามกลางความเงียบหลายอึดใจท้ายที่สุดคุณหนูใจกล้าผู้น้ำจำต้องรับความอับอายก้มหน้าเดินจากไปเสียเอง

            เหล่าคนเรือชะเง้อมองแล้วลอบนึกเสียดายแทน สิบรายที่ผ่านมา จะนางรำแสนร้อนเร่า คุณหนูผู้เย่อหยิ่ง ริแม้แต่บัณฑิตสาวผู้หลักแหลมล้วนมีหมดทุดรุปแบบล้วนไม่สามารถทำให้ชายชุดขาวสนทนาดว้ยได้ จำต้องแบกเอาความผิดหวังระคนขุ่นเคืองกลับไปจนสิ้น ‘พ่อหนุ่มเอ้ย….อย่าเลือกมากนักเลยประเดี๋ยวชาตินี้จะหาภรรยาไมไ่ด้เอานะ’ พ่อเฒ่าอดีตนักรักให้คำแนะนำประโยคนี้ไป ผลตอบรับคือสายตาเชือดเฉืแนดั่งมีดดั่งกระบี่

            ฝั่งของหลิวซีเยีย่น.. เขาแค่มารอคนตามนัดหมายก็เท่านั้น

            เพียงคาดไม่ถึงว่า บุคคลแรกที่ตนตอบรับคำเชิญในเทศกาลพรรคนี้ดันมาสายเสียได้ ใจกล้าจริงๆ

            บุรุษเจ้าของใบหน้าราวรุปสลักทองคำถอนหายใจเบาๆ หากถึงยามสามผู้นัดหมายยังไม่มาตนก็จะกลับแล้ว ยังไม่ทันก้าวขาออกจากศาลา พลันมีเสียงฝีเท้าของคนผู้หนึ่งใกล้เข้ามา กลิ่นหอมของป๋อเหอเจือจางอันคุ้นเคยทำให้คุณชายหลิวหันกลับไปมองในทันที

            น่าเสียดาย.. มิใช่คนที่เขาคาดว่าจะเจอตัว

            “คนผู้หนึ่งวานให้ข้านำจดหมายนี้มามอบให้คุณชาย กล่าวว่าเมื่อท่านอ่านแล้วจะเข้าใจเอง” สาวใช้ประจำหอขับฟ้อนเอื้อนเอ่ยแล้วก็ยืนคอยนำทางให้ หลังจากบุรุษผู้นี้อ่านแล้วกลับไร้คำถามใดใดติดตามไปพำนักยังห้องรับรองที่ชั้นลอยของเรือนทอสุขทันที

            ด้วยเพราะทำเลการชมงานแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดมุมชั้นสองถูกจับจองไปกว่าครึ่ง บนยกพื้นด้านล่างเหล่านักแสดงกำลังบรรเลงฉาก ‘หนิวหลางห่มหนังโควิเศษแบกบุตรทั้งสองขึ้นไปตามจื่อหนี่ว์บนสวรรค์’ ผู้แสดงมีวามสามารถไม่น้อยกระโดดทีเดียวขึ้นไปบนโต๊ะทำท่าเหาะเหินได้อย่างมีชีวิตชีวาระคนหวาดเสียว บนโต๊ะนั้นพรั่งพร้อมด้วยอาหาร สุราดอกท้อและชาลิ่วอันกวาเพียน การเข้าอยู่อย่างน่าฉงนของลูกชิ้นหัวสิงห์อันเลื่องชื่อของเจียงซูกับเกี๊ยวน้ำมันพริกแถบปาสู ทำให้เขาเข้าใจได้สองในสามส่วนว่าผู้เชิญไม่พ้นเป็นชาวใต้

            บุรุษผมขาวเพียงนั่งอยุ่ไม่ได้แตะต้องอาหาร ผ่านไปราวสองเค่อการแสงถึงช่วงขับร้องก็ยังไม่มีวี่แววของผู้ที่เรียกเขามายังหอขับร้องจึงอดไมไ่ด้ที่จะเรียกเด็กรับรองมาถามไถ่

            “ให้มาที่นี่ ข้าก็มาแล้ว.. คนเล่าอยู่ที่ใด?” หลิวซีเยี่ยนเอ่ยน้ำเสียงไม่ยินดียินร้าย แต่หากเป็รบ่างคนสนิทย่อมรับรุ้ได้ว่าเขาเริ่มไม่พอใจ

            “อันที่จริง… คนผู้นั้นอยู่ที่แห่งนี้นานแล้วเจ้าค่ะ” มิเพียงเท่านั้นอาหารที่ท่านเห็นบนโต๊ะทุกจานก็เป็นคนเตรียม

            “เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ในเมื่ออยู่ ใยจึงไม่ปรากฎตัว รึการปล่อยให้แขกรอคือเรื่องที่สมควรกระทำ”

            น้ำเสียงขรึมเริ่มกดดันเป็นเงาตามตัวก่อนที่ชายอาภรณ์ขาวจะสะบัดผลันจากไป ทางด้านหลังฉากก็มีเงาร่างแบบบางในอาภรณ์ฟ้าปรากฎขึ้น ยามที่รองเท้าปักก้าวเข้ามายังที่นั่งฝั่งตรงข้ามหยกพกลายฉยงฉีกระทบกันเกิดเสียงใส เมื่อหลิวซีเยี่ยนได้ยินก็อดหันไปพิจารณาผู้มาใหม่มิได้

            “ทำให้ท่านต้องรอแล้ว.. นับว่าเสียมารยาทอยู่มาก ขอใช้น้ำชาจอกนี้เพื่อลุแก่โทษ”


            ภาพที่เขาเห็นสร้างความประหลาดใจจนนัยน์ตาคู่คมเกิดริ้วระรอกสั่นไหว หญิงสาวเบื้องหน้าแม้มิได้งดงามล่มบ้านล่มเมืองทว่าเครื่องหน้าล้วนหมดจดพริ้มเพรา ยามที่ยิ้มแย้มเบาบางเกิดเป็นสเน่ห์อันลี้ลับยากจะต้าน นางสวมกระโปรงจินอีแขนกว้างดุนลายคลื่นเมื่อประกอบเข้ากับพู่ไหมดิ้นเงินทำให้ร่างบางละม้ายคล้ายเทพธิดาที่นิรมิตขึ้นจากสายน้ำแห่งท้องทะเล แต่สิ่งที่ทำให้ผู้เยือกเย็นเช่นเขาเสียจังหวะนั้น

            คือนัยน์ตาสีครามล้ำลึกฉายประกายแห่งปัญญา ดวงตาคู่นี้พบเห็นมาตลอดครึ่งเดือน จะบอกว่าแปลกหน้า ห่างเหิน ก็พูดไม่ได้เต็มปาก เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้ในข้อนี้เลย

            “....เจ้า? คุณชายเสิ่น?” มือหนารับเอาจอกน้ำชาที่อีกฝ่ายรินให้แก้อาการชะงักงัน เอ่ยถามออกไปตามตรง มิคาดว่าดรุณีพักตร์กระจ่างกลับหยักมุมปากเงียบเชียบ

            “ท่านได้อ่านสานส์ก่อนหน้าให้ละเอียดดีแล้วหรือ?”

            ชายหนุ่มกระแอมในลำคอ นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเล่นวิธีนี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงขรึมจดจ้องนาง “ถูกต้อง.. ในเนื้อหาระบุว่าผู้ที่มาพบกับข้าในราตรีนี้จะตอบเพียงสามคำถาม สามเงื่อนไขเท่านั้น”

            “ดังนั้นคำถามเมื่อครู่ ท่านคิดจะใช้สิทธิ์เลยรึไม่?” ใบหน้ามนถามย้ำอีกคราวซึ่งคำตอบก็ไมไ่ด้ต่างไปจากที่คิดนัก

            “ย่อมไม่นับ แม่นาง.. คุณหนู? ควรระบุเงื่อนไขสำหรับคำถามข้อนี้ให้กระจ่างเสียก่อน”

            หญิงสาวพยักหน้ารับนับว่าเขามิใช่คนโง่ “ไม่ยากเย็น เพียงร่วมรับประทานอาหารชมการแสดงกับข้าในราตรีนี้”

            “เท่านี้? ง่ายดายนัก”

            “เวลาเป็นสิ่งมีค่าดั่งทอง เมื่อใช้แล้วไม่สามารถย้อนคืนได้ ท่านเองก็อย่ากลับคำเล่า”

            หลังส่งมอบความเชื่อนางเคลื่อนกายจับจองที่นั่งฝั่งตรงข้ามโดยไม่รอให้เขาเชื้อเชิญ ผินใบหน้าลงไปยังการแสดงที่ยามนี้ขับร้งอมาจนถึงตอนที่เจ้าแม่หวางมู่ใช้ปิ่นกรีดท้องฟ้าสร้างคงคาสวรรค์เพื่อแยกคู่รักออกจากกัน

            วันนี้คุณชายชุดขาวก็ยังคงเปี่ยมสเน่ห์เช่นเคย ระหว่างคีบกุ้งหลงจิ่งเข้าปากจำต้องเบี่ยงสมาธิก่อนจะถูกเขาล่อลวงไปมากกว่านี้ โม่เสวียนในคราบหญิงสาวในรอบหนึ่งปีคิดอย่างรอบคอบ เมื่อครุ่ทดสอบความอดทนดูแล้วเขานิ่งใช่ได้ จนกว่าจะแน่ใจว่าคนผู้นี้สามารถไว้วางใจในระดับไหนยังต้องเก็บเรื่องที่ตนปกปิดไว้เป็นอย่างดี

            ทว่าการนัดหมายในครั้งนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับนางมอบโอกาสให้ตนเองได้ ‘มีตัวตน’ อีกครั้ง ผลจะออกมาอย่างไรกันนะ

            การทานอาหารชมการแสดงเป็นไปอย่างราบรื่น หรือหากพูดให้ชัดนั่นคือตลอดช่วงเวลาหญิงสาวถูกสายตาจับสังเกตุของฝ่ายตรงข้ามจับจ้องไม่คลาดสักลมหายใจ มีหรือจะรุ้สึกตื่นกลัวบางจังหวะยังเลิกคิ้วเป็นฝ่ายหยกยิ้มรวบชายเสื้อคีบกุ้งใส่จานเล้กให้เขาด้วยซ้ำ แน่นอนที่อีกฝ่ายจะสงสัยในเมื่อใบหน้าของตนเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่อ่อนหวานขึ้นจากการแต่งกาย ผิวที่ขาวอยู่แล้วอาศัยแต้มชาดลงริมฝีปากก็เสริมความเป็นอิสตรีมากขึ้น

            เชิญมองให้เต็มที่.. นางมิได้อยู่ในสภาพนี้บ่อยนักหรอก

            หลิวซีเยี่ยนครุ่นคิดไม่ตกถึงสาเหตุของความเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายจะปกปิดสถานภาพบางอย่างเอาไว้ ครั้นจะให้เขาเอ่ยถามคนตรงหน้าไปตามตาม เชื่อว่าสามคำถามมีหรือจะตอบตามความสงสัยทั้งหมด ย่อมต้องบ่ายเยี่ยงเป็นแน่ ช่วงเวลาแห่งการหยั่งเชิงบทละครด้านล่างไม่เข้าหัวแล้ว จะด้วยจงใจหรือไม่เจตนาก็ดีนับว่าสตรีตรงหน้าดึงเอาความคิดจิตใจเขาไปได้ในช่วงเวลาหนึ่งโดยไม่จำเป็นต้องทุ่มเทลงแรง

            หลังสิ้นสุดการแสดงทั้งรับมื้ออาหารรสอ่อนและรสจัดที่ผสมโรงกันมานั้นไม่ทำให้เขาอิ่มหนำ กลับเป็นการค้นหาความลับจากตัวอีกฝ่ายต่างหากที่น่าสนใจ ระหว่างที่หญิงสาวเอาแต่หลบเลี่ยงจะกิริยาเล็กน้อยอย่างการลูบจมูก จดจ่อสมาธิกับใบชาที่ลอยอยู่ในถ้วยล้วนถูกเก็บเป็นรายละเอียดปลีกย่อยดั่งเบาะแสไขคดี
            

            “ชมละครจบแล้ว เจ้าบอกเงื่อนไขที่สองมาได้”

            “ใจร้อนนัก ราตรีนี้ยังเยาว์ รึคุณชายรังเกียจที่ต้องมาร่วมทานอาหารกับสตรีจืดชืดเช่นข้า” นางกระเซ้าเย้าแหย่ นี่กลับเป็นการลองเชิงกึ่งท้าทาย

            “เวลามีค่าดั่งทอง เมื่อครู่เจ้าพึ่งพูดเองนี่ ข้ามิใช่ช่างเจรจาเกรงว่าอาหารยังไม่ทันพร่องจะมีคนเหนื่อยหน่ายเสียก่อน” ชาร้อนหมดควันกรุ่นเสียงเอ้อรืหูล่องลอยตามลม หลิวซีเยีย่นเกิดความคิดขณะยกยิ้ม เทศกาลซีซีครานี้มีเรื่องให้ค้นหาแล้วสินะ
.
.
.
            ท้องถนนประดับประดาไปด้วยแสงโคมริมศาลเทพธิดาจื้อหนี่มีพ่อค้าหัวใสจำนวนหนึ่งมาสร้างความคึกคักด้วยซุ้มกิจกรรม แผ่นป้ายโคลงกลอนคู่เรียงรายเว้นวรรคทั้งคำถามและโคลงกลอนไว้ให้ปริศนาคำทาย คู่รักที่สนใจสามารถไปตอบได้ทัง้ยากและง่ายปะปนกันแน่นอนว่ารางวัลก็จะเปลี่ยนไปตามระดับ หลิวซีเยี่ยนเมื่อทราบว่าเงื่อนไขที่สองของนางคือ ‘เดินเที่ยวเทศกาล’ ย่อมไม่ได้หมายความว่าแค่เดินเฉยๆ เป็นแน่ ข้อสันนิษฐานนี้ได้รับการยืนยันเมื่อสตรีเอวบางไปหยุดยืนหน้าซุ้มโคมปริศนา

            “ไม่ทราบว่าท่านพอจะช่วยให้สมความปรารถนาได้สักเรื่องรึไม่ ข้า.. อยากได้ของชิ้นนั้น” นิ้วเรียวชี้ไปยังโคมแก้วแปดวิจิตรที่สร้างขึ้นจากกระจกสีของทางตะวันตก คาดว่าพ่อค้าคาราวานเป็นผู้นำมาล่อตาล่อใจเหล่าหญฺิงสาวที่ชื่นชอบของสวยงาม

            “คุณหนูท่านนี้ช่างตาถึงนัก โคมแปดวิจิตรเดิมทีบุตรสาวของข้าชื่นชอบมากตั้งใจจะไม่ขายจึงนำมาเป็นของรางวัล หากพวกท่านท่านสามารถทายปริศนาระดับสูงสุดข้อนี้ จ่ายสิบตำลึงสามารถนำโคมนี้กลับบ้านได้ทันที!”

            พ่อค้าหน้ายิ้มเจรจาจงใจให้บุรุษรุปงามด้านข้างที่มากับนางได้ยินไปด้วยเลย ไหนๆ บุรุษก็ชื่นชอบสรรหาวิธีเอาใจหญิงสาวในดวงใจ ทั้งคู่มาด้วยกันความสัมพันธ์ย่อมไม่ธรรมดา ปริศนาในป้ายชั้นสูงเขาคัดเลือกอย่างดี ยากชนิดบัณฑิตยังยอมแพ้.. หลังถูไม้ถูมือรับเงินมาแล้วหลายหีบก็ยิ่งลำพองใจ

            “อื้ม.. ชิ้นเดียวเองร ึไม่เลือกสักหลายชิ้นหน่อยเล่า”


            หลิวซีเยี่ยนพยักหน้าเชิงให้อีกฝ่ายชี้สักหลายๆ ชิ้น อย่าได้ถูหมิ่นเขาเกินไป ลำพังโคมอันเท่านี้ที่โรงเตีย้มของเขามีแขวนให้เด็กเล่นไม่รู้กี่โหล นางช่างมักน้อยจริงๆ

            “อ้อ.. เช่นนั้นก็เอาชิ้นนี้ อันโน้น กับชิ้นนี้ด้วย”

            ดรุณีผิวหิมะตอบรับด้วยการคล้อยตาม นิ้วเรียวขยับไม่กี่ที เลือกตำราบทกลอนสมัยรัฐฉู่ กลห่วงของเล่นพิศดาร ตามด้วยกล่องกลไกของชาวตงอู่ สามสิ่งที่นางเลือกพอเปรียบกับโคมอันนั้นแล้วต่างกับสตรีทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด เป็นไป
ได้ว่าหญิงสาวเป็นผู้ที่ชอบลับสติปัญญาและช่างสะสม
            เงินทั้งสี่สิบตำลึงของนางถูกวางเป็นค่าเดิมพันจากนั้นก็มายืนขอพรหน้าศาลเทพธิดาจื้อหนี่ว์ให้โชคเข้าข้างตน ปล่อยบุรุษผู้ส่องสว่างไปบุกตะลุยคำถามแล้วนางก็ยืนให้กำลังใจอยุ๋ด้านข้าง

            มือหนาพลิกแผ่นป้ายแรกก่อนจะพ่นลมราวกับดูถูกว่ามันง่ายเกินไป “กลางวันมันพักผ่อน ตื่นนอนในราตรี ดาราบนพื้นดิน? คำตอบคือ หิ่งห้อย”

            “ถูกต้องขอรับ” พ่อค้ายังใจสู้ เพียงข้อแรกเท่านั้นเขายกกลไกห่วงพิศดารให้แม่นางใบหน้าละมุนด้านข้างไป
            

            ปริศนาที่สองหญิงสาวกลับช่วยเลือกป้ายแล้วอ่านให้ฟังเสียเอง “ข้างนอกประตูไม้ ข้างในประตูเหล็ก ผ้าน้อยผืนเล็ก ตากไม่แห้ง”

            จังหวะนั้นมีเด็กน้อยกลุ่มหนึ่งวิ่งซุกซนผ่านมาก่อนที่จะชนเข้ากับร่างบางก็ถูกแรงแขนของเขารวบตัวนางเข้ามาใกล้ เสียงคำตอบพร้อมกับลมหายใจที่ลดความเหน็บหนาวในราตรีดังขึ้นข้างใบหูนิ่ม “ริมฝีปาก ฟัน ลิ้น”

            “.....ถูกต้องขอรับ คุณชายท่านช่างหลักแหลม” ระหว่างที่หญิงสาวกำลังก้มหน้าหลบเลี่ยงความใกล้ชิดฝั่งพ่อค้าจำใจยกกล่องกลไกไม้ของชาวตงอู่ให้นางอีกชิ้น สายตาจับจ้องมือข้างนั้นเคลื่อนไปยังแผ่นป้ายปริศนาถัดไป

            “กลมเท่าข้อมือ ลำแข็งทื่อ ที่โคนมีขน” เมื่ออ่านจบผู้คนสัญจรผ่านแถบนั้นพากันหูผึ่งตามๆ กัน ทุกสายตาล้วนจับจ้องมายังสองบุรุษหญิงสาวที่ยืนใกล้ชิดว่าคำถามนี้เขาจะตอบเช่นไร

            เมื่อครุ่ที่ใกล้ชิดกลิ่นหอมอ่อนๆ ของกุหลาบพันปีจากกายนางทำให้เขานึกถึงปลายวสันตฤดู สมองไม่ทันรับคำถาม จนเมื่อร่างน้อยผละออกจากอ้อมแขนไปยืนอยู่อีกด้านไออุ่นจากกายนิ่มที่หายไปก็เรียกให้เขาได้สติ

            หลิวซีเยี่ยนกระแอมในลำคอรีบตอบให้พ้นความกระอักกระอวน “เขาสัตว์”

            “........” คราวนี้พ่อค้าไม่ขานรับแล้วว่าถูกรึผิด ผายมือให้หญิงสาวเจ้าเล่ห์ผู้พาปราชญ์จากที่ใดมาเหมาแผงของเขาก็ไม่ทราบท่านนี้รับเอาโคมไปก่อนจะเก็บแผงกลับบ้านทันที

            “รับของอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้ เริ่มเกรงใจขึ้นมาบ้างแล้ว ตอบแทนที่ท่านช่วยให้ข้าสมปรารถนา.. ระหว่างเดินเล่นถ้าเจอขนมร้านใดน่าสนใจล่ะก็ เดี๋ยวข้าเลี้ยงเอง”

            ดรุณีชุดฟ้าเมื่อจุดโคมแล้วก็ยกขึ้นมาลูบรางวัลพลางยิ้มอย่างสมใจ ใบหน้าด้านข้างของนางกระทบแสงนวลอ่อนตาเมื่อสะท้อนให้เห็นก็ทำเอาบุรุษผู้เยือกเย็นจนด้วยคำพูด นางมิใช่สตรีที่งดงามที่สุดในชีวิตที่เขาเคยได้พบเจอมา มิได้เย้ายวนหรือร้อนแรงดั่งไฟจนชวนให้ปรารถนา แต่กลับมีบางสิง่ในเนตรคู่ครามคู่นั้นที่เมื่อสบตาครั้งใดก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่ง

            ความลุ่มลึกราวกับธารน้ำ มีเส้นสายอ่อนโยนเบาบางและประกายตาที่ราวกับว่าสามารถมองทะลุไปได้ถึงจิตใจคน ช่างน่าประหลาด แม้จะพึ่งเคยพบกันในหนึ่งค่ำคืน เขาเหมือนรู้กับกับหญิงสาวตรงหน้ามากกว่าครึ่งชีวิต วูบหนึ่งก็คิดสร้างโอกาสในการค้นหาบางสิ่งที่สงสัยในใจ

            “ที่ท่านในหอเมื่อครู่ยังอิ่มอยู่ ว่าแต่เจ้ายังมีสิ่งไหนที่อยากได้อีกไหม?”

            “...ไม่รู้สินะ ข้าไม่เคยเที่ยวเทศกาลในลั่วหยางมาก่อนคงต้องลองเดินๆ ดูถึงจะบอกได้”

            “เช่นนั้นก็ดี นับว่ายังไม่ด่วนตัดสิน.. มาสิ” ชายหนุ่มยื่นมือไปทางคู่สนทนา ราวกับกำลังบอกว่าให้นางจับเอาไว้ ท่าทีปุปปับสร้างความฉงนจนใบหน้ามนเอียงคอมองไม่ยอมขยับ “เจ้าดูเสียก่อน เทศกาลนานทีปีหนนักท่องเที่ยวมากมาย โอกาสที่จะพลัดหลงก็สูงสาม แน่นอนว่าข้าไม่ลำบากเสียเวลาตามหาคนหาย”

            “อ้อ… เข้าใจแล้ว” ในเมื่ออีกฝ่ายลงทุนอธิบายเสียเป็นเหตเป็นผลถึงตัวนางจะไม่ค่อยคุ้นชินนักก็ยังมอบปลายนิ้วมือแตะลงไปในความดูแลของเขา ไม่คาดว่าเพียงแตะเบาๆ อีกฝ่ายก็รวบมือบางไว้จนแน่นหนาพาให้นางก้าวเดินข้ามสะพานไปยังเทศกาลที่คึกคักยิ่งกว่าฝั่งรงข้ามชนิดไม่ทันตั้งตัว

            ระหว่างเดินชมแสงสีแวดล้อมเหล่าคู่รักทั้งใหม่เก่า ในช่วงแรกที่ไม่ชินจังหวะการก้าวเดินเพราะมือถูกคว้าจับเอาไว้ พอถูกความคึกคักของเทศกาลตรงหน้ามาดึงดูดทั้งสองก็ผ่อนคลายลง หญิงสาวเดินทอดน่องตามสบายมีบ้างีท่เจอร้านขนมของหวาน อย่างตังเมดอกไม้ก็อดซื้อกลับไปฝากคนรู้จักไมไ่ด้ ฝั่งของหลิวซีเยี่ยนเองเมื่อเห็นนางแวะซื้อซุ้มไหนจะไม่ลืมติดมือมาฝากเขาด้วยอีกชุดในใจพลันเกิดความรู้สึกเอ็นดู จากตอนแรกที่คิดว่าจะนำไปฝากศิษย์น้อยจิ่วชุนสักห้าส่วน ก็ลดเหลือสองส่วน หนึ่งส่วน ไปๆ มาๆ เขากลับลำตั้งใจจะเก็บไว้กินคนเดียวให้ปวดฟันกันไปข้าง

            “เชิญทุกท่าน เทศกาลแห่งความรักในครั้งนี้เราสามพี่น้องสกุลหวังพร้อมแจกจ่ายความสุขและรอยยิ้มให้ทุกคน เชิญมารับของได้คนละหนึ่งชุด ไม่มีค่าใช้จ่าย ถือเสียว่าเป็นคำอวยพรจากพวกเรา”

            เสียงป่าวประกาศดึงดูดความสนใจของผู้คน ไม่เว้นแม้แต่หญิงสาวชุดฟ้าผู้ที่มือหนึ่งถือตังเมดอกไม้เคี้ยวกรุบๆ นางส่งสายตาบอกคนข้างกายเชิงว่าขอไปดูสักหน่อย เมื่อทราบรายการของฟรีมีหรือจะพลาด ระหว่างที่นางเข้าไปร่วมลงชื่อรับของบุรุษที่ด้านหลังก็ยืนส่งจิตสังหารกดดันเหล่าชายจอมฉวยโอกาสช่วงคนแน่นทั้งหลายที่คิดจะมาเบียดหาเศษหาเลย

            “ข้ารับของชิ้นนี้ไปแล้วกัน! ขอบคุณพวกท่านมากพ่อค้าหวัง” ดรุณีหน้ามนอมยิ้มหลังได้รับของแจกห่อใหญ่ก็เดินกลับมายังไม่ทันถึงตัวเขาก็คว้ามือคู่เล็กไปกุมต่อ

            “ของแจกแค่นี้ก็ทำให้เจ้าเบิกบานแล้วหรือ ไม่ลองไปที่โรงเตี้ยมชิงหมิง ทุกเทศกาลเปิดการแข่งขันแม้แต่ผู้ที่เข้าร่วมชมความคึกคักก็ได้รับของที่ระลึก ไม่ปล่อยให้ใครกลับบ้านมือเปล่า”

            “โรงเตี้ยมชิงหมิงสินะ ได้ ข้าจำเอาไว้แล้ว” เสียงหวานเอ่ยตอบเมื่อพบว่าเขาเลือกศาลานอกเมืองเป็นที่นั่งชมดาราบนดิน แถวนี้ร้างผู้คนอาศัยเพียงโคมประทีปช่วยส่องนำทางหากว่ามาลำพังบรยากาศคงหลอนไม่น้อย

            กิจกรรมสุดท้ายคือการหามุมดีๆ ชื่นชมดอกไม้ไฟที่ทางราชสำนักสรรหามาสร้างความอลังการต้านข่าวสงคราม อีกนัยหนึ่งคือการฉลองชัยจากศึกป๋อไห่ ชายหนุ่มมิได้โฆษณากิจการตนเองแม้แต่ยามที่ควงสตรีออกเที่ยวเทศกาลหรอก เพียงแต่เขารุ้สึกว่าการที่นางตาวาวกับของเพียงเท่านี้ออกจะเกินไปสักหน่อย อย่างน้อยสิ่งที่ตนให้ผู้ดูแลโรงเตี้ยมนำมาทำรางวัลยังเลิศกว่านี้ตั้งไม่รู้กี่เท่า

            ‘นางคู่ควรกับของที่ดีกว่านี้’ วูบหนึ่งที่เกิดความคิดประหลาดยามที่กุมมือน้อยเข้ามา แต่แล้วเขากลับรุ้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล หากว่านางมิใช่ผู้ที่เขาคิดว่าใช่ ปริศนายังคงไมไ่ด้รับการอธิบาย และทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิดเล่า? สองคนจับจองเก้าอี้หินคนละตัว ต่างความคิดสับสนใจใน

            “เงื่อนไขสุดท้าย หลังดอกไม้ไฟถูกจุด.. เจ้าคงบอกข้าได้กระมั้ง?”

            “บอกตอนนี้เลยเป็นไร” ริมฝีปากชุ่มสีดอกท้อขยับไหว ท่ามกลางแสงสว่างเพียงชั่วครู่ของดอกไม้ไฟที่สะท้อนอ่อนตาเป็นภาพที่เขาจดจำไปอีกนานพร้อมคำสัญญาแปลกประหลาดที่ต้องรักษา

            “เรื่องที่ท่านพบข้าในราตรีนี้ มิอาจแจ้งต่อผู้ใด อย่าได้พยายามสืบค้นหรือตามหาตัวข้า.. เท่านี้ทำได้รึไม่”

            “หากทำตามคำของเจ้า ข้าจะได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทน” ร่างสูงอยู่ไม่ไกลจากอีกฝ่ายเมื่อใบไผ่ตกลงบนเรือนผมก็บรรจงหยิบออกให้อย่างอ้อยอิ่ง ซีเยี่ยนไม่คิดจะตกปากรับคำในทันที ต่อให้เป็นครั้งแรกทีไ่ด้พบกับนางลึกๆ แล้วเขากลับเกิดความคิดว่าหนนี้จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เขาจะทำให้แน่ใจว่ามีครั้งต่อไป

            “ความเชื่อใจ” นางค่อยๆ ดึงมือของตนกลับเคราะห์ดีในศาลามันมืดจนไม่เห็นแก้มทั้งสองที่เปลี่ยนสีไป อาจฟังดูเหมือนเป็นข้อตกลงที่เห็นแก่ตัวแต่ด้วยสถานการณ์ไม่ปกติของตนจำต้องวาดเส้นกั้นทุกขอบเขตความเป็นไปได้ ก่อนที่ความโลภจะทำลายตัวตนทั้งสองจนมลายสิ้น

            “คงมีความจำเป็นบางอย่างสินะ เอาเถิดถือว่าข้ารับปาก เท่านี้เจ้าก็สามารถตอบคำถามสามข้อได้แล้ว?”

            มือคู่น้อยถูกกุมไว้อีกครั้ง แม้จะไรฝูงชนที่เสีย่งต่อการพลัดหลงเขาก็ยังพัวพันกับนิ้วงามไม่เลิกราวกับต้องมนต์ สายตาลุ่มลึกสอดประสานเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคำหลังจากนี้ของอีกฝ่ายคือสัตย์จริง เลือกคำถามแรกในใจเอาไว้เรียบร้อย

            “เจ้าเป็นใคร เกี่ยวข้องกับคุณชายเสิ่นอย่างไร”

            ไหล่มนเกร็งไปเพียงครู่นึ่ง หยักรอยยิ้มราวกับรุ้อยู่แล้วว่าเขาจะถามเช่นนี้ “ข้ามีชื่อว่าอู้ม่าน นับได้ว่าเป็นญาติผู้น้องของคุณชายเสิ่นที่ท่านรู้จัก”

            น้องสาว.. พวกเขาคงเป็นฝาแฝดไม่เช่นนั้นคนสองคนจะมีใบหน้าที่คล้ายคลึงกันขนาดนี้ได้อย่างไร วูบหนึ่งแม้จะผิดหวังทว่าก็เกิดความตะขิดตะขวงใจแค่ไม่ทันได้พูดออกมาเขาต้องถามคำถามต่อ

            “ทำไมเจ้าถึงมาพบข้าในคืนนี้” เป็นอีกคำถามที่เขาข้องใจมากที่สุด ด้วยรูปลักษณ์ของหญิงสาว ลำพังตัวนางจะหาคนร่วมเดินในเทศกาลมิใช่เรื่องยากเลย

            “แค่รู้สึกว่า.. หากไม่นับรูปโฉมเป็นเอกแล้ว ในตัวท่านกลับมีบางอย่างน่าสนใจยิ่งกว่า ต้องลองสัมผัสดูให้แน่ใจสักหน”

            ก็ไม่ผิด เรื่องราวทั้งหมดในคืนนี้หนึ่งเกิดจากความสนใจ สอง.. เปิดโอกาสให้ตนได้ลองใกล้ชิดอีกฝ่ายในรูปแบบอื่นดูสักครั้ง คำตอบแม้จะยังไม่ชัดเจน แต่ดูจากความพึงพอใจกับช่วงเวลานี้แล้วก็นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่เลวเลย

            ทว่านางย่อมไม่ทราบ คำตอบนี้ของตนได้สร้างแรงกระเพื่อมชนิดหนึ่งในความคิดของผู้ฟัง ‘สนใจ’ คำสั้นๆ ตีความหมายได้หลากลาย คนอย่างหลิวซีเยี่ยนมีดรุณีมากหน้าหลายตาทอดสะพานให้ แต่กลับไม่มีสักรายที่กล้าพูดกับเขาตรงๆ ด้วยท่าทีเรียบง่ายปลอดโปร่งจนเขานึกว่าสเน่ห์ของตนเองใช้การไม่ได้ ในใจเต็มไปด้วยคำถาม แต่เขากลับเหลือแค่โอกาสสุดท้าย

            “ดี ในเมื่อกล่าวออกมาตามตรงเห็นแก่ที่เจ้าซื่อตรง ก็จะช่วยส่งเสริม คิดเรียนรู้เกี่ยวกับตัวข้า พบพานหนเดียวนับเป็นอันใด.. เวลามีค่าดั่งทองเกรงต้องใช้ทั้งชีวิตจึงจะกระจ่างชัด” บุรุษชุดขาวพลิกมือของนางลงวางบนตัก ไม่สนกิริยาเตรียมดึงออกทุกเมื่อของอีกฝ่าย เขาเหมือนเจอเหยื่อที่ถูกใจจะปล่อยง่ายๆ ได้หรือ ใช้คำพูดบอกเป็นนัยๆ ว่านางขึ้นหลังเสือแล้วในเมื่อบอกว่าสนใจเขา อย่าคิดเลยว่าจะหนีหน้าหากยังรู้จักตัวตนเขาได้ไม่มากพอ

            “ท่าน ปล่อยได้แล้ว คำถามสุดท้ายเล่า รีบถามมาเร็ว” เรียวคิ้วละมุนเปลี่ยนมาขมวดราวกังวลใจ มือของนางถูกกุมจนร้อน ความร้อนนั้นคล้ายโรคติดต่อแผ่ลามขึ้นยังสองแก้ม ยื้อยุดอยู่แบบนั้น คนหน้าตายนี่ก็ไม่ยอมปล่อยเสียที ช่วงจังหวะที่มัวดึงมือกลับหยกพกข้างเอวนางก็ถูกคนมากแผนการณ์ฉวยเอาไป

            “หยกนี้แกะสลักได้ไม่เลวข้าจะนำไปศึกษาแล้วค่อยคืนตอนพบกันหนหน้า จริงสิข้าเรียกเจ้าว่า ‘อู้ม่าน’ ได้รึไม่?”

            ขี้โกง.. นี่ไม่เท่ากับสองคำถามหรอกหรือ หญิงสาวถึงตาใส่เขาที่ทำทองไม่รู้ร้อน ทางหนึ่งขอความเห็น อีกทางกลับรวบรัดว่าต้องเจอกับเขาอีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้ เห็นเขาเรื่อยเฉื่อยนึกว่าเป็นพวกกินพืช ที่ไหนได้..หมาป่าห่มหนังแกะชัดๆ

            “พู่หยกนั่นเป็นของสำคัญ.. รบกวนท่านคืนให้ข้าด้วย” เจ้าของนัยน์ตาครามเอ่ยเสียงจริงจัง


            “ย่อมได้ ในเมื่อเป็นของสำคัญ.. นัดวันให้เร็วขึ้นเป็นไร”

            “นี่ท่าน…” หน้าหน้าหรือกำแพงนอกด่านนางชักไม่มั่นใจ! สมองอันฉับไวเริ่มหาลุ่ทางหนีก่อนที่จะเพลี่ยงพล้ำตกบ่วง++
           
           
#ปลดคสพ ได้ก็ปลดไปเลยขนาดนี้ละ

♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦
- เดินชมเทศกาลได้รับ +3 EXP
- ร่วมนมัสการบูชาเทพธิดาจื่อหนี่ว์ และ ขอพร +4 EXP
- ร่วมชมการแสดงหนิวหลางและเทพธิดาจื่อหนิว์ยามค่ำคืน ได้รับ +สุราหลูโจว 1 ไห
- โรลเพลย์สร้างซีนโรแมนติกกับ NPC ที่นัดมาด้วย  +10 EXP
.
รับของแจกจากพ่อค้าหวัง
(2) แจกเงิน 200 ตำลึงทอง , 1,000 ตำลึงเงิน
.
-เอฟเฟคตัวละคร-
(เลื่อมใสศรัทธา)
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้
+2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ)
+5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย
+5 Point จากการโรลเรียนรู้
(หูดี)
+5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
+2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย
(เห็นอกเห็นใจ)
+20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ
-2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
(นักวิชาการ)
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้
(นักวางแผน)
+5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบาย
+10 EXP จากการทำงานพาร์ทไทม์
รวม 20 Point 25exp
+30 โหด
Exp ทั้งหมดยกให้ซีเยี่ยน
..
-ความสัมพันธ์-
(ซีเยี่ยน ♥ 171)
+75 ชี้แนะ/ร่วมทายบทกลอน
(หูดี)
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย  
+20 ระกาหนุนมะโรง
+15 มาร พบ มาร
-15 ดิน ข่ม น้ำ
+5 พูดคุยรายวัน
+?? ตอบรับมางานเทศกาล
+?? ซีนโรแมนติก(?)
รวม +115+??

@Watcher

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เกาทัณฑ์พิชิตมังกร
ม้าฮั่นเสีย
ชุดเซิ่งชางจวิน
มุกเสวียนอู่
เสินหนงเปิ่นเฉาจิง
ตลับผงชาด
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x20
x1000
x2
x4
x1
x200
x80
x2
x2
x53
x10
x5
x1
x5
x1
x28
x70
x3
x3
x3
x5
x15
x30
x8
x2
x6
x30
x62
x101
x101
x20
x444
x50
x40
x50
x1200
x9
x30
x3
x2
x1
x104
x92
x6
x350
x12
x2
x300
x60
x60
x4
x1
x3
x2
x1
x22
x1
x980
x19
x26
x1
x14
x18
x2
x2
x5
x5
x11
x10
x230
x44
x1
x4
x2
x16
x2
x2
x10
x8
x22
x48
x6
x150
x190
x270
x300
x530
x90
x50
x50
x50
x50
x1319
x100
x450
x100
x400
x140
x3
x10
x1
x11
x100
x60
x113
x130
x30
x8
x7
x4
x12
x20
x16
x27
x26
x1150
x200
x100
x1
x1
x1280
x12
x160
x18
x120
x25
x230
x10
x10
x18
x13
x10
x9
x30
x6
x12
x10
x20
x35
x18
x8
x129
x20
x10
x4
x118
x30
x19
x5
x23
x39
x8
x7
x25
x15
x53
x217
x5
x14
x96
x3
x82
x5
x22
x7
x10
x11
x829
x7
x27
x1
x3
x11
x14
x196
x694
x129
x7
x143
x484
x22
x1
x4
x1
โพสต์ 2022-7-12 20:54:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด
กลับสู่จงหยวน
ไปเมืองหลวง 2

เวลาผ่านไปหลายวัน หลังจากที่หญิงสาวนั่งเรือติดตามท่านหลู่จื้อกลับสู่เมืองหลวงลั่วหยาง เพื่อไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้และรายงานผลการปราบโจร..
ระหว่างทางหญิงสาวมองสองข้างฝั่งแม่น้ำ ก็พบว่ามีหลายเมืองหลายหมู่บ้านถูกพวกโจรผ้าเหลืองยึดครอง เธอเห้นแล้วนับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก..
สักวันนึง ภัยโจรเหล่านี้จะต้องหมดไป แล้วเธอจะเป็นผู้ปกครองที่จะเปลี่ยนระบบการปกครองให้ดีขึ้นแน่นอน...

หลังจากล่องเรือมาระยะทางยาวนาน ก็เดินทางมาถึงท่าเรือเมืองลั่วหยาง
ท่านหลู่จื้อขึ้นฝั่งก่อนแล้วตามด้วยหญิงสาวขึ้นฝั่งตาม เธอให้เกียรติผู้หลักผู้ใหญ่ก่อน

"แม่นางเคยเข้าเฝ้าฝ่าบาทบ้างรึเปล่า?" ไต้เท้าหลู่จื้อถามขึ้น

"ไม่เคยเลยเจ้าคะไต้เท้าหลู่ นี่เป้นครั้งแรกที่ข้าจะได้เข้าเฝ้าฝ่าบาทเลยเจ้าคะ" หญิงสาวตอบอย่างนอบน้อมไปตามนั้น

"งั้นรึ งั้นเดี๋ยวข้าจะอธิบายพิธีการให้ ดังนั้นเจ้าไม่ต้องห่วง" ไต้เท้าหลู่จื้อตอบ ก่อนจะนำทางพาหญิงสาวเข้าสู่เขตวังหลวงนำพาหญิงสาวรายงานต่อฝ่าบาท
และรับพระราชทานรางวัล...

------------
+2 Point จากการโรลให้เกียรติผู้ที่คุย ถ่อมตน
+2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ ทะเยอทะยาน
+4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้ นักวิชาการ
+15 EXP จากการโรลสร้างความน่าเคารพศรัทธาต่อผู้พบเห็น หลังตรง
+10 EXP โรลสรรเสริญเหล่าผู้ที่คุยด้วย ถ่อมตน
8 Point 25 EXP

005 หลู่จื้อ
+5 พูดคุย
+15 ความสัมพันธ์กับคนที่คุยด้วย หูดี
+5 ความสัมพันธ์กับคนที่ให้ความสนใจเรา คิ้วหงส์
+5 นักษัตรเหมือนกัน
+15 หัวดีเหมือนกัน
-15 ความสัมพันธ์ ธาตุข่มกัน (ดินข่มน้ำ)
รวม 30 คสพ.


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ม้าฮั่นเสีย
ตลับผงชาด
ผ้าคลุมขาว
ชุดหนี่ว์จิงเจี๋ยฟางเฉอ
เกาทัณฑ์จย่าเจี๋ยอู๋เยว่
คัมภีร์หนี่กุ้ยเว่ย
ไก่ฟ้าทองแดง
กลยุทธ์เล่ออี้
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x77
x9
x1
x100
x2
x27
x47
x41
x88
x3
x45
x105
x70
x55
x180
x3
x1
x4
x2
x3
x6
x2
x10
x2
x6
x14
x19
x7
x6
x8
x4
x4
x4
x4
x60
x2
x2
x40
x25
x25
x40
x20
x20
x40
x5
x5
x1
x73
x48
x28
x9
x60
x20
x5
x3
x50
x3
x4
x30
x3
x3
x19
x4
x4
x2
x5
x10
x135
x30
x30
x86
x6
x100
x46
x1
x5
x377
x20
x40
x10
x98
x346
x2
x2
x53
x1
x5
x105
x20
x204
x45
x304
x20
x10
x5
x3
x15
x1
x6
x2
x10
โพสต์ 2022-10-1 15:39:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โรลลงเรือข้ามฟาก



หลังจากที่กินอาหารกันเสร็จเรียบร้อยนั้นพวกของจีเทียนเต๋าก็ได้เดินทางมาถึงยังเมืองลั่วอยางแต่ว่าพวกของจีเทียนเต๋านั่นก็ไม่ได้สนใจที่จะเที่ยวชมอะไรภายในเมืองตอนนี้เพราะเนื่องจากมีธุระต้องรีบไปจึงมายังท่าเรือข้ามฟากแทนที่ตอนนี่นั้นก็มีผู้ที่กำลังต่อคิวในการใช้บริการเรือข้ามฟากกันอยู่เป็นจำนวนมากหลังจากที่รอมาได้สักพักนั้นก็ถึงคิวรอบของพวกจีเทียนเต๋าที่ได้ใช้บริการแล้ว

"ว่าไงพวกพ่อหนุ่มจะออกเดินทางข้ามฟากไปไหนกันไม่ต้องห่วงเรือข้ามฟากของข้านั้นคคิดค่าบริการในราคาเป็นธรรมไม่มีการคดโกงหรือว่าเอาเปรียบหรอกนะสบายใจกันได้เลย"

"พวกข้าจะโดยสารข้ามไปกัน 3 คนนะขอรับโดยที่จุดหมายปลายทางที่พวกข้านั่นจะไปกันก็คือ ท่าข้ามหวยเซียนท่านจะคิดพวกเราเป็นราคาเท่าไหร่กันล่ะแบบนั้น?"

"โอ้ๆไม่ไกลเสียเท่าไหร่งั้นค่าคิดเพียงแค่คนล่ะ5ตำลึงเงินก็แล้วกันนะแบบนั้นแต่ว่ายังไม่ได้หักภาษีประจำเมืองหรอกน่ะเพราะแบบนั้นท่านพร้อมที่จะจ่ายไหมล่ะแบบนั้น"

"ตกลงงั้นข้าจะจ่ายท่านอย่างแน่นอนเพราะแบบนั้นท่านก็เริ่มพาพวกเราข้ามฟากได้แล้วกระมังแบบนั้น?"

"ตกลงุถ้างั้นก็ติดตามข้ามาเลยข้าจะพาพวกท่านนั้นข้ามฟากเองรับรองการบริการอย่างดีเยี่ยมแน่นอน"

"ถ้างั้นข้าก็คงจะต้องรบกวนท่านแล้วล่ะ"

พร้อมกับที่พวกของจีเทียนเต๋านั้นเริ่มขึ้นเรือข้ามฟากพร้อมกับมองเหล่าผู้คนที่อยู่เรี่อยๆที่ตอนนี้ก็ต่างยิ้มแย้มกันอย่างเต็มที่โดยที่ภายในใจของตนเองนั้นก็หวังเพียงว่ารอยยิ้มของผู้คนนั้นตนเองจะสามารถรักษามันหรือว่าสร้างมันขึ้นมาได้หรือไม่ ในโลกที่มีแต่ความโหดร้ายแบบนี้โลกที่เหล่าผู้คนนั้นต่างก็ตายลงกันทุกๆวันโดยที่ไม่รู้ว่าวันนี้นั้นมีผู้คนมากเท่าใดที่จะต้องตายลงไปกันเพื่อที่ใช้ชีวิตให้อยู่รอดภายในแผ่นดินนี้ที่ถึงแม้แผ่นดินจะกว้างใหญ่แต่กลับไม่มีที่ให้ปลอดภัยสักที่หรือมันอาจจะมีโดยที่ตนเองไม่รู้ก็เป็นไปได้เหมือนกันคงจะต้องหาทางสำรวจบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแย่

จ่ายเงิน23ตำลึงเงินสำหรับค่าเดินทางเรือข้ามฟาก


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ชุดไท่หมินลู่
เบ็ดตกปลา
คัมภีร์ไท่หมินลู่
ไก่ฟ้าทองแดง
หวีเซียวเฉิน
กลยุทธ์เล่ออี้
ม้าขาว
หน้ากากขาว
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x108
x8
x800
x800
x800
x70
x470
x100
x100
x4
x3
x3
x1
x7
x25
x860
x10
x790
x490
x200
x1
x100
x100
x100
x10
x1
x2
x1
x3
x4
x10
x920
x291
x494
x5
x388
x5
x6
x77
x100
x30
x900
x68
x1
x82
x98
x1
x96
x98
x1
x6
x2
x1000
x2
x3
x3
x3
x7
x8
x3
x100
x4
x100
x26
x24
x24
x26
x14
x600
x96
x100
x60
x100
x100
x440
x25
x2
x376
x11
x492
x9
x4
x99
x80
x79
x28
x2
x379
x75
x196
x571
x167
x100
x100
x50
x100
x100
x250
x50
x86
x13
x13
x7
x74
x6
x19
x5
x1150
x324
x17
x11
x10
x10
x490
x10
x2
x42
x62
x38
x1
x108
x35
x96
x99
x85
x505
x1
x598
x3
x3
x1
x8
x24
x404
x4
x102
x6
x24
x491
x288
x39
x90
x154
x8
x1
x10
x75
x10
x93
x500
x250
x150
x250
x550
x250
x3
x500
x242
x36
x18
x465
x1015
x164
x804
x804
x804
x804
x493
x314
x13
x36
x7
x498
x1
x10
x1
x2561
x628
x320
x260
x100
x15
x1
x6
x6
x150
x9999
x2
x7
x18
x5
x2
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

อย่าลืมเข้าสู่ระบบนะจ๊ะ เข้าสู่ระบบตอนนี้ หรือ ลงทะเบียนตอนนี้

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้