เบาะแส ซือซิน (เมืองสุดท้าย) -โคมพิศดารชาวบ้านผู้ยากไร้- ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ มีคำเลื่องลือถึงค่ายโจรผู้เขาผู้ทารุณโหดร้าย เหล่าชาวบ้านต่างเสียขวัญเมื่อลูกเด็กเล้กแดงถูกพรากออกจากอกพ่อแม่ไปขายเป้นทาสยังดินแดนโพ้นทะเล บุรุษกลายมาเป็นแรงงานที่ได้ค่าแรงเพียงแค่กมั่นโถวแข็งๆ ประทังชีวิต ส่วนสตรีนั้นเล่าหากโชคดีก็ถูกขายเข้าหอนางโลม รึถ้าโชคร้ายก็ไม่พ้นกลายเป้นเครื่องสนองความใคร่แก่เหล่าโจรมีชีวิตอยู่อย่างจำยอม อีกด้านหนึ่งของความสิ้นหวังมีเจ้าเมืองซินเย่คนปัจจุบันกับราชครูหลิวที่ร่วมประสานงานกับเหล่าจอมยุทธ์ในเจียงหนาน หลังจากได้ตำแหน่งที่ตั้งด้วยวิธีอันแยบยลมาแล้วพวกเขาก็ไม่รอช้าเร่งบุกเข้าไปยังค่ายโจรเพื่อปล่อยตัวช่วยชาวบ้านบริสุทธิ์ออกมาก่อนจะสายเกินไป ช่วงนี้เป้นช่วงท่ี่เหล่าโจรเตรียมค้าแรงงานไปให้ต่างแดน หากพ้นเขตทะเลไปอำนาจของแดนฮั่นมิอาจตามถึงน่าเสียดายเทพแห่งโชคลาภไม่เข้าข้างคนชั่ว โม่เสวียนหลังปรึกษาเรื่องเวลาเวรยามของค่ายโจร เหล่าจอมยุทธ์ไม่ประสงค์ออกนามนับสิบชีวิตก็ตบเท้าอาสาจัดการเป็นหูเป็นตาให้ “บ้านร้างไม่มีป้อมกำบัง พวกโจรจะวางเวรยามเฉพาะตอนกลางคืนที่หละหลวม เวลากลางวันชาวบ้านส่วนใหญ่จะถูกบังคับให้ใช้แรงงาน เราสามารถลงมือเวลาที่พักผลัดกะได้..” ราชครูหลิวมีสติกลับมาแล้วเขาเสนอแผนให้ใช้ตัวล่อความสนใจพวกโจร “มีจอมยุทธ์หญิงมากับเราด้วย ให้สักสองคนปลอมตัวเป็นสาวชาวบ้านหลบหนี ล่อพวกมันออกมาให้ตายใจ โม่เสวียนเจ้าคอยตลบหลังจากภายใน.. ทำให้เสียขวัญ” “ข้ามีอีกแผน โจรไม่หวาดกลัวทางการถึงกล้าทำเรื่องชั่ว แต่ถ้าเป็นเรื่องลี้ลับล่ะ? บ้านร้างนี้เหมาะเชียว” เรื่องทำคนเสียขวัญอัจฉริยะนักสร้างเรื่องอย่างโม่เสวียนถนัดเป้นีท่สุด หลังจากปรึกษาแผนการแต่ละส่วนก็ประสานงานกันในทันที เหล่าโจรลักพาตัวพึ่งได้รับสัญญาราคาดี พวกมันฉลองกันอย่างหนักเมื่อคืนจนบัดนี้ลุกพี่ใหญ่ก็ยังคงเมาค้างอยู่ ดังนั้นเมื่อเกิดเสียงเอะอะขึ้นด้านนอก วั่นเจียฝอ บุรุษวัยฉกรรน์เจ้าของค่ายโจรจึงไล่พวกมือขวาออกไปจัดการอย่างส่งๆ ปราการแรกถูกทำลายเมื่อโจรที่ออกจากกระโจมไปมไ่มีใครสักคนได้กลับมา ชาวยุทธ์ที่แคล่วคล่องว่องไวจัดการปลดตรวนมือเท้าของสาวบ้านัท้งสามพันกว่าชีวิตเพื่อให้ทุกคนหนีไปยังที่หลบภัยตามแผน “เอ๋.. ทีแรกมีแค่สามพันไม่ใช่หรือ ทำไมพวกเจ้าดูจะมีจำนวนเยอะกว่าที่ได้ฟังมาล่ะ” “เอ่อ.. พอดีในบรรดาพวกเรามีหญิงที่ตั้งครรภ์ติดตามสามีนางมาด้วย ก็เลย..” “ใช่แล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อนเจ้าโจรชั่วไปฉุดคร่าทั้งเด็กและสตรีของหมู่บ้านหนึ่งมาก่อนจะเผาบ้านพวกเขาทิ้งเสียเรียบ ฟังว่าเด็กๆ กับผู้หญิงน่ะขายได้ราคาดีนัก” นี่เลยเป็นสาเหตุให้จำนวนอขงประชาชนที่โม่เสวียนกับราชครูมาช่วยเพิ่มขึ้นอย่างปุบปับ ทางด้านหนึ่งช่วยเหลือชาวบ้านจนสำเร็จเดิมทีตามแผนของราชครุหลิวพวกเขาต้องล่าถอยออกไปแล้วปล่อยทางการของเมืองนี้มาจัดการโจรร้ายเอง แต่สำหรับโม่เสวียนคิดแล้วบางทีขั้วอำนาจในท้องถิ่นอาจมีเอี่ยวกับพวกโจร คนชุดครามคิดขุดรากถอนโคนจึงเดินหน้าเข้ากระโจมพักของหัวหน้าใหญ่ไปโดยลำพัง เขาเชื่อมั่นในฝีมือของตนเอง วาดลวดลายเพียงไม่กี่ระบวนท่าก็สามารถเข้าประชิดตัวขุนโจรบนบัลลังก์ไม้ มีดด้ามหนึง่ที่จ่ออยุ่บนคอหอยก็พอจะช่วยให้โจรผยองขวัญหนีดีฝ่า “ยอมแล้ว! ข้ายอมแล้ว ท่านอย่าเอาชีวิตข้าเลย เอ้ย ข้ามันเลวจะไม่ทำอีกแล้ว” “เจ้ายังไม่ทันได้เห็นนรกที่เหล่าชาวบ้านได้ประสบ ใยรีบยอมแพ้นักเล่า หืม..” มีดเล่มเดิมออกแรงกดจนขึ้นริ้วเลือด ราชครูหลิวที่เร่งตามมาช่วยเมื่อได้ยินว่าเจ้าเมืองตัวดีดอดเข้าวงเท้าเพียงลำพังถึงกับชะงักไปเมื่อเห็นภาพตรงหน้า เสี่ยวโม่.. ขู่คนเป็นด้วยรึ? “ตอบมา ทำไมเจ้าถึงต้องระรานชาวบ้านที่ไม่รุ้เรื่องราวใดด้วย ทุกวันนี้บ้านเมืองยังวุ่นวายไม่พอรึไร” “หึ… อยากฟังเหตุผลงั้นรึ อย่างไรเสียเจ้าก็คงจะสังหารข้าอยู่ดีต่อให้พูดอะไรไป” จอมโจรวั่นรับทรัพย์บนกองเลือดมาทัง้ชีวิต มาวันนี้ได้รุ้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เขาแม้ไม่ยินยอมแต่ก็จนใจด้วยโชคชะตา “ผิดแล้ว ข้าคือผู้ศรัทธาในชางเจีย รักษาสัจจะเป้นที่สุด.. หากเจ้าสามารถให้คำตอบที่ดีพอล่ะก็ ยังสามารถเก็บชีวิตเอาไว้ได้” เรื่องโทษตายนั้นโม่เสวียนไม่คิดประทานให้ผู้ใดอยู่แล้ว แค่ก่อนจะตัดสินย่อมต้องมีโอกาสให้จำเลยได้แก้ต่าง “เจ้าจะปล่อยโจรชั่วนี้ไปทำร้ายคนอื่นอีกหรือ? ได้ดูสภาพของชาวบ้านบ้างไหมพวกเขาถูกทรมานแทบไม่เป็นผู้เป็นคน..” ราชครุหลิวกลับไม่ค่อยเห้นด้วยสักเท่าไร ในสายตาเขา มีคนอีกมากในโลกที่สมควรตาย “ได้! ดูเหมือนสหายของเจ้าจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าโจรอย่างพวกข้าสินะ ถุ้ย! ทุกวันพวกเราเก็บข้าวได้น้อยลง ไอ้พวกขุนนางวันๆ ก็ขูดรีดภาษี น้องสาวข้าถูกเอาตัวไปขัดดอกจนนางช้ำใจจบชีวิตตนเอง.. ข้าพยายามมาทุกทางแล้วแต่ชาวบ้านอย่างเราๆ จะไปทำมาหากินแข่งกับพวกนายทุนได้หรือ? ไร้คนหนุนหลัง ชีวิตพวกข้ากับพี่น้องก็ไม่ต่างอะไรกับสุนัขข้างถนน” ความเจ็บแค้นถูกระบายออกมาเป็นคำพูด ดวงตาของขุนโจรแดงก่ำ เขาไม่สนแล้วว่าตนเองจะต้องตาย หากทั้งสองมัจจุราชคือพวกเดียวกับขุนนางตนก็ขอด่าให้สะใจ “โกงกินบ้านเมือง จะไปที่ไหนก็เหมือนกันหมด พวกข้าไม่มีข้าวสารจะกรอกหม้อจะให้อยู่ยังไง เงิน! มีเงินเท่านั้นทุกคนถึงจะอยุ่รอด ถึงข้าเอาตัวชาวบ้านมาก็หางานหาที่กินที่อยุ่ให้ ไม่เคยฆ่าใครอย่างไร้เหตุผล!” โม่เสวียนฟังด้วยสีหน้าเฉยชา จริงอยู่ว่าทุกกคนมีเหตุผลของตนเอง เพียงแต่เกตุผลเหล่านั้นมันยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะเอาชีวิตใคร “เจ้าประสบความลำบากในชีวิต ข้าเข้าใจดี แต่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้น ทุกคนที่เจ้ากดขี่บังคับให้เป็นทาส พวกนั้นมีส่วนที่ทำให้เจ้าต้องลำบากด้วยหรือ? ตอบข้ามาสิว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้เจ้าต้องไปเบียดเบียนชาวบ้านีท่หากินอย่างสุจิตรกัน.. เพราะเลีย้งปากท้อง? มิใช่แล้ว หากเพียงเลีย้งปากท้องมีแหหนึ่งตาก็สามารถหาปลาได้ ที่เจ้าทำลงไปเป็นเพราะความโลภไม่รุ้จักพอต่างหาก” “....ไม่ใช่นะ ข้าช่วยพวกเขา!” “การช่วยของเจ้ามันทำให้พวกเขาต้องอยู่ไม่สู้ตาย! เงินมันซื้อได้กระทั่งศักดิ์ศรีของเจ้าเลยรึไง!” ขุนโจรถูกโประโยคที่กระทบของเขาตอกกลับจนทั้งร่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ใช่แล้ว.. ครั้งหนึ่งเขาเองก็เคยเป็นสุจริตชน เคยเป็นชาวบ้านหาเช้ากินค่ำมีรอยยิ้มแม้ท้องหิว มีศักกดิ์ศรีในตนเอง แต่ทุกวันนี้ใช้ชีวิตราวกับเดรัจฉานที่กัดแทะซากของเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ โม่เสวียนเก็บมีดคืนฝักเขายังต้องพาชาวบ้านกลับไปที่ปลอดภัย ก้าวออกไปจากกระโจมพร้อมราชครูหลิวโดยไม่ลืมทิ้งท้ายคำพูดเอาไว้ “ข้าจะไม่สังหารเจ้า.. ทุกคนล้วนเป็นเหยื่อให้กับยุคสมัยอันโหดร้าย แต่ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปทำเรื่องชั่วในอนาคตเช่นกัน… เลือกเอาเถิด จะติดตามข้ากลับไปซินเย่เพื่อทำคุณไถ่โทษปกป้องชาวบ้านที่เจ้าทำร้ายพวกเขาไปตลอดชีวิต หรือจะให้ข้าส่งตัวเจ้าไปหามือปราบ ชีวิตนี้ไม่ต้องก้าวขาออกมาจากตารางอีกเลย” ชื่อ วั่น เจียฝอ +15% เมื่อโรลเพลย์เก็บเกี่ยวทรัพยากร หรือ เพิ่มประชากร (นักวิชาการ) +15% จำนวนประชากรเพิ่มขึ้น (เลื่อมใสศรัทธา) ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ • ♦ -เอฟเฟคตัวละคร- (สถาปนิก) +2 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารพัฒนาเมือง(เลื่อมใสศรัทธา) +3 Point จากการโรลทำงาน (ทะเยอทะยาน) +2 Point ทุกครั้งที่โรลพัฒนาเมือง +2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ +2 Point ทุกครั้งที่โรลใช้กลอุบาย
(อัจฉริยะ) +5 Point จากการโรลใช้แผนการและกลอุบาย +5 Point จากการโรลเรียนรู้(หูดี) +5 EXP จากการโรลสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น +2 Point จากการโรลใช้แผนการหรือกลอุบาย(เห็นอกเห็นใจ) +20 EXP ทุกครั้งที่โรลเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น หรือ ทำงานช่วยเหลือ -2 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ(นักวิชาการ) +4 Point เมื่อโรลเพลย์เรียนรู้(นักวางแผน) +5 Point เมื่อโรลเพลย์วางแผน ดำเนินกลอุบายรวม 28 Point 55exp +30 โหด -25 ความเตรียดจากการกิน —------ เอฟเฟคหลิวซีเยี่ยน (งดงาม) +6 Point เมื่อโรลเพลย์บริหารเสน่ห์(ถ่อมตน) +2 Point จากการโรลให้เกียรติอีกฝ่าย +10 EXP จากการโรลสรรเสริญคู่สนทนาด้วยความจริง(สุขุม) +2 Point ทุกครั้งที่โรลเรียนรู้ +20 EXP ทุกครั้งที่โรลอดทน(เจ้าเล่ห์-เสแสร้ง) +4 Point จากการโรลวางแผนใช้อุบาย +30% คุ้มครองแผนการของคุณไม่ถูกเปิดโปงรวม 14pt 30exp . —----------- x3.5 ทุกครั้งที่คุยแลกเปลี่ยนศาสนากับคนศาสนาเดียวกัน (เจียหลุนชาง-หลิวซีเยี่ยน) +10 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ
(เลื่อมใสศรัทธา) +25 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิ +15 ความศรัทธา ทุกครั้งที่โรลเผยแพร่ลัทธิหรือ โรลเกี่ยวกับศาสนา x4 ความศรัทธา เจ้าลัทธิ x2 ความศรัทธา VIP
|