[เมืองซีเหอ] คุกประจำเมือง

[คัดลอกลิงก์]
ไม่ระบุชื่อ  โพสต์ 2021-10-21 13:47:55 |โหมดอ่าน

คุกประจำเมือง
{ เมืองซีเหอ }








【คุกประจำเมือง】

สถานที่จองจำเหล่านักโทษและผู้ต้องหารอสอบวนในคดี
คุกถูกสร้างขึ้นใต้ดินด้วยจุดประสงค์เพื่อประหยัดพื้นที่
โครงสร้างแน่นหนาก่อจากอิฐและหินมีช่องลมระบายอากาศ
ทำให้ด้านในไม่แออัดจนเกินไปนัก แยกส่วนชาย-หญิง
มีฟางลาดปูเพื่อป้องกันโรคระบาด จัดว่าสะอาดพอสมควร

ทุกท่านสามารถมาโรลเพลย์ทำงานพาร์ทไทม์ประจำวัน
ค่าจ้าง: 90 อีแปะ - 20 EXP (รายวัน)




[ขั้นตอนขอเข้าเยี่ยมนักโทษ]
(1) เวลาเยี่ยมอยู่ในเวลาราชการ 08.00 - 16.00 เท่านั้น
(2) สร้างสตอรี่ขอเยี่ยมนักโทษกับผู้คุม
(3) ค่าเยี่ยมนักโทษ: 15 ตำลึงเงิน + สินบนผู้คุม 15 ตำลึงเงิน + ภาษีเมือง




ผู้คุม: ตู่ จ้าว
อุปนิสัย:
คนสนิทของแม่ทัพซีเหอตู่กงจวิน สมือนน้องชายและบริวาร
อยู่ที่เมืองนี้โดยกำเนิด ใบหน้ามักจะเคร่งเครียดจริงจังอยู่เสมอ
วรยุทธ์สูงส่งฝีเท้าไว โตมากับการวิ่งไล่ผู้ร้ายทั่วเมือง
ทั้งเที่ยงตรงและเด็ดเดี่ยวยุติธรรม บ่อยครั้งทำให้ลูกน้องเกรงกลัว







ไม่ระบุชื่อ  โพสต์ 2021-10-21 13:55:52
  
.: นักโทษในคุก :.

กติกาการโรลเพลย์เข้าเยี่ยมนักโทษ
(1) 1 โรลเพลย์ สามารถเจอได้แค่ 1 คนเท่านั้น ยกเว้นมีระบุว่า xx นั่งกับ xx
(2) จะต้องจ่ายค่าเข้าเยี่ยมนักโทษก่อน แล้วผู้คุมจะให้คนนำทางลงมาห้องขังเพื่อพบผู้ต้องหา


ความสำคัญก่อนโรลสร้างความสัมพันธ์ NPC
(1) สำคัญมาก ที่คุณจะต้องตรวจเช็ค (ลักษณะนิสัยขัดแย้งกันหรือไม่ สามารถเช็คได้จากที่นี่ คลิก)
(2) รองลงมา ตรวจเช็ต ธาตุวันเกิด และ ปีนักษตร ชงกันหรือไม่ สามารถเช็คได้ที่นี่ (คลิก)
(3) ทุก ๆ การโรลเพลย์ที่มีความขัดแย้งในด้านนิสัย และ ธาตุหรือปีนักษัตรชงกัน เนื้อหาโรลเพลย์คุณจะต้องสร้างให้สมเหตุสมผล
เมื่อความสัมพันธ์ต้องลบลงในโรลเดียวกับจีบ ที่ความสัมพันธ์เพิ่ม โดยการครีเอทสร้างสถานการณ์โรลเพลย์ไม่ถึงกับทะเลาะ ขัดแย้งกัน
แต่ให้คุณเผลอทำอะไรที่ไม่ดี หรือใช้คำพูด หรือ บางอย่างเกี่ยวกับนิสัย ตัวคาร์คุณในโรลนั้นด้วย เพื่อให้มีความเมคเช้นส์ในการลดความสัมพันธ์



[ห้องขัง 001]


[174] หวัง โก่วเจียง [ดี]
ความผิด 2 กระทง
(1) รับสินบนจากตระกูลสีแอบลักลอบค้าฝิ่นในซีเหอ - พยานครบถ้วน
(2) ข่มขีนสาวชาวบ้าน - พยานและผู้เคราะห์ร้าย

กระบวนการยุติธรรม: มือปราบหลี่เป็นผู้พิจารณาคดี และ ให้โทษจำคุกตลอดชีวิตและยึดทรัพย์สินคืนทางการ






←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x12
x5
x636
x241
โพสต์ 2021-11-19 15:54:38 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ZhaoPei เมื่อ 2021-11-19 16:34

         ตามที่จ้าวเพ่ยได้ขอให้ซุนหยางนำทางมาถึงคุกประจำเมืองของซีเหอ เพราะคิดว่ามือปราบน่าจะอยู่ที่นี่ ไม่คิดว่าคนอย่างนางจะต้องมาย่างกรายเข้ามาในคุกเช่นนี้ แต่เพราะเหตุการณ์มี่เกิดขึ้นมาทำให้นางต้องเลือกที่จะเข้ามายังที่นี่เพื่อตามหาใครบางคน

         "เจ้ารอที่นี่.. ไปกันมากจะทำให้วุ่นวายได้" จ้าวเพ่ยกล่าวกับซุนหยางและยื่นแมวตัวสีดำให้อีกฝ่ายรับไว้ หญิงสาวพยายามจะไม่ทำให้ใจเต้นแรงจากความตื่นเต้นเมื่อต้องเข้าพบผู้คุมของที่นี่ ไม่รู้ว่ามือปราบอยู่ที่นี่หรือไม่ หากอยู่ที่นี่แล้วนางมีสิทธิ์เข้าไปเยี่ยมเยือนด้วยก็คงจะเป็นเรื่องดีแก่นาง

         "อย่าไปนานนักล่ะ"

         จ้าวเพ่ยตอบรับคำกล่าวของซุนหยางก่อนนางจะเดินเข้าไปยังตัวสถานที่จองจำนักโทษ หญิงสาวค่อยๆก้าวเดินเข้าไปหาคนที่นางคิดว่าเป็นผู้คุมประจำคุกเพื่อพูดคุยเรื่องอะไรสักหน่อย

         "มีอะไรแม่นาง.. มาเยี่ยมนักโทษหรือ"

         "เจ้าค่ะ.. ข้าเพียงจะมาถามท่านด้วย ว่าบุรุษชื่อหวัง จงหมี่" นางเองเอ่ยถามไปเช่นนั้น แน่นอนว่าเป็นชื่อที่ไม่ใช่ชื่อทางการเสียเท่าไหร่นัก แต่นางรับรู้ชื่ออีกฝ่ายเพียงชื่อรองเท่านั้น "ได้อยู่ที่นี่หรือไม่"

         สิ้นคำพูดผู้คุมก็นึกคนที่มีชื่อเช่นนี้ สตรีงามตรงหน้าอาจจะหมายถึงมือปราบหวัง ผู้พึ่งจะถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตก็เป็นได้ เมื่อคิดดังนั้นสายตาก็มองมาที่นางอย่างนึกเคลือบแคลงใจบางอย่าง แต่ก็ยังรักษาท่าทีว่าเขายังเป็นคนนิ่งเฉยได้อย่างดี

         "มือปราบหวังน่ะหรือ.. ใช่.. เขาอยู่ที่นี่"

         "เหตุใดล่ะเจ้าคะ.. ช่วยบอกข้าทีว่าเขาทำอะไร" จ้าวเพ่ยประสานมือเข้าหากันยกมาไว้แนบอกเพราะนางเองก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับมือไม้ที่เกะกะนี้อย่างไร ใบหน้าของนางเกิดความกังวลอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินว่ามือปราบถูกจับขังคุกจริงๆ

         "รับสินบนจากตระกูลที่แอบลักลอบค้าฝิ่นในซีเหอ และข่มขืนสาวชาวบ้าน" ผู้คุมกล่าวแจงข้อหาออกมาให้จ้าวเพ่ยได้ฟัง ทั้งมองสตรีตรงหน้าไม่วางตา "รับโทษจำคุกตลอดชีวิต"

         "ม.. ไม่จริง มือปราบหวังจะทำเช่นนั้นไปทำไม"

         "ข้าจะรู้หรือ.. เอาอย่างไรจะเยี่ยมนักโทษหรือไม่.." แม้จะดูว่าสตรีนางนี้ให้ความสำคัญกับนักโทษหวังกว่าคนปกติทั่วไปก็นึกสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสอง ผู้คุมจับจ้องไปยังสตรีตรงหน้าที่ยังคงมีสีหน้าไม่ค่อยดีเสียเท่าไหร่นักตอบรับข้อเสนออีกฝ่ายอย่างว่าง่าย

         "ขอข้าเข้าเยี่ยมมือปราบหวังด้วยเจ้าค่ะ"

         "ค่าเยี่ยมนักโทษสิบห้าตำลึงเงิน" ผู้คุมกล่าวออกมาขณะจ้าวเพ่ยพร้อมจะก้าวเข้าออกไปเพื่อเร่งมุ่งหน้าไปยังคุก หญิงสาวรีบเดินกลับมาและหยิบตำลึงเงินออกจากถุงนำมาจ่ายแก่อีกฝ่ายทันที

         "แม่นางลืมอะไรไปหรือเปล่า.." เมื่อเห็นว่าจ้าวเพ่ยจ่ายเพียงสิบห้าตำลึงก็เอ่ยทักนางไป ผู้คุมทำสีหน้าเหมือนต้องการตำลึงเพิ่ม พลางยกนิ้วขึ้นมาและชี้ให้แก่ตัวเองทันที "ค่าเยี่ยมนักโทษสิบห้าตำลึงเงิน"

         แน่นอนว่าจ้าวเพ่ยไม่ได้โง่ขนาดที่นางจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเรียกเก็บค่าอะไรถุงตำลึงเงินถูกยัดเข้าไปในมืออีกฝ่ายแทบจะทันที แน่นอนว่านางไม่เกี่ยงแม้จะเป็นสินบนค่าเยี่ยมที่เรียกเก็บนอกเหนือจากนี้ ตอนนี้นางต้องการเพียงแค่พบหน้ามือปราบหวังเท่านั้น

         "พาข้าไปพบเขาสักที" น้ำเสียงของนางดูเหมืินจะหงุดหงิดเล็กน้อย แต่เป็นเพราะนางคือสตรีไร้กำลังคนหนึ่ง จึงดูเหมือนแค่แมวที่ขู่ฟ่อใส่ราชสีย์เพียงเท่านั้น หญิงสาวเห็นใบหน้ายี้ยวนอีกฝ่ายผุดขึ้นมาก่อนจะนำทางพานางเข้าไปยังคุกใต้ดินของที่นี่

         แม้จะดูสะอาดแต่อย่างไรที่นี่ก็มีกลิ่นเหม็นอับอยู่ไม่น้อย คุกไม้คุมขังนักโทษเรียงตามห้องดูน่าอึดอัด แม้แต่สตรีเช่นนางก็แทบจะหายใจลำบาก อย่างไรก็ตามที่นี่แม้จะอยู่ในใต้ดินกลับดูหนาวเหน็บกว่าข้างนอกเป็นไหนๆ ผู้คุมผายมือไปยังคุกห้องหนึ่งพอให้จ้าวเพ่ยได้เห็นว่าคนที่นางต้องการพบอยู่ที่นั่น

         สตรีงามเร่งเข้าไปหาอีกฝ่ายแทบจะทันที แม้จะมีลูกกรงกั้นทั้งสองอยู่ก็ตาม มือปราบหวังนั่งพิงกับผนังห้องกรงขังและหลับตาราวกับว่าเข้าสู่นิทรา แน่นอนว่ามือปราบยังไม่รับรู้ถึงการมาของจ้าวเพ่ยและไม่คิดว่านางจะมาถึงที่นี่ด้วย

         "ท่านมือปราบ.. ท่านมือปราบ.." เสียงใสเอ่ยขึ้นเบาๆเพื่อหวังจะปลุกอีกฝ่าย เมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคยมือปราบหวังต้องเปิดตาขึ้น สายตามองออกไปเห็นสตรีงามเกาะลูกกรง ราวกับเป็นภาพลวงตา แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้เขาตกใจจนต้องรีบลุกทันที

         "เพ่ยเอ๋อร์.. เจ้ามาที่นี่ทำไม"

         "ข้าก็มาเยี่ยมท่านอย่างไรเล่า.. เกิดอะไรขึ้น เหตุใดจึงมีเรื้องแบบนี้เกิดขึ้น" นางกล่าวทั้งน้ำตาคลอ เมื่อเห็นสภาพมือปราบหวังเป็นเช่นนี้ ชุดหรูใส่แล้วดูภูมิฐานกลับกลายเป็นชุดนักโทษซ่อมซ่อหมดความน่าเชื่อถือลงไปในพริบตาเดียว "ท่านโดนข้อหาข่มขืนสาวชาวบ้าน ท่านทำเช่นนั้นจริงหรือ"

         "เพ่ยเอ๋อร์กลับไปเถอะ" มือปราบกล่าวทั้งมองข้ามไหล่ของนางไป เห็นผู้คุมเองก็ไม่อยากจะกล่าวสนทนาใดกับจ้าวเพ่ยในตอนนี้มากเท่าไหร่

         "ไม่.. ผู้คุมกล่าวกับข้าว่าท่านถูกจำคุกตลอดชีวิตใช่หรือไม่ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นเล่า ไหนกล่าวว่าจะแต่งงานกับข้า.." นางกล่าวระบายความในใจออกมา เพราะตอนที่ตั้งใจมาที่ซีเหอนางต้องการแจ้งข่าวคราวหลายเรื่องแก่มือปราบ แต่นางกลับถูกข่าวร้ายน่าปวดใจเรื่องเดียวกลับโจมตีเข้ามากลบข่าวดีที่นางตั้งใจที่จะเล่าเสียหมด "ท่านลืมไปแล้วหรือไง.."

         "ไม่ใช่เรื่องต้องคุยกันตอนนี้.. กลับไปก่อน" มือปราบหวังไม่อยากเอามือสกปรกแตะต้องใบหน้างามเสียเท่าไหร่ ยิ่งตอนที่จ้าวเพ่ยมีสีหน้าราวกับจะร้องไห้ยิ่งรู้สึกหนักใจขึ้นกว่าเดิมมาก

         หญิงสาวสอดมือเข้าไปยังซี่กรงของคุกแห่งนี้เพื่อจับมือของมือปราบหวังด้วยตัวเอง สองมือประสานกุมมือใหญ่แทบจะกุมไม่แน่น จนรับรู้ถึงความเย็นจากร่างกายของมือปราบได้อย่างดี

         "ท่านไม่ได้ทำเช่นอย่างที่ข้อกล่าวหาใช่หรือไม่" จ้าวเพ่ยกระชับมืออีกฝ่ายเพื่อเรียกความมั่นใจให้ตัวเองเมื่อต้องถามเช่นนั้นอีกครา "ท่านถูกใส่ความใช่หรือไม่.. ข้า.. ข้าไม่เชื่อว่าท่านจะทำเช่นนั้นได้"

         "แม่นางคุยนานเกินไปแล้ว" ผู้คุมกล่าวบอกกับจ้าวเพ่ยเพื่อให้นางออกไปจากคุกใต้ดินเสียที แต่ดูเหมือนนางเองจะไม่ได้สนใจเสียงรอบข้างสักเท่าไหร่นัก นอกเสียจากการรอคำตอบของชายตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ

         "ตอบข้ามาสิ ท่านมือปราบ.."

         จ้าวเพ่ยถูกดึงตัวให้ห่างออกจากลูกกรงส่งผลให้มือนางปล่อยออกจากมือปราบหวังแทบจะทันที หญิงสาวถูกพาออกไปยังด้านบน แม้อากาศจะดีขึ้นมาแต่จ้าวเพ่ยกลับไม่รู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวรีบสะบัดตัวออกจากผู้คุมแทบจะทันที ในยามนี้จ้าวเพ่ยกลับรู้สึกเหมือนถูกมือปราบตบหน้าจนชาไปเสียทั้งตัว หญิงสาวคิดอะไรไม่ออกเลยหัวสมองของนางตื้อตันเสียจนวนเวียนแต่เรื่องเดิมๆซ้ำซาก ตอนนี้นางจึงได้แต่กลั้นร้องไห้เพื่อไม่ให้แสดงความอ่อนแอออกมาให้คนไม่รู้จักเห็นไปเสียก่อน

เอฟเฟคลักษณะนิสัย
โลเล
-15 ความสัมพันธ์ คนที่กำลังจีบ

เอฟเฟคความสัมพันธ์ [174] หวังโก่วเจียง
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อธาตุไฟ เกื้อหนุน ดิน
[[หัวดี >> หัวดี]]
+15 ความสัมพันธ์ เมื่อเจอคนที่มีชื่อเสียงเดียวกัน
+30 คุณธรรมเมื่อเจอคนมีชื่อเสียงเดียวกัน



จ่ายค่าเยี่ยมนักโทษ: 15 ตำลึงเงิน + สินบนผู้คุม: 15 ตำลึงเงิน + ภาษีประจำเมือง: 7%
32 ตำลึงเงิน


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่ร้อยกฎ
มุกพณาหวาซวี
ม้าเหลียง
กลยุทธ์เล่ออี้
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x7
x4
x10
x10
x13
x13
x13
x12
x11
x202
x1
x1
x1
x11
x22
x15
x30
x1
x100
x100
x9
x2
x5
x6
x8
x10
x2
โพสต์ 2021-11-22 16:02:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ZhaoPei เมื่อ 2021-11-22 16:09

          เป็นอีกวันที่จ้าวเพ่ยมาแวะหามือปราบ เพียงแต่คราวนี้นางเย็นลงกว่าครั้งแรกมาก มือเรียวโอบรอบหูตระกร้า ของที่นำมาภายในถูกปรกด้วยผ้าผืนเล็กพอให้ไม่มีฝุ่นมาเกาะระหว่างเดินทางมาที่นี่ ครานี้นางมาด้วยตัวคนเดียวไม่มีผู้มารอแน่นอนว่าไม่ต้องกังวลว่านางจะช้าหรือทำให้คนอื่นเสียเวลา อย่างไรก็ตามนางไม่ได้นำเสี่ยวเฮยมาด้วยเพราะกลัวว่าจะถูกห้ามนำสัตว์เข้าแล้วเจ้าเสี่ยวเฮยจะเตลิดหนีจนตามจับได้ยาก

          "แม่นาง.. มาอีกแล้วหรือ" ผู้คุมเอ่ยทักทายจ้าวเพ่ยเมื่อเห็นนางเดินมาหา สายตามองไปยังตระกร้าราวกับว่าเกิดความสงสัยบางอย่าง "นำอะไรมาด้วยล่ะนั่น"

          "อาหารและชาเจ้าค่ะ.." ตระกร้านำมาไว้กับตัวเสียก่อนที่อีกฝ่ายจะใช้มือจับเพื่อดึงออกไป หญิงสาวแทบจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นผู้คุมจะเอาตระกร้าของนางไปราวกับจะยึดเสียอย่างนั้น แม้ว่าจะไม่มีอะไรแต่หากอยู่ในมือผู้คุมนางเองก็ไม่มั่นใจว่าจะถึงมือคนที่ต้องการจะส่งหรือไม่

          "นำมาให้ข้าตรวจ.. แน่ใจได้อย่างไรว่าแม่นางจะไม่ส่งอาวุธหรืออะไรให้เขา"

          "มีเพียงอาหารเท่านั้น ท่านทำอะไรให้ยุ่งยาก" แม้จะกล่าวออกไปเช่นนั้นแต่จ้าวเพ่ยก็ยอมให้ผู้คุมนำตระกร้าของนางไปตรวจสอบ ผ้าปรกปิดถูกเปิดขึ้นเพื่อดูของด้านใน มีเพียงอาหารหนึ่งมื้อและชาตามที่นางกล่าวจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นผู้คุมก็ใช่ว่าจะให้นางไปเยี่ยมทั้งเซ็ทอาหารได้ง่ายๆ

          "นำเข้าไปได้ แต่ต้องจ่ายค่า.."

          "อีกแล้วหรือ.. ต้องใช้จ่ายอะไรมากมาย ข้าเองมาเยี่ยมนักโทษก็เสียเวลาทำงานเช่นกัน ใช่ว่าจะมีตำลึงให้ท่านตลอดนะ"

          จ้าวเพ่ยเห็นสายตาของอีกฝ่ายดูไม่โอนเอียงเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวเองก็ไม่รู้ว่าแค่เยี่ยมนักโทษหนึ่งครั้งค้องใช้ค่าใช้จ่ายอะไรมากมาย เห็นเรียกเก็บมากขนาดนี้ก็ไม่เห็นคุกจะดูดีขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย ถุงเงินตำลึงเงินถูกดึงออกมาเพื่อนับเงินทั้งค่าเยี่ยมนีกฏทษและค่าใช้จ่ายอื่นๆที่นางไม่คิดว่าจะต้องเสียมากมายเสียขนาดนี้

          "แม่นางก็หาใช่ชาวบ้านธรรมดานี่.. เพียงแค่นี้ก็จ่ายได้ตลอดไม่ใช่หรือ" ผู้คุมเอ่ยทั้งมือมือเรียวหยิบเงินออกมาจากถุงโดยไม่มีส่วนขาดเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังพอมีตำลึงเงินเหลืออีกมากกว่าที่คิดเอาไว้มาก มือเรียวถือตำลึงเงินจำนวนมากเอาไว้ยังคงถูกมองตาม นางเองก็ไม่รู้ว่ากำลังถูกจ้องกลับยกมือขึ้นแนบอกเอาไว้เพื่อจะคุยบางอย่างก่อนจ่าย

          สายตาผู้คุมมองตามมือมาหยุดตรงหน้าอกนางก็แทบจะเปลี่ยนจุดโฟกัสแทบจะไม่ทัน เขาเองคิดว่านางคงจะยื่นตำลึงมาให้ไม่คิดว่าจะอิดออดค่าใช้จ่ายเข้าคุกอีกครา

          "ข้าต้องจ่ายเช่นนี้ตลอดที่มาเยี่ยมหรือ.."

          "มันก็ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว.."

          "ค่าอะไรมากมาย รักษาคุกหรือไง ข้าก็ไม่เห็นข้างในจะดีแม้แต่น้อย เหม็นอับอย่างกับอะไรดี" นางกล่าวกับผู้คุมหวังว่าเขาจะยอมลดค่าเยี่ยมลงบ้างแต่ดูเหมือนตู่จ้าวจะไม่สนใจนางเลยแม้แต่น้อย อย่างที่ใครเขาว่า เงินย่อมสำคัญกว่าอิสตรีเป็นไหนๆ

          "ที่นี่ข้าดูแลรักษาอย่างดี สะอาดกว่าคุกที่อื่นเป็นไหนๆ.." มือหนายื่นมาตรงหน้าจ้าวเพ่ยเพื่อขอรับค่าเยี่ยมนักโทษ หญิงสาวเม้มปากเล็กน้อยและค่อยไปลดมือลงวางตำลึงทั้งหมดที่นางกำเอาไว้ให้อีกฝ่าย "หากแม่นางไม่อยากจ่ายก็ไม่ต้องมาที่นี่.. มันก็มีเพียงเท่านั้น"

          "มีผู้คุมเอาเปรียบเช่นนี้.. ข้าก็ไม่อยากจะมาบ่อยๆหรอก" จ้าวเพ่ยกล่าวออกไปแทบจะทำให้ตู่จ้าวสะดุ้ง เขาหรี่ตามองนางที่เหมือนจะหลอกด่าตนทางอ้อมๆ

          "เอาเปรียบ?.. แม่นางว่าผู้ใดเอาเปรียบ"

          หญิงสาวทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย นางดึงตระกร้าอาหารมาไว้กับตัวและเดินเข้าไปยังด้านในคุกใต้ดินเพื่อไปหาคนที่ต้องการพบในยามนี้

          แน่นอนว่าคุกใต้ดินมันก็ย่อมมีอาหารสำหรับหายใจน้อยอยู่แล้ว ยิ่งเข้ามาด้านในยิ่งรู้สึกสงสารเหล่านักโทษที่นี่ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก หญิงสาวก้าวเดินตามทางไม่ได้หวังจะให้ผู้คุมตามมาคุมนางเสียเท่าไหร่นัก แค่เพียงอยากพบหน้าและพูดคุยกับบางคนเพื่อสอบถามข้อมูลบางอย่างเพียงเท่านั้น

          "เพ่ยเอ๋อร์.. มาที่นี่ทำไมอีก" คราวนี้มือปราบไม่ได้หลับอย่างเช่นครั้งที่มาเยี่ยมคราแรก เขามองจ้าวเพ่ยเดินมาหยุดตรงหน้าตะรางคุมขังทั้งสองมือหิ้วหูตระกร้าปรกด้วยผ้าผืนสีครึ้มราวกับมีอะไรบางอย่างที่ผิดกฏหมายมาให้

          "ข้ามาเยี่ยมท่านเจ้าค่ะ.. อยู่ที่นี่คงจะคิดถึงอาหารภายนอก" นางดึงผ้าออกให้เห็นอาหารและชาที่นางเตรียมมาให้มือปราบ "ข้าจึงเตรียมอาหารมาให้เจ้าค่ะ"

          อาหารส่งต่อให้มือปราบในคุก เขาเปิดมันออกเห็นอาหารทะเลอยู่ในนั้นก็เงยหน้ามองจ้าวเพ่ยตรงหน้า สตรีงามยังคงยืนยิ้มให้เขาราวกับว่าไม่เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้น

          "เพ่ยเอ๋อร์ไม่เกลียดข้าหรือ เรื่องที่ข้าต้องโทษเช่นนี้"

          "ข้าไม่เชื่อว่าท่านมือปราบเป็นคนทำหรอกเจ้าค่ะ.." นางกล่าวทั้งเค้นยิ้มออกมา แม้ว่าในใจนางจะยิ้มไม่ออกเลยก็ตาม อย่างไรก็ต้องทำให้เขารับรู้ว่าคนข้างนอกเช่นนางยังคงมีความสุขดี..

          เพียงคำพูดนั้นกลับทำมือปราบหวังแทบจะพูดไม่ออก ยิ่งรู้ว่าจ้าวเพ่ยยิ้มออกมาเช่นนั้นแต่สายตานางกลับหม่นหมองเสียเหลือเกิน บุรุษนักโทษหยิบกุ้งที่นางเตรียมเอาไว้ให้ขึ้นมากิน รสชาติไม่เหมือนที่เคยกินในบ้านครานั้น รู้ได้เลยว่านางไม่ได้ทำเองแน่นอน

          "ข้า.. อยากจะ.." นางพูดออกมาแต่กลับชะงักเอาไว้เล็กน้อย หญิงสาวจดจำได้ดีครั้งนั้นที่มือปราบไม่ยอมที่จะให้เหล่าโจรภูเขาช่วยเหลือ นางตึงเปลี่ยนเรื่องแทบจะทันที "หากมีเรื่องใดที่ข้าช่วยท่านได้.. ข้าจะพยายาม"

          "ไม่ต้องทำอะไรเกินตัวเช่นนั้นก็ได้" มือปราบหวังยิ้มออกมาให้นาง อาหารถูกกินหมดเหลือเพียงกล่องส่งคืนให้แก่จ้าวเพ่ยไปด้วย

          หญิงสาวรับกล่องเปล่ามาและรินนำชาส่งต่อให้อีกฝ่าย สายตามองไปยังมือปราบและคุกด้านใน แน่นอนว่าชีวิตนักโทษไม่ใช่ว่าจะสุขสบาย ซ้ำร้ายกลับน่าอึดอัดและน่าหดหู่มากขนาดไหน

          "ท่านมือปราบเจ้าคะ.. ข้าเองยังไม่ได้เล่าเรื่องหนึ่งให้ท่านได้ฟังเลย" นางกล่าวขณะมองอีกฝ่ายจิบน้ำชาไปด้วย มือเรียวสวยพับผ้าสีครึ้มลงตระกร้าอย่างลวกๆ อย่างไรยางก็เก็บทั้งหมดเพื่อทำความสะอาดอีกรอบอยู่แล้ว

          "ข้าได้ซื้อไร่ชาที่หมู่บ้านเซี่ยมา.. อันที่จริงข้าซื้อหลังจากที่ท่านขอข้าแต่งงานได้เพียงไม่กี่ตะวัน ข้าแค่อยากจะเดินทางมาที่นี่เพื่อบอกกับท่าน.. แต่ว่า" จ้าวเพ่ยไม่อยากกล่าวต่อว่านางได้รับข่าวร้ายก่อนจะบอกข่าวดีแก่มือปราบเสียก่อน ทุกอย่างช่างดูรวดเร็วเสียจนนางตั้งตัวไม่ทัน จึงได้กลายเป็นทุกอย่างที่วาดฝันแทบจะสลายลงในพริบตา

          "ยินดีกับเพ่ยเอ๋อร์ด้วย.." มือปราบยื่นมือมาลูบหัวสตรีผู้ปั้นหน้าเศร้าเหมือนทุกครา จ้าวเพ่ยเม้มปากเล็กน้อยพอไม่ให้นางแสดงสีหน้าไม่ดีออกไป ริมฝีปากอาบด้วยชาดคลี่ยิ้มเล็กน้อยแก่อีกฝ่ายไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความรู้สึกของนางตอนนี้มากนัก

          ผมสีดำขลับนุ่มถูกลูบพอให้รู้สึกถึงตัวตนอีกฝ่าย จ้าวเพ่ยรำคาญซี่ตะรางที่คั่นกลางระหว่างพวกนางเสียเหลือเกิน แม้จะใกล้กันเพียงนี้ แต่กลับรู้สึกปวดใจอย่างที่นางไม่เคยเป็นมาก่อน ซุนหยางเองก็กล่าวให้นางตัดใจไปเสียแต่ครั้นได้เห็นใบหน้าของอีกฟากทำเอานางไม่กล้าที่จะหักหลังบุรุษผู้นี้เลย

          "ข้าอยากให้ท่านมือปราบไปเห็นไร่ชาด้วยกันกับข้านะเจ้าคะ" นางกล่าวทั้งยกมือสัมผัสมืออีกฝ่าย ไม่ต้องการให้หยุดสัมผัสนางในตอนนี้ อย่างไรขอสักเวลาก่อนที่จะหมดเวลาราชการ ให้ได้อยู่กับบุรุษคนนี้ให้นานที่สุดเท่าที่นางจะทำได้

เอฟเฟคลักษณะนิสัย
โลเล
-15 ความสัมพันธ์ คนที่กำลังจีบ
มีตัญหา
+2 Point ทุกครั้งที่ดำเนินวางแผนจีบเพศตรงข้าม

เอฟเฟคความสัมพันธ์ [174] หวังโก่วเจียง
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อธาตุไฟ เกื้อหนุน ดิน
[[หัวดี >> หัวดี]]
+15 ความสัมพันธ์ เมื่อเจอคนที่มีชื่อเสียงเดียวกัน
+30 คุณธรรมเมื่อเจอคนมีชื่อเสียงเดียวกัน

[174] มอบ กุ้งนางหงส์ และ ชาเจียวกู่หลาน ให้


จ่ายค่าเยี่ยมนักโทษ: 15 ตำลึงเงิน + สินบนผู้คุม: 15 ตำลึงเงิน + ค่านำของให้นักโทษ: 15 ตำลึงเงิน + ภาษีประจำเมือง: 7%
48 ตำลึงเงิน


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่ร้อยกฎ
มุกพณาหวาซวี
ม้าเหลียง
กลยุทธ์เล่ออี้
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x7
x4
x10
x10
x13
x13
x13
x12
x11
x202
x1
x1
x1
x11
x22
x15
x30
x1
x100
x100
x9
x2
x5
x6
x8
x10
x2
โพสต์ 2021-11-28 15:51:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
          แม้ว่าจ้าวเพ่ยไม่เกี่ยงที่จะจ่ายค่าเยี่ยมนักโทษในแต่ละครั้ง แต่ก็ใช่ว่าการเงินของนางจะดีเสียเท่าไหร่ สตรีเช่นนางก็ชาวบ้านธรรมดาๆคนหนึ่ง หาใช่คนมีฐานะไม่ จึงจะมีจ่ายตลอดชีวิตทุกคราที่มาเยี่ยมนักโทษได้ ยิ่งนางฝังใจว่าอย่างไรมือปราบก็ต้องถูกใส่ความเป็นแน่ ครั้นจะรอคอยในสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้ก็คงจะต้องเห็นคนรักถูกจองจำตลอดชีวิตแน่แท้

          สองเท้าก้าวเข้ามาราวกับว่านางเริ่มปรับตัวได้แล้ว จ้าวเพ่ยไม่รู้ว่าควรจะต้องอายเรื่องอะไรอีกเมื่อต้องเดินทางมายังที่นี่อีกครา ผู้คุมเองหันมามองทางจ้าวเพ่ยเห็นนางมาทางเขาก็ไม่รู้สึกแปลกอะไรมากกว่าเดิมนัก สายตามองต่ำลงไปยังลูกแมวดำที่นางนำมาด้วย ตาสีเหลืองสดโผล่ออกจากผ้าผืนบางในตะกร้าสานใบเดิม

          "มาแต่ละทีก็สรรหาของมาเยี่ยมแต่ละอย่าง คราหน้าคงไม่แอบเอาอาวุธมาให้นักโทษใช่หรือไม่"

          "เจ้าเสี่ยวเฮยแค่อยากตามข้ามา หากไม่ให้เข้าด้วย ข้าก็ขอฝากไว้กับท่านสักครู่ระหว่างที่ข้าเข้าไปหามือปราบ"

          นางกล่าวทั้งก้มลูบหัวแมวน้อยอย่างเอ็นดู สายตาคมกริบมองไปยังผู้คุมเพื่อรอคำตอบจากอีกฝ่ายว่าจะสามารถนำแมวเข้าไปด้วยได้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามนางไม่ได้อยากให้เสี่ยวเฮยเข้าไปข้างในเสียเท่าไหร่ ติดที่ว่าแมวตัวนี้เมื่ออยู่กับซุนหยางนางไม่ไว้ใจว่าจะพาหายหรือไม่ก็เท่านั้น

          "ว่าอย่างไร.." จ้าวเพ่ยพยายามจะเร่งคำตอบจากผู้คุมเมื่อเขามองไปยังแมวดำราวกับพิจารณาว่าควรจะให้เข้าไปด้วยดีหรือไม่

          "อยากนำเข้าก็ตามแต่เจ้า"

          "ขอบคุณ" นางกล่าวทั้งหยิบถุงตำลึงมา ไม่ต้องคำนวณให้มากความเหมือนครั้งอื่น นางก็รู้อยู่แล้วว่าควรจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายเท่าใด "ข้าคงไม่ต้องจ่ายเพิ่มใช่หรือไม่"

          เมื่อกำลังจะเอ่ยปากพูดออกมาสตรีรูปโฉมงดงามกลับชิงกล่าวออกมาก่อนเพื่อไม่ให้นางเสียเปรียบอีกครา เจ้าแมวร้องเงี๊ยวออกมาเมื่อโผล่หัวขึ้นทำให้นางลูบหัว และยิ้มไปด้วย

          "ไม่ต้องจ่ายเพิ่มสินะเจ้าคะ ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ" จ้าวเพ่ยเร่งเดินออกไปจากตรงนั้นเพื่อเลี่ยงการพูดคุยที่อาจจะเกิดการโต้เถียงเช่นครั้งก่อนๆ

          รอยยิ้มประดับใบหน้าค่อยๆหุบเมื่อหันหลังให้กับผู้คุม ดวงตากรอกขึ้นบนอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่อพ้นจากการสนทนาที่น่าอึดอัดและการเสียเงินก่อนจะได้เข้าเยี่ยมคนที่นางอยากพบ นางเองก็ไม่ค่อยชอบหน้าชายผู้นั้นเสียเท่าไหร่ นั่นอาจจะเป็นเพราะท่าทีของเขาดูไม่สนใจนางราวกับเป็นพวกตัดแขนเสื้อ ทั้งชอบไถเงินนางตลอดที่เจอหน้าด้วย

          "เงี๊ยว"

          "ชู่วว.." แมวน้อยร้องออกมาแต่คราวนี้จ้าวเพ่ยต้องรีบให้มันเงียบลงเพื่อไม่ให้ส่งเสียงรบกวนคนอื่นๆ หญิงสาวเดินตามทางเพื่อมาหยุดตรงที่ประจำที่นางเคยมาตลอด

          "ท่านมือปราบ..."

          "อีกแล้วหรือ.." มือปราบหวังกล่าวเมื่อเห็นจ้าวเพ่ยมาหาเขาอีกครา นางยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยทั้งก้มมองตะกร้าที่นำมาด้วย ฉับพลันผ้านั้นถูกแง้มเปิดเล็กน้อยให้เห็นแมวตัวเล็กหลับตาหยีแล้วอ้าปากร้องขึ้นมาอีกครา "เพ่ยเอ๋อร์! นำแมวเข้ามาได้อย่างไร"

          "อย่าเสียงดังสิเจ้าคะ.. ข้าพาเจ้าเสี่ยวเฮยมาหาต่างหาก.." นางกล่าวทีเล่นทีจริงทั้งหัวเราะคิกคักขึ้นมา "ขออภัยนะเจ้าคะ ที่ครานี้ข้าไม่ได้นำอะไรมาให้ท่านเลย"

          "แค่มาหาข้าก็ดีใจมากแล้ว แต่ข้าไม่อยากให้เพ่ยเอ๋อร์มาที่นี่บ่อยนัก.. ลำบากเสียเปล่า.."

          "ไม่ลำบากข้าเลยเจ้าค่ะ.. ข้าเต็มใจที่จะมา คิดถึงท่านจึงแวะเวียนมาหาเท่านั้นเอง" นางกล่าวทั้งจับผมเพื่อจัดการปัญหามือเกะกะไม่รู้จะทำอะไรในยามนี้

          "มันไม่ใช่ที่ที่เพ่ยเอ๋อร์จะไปมาได้สะดวก"

          "หากไม่ให้ข้ามาที่นี่บ่อยๆท่านก็ออกมาสิเจ้าคะ.." เป็นคำขอที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะสามารถทำให้นางได้หรือไม่ แต่นางก็พูดไปเช่นนั้นโดยไม่สนว่าคนฟังจะรู้สึกเช่นนั้น ใบหน้าเปื้อนด้วยเครื่องประทินโฉมตึงยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยพองามเพื่อไม่ให้ดูว่าคำพูดของนางดูตึงเครียดเกินไป

          "ข้า…"

          "หากข้าช่วยให้ท่านออกมาได้ ข้าขอให้ท่านเลี้ยงข้าวข้าอีกนะเจ้าคะ" เป็นคำขอที่ดูแสนธรรมดาผิดกับข้อเสนอของนางที่ดูเหมือนจะทำการใหญ่เสียจริง จ้าวเพ่ยยื่นมือไปหวังจะขอให้อีกฝ่ายจับมือนางอย่างที่ผ่านมา แต่มือใหญ่กลับไม่ยื่นมาหานางเหมือนที่เคยๆเป็นมา

          "เพ่ยเอ๋อร์คิดจะทำอะไร.."

          "ข้ามั่นใจว่าท่านถูกใส่ความเจ้าค่ะ.. หากว่าลองรื้อคดีอีกครา" จ้าวเพ่ยนึกถึงคดีแม่นางเจิ้งที่นางถูกใส่ความ แต่มือปราบและนางช่วยกันรื้อคดีจนสามารถช่วยลดความผิดจากที่นางไม่ได้ก่อขึ้นมาได้ อย่างไรหากคดีของมือปราบหวังนางจะขอรื้อคดีอีกคราแล้วล่ะก็ อาจจะช่วยอะไรขึ้นมาได้บ้าง

          "ข้าไม่ให้เจ้ากระทำอะไรเช่นนั้นแน่ๆ มันอันตรายเกินไปสำหรับสตรีเช่นเจ้า!!" มือปราบหวังแทบจะยืนกรานไม่ให้จ้าวเพ่ยคิดทำอะไรอย่างนั้น สตรีชาวบ้านเช่นนางจะทำการใหญ่เช่นนั้นมันเลยคำว่าทะเยอทะยายเป็นการฆ่าตัวตายทางอ้อมเสียมากกว่า

          "ข้าจะให้ผู้ติดตามข้าช่วยด้วยเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้ตัวคนเดียวเสียหน่อย"

          "อย่างไรข้าก็ไม่ให้เพ่ยเอ๋อร์ทำเช่นนั้น.."

          จ้าวเพ่ยรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ในเมื่อความยุติธรรมมี่มือปราบพึงได้ เจ้าตัวกลับทำเหมือนมันเป็นเรื่องเล็กซะอย่างนั้น สิทธิของชาวบ้านและสตรีเช่นนางจะไม่สามารถมีปากเสียงอะไรได้เลยหรือไง ต้องเป็นขุนนางชั้นใหญ่แค่ไหนถึงจะสามารถเข้ามาช่วยได้

          "ปิ่นที่ข้ามอบให้ยังอยู่กับท่านใช่หรือไม่" นางกล่าวถามออกไปเพื่อจะให้มั่นใจว่าอีกฝ่ายยังคงเก็บรักษาของที่นางมอบให้ดีอยู่หรือไม่ "เก็บรักษาให้ดีจนกว่าจะออกมาตะรางมาได้นะเจ้าคะ อีกไม่นานหรอก"

          "เพ่ยเอ๋อร์!" มือปราบร้องเรียกจ้าวเพ่ยเมื่อน่งถือตระกร้าด้วยสองมือเดินออกไปหลังสิ้นสุดคำ ไม่มีแม้ึำลาหรือคำว่าจะมาอีกคราเหมือนครั้งก่อนๆยิ่งทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงกับเด็กดื้อดช่นนางที่ห้ามอะไรไม่ฟังเลย

          หญิงสาวเดินออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ทันที เมื่อได้ออกจากคุกใต้ดินนางเหลือบมองผู้คุมที่ยังคงไม่มีท่าทีอะไร ก่อนจะก้าวเท้าอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์กับทุกอย่างราวกับว่าวันนี้ทั้งวันคงเป็นวันที่ตึงเครียดของนาง

เอฟเฟคลักษณะนิสัย
โลเล
-15 ความสัมพันธ์ คนที่กำลังจีบ

เอฟเฟคความสัมพันธ์ [174] หวังโก่วเจียง
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อธาตุไฟ เกื้อหนุน ดิน
[[หัวดี >> หัวดี]]
+15 ความสัมพันธ์ เมื่อเจอคนที่มีชื่อเสียงเดียวกัน
+30 คุณธรรมเมื่อเจอคนมีชื่อเสียงเดียวกัน

จ่ายค่าเยี่ยมนักโทษ: 15 ตำลึงเงิน + สินบนผู้คุม: 15 ตำลึงเงิน + ภาษีประจำเมือง: 7%
32 ตำลึงเงิน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่ร้อยกฎ
มุกพณาหวาซวี
ม้าเหลียง
กลยุทธ์เล่ออี้
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x7
x4
x10
x10
x13
x13
x13
x12
x11
x202
x1
x1
x1
x11
x22
x15
x30
x1
x100
x100
x9
x2
x5
x6
x8
x10
x2
โพสต์ 2021-12-9 15:54:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด
          "จะไปกับข้าหรือไม่"

          เสียงสตรีเอ่ยถามบุรุษผู้มาด้วยกันโดยไม่แม้แต่จะมองหน้า แม้ว่าอีกฝ่ายจะเหมือนอยากตอบด้วยท่าทางแต่นางจะดูไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย สายตาจับจ้องไปยังด้านหลังของสตรีงามตรงหน้าด้วยความรู้สึกห่างเหิน จึงทำได้เพียงตอบคำถามนั้นด้วยน้ำเสียงสุภาพเพียงเท่านั้น

          "ขอข้ารอข้างนอกก็แล้วกัน"

          จ้าวเพ่ยได้ยินดังนั้นก็เดินไปโดยไม่ตอบรับหืออืออะไรทั้งสิ้น ข้อมือถูกคว้าเอาไว้ได้ทันก่อนที่นางจะเดินไปไกลกว่านี้ ส่งผลให้นางต้องหันกลับไปมองซุนหยางด้วยความสงสัย

          นัยน์ตาดุดันมองลึกเข้ามาราวกับว่าต้องการคำตอบอะไรบางอย่างจากในตัวนางแม้ไม่ได้เอ่ยคำถามออกมาก็ตาม ความเงียบเกิดขึ้นเพียงครู่หนึ่งระหว่างทั้งสองก่อนซุนหยางจะรู้ตัวและยอมปล่อยข้อมือออกจากนาง

          "ข้าเพียงจะถามเจ้าว่า จะออกจากซีเหอเมื่อไหร่"

          "เสร็จเรื่องข้าก็จะไปแล้ว.. ไม่นานหรอก"

          "เจ้าเปลี่ยนไปมาก รู้ตัวหรือไม่"

          แม้อยากจะได้คำพูดที่ยอกย้อนตอบกลับมาแต่จ้าวเพ่ยทำได้เพียงแค่เงียบ นายเลี่ยงสายตาลงไปมองเสี่ยวเฮยตัวน้อยด้านใต้ แม้แมวน้อยจะเรียกความสนใจจากนางด้วยการใช้ตัวถูข้อขาแต่ก็ไม่ได้รับความสนใจมากเท่าที่ควร

          "ข้าไปหามือปราบเพียงไม่นาน เจ้าช่วยเตรียมม้าให้ข้าด้วย"

          นางกล่าวเพียงเท่านั้นก็หันหลังกลับไปเพื่อไปหาผู้คุมเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการเข้าเยี่ยมนักโทษ เข้าเสี่ยวเฮยตั้งท่าจะวิ่งตามกลับถูกยกอุ้มจากซุนหยางเอาไว้เสียก่อน สายตาของเขามองไปยังจ้าวเพ่ยผู้ดูเศร้าหมองและพูดน้อยลงกว่าเดิมจนนึกเป็นห่วง

          สตรีงามก้าวเดินมาหาผู้คุมคนเดิมราวกับคุ้นเคยกับเขาเสียแล้ว นางตั้งใจเปิดตระกร้าที่นำมาด้วยเพื่อให้เห็นถึงข้างใน อาหารที่ตระเตรียมมาถูกตรวจสอบเพียงครู่ ผู้คุมเองอยากจะกล่าวอะไรกับสาวช่างจ้อคนนี้แต่นางเองกลับคว้าตระกร้ากลับคืนมาและยื่นถุงเงินภายในมือเงินเต็มจำนวนให้

          "หายไปเสียนาน ข้านึกว่าจะไม่มาอีกเสียแล้ว"

          "ข้าเพียงแค่ไปจำศิล.."

          "จำ.. อะไรนะ.." คำพูดแสนงงงวยเปล่งออกมาจากปากของสตรีตรงหน้าแทบทำให้เขานิ่ง จ้าวเพ่ยเผลอเค้นหัวเราะออกมาจากลำคอก่อนจะเดินไปยังคุกโดยไม่มีแม้ใครนำทาง ทำเอาผู้คุมต้องรีบตามนางไปเพื่อคุมความเรียบร้อยทันที

          "ท่านคิดว่ามือปราบจะเป็นผู้กระทำเช่นนั้นจริงๆหรือ" จ้าวเพ่ยกล่าวออกมาลอยๆเพื่อสนทนากับผู้คุม สองเท้าย่ำตามทางเดินไปแม้จะได้ยินเสียงนักโทษราวกับสถานที่นี้ไม่เคยเงียบแต่นางกลับรู้สึกเหงาทุกครั้งที่มาที่นี่ "ไม่คิดว่ามันแปลกบ้างหรือ เหตุใดถึงโดนคดีหลังจากที่พ้นคดีแม่นางเจิ้งที่เขาจัดการไปเพียงไม่นาน"

          "ข้าไม่ใช่คนจัดการเรื่องคดี อยากรู้เข้าก็ไปถามผู้พิจารณาเองเสียสิ"

          "ข้าไม่รู้ว่าผู้ใดพิจารณา.. หากข้ารู้คงมีทางจะช่วยเหลือเขาได้บ้าง"

          แม้จะเผยออกมาเช่นนั้นแต่นางก็ไม่ได้ต้องการจะปิดบังอะไร ความรู้สึกมืดแปดด้านทำเอานางไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี คิดถึงคนที่ซีเหอให้ตายอย่างไร นางก็ต้องมีงานของนางอย่างไร่ชาที่จนป่านนี้ยังไม่ได้ไปดูแลเลย

          จ้าวเพ่ยก้าวมาหยุดตรงที่เดิมที่นางเคยมายังที่นี่ เห็นมือปราบเองพักผ่อนอยู่ก็เอ่ยเรียกให้หันมาทางตน มือเรียวกำตระกร้าที่นำมาเอาไว้เสียแน่น พอหายไปนานก็มีเรื่องหลายเรื่องอยากจะพูดจนไม่รู้จะกล่าวคำใดออกมาก่อน

          "ทักทายเจ้าค่ะ"

          "ข้าเป็นห่วงคิดว่าจะหายไปที่ใดเสียอีก"

          "ข้าจะหายไปที่ใดกันเล่า.." จ้าวเพ่ยกล่าวทั้งหัวเราะออกมาเล็กน้อย หญิงสาวเปิดผ้าออกมาและยื่นกล่องข้าวให้อีกฝ่ายผ่านตะราง ภายในกล่องข้าวเองยังคงมีอาหารเดิมๆที่นางสั่งจากร้านอาหารมาราวกับเป็นอีกเมนูสิ้นคิดไปแล้ว

          "ข้ามาแจ้งหลังจากวันนั้นเจ้าค่ะ"

          "เพ่ยเอ๋อร์ไปจริงๆหรือ.."

          "เจ้าค่ะ.. ข้าเพียงแค่ไปขอสืบค้นเรื่องคดีของท่าน" นางไม่อยากที่จะกล่าวเรื่องถูกไล่ออกมาให้อีกฝ่ายไม่สบายใจมากไปกว่านี้ จึงทำได้เพียงโกหกไปเท่านั้น "อีกไม่นานนะเจ้าคะ.. ข้าช่วยท่านออกมาได้แน่นอน"

          "ไปพบใครมาหรือ.. ท่านตู่จิ้นกงน่ะหรือ"

          "เจ้าเมืองเจ้าค่ะ"

          สายตาของมือปราบมองลึกเข้ามาภายในตัวของจ้าวเพ่ย รับรู้ถึงอาการแปลกๆที่เกิดขึ้น หญิงสาวแทบขมวดคิ้วเมื่อมือปราบเอ่ยถามตู่จิ้นกงมากกว่าจะพูดถึงมือปราบคนอื่นหรือเจ้าเมือง

          เมื่อพูดถึงชื่อคนนี้นางก็นึกถึงอดีตที่ต้องไปขอตราประทับเพื่อสอบสวน จึงเริ่มนึกได้ว่าคนที่มีอำนาจกว่าเจ้าเมืองคือจิ้นกง นิ้วเรียวยกขึ้นมาขบเบาๆเมื่อนางเริ่มมีความคิดบางอย่างหลังจากนี้

          "เพ่ยเอ๋อร์" หวังโก่วเจียงเห็นว่านางทำท่าคิดอะไรบางอย่างก็เอ่ยเรียกสติออกมา

          "เจ้าค่ะ.. อ.. อาหารอร่อยหรือไม่"

          "ข้ายังไม่ได้กิน" มือปราบเอ่ยขัดออกมาแต่ก็มองหน้าหญิงสาวราวกับว่าจะห้ามไม่ให้นางทำอะไรมากไปกว่านี้ "เพ่ยเอ๋อร์คงไม่คิดจะไปหาตู่จิ้นกงใช่หรือไม่"

          "อ๊ะ.. ไม่แน่นอนเจ้าค่ะ ข้ายังจำที่ท่านพูดครั้งที่อยู่สุสานได้อย่างดี" หญิงสาวยิ้มสวยออกมา "เรียกว่าจำได้ทุกคำพูดเจ้าค่ะ"

          "ดีแล้ว.. ข้าเป็นห่วงเพ่ยเอ๋อร์นะ.. อย่าทำอะไรเกินตัวล่ะ"

          "เจ้าค่ะ" หญิงสาวคลี่ยิ้มออกมาแล้วยื่นมือเข้าไปในกรงเพื่อจับมืออีกฝ่ายเอาไว้แน่น ความเย็นของอากาศรอบด้านส่งผลให้มือที่นางจับเย็นกว่ามือของนางจนสัมผัสได้

          "ข้าจะมาหาท่านมือปราบใหม่นะเจ้าคะ.. อากาศเริ่มเย็นลงมากคราหน้าจะได้นำผ้าอุ่นๆมาให้"

          นางกล่าวแล้วปล่อยมือจากมือปราบและจับจ้องใบหน้าอีกฝ่ายผ่านกรง หญิงสาวเลือกจะเดินออกไปพร้อมทิ้งคำพูดทิ้งท้ายว่าจะกลับมาอีกครา ราวกับว่านางจะไม่ยอมออกจากซีเหอง่ายๆในยามนี้


เอฟเฟคลักษณะนิสัย
มีตัญหา
+2 Point เมื่อวางแผนดำเนินจีบเพศตรงข้าม
+30 ความสัมพันธ์ เมื่อเกี้ยวพาราสีอย่างมีชั้นเชิง

โลเล
+1 Point เมื่อใช้อุบายแผนการ
-15 ความสัมพันธ์คนที่กำลังจีบ

ทะเยอทะยาน
+2 Point เมื่อโรลใช้กลอุบาย

เอฟเฟคความสัมพันธ์ [174] หวังโก่วเจียง
+20 ความสัมพันธ์ เมื่อธาตุไฟ เกื้อหนุน ดิน
[[หัวดี >> หัวดี]]
+15 ความสัมพันธ์ เมื่อเจอคนที่มีชื่อเสียงเดียวกัน
+30 คุณธรรมเมื่อเจอคนมีชื่อเสียงเดียวกัน

[174] มอบ กุ้งนางหงส์ ให้


จ่ายค่าเยี่ยมนักโทษ: 15 ตำลึงเงิน + สินบนผู้คุม: 15 ตำลึงเงิน + ค่านำของให้นักโทษ: 15 ตำลึงเงิน + ภาษีประจำเมือง: 7%
48 ตำลึงเงิน
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบี่ร้อยกฎ
มุกพณาหวาซวี
ม้าเหลียง
กลยุทธ์เล่ออี้
บทเพลงยิ้มเย้ยยุทธจักร
หน้ากากขาว
เกราะเกล็ดมังกร
ผ้าคลุมไท่หลง
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x7
x4
x10
x10
x13
x13
x13
x12
x11
x202
x1
x1
x1
x11
x22
x15
x30
x1
x100
x100
x9
x2
x5
x6
x8
x10
x2
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

อย่าลืมเข้าสู่ระบบนะจ๊ะ เข้าสู่ระบบตอนนี้ หรือ ลงทะเบียนตอนนี้

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้